แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - deam205

หน้า: 1 ... 1058 1059 [1060] 1061 1062 ... 1085
19063


ส่องภารกิจ ‘ดนันท์ สุภัทรพันธุ์’ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท)คนใหม่ นับตั้งแต่วันรับตำแหน่ง เมื่อ 17 พ.ค.2564 กับความท้าทายท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ที่ต้องบริหารงานให้สามารถทำงานได้แบบไม่สะดุดเพื่อบริการทั้งประชาชนและตอบสนองการทำงานกับหน่วยงานรัฐในฐานะรัฐวิสาหกิจของไทยรวมถึงโรดแมปในการบริหารงานเพื่อนำพาไปรษณีย์ไทยก้าวสู่องค์กรดิจิทัล

***ก้าวไปพร้อมกันกับพนักงานและสหภาพฯ
​แม้ว่าก่อนการเข้ารับตำแหน่งของ ‘ดนันท์ สุภัทรพันธุ์’ นั้นเขาได้รับแรงต้านจากพนักงานและสหภาพแรงงานบ้างไม่มากก็น้อยในข้อสงสัยถึงตัวผู้บริหารที่มาจากคนนอก ทั้งที่จริงแล้วเขาเองไม่ได้ข้ามห้วยมาจากที่อื่นแต่อย่างใด หากเขาเป็นผู้บริหารระดับรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดจากบริษัท กสท โทรคมนาคมจำกัด (มหาชน) ซึ่งล่าสุดได้ควบรวมกับ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)เป็นบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT จึงนับว่าเขาเป็นผู้บริหารที่อยู่ใกล้ชิดกับไปรษณีย์มานาน และไม่ใช่คนอื่นไกลแต่อย่างใด

​‘ผมกับสหภาพฯและพนักงานทำงานและมีความเข้าใจกันอย่างดี’ ดนันท์ อธิบายพร้อมกล่าวเสริมว่า มีการสื่อสารกับคนไปรษณีย์ไทยผ่านช่องทางการสื่อสารภายใน ทั้งสื่อออฟไลน์และออนไลน์อย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับนโยบายและทิศทางการดำเนินงานขององค์กร เพื่อสร้างการรับรู้ ทำความเข้าใจร่วมกันและพร้อมก้าวเดินไปพร้อมกัน

​รวมทั้งเปิดกว้างในการรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขการดำเนินงานให้เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพที่สุด มีการพูดคุยแบบ Liveสด ผ่านช่องทาง Facebook ภายใน โดยเฉพาะกับสหภาพฯนั้น มีการทำงานร่วมกันตลอดทุกหัวข้อ อาทิ ระบบงานการให้บริการ การพัฒนาระบบไอที การดูแลสวัสดิการและขวัญกำลังใจของบุคลากรโดยมีเป้าหมายเพื่อร่วมมือกันในการขับเคลื่อนงานให้มีประสิทธิภาพสนับสนุนการเติบโตก้าวหน้าของไปรษณีย์ไทย
***การบริหารความท้าทายช่วงโควิด-19 สู่ความเป็นที่ 1 



​‘ดนันท์’ ยอมรับว่าในช่วงเวลา 100 วันนับจากที่เขาได้รับตำแหน่งนั้น มีความท้าทายที่ต้องเผชิญเฉกเช่นกับองค์กรอื่นๆ นั่นคือ การบริหารงานภายใต้สถานการณ์โควิด-19 เนื่องจากไปรษณีย์ไทยเป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ดังนั้นในฐานะหน่วยงานการสื่อสารและขนส่งของชาติ จึงต้องมีแผนงานการบริหารจัดการเพื่อให้สามารถเปิดให้บริการกับลูกค้าและประชาชนได้อย่างต่อเนื่องในทุกพื้นที่ โดยไปรษณีย์ไทยมุ่งเน้นดูแลลูกค้าและสนับสนุนให้สังคมไทยได้เติบโตขึ้นได้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นปัจจุบัน จึงได้พยายามพัฒนาบริการต่างๆให้มีคุณภาพดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุมและดีที่สุดซึ่งหากทำสำเร็จ รายได้การเติบโตรวมถึงการเป็นอันดับหนึ่งในตลาดจะตามมาเอง

