ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังทำธุรกิจอยู่ และธุรกิจของคนค่อนข้างมีเรื่องเกี่ยวกับการเงินที่ค่อนข้างมาก หรือมีขนาดธุรกิจที่ใหญ่จนทำให้คุณจำเป็นต้องพึ่งการทำบัญชี คุณก็คงต้องมองหานักบัญชีซักคนมาทำงานให้คุณเป็นแน่ เพราะแน่นอนว่า เพียงคุณคนเดียวหรือพนักงานที่ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญหรือรู้ในเรื่องบัญชี ไม่สามารถที่จะดูแลเรื่องบัญชีให้คุณได้เป็นแน่ แต่เราอยากบอกว่า หากคุณกำลังคิดจะจ้างพนักงานเพื่อมาทำบัญชีแล้วละก็ อย่าพึ่ง เพราะเรามีคำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน นั้นก็คือ การใช้บริการรับทำบัญชีจากบริษัทรับทำบัญชี แล้วทำไมเราถึงแนะนำเช่นนั้น เพื่อให้เรื่องนี้กระจ่าง เรามาดูคำอธิบายไปพร้อมๆ กันเลย

1. เสียค่าทำบัญชีน้อยกว่า เหตุผลแรกเลยที่เราอยากบอกกับคุณก็คือ หากคุณใช้บริการรับทำบัญชีนั้น คุณจะเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการจ้างพนักงานบัญชี ลองคิดตัวเลขคร่าวๆ ดูว่า หากคุณต้องจ้างพนักงานบัญชี ซึ่งต้องเป็นพนักงานที่จบบัญชีปริญญาตรีด้วย คุณจะต้องเสียเท่าไหร่ โดยประมาณเลยก็คือ 2 แสนต่อปีได้ นั้นคือตัวเลขที่คุณต้องเสีย คำถามคือ มันเยอะหรือไม่ คำตอบในเรื่องนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับกำไรของธุรกิจคุณ ถ้ากำไรหลักแสน แน่นอนว่า 2 แสนต่อปีนั้นถือว่าเยอะมาก แล้วถ้าคุณประหยัดได้ คุณจะทำหรือไม่ หากคุณจ้างบริการรับทำบัญชี บอกได้เลยว่า คุณจะเสียแค่หลักหมื่นต่อปีเท่านั้น นั้นหมายความว่า คุณประหยัดเงินได้เป็นแสนเลยทีเดียว เพราะฉะนั้น หากต้องการประหยัดเงินแล้วละก็ จ้างบริการรับทำบัญชีดีกว่า

2. ได้บัญชีที่มีคุณภาพกว่า อย่างที่สองคือ การทำบัญชีให้ได้คุณภาพ หากคุณต้องการเช่นนั้น อย่างน้อยๆ คุณต้องจ้างพนักงานมากกว่า 1 คนเป็นแน่หรือถ้าคนเดียว คนนั้นก็ต้องเก่งมากพอ แล้วคุณจะต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับการทำบัญชีให้ได้คุณภาพมากแค่ไหน แต่ถ้าคุณจ้างบริการรับทำบัญชี คุณก็เสียแค่หลักหมื่น แต่คุณจะได้ระบบบัญชีที่ได้คุณภาพอย่างแน่นอน นั้นก็เพราะว่า ผู้ให้บริการคือผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ มีทั้งเครื่องมือ บุคลากรและประสบการณ์ที่มากกว่า เพราะฉะนั้น คงดีกว่า หากคุณจ้างบริการรับทำบัญชี

ที่มา : รับทำบัญชี

ปูซานเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้รวมทั้งมีความเจริญก้าวหน้าไม่แพ้กรุงโซล พวกเราชอบชินหูกับเรื่องราวของปูซานผ่านเทศกาลต่างๆระดับนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลหนังนานาประเทศ หรือเทศกาลพลุนานาประเทศ แต่ว่าอย่างที่เอ็กซ์พีเดียบอกไปข้างต้นว่าปูซานเป็นเมืองท่า ด้วยเหตุดังกล่าวอีกเรื่องหนึ่งที่ลือชื่อของปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ก็คืออาหารทะเลนั่นเอง

# ตลาดปลาจากัลชี (Jagalchi Market) แหล่งรวมซีฟู้ดในปูซาน

เมื่อเอ่ยถึงอาหารทะเลแล้วพวกเราขอชี้แนะ “ตลาดปลาจากัลชี” (Jagalchi Market) ตลาดปลามีชื่อเสียงของเมืองปูซานซึ่งเป็นตลาดอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ ตรงนี้มีอาหารทะเลใหม่ๆไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปู ปลา ปลาหมึก อื่นๆอีกมากมาย อีกทั้งรอบๆข้างนอกและก็ข้างในตึก รวมทั้งมีห้องอาหารสมุทรเป็นร้อยๆร้านค้าให้พวกเราเลือกกินกันอย่างจุใจ นอกเหนือจากอาหารทะเลใหม่ๆแล้ว ยังมีอาหารทะเลตากแห้งขายด้วยนะ

โดยมากแล้วคนขายปลาที่ตลาดปลาที่นี้จะเป็นหญิง ซึ่งก็มีการเรียกแม่ค้าพวกนี้อย่างสวยๆกันว่าจากัลชีอาจุมม่า (Jagalchi Ajumma) ซึ่งหมายความว่าป้าจากัลชีนั่นเอง เวลาพวกเราไปเดินที่ตลาดปลาจากัลชี (Jagalchi Market) พวกเราจะพบเหล่าแม่ค้าพ่อค้าแย่งกันพรีเซนเทชั่นอาหารทะเลในร้านค้าของแบบอย่างอย่างสนุก จำนวนมากแล้วมีป้ายแสดงราคาติดบอกอยู่ ราคาแต่ละร้านค้าก็เท่าๆกันเกือบจะหมด

ความพิเศษของตลาดปลาจากัลชี (Jagalchi Market) เป็น มีร้านค้าที่พวกเราสามารถเลือกซื้ออาหารทะเลใหม่ๆที่ขายอยู่ในตลาด แล้วให้ทางร้านค้านำไปปรุงเป็นของกินให้พวกเราทานได้เลย จะต้ม นึ่ง อบ ทอด ร้านค้าก็ทำให้ได้ เอาง่ายๆว่าเลือกซื้อจากหน้าร้านค้าปุบปับ แล้วไปนั่งคอยงามๆชั้น 2 ประเดี๋ยวเดียวก็ได้กินอาหารสมุทรที่พวกเราเลือกซื้อเมื่อสักครู่ได้เลย ทางร้านค้าจะเสิร์ฟน้ำปรุงรสให้กับพวกเราด้วย แม้กระนั้นไม่มีน้ำปรุงรสซีฟู้ดของไทยนะ ถ้าหากคนไหนต้องการจิ้มกับน้ำปรุงรสซีฟู้ดของไทยพวกเราก็เสนอแนะให้เตรียมตัวสำหรับไปเอง ซึ่งอาหารทะเลที่พวกเราไม่อยากที่จะให้พลาดเลยก็คือขาปูยักษ์ ด้วยเหตุว่าตัวใหญ่แถมเนื้อหวาน รวมทั้งปลาหมึกยักษ์ด้วย ราคานั้นก็คุ้มกับความอร่อยสุดๆ

ในทุกๆปีตอนราวอาทิตย์ที่ 2 ของตุลาคม ที่ตลาดปลาจากัลชี (Jagalchi Market) จะมีการจัดงานเทศกาลจากัลชี (Busan Jagalchi Festival) ด้วย ในงานจะมีการออกบูธอาหารทะเลเยอะมากที่พวกเราสามารถเลือกซื้อเลือกทานกันได้อย่างจุใจ มีขบวนแล้วก็การแสดงให้พวกเราได้ดู รวมถึงการแข่งขันจับปลาไหลด้วย! แต่ละปีจะมีการระบุวันจัดงานต่างกัน สามารถวิเคราะห์พอดี http://www.ejagalchi.com

นอกเหนือจากการรับประทานอาหารสมุทรใหม่ๆที่ตลาดปลาจากัลชี (Jagalchi Market) แล้ว รอบๆข้างหลังของตลาดยังอยู่ชิดกับท่าเรือ พวกเราก็เลยจะได้มองเห็นวิถีชีวิตของมนุษย์ที่ดำรงชีพเกี่ยวกับอาหารทะเล ได้มองเห็นขั้นตอนการประมูลอาหารทะเล การขนส่งอาหารทะเล อื่นๆอีกมากมาย พูดได้ว่าการมาตลาดปลาจากัลชี (Jagalchi Market) คราวนี้เว้นแต่รู้เรื่องอร่อยแล้วยังรู้เรื่องทราบอีกด้วย

ที่มา : ทัวร์เกาหลี

ขอพาทุกคนไปเดินเที่ยวเพลิดเพลินๆกันที่ Kitano Area บริเวณสุดชิคที่ผสมสองวัฒนธรรมระหว่างประเทศญี่ปุ่นรวมทั้งตะวันตกเข้าด้วยกัน ซึ่งในประวัติศาสตร์โกเบเป็นเมืองท่าที่มีคนประเทศอื่นเข้ามาอาศัยอยู่เยอะแยะ ด้านในเมืองโกเบก็เลยมีบ้านเมืองที่ชาวต่างประเทศหลงเหลือให้พวกเราได้มองเห็นและก็รอบๆเขต Kitano นี่แหละที่คนประเทศอื่นมาอาศัยอยู่กัน

พื้นที่รอบๆ Kitano มีลักษณะเป็นเนินสูง แม้กระนั้นในสมัยก่อนคนต่างชาติก็นิยมมาสร้างที่อยู่ที่อาศัยกันที่รอบๆนี้ เพราะเป็นทำเลที่ตั้งที่สูงสามารถแลเห็นอ่าวโกเบได้รอบ มีคุณประโยชน์ให้แก่เหล่าคนประเทศอื่นที่ต่างก็มีอาชีพค้าขายรวมทั้งจำต้องอาศัยการมองทิวภาพรอบๆอ่าวโกเบเพื่อประกอบการค้านั่นเอง

ส่วนสไตล์บ้านของเหล่าคนต่างชาติทั้งหลายแหล่ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองโกเบนั้นเป็นแบบ ตะวันตกผสมกับสไตล์ประเทศญี่ปุ่นโบราณ ทำให้บ้านมีความสวยเป็นเอกลักษณ์ไม่มีใครเหมือน พื้นที่รอบๆ Kitano Area ก็เลยเป็นหลักที่ที่ประวัติศาสตร์ที่มีความงามเป็นเอกลักษณ์ มีเสน่ห์ไม่เสมือนที่แห่งใดในโลกและก็ยังมีทิวภาพงดงามอีกด้วย ถ้าหากใคร่รู้ว่าจะงดงามน่ากล่าวยกย่องสักเพียงใด ตามพวกเราไปดูกันได้เลย

# Weather clock house : บ้านเก่าแก่สไตล์เยอรมัน

สถานที่เที่ยวที่แรกที่พวกเราจะพาท่องเที่ยวกันในบริเวณ Kitano นั้นเป็นบ้านสไตล์ยุโรปข้างหลังเก่าของพ่อค้าชาวเยอรมันที่ผลิตขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1909 ตัวบ้านถูกทำด้วยก้อนอิฐสีแดงมองสะดุดตาแม้กระนั้นสิ่งที่เป็นข้อดีของบ้านข้างหลังนี้เป็นวัสดุอุปกรณ์บอกทางลมที่สร้างออกมาเป็นรูปไก่บนยอดหลังคานั่นเอง

รวมทั้งต้นเหตุที่กังหันลมของบ้านข้างหลังนี้เป็นรูปไก่ก็เนื่องจากว่ามีความเชื่อกันว่าได้เป็นสัตว์ที่มีความระวังตัวสูง ก็เลยเลือกทำเครื่องใช้ไม้สอยบอกแนวทางเป็นรูปไก่เหมือนเป็นเครื่องหมายปกป้องภัยให้บ้านข้างหลังนี้ร่มเย็นเป็นสุข

เว้นแต่ความงดงามข้างนอกแล้ว ในตัวบ้านยังตกแต่งไว้ในสไตล์เยอรมัน สวยหรูหรามองน่าอยู่ นับว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่น่าไปดูและก็หาดูได้ยากในแถบเอเซีย ดังนั้นถ้าหากมาเดินเที่ยวในบริเวณนี้ก็จะต้องแวะไปให้ได้นะ

# Moegi house : บ้านสวยแห่งฤดูใบไม้ผลิ

สถาปัตยกรรมโบราณอีกแห่งที่อยู่ใกล้ๆกันกับ Weather clock house นั้น เป็นบ้านสไตล์ American Classic ที่ชื่อว่า Moegi House ผลิตขึ้นในปี ค.ศ. 1903 เพื่อเป็นบ้านพักของกงสุลอเมริกันในอดีต

ตัวบ้านเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ลงสีเขียวทั้งยังข้างหลังอันเป็นเอกลักษณ์ที่เด่นของบ้านข้างหลังนี้ โดยว่ากันว่าสีเขียวนี้เป็นสีเขียวของใบไม้แรกแย้มที่ฤดูใบไม้ผลิ หรือที่เรียกว่า Moegi ในภาษาประเทศญี่ปุ่นที่ใช้ตั้งชื่อของบ้านข้างหลังนี้นั่นเอง

แล้วก็แม้พวกเราได้เดินเข้าไปมองข้างในบ้าน ขึ้นไปรอบๆระเบียงชั้นสองจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองรวมทั้งอ่าวโกเบได้ทั่ว

# Uroko house : ย้อนอดีตสวมบทผู้ดีเก่าที่คฤหาสน์สุดหรู

ตึกทรงยุโรปที่มีฝาผนังลายเกล็ดปลา อันเป็นเอกลักษณ์แสนสะดุดตาข้างหลังนี้เป็น Uroko house คฤหาสน์ข้างหลังใหญ่สถานที่เที่ยวสไตล์ยุโรปอีกหนึ่งที่ถ้าหากมาท่องเที่ยวในเขต Kitano แล้วไม่สมควรพลาดดู

คฤหาสน์ทรงยุโรปแแห่งนี้ยังมีลักษณะเด่นอีกอย่างเป็นป้อมฝาแฝดที่สะดุดตาเป็นสง่าท่ามกลางพื้นที่งาม ถ้าหากพินิจให้ดีที่รอบๆหน้าคฤหาสน์จะมีรูปปั้นหมูป่าตัวหนึ่งตั้งอยู่ หมูป่าตัวนี้มีชื่อว่า Porcellino ที่เช้าใจกันว่าถ้าเกิดได้ไปคลำจมูกแล้วสักหนึ่งครั้งแล้วละก็ จะได้รับพรที่ดวงดีกลับมา

ห้องทุกห้องข้างในคฤหาสน์จะตกแต่งไว้ในสไตล์ยุโรปทั้งสิ้น เหล่าสิ่งของเครื่องใช้ในสมัยก่อน ต่างถูกดูแลเอาไว้อย่างดีเยี่ยม แล้วก็เปิดให้นักเดินทางได้เข้าชมรวมทั้งสัมผัสกลิ่นของที่พักที่อาศัยของคนตะวันตกในอดีตกาล โดยกิจกรรมที่น่าดึงดูดเมื่อมาถึงคฤหาสน์ข้างหลังนี้ก็คือการจัดแสดงวัตถุโบราณ เครื่องเคลือบดินเผา แล้วก็รูปภาพหายากน่ายกย่องมากมายแบบ

ห้องที่สวยสไตล์ยุโรปที่นี้ก็เปิดให้เข้าชมด้วยเช่นเดียวกัน เมื่อเข้าชมแล้วจะให้ความรู้ความเข้าใจสึกราวกับพวกเรากำลังอยู่ในบ้านสไตล์ตะวันตกในอดีตกาล หากต้องการสัมผัสบรรยากาศในสมัยก่อนที่แสนสวยอย่างนี้ละก็แวะมาท่องเที่ยวดูกันได้เลย

# Kitano Meister Garden (Kitano koubou no machi) : ย่านช้อปปิ้งและ Workshop

สำหรับคนใดที่มาท่องเที่ยวบริเวณ Kitano แล้วต้องการเดินหาจับจ่ายซื้อของฝากแนวของทำมือ แล้วก็ของหวานต่างๆโดยสามารถเข้าไปนั่งเรียนกระบวนการทำได้ด้วยล่ะก็ Kitano Meister Garden ที่นี้แหละเป็นที่ที่พวกเราต้องการเสนอแนะ

Kitano Meister Garden ได้ถูกปรับปรุงมาจากโรงเรียนประถมศึกษา Kitano เก่า บรรยากาศด้านในก็เลยเป็นสไตล์เรทโทรโมเดิร์น โดยเก็บรวบรวมเอาร้านค้าของหวานสไตล์ตะวันตก ห้องอาหารต่างๆแล้วก็ร้านค้าขายของหัตถกรรมเอาไว้ร่วมกัน โดยยิ่งไปกว่านั้นผลิตภัณฑ์ของเมืองโกเบก็สามารถหาซื้อถึงที่กะไว้นี่เหมือนกัน

นอกนั้นยังเปิดเป็นสถานที่สอนปฏิบัติงาน Handmade ต่างๆสามารถแวะมาเพิ่มวิชาความรู้และก็ความสามารถกันได้ตรงนี้เลย หากลองทำความเข้าใจมองละก็ยืนยันว่าจะได้ทราบจะเมืองโกเบเยอะขึ้นเรื่อยๆอีกแน่ๆ เพราะว่าเขาจะสอนทำผลิตภัณฑ์หลายชนิดที่ถูกผลิตขึ้นในเมืองโกเบที่นี้ให้พวกเราได้ทดลองทำกัน โดยช่างฝีมืออาชีพที่พร้อมจะให้ความรู้ความเข้าใจกับพวกเราอย่างเต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการเปิดสอนซ่อมรองเท้าหรือเจียระไนมุกก็มีสอนให้ด้วย

บรรยากาศอันงดงามที่ผสมวัฒนธรรมระหว่างประเทศญี่ปุ่นรวมทั้งตะวันตกในบริเวณ Kitano นั้น นับว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่จะจำเป็นต้องไปสัมผัสเมื่อได้มาเยี่ยมเมืองโกเบ เพราะเหตุว่าอาคารรางบ้านที่มีความสวยของสองวัฒนธรรมนั้นหาดูได้ยากและก็งามถูกใจ

KOBE Free WiFi สบายใช้ง่าย ครอบคลุมทั่วถึง 3,000 จุดเชื่อมต่อสัญญาณ ท่องเที่ยวเพลิดเพลินมีเน็ตใช้สูงสุดทริป 7 วัน อัพเดทโซเชียลรวมทั้งข้อมูลการท่องเที่ยวได้สบายๆสิทธิพิเศษนี้มอบให้แด่นักท่องเที่ยวต่างประเทศทุกคน เพียงโชว์หนังสือเดินทางที่เคาน์เตอร์บริการนักเดินทางของเมืองโกเบ(Tourist infomation center) ซึ่งมีให้บริการอยู่ถึง 3 จุด แล้วหลังจากนั้นก็รับรหัส WiFi Free ไปเลย ต่อจากนั้นก็เอามาล็อกอิน WiFi ที่ชื่อว่า ‘Wi2’ หรือ ‘Wi2 premium’ ผ่านสมาร์ทโฟนได้เลย

City Loop เดินทางท่องเที่ยวในเมืองโกเบด้วย รถบัส City Loop ซึ่งสามารถขึ้นรถไปยังสถานที่เที่ยวยอดนิยมได้รอบเมืองอีกทั้ง 17 จุดรับส่ง ในราคา คนแก่ท่องเที่ยวละ 260 เยน (เด็กท่องเที่ยวละ 130 เยน) ตลอดสาย แถมแพงเหมาจ่ายให้ท่องเที่ยวกันอย่างประหยัดในราคา คนแก่ 660 เยน (เด็ก 330 เยน) นั่งได้ไม่จำกัดท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง

BAY SHUTTLE บริการรับ-ส่งสำหรับการเดินทางระหว่างท่าอากาศยานคันไซรวมทั้งท่าอากาศยานโกเบเพียงแต่ 30 นาที ตั้งแต่ช่วงเวลาเช้าจนกระทั่งช่วงกลางคืน ในราคา ไป-กลับ คนแก่ 3,000 เยน เด็ก (6-12 ปี) 1,500 เยน รวมทั้ง แบบท่องเที่ยวเดียว คนแก่ 1,850 เยน เด็ก 930 เยน ซึ่งบริการทั้งหมดทั้งปวงนี้มีพร้อมไว้สำหรับนักเดินทางทุกคนเสมอ รวมทั้งยังมี Promotion สำหรับนักเดินทางต่างประเทศให้ด้วยนะ แค่เพียงโชว์หนังสือเดินทางตที่ Ticket counter ในท่าอากาศยานคันไซจะได้รับส่วนลดไปเลย 45%

ที่มา : ทัวร์ญี่ปุ่น

ท่องเที่ยวเวียดนาม : ในการมาท่องเที่ยวประเทศเวียดนาม สิ่งที่จำเป็นมากสำหรับทริปทัวร์เวียดนามท่องเที่ยวเมืองเว้ ดานัง ฮอยอัน มันก็คือการได้มาท่องเที่ยวนครจักรพรรดิ ซึ่งตรงนี้เป็นพระราชสำนักเก่าที่ยิ่งใหญ่หรูหรามาก่อน ความงามด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสมกันอย่างพอดี

การมาท่องเที่ยวเมืองเว้ โปรแกรมที่พลาดมิได้ก็คือการได้มาดูนครที่จักรพรรดิที่ตั้งอยู่แกนกลางเมือง มรดกตกทอดอันยิ่งใหญ่และก็สวยสดงดงามของวงศ์สกุลเหวียน นครจักรพรรดิหรือพระราชสำนักที่นี้ถูกทำขึ้นตามแบบแผนความเชื่อถือของจีน ได้รับการออกแบบให้มีกำแพงล้อมถึง 3 ชั้น จุดน่าดึงดูดของการเที่ยวดู ภายหลังที่คุณผ่านสะพานเดินทดลองผ่านซุ้มประตูหรือกำแพงชั้นนอกเข้าไป จะได้เจอกับ ซุนทานกง หรือ ปืนใหญ่ 9 เทวดา ซึ่งอยู่ทางขวามือ หมายความว่าเทวดา 5 องค์ ผู้แทนของธาตุทั้งยัง 5 เป็น โลหะ น้ำ ไม้ ไฟ และก็ดิน ส่วนอีก 4 องค์ เป็นผู้แทนของฤดูทั้งยัง 4 ฤดูใน 1 ปี

ต่อมาเป็นกำแพงเหลือง ซึ่งเป็นกำแพงชั้นกึ่งกลางที่ล้อมนครของจักรพรรดิ พระราชสำนัก วัด และก็สวนดอกไม้เอาไว้ ในส่วนนี้มีประตูปากทางเข้าที่ตกแต่งเอาไว้อย่างงดงาม 4 ประตู ประตูที่สำคัญที่สุด เป็น โหงะความสงบ หรือ ประตูเที่ยงวัน ที่สร้างขึ้นครั้งแรกด้วยหินแกรนิตในยุคพระผู้เป็นเจ้าไม่งห์หม่าง

เมื่อคุณผ่านลอดประตูชั้นลำดับที่สอง โดยผ่านสะพานน้ำทองคำ ซึ่งเคยถูกรักษาไว้เฉพาะจักรพรรดิแค่นั้น คุณจะพบกับวังไทเฮา อันเป็นวังที่สำคัญที่สุดในนครจักรพรรดิ ใช้สำหรับต้อนรับเชื้อพระวงศ์ระดับที่ค่อนข้างสูง รวมทั้งนักการทูตต่างถิ่น นอกเหนือจากนั้นราชสำนักยังคงใช้เป็นที่จัดงานสังสรรค์สำคัญต่างๆเช่นเดียวกัน

ส่วนวัดข้างในกำแพงที่นี้ผลิตขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเจ้าขุนมูลนายหลายท่าน วัดสำคัญเป็น วัดเถเหมียว ซึ่งได้รับการดูแลอย่างยอดเยี่ยม ผลิตขึ้นเพื่ออุทิศให้กับผู้ดูแลในวงศ์สกุลเหวียน ต่อมาส่วนในสุดของนครจักรพรรดิ เป็น ตือกามแทงห์ หรือนครต้องห้ามของจักรพรรดิ ที่ถูกรักษาไว้เฉพาะจักรพรรดิรวมทั้งเชื้อพระวงศ์นั้น

ที่มา : ทัวร์เวียดนาม

ของกินรัสเซีย ทานไม่ยากแถมยังได้สุขภาพอีกด้วย ด้วยเหตุว่าของกินรัสเซียเป็นของกินที่สมบูรณ์บริบูรณ์ไปด้วยคุณประโยชน์ทางของกินสูง ที่มาจากเมล็ดพืชหลายประเภท ชาวรัสเซียก็ยังถูกใจทานผักเป็นที่สุด ทั้งยังกระหล่ำปลีกล้วย บีทรูท แตงร้าน ผักกาด ที่ต้องมีให้ได้ก็จะเป็นเครื่องเทศที่ได้รับความนิยมอย่าง อบเชย พริกไทย กานพลู รวมทั้งหอมหัวใหญ่ โดยเหตุนั้นของกินรัสเซียคงจะประทับใจสายสุขภาพ รวมทั้งสายมังสวิรัติอยู่พอควร เมื่อมองเห็นของกินที่ชาวรัสเซียถูกใจทานแล้ว ไม่สนเท่ห์ใจเลยว่าเพราะเหตุไรผู้หญิงรัสเซียถึงได้ทั้งยังงามและก็หุ่นดีขนาดนี้ เอฟวีนิวทัวร์ขอเลือกจานพิเศษๆมาเสนอแนะให้รู้จักกันจ้ะ

# ซุปชี้ (Shchi)

ซุปกะหล่ำปลีที่เป็นของกินคู่ห้องครัวชาวรัสเซียมาอย่างช้านานตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 9 นับไปนับมาก็ร่วมพันปีมาแล้ว นับตั้งแต่วันที่ชาวไบแซนไทน์ได้นำกะหล่ำปลีเข้ามาเพาะปลูกยังดินแดนที่นี้ ซุปนี้สวนผสมผสานหลักเป็นกะหล่ำปลี หัวหอม เนื้อสัตว์อีกน้อย มันฝรั่งอีกหน่อย เท่านี้ก็อร่อยได้ทุกหนทุกแห่ง ทุกฤดู หรือแม้กระทั้งยามป่วยหนักก็ได้รับความนิยมทานกัน

# สโตรกานอฟ (Stroganoff)

ของกินจานเนื้อคู่ห้องครัวชาวรัสเซียตั้งแต่โบราณ ซึ่งสาเหตุของของกินจานนี้มีสาเหตุจากความเมตาประสงค์ดีต่อนายทหารที่ร่วมรบของกษัตริย์ ณ ในตอนนั้น หมายคือพระผู้เป็นเจ้าปีเตอร์ ที่ระหว่างการศึกก็ได้เผชิญเหตุที่ทำให้นายทหารผู้นี้จะต้องสูญเสียแขนไปข้างนึง ของกินจานนี้ถูกวางแบบให้ทานได้ง่ายด้วยมือเพียงแต่ฝ่ายเดียว เป็นวัตถุดิบทุกๆสิ่งทุกๆอย่างจะถูกหั่นเป็นชิ้นพอดิบพอดีคำ โดยชื่อของกินจานนี้เป็น “สโตรกานอฟ” ซึ่งตั้งตามนายทหารผู้นั้นนั่นเองจ้ะ ของกินจานนี้เป็นสตูว์เนื้อ รสกลมกล่อมละมุนละไม ซอสเป็นลักษณะข้นครีม มีเคียงด้วยเห็ดหลายประเภท ถัดมาแปลงเป็นของกินที่นิยมไปทั่วรัสเซีย รวมถึงทั้งโลก

# พายชิ้นเล็ก (Pirozhki)

ไส้กะหล่ำปลี ไข่ ชีส มันฝรั่ง หาทานได้ไม่ยากตามถนนในรัสเซีย

# ซุปบอร์ช (Borsch/ Borscht)

ซุปบีทรูทสไตล์รัสเซีย นับว่าเป็นของกินสุดคลาสสิค สีสันแจ่มใสน่ากิน มากมายคุณประโยชน์ทางของกิน บางสูตรไม่มีเนื้อสัตว์เป็นองค์ประกอบ แต่ว่าบางสูตรใส่เนื้อสัตว์บางส่วน แต่ว่าสำคัญๆจะปรุงด้วย บีทรูท หอมใหญ่ กระเทียม กะหล่ำปลี มันฝรั่ง แครอท เคียงด้วยซาวครีม

# สลัดรัสเซีย (Russian salad/ Olivier salad)

ในกรุงมอสโกจะเรียกกันในชื่อของ “สลัดโอลิเวีย” ด้วยเหตุว่ามาจากชื่อเชฟลูเชียน โอลิเวีย คนที่คิดรายการอาหารนี้ขึ้นในปี 1800 องค์ประกอบหลักของรายการอาหารนี้เป็น หอมหัวใหญ่ มันฝรั่ง ถั่วลันเตา แครอท เนื้อไก่ฉีก ไข่ต้มสุก คลุกด้วยน้ำสลัดมายองเนสเพียงแค่เล็กๆน้อยๆ

# โจ๊กรัสเซีย (Kasha/ Russian Porridge)

ซึ่งโจ๊กรัสเซียจะไม่ใช่ข้าว แต่ว่าใช้เมล็ดพืชต่างๆตัวอย่างเช่น ถั่ว แล้วก็ค่อยนำไปต้มกับผัก หรือปลา โดยจะตุ๋มน้ำไม่หรือนม(หรือเพิ่มเติมนมคราวหลัง)ก็ได้ด้วยเหมือนกัน ปรุงด้วยเกลือ เนย เครื่องเทศ โรยด้วยผลไม้แห้งหรือแยม

# สลัดปลาแฮร์ริ่ง (Dressed herring/ Herring under a fur coat)

ปลาแฮร์ริ่งจะเป็นปลาที่เหมือนปลาซาร์ดีน ลักษณะของกินจะเหมือนเค้กทับกันหลายชั้น เรียงกันสวยสดงดงามหลายสีสัน โดยด้านล่างสุดจะเป็นปลาแฮร์ริ่งใหม่ๆข้างบนไล่ขึ้นไปจะเป็นผักจำพวกต่างๆบีทรูท หอมหัวใหญ่ ส่วนข้างบนปกคลุมไปด้วยชั้นของผักต้ม แล้วนำบีทรูทมาขูดเป็นเส้นเล็กบางๆพร้อมด้วยหอมหัวใหญ่ ราดด้วยน้ำสลัดมายองเนส

# เกี๊ยวรัสเซีย (Russian dumplings/ Pelmeni)

Russian dumplings ของกินรัสเซียรายการอาหารนี้บางครั้งก็อาจจะเรียกอีกอย่างว่า Pelmeni หรือ เกี๊ยวรัสเซีย ไส้เกี๊ยวจะเต็มไปด้วยสมุนไพร เครื่องเทศ และก็เนื้อต่างๆอาทิเช่น เนื้อวัว หมู แกะ ห่อให้เกิดความสวยสดงดงามด้วยแป้งเกี๊ยวบางๆบางร้านค้าทานได้เลยแบบเปล่าๆเสิร์ฟเคียงมาพร้อมกับซาวครีมทานเพลิดเพลินๆบางร้านค้าจะเสิร์ฟพร้อมซุปหอมๆกลมกล่อมละมุนละไมรสดี

# Blini หรือ แพนเค้กรัสเซีย

เมนูหลักของชาวมอสโก เป็นแป้งเครปประเทศฝรั่งเศสแผ่นบางๆที่ทำมาจากแป้งบัควีท ท็อปปิ้งมีทั้งยังแบบคาวและก็หวาน อาทิเช่น แซลมอนรมควัน ไข่ปลาคาร์เวียร์ เห็ด ซาวครีม แยม นมข้น น้ำผึ้ง

ที่มา : ทัวร์รัสเซีย

เดี๋ยวนี้การใช้แรงงานแสงไฟนับว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่หลายๆคนต่างมีความสำคัญที่จะจำเป็นต้องใช้งาน โดยการใช้แรงงานแสงไฟในขณะนี้มีนานัปการแบบอย่าง ซึ่งในวันนี้พวกเราจะมานำเสนอแบบอย่างการให้แสงไฟของโคมสปอร์ตไลท์ LED สำหรับโคมสปอร์ตไลท์ LED นับว่าเป็นโคมไฟให้แสงไฟที่มีแบบอย่างการให้แสงไฟแบบส่องเน้นย้ำ สามารถให้แสงไฟได้ในวงกว้าง จะให้แสงไฟตามสถานที่ต่างๆเป็นต้นว่า ไฟส่องป้ายที่ใช้สำหรับโฆษณา ไฟส่องเน้นย้ำวัตถุ ไฟส่องตึก รวมถึงการนำมาจัดตั้งเป็นไฟที่ให้แสงไฟตามลานกว้าง ลานกิจกรรมบนเสาไฟไฮแมส ฯลฯ โดยปกติการให้แสงไฟของโคมสปอร์ตไลท์ LED

สามารถแบ่งแบบอย่างการให้แสงไฟได้ดังต่อไปนี้

แบบแรกการให้แสงไฟในทุกพื้นที่ เป็นการให้แสงไฟอย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ที่อยู่ในรอบๆนั้น เป็นการให้แสงสว่างในรอบๆกว้าง ซึ่งจะมีแสงไฟอย่างทั่วถึงดังเช่นรอบๆลานกว้าง ที่จอดรถ ซึ่งการให้แสงไฟในลักษณะนี้จะมีจุดเด่นที่แสงไฟจะไปถึงทุกพื้นที่ แต่ว่าจะมีข้อเสียในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการสิ้นเปลืองพลังงาน ด้วยเหตุว่าการให้แสงไฟในแต่ละพื้นที่ควรจะมีนิดหน่อยที่ไม่ได้อยากแสงไฟ ซึ่งถ้าเกิดเป็นการจัดตั้งโคมสปอร์ตไลท์ LED 100w ที่ให้แสงไฟทุกพื้นที่นั้นควรจะมีแสงไฟในพื้นที่ที่ไม่ได้อยากต้องการแสงไฟ ซึ่งบางครั้งก็อาจจะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานรวมทั้งรายจ่ายโดยใช่เหตุ

แบบอย่างลำดับที่สองการให้แสงไฟเฉพาะพื้นที่ เป็นการให้แสงไฟที่สอดคล้องกับการใช้แรงงาน โดยจำเป็นจะต้องเลือกใช้โคมไฟให้แสงไฟของสปอร์ตไลท์led ที่เหมาะสมกับการใช้แรงงานในแต่ละพื้นที่ ซึ่งมีมีข้อเสียในเรื่องของตำแหน่งพื้นที่ที่จัดตั้งที่จะถูกตายตัวไม่อาจจะโยกย้ายได้ โดยการต่อว่าดตั้งการให้แสงไฟเฉพาะที่นี้จะเหมาะกับโรงงานที่มีการจัดตั้งที่แน่นอน

แบบอย่างท้ายที่สุดเป็นการต่อว่าดตั้งการให้แสงไฟเฉพาะตำแหน่ง สำหรับโคมสปอร์ตไลท์ LED PHILIPS จะเป็นการให้แสงไฟแบบส่องย้ำ อาทิเช่น การให้แสงไฟป้ายสำหรับโฆษณา การให้แสงไฟอาคารสำนักงาน เพื่อสร้างความสวยวิกาล รวมทั้งสร้างลักษณะเด่นให้ตึก แล้วก็สถานที่ต่างๆดังนี้การให้แสงไฟในลักษณะนี้ไม่สมควรมากจนเกินความจำเป็น จนกระทั่งเปลี่ยนเป็นแสงสว่างแรงและก็กำเนิดความเจ็บไข้ตาสำหรับคนเห็น

การให้แสงไฟในตอนนี้มีนานาประการต้นแบบ ดังนี้ก่อนที่จะมีการจัดตั้งผู้ซื้อต้องมีการเลือกใช้โคมไฟสปอร์ตไลท์ ส่องป้ายให้แสงไฟที่เหมาะสมกับการพื้นที่แล้วก็การใช้แรงงาน เพื่อเพิ่มความคุ้มราคาและก็ความเหมาะสม การใช้แสงไฟที่ไม่ตรงตามจุดหมายของเครื่องมือให้แสงไฟจะก่อให้วัสดุอุปกรณ์แก่การใช้แรงงานที่ไม่ตรงตามมาตรฐาน และก็มีการสิ้นเปลืองพลังงาน

ที่มา : สปอร์ตไลท์

ชี้แนะโปรแกรมท่องเที่ยวเกียวโต 24 ชั่วโมง: เร่ร่อนที่เที่ยวสุดได้รับความนิยม ไม่ได้รับความนิยมไม่ไป สำหรับคนเวลาน้อย จัดไป

1. ปราสาทนิโจ – Nijo Castle

พระราชวังนิโจเป็นเยี่ยมในพระราชวังที่ได้จดทะเบียนเป็นมรดกโลก เป็นบ้านพักของท่านโชกุนโทคุกาวะ ซึ่งเป็นโชกุนคนแรกในยุคเอโดะ ถัดมาโผลงยข้างหลังก็เลยได้ถูกเปลี่ยนแปลงให้เป็นวัง มีองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมของประเทศญี่ปุ่นที่สวยอย่างยิ่ง

2. วัดคินคะคุจิ (วัดทอง) Kinkakuji Temple

คนสามัญนิยมเรียกว่า “วัดทองคำ” เนื่องมาจากตัววัดนั้นเป็นสีทองคำแทบทั้งยังข้างหลัง ตั้งเด่นเป็นเงาสะท้อนกับพื้นน้ำข้างหน้า มีส่วนประกอบทางสถาปัตยกรรมที่สวย โดยยิ่งไปกว่านั้นมุมข้างหน้าใกล้กับปากทางเข้าวัดซึ่งเป็นภาพวัดสีทองคำสวยงามที่มีสวนอยู่รอบๆเป็นเงาสะท้อนกับน้ำในสระ เป็นมุมที่มีนักท่องเที่ยวสนใจกันสูงที่สุด

3. ศาลเจ้ายาซากะ – Yasaka-jinja Shrine

ศาลเจ้ายาซากะหรือศาลเจ้ากิออน เป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าที่มีชื่อในเกียวโต ถูกทำขึ้นราว 1350 ปีกลาย ศาลเจ้านี้ตั้งอยู่ในบริเวณกิออนรวมทั้งบริเวณฮิกาชิยาม่า ข้างในมีศาลาที่มีประทีปหลายร้อยอันห้อยอยู่ หากในเวลาเย็นๆจะมีการเปิดไฟที่โคมสวยสดงดงามมากมาย ศาลเจ้านี้โด่งดังอย่างยิ่งสำหรับการจัดเทศกาลฉลองกิออนมัทซุริ (Gion Matsuri) ในตอนก.ค.ของทุกปี ยิ่งไปกว่านี้ในตอนม.ย.ที่มีดอกซากุระบานก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ผู้คนนิยมมาท่องเที่ยวอีกด้วย

4. ย่านฮิกาชิยาม่า – Higashiyama

บริเวณแหล่งเดินเที่ยวช้อปปิ้ง สองริมถนนเต็มไปด้วยร้านร้านค้าของหวานจำนวนมาก เส้นนี้เป็นฟุตบาทระหว่าง ศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka) ไปจนกระทั่งวัดคิโยะมิสุ (Kiyomizudera) เสน่ห์ของบริเวณนี้ก็คือแบบอย่างที่อยู่อาศัยร้านขายของที่ยังคงความเก่าแก่ จะเป็นถนนหนทางฟุตบาทแคบๆสองริมทางจะมีตึกไม้ทรงโบราณแบบประเทศญี่ปุ่นเริ่มแรก ซึ่งเป็นทั้งยังห้องอาหาร ร้านค้าของหวานพื้นบ้าน ให้ความรู้ความเข้าใจสึกถึงเมืองเก่าที่ยังคงมีความเป็นเอกลักษ์ของเกียวโตในสมัยเก่าอยู่

5. วัดคิโยมิสุ (วัดน้ำใส) – Kiyomizu-dera

เป็นเลิศในวัดที่โด่งดังมีชื่อเสียงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น เพราะน้ำที่วัดนี้มาจากน้ำตกโอโตวะ (Otowa Waterfall) ไหลผ่านมายังวัดก็เลยเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดชื่อ “วัดน้ำใส” ยิ่งไปกว่านี้องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติได้บันทึกให้วัดที่นี้ขึ้นเป็นมรดกโลก

6. ตลาดนิชิกิ – Nishiki Market

ตลาดที่มีชื่อที่สุดในเกียวโต เป็นถนนหนทางสายช้อปปิ้งสายแคบๆความยาวราวห้าตอนอาคาร มีร้านรวงและก็ห้องอาหารมากยิ่งกว่า 100 ร้านขายของเรียงรายกันอยู่ เป็นที่รู้จักมีชื่อเสียงกันดีเปรียบได้ดั่งถนนหนทางสายของกินของเกียวโต หรือรู้จักในชื่อ “Kyoto’s Kitchen” ตลาดที่นี้เป็นตลาดที่เต็มไปด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่เกียวข้องกับของกิน ตัวอย่างเช่น อาหารทะเลใหม่ๆ, ภาชนะปรุงอาหาร, มีดประเทศญี่ปุ่น, แล้วก็ยังเป็นแหล่งที่เป็นที่รู้จักที่มีอาหารตามฤดูให้เลือกซื้อเลือกลอง นอกจากนั้นยังมีของกินประจำถิ่นของเกียวโตยกตัวอย่างเช่น อาหารหวานที่มีเฉพาะเมืองเกียวโต, ผักดอง, และก็ของสมุทรตากแห้งแปลกๆและก็ซูชิแบบเริ่มแรกของเกียวโตอีกด้วย

ที่มา : ทัวร์ญี่ปุ่น

ไทเปนับได้ว่าเป็นศูนย์รวมห้องอาหารอร่อยนานัปการแบบ อีกทั้งราคาถูก “อาทิเช่น ของกินแคว้นมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ อาหารจีนแบบแต้จิ๋วรสจัดจ้า ของกินประเทศญี่ปุ่นตรงนี้มีความสดใหม่ไม่แพ้ประเทศญี่ปุ่นขายในราคาที่ถูกกว่ามากมาย ของหวานสไตล์ไต้หวันที่เมื่อได้ทดลองแล้วจะหลงเสน่ห์” โดยในคราวนี้จะเป็นการเสนอแนะ 8 ร้านค้าอร่อยห้ามพลาดเมื่อมาท่องเที่ยวในไทเป ของกินแต่ละจำพวกรับรองความอร่อยจากนักเดินทางเยอะมากๆ ว่าเมื่อได้ลิ้มรสแล้วจะหลงใหลของกินของไทเปกระทั่งถอนตัวไม่ขึ้น

1. ห้องอาหารจีน (Hao Gong Dao’s Shop)

ห้องอาหารจีนที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่งในนักเดินทางคนประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในถนนหนทางที่อาหารเขตหย่งคัง(Yongkang Food Street) ใกล้รถไฟใต้ดินสถานี Dongmen Station จากสถานีถึงห้องอาหารจีน Hao Gong Dao เดินเพียงแต่ 5 นาที รายการอาหารเด็ด เป็น เพื่อนหลงเปา ราคา 80NT ชิ้นใหญ่ แป้งบาง ซุปเยอะแยะทำให้ชุ่มฉ่ำ ไส้มากมายรสอร่อย, ลูกชิ้นซุป 160 NT ลูกกลมๆเหมือนลูกชิ้น แม้กระนั้นพอกัดแล้วพบน้ำซุบกับไส้เน้นย้ำๆราคาคุ้มกับจำนวน

2. ร้านชานมไขมุกเฉินขัด (Chen San Ding)

เฉลียงมมุกในตำนานมีโลโก้รูปคุณลุง ตั้งอยู่ในตลาดกงกวน (Gongguan night market) ใกล้กับสถานีกระแสไฟฟ้าใต้ดิน Gongguan station จากสถานีถึงเฉลียงมไขมุกเฉินขัด เดินเพียงแค่ 3-5 นาที รายการอาหารเด็ด เป็น ระเบียงมมุก ราคา 35 NT ที่ถึงแม้มองไม่แปลกใหม่ แม้กระนั้นด้วยกลิ่นหอมหวนน้ำตาลทรายแดงผสมชนนมสดทำให้รสกลมกล่อมละมุนละไม เลือกระดับความหวานได้ เด็ดสุดๆที่มุกรั้งนุ่มหนึบๆกำลังพอดีบดแล้วหวานนิดๆอร่อยไม่ซ้ำใครทั้งยังในไต้หวันหรือไทย

3. ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อหนิวเตี้ยน (Niu Dian Beef Noodle)

ร้านค้ากวยเตี๋ยวเนื้อรสอร่อยเขตซีเหไม่นแย้ง ตั้งอยู่ใกล้รถไฟใต้ดินสถานี Ximen Station จากสถานีถึงร้านค้าก๊วยเตี๋ยวเนื้อหนิวเตี้ยนเดินเพียงแค่ 7 นาที รายการอาหารเด็ดเป็น ก๊วยเตี๋ยวเนื้อ ราคา 220 NT เนื้อน่องลายแทรกเอ็นต้มจนกระทั่งเมื่อรับประทานแล้วละลายในปาก เครื่องในโคไม่เหนียวไม่คาว น้ำซุปรสกลมกล่อมละมุนละไมที่ใช้เวลาต้มถึง 16 ชั่วโมง โดยจะมีน้ำพริกสูตรลับให้เพิ่มเติมเพิ่มรสให้จัดจ้าขึ้น

4. ร้านไอศกรีมยงฟุ (Yong Fu Ice Cream)

ร้านค้าไอติมดั้งเดิมของไทเป ที่เป็นที่ชื่นชอบของคนท้องถิ่นมานานกว่า 60 ปี ตั้งอยู่ใกล้รถไฟใต้ดินสถานี Ximen Station จากสถานีถึงร้านค้าไอศกรีมยงฟุ เดินเพียงแค่ 8 นาที ไอศกรีมโฮมเมดสไตล์เริ่มแรก มีรสชาติให้เลือกอย่างนานัปการ มีเนื้อสัมผัสระหว่างไอติมกับครีมเชอร์เบท ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติทั้งผอง รสไม่หวานมากมาย รายการอาหารเด็ดเป็น ไอศกรีมรสมัน ไอศกรีมรสผลไม้ ราคา 35 NT

5. ร้านหมูตุ๋นจินเฟ็ง (Jinfeng Braised Meat Rice)

ร้านค้าข้าวหน้าหมูต้มที่ว่ากันว่าอร่อยที่สุดของไทเป ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน Chiang Kai-Shek Memorial Hall จากสถานีถึงร้านค้าหมูต้มจินเฟ็ง เดินเพียงแต่ 9 นาที รายการอาหารเด็ด เป็น ข้าวหน้าหมูต้ม ราคา 40-65 NT หมูต้มจนถึงยุ่ย รสออกเค็มๆหวานๆต้มเป็นระยะเวลาที่ยาวนานกับเครื่องเทศ 5 จำพวก หอมแดง และก็ซอสถั่วเหลือง ทำให้หมูเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำแทบจะละลาย และก็เครื่องเทศยังช่วยทำให้รสไม่มัน

6. ร้านน้ำเต้าหู้ ฟู่หังโต้เจียง (Fu Hang Dou Jiang)

ร้านค้าเต้าหู้มีชื่อเสียงขายมามากยิ่งกว่า 60 ปี ตั้งอยู่ศูนย์กลางเมืองในเขตควรจิ้งและก็ใกล้รถไฟใต้ดินสถานี Shando Temple จากสถานีถึงร้านค้าเต้าหู้เดินเพียงแค่ 5 นาที มีรายการอาหารเด็ดเป็น น้ำนมถั่วเหลืองเค็ม ราคา 30 NT ที่มีลักษณะเหมือนไข่ต้ม เนื้อเนียนนุ่ม รับประทานคู่กับขนมปาท่องโก๋ทอดร้อนๆรวมทั้งโรยหน้าด้วยผักชี, น้ำนมถั่วเหลืองหวาน ราคา 25 NT มีน้ำเต้าหู้เข้มข้นที่มีรสชาติหวานนิดๆข้างบนมีน้ำเต้าหู้ที่ค่อนข้างจะข้นช่วยทำให้รักษาอุณหภูมิของน้ำนมถั่วเหลืองให้ร้อนนานขึ้น , ขนมปังแป้งทอดฉาบงา ราคา 22 NT มีลักษณะเหมือนของหวานเปี๊ยะ เนื้อแป้งกรอบและไม่ดกจนกระทั่งเหลือเกิน ไส้หวานพอดี

ที่มา : ทัวร์ไต้หวัน

หากจะห้ามคนดูบอลสด ถือได้ว่า เป็นสิ่งที่แทบเป็นไปไม่ได้เลยในยุคปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะการแข่งขันของสโมสรในประเทศยุโรปอย่าง 4 ลีกใหญ่ ( อังกฤษ, อิตาลี, สเปน และเยอรมัน ) เพราะมันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของใครหลายๆ คนไปแล้ว อย่างที่บอกว่า มันห้ามกันยาก แต่ทว่า การส่งเสริมให้ดูแลร่างกายที่ได้รับผลกระทบจากการดูบอลนั้น ย่อมทำได้ ดังนั้น เราจึงได้เอาคำแนะนำในการดูแลร่างกายสำหรับคนดูบอลมาฝากกัน ที่ต้องเอามาแนะนำกันนั้นก็เพราะว่า การที่ต้องดูบอลในขณะที่มันเป็นเวลานอนนั้น ร่างกายย่อมได้รับผลกระทบอย่ามากมาย เพราะฉะนั้น เราจึงต้องเอามาแนะนำกัน


พักหลังหรือก่อนดูบอลสด

การพักผ่อนคือเรื่องใหญ่สำหรับคนดูบอล กล่าวคือ คนดูบอลมักพักผ่อนกันไม่ค่อยจะพอ เพราะฉะนั้น เมื่อคุณดูบอลเสร็จแล้ว สิ่งที่คุณต้องไม่ลืมทำต่อด้วย คือ การพักผ่อนหลังจากที่คุณดูบอลแล้ว ไม่ใช่ดูบอลเสร็จแล้วก็ไปทำสิ่งอื่นๆ ต่อโดยไม่พักผ่อน บอกเลยว่า เกิดอาการสมองมึนแน่ๆ นั้นก็เพราะนอนไม่พอ แต่ก็อย่างว่า มันไม่ใช่สิ่งที่ทำกันได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้น อีกอย่างที่แนะนำคือ การพักผ่อนก่อนดูบอลสด ถ้าพักหลังไม่ได้ ก็ควรพักก่อน กล่าวคือ บอลเตะกันตี 2 คุณก็ควรนอนเสียก่อนแล้วค่อยตื่นขึ้นมาดู ไม่ใช่ถ่างตารอดูถึงตี 2

ทานอาหารที่มีประโยชน์

การพักผ่อนนั้นถือว่าสำคัญเป็นที่สุด แต่ทว่าก็ต้องไม่ลืมด้วยว่า การที่เราไม่พักผ่อนนั้น ย่อมมีบางอย่างของร่างกายที่สูญเสียไปด้วย เพราะฉะนั้น จะต้องเสริมและซ่อมแซมมันด้วย ซึ่งก็สามารถทำได้ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่ช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ หรือเอาง่ายๆ เลยก็คือ กินให้ครบ 5 หมู่ ก็ช่วยคุณได้แล้ว

จากที่เราแนะนำมา อยากบอกว่า อย่ามองว่ามันไม่สำคัญ เพราะถ้าคุณต้อง ดูบอลสด อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานแล้วละก็ มันจะส่งผลออกมาอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นแล้ว ควรทำตามที่เราแนะนำ อีกอย่าง คุณควรเลือกดูเฉพาะคู่ที่สนใจจริงๆ หรือคู่ที่มีทีมที่เชียร์แค่นั้นก็พอ คู่อื่นๆ ติดตามอ่านข่าวเอาก็ได้