แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - nemophilanie

หน้า: 1 [2] 3 4 ... 7
19
หากได้จิบกาแฟรสชาติดี ๆ สักแก้วยามเช้าเป็นความปรารถนาของวัยทำงาน วันนี้เรามีสูตรลับชงกาแฟให้อร่อยกลมกล่อมรับความสดชื่นยามเช้า บอกเลยว่าทำได้เองด้วย เครื่องชงกาแฟ มีเมนูน่าลิ้มลองดังนี้

1)   dirty Latte
เมนูกาแฟที่เพิ่งฮิตเร็ว ๆ นี้ มีที่มาจากประเทศญี่ปุ่น กาแฟdirty มีลักษณะแยกชั้นกันระหว่างกาแฟและนม ส่วนที่ผสมกันเกิดเป็นลวดลายเปรอะเปื้อนราวกับผลงานศิลปะ จึงมีชื่อว่า Dirty Latte ที่สำคัญเวลาดื่มจะต้องห้ามคนเด็ดขาด ให้ดื่มในขณะที่เครื่องดื่มยังแยกชั้นกัน
ส่วนผสม
•   กาแฟเอสเพรสโซ่ 1 แคปซูล รสชาติใดก็ได้
•   นมสด
วิธีทําdirty
1.   เทนมสดลงในแก้วใสขนาด 5 – 6 ออนซ์ ให้นมสดมีปริมาตร 2/3 ของแก้ว จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็น 15 – 20 นาที
2.   เตรียมเอสเพรสโซ่ช็อตจาก เครื่องทำกาแฟแคปซูล
3.   ค่อย ๆ เทช็อตเอสเพรสโซลงไปในแก้วที่มีนมสดที่แช่เย็นไว้ โดยผ่านช้อนที่เป็นตัวกลางเพื่อให้แยกเป็นชั้น
 
2)   Matcha Espresso
Matcha Espresso หรือ กาแฟชาเขียว เป็นการผสมผสานระหว่างชาเขียวและกาแฟได้อย่างลงตัว เหมาะกับคนชื่นชอบกาแฟแนวฟิวชั่น ได้ทั้งความหอมหวานและความละมุน นอกจากจะมีหน้าตาสวยงามแล้ว รสชาติยังอร่อยอีกด้วย
ส่วนผสม Matcha Espresso
•   เอสเพรสโซ 1 ช็อต
•   ผงมัทฉะ
•   นมสด
วิธีทำ Matcha Espresso
1.   นำผงมัทฉะ 2 ช้อนชา มาชงกับน้ำร้อน 60 มิลลิลิตร สามารถเติมไซรัปเพื่อเพิ่มความหวานได้
2.   เทชาเขียวที่เตรียมไว้ลงในแก้วขนาด 12 ออนซ์ จากนั้นเติมน้ำแข็งลงไป
3.   ทำชั้นที่ 2 โดยการเทนมสดเย็นลงไปอย่างช้า ๆ
4.   ปิดท้ายชั้นที่ 3 ด้วยการเทเอสเพรสโซ 1 ช็อต ที่ได้จาก เครื่องทำกาแฟแคปซูล
5.   เสร็จพร้อมเสิร์ฟ เพียงเท่านี้ก็จะได้ Matcha Espresso ที่มีหน้าตาสวยงามเหมือนที่บาริสต้าชงให้

3)   Caramel Macchiato
คาราเมล มัคคิอาโต้ ต้องเป็นเมนูกาแฟแก้วโปรดของใครหลาย ๆ คนอย่างแน่นอน ด้วยความหวานหอมเฉพาะตัว
ส่วนผสม Caramel Macchiato
•   กาแฟเอสเพรสโซ่ 1 ช็อต (1 ออนซ์ หรือ 30 มิลลิลิตร)
•   นมสด 3 ออนซ์ หรือ 90 มิลลิลิตร
•   ไซรัปคาราเมล 10 มิลลิลิตร
วิธีทำ Caramel Macchiato
1.   เตรียม กาแฟเอสเพรสโซ่ ด้วย เครื่องชงกาแฟ
2.   ผสมนมสดกับไซรัปคาราเมล จากนั้นคนให้ส่วนผสมเข้ากัน
3.   ตักน้ำแข็งใส่นมสดที่ผสมกับไซรัปคาราเมล
4.   ราดช็อตเอสเพรสโซ่ลงไป
5.   ตีฟองนมใส่ไว้ที่ด้านบน แล้วบีบซอสคาราเมลเพื่อตกแต่ง

การสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ ด้วยตัวเองถือเป็นความท้าทาย ที่สำคัญคือต้องลองหัดทำเรื่อย ๆ จะได้คล่องมือ อีกทั้งสามารถเลือกสรรส่วนผสมได้ตามใจชอบด้วย ลองเลือกเมนูที่ถูกใจแล้วเริ่มต้นกัน

ชมเพิ่มเติมที่
https://www.nespresso.com/th/th/dirty-coffee
https://www.nespresso.com/th/th/how-to-make-dirty-coffee

20
หากคุณขับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานยาวนานและมีงบประมาณจำกัด ลองมาดู ประกันรถชั้น 3 ที่เป็นประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะกับคุณ แต่เพื่อความคุ้มค่าในการเลือกซื้อประกัน SCB Protect มีรายละเอียดของประกันรถยนต์ชั้น 3 และ ประกันชั้น 3 พลัส ที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อนำมาเปรียบเทียบความคุ้มครองให้เลือกประกันรถที่เหมาะสมยิ่งขึ้น

ประกันรถชั้น 3 คือ ประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อชีวิตของบุคคลภายนอก คู่กรณี และผู้เอาประกัน รวมถึงให้ความคุ้มครองต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกและคู่กรณี เหมาะสำหรับผู้ที่มีรถยนต์อายุ 10 ปี ขึ้นไป ทั้งนี้ในกรณีที่เป็นรถยนต์ราคาแพงผู้เอาประกันสามารถขอรับใบเสนอราคา ประกันรถยนต์ชั้น 1 ได้
ส่วน ประกันชั้น 3 พลัส คือ ให้ความคุ้มครองเหมือนกับประกันชั้น 3 แต่ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันที่เอาประกันภัยเมื่อเกิดเหตุชนกับยานพาหนะทางบกด้วย ซึ่งจะต้องเป็นอุบัติเหตุที่มีคู่กรณีเท่านั้น เหมาะสำหรับรถที่มีการจดทะเบียนมากกว่า 10 ปีขึ้นไป รวมถึงเคยมีประวัติการเฉี่ยวชนบ่อย เพราะเบี้ยประกันจะถูกกว่าการต่อประกันรถยนต์ชั้น 2 หรือ ประกันชั้น 2 พลัส

ความคุ้มครองจากประกันรถชั้น 3 และ 3 พลัส ที่ไม่ควรมองข้าม
-   ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ได้อธิบายเงื่อนไขความคุ้มครองนี้โดยสรุปว่า เป็นการคุ้มครองและชดใช้ค่าสินไหมให้แก่บุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุของผู้ถือกรมธรรม์ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ช่วยลดความกังวลในการแบกรับภาระค่าใช้จ่ายจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
-   ความคุ้มครองเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บเล็กน้อยหรือมีการสูญเสียชีวิตของผู้ถือกรมธรรม์ คู่กรณี รวมถึงบุคคลภายนอกที่ได้รับผลกระทบ ถือเป็นเงื่อนไขความคุ้มครองที่ไม่ควรมองข้ามในการซื้อประกันภัยรถยนต์ทุกประเภท เพียงแต่ความคุ้มครองของ ประกันชั้น 1 – ประกันชั้น 3 จะมีวงเงินที่แตกต่างกันไป
-   อุ่นใจ สบายกระเป๋า ประกันชั้น 3 มีเบี้ยประกันถูกแต่ช่วยเพิ่มความอุ่นใจมากขึ้นได้ เพราะอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และหากคุณขับรถรุ่นเก่าหรือมีงบประมาณจำกัดการซื้อประกันยิ่งเป็นตัวช่วยสำคัญยามฉุกเฉิน แต่หากต้องการเพิ่มความคุ้มครองให้ครอบคลุมค่าชดเชยรถของผู้เอาประกัน แนะนำให้ทำ ประกันชั้น 3 พลัส โดยเหตุที่เกิดจะต้องเป็นรถผู้เอาประกันชนกับยานพาหนะทางบกและจะต้องมีคู่กรณี จึงจะได้รับความคุ้มครอง

แต่หากยังตัดสินใจไม่ได้ เราขอแนะนำให้เปรียบเทียบค่าเบี้ยประกันต่อปีและเงื่อนไขประกันทั้ง 2 ประเภท โดยวิธีที่ง่ายที่สุด คือ การเข้าสู่เว็บไซต์ SCB Protect จากนั้นเลือกยี่ห้อรถยนต์ รุ่น และปีที่จดทะเบียนของรถคันที่ต้องการทำประกัน เพียงเท่านี้ระบบจะแสดงผลเบี้ยประกันจากน้อยไปมากเพื่อให้อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ช่วยให้ตัดสินใจเลือกประกันได้ตรงความต้องการมากขึ้น

หากมองหาความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ที่น่าเชื่อถือได้ในราคาย่อมเยา ประกันภัยรถยนต์จาก SCB Protect คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ด้วยประกันภัยรถยนต์ประเภท 3 จาก SCB Protect จะช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างสบายใจในทุกเส้นทาง


21
อย่างที่รู้ว่ากาแฟมีคาเฟอีน ส่งผลต่อระบบประสาทและเป็นโทษต่อร่างกาย หากได้รับมากเกินไป แต่ถ้าบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ จะเป็นผลดีต่อร่างกายมากกว่า โดยเฉพาะกาแฟดำที่ปราศจากการปรุงแต่ง ซึ่งปริมาณที่แนะนำและส่งผลดีต่อสุขภาพคือ 1-2 แก้วต่อวันเท่านั้น