​ดังนั้น สิ่งที่ไปรษณีย์ไทยให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกคือความปลอดภัยของคนไปรษณีย์ เพราะนั่นคือความปลอดภัยของประชาชนผู้ใช้บริการด้วย หากที่ทำการไปรษณีย์ใดพบเจ้าหน้าที่ติดเชื้อ จะพิจารณาปิดบริการชั่วคราวตามความจำเป็นเพื่อทำความสะอาดพื้นที่ปฏิบัติงานและจัดเจ้าหน้าที่ชุดใหม่มาปฏิบัติงานแทนพร้อมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่เว้นระยะห่างแยกกันรับประทานอาหาร ห้ามจับกลุ่มคุยกันอย่างใกล้ชิด

​นอกจากนี้ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งจะให้บริการเจลล้างมือแอลกอฮอล์ เว้นระยะห่าง เคาน์เตอร์มีการทำความสะอาดจุดสัมผัสทุก 20 นาทีเจ้าหน้าที่ต้องสวมหน้ากากอนามัยและล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ตลอดเวลาระหว่างให้บริการ ศูนย์ไปรษณีย์มีการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อบนรถขนส่งและพัสดุทุกชิ้น และสำหรับผู้ใช้บริการที่ไม่ต้องการลงนามรับสิ่งของ สามารถแจ้งให้บุรุษไปรษณีย์บันทึกชื่อ-นามสกุล แทนการลงนามได้ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ

*** เปิดผลงาน 3 เดือน มุ่งบริการสังคม



สำหรับผลงาน 3 เดือนหลังเข้ารับตำแหน่งนั้นเพราะในช่วงโควิด-19 จึงได้เห็นผลงานในการช่วยเหลือสังคมเป็นหลักได้แก่ 1.การลดค่าส่ง EMSเพื่อลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการ พิกัดน้ำหนักตั้งแต่เกิน 2 กิโลกรัมขึ้นไป 2.ส่งผลไม้ราคาเหมาเพื่อลดต้นทุนให้กับเกษตรกร ส่งผลไม้สดถึงบ้านในราคาเหมาด้วยบริการ EMS เริ่มที่น้ำหนักไม่เกิน 3 กิโลกรัมในราคา 50 บาทสูงสุดได้ถึง 20 กิโลกรัม 3.การส่งเสริมให้สินค้าชุมชนและผลไม้ขายออนไลน์ เพื่อเพิ่มช่องทางการขายสินค้าออนไลน์ให้วิสาหกิจชุมชน เกษตรกร และพ่อค้าแม่ค้าทั่วไปผ่านเว็บไซต์ thailandpostmart.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ รวบรวมสินค้าเกษตรและวิสาหกิจชุมชนที่ใหญ่ที่สุด มีสินค้ามากกว่า 17,000 รายการจากทุกภูมิภาคมีผู้ประกอบการกว่า 6,500 รายที่เข้าร่วมขายสินค้า

​4. การสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมของสินค้าและบริการโดยร่วมกับ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย(วว.) ยกระดับคุณภาพบรรจุภัณฑ์ตอบโจทย์ยุคโควิด-19 ลดความเสี่ยงในการเกิดความเสื่อมสภาพของสิ่งของที่บรรจุอยู่ภายในด้วยราคาที่คุ้มค่า คุ้มต้นทุน ช่วยให้ธุรกิจของผู้ประกอบการSMEs ร้านค้าออนไลน์ได้เติบโตขึ้น 5.การผนึกกับ Amazon เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าไทยในตลาดต่างประเทศ ผ่านโครงการ ‘เคียงคู่ผู้ลงมือทำ 2021’เพื่อส่งเสริมศักยภาพให้กับผู้ประกอบการทุกธุรกิจ โดยนำความแข็งแกร่งด้านการขนส่งระดับชาติ มาผนึกกำลังกับแพลตฟอร์มการซื้อขายระดับโลกที่พร้อมช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยอย่างAmazon Global Selling Thailand เริ่มต้นจากกิจกรรมการสัมมนาในหัวข้อ ‘Made in Thailand สร้างแบรนด์ไทย ส่งไกล ทั่วโลก’ เพื่อเพิ่มทักษะให้ผู้ประกอบการธุรกิจอีคอมเมิร์ซให้สามารถเติบโตได้ในระดับโลกมากขึ้น และเตรียมขยายกิจกรรมเพิ่มเติมอื่นๆ ในระยะยาวต่อไป

​6.การต่อยอดธุรกิจด้วยเครือข่ายให้บริการที่เข้าถึงทุกครัวเรือน ร่วมกับบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน)หรือ AIS ในการเพิ่มช่องทางให้บริการและอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเติมเงินได้ถึงหน้าบ้านผ่านเครือข่ายบุรุษไปรษณีย์ เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือออกไปในพื้นที่ชุมชนได้และ 7.การร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงหน่วยงานด้านสาธารณสุขในการช่วยเหลือสังคม จัดตั้ง ‘ศูนย์พักคอย’ รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่เขตหลักสี่กรุงเทพมหานครเพื่อลดวิกฤตเตียงขาดแคลนจากปัญหาผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นจนโรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนามไม่สามารถรองรับได้ทัน อีกทั้งยังสนับสนุนการขนส่งสิ่งของจำเป็นทางการแพทย์ให้กับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง

***กะเทาะโรดแมปการทำงานกจญ.คนใหม่



​ส่วนโรดแมปหรือแผนการทำงานของกจญ.คนใหม่นี้ ‘ดนันท์’ เล่าว่า จะเน้นการนำไปรษณีย์ไทยไปสู่รูปแบบดิจิทัล(Tech Post)โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้งานให้มากขึ้นซึ่งจะสามารถลดเวลาของงานที่ไม่จำเป็นออกไปได้ระบบไอทีจะช่วยสนับสนุนการทำงานต่างๆ เพื่อรวมรวมข้อมูลสำหรับใช้ในการศึกษา พัฒนา และสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าประทับใจ มีการบอกต่อในทางที่ดี ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีกับองค์กรต่อไป

​สิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนไปรษณีย์ไทยคือ การยึดหลัก Customer Centric หมายถึงความเข้าใจลูกค้า พัฒนาการให้บริการช่องทางและสินค้าต่างๆ เพื่อให้ทราบถึงความต้องการและพฤติกรรมการใช้บริการของผู้บริโภคเป็นสำคัญอีกทั้งยังต้องรักษาคุณภาพบริการให้ดีอย่างสม่ำเสมอ หากสามารถส่งมอบบริการที่ดีได้จะทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ เกิดการใช้ซ้ำและบอกต่อบริการของไปรษณีย์ไทย

​นอกจากนี้ไปรษณีย์ไทยได้เตรียมความพร้อมในการเปลี่ยนแปลงช่องทางการส่งเอกสารที่สะดวกรวดเร็วซึ่งจะมาทดแทนการใช้บริการไปรษณีย์แบบดั้งเดิมจาก Physical mail ไปสู่ Digital Mail โดยมีการพัฒนาระบบ TDH (Total Document Handling - TDH) โดยไปรษณีย์ไทยจะเป็นตัวกลางในการรับ-ส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างภาครัฐ ภาคธุรกิจและภาคประชาชนที่เป็นมาตรฐานมีระบบพิสูจน์ยืนยันตัวตน เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นอีเมลตัวจริงและสามารถกำหนดที่อยู่ที่ต้องการให้จัดส่งเอกสารได้

​รวมถึงการให้บริการ Pick-up service อำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ต้องการส่งสิ่งของโดยไปรับถึงบ้านผ่านทางไลน์ออฟฟิเชียล@ThailandPostโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขณะเดียวกันก็ยังมีการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ thailandpostmart อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มช่องทางการขายสินค้าออนไลน์ให้วิสาหกิจชุมชนและเกษตรกร และแผนงานอีกชิ้นที่สำคัญคือการบริหารคลังสินค้าให้ครบวงจรตั้งแต่การรับคำสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ การจัดเก็บสินค้าในคลังสินค้า การหยิบและแพ็กสินค้า การจัดส่งและเก็บเงินปลายทาง(COD)ซึ่งลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซ ปัจจุบันได้เปิดคลังสินค้าครบวงจรในพื้นที่ภูมิภาคแล้ว 2 แห่งในพื้นที่อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และราชบุรีโดยมีแผนจะเปิดให้ครบทั้ง7แห่งภายในปี 2564

***จับมือเอกชนตั้งบริษัทรุกขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิ

​อีกแผนงานหนึ่งที่สำคัญคือการหาพันธมิตรเพื่อมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งได้เริ่มต้นดำเนินการแล้วคือการลงนามร่วมกับ บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด(มหาชน)และบริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส จำกัดเปิดบริการ ‘ฟิ้วซ์โพสต์’ (FUZE POST) เพื่อรุกธุรกิจขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิแบบด่วน (Cold Chain Express) ซึ่งตลาดนี้มีมูลค่าตลาดในปี2564 ประมาณ 34,000 ล้านบาทเติบโตปีละ 8% หรือคิดเป็นสัดส่วน 5% ของตลาดโลจิสติกส์ทั้งหมดและคาดการณ์ว่าการเติบโตของธุรกิจขนส่งรูปแบบนี้จะมีการเติบโตถึง 8-10% ในปี 2565จึงนับเป็นตลาดที่น่าสนใจไม่น้อย

​สำหรับบริการนี้พร้อมให้บริการ 1 ก.ย. 2564 โดยในระยะแรกจะเน้นให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑลและ 6 เส้นทางภูมิภาคคือ หนองคาย เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ตราด และบางละมุงเป็นหลักก่อนเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้ารูปแบบ B2B B2CและC2C ที่เป็นกลุ่มลูกค้าเดิมของทั้ง 3 บริษัทอยู่แล้วสำหรับลูกค้าใหม่จะเน้นการให้บริการแบบ Direct Pick-up เป็นหลักโดยเรียกใช้บริการผ่าน www.fuzepost.co.th และมีแผนจะเปิดให้บริการจุดรับฝาก (Drop off) ขยายเส้นทางขนส่งระหว่างภูมิภาคในเดือนมกราคม 2565 ด้วยการทำงานในรูปแบบบริษัทร่วมทุนกันของทั้ง 3 บริษัทในสัดส่วนถือหุ้นเท่าๆกันซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างแผนธุรกิจจึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ โดยเป้าหมายสำคัญในการทำงานร่วมกันนอกจากการรุกตลาดในประเทศไทยแล้วก็จะรุกตลาดประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคนี้ด้วย

19066


แคสเปอร์สกี้ เผยข้อมูลที่น่าสนใจ พบว่า มีภัยไซเบอร์ผ่านเว็บที่คุกคามคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ในประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว ทั้งสิ้น 20,598,223 รายการ หรือคิดเป็นผู้ใช้จำนวน 28.4% ที่เกือบโดนโจมตีโดยภัยคุกคามผ่านเว็บ

เซียง เทียง โยว ผู้จัดการทั่วไป ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แคสเปอร์สกี้ ยักษ์ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสสัญชาติรัสเซีย กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เปิดช่องให้อาชญากรไซเบอร์แฝงตัวเข้ามาหาผลประโยชน์ โรคระบาดใหญ่ทำให้เส้นแบ่งระหว่างการป้องกันองค์กรและการรักษาความปลอดภัยภายในบ้านเริ่มไม่ชัดเจน ทั้งจากการทำงานระยะไกล เรียนออนไลน์ รวมถึงการสร้างดิจิทัลในทุกภาคส่วน

ขณะที่ ข้อมูลของ แคสเปอร์สกี้ ซิเคียวริตี้ เน็ตเวิร์ค ไตรมาสที่ 2 ปี 2564 ตรวจพบภัยคุกคามไซเบอร์ที่เกิดจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยจำนวน 7,491,671 รายการ สูงกว่าไตรมาสแรก 42.34% โดยรวมแล้ว ผู้ใช้ไทยจำนวน 20.7% หรือ 1 ใน 5 เกือบถูกโจมตีจากภัยคุกคามในช่วงเวลาดังกล่าว โดยไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 84 ของโลก

ภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ตทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้ใช้ และระบบคอมพิวเตอร์ทางออนไลน์ ขอบเขตของภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ตอย่างกว้างๆ นั้น รวมถึงภัยคุกคามที่เป็นที่รู้จักคุ้นเคย อย่างฟิชชิ่ง และไวรัสคอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ตาม ภัยคุกคามทางเว็บไม่ได้จำกัดอยู่แค่กิจกรรมออนไลน์ แต่อินเทอร์เน็ตก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในบางขั้นตอน

เปิด 5 อันดับการโจมตีผ่านเว็บสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวม "ไทย" มีดังนี้

ADVERTISEMENT


1.มัลแวร์จากเว็บทราฟฟิก มักพบขณะกำลังใช้งานเว็บที่ติดเชื้อหรือโฆษณาออนไลน์ต่างๆ

2.การดาวน์โหลดโปรแกรมหรือไฟล์บางชนิดจากอินเทอร์เน็ตโดยไม่ตั้งใจ

3.การดาวน์โหลดไฟล์แนบอันตรายจากบริการอีเมลออนไลน์

4.การใช้ส่วนขยายของเบราเซอร์ (browser extensions)

5.การดาวน์โหลดส่วนประกอบต่างๆ การสื่อสารทางไซเบอร์ (C&C) ที่ดำเนินการโดยมัลแวร์

คริส คอนเนลล์ กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แคสเปอร์สกี้ เผยรายงานฉบับล่าสุดเรื่อง “Mobile Malware Evolution 2020” แสดงการตรวจจับมัลแวร์บนอุปกรณ์โมบาย โดยพบว่าประเทศไทยมีจำนวน 28,861 ครั้งในปี 2563 อยู่ในอันดับที่ 44 ของโลก และอันดับ 5 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สำหรับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกัน อินโดนีเซียครองอันดับ 4 ของโลก จำนวน 378,973 ครั้ง และครองอันดับสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามมาด้วยมาเลเซีย 103,573 ครั้ง อันดับที่ 17 ฟิลิปปินส์ 55,622 ครั้ง อันดับที่ 30 เวียดนาม 29,399 ครั้ง อันดับที่ 43 และสิงคโปร์ 8,776 ครั้ง อันดับที่ 86


ภัยคุกคามทางมือถือที่พบบ่อยที่สุด 3 รายการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีดังนี้

• Trojan – โทรจันคือโปรแกรมที่เป็นอันตรายซึ่งดำเนินการโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ใช้ โทรจันจะลบ บล็อก แก้ไข คัดลอกข้อมูล และขัดขวางประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์หรือเน็ตเวิร์กคอมพิวเตอร์

• Trojan-Downloader – ดาวน์โหลดและติดตั้งเวอร์ชันใหม่ของโปรแกรมที่เป็นอันตราย รวมทั้งโทรจันและ AdWare บนคอมพิวเตอร์ของเหยื่อ เมื่อดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ตแล้ว โปรแกรมจะเปิดทำงานหรือรวมอยู่ในรายการโปรแกรมที่จะทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อระบบปฏิบัติการเริ่มทำงาน

• Trojan-Dropper – โปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อแอบติดตั้งโปรแกรมที่เป็นอันตรายซึ่งสร้างไว้ในรหัสไปยังคอมพิวเตอร์ของเหยื่อ โปรแกรมที่เป็นอันตรายประเภทนี้มักจะบันทึกไฟล์ช่วงหนึ่งไปยังไดรฟ์ของเหยื่อ และเปิดใช้งานโดยไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ (หรือการแจ้งเตือนปลอมเกี่ยวกับข้อผิดพลาดในการเก็บ เวอร์ชันระบบปฏิบัติการที่ล้าสมัย ฯลฯ)

เปิดเคล็ดลับ เวิร์คฟรอมโฮม แบบไม่ต้องเสี่ยง

1.ใช้ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยอินเทอร์เน็ตที่บ้าน ซึ่งจะเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานจากระยะไกลอัตโนมัติ

2. ไม่ให้สมาชิกในครอบครัวใช้อุปกรณ์ของบริษัท การทำงานจากที่บ้านหมายความว่า คอมพิวเตอร์ของบริษัทมีแนวโน้มที่จะถูกใช้งานโดยเด็กๆ และสมาชิกในครอบครัวของพนักงาน

3.ใช้ฝาปิดเว็บแคมแบบเลื่อนได้ ผู้โจมตีที่เชี่ยวชาญสามารถเข้าถึงเว็บแคมได้ง่ายดาย โดยไม่ต้องได้รับอนุญาต

4. ถ้าต้องใช้ VPN การรักษาความปลอดภัย VPN สามารถปรับปรุงได้โดยใช้วิธีการยืนยันตัวตนที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

5.ใช้โซลูชันการจัดเก็บข้อมูลแบบรวมศูนย์

6. รักษาความปลอดภัยไวไฟที่บ้าน สร้างรหัสผ่านที่คาดเดายาก

7. ระมัดระวังการประชุมทางวิดีโอ แนะนำให้ตรวจสอบว่าการประชุมเป็นแบบส่วนตัว โดยกำหนดให้ใช้รหัสผ่านเพื่อเข้าประชุม

8. ใช้รหัสผ่านที่รัดกุมและปลอดภัย

9. ปกป้องบัญชีธนาคารออนไลน์

10. ระวังอีเมลหลอกลวงและความปลอดภัยของอีเมล

11. สร้างความตระหนักเรื่องความปลอดภัยไซเบอร์มากขึ้น 

ขณะที่ FortiGuard Labs อีกค่ายหนึ่ง รายงานภัยคุกคามครึ่งแรกของปี 2021 พบแรนซัมแวร์เพิ่มขึ้น 10 เท่า และเชื่อว่า การผนึกกำลังของภาครัฐและเอกชนส่งให้สามารถหยุดยั้งภัยคุกคามที่ห่วงโซ่อุปทานของอาชญากรรมไซเบอร์ได้ 

เดอริค มันคี Chief, Security Insights & Global Threat Alliances ที่ฟอร์ติการ์ดแล็บส์ เผยข้อมูลภัยคุกคามประจำช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 นี้ว่า เห็นการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีประสิทธิภาพและทำลายล้างเพิ่มขึ้นซึ่งส่งผลกระทบต่อองค์กรหลายพันแห่งในครั้งเดียว นับเป็นการเปลี่ยนแปลที่สำคัญในสงครามกับอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต ตอนนี้ ทุกฝ่ายมีบทบาทสำคัญที่ทำให้ในกระบวนการคุกคามทำลายล้าง ที่เรียกว่า Killing chain แข็งแกร่งมากกว่าที่เคยเป็นมา 

ความร้ายกาจของภัยไซเบอร์ ยุค New Normal : 
• Ransomware หวังมากกว่าเงิน: ข้อมูลจากฟอร์ติการ์ดแล็บส์แสดงให้เห็นว่าค่าเฉลี่ยของกิจกรรมภัยแรนซัมแวร์ประจำสัปดาห์ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาสูงกว่าช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาถึง 10 เท่า แสดงให้เห็นถึงแรนซัมแวร์ยังคุกคามเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอโดยรวมในช่วง 1 ปี 

• ทั้งนี้ แรนซัมแวร์ ส่งผลกระทบที่ห่วงโซ่อุปทานของหลายองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมสำคัญอย่างยิ่ง และส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ผลผลิตและการค้ามากกว่าที่เคยเป็นมา ทั้งนี้ องค์กรในภาคโทรคมนาคมตกเป็นเป้าหมายสูงสุด รองลงมาคือภาครัฐ ผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยที่มีการจัดการ ยานยนต์ และภาคการผลิต 

การเติบโตของการตรวจพบแรนซัมแวร์ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา (กรกฎาคม 2563 – มิถุนายน 2564)
• พบมัลแวร์ถึง 1 ใน 4 องค์กร: การจัดอันดับการตรวจจับมัลแวร์ตามกลุ่มแสดงให้เห็นว่า มีมัลแวร์ประเภททางวิศวกรรมโซเชียลหลอกลวงมากขึ้น ได้แก่ Malvertising (การใช้โฆษณาบนโลกออนไลน์เพื่อแพร่กระจายมัลแวร์) และ Scareware (สแกร์แวร์เป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้น เพื่อทำให้ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์เข้าใจว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ของตัวเองมีไวรัส และหลงเชื่อให้ข้อมูลบัตรเครดิต ซื้อหรือดาวน์โหลดซอฟต์แวร์) มากเพิ่มขึ้น 

• องค์กรมากกว่าหนึ่งในสี่ตรวจพบตระกูล Cryxos ชื่อดังสะท้อนถึงความพยายามคุกคามของมัลแวร์หรือสแกร์แวร์ แม้ว่าพบมัลแวร์จำนวนมากที่รวมกับแคมเปญ JavaScript อื่นๆ ที่คล้ายกันซึ่งยังคงต้องถือว่าเป็นมัลแวร์ ซึ่งเกิดขึ้นมากจากผลของ WFH แบบผสมผสาน เนื่องจากผู้ประสงค์ร้ายพยายามใช้ประโยชน์จากการสร้างความหวาดกลัวของเหยื่อ รวมถึงการกรรโชกด้วย 

• ดังนั้น การรับรู้เรื่องความปลอดภัยไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงการจัดหาการฝึกอบรมและการศึกษาอย่างทันท่วงที เพื่อช่วยหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของกลวิธีหลอกลวงของ Malvertising และ Scareware

19067
ต้องการถมดิน ถมที่ นึกถึงเรา เริ่มที่เราจบที่เรา ไม่ใช่นายหน้า ติดต่อ 080-022-3804
รับทุกขนาดพื้นที่ ฟรีตรวจสอบพื้นที่ประมาณ ราคา

19069


สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดแพร่ เตรียมจัดงานแสดงผลงานผลิตภัณฑ์ต้นแบบการแปรรูปเศษวัสดุเหลือใช้ ในโครงการเพิ่มผลิตภาพกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ไม้สัก ให้ได้มาตรฐานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Production) ภายใต้โครงการเพิ่มมูลค่าเฟอร์นิเจอร์ และผลิตภัณฑ์ไม้สักด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ในวันที่ 6 กันยายน 2564 โรงแรมแพร่นครา อ.เมือง จ.แพร่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตให้มีคุณภาพ ปรับกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยกระดับอุตสาหกรรมในครัวเรือน และกลุ่มผู้ผลิตชุมชนให้มีศักยภาพในการแข่งขันมากยิ่งขึ้น พร้อมกับแปรรูปรูปเศษวัสดุให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม

ภายในงานพบกับการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ต้นแบบไม้สัก จากการแปรรูปเศษวัสดุเหลือใช้ที่ผู้ประกอบการในจังหวัดแพร่นำมาพัฒนา จำนวน 15 สถานประกอบการ จากการผ่านเข้าร่วมการอบรมเชิงลึกในการแปรูรูปเศษวัสดุเหลือใช้ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีมูลค่าเพิ่มตลอดระยะเวลากว่า 5 เดือน โดยสามารถติดตามข่าวสารการจัดงานและรายละเอียดการดำเนินกิจกรรมดังกล่าวได้ที่  https://www.facebook.com/Industry.Phrae/ และ http://old.industry.go.th/phrae/

19070
เช่ารถถูกสะอาดปลอดภัย 600ต่อวัน นนทบุรี โทร 083-7124115

19071


กรมการพัฒนาชุมชน โดยสำนักงานส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น และ วิสาหกิจชุมชน เตรียมจัดงานท่องเที่ยวยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกออนไลน์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เนรมิตแหล่งท่องเที่ยวอารยธรรมเก่าแก่ของประเทศไทย ให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสบนโลกเสมือนจริงแบบ “Virtual Tour” ระหว่างวันที่ 11-19 กันยายน ศกนี้ พร้อมชอปดีลท่องเที่ยวสุดพิเศษ และลุ้นรับรางวัลใหญ่ตลอดการเข้าร่วมชมงาน มุ่งกระตุ้นการท่องเที่ยวชุมชนให้กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังวิกฤตโควิด-19

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กรมการพัฒนาชุมชน โดยสำนักงานส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น และ วิสาหกิจชุมชน ได้จัดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน OTOP นวัตวิถี (9 เส้นทาง 9 ตำบลมรดกวัฒนธรรมท่องเที่ยววิถีไทย) ครั้งนี้ขึ้นภายใต้แนวคิด “เที่ยวชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีทั่วไทย” ซึ่งได้เนรมิตรูปแบบการท่องเที่ยวเสมือนจริง (Virtual Tour) ที่ง่ายเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ทั้ง ชม ชิล ช้อป แชร์ รวมถึงยังได้สัมผัสถึงเสน่ห์ของวิถีชุมชนทั้ง 9 เส้นทางตำนานมรดกวัฒนธรรม

สำหรับความโดดเด่นของงานครั้งนี้ อยู่ที่การนำเอาวัฒนธรรมทั้ง 9 อารยธรรมบนผืนแผ่นดิน มาสร้างอัตลักษณ์ให้กับการท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งได้แก่ อารยธรรมบ้านเชียง, อารยธรรมทวารวดี, อารยธรรมศรีโคตรบูรณ์-ล้านช้าง, อารยธรรมลพบุรี, อารยธรรมศรีวิชัย, อารยธรรมล้านนา, อารยธรรมสุโขทัย, อารยธรรมอยุธยา, และ อารยุธรรมธนบุรี-รัตนโกสินทร์ ซึ่งแต่ละอารยธรรม ต่างมีความโดดเด่นด้านวิถีชีวิต ตามภูมิภาคและ กาลเวลา รวมถึงยังปรากฏร่องรอยวัฒนธรรมและการสืบสานวัฒนธรรมมาอย่างต่อเนื่อง มาพัฒนาเป็นรูปแบบ Virtual Tour เสมือนจริงบนโลกออนไลน์ ตลอดจนกิจกรรมต่างๆที่ผู้ร่วมงานจะได้สัมผัสเสมือนไปท่องเที่ยวด้วยตัวเอง อาทิ จุดถ่ายรูปเชคอิน กิจกรรม Workshop เป็นต้น ซึ่งการเก็บประสบการณ์ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ หรือ New Normal นี้จะสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ร่วมงานอย่างแน่นอน

นักท่องเที่ยวและผู้สนใจ สามารถติดตามรายละเอียดและร่วมงานได้ที่ www.virtualotoptour.com ระหว่างวันที่ 11-19 กันยายน 2564 ตั้งแต่ 09.00-21.00 น. ซึ่งนอกจากจะได้เพลิดเพลินกับการเที่ยวชุมชนท่องเที่ยว OTOP ทั้ง 9 เส้นทางแล้ว ผู้เข้าชมยังมีสิทธิ์ลุ้นรับ “สร้อยคอทองคำ” จำนวน 3 เส้นต่อวัน และลุ้นรับรางวัลใหญ่ “ทองคำแท่งหนัก 1 บาท” อีกด้วย

19073


ทุกๆ วัน มีคนตาย ทั้งจากโรคภัยไข้เจ็บ อุบัติเหตุ การฆ่าตัวตาย ตลอดจนการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เพิ่มอัตราการตายของคนไทยหลักร้อยรายต่อวัน ธุรกิจบริการหลังความตายจึงเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ถูกจับตามองว่าโตฝ่าทุกกระแสเสมอมา โดยเฉพาะในห้วงวิกฤตโรคระบาดที่คร่าชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก

ตามสถิติของศูนย์ข้อมูลโควิด-19 รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมของประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 2 ก.ย. 2564 พบจํานวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ เพิ่มขึ้น 14,956 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 262 คน ทั้งนี้ มีผู้ติดเชื้อสะสมนับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดเมื่อต้นปี 2563 มีจำนวน 1,234,487 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 12,103 คน ประเทศไทยมีจำนวนผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมอยู่ในอันดับที่ 29 ของโลก

เสียงสะท้อนจาก  “สุริยาหีบศพ”  ผู้ดำเนินธุรกิจความตายครบวงจรอันดับต้นๆ ประเทศไทย เผยว่าหลังประเทศไทยเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระบุว่า ยอดขายโลงพุ่งสูงขึ้น 3 เท่า จากเดิมยอดสั่งซื้อประมาณ 100 โลงต่อเดือน ปัจจุบันเพิ่มขึ้นกว่า 300 โลงต่อเดือน ราคาโลงศพขายดียู่ที่ 1,500 บาท ถึง 2,000 บาท ฟังแล้วเหมือนทำธุรกิจหลังความตายฟันกำไรฝ่าวิกฤตโควิด แต่ในความเป็นจริงแม้สั่งซื้อโลงศพจะเพิ่มมากขึ้นแต่ว่ารายรับน้อยลง

สืบเนื่องมาจากผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ไม่ว่าจะรวยหรือจนหากเป็นศพติดเชื้อโควิด-19 จะไม่สามารถตั้งศพดำเนินการตามประเพณี ไม่มีการตั้งศพสวดพระอภิธรรมที่วัดจะทำการเผาเลยในวันนั้น ทำให้ไม่มีการดำเนินการตามประเพณีต่างๆ เช่น การตั้งดอกไม้หน้าศพ การสั่งซื้อสิ่งของเกี่ยวกับพิธีศพ ฯลฯ ซึ่งรายได้ที่หายไปในส่วนนี้คิดเป็นเงินจำนวนไม่น้อย แม้จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการสั่งซื้อโลงศพก็ตาม

ทั้งนี้ ธุรกิจหลังความตายครบวงจรของสุริยาหีบศพ โกยสร้างรายได้ 100 ล้านต่อปี ในส่วนของโลงศพมีรูปแบบให้เลือกหลากหลาย แบ่งเป็น 4 ประเภทใหญ่ ราคาตั้งแต่หลักไปไต่ระดับไปจนถึงหลักแสน 1. แบบธรรมดา หีบไม้พาร์ติเกิล 2. แบบปานกลาง หีบไม้ MDF 3. หีบราคาสูง หีบไม้สัก คุณภาพสูง 4. หีบสั่งทำพิเศษ

 นางริญญารัตน์ สุริยเสนีย์  กรรมการผู้จัดการสุริยาหีบศพ เปิดเผยว่าเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19พรากชีวิตคนไทยไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ยอดจำหน่ายโลงศพทุกสาขาของสุริยาหีบศ เพิ่มขึ้น

“รายได้จากหีบเพิ่มขึ้น แต่ว่ามากมั้ยก็ไม่ได้มากไป ส่วนใหญ่เฉลี่ยหีบก็ไม่ได้เป็นราคาที่สูงค่ะ ถ้าเป็นเคสโควิด สตาร์ทเริ่มต้นเป็นหีบไม่มีลวดลาย มีลายนิดนึง ไปจนถึงฐาน 2 ชั้น ที่จะสามารถเข้าเตาได้เลย แต่ถ้าญาติบางเคส อยากจะได้หีบที่สวยขึ้น โลงนึงก็ประมาณพันกว่าบาทถึงหลักหมื่นก็มีค่ะ แล้วแต่ความสวยงามของหีบ ