แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Shopd2

หน้า: 1 ... 876 877 [878] 879 880 ... 911
15787
ขายกิจการหอพัก แถวมหาลัยรังสิต โทร 083-7124115

15788
สื่อดังในอังกฤษ รายงาน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยากได้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เทรนเนอร์ฝีมือดีเข้ามากุมบังเ.ยน หากสโมสรตัดสินใจปลด โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ออกจากตำแหน่ง แม้ปัจจุบัน "พอช" จะคุม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง อยู่ก็ตาม แต่เจ้าตัวก็มีข่าวพัวพันกับ "ผีแดง" อย่างต่อเนื่อง
     เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะดึงตัวมาแทน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา แม้ปัจจุบันเขาจะกุมบังเ.ยน "เปแอสเช" อยู่ก็ตาม

     "น้าลูกอม" ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่เมื่อทัพ "ปีศาจแดง" แพ้ย่อยยับอับปางให้กับ ลิเวอร์พูล 0-5 ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในเกมลีกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยสกอร์ดังกล่าวถือเป็นการแพ้แบบอัปยศอดสูที่สุดของสโมสรในศึก "แดงเดือด" ด้วย


     แม้ว่าในตอนนี้มีรายงานว่าบอร์ดบริหารยังคงให้โอกาส โซลชา ได้ทำหน้าที่ต่อไป แต่มีข้อแม้ว่าเกมที่จะพบกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในพรีเมียร์ลีก และเยือน อตาลันตา ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ผลงานต้องไม่เลวร้ายเหมือนในแมตช์โดน "หงส์แดง" ถลุงยับไม่นับญาติ

     กระนั้นหากเกิดอาเพศทีมยังฟอร์มไม่ฟื้น นั่นหมายถึงอนาคตของ โซลชา ต้องดับแดดิ้น ด้วยเหตุนี้ทำให้มีกระแสข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องว่า แมนฯ ยูฯ ได้ทาบทาม อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือชาวอิตาเลียน ให้เข้ามากู้วิกฤติครั้งนี้

     อย่างไรก็ตาม เดลี่ สตาร์ สื่อดังในเมืองผู้ดี รายงานว่าจริงๆ แล้วคนที่ "เร้ด เดวิลส์" ต้องการตัวมากที่สุดก็คือ โปเช็ตติโน่ ซึ่งเป็นกุนซือที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ให้ความชื่นชมเป็นพิเศษด้วย และแม้ว่าเจ้าตัวจะกุมบังเ.ยน แซงต์-แชร์กแมง อยู่ก็ตาม แต่เขาก็ยังคงมีข่าวพัวพันกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มาตลอด

15789
ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วม อย. และ อภ. /]รวบเครือข่ายจำหน่ายยาฟาวิพิราเวียร์ออนไลน์ ซึ่งใช้ชื่อว่า"ฟาเวียร"ราคากล่องละ4,000-8,000 บาท ทั้งที่ต้นทุน 1,600 บาท

27 ต.ค.2564 -กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง, พ.ต.อ.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ., สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) โดย นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการ อย. ภญ.สุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข รักษาราชการแทนรองเลขาธิการอย. และ องค์การเภสัชกรรม(อภ.) โดย ภก.กิตติ ระหงษ์ ผู้อำนวยการกองการขายภาคเอกชน ฝ่ายการตลาดและการขาย ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงาน กรณีจับกุมเครือข่ายผู้ต้องหาลักลอบจำหน่ายยาฟาวิพิราเวียร์ ยี่ห้อฟาเวียร์ ทางสื่อออนไลน์โดยไม่ได้รับอนุญาต ระดมตรวจค้นเป้าหมาย 8 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สระบุรี ปทุมธานี และนนทบุรี สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 9 ราย พร้อมยึดยาฟาเวียร์ของกลาง จำนวน 390 กล่อง

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้ตรวจสอบพบการลักลอบจำหน่ายยาฟาวิพิราเวียร์ ยี่ห้อฟาเวียร์ ทางสื่อออนไลน์ จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ อย. สืบสวนเส้นทางการลักลอบจำหน่ายยาดังกล่าว รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง จำนวน 9 ราย โดยผู้ต้องหาส่วนหนึ่งให้การว่า ยาดังกล่าวได้มาจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งสั่งซื้อในนามโรงพยาบาลจากอภ. แล้วนำออกมาจำหน่ายเพื่อหากำไร โดยมีราคาต้นทุนอยู่ที่ กล่องละ 1,600 บาท แต่เมื่อนำมาจำหน่ายทางสื่อออนไลน์สามารถจำหน่ายได้ในราคาถึงกล่องละ 4,000-8,000 บาท ซี่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมสืบสวนขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งขบวนการต่อไป

เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 ฐาน “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท และ พ.ร.บ.บัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ.2537 ฐาน “ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พล.ต.ท.จิรภพ ฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ควรใช้ความระมัดระวังในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด 19 ไม่ว่าจะเป็นยา ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และเครื่องมือแพทย์ ควรเลือกซื้อจากร้านขายยาหรือร้านขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เชื่อถือได้ และขอเตือนผู้ที่ลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ได้คุณภาพหรือไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. โดยเฉพาะการลักลอบจำหน่ายยาฟาเวียร์ทางสื่อออนไลน์ ให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันที เพราะท่านกำลังทำให้ผู้ป่วยโควิดหรือผู้ที่จำเป็นต้องใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์สุขภาพ ที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด เสียโอกาสในการรักษาที่ถูกต้องหรือเสี่ยงแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น หากตรวจพบจะดำเนินคดีถึงที่สุด ขอพี่น้องประชาชนช่วยกันสอดส่อง หากพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค

ภญ.สุภัทรา กล่าวว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ ยี่ห้อฟาเวียร์ ผลิตโดยอภ. มีข้อบ่งใช้สำหรับการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่เป็นสายพันธุ์ใหม่หรือโรคอุบัติซ้ำจากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ เมื่อใช้ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่ได้ผลหรือมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ เป็นยาควบคุมพิเศษที่ต้องสั่งจ่ายและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากต้องติดตามอาการข้างเคียงและผลการรักษาระหว่างการใช้ยา โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงจากผลข้างเคียงจากการใช้ยา เช่น หญิงตั้งครรภ์ หรือผู้มีโรคประจำตัวต่าง ๆ จึงไม่สามารถจำหน่ายให้กับประชาชนตามช่องทางทั่วไปได้ ซึ่งปัจจุบันเมื่อผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด 19 และเข้ารับการรักษาในระบบที่รัฐจัดเตรียมไว้ให้จะได้รับยาฟาวิพิราเวียร์อย่างทั่วถึงโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ขอย้ำว่า อย่าซื้อยาทางสื่อออนไลน์มารับประทานเองโดยเด็ดขาด การใช้ยาที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดเชื้อดื้อยาได้ง่าย ส่งผลให้ใช้ยาไม่ได้ผลเมื่อเกิดการติดเชื้อ เป็นเหตุให้ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้ในที่สุด หากพบการลักลอบผลิต นำเข้า จำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งมาที่สายด่วน อย. 1556

15790
พอล ป็อกบา กองกลางตัวเก่งของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกโรงจวก 'เดอะ ซัน' สำนักข่าวชื่อดังของอังกฤษ นั่งเทียนเขียน 'เฟคนิวส์' ว่าเขาไม่ลงรอยกับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

ก่อนหน้านี้ 'เดอะ ซัน' ออกมาระบุว่า พอล ป็อกบา เมินที่จะขอโทษเฮดโค้ชชาวนอร์วีเจียน หลังจบเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล คาบ้าน 0-5 ซึ่งเจ้าตัวเลือกที่จะขอโทษแค่เพื่อนร่วมทีมเท่านั้น

ล่าสุดกองกลางทีมชาติฝรั่งเศสออกมาทวิตว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ซึ่งเป็นแค่เพียงเฟคนิวส์เท่านั้น พร้อมขึ้นแคปชั่นว่า 'คำโกหกโตๆ เพื่อสร้างหัวข่าว'

ทั้งนี้ พอล ป็อกบา ลงมาเป็นตัวสำรองในเกมแดงเดือด แต่กลับอยู่ในสนามแค่ไม่กี่นาทีในช่วงครึ่งเวลาหลัง ก่อนจะโดนใบแดงจากจังหวะเสียบสกัด นาบี เกอิต้า จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
 

15794
รถพึ่งซื้อมา พึ่งเริ่มผ่อน ยังไม่สามารถรีไฟแนนซ์ได้

https://เจพีแคปปิตอล.com

FACEBOOK : JPCapitalDotPartners

15796
https://www.katobonsai.com/
บอนไซ บอนไซประดิษฐ์ ตกแต่งบ้าน

15798
ขายกิจการหอพัก แถวมหาลัยรังสิต โทร 083-7124115

15800
เข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2021 ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดการเงินการลงทุนซื้อหวยออนไลน์ถูกกฎหมายถูกปกคลุมด้วยความกังวลต่างๆ จากนโยบายการเงินและการคลังในแต่ละประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประกาศปรับลดวงเงิน Qualitative Easing (QE) ของ Fed (QE Tapering) โดยประกาศว่า จะเริ่มต้นในเดือน พฤศจิกายน นี้ และคาดว่า จะสิ้นสุดในช่วงกลางปี 2022 อีกทั้งการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะกระทบต่อสภาพคล่องในตลาดการเงิน และกระทบต่อราคาสินทรัพย์การลงทุนประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น หุ้น ตราสารหนี้ อัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น 

นอกจากนี้ยังมีนโยบายการปรับเพิ่มขึ้นภาษีในแต่ประเภทของสหรัฐฯ ที่เริ่มถูกหยิบยกขึ้นมาพูดในสภามากขึ้น ซึ่งหากมีการบังคับใช้จริงอาจส่งผลต่อผลประกอบการบริษัทฯ ตลอดจนบรรยากาศการลงทุนทั่วโลกอีกด้วย อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยความเสี่ยงข้างต้น พบว่า ตลาดหุ้น Developed Market (สหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น) เป็นตลาดที่ได้รับผลกระทบน้อย และสำหรับตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังมีีปัจจัยสนับสนุนภายในประเทศอีกด้วย อาทิ ตัวเลขเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวโดดเด่น การปรับเพิ่มประมาณการผลประกอบการบริษัทฯ และระดับ Valuation ที่ยังไม่สูง ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีความน่าสนใจสำหรับการลงทุนในช่วง 4Q2021 นี้

จากการรวบรวมข้อมูลโดย TISCO Economic Strategic Units (TISCO ESU) พบว่า ประเด็นความกังวลเรื่อง QE Tapering และแนวโน้มการปรับเพิ่มขึ้นของ Bond Yield 10 ปี ของสหรัฐฯ ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2013 กระทบต่อตลาดหุ้นในกลุ่ม Emerging Markets อย่างมีนัยสำคัญ โดยดัชนี MSCI Asia ex Japan, MSCI Latin America และ SET Index ปรับตัวลดลง -4.1% -17.3% และ -20.9% ตามลำดับ แต่ในขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นในฝั่ง Developed Markets กลับ Outperform ในช่วงเดียวกันโดยตลาดหุ้น S&P 500, Euro Stoxx 600 และ NIKKEI 225 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.1% 8.0% และ 0.1% ตามลำดับ ซึ่งหากอิงตามสถิติที่ผ่านมาตลาดหุ้น DM น่าจะยังสามารถ Outperform ตลาด EM ได้เช่นเดียวกัน

คาดเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัว ขณะที่ตลาดยังผันผวน
แนวโน้มหุ้นไทย26ต.ค. ดัชนีมีลุ้นรีบาวด์ตามต่างประเทศ
นอกจากประเด็นเรื่อง QE Tapering ข้างต้น การฟื้นตัวของของเศรษฐกิจทั่วโลกหลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนเศรษฐกิจแต่ละประเทศ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า เศรษฐกิจของ สหรัฐฯ และ ยุโรป ได้ผ่านช่วงของการฟื้นตัวสูงสุดไปแล้ว ในขณะที่การฟื้นตัวของญี่ปุ่นกำลังเข้าสู่จุดสูงสุดในช่วงไตรมาสที่ 4 นี้ โดย Goldman Sachs คาดว่า GDP ของ ญี่ปุ่นจะเติบโตถึง +8.4% qoq, annualized มากกว่า สหรัฐฯ และ ยุโรปที่เติบโต +6.0% และ 5.4% qoq, annualized ตามลำดับ ตามที่แสดงในแผนภาพที่ 1

แผนภาพที่ 1: ตารางแสดงตัวเลขการคาดการณ์การเติบโตของ GDP ของประเทศในกลุ่ม Developed Markets และ ตัวเลขภาพรวมทั่วโลก

ที่มา: Goldman Sachs Global Investment Research

สอดคล้องกับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ซึ่งนักวิเคราะห์ได้มีการปรับประมาณการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยในปี 2021 นี้ จะเป็นปีแรกในรอบราว 4 ปี ที่ผลประกอบการบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่หลังช่วงที่เกิดสงครามการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และจีน โดย Goldman Sachs คาดว่า ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น TOPIX ของญี่ปุ่นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึง 33% yoy (As of 1USD = 105 Yen) ขณะเดียวกันในด้าน Valuation พบว่า ปัจจุบันตลาดหุ้น TOPIX ซื้อ - ขายอยู่ที่ระดับ Forward P/E 15x เท่า ซึ่งเป็นระดับใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในรอบ 5 ปี และระดับ Valuation ยัง Discount จากตลาดหุ้นโลกราว 23% (As of 3 Sep 2021) อีกด้วย

จากบทความข้างต้นจะพบว่า ใน 4Q2021 นี้จะมีประเด็นเข้ามากดดันตลาดการลงทุนในหลากหลายประเด็นด้วยกัน และจะเข้ามากระทบต่อผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ตลอดจน Sentiment การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงประเภทต่างๆ ซึ่งตลาดหุ้นญี่ปุ่นเป็น 1 ในตลาดที่ได้รับผลกระทบดั่งกล่าวน้อย ตลอดจนมีปัจจัยสนับสนุนโดยเฉพาะ ทำให้คาดว่าตลาดหุ้นญี่ปุ่น จะสามารถ Outperform ตลาดหุ้นโดยรวมได้ในอนาคต

15803
'สยามแม็คโคร-โลตัสส์' กำลังเร่งต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจขยายสาขาในและต่างประเทศ เล็งซื้อกิจการ 'รีเทล' และผนึก “กลุ่มซีพี” สร้างการเติบโตครั้งใหม่ ลั่นไม่อยากเป็นผู้เล่นแค่ในไทยแล้ว !

12 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO มีมติอนุมัติรับโอนกิจการทั้งหมดของ “โลตัสส์” (Lotus’s) ในประเทศไทยและมาเลเซียเสร็จเรียบร้อยแล้ว ! ดังนั้น ในเกมธุรกิจต่อไปจะเป็นเกมของการ “ผนึกกำลัง” (Synergy) ของแต่ละธุรกิจในกลุ่มอย่างแท้จริงและมาเป็นอันดับแรก โดยจะเห็นผลชัดในระยะไม่เกิน 2 ปีจากนี้...   

“สุชาดา อิทธิจารุกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO ให้สัมภาษณ์พิเศษ “หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันบริษัทกำลังเร่งต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจของทั้งในส่วนของ “แม็คโคร-โลตัสส์” ด้วยการ “ดึงศักยภาพ” ของธุรกิจทั้งคู่คือจากธุรกิจ B2B (แม็คโคร) และธุรกิจ B2C (โลตัสส์) เพื่อสร้างการเติบโตครั้งใหญ่ !! อย่างมีนัยสำคัญในอนาคต 

ดังนั้น บริษัทจึงเตรียมความพร้อมรองรับ “โอกาส” เติบโต ในแง่ของสรรพกำลังด้าน “เงินทุน” ด้วยช่องทางการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) และเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไป (PO) โดยหลังจากรับโอนกิจการแล้วบริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) เพื่อขอออกหุ้นเพิ่มทุน PO ส่วนจะสามารถเสนอขาย PO ได้เมื่อใดขึ้นกับการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) คาดยื่นได้ต้นเดือนพ.ย. 2564 เนื่องจากวางเป้าหมายจะขายหุ้น PO ภายในปี 2564


โดยบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และ บริษัท ซี.พี.เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด จะร่วมเสนอขายหุ้นสามัญของ MAKRO ที่ตนถืออยู่บางส่วน เพื่อเพิ่มสัดส่วนการกระจายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free Float) เป็นไม่น้อยกว่า 15% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ส่งผลดีต่อหุ้น MAKRO มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ที่เพิ่มขึ้น สภาพคล่องการซื้อขายที่ดีขึ้น รวมถึงมีโอกาสคำนวณในดัชนีสำคัญ เช่น SET 50 

สะท้อนผ่านแผนธุรกิจระยะ 5 ปี (2564-2568) บริษัทวางงบลงทุนประมาณ 130,000 ล้านบาท โดยเบ่งเป็นงบลงทุนกลุ่มแม็คโครประมาณ 60,000 ล้านบาท และกลุ่มโลตัสส์ประมาณ 70,000 ล้านบาท จากการขยายสาขาทั้งใน-ต่างประเทศ และการลงทุนด้านแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อสู่เป้าหมายเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคอาเซียนใน 5 ปี ในด้านช่องทาง “ออนไลน์และออฟไลน์” (O2O) ในประเภทสินค้าที่บริษัทมีความถนัด ซึ่งการพัฒนาโมเดลธุรกิจที่ผสมผสานการขายสินค้าผ่านช่องทาง O2O เพื่อตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ที่ต้องการความสะดวกสบายในการซื้อสินค้าและบริการ 

MAKRO จ่อซื้อ 'ธุรกิจรีเทล' ต่างประเทศ ดันเติบโต ! อย่างไรก็ตาม การรวมกันในครั้งนี้ ! จะช่วยประหยัดต้นทุนเนื่องจากบ้างอย่างสามารถใช้ร่วมกันได้ และเป็นตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้ง 2 กลุ่ม ด้วยช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย และการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าทุกกลุ่ม รวมถึงสามารถใช้ความเชี่ยวชาญด้านการคัดสรรและจัดซื้อ เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการที่หลากหลายยิ่งขึ้น ตลอดจนยกระดับ “ห่วงโซ่อุปทาน” (Supply Chain) ให้เข้มแข็ง สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการต่างชาติได้

“ตอนนี้เราไม่อยากเป็นผู้เล่นแค่ในเมืองไทยแล้ว แต่เรากำลังดึงศักยภาพของทั้งแม็คโครและโลตัสส์ เพื่อขยายการเติบโตทั้งในและต่างประเทศต่อไป” 


เธอ บอกต่อว่า แผนขยายลงทุนในและต่างประเทศ โดย “ในประเทศ” จะเน้นลงทุนขยายสาขาขนาดกลาง-เล็ก เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในระดับตำบลมากขึ้น ขณะที่ “ต่างประเทศ” บริษัทมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้ในปี 2568 แตะ 10% เดิม 5% จากการขยายสาขาควบคู่ทั้งแม็คโครและโลตัสส์ ปัจจุบันมีสาขาแม็คโครใน 4 ประเทศ จำนวน 7 สาขา ได้แก่ กัมพูชา 2 สาขา เมียนมา 1 สาขา อินเดีย 3 สาขา และจีน 1 สาขา ส่วนโลตัสส์มีสาขาแค่ประเทศมาเลเซีย 

ดังนั้น บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาตลาดในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งมองเห็นโอกาสเติบโตอีกมหาศาล โดยปัจจุบันบริษัทมีทีมต่างประเทศในการศึกษาตลาดทั้งตลาดที่แม็คโครขยายสาขาไปแล้ว หรือ ตลาดประเทศใหม่ที่ยังไม่เคยเข้าไป โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจของโลตัสส์หากมีช่องทางลงทุนบริษัทพร้อมที่จะขยายสาขาโลตัสส์เข้าไป 

MAKRO จ่อซื้อ 'ธุรกิจรีเทล' ต่างประเทศ ดันเติบโต ! อย่างไรก็ตาม ในแผน 5 ปี มีโอกาสเห็นธุรกิจโลตัสส์ขยายสาขาเข้าไปในประเทศที่แม็คโครไปลงทุนแล้ว เพียงแต่ธุรกิจของโลตัสส์เป็นธุรกิจรีเทล (B2C) ที่มีข้อกฎหมายไม่เปิดกว้างในการทำธุรกิจเหมือนธุรกิจ B2B เนื่องจากต้องการลงทุนจะต้องมีพันธมิตรท้องถิ่นในประเทศนั้นๆ ร่วมลงทุนด้วยไม่สามารถลงทุนเองได้ 100% ดังนั้น การขยายสาขาโลตัสส์ต่างประเทศจำเป็นต้องมีพันธมิตร่วมทุนด้วย หรือ การซื้อกิจการ (M&A) ธุรกิจรีเทลในประเทศดังกล่าวเข้ามาเพื่อร่วมมือกัน   

“มีโอกาสเป็นไปได้ทุกแนวทางขึ้นอยู่ที่เราจะหยิบยกโมเดลธุรกิจรูปแบบไหนมาใช้ จะเป็นการร่วมมือพาร์ทเนอร์ หรือ เทคโอเวอร์ธุรกิจรีเทล” 

นอกจากการผนึกกำลังในกลุ่มธุรกิจของแม็คโครเองแล้ว ปัจจุบันยังมี “การใช้ขุมพลัง” ของกลุ่มบริษัทใน “เครือซีพี” (CP) อีกด้วย เพื่อเป็นการสนับสนุนการเติบโตของแม็คโครในอนาคต อาทิ อยู่ระหว่างการร่วมมือกับ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ในการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล เนื่องจาก TRUE มีความเชี่ยวชาญและมีความรู้ในด้านเทคโนโลยี 

หรือในแง่ของสินค้าบริษัทมีความร่วมมือกับ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ซึ่งเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด โดยบริษัทมีการพัฒนาสินค้าร่วมกันทั้งสำหรับลูกค้า B2B และลูกค้า B2C หรือแม้แต่แผนการลงทุนในต่างประเทศ บริษัทก็ใช้พลังของเครือซีพีสนับสนุน เนื่องจากกลุ่มซีพีมีฐานธุรกิจอยู่ในหลายประเทศ ดังนั้น อนาคตบริษัทจะใช้พลังของบริษัทในเครือซีพีในการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีๆ ให้กับธุรกิจและประเทศไทย 

MAKRO จ่อซื้อ 'ธุรกิจรีเทล' ต่างประเทศ ดันเติบโต ! “โมเดลธุรกิจแบบไปคนเดียวเติบโตคนเดียวน่าจะหมดสมัยไปแล้ว และเมื่อธุรกิจมีโอกาสไปเติบโตในต่างประเทศ เราก็อยากจะดึงสินค้าไทย คนไทย ผู้ผลิตไทย ไปร่วมสร้างโอกาสกับเราด้วย” 

ทั้งนี้ ภาพรวมของผลดำเนินงานครึ่งปีแรกแม็คโครเติบโตระดับ 3% เนื่องจากปีนี้ผลกระทบจากโควิด-19 รุนแรงกว่าปีที่แล้ว แต่มองว่าหลังจากที่สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย และภาครัฐได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค ดังนั้น ภายใต้ความคาดหวังโควิด-19 คลี่คลายและเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว คาดว่าผลประกอบการมีโอกาสเติบโต “สองหลัก” สะท้อนผ่านในปี 2561-2563 ที่บริษัทเติบโต 6.5% (ยังไม่มีโลตัสส์) 

สุดท้าย “สุชาดา” บอกไว้ว่า การรวมกันของแม็คโครและโลตัสส์เมื่อธุรกิจมารวมกันจะมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น และช่วยให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งมากขึ้น อนาคตสามารถทำอะไรร่วมกันได้มากยิ่งขึ้นไปอีก

15804
รถพึ่งซื้อมา พึ่งเริ่มผ่อน ยังไม่สามารถรีไฟแนนซ์ได้

https://เจพีแคปปิตอล.com

FACEBOOK : JPCapitalDotPartners

หน้า: 1 ... 876 877 [878] 879 880 ... 911