ประโยชน์ของกาแฟดำ
หลายคนมีภาพจำที่ว่ากาแฟดำนั้นมีรสชาติขมและไม่หวานอร่อยดื่มยากกว่ากาแฟผสมนมชนิดอื่น ๆ แต่รู้หรือไม่ว่าภายใต้ความขมเหล่านั้นมีคุณประโยชน์ซ่อนอยู่ ซึ่งจะมีอะไรบ้าง มาดูกันทีละข้อดังนี้
-   ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดและช่วยป้องกันโรคหัวใจ
-   ดื่มกาแฟดำก่อนออกกำลังกาย 30-60นาที จะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญร่างกาย ทำให้เบิร์นแคลลอรีได้มากขึ้น โดยมีงานวิจัยออกมาแล้วว่า คาเฟอีนในเมล็ดกาแฟคั่วบด มีผลต่อการทำงานของระบบเมตาบอลิซึม ช่วยให้น้ำหนักลดลงได้จริง
-   ช่วยป้องกันไวรัสตับอักเสบ B ลดการสะสมของไขมันที่จะไปพอกตับจนนำไปสู่การเป็นมะเร็งตับได้
-   การดื่มกาแฟสดเป็นประจำอย่างต่อเนื่องจะช่วยชะลอความแก่ลงได้
-   กาแฟสดจะมีกรดอะซิติก ที่ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้และมะเร็งตับ
-   ดื่มกาแฟดำตอนเช้า ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง โดยเฉพาะคนที่ดื่มกาแฟสดปริมาณ 1-2 แก้วต่อวัน นอกจากนี้ยังช่วยลดการเกิดโรคอัลไซเมอร์เมื่อดื่มติดต่อกันในระยะเวลานาน
-   ช่วยบรรเทาโรคเก๊าต์ เพราะกาแฟจะไปช่วยลดระดับกรดยูริคในร่างกาย ทำให้อาการปวดจากภาวะเก๊าต์ลดลง
เห็นว่าการดื่ม กาแฟดำประโยชน์ มีมากกว่าที่คิด ปัจจุบันสามารถทำกาแฟดำที่หอมและมีคุณภาพได้ด้วยผลิตภัณฑ์ กาแฟแคปซูล ที่บรรจุกาแฟสดบดเอาไว้เพิ่มความสะดวกมากขึ้น เมื่อนำไปชงเสร็จจะเหลือ กากกาแฟ ของ Nespresso ซึ่งสามารถนำไปทำประโยชน์ของกากกาแฟอย่างอื่นต่ออย่างการนำไปขัดผิว ใช้ดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือใส่ดินปลูกต้นไม้ได้อีกด้วย 
การดื่มกาแฟควรเป็นการดื่มกาแฟดำชงสด เพื่อให้ได้ประโยชน์มากที่สุด แต่ถ้าใครที่ยังไม่คุ้นชินกับการดื่มกาแฟดำที่ต้องชงด้วยความยุ่งยากและใช้เวลานาน การใช้เครื่องชง กาแฟแคปซูล เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เพราะมีให้เลือกหลายระดับของการคั่ว มีทั้งคั่วอ่อน คั่วกลางและคั่วเข้ม ซึ่งมีแคปซูลกาแฟจากทั่วโลกให้เลือก เช่น กาแฟโคลัมเบีย ที่ให้ความสดชื่นและโดดเด่นไปด้วยกลิ่นของผลไม้ประจำถิ่น อย่างแอปเปิลและเบอร์รีสีแดง

หลังจากรู้ ประโยชน์ของกาแฟดำ กันแล้ว หลายคนคงอยากจะลิ้มลองรสชาติของกาแฟดำกันดู สิ่งแรกที่จะได้คือรสชาติแท้ ๆ ของเมล็ดกาแฟ โดยเฉพาะกาแฟสดที่ไม่เพียงแต่มีรสชาติขมเพียงอย่างเดียว หากแต่ยังมีความหอมหวานซ่อนเปรี้ยวที่ชวนให้หลงใหลและน่าค้นหา

22
   หากต้องการให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน เชื่อแน่ว่าผลิตภัณฑ์ที่หลายคนนึกถึงในการแต่งหน้าคือ  รองพื้น ที่ช่วยปกปิดจุดบกพร่องต่าง ๆ บนใบหน้า จุดด่างดำ ริ้วรอย ความหมองคล้ำ รอยหลุมสิว ฯลฯ ให้กลับเนียนเรียบสวยดั่งใจนึก แล้วรองพื้นแบบไหนกันล่ะที่จะเหมาะกับผิวของคุณ วันนี้มีคำแนะนำดี ๆ มาบอกในการเลือกรองพื้น ส่วนจะเลือกซื้อ รองพื้นยี่ห้อไหนดี วันนี้มีมารีวิวด้วย
วิธีเลือกรองพื้นให้เหมาะกับผิวของคุณ
   รองพื้นมีทั้งแบบน้ำ เนื้อครีม เนื้อมูสหรือเนื้อแป้ง แต่ละประเภทจะมีส่วนประกอบที่ช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน เช่น ซิลิกา ( SILICA ) ส่วนประกอบจากธรรมชาติ ช่วยให้ครีมติดผิวนานขึ้น มี SPF ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด บางยี่ห้อจะมีสารบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ชั้นผิวหนัง เช่น ว่านหางจระเข้  แต่ไม่ว่าจะเลือกรองพื้นเนื้อแบบไหน ก็ต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับผิวหน้าของแต่ละคนเป็นสำคัญ มาดูกันว่าต้องเลือกอย่างไรให้เหมาะกับผิวคุณ
-   เลือกให้เข้ากับโทนสีผิวของตัวเอง แนะนำให้ไปเลือกซื้อที่เคาน์เตอร์เครื่องสำอางโดยตรง ลองบนผิวหน้าจริงและหากออกไปดูในแสงธรรมชาติได้จะดีมากเลย ให้เลือกรองพื้นมา 3 เฉดสี เฉดที่พอดีกับผิว เฉดที่สว่างกว่าสีผิว 1 เฉด และ เฉดสีที่เข้มกว่าสีผิว 1 เฉด ปาดรองพื้นทั้ง 3 เฉดบริเวณสันกราม สีไหนพอดีกับหน้าและคอมากที่สุด ก็เลือกสีนั้นได้เลย
-   เลือกให้เหมาะกับสภาพผิว เลือกรองพื้นได้เหมาะสมกับสภาพผิวนอกจากจะทำให้ได้ผิวหน้าที่เรียบเนียนแล้ว  ยังทำให้ดูสวยสดใสตลอดวัน ไม่เกิดปัญหาผิวหน้ามันเงา ไหลเยิ้ม หรือใบหน้าหมองคล้ำ แนะนำดังนี้
1.   ผิวมัน    เลือกรองพื้นต้องเน้นที่ความบางเบา แนะนำให้ใช้รองพื้นเนื้อน้ำ หรือรองพื้นเนื้อแป้ง ชนิดควบคุมความมัน และอำพรางรูขุมขนได้  ควรเป็นรองพื้นคุมมัน ที่สามารถลดความมันเงาบนใบหน้าอย่างพอเหมาะด้วย 
2.   ผิวแห้ง  เลือกรองพื้นที่มอบความชุ่มชื้น โดยไม่เพิ่มความมันบนใบหน้า มีเนื้อสัมผัสบางเบา สาวผิวแห้งเหมาะกับรองพื้นเนื้อน้ำ  เนื้อครีม และเนื้อมูส
3.   ผิวผสม  โดยทั่วไปไม่มีรองพื้นที่ออกแบบมาสำหรับผิวผสม ให้ดูว่าผิวค่อนไปทางมันหรือแห้ง ควรมองหารองพื้นที่เนื้อบางเบาและมีความชุ่มชื้น เหมาะกับรองพื้นเนื้อน้ำ เนื้อมูส และเนื้อแป้ง
   การเลือกใช้รองพื้นที่เหมาะกับผิวหน้าของตัวเอง นอกจากจะช่วยปรับสภาพผิวหน้าดูเรียบเนียนสวยเป็นธรรมชาติ ยังไม่ทำให้หน้าลอย หมองคล้ำ สาว ๆ ที่ยังไม่รู้จะเลือกซื้อ รองพื้นคุมมันที่ดีที่สุด ยี่ห้อไหนดี มีรองพื้นน่าลองอย่าง Liquid Foundation จาก MAC Cosmetic มาแนะนำ MAC STUDIO FIX FLUID ครีมรองพื้นกันแดด ครีมรองพื้นที่ช่วยสร้างผิวให้ดูสุขภาพดีพร้อมกันแดด ปกปิดอำพรางทุกความพกพร่องของผิวบนใบหน้า มีให้เลือกมากถึง 14 เฉดสี ไปเลือกสีมาใช้กันได้เลยจ้า

23
หนึ่งในความฝันของคอกาแฟคือการได้ลองสวมบทบาทเป็นบาริสต้าชงกาแฟแก้วโปรด แต่การชงกาแฟสดออกมาได้สมบูรณ์แบบนั้นจำเป็นจะต้องมีเวลาไปเรียนรู้ วิธี ใช้ เครื่อง ชง กาแฟ ประเภทและชนิดของเมล็ดกาแฟ รวมไปถึงวิธีการชงกาแฟแต่ละเมนู ซึ่งกว่าจะเรียนรู้จนเชี่ยวชาญก็ยาวนาน ทำให้ความฝันการเป็นบาริสต้าคือ ที่จะปรุงกาแฟรสเลิศ จึงเป็นอันต้องพับเก็บไป วันนี้เราเลยอยากจะชวนคุณกลับไปทำตามความฝันนั้นอีกครั้งร่วมกับตัวช่วยดี ๆ อย่าง เครื่องชงกาแฟ แคปซูล Nespresso ที่จะช่วยสานฝันคุณให้เป็นจริงได้

นวัตกรรมเครื่องชงกาแฟแคปซูล Nespresso ออกแบบมาให้มี วิธีใช้เครื่องชงกาแฟ ร่วมกับ แคปซูลกาแฟ แม้ว่าเราจะไม่มีความรู้ในการเลือกเมล็ดกาแฟเลยแต่ยังสามารถชงกาแฟให้ออกมาสมบูรณ์แบบได้ เพราะในแต่ละแคปซูลกาแฟถูกคัดสรรชนิดกาแฟ ระดับความเข้ม และปริมาณที่ลงตัวออกมาแล้ว จึงมั่นใจได้ว่าเมื่อชงกาแฟออกมาแล้วจะอร่อยกลมกล่อม รสชาติคงที่ทุกแก้ว
นอกจากจะใช้งานร่วมกับกาแฟแคปซูลแล้วเครื่องชงกาแฟทุกรุ่นของ Nespresso มี วิธีใช้เครื่องชงกาแฟ ง่ายและสะดวกสบาย เพียงปลายนิ้วสัมผัสก็สามารถชงกาแฟสดสมบูรณ์แบบในเวลาอันรวดเร็ว เพราะมีระบบทำความร้อนเร็วที่มาพร้อมกับแรงดัน 19 บาร์ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลารอน้ำเดือดนาน ๆ อีกต่อไป ส่วน วิธี ใช้ เครื่อง ชง กาแฟ นั้นเริ่มจากการเติมน้ำเปล่าลงในแท็งก์ เสียบปลั๊กแล้วกดปุ่มเปิดให้เครื่องทำงาน ตามด้วยใส่ แคปซูลกาแฟ ลงไปในช่องบรรจุแคปซูล เลือกฟังก์ชันเมนูที่ต้องการ ซึ่งรุ่นพื้นฐานในราคาหลักพันนั้นจะรองรับฟังก์ชันการชงเอสเพรสโซ่และลุงโก เช่น รุ่น Essenza Mini รุ่น Inissia และรุ่น Pixie Electric แต่ถ้าหากเป็นรุ่นที่มีราคาสูงขึ้นอีกหน่อยจะมีฟังก์ชันเมนูหลากหลายสามารถสตรีมนมเพื่อชงกาแฟผสมนมได้ในตัว อย่าง รุ่น Lattissima One หรือรุ่น Gran Lattissima เป็นต้น แต่หลักการทำงานต่าง ๆ จะเหมือนกันคือกดเลือกเมนูที่ต้องการแล้วเครื่องจะชงกาแฟเมนูนั้น ๆ ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบทั้งหน้าตา กลิ่น และรสสัมผัส ทั้งหมดนี้ใช้เวลาไม่กี่นาที เพียงปลายนิ้วสัมผัสก็จะได้กาแฟสดแก้วโปรดไว้ดื่มง่าย ๆ แล้ว

หากคุณอยากจะชงกาแฟดื่มเอง เครื่องชงกาแฟ แคปซูล Nespresso เป็นไอเทมหลักที่คุณจะขาดไม่ได้เพราะสะดวกใช้งานง่าย ลองถามตัวคุณเองว่าชอบดื่มกาแฟสดสไตล์ไหนเป็นอันดับแรกแล้วมาเลือกเครื่องชงกาแฟแคปซูล Nespresso รุ่นที่ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด เท่านี้คุณจะได้เป็นบาริสต้าสร้างสรรค์เมนูโปรดของคุณในทุกวัน

24
การซื้อรถใหม่ป้ายแดงถือเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง แต่ในเวลาเดียวกันก็มาพร้อมกับความรับผิดชอบในการคุ้มครองรถ, ความปลอดภัยของคุณเองและผู้อื่นบนท้องถนนด้วย ประกันรถยนต์ชั้น 1 คือคำตอบที่จะช่วยให้มือใหม่ เจ้าของรถป้ายแดงได้รับความมั่นใจในทุกการขับขี่เพราะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีประกันรถยนต์ชั้นอื่น ๆ ที่เหมาะสำหรับรถยนต์เก่าให้เลือกใช้งานตามความเหมาะสมเพื่อรถและคนที่คุณรัก
ประกันรถชั้น 1 คืออะไร
ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นแผนประกันรถยนต์ที่มีความคุ้มครองครอบคลุมที่สุด ให้ความคุ้มครองรถยนต์ของคุณ, รถยนต์คู่กรณีที่เกิดอุบัติเหตุ, คุ้มครองคนในรถและคนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในอุบัติเหตุ รวมถึงกรณีที่ประสบเหตุแบบไม่มีคู่กรณีด้วย คุณสมบัติของ ประกันชั้น 1 ประกอบไปด้วย
-   ให้ความคุ้มครองและชดเชยความเสียหายของรถยนต์ของคุณ
-   ให้ความคุ้มครองและชดเชยความเสียหายต่อรถยนต์ของบุคคลอื่น
-   ให้ความคุ้มครองและชดเชยความเสียหายสำหรับบุคคลในรถยนต์ที่เอาประกันและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุ
-   ให้ความคุ้มครองในกรณีรถหาย, ไฟไหม้
สำหรับมือใหม่ใช้ ประกันชั้น 1 ดีอย่างไร
สำหรับมือใหม่ในการขับรถโดยส่วนใหญ่มักจะประสบอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าคนมีประสบการณ์ ซึ่งประกันรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมและมั่นคงสูงสุด เพราะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับคุณ ไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุหรือการข้อผิดพลาดใด ๆ ในการขับขี่ ทำให้ขับรถได้อย่างใจเย็นและไม่ต้องกังวลในเรื่องของความคุ้มครอง
สำหรับรถยนต์เก่าควรใช้ประกันภัยแบบไหนดี
สำหรับรถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 5 ปี ขึ้นไป แนะนำเลือก ประกันชั้น 2 พลัส หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 2 เพื่อความคุ้มค่า ด้วยประสบการณ์การขับขี่ที่มากขึ้น ผิดพลาดน้อยลง เมื่อเทียบกับความคุ้มครองของ ประกันชั้น 2 พลัส ที่เป็นรองประกันชั้น 1 เพียงแค่ในเรื่องของการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณีเท่านั้น พร้อมให้ความคุ้มครองครอบคลุม เช่น รถหาย, ไฟไหม้, อุบัติเหตุและค่ารักษาพยาบาลทั้งรถผู้เอาประกันและคู่กรณี ค่าเบี้ยจ่ายน้อยกว่าเกือบ 40-50% ทั้งยังให้ความคุ้มครองรถยนต์จนอายุถึง 15 ปี เพราะรถยนต์เก่ามักมีมูลค่าของราคาที่ลดลง ทำให้ไม่ต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากเท่าประกันรถยนต์ชั้น 1 โดยในกรณีนี้สามารถพิจารณา ประกันชั้น 2 หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 3  ซึ่งมีค่าเบี้ยประกันที่ถูกกว่ามาก เพียงเลือกแผนความคุ้มครองที่เหมาะสม เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้คุณคลายกังวลและมีความมั่นใจในการขับขี่รถยนต์ต่อไปได้
จะเห็นว่าการเลือก ประกันรถชั้น 1 หรือระดับคุ้มครองที่ครอบคลุมสูงสุด เป็นการเลือกความคุ้มครองสำหรับมือใหม่และรถใหม่ป้ายแดงที่มีอายุไม่เกิน 5 ปี แต่สำหรับรถยนต์เก่าหรือมีอายุตั้งแต่ 5 ปี ขึ้นไป สามารถพิจารณาความคุ้มครองและค่าเบี้ยประกันที่เหมาะสมได้ สำหรับท่านใดที่สนใจประกันรถยนต์หรือรายละเอียดความคุ้มครองต่าง ๆ ลองพิจารณาตามคำแนะนำเพื่อเลือกซื้อประกันรถยนต์ที่เหมาะกับตัวเองได้เลย


ชมรายละเอียดเพิ่มที่
https://online.scbprotect.co.th/motor/type-3

25
   ปัญหาริ้วรอยที่หลาย ๆ คนกังวล เกิดขึ้นเพราะอายุที่เพิ่มมากขึ้น บวกกับความเครียดจากการทำงานในแต่ละวัน ทำให้เราเลี่ยงไม่ได้ที่จะเผชิญกับปัญหาดังกล่าว ใครเจอปัญหานี้อยู่ วันนี้เรามี เซรั่มช่วยลดริ้วรอย ที่จะมาช่วยคืนผิวสุขภาพดี แข็งแรงและดูอ่อนเยาว์ พร้อมแชร์วิธีเลือกเซรั่มให้เหมาะกับปัญหาผิว

ทำความรู้จักกับ เซรั่มลดริ้วรอย ให้มากขึ้น
   เซรั่ม คือสกินแคร์สูตรเข้มข้นเต็มไปด้วยส่วนผสมที่ช่วยแก้ไขผิวหน้าให้ตรงจุด โดยเฉพาะเซรั่มลดริ้วรอยที่มีส่วนผสมในการช่วยลดเลือนริ้วรอย เซรั่มลดริ้วรอยมักมีส่วนผสมของสารที่เป็นส่วนผสมสำคัญเหล่านี้ คือ
•   Retinol ส่วนผสมสำคัญของการต้านริ้วรอย เรตินอลจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ช่วยเติมร่องริ้วรอยที่ลึกให้ตื้นขึ้น และฟื้นฟูริ้วรอยบนผิวหน้าให้ดีขึ้น
•   Hyaluronic Acid หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ กรดไฮยาลูรอนิก มีคุณสมบัติในการล็อกความชุ่มชื้น คนที่ผิวแห้ง ผิวขาดความชุ่มชื้น ควรเลือกเซรั่มที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูรอนิกเป็นส่วนผสม โดยจะเข้าไปช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นทำให้ผิวมีความอิ่มน้ำ และลดริ้วรอยอีกด้วย
•   Antioxiadant เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทำหน้าที่ชะลอความเสื่อมของร่างกาย เช่น ผิวที่หมองคล้ำ ผิวที่มีริ้วรอยก่อนวัย
•   Vitamin C เป็นส่วนผสมที่มักพบได้ในเซรั่มหน้าใส ของ ELCA ทั่วไป โดยวิตามินซีมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวกระจ่างใส ปกป้องผิวจากแสงแดด ลดความหมองคล้ำ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ริ้วรอยลดลง
•   AHA หรือกรดผลไม้ ที่มีคุณสมบัติเด่นช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส ซึ่งมักจะเป็นอีกหนึ่งส่วนผสมสำคัญที่อยู่ในเซรั่มลดริ้วรอย
•   Niacinamide สารไนอะซินาไมด์ หรือวิตามินบี 3 เป็นวิตามินที่ช่วยบำรุงผิวแบบรอบด้าน ทำให้ผิวแข็งแรง แก้ปัญหาผิวอักเสบ เป็นสิว และช่วยปรับสมดุลน้ำมันบนผิว ช่วยปรับรูขุมขนให้เล็กลง
•   สารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ มีหลายแบรนด์ที่มักจะเติมส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มเข้าไปในเซรั่มลดริ้วรอย เพื่อเสริมการทำงานของส่วนผสมที่เป็นสารออกฤทธิ์ตัวหลัก เพื่อให้เซรั่มมีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูและบำรุงผิวได้มากขึ้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับแบรนด์ว่าจะเลือกสารต้านอนุมูลอิสระตัวไหนเป็นส่วนผสม

สภาพผิวแบบไหนเหมาะกับการใช้เซรั่มลดเลือนริ้วรอย
   เมื่อเรารู้ส่วนผสมที่สำคัญของเซรั่มลดริ้วรอยแล้ว เราก็จะสามารถเลือกเซรั่มให้เหมาะกับสภาพผิวได้ แล้วจะเลือก ใช้เซรั่มตัวไหนดี หากสภาพผิวเรามีปัญหาริ้วรอย
•   แนะนำให้เลือกเซรั่มที่มีส่วนผสมของ กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) และสารเรตินอล (Retinol) เพราะสารสกัดทั้ง 2 ชนิดนี้ช่วยสร้างคอลลาเจนให้ผิว ทำให้ริ้วรอยตื้นขึ้น ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น มีความอิ่มน้ำ จึงช่วยลดเลือนริ้วรอยได้

เคล็ดลับการทาเซรั่มให้ซึมลึกถึงชั้นผิว
   ขั้นตอนของการทาเซรั่มก็มีความสำคัญ หากลงผิดขั้นตอนแล้ว ต่อให้เซรั่มนั้นจะมีราคาแพงมากขนาดไหนก็อาจจะส่งผลให้เซรั่มนั้นทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
   ขั้นตอนการลงเซรั่มเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและผิวได้รับการบำรุงอย่างเต็มประสิทธิภาพ คือ ต้องลงเซรั่มเป็นขั้นตอนแรกของการบำรุงผิว เพราะเนื้อเซรั่มมีความบางเบาและโมเลกุลขนาดเล็ก สามารถซึมลงสู่ผิวได้ดีกว่า จึงควรลงเซรั่มหลังทำความสะอาดหน้าเสร็จเป็นขั้นตอนแรก หลังจากนั้นควรทิ้งระยะเพื่อให้เซรั่มซึมลงสู่ผิวก่อน แล้วจึงลงสกินแคร์อื่น ๆ เป็นลำดับถัดไป

   การรู้ปัญหาผิวหน้าของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราเลือกสกินแคร์ได้ตรงจุดมากขึ้น ใครที่กำลังมองหาเซรั่มลดเลือนริ้วรอยแต่ยังไม่รู้จะเลือก เซรั่มตัวไหนดี แนะนำ Advanced Night Repair Synchronized Multi-Recovery Complex Serum เซรั่มจาก Estee Lauder ที่เด่นในเรื่องของการช่วยลดเลือนริ้วรอยดูจางลงภายใน 3 สัปดาห์ ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น อ่อนเยาว์ ช่วยแก้ปัญหาผิวหน้า เป็นการดูแลผิวแบบครบรอบด้าน ที่สำคัญช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะอีกด้วย


ชมรายละเอียดเพิ่ม
https://www.jeban.com/topic/362829

26
ไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้จิบกาแฟรสชาติดี ๆ สักแก้วก่อนจะเริ่มต้นการทำงาน เพื่อปลุกความสดชื่นในวันนั้น ๆ เรามีสูตรลับชงกาแฟให้อร่อยเหมือนบาริสต้ามาฝา บอกเลยว่าทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้านด้วย เครื่องชงกาแฟ วันนี้จะมีเมนูอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

1)   Matcha Espresso
สำหรับใครที่ชื่นชอบกาแฟฟิวชั่น ต้องห้ามพลาด Matcha Espresso หรือ กาแฟชาเขียว เป็นการผสมผสานระหว่างชาเขียวและกาแฟได้อย่างลงตัว ได้ทั้งความหอมหวานและความละมุน นอกจากจะมีหน้าตาสวยงามแล้ว รสชาติยังอร่อยเข้ากันอีกด้วย
ส่วนผสม Matcha Espresso
•   เอสเพรสโซ 1 ช็อต
•   ผงมัทฉะ
•   นมสด
วิธีทำ Matcha Espresso
1.   นำผงมัทฉะ 2 ช้อนชา มาชงกับน้ำร้อน 60 มิลลิลิตร สามารถเติมไซรัปเพื่อเพิ่มความหวานได้
2.   เทชาเขียวที่เตรียมไว้ลงในแก้วขนาด 12 ออนซ์ จากนั้นเติมน้ำแข็งลงไป
3.   ทำชั้นที่ 2 โดยการเทนมสดเย็นลงไปอย่างช้า ๆ
4.   ปิดท้ายชั้นที่ 3 ด้วยการเทเอสเพรสโซ 1 ช็อต ที่ได้จาก เครื่องทำกาแฟแคปซูล
5.   เสร็จพร้อมเสิร์ฟ เพียงเท่านี้ก็จะได้ Matcha Espresso ที่มีหน้าตาสวยงามเหมือนที่บาริสต้าชงให้

2)   Dirty Latte
เมนูกาแฟdirtyคือมีลักษณะแยกชั้นกันระหว่างกาแฟและนม ส่วนที่ผสมกันเกิดเป็นลวดลายเปรอะเปื้อนราวกับผลงานศิลปะ จึงมีชื่อว่า Dirty Latte มีที่มาจากประเทศญี่ปุ่น และเพิ่งได้รับความนิยมเมื่อไม่นานมานี้ กาแฟdirty ของ Nespresso เวลาดื่มจะต้องห้ามคนเด็ดขาด ให้สัมผัสความรู้สึกร้อนเย็นผสมผสานกันเป็นเสน่ห์ของเครื่องดื่มเมนูนี้ในระหว่างที่ดื่ม
ส่วนผสม Dirty Latte
•   กาแฟเอสเพรสโซ่ 1 แคปซูล รสชาติใดก็ได้
•   นมสด
สูตรdirtycoffee ของ Nespresso
1.   เทนมสดลงในแก้วสีใสขนาด 5 – 6 ออนซ์ ให้นมสดมีปริมาตร 2/3 ของแก้ว จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็น 15 – 20 นาที
2.   เตรียมเอสเพรสโซ่ช็อตจาก เครื่องทำกาแฟแคปซูล
3.   ค่อย ๆ เทช็อตเอสเพรสโซลงไปในนมสดที่แช่เย็นไว้ โดยผ่านช้อนที่เป็นตัวกลางเพื่อให้แยกเป็นชั้น

3)   Caramel Macchiato
คาราเมล มัคคิอาโต้ เมนูกาแฟแก้วโปรดของสายหวาน เพราะหลงรักเสน่ห์ความหวานหอมของคาราเมลผสมความเข้มกาแฟ
ส่วนผสม Caramel Macchiato
•   กาแฟเอสเพรสโซ่ 1 ช็อต (1 ออนซ์ หรือ 30 มิลลิลิตร)
•   นมสด 3 ออนซ์ หรือ 90 มิลลิลิตร
•   ไซรัปคาราเมล 10 มิลลิลิตร
วิธีทำ Caramel Macchiato
1.   เตรียม กาแฟเอสเพรสโซ่ ด้วย เครื่องชงกาแฟ
2.   ผสมนมสดกับไซรัปคาราเมล จากนั้นคนให้ส่วนผสมเข้ากัน
3.   ตักน้ำแข็งใส่นมสดที่ผสมกับไซรัปคาราเมล
4.   ราดช็อตเอสเพรสโซ่ลงไป
5.   ตีฟองนมใส่ไว้ที่ด้านบน แล้วบีบซอสคาราเมลเพื่อตกแต่ง

การสร้างสรรค์เมนูไม่ยากจนเกินไปเลย อีกทั้งสามารถเลือกสรรส่วนผสมคุณภาพดีตามใจชอบและถูกปากด้วย ลองเลือกเมนูที่ถูกใจแล้วเริ่มต้นกันเลย!

27
   ปัจจุบันธุรกิจและอุตสาหกรรมกาแฟได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สังเกตเห็นได้จากร้านค้ากาแฟผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด ไม่ว่าจะเป็นรายใหม่หรือรายเก่าที่ขยายสาขาและแฟรนไชส์ สิ่งที่ดึงดูดบรรดาคอกาแฟส่วนใหญ่จะเป็นในเรื่องของสถานที่และบรรยากาศ ในขณะที่เรื่องรสชาติกับเป็นเรื่องรอง น้อยร้านนักที่จะมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และสามารถมัดใจบรรดาลูกค้าให้กลับมาซื้อ กาแฟสด ดังนั้น เครื่องชงกาแฟแคปซูล จึงเข้ามามีบทบาทสำหรับคนที่ต้องการรสชาติอร่อยกลมกล่อมคงเดิม ผิดเพี้ยนน้อย ในราคาที่เหมาะสมและตอบโจทย์ชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน
แนะนำ เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ ของ Nespresso นวัตกรรมใหม่เพื่อคอกาแฟ
•   เครื่องชงกาแฟ ESSENZA MINI C Model Bundle
   เครื่องชงกาแฟสดอัตโนมัติ ที่มาพร้อมเครื่องทำฟองนม Aeroccino 3 สำหรับคอ กาแฟสด ที่ต้องการสรรค์สร้างความเข้มข้นและความนุ่มนวลของฟองนม ตัวเครื่องมีขนาด 11x32.5x20.5 cm.(กxยxส) มีน้ำหนักเพียง 2.3 กก. เคลื่อนย้ายง่าย เป็นได้ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าและสามารถตกแต่งบ้านเพราะมีดีไซน์สวยงาม ความจุถังน้ำ 0.6 ลิตร แรงดัน 19 บาร์ บรรจุแคปซูลที่ใช้แล้วได้ 6 ชิ้น มีโปรแกรมการชงกาแฟได้ 2 แบบ ได้แก่ Espresso และ Lungo สนุกกับเครื่องทำฟองนม Acroccino 3 ที่ให้ความนุ่มฟูและหอมในแบบมืออาชีพ
•   เครื่องชงกาแฟ PIXIE Bundle
   ขยับมาในรุ่นขนาดกลาง ที่รองรับการใช้งานที่มากขึ้น เหมาะกับออฟฟิศขนาดเล็กที่ต้องการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าและผู้บริหาร ด้วยเครื่องทำกาแฟสดแบบอัตโนมัติ Pixie สีแดงสดที่มาพร้อมเครื่องทำฟองนม Aeroccino 3 ดุจดั่งมืออาชีพใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเมนูกาแฟดำหรือกาแฟนม ลาเต้, คาปูชิโน่, แฟลทไวท์ และเมนูอื่น ๆ ตามที่ต้องการ ด้วยขนาด 11.1x32.6x23.5 cm. (กxยxส) ความจุถังน้ำ 0.7 ลิตร แรงดันน้ำ 19 บาร์ น้ำหนัก 2.8 กก. จึงมิใช่ปัญหาสำหรับเคาน์เตอร์บาร์ขนาดเล็ก
•   เครื่องชงกาแฟ GRAN LATTISSIMA
   เพื่อตอบโจทย์การชงกาแฟในปริมาณ 5-7 แก้วต่อครั้ง และไม่ต้องหงุดหงิดกับการเติมน้ำบ่อย ๆ ขอแนะนำ เครื่องทํากาแฟแคปซูล ของ Nespresso GRAN LATTISSIMA เพื่อตอบโจทย์ชาวออฟฟิศ, รีสอร์ทและครอบครัวขนาดใหญ่ที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟสดอยู่เป็นประจำและสร้างความประทับใจให้แขกผู้มาเยือน ไม่ว่าจะเป็นเมนูกาแฟร้อน-เย็น Espresso, Lungo, Cappuccino, Latte และอื่น ๆ เพียงเลือก กาแฟแคปซูล รสชาติที่ต้องการ ใส่แคปซูลลงในเครื่อง กดปุ่มเมนูกาแฟ รอไม่กี่วินาทีก็ได้กาแฟพร้อมดื่ม หากเป็นเมนูเย็นเพียงเตรียมน้ำแข็งใส่แก้ว รอให้อุณหภูมิลดลง เทกาแฟที่ได้ใส่ลงไปก็จะได้กาแฟเย็นสดชื่นตามที่ต้องการ เครื่องชงกาแฟแคปซูล GRAN LATTISSIMA มีขนาด 20.3 x 36.7 x 27.6 cm. (กxยxส) หนัก 5.2 ก.ก. ความจุถังน้ำ 1.3 ลิตร สามารถใช้รังสรรค์เมนูกาแฟได้หลากหลาย

   สำหรับเครื่องชงกาแฟสดทั้ง 3 รุ่น มาพร้อมแรงดันน้ำขนาด 19 บาร์ ระบบปิดตัวเองอัตโนมัติเมื่อไม่ได้ใช้งานภายใน 9 นาที ระบบทำน้ำร้อนภายใน 25 วินาที รับประกันการใช้งานนานถึง 2 ปี โดยเฉพาะรุ่น GRAN LATTISSIMA ที่มาพร้อมเมนูกาแฟนมในขั้นตอนเดียว โดยไม่ต้องซื้อออปชั่นเสริม พิเศษสุดกับ กาแฟแคปซูล จากเนสเพรสโซ่ ที่มีกาแฟจากทั่วทุกมุมโลกให้เลือกมากถึง 25 รสชาติ อีกทั้งยังมี Limited Edition ที่มีออกมาให้ลิ้มลองรสชาติที่แตกต่างอยู่เสมอ ซึ่งรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าชมได้ที่ www.nespresso.com

28
แม้ว่าริ้วรอยจะเป็นเรื่องที่ยากจะหลีกเลี่ยง แต่ถ้าเราสามารถลดริ้วรอยได้บ้างก็ย่อมดีกว่าไม่ทำอะไรเลย บางคนอาจจะเลือกทำศัลยกรรมที่เห็นผลชัดเจน แต่เชื่อว่ามีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่อยากเจ็บตัว จึงเลือกที่จะหาสกินแคร์บำรุงผิวเข้ามาเป็นตัวช่วยแทน วันนี้สำหรับใครที่มีปัญหาริ้วรอย หน้ามีริ้วรอยเหี่ยวย่น และกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวดี ๆ แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดลองมาดูทางนี้ เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ เซรั่มช่วยลดริ้วรอย ตัวช่วยคืนผิวอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องเจ็บตัว จะได้แก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด

เซรั่มลดริ้วรอย คืออะไร
เซรั่มช่วยลดริ้วรอยเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีความเข้มข้นสูง แต่มีโครงสร้างโมเลกุลเล็ก และเนื้อสัมผัสเหลวใส จึงควรนำมาใช้เสริมก่อนลงมอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อหนักอย่างครีมหรือโลชั่น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลและแก้ปัญหาผิวได้ดียิ่งขึ้น โดยเซรั่มประเภทนี้ส่วนใหญ่มักจะมีส่วนผสมของเรตินอลและสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน C, วิตามิน B3, สารสกัดจากชาเขียว ฯลฯ ช่วยปกป้องผิวไม่ให้ถูกทำร้ายจากปัจจัยภายนอก ชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแลดูสุขภาพดี กระจ่างใส ดูกระชับ ริ้วรอยร่องลึกดูจางลง

การเลือกเซรั่มให้เหมาะกับผิว
การเลือกใช้เซรั่มที่เหมาะกับสภาพผิวไม่ใช่เรื่องยาก และไม่เพียงแต่จะช่วยลดริ้วรอยได้ตรงจุดเท่านั้น แต่ยังช่วยปกป้องผิวจากปัญหาอื่น ๆ ด้วย เช่น คนผิวแห้ง หน้าจะดูโทรมและมีริ้วรอยง่าย ควรเลือกเซรั่มที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นเพื่อให้ผิวดูอิ่มฟูมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าใครที่มีสภาพผิวบอบบางแพ้ง่าย ก็ควรเลือกเซรั่มช่วยหน้าใสที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่มีพาราเบนหรือน้ำหอม โดยจะเลือกแบบมีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติร่วมด้วยหรือไม่ก็อยู่ที่ความชอบและความน่าเชื่อถือของแต่ละยี่ห้อ

เทคนิคการลงเซรั่มให้ลึกถึงชั้นผิว
1.   ลงเซรั่มหลังจากการทำความสะอาดผิวด้วยการล้างหน้าหรือเช็ดโทนเนอร์ เพราะเซรั่มมีเนื้อเหลวสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึกและรวดเร็วกว่าสกินแคร์ชนิดอื่น ๆ
2.   ใช้ในปริมาณที่พอดี ไม่มากจนเกินไป ให้ผิวดูดซึมได้อย่างพอดีจะทำให้เห็นผลไวกว่าการทาเซรั่มในปริมาณมาก ๆ ต่อครั้ง เพราะผิวอาจดูดซับเซรั่มได้ช้าและไม่มากเท่าที่ควรและอาจทำให้หน้าเหนียวเหนอะหนะเกินไปอีกด้วย
3.   ใช้การนวดคลึงเบา ๆ เพื่อให้เนื้อเซรั่มซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก

สำหรับใครที่มีปัญหาผิวหลายอย่าง จนไม่รู้จะซื้อ เซรั่มตัวไหนดี ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะมีเซรั่มที่ช่วยดูแลปัญหาผิวหลายอย่างพร้อมกัน อย่าง Estee Lauder Advanced Night Repair เป็นเซรั่มที่ดูแลทุกปัญหาครบจบในขวดเดียว ช่วยเพิ่มความกระชับ ลดเลือนริ้วรอย เติมความชุ่มชื้น ให้ผิวเปล่งปลั่งสุขภาพดี สีผิวสม่ำเสมอ ตื่นมาผิวสดชื่นเหมือนได้นอนเต็มอิ่ม และยังอ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง จึงเหมาะกับทุกสภาพผิว


ชมเพิ่มเติมที่
https://www.jeban.com/topic/362829

29
   คงไม่มีใครอยากลำบากในวัยเกษียณ การเตรียมตัวล่วงหน้าสำหรับชีวิตวัยเกษียณจึงเป็นอีกหนึ่งโจทย์ใหญ่ของชีวิตที่เราจะต้องให้ความสำคัญล่วงหน้า วันนี้เราเลยมีวิธีการวางแผนเกษียณแบบง่าย ๆ มาให้ศึกษากัน ซึ่งก็คือ ประกันสะสมทรัพย์ หรือ ประกันออมทรัพย์ ที่การันตีเงินออมในวัยเกษียณหลังจากครบสัญญากรมธรรม์

ทำไมต้องทำประกันสะสมทรัพย์
   ประกันสะสมทรัพย์หรือ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เป็นประกันเงินออม ของ SCB Protect ที่มีเป้าหมายช่วยให้คุณสามารถเก็บออมเงินก้อนการันตีเงินคืนเมื่อครบกำหนดกรมธรรม์ไปพร้อม ๆ กับการให้ความคุ้มครองชีวิต เงินที่จ่ายเบี้ยประกันไปจึงให้ความคุ้มค่าเป็นตัวเงินกลับมา ไม่เหมือนการซื้อประกันสุขภาพหรือประกันอุบัติเหตุที่หากไม่มีการเคลมประกันก็เป็นการจ่ายทิ้ง ประกันสะสมทรัพย์จึงเป็นรูปแบบ ประกันเงินออม ที่ช่วยในการออมเงินอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังสามารถนำยอดจากการจ่ายเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
   การทำ ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ จึงเหมาะกับการวางแผนการเงินเตรียมพร้อมรับวัยเกษียณเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยสร้างวินัยทางการออมให้กับเราตั้งแต่วันนี้ที่ยังพอมีกำลัง เงินที่ได้จากการลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันก็ยังสามารถนำไปลงทุนในช่องทางอื่น ๆ เพื่องอกเงยผลกำไรกลับมาได้อีกหลายทาง พอถึงวันที่ต้องเกษียณก็พร้อมรับเงินก้อนไว้ใช้จ่ายอย่างคล่องตัวในบั้นปลายชีวิต ถือเป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนในระยะยาวที่คุ้มค่า

ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ผลตอบแทนสูงจาก SCB PROTECT
   ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ Easy E-SAVE 10/5 ความคุ้มค่าจาก SCB PROTECT ที่ให้คุณจ่ายเบี้ยน้อยในระยะเวลาสั้น 5 ปี แต่ได้รับความคุ้มครองยาวถึง 10 ปี สามารถเลือกจ่ายเบี้ยประกันได้ตามกำลังตั้งแต่ 20,000 - 400,000 บาท คุ้มครองชีวิตตลอดสัญญา หากเสียชีวิตรับเงินคืน 100% ของทุนประกัน หรือค่าเบี้ยที่ชำระมาแล้วทั้งหมด หรือมูลค่าเวนคืนกรมธรรม์แล้วแต่จำนวนใดจะมากกว่า และยอดเบี้ยประกันสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท (ตามเงื่อนไขของสรรพากร)
   ไม่เพียงเท่านั้นยังให้ผลตอบแทนเงินคืนทุกปี โดยสิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1 - 5 จะได้รับเงินคืน 4% ของทุนประกัน และสิ้นปีกรมธรรม์ที่ 6 - 9 จะได้รับเงินคืน 5% ของทุนประกัน เมื่ออยู่จนครบสัญญาสิ้นปีที่ 10 รับเงินคืน 350% ของทุนประกัน การันตีเงินออมก้อนใหญ่ไว้ใช้จ่ายแบบอุ่นใจ
   
การทำ ประกันสะสมทรัพย์ เป็นทางเลือกการวางแผนการเงินยามเกษียณ ช่วยให้คุณมีเงินสำรองใช้ได้อย่างอุ่นใจ เริ่มวางแผนตั้งแต่วันนี้ชีวิตดีแฮปปี้วัยเกษียณ

30
สูตรกาแฟที่ชงตามร้านกาแฟทั่วไปแต่ละร้าน มักจะมีรสชาติที่ไม่แตกต่างกันมากเพราะมีสูตรต้นคล้าย ๆ กัน ยกเว้นบางร้านที่พิถีพิถันในการคัดเลือกเมล็ดกาแฟและวัตถุดิบที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะ สูตรกาแฟเย็น หากส่วนผสมไม่ลงตัวก็อยากที่จะได้รสชาติที่กลมกล่อมตามต้องการ สำหรับใครที่ใช้เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติก็จะได้เปรียบกว่า เพราะเตรียมส่วนผสมเพียงไม่กี่อย่างก็สามารถชง เมนูกาแฟ สูตรเด็ดประจำร้านออกมาได้แล้ว ซึ่งจะมีสูตรใดนั้นไปดูกันเลย
1.   สูตรลาเต้เย็น
สำหรับลาเต้เย็นถือเป็นตัวเลือกสุดโปรดของคอกาแฟนม โดยเฉพาะ กาแฟลาเต้ มัคคิอาโต้ หรือ Spotted Milk ซึ่งเป็นชื่อเรียก สูตรลาเต้เย็น ของชาวอิตาลี สามารถที่จะเพิ่มความหอมคาราเมลได้ตามใจชอบ ลองไปดูสูตรการชงกาแฟลาเต้เย็นกันดีกว่า
สิ่งที่ต้องเตรียม : กาแฟแคปซูล รสใดก็ได้, นมเย็น 100-120 มล., น้ำตาลและน้ำแข็งหลอดเล็ก
วิธีการชงกาแฟ : ตีฟองนมด้วยเครื่องทำฟองนม Aeroccino หรือจากเครื่องหัวฉีดไอน้ำจากเครื่องชงกาแฟ Nespresso เทนมและฟองนมลงในแก้วทีเตรียมไว้ เตรียมกาแฟแคปซูลรสชาติที่ต้องการประมาณ 40 มล. เพิ่มความหวานตามใจชอบ ปิดท้ายด้วยการเทกาแฟลงในแก้วที่ใส่นมลงไป  เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ลิ้มลองรสชาติกาแฟนมหอมกรุ่นแล้ว
2.   ICED COCOAPRESSO
สูตรกาแฟเย็น เมนูนี้นอกจากจะได้ความเข้มข้นของ Espresso แล้วยังได้ความหอม หวานจากผงช็อกโกแลตอีกด้วย เป็นหนึ่งในเมนูกาแฟเย็นที่ทำได้เองและใช้เวลาไม่นาน
สิ่งที่ต้องเตรียม : กาแฟแคปซูล รสใดก็ได้, นมเย็น 150 มล., Chocolate Powder 12g, Sweetend condensed milk 15gและน้ำแข็ง
วิธีการชงกาแฟ : เริ่มจากใส่ Chocolate Powder ลงในแก้วกาแฟ แล้วเทนมลงในแก้วกาแฟที่ใส่ Chocolate Powder อยู่ คนให้เข้ากันจนกว่า Chocolate Powder จะละลาย จากนั้นเติม Sweetend condensed milk (นมข้นหวาน) ลงในแก้ว Recipe แล้วเติมน้ำแข็ง 60 กรัม ลงไปในแก้ว ต่อมาเทนมที่ผสมกับ Chocolate Powder ลงไปในแก้ว Recipe
แล้วกดกาแฟแคปซูล Espresso ลงในแก้ว Recipe ถือเป็นอันเสร็จสิ้นการชง เมนูกาแฟ ICED COCOAPRESSO
3.   อเมริกาโน่เย็น
หลังจากที่ผ่านเมนูกาแฟนมกันไปถึง 2 เมนูแล้ว ลองเปลี่ยนมาชิมกาแฟดำเย็นกับ อเมริกาโน่เย็น หรือ Ice Americano กันบ้าง ซึ่งจะมีวิธีการชงอย่างไรนั้นไปดูกันเลย
สิ่งที่ต้องเตรียม : กาแฟแคปซูล Espresso, น้ำเปล่าและน้ำแข็ง
วิธีการชงกาแฟ : กดกาแฟแคปซูล espresso 1 shot เติมน้ำเปล่าลงในแก้วกาแฟ ขนให้เข้ากัน ขณะที่ขนควรนำแก้วลงแช่ในน้ำ เมื่อกาแฟลดระดับความร้อนลง ให้ใส่น้ำแข็งที่เตรียมไว้ เพียงเท่านี้ก็จะได้ดื่มด่ำกับกาแฟอเมริกาโน่เย็น รสเข้มข้น เย็นสดชื่นกันแล้ว

สำหรับ เมนูกาแฟ เย็น 3 แบบ 3 สไตล์ ที่คอกาแฟสามารถทำเองได้ง่าย ๆ ยิ่งถ้ามีเครื่องชงกาแฟแคปซูลติดบ้านไว้ยิ่งสบายมากกว่าเดิม เพราะมีกาแฟแคปซูลให้เลือกมากถึง 25 รส และรสชาติแบบ Limited Edition เนื่องในโอกาสต่าง ๆ ตลอดทั้งปี ทำให้คุณสนุกและดื่มด่ำไปกับรสชาติกาแฟสดแท้ได้ทั่วทุกมุมโลกกันเลย

ชมข้อมูลเพิ่มเติมที่
https://www.nespresso.com/th/th/types-of-coffee
https://www.nespresso.com/th/th/types-of-coffee
https://www.nespresso.com/th/th/types-of-coffee

31
ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลายแบรนด์ต่างมีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดอายุคงความอ่อนเยาว์ แต่หาก เซรั่มลดริ้วรอย ที่หลายคนเข้าใจว่าเหมาะสำหรับคนสูงวัยนั้น จริง ๆ แล้วสามารถเริ่มใช้ตั้งแต่อายุยังน้อย การบำรุงแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้เห็นประสิทธิภาพมากขึ้น

เซรั่มคืออะไร
เซรั่มคือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีเนื้อสัมผัสบางเบาเพราะโครงสร้างโมเลกุลของเซรั่มมีขนาดเล็กมาก แต่ความเข้มข้นสูง สามารถช่วยบำรุงปัญหาผิวที่กังวลได้ตรงจุดดีเยี่ยม

ประโยชน์ของเซรั่ม
การใช้เซรั่มให้ประโยชน์ในการฟื้นฟูปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด เซรั่มแต่ละสูตรพัฒนาจากปัญหาผิวของผู้คนทั่วโลกที่ต้องเผชิญ ด้วยการค้นคว้าวิจัยและแยกลักษณะของปัญหาพร้อมกับแบ่งประเภทของเซรั่มออกมาตามแต่ละปัญหาที่ต้องการแก้ไข ซึ่งก็พบว่าการใช้เซรั่มนั้นตอบโจทย์ได้ทุกปัญหาเลยทีเดียว

ข้อดีของการใช้เซรั่ม
-   เซรั่มมีเนื้อสัมผัสบางเบา ไม่หนักผิวหน้า ไม่ทำให้รำคาญ และไม่อุดตันผิว
-   ความเบาของเนื้อเซรั่มทำให้ซึมลึกลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว บำรุงผิวได้อย่างตรงจุด
-   สามารถใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ชนิดอื่น ๆ ช่วยเสริมประสิทธิภาพไปตามสเต็ปและขั้นตอนของการบำรุงผิว

เซรั่มมีกี่ประเภท แต่ละประเภททำหน้าที่อย่างไร
การใช้เซรั่มจะช่วยดูแลและแก้ไขปัญหาผิวเฉพาะจุด ใครมีปัญหาจุดไหนเลือกใช้ไปตามนั้น
-   เซรั่มหน้าใส ของ ELCA ลดเลือนจุดด่างดำ ปรับผิวกระจ่างใส (Skin-Brightening Serum) แก้ปัญหาความหมองคล้ำของผิวหน้า
-   เซรั่มผลัดเซลล์ผิว (Exfoliating Serum) ขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก กระตุ้นการสร้างผิวใหม่
-   เซรั่มที่ฟื้นฟูผิวแบบองค์รวม (Renewing Serum) ซ่อมแซมผิวเสีย ปรับสมดุลผิว ทำให้ผิวหน้าแข็งแรงดีขึ้น
-   เซรั่มกระชับรูขุมขน (Pore Tightening Serum) ช่วยแก้ปัญหารูขุมขนกว้าง
-   เซรั่มลดริ้วรอย (Anti-Aging Serum) ชะลอความร่วงโรย ลดปัญหาร่องลึก รอยตีนกา รอยย่นบนหน้าผาก
-   เซรั่มป้องกันสิว (Anti-Acne Serum) ลดความมันส่วนเกินและการเกิดสิวใหม่ รวมถึงช่วยลดรอยคล้ำเสียที่เกิดจากสิวอักเสบ
-   เซรั่มที่เติมความชุ่มชื้น (Hydrating Serum) ช่วยแก้ปัญหาผิวแห้ง เติมน้ำบำรุงผิวจากภายในชั้นผิวหนัง

วิธีใช้เซรั่มบำรุงผิวที่เริ่มได้ตั้งแต่วัยสาว
1.   ล้างหน้าให้สะอาด แล้วใช้โทนเนอร์ปรับสภาพผิว
2.   ทาเซรั่มในขณะที่ผิวยังชื้นอยู่ เซรั่มจะซึมลงใต้ผิวได้ดี
3.   หยดเซรั่มลงบนฝ่ามือเพียงเล็กน้อย (2 - 3 หยด) ทาลงบนผิวหน้าให้ทั่ว
4.   ตามด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงอื่น ๆ เช่น ครีม โลชั่น

เซรั่มมีการบำรุงเพื่อทุกปัญหาผิวพรรณที่เรากังวล การละเลยดูแลผิวเพราะคิดว่าอายุยังน้อยอาจทำให้คุณฟื้นฟูผิวเสียได้ไม่ทันเมื่ออายุมากขึ้น หากเลือกไม่ถูกว่าควรจะใช้ เซรั่มตัวไหนดี ของ ELCA ESTEE LAUDER คือแบรนด์ที่ขอแนะนำ เพราะครองใจสาว ๆ มาแล้วทั่วโลกด้วยความเป็นสกินแคร์ที่ช่วยแก้ไขผิวหน้าได้ตรงจุด ใช้แล้วผิวนุ่มชุ่มชื้นขึ้น ริ้วรอยต่าง ๆ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด อย่ารอช้าผิวสวยของคุณเริ่มได้ตั้งแต่วันนี้

32
   คาเฟอีน (Caffeine) ในกาแฟมีส่วนช่วยกระตุ้นให้ร่างกายและสมองเกิดความตื่นตัว ลดอาการง่วงระหว่างวันได้เป็นอย่างดี ทำให้กาแฟเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตในทุก ๆ วัย ซึ่งหนึ่งในกาแฟที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากที่สุดก็คือ “กาแฟดำ” ที่มีรสชาติเข้มข้นกว่ากาแฟทั่วไป แถมยังมีคุณประโยชน์ต่าง ๆ มากมาย ซึ่งวันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่า ประโยชน์ของกาแฟดำ นั้นมีอะไรบ้าง

1. ช่วยลดโอกาสเกิดโรคเบาหวาน
   กาแฟดำมีส่วนช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ และยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์อีกหลายชนิด เช่น วิตามินบี 2, บี3, บี5 และ แมกนีเซียม ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน โดยงานวิจัยของสหรัฐฯ ชี้ว่าการดื่มกาแฟดำแบบไม่มีคาเฟอีนช่วยลดการเกิดโรคเบาหวานได้มากกว่าการดื่มกาแฟดำแบบมีคาเฟอีนถึง 7% เลยทีเดียว

2. ช่วยให้สมองตื่นตัว กระตุ้นความจำ
   การดื่มกาแฟดำทั้งแบบคั่วบดและแบบ กาแฟแคปซูล เพียง 1 แก้ว จะทำให้ร่างกายได้รับสารคาเฟอีนราว 60 – 200 มิลลิกรัม ซึ่งจะออกฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของระบบประสาท ทำให้เรารู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และยังช่วยกระตุ้นความจำได้มากกว่าปกติอีกด้วย

3. แคลอรีต่ำ ช่วยควบคุมน้ำหนัก
   เนื่องจาก “กาแฟดำ” ใช้วิธีคั่วบดและชงโดยไม่ใส่นม น้ำตาล หรือส่วนผสมอื่น ๆ ลงไปเพิ่ม มีเพียงแค่เมล็ดกาแฟที่ถูกบดเป็นผงกับน้ำเปล่า หรืออาจจะเป็น กาแฟแคปซูล ผสมกับน้ำเปล่าเท่านั้น ทำให้มีรสชาติเข้มข้น แถมยังมีปริมาณแคลอรีค่อนข้างน้อยเพียง 2 – 5 แคลอรีเท่านั้น เมื่อเทียบกับกาแฟที่เติมส่วนผสมอื่น ๆ ยกตัวอย่าง กาแฟ + น้ำตาล 1 ช้อนชา + ครีม 1 ช้อนโต๊ะ จะมีปริมาณแคลอรีไม่ต่ำกว่า 70 แคลอรีเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้ทำให้กาแฟดำเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

4. ช่วยบำรุงตับและทำความสะอาดช่องท้อง
   กาแฟดำประโยชน์ ที่น่าทึ่งอีกอย่างที่หลายคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนก็คือมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งตับ ไวรัสตับอักเสบบี และไขมันพอกตับ โดยผลการวิจัยชี้ว่า 80% ของผู้ที่ดื่มกาแฟดำไม่ต่ำกว่าวันละ 4 แก้วในทุก ๆ วัน มีโอกาสป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับตับน้อยกว่าผู้ที่ไม่ดื่มกาแฟดำ นอกจากนี้กาแฟดำยังช่วยขับแบคทีเรียหรือสารพิษต่าง ๆ ออกจากร่างกายผ่านทางปัสสาวะอีกด้วย

5. ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
   ประโยชน์ของกาแฟดำ อย่างต่อมาก็คือ การดื่มกาแฟดำจะทำให้หัวใจเต้นเร็วและความดันโลหิตเพิ่มขึ้นชั่วระยะเวลาหนึ่ง หากดื่มวันละ 1 – 2 แก้ว จะช่วยให้หัวใจและหลอดเลือดแข็งแรง ลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดอุดตัน รวมถึงโรคเกี่ยวข้องกับหลอดเลือดสมอง

   การดื่ม กาแฟดำประโยชน์ มีมากมายหลายด้าน แต่ก็ควรดื่มควบคู่ไปกับการทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ นอกจากนี้ กากกาแฟ ที่เหลือจากการชงกาแฟยังสามารถนำไปใช้ทำอย่างอื่นได้ ประโยชน์กากกาแฟอย่างการขัดผิว นำไปใส่เป็นปุ๋ย  ใช้ดูดซับกลิ่นอับในตู้เย็นก็ยังได้

ชมรายละเอียดเพิ่ม
https://www.nespresso.com/th/th/ground-coffee

33
ใครที่เป็นนักเดินทางจะทราบดีว่าในการเดินทางแต่ละครั้งจะมีเรื่องที่ต้องเตรียมตัวมากมาย ไม่ว่าจะการจองโรงแรม ที่พัก และหาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวจุดหมายปลายทางแล้ว ในกรณีที่เดินทางด้วยเครื่องบินแบบโลว์คอสยังต้องวางแผนจองตั๋วโดยสารด้วย ซึ่งหากจองตั๋วล่วงหน้าเป็นระยะเวลานานก็มักจะได้ราคาที่ถูกลง และที่ไม่ควรมองข้ามอีกเรื่องก็คือ การทำ ประกันเดินทาง ของ SCB Protect ติดไว้เพื่อความอุ่นใจในการเดินทางเผื่อมีเหตุไม่คาดฝันด้วย

รู้จัก ประกันการเดินทางในประเทศ ตัวช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้กับนักท่องเที่ยว
ประกันการเดินทางเป็นการคุ้มครองความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว โดยมีความคุ้มครองครอบคลุมในเรื่องสุขภาพ อุบัติเหตุ ทรัพย์สิน และความเสี่ยงอื่น ๆ ในกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดระหว่างการเดินทาง เช่น การยกเลิกเที่ยวบิน เที่ยวบินล่าช้า ทรัพย์สินสูญหาย เป็นต้น โดยระยะเวลาความคุ้มครองของ ประกันเดินทาง ปกติเราจะเลือกที่วันแรกของการเดินทางจนถึงวันเดินทางกลับ

ท่องเที่ยวในประเทศควรต้องทำ ประกันเดินทางในประเทศ หรือไม่
หลายคนมักจะนึกถึงประกันเดินทางเฉพาะเมื่อต้องเดินทางต่างประเทศเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศก็ควรทำเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน ยิ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่ ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ซึ่งจะมีความกังวลใจหลายด้าน ยิ่งควรทำประกันการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไว้เพื่อเพิ่มความอุ่นใจ เพราะการ ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ยังไม่คุ้นชินกับกระบวนการและขั้นตอนต่าง ๆ อาจไม่รู้ว่าควรแก้ปัญหาอย่างไรในกรณีที่มีการยกเลิกเที่ยวบิน เที่ยวบินล่าช้า หรือสัมภาระสูญหายระหว่างการเดินทาง จนกระทบแผนที่วางไว้
แต่หากมีประกันท่องเที่ยวก็จะได้รับการคุ้มครองค่าเสียหายในกรณีดังกล่าวไว้หมด รวมถึงหากเกิดอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวจนต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลก็จะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลด้วย
ยิ่งหากเป็นประกันภัยเดินทางจาก SCB PROTECT ยิ่งมีแต้มต่อความคุ้มครองที่มากกว่า เพราะมีเงินชดเชยรายได้ระหว่างเข้ารักษาตัวในฐานะผู้ป่วย และหากเกิดเหตุไม่คาดฝันจากอุบัติเหตุทายาทจะได้รับเงินชดเชยเป็นเงินก้อนอีกด้วย การเลือกซื้อประกันภัยการเดินทางจึงเป็นหนึ่งในขั้นตอนจำเป็นสำหรับการ เตรียมตัวก่อนขึ้นเครื่องบิน 

แนะนำขั้นตอนการ เตรียมตัวก่อนขึ้นเครื่องบิน สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางในประเทศ
-   ตรวจสอบเอกสารสำคัญที่ต้องพกเอาไว้ก่อนขึ้นเครื่องบิน ได้แก่ ตั๋วเครื่องบิน บัตรประชาชน
-   หากต้องการทำประกันเดินทางก็สามารถติดต่อเคาน์เตอร์บริษัทประกันที่สนามบินหรือทำผ่านช่องทางออนไลน์ล่วงหน้าได้
-   เช็กอินสามารถทำได้ที่หน้าเคาน์เตอร์พร้อมโหลดกระเป๋าสัมภาระขึ้นเครื่องได้ทันทีหรือเช็กอินผ่านตู้อัตโนมัติที่สนามบินก็ได้ เมื่อเช็กอินเรียบร้อยจะได้บัตรขึ้นเครื่องบิน (Boarding Pass)  ซึ่งอย่าลืมตรวจสอบรายละเอียดไม่ว่าจะเวลาเครื่องออก ประตูที่จะไปยังเครื่องบิน เลขที่นั่ง และควรไปถึงจุดขึ้นเครื่องก่อนเครื่องออกไม่น้อยกว่า 20 นาที
-   การเข้าด่านตรวจสัมภาระจะต้องวางบัตรขึ้นเครื่องและสัมภาระติดตัวทั้งหมดเข้าเครื่องเอกซเรย์เพื่อตรวจสอบ ต้องระวังไม่ให้มีของเหลวที่ปริมาณมากกว่า 100 มิลลิลิตร ติดตัวขึ้นเครื่อง
-   การขึ้นเครื่องเจ้าหน้าที่ของสายการบินจะเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องตามคิว ส่วนใหญ่จะให้ผู้สูงอายุ หรือผู้โดยสารที่เดินทางพร้อมเด็กเล็กขึ้นก่อน เมื่อขึ้นไปยังเครื่องบินเรียบร้อยก็จะมีการแนะนำวิธีปฏิบัติตัวระหว่างอยู่บนเครื่องบินอีกครั้ง

สามารถชมรายละเอียดประกันเดินทางเพิ่มที่
https://online.scbprotect.co.th/travel/international

34
   ลิปสติกเป็นอีกหนึ่งไอเทมติดกระเป๋าที่ขาดไม่ได้เลยของสาว ๆ มีสีสันสดใสมากมายหลายเฉดหลายเนื้อ ตั้งแต่ ลิปแมทติดทน ของ ELCA ทาปากแล้วสวยเด่นสะดุดตา ไปจนถึงลิปกลอสใส ๆ ใช้ทาเพิ่มความชุ่มชื่น ดูสุขภาพดี จะมีลิปสติกแบบไหนบ้างและเลือกอย่างไรบ้างมาติดตามกันเลย

1.ลิปสติกเนื้อแมท (Matte Lipstick)
ลิปเนื้อแมท ของ ELCA เข้มข้น จุดเด่นคือเม็ดสีเข้มข้นจึงให้เฉดสีสดชัดติดทน ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการปกปิดริมฝีปากคล้ำ แต่มีข้อเสียคือเป็นเนื้อด้านที่ไร้ความมันวาว ทาแล้วริมฝีปากจะแห้งได้ง่าย ทำให้ตกร่องและเป็นคราบ แนะนำให้ทาลิปบาล์มบำรุงริมฝีปากก่อน หลังจากนั้นค่อยทาทับด้วยลิปแมท
2.ลิปสติกเนื้อครีม (Cream Lipstick)
ลิปสติกเนื้อครีมเนียนนุ่ม มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นเกลี่ยง่ายและไม่รู้สึกหนักผิว ช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มขึ้นมาในทันทีริมฝีปาก เมื่อทาลงไปแล้วสีสดชัดเจนและติดทนนาน 6-16 ชั่วโมง ข้อดีคือสีชัดติดทน แต่แนะนำให้ทาลิปบาล์มเพิ่มความชุ่มชื่นไว้ก่อน
3.ลิปสติกเนื้อเชียร์และซาติน (Sheer and Satin Lipstick)
เนื้อลิปบางเบาไม่หนักปาก สีสันไม่เข้มข้นชัดเจนเนื่องจากมีน้ำมันเป็นส่วนผสมค่อนข้างมาก จึงช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มและมีความมันวาว เหมาะกับการแต่งหน้าลุคธรรมชาติ ข้อเสียคือไม่ติดทนและต้องเติมลิปทุก ๆ 4-5 ชั่วโมงและอาจเลอะแมสก์ได้ง่าย 
4.ลิปสติกเนื้อชายน์ (Shine Lipstick)
ลิปสติกเนื้อนิ่มบางเบา คล้ายกับลิปเนื้อครีมแต่บางใสกว่า และคล้ายกับเนื้อฟรอสตี้แต่จะมีความมันวาวมากกว่า โดยทั่วไปมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงริมฝีปากให้อวบอิ่ม ชุ่มชื้น และเป็นเงางาม เฉดสีอ่อนเป็นธรรมชาติเหมาะกับลุคสบายๆ ดูเป็นธรรมชาติ
5. ฟรอสตี้ลิปสติก (Frosty Lipstick) เนื้อลิปสติกแบบฉ่ำวาววิบวับ เพราะมักจะผสมชิมเมอร์หรือกลิตเตอร์ลงไปด้วย เหมาะกับสาวที่มีริมฝีปากบาง ช่วยเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปาก ริมฝีปากเปล่งประกาย ทาแล้วสดใสเปล่งปลั่งมากขึ้น เหมาะสำหรับเตรียมริมฝีปากให้ชุ่มชื่นช่วยให้ทาลิปสติกติดทน เนรมิตทุกลุคให้สวยหรู
6.ลิปทินต์เเละลิปกลอส (Tint and Gloss Lipstick) เนื้อลิปเหลวบางเบาและมีความแวววาว เน้นเฉดสีสดใสใช้ทาปากดูอวบอิ่มมากขึ้น ลิปยี่ห้อไหนดี ของ ELCA ส่วนใหญ่สีติดทน เหมาะทาปากในเวลาที่สวมใส่หน้ากากอนามัย
7.ลิปบาล์ม (Balm Lipstick) เป็นเนื้อลิปสติกสีอ่อนหรือไม่มีสีเลย ช่วยบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื่น ทาแล้วริมฝีปากน่ารักใส ๆ ดูสุขภาพดี เป็นอีกไอเทมที่ต้องพกติดตัวเสมอเพื่อไม่ให้ริมฝีปากแห้งแตก
8.ลิปไลเนอร์ (Liner Lipstick) เป็นรูปแบบดินสอหรือแท่งหมุนที่ใช้เขียนขอบปากโดยเฉพาะ ช่วยให้ทาลิปสติกได้ง่าย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในเเต่ละวันได้ดียิ่งขึ้น

รู้จักลิปสติกทั้งหลายแล้วเท่านี้เราก็สามารถเลือกซื้อลิปสติกที่ถูกใจ ไม่ว่าจะแบบไหน ๆ มีเนื้อบางเบา ลิปแมทติดทน ทาแล้วไม่ติดแมส ซึ่งเป็นเทรนด์บิวตี้ที่มาแรงในยุคนี้ Lipstick จาก MAC Cosmetic มีคุณสมบัติตรงกับที่หลายคนมองหา ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นพร้อมบำรุงริมฝีปากให้เนียนนุ่ม

35
กลิ่นหอมของกาแฟสดสามารถเรียกความสดชื่นพร้อมปลุกพลังในระหว่างวันได้ดียิ่ง แต่กาแฟสดนั้นหลายคนต้องหาทางไปซื้อกับร้านกาแฟ คงจะดีหากเราสามารถชงกาแฟแก้วโปรดรสชาติถูกใจได้เท่าที่ต้องการ การมีเครื่องชงกาแฟสดไว้ที่บ้านเป็นอีกทางเลือกที่เหมาะสำหรับคอกาแฟ

ปัจจุบันมี เครื่องชงกาแฟ ให้เลือกมากมายหลายรุ่น ซึ่งแตกต่างทั้งดีไซน์ ราคา และฟังก์ชันการใช้งาน หากเป็นสายเข้มคอ กาแฟดำ ขอแนะนำ เครื่องชงกาแฟ แคปซูล Nespresso รุ่น Essenza Mini ซึ่งเป็นเครื่องชงกาแฟแคปซูลขนาดเล็กสไตล์มินิมอล ด้วยขนาดกะทัดรัดเพียง 2.3 กิโลกรัม จึงสะดวกในการจัดวางและเคลื่อนย้าย ที่สำคัญใช้งานง่ายมาก มี 2 ปุ่ม 2 โปรแกรมอัตโนมัติสำหรับทำกาแฟเอสเพรสโซ่ (Espresso) และลุงโก (Lungo) เมื่อเติมน้ำเต็มกระบอกสามารถชงเอสเพรสโซ่(40 มล.) ได้ 15 แก้ว และลุงโก (110 มล.) 5 แก้ว Nespresso Essenza Mini มีแรงดันสูง 19 บาร์ ทำความร้อนได้ภายใน 25 วินาที รับประกันเครื่องนานถึง 2 ปี มีโหมดประหยัดพลังงาน และในอนาคตหากต้องการดื่มกาแฟนมก็สามารถซื้อเครื่อง Aeroccino 3 สำหรับชงกาแฟนมเพิ่มได้

เครื่องชงกาแฟแคปซูล Nespresso รุ่น Essenza Mini ยังมีความพิเศษอีกหนึ่งอย่างนั่นคือมีเซต แคปซูลกาแฟ ที่มาพร้อมกับเครื่องเพื่อให้เราได้ลองชิมและค้นหารสชาติกาแฟที่ถูกใจมากที่สุด โดย กาแฟดำ สุดคลาสสิกอย่างเอสเพรสโซ่นั้นมีการผสมผสานทั้งรสชาติและกลิ่นที่หลากหลายซึ่งหอม เข้มข้น ลงตัว จะชงเอสเพรสโซ่ให้อร่อยไม่ต้องไปเรียนหรือหา สูตรชงกาแฟ ที่ไหนเลย เพียงแค่เลือก แคปซูลกาแฟ สูตร เอสเพรสโซ่ ที่ถูกใจคุณมากที่สุด ซึ่งเอสเพรสโซ่แบบดั้งเดิมมีดังนี้

•   Volluto กาแฟเอสเพรสโซ่ที่รสหวานกลมกล่อม มีกลิ่นผลไม้ และรสเปรี้ยวอ่อน ๆ มีความนุ่มหวานบางเบาจากอาราบิก้าบริสุทธิ์ที่ผ่านการคั่วไฟอ่อนจากอเมริกาใต้
•   Volluto Decaffeinato เป็นกาแฟไร้คาเฟอีนเอสเพรสโซ่ที่มีเนื้อกาแฟและรสชาติ เช่นเดียวกับสูตร Volluto ดั้งเดิม แต่กาแฟดีแคฟ คือนี้จะผ่านกระบวนการสกัดคาเฟอีนออก 
•   Capriccio เป็นสูตรกาแฟเอสเพรสโซ่ที่มีรสเปรี้ยวอ่อน ๆ มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์จากธัญพืช มีส่วนผสมของกาแฟอาราบิก้าจากอเมริกาใต้ บราซิล และโรบัสต้า คั่วด้วยไฟอ่อน
•   Cosi มีกลิ่นไหม้อ่อน ๆ ตามด้วยกลิ่นผลไม้อ่อน ๆ ใช้อาราบิก้าบริสุทธิ์จากแอฟริกาตะวันออก อเมริกากลางและใต้ ทำให้ได้กาแฟดำที่มีการผสมผสานอย่างลงตัว

เปิดวิธีใช้เครื่องชงกาแฟ Essenza Mini ชง 2 สูตรกาแฟดำยอดนิยม
•   เอสเพรสโซ่ เริ่มจากการเติมน้ำใส่แท็งก์ด้านหลังเครื่องแล้วเปิดระบบการทำงานของเครื่องชงกาแฟ Essenza Mini ด้วยการกดปุ่ม Espresso หรือ Lungo ก็ได้ จากนั้นนำกาแฟแคปซูลที่เลือกใส่ในช่องแคปซูลแล้วปิดฝา นำถ้วยกาแฟขนาดพอดีสำหรับใส่กาแฟเมนูเอสเพรสโซ่มาวางที่ถาดรอง กดปุ่ม Espresso อีกครั้งเพื่อเป็นการสั่งงานการชงกาแฟ เมื่อได้กาแฟครบช็อตเครื่องจะทำการหยุดจ่ายกาแฟโดยอัตโนมัติ เป็นอันเสร็จขั้นตอนการชงกาแฟเอสเพรสโซ่สุดกลมกล่อมแล้ว
•   อเมริกาโน่ วิธีการใช้เครื่องชงกาแฟ Essenza Mini เหมือนกับ สูตรชงกาแฟ เมนูเอสเพรสโซ่ทุกประการ เพียงแต่เมื่อได้กาแฟเอสเพรสโซ่ 1 ช็อตแล้วให้นำมาผสมน้ำร้อนในอัตรา 1 : 2 เพื่อเจือจางความเข้มข้นของกาแฟเอสเพรสโซ่ให้กลายมาเป็นกาแฟ อเมริกาโน่ หากต้องการความหวานสามารถเติมด้วยน้ำตาลหรือน้ำผึ้งได้

เนื่องจากเครื่องชงกาแฟสดขนาดเล็ก Essenza Mini มีฟังก์ชันการใช้งานที่เหมาะสมตอบโจทย์คอกาแฟดำ ชงง่าย สะดวก ขนามกะทัดรัดมินิมอล คุณภาพและรสชาติของกาแฟได้มาตรฐานเหมือนกันทุกแก้ว ทั้งยังมีราคาที่ย่อมเยา เป็นไอเทมที่คนชอบกาแฟดำไม่ควรพลาด


ชมเพิ่มเติมที่
https://www.nespresso.com/th/th/what-is-decaf

36
กาแฟนมที่คอกาแฟถูกใจย่อมต้องมีฟองนมบนเครื่องดื่มแก้วโปรด เพราะเป็นสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์และช่วยยกระดับความอร่อยได้มากขึ้นกว่าเดิม  Nespresso จึงจะมาแนะนำเมนู กาแฟเย็น และกาแฟร้อนที่มีฟองนมแสนอร่อยที่คุณไม่ควรพลาด

5 เมนู กาแฟเย็น และร้อน ที่มีฟองนมเพิ่มความกลมกล่อม
1.   Classic Cappuccino หากพูดถึงเมนูกาแฟยอดนิยมก็ต้องนึกถึงคาปูชิโน่ ซึ่งวิธีการทำเมนูนี้ง่ายมาก ๆ เริ่มต้นด้วยการเตรียมแคปซูลกาแฟที่ชื่นชอบสกัดป็นเอสเพรสโซ่ 40 มล. จากนั้นใส่นมลงใน เครื่องทำฟองนม ของ Nespresso Aeroccino 20 มล. กดปุ่มหนึ่งครั้งเพื่อให้ได้ฟองนมร้อน เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วเตรียมเสิร์ฟได้ โดยเทฟองนมลงไปก่อน ตามด้วยกาแฟที่ได้ ปิดท้ายด้วยฟองนมอีกหนึ่งชั้นและโรยผงโกโก้เล็กน้อยเพื่อตกแต่งให้สวยงาม
2.   Iced Vanilla Latte เมนูกาแฟสุดคลาสสิกอีกหนึ่งเมนูที่หลายคนชื่นชอบ เริ่มต้นด้วยการทำกาแฟเอสเพรสโซ่ 40 มล. เตรียมเอาไว้ จากนั้นเทนมเย็นลงในแก้วที่จะเสิร์ฟประมาณ 40 มล. ตามด้วยวานิลลาไซรัป 1 ช้อนโต๊ะ จะช่วยเพิ่มความหอมและรสชาติหวานอร่อยมากขึ้น คนส่วนผสมให้เข้ากัน ตามด้วยน้ำแข็งและกาแฟที่เตรียมไว้ ปิดท้ายด้วยฟองนมนุ่ม ๆ จาก ที่ทำฟองนม
3.   Mocha Frappe ใครที่ชอบรสชาติที่เข้มข้นของกาแฟผสมผสานกับช็อกโกแลตและฟองนมนุ่ม ๆ ต้องถูกใจเมนูนี้แน่นอน เริ่มต้นด้วยการสกัดกาแฟเอสเพรสโซ่ 40 มล. จากนั้นนำกาแฟ นมสด 40 มล. ไซรัปช็อกโกแลต 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำแข็ง 1 แก้วเสิร์ฟ มาปั่นให้เข้ากัน จากนั้นนำนมสด 20 มล. ใส่ใน เครื่องตีฟองนม Aeroccino กดปุ่มค้างเอาไว้สักครู่จนเห็นสีที่ปุ่มเป็นสีฟ้าเพื่อทำฟองนมเย็น เตรียมเสิร์ฟด้วยการเทกาแฟปั่น ตามด้วยฟองนมและโรยผงโกโก้ตกแต่งด้านบน
4.   Tokyo Matcha Latte เมนูกาแฟนมแสนอร่อยที่หารับประทานจากร้านกาแฟทั่วไปไม่ได้ เริ่มต้นด้วยการสกัด World Explorations Tokyo Vivalto Lungo 110 มล. จากนั้นผสมฟองนมชาเขียวช่วยเพิ่มความกลมกล่อมด้วยการใส่นมลงในเครื่องตีฟองนม 20 มล. ผงชาเขียว 1 ช้อนโต๊ะ กดปุ่มทำฟองนม จัดแต่งแก้วเสิร์ฟด้วยการใส่น้ำผึ้งประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ลงในแก้วตามด้วย World Explorations Tokyo Vivalto Lungo และเทฟองนมชาเขียวตามลงไป แต่งหน้าด้วยงาขาวคั่วเล็กน้อยเพื่อความสวยงาม
5.   คาราเมลมัคคิอาโต้ เมนูกาแฟหวานมันอร่อยกลมกล่อม เริ่มต้นด้วยการสกัดกาแฟเอสเพรสโซ่จากแคปซูลกาแฟที่ชอบปริมาณ 40 มล. พักเอาไว้สักครู่ จากนั้นเตรียมฟองนมกลิ่นหอมน่ารับประทานด้วยการใส่นมสดลงใน ที่ทำฟองนม 20 มล. ตามด้วยไซรัปคาราเมล 1 ช้อนโต๊ะ กดปุ่มเพื่อทำฟองนม จากนั้นเตรียมเสิร์ฟด้วยการเทกาแฟสกัดที่ได้ลงในแก้วกาแฟร้อนตามด้วยฟองนมนุ่ม ๆ

การผสมผสานฟองนมกับเมนูกาแฟแก้วโปรดทำให้รสชาติกลมกล่อมยิ่งขึ้น ดังนั้นหากอยากเพิ่มอรรถรสการดื่มกาแฟอย่าลืมเลือกซื้อเครื่องตีฟองนม Aeroccino 3 ไว้ที่บ้าน รับรองว่าคุณจะได้รับประสบการณ์ที่แสนคุ้มค่าอย่างแน่นอน ชมรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มที่ https://www.nespresso.com/th/th/aeroccino-accessories-collection

หน้า: 1 [2] 3 4 ... 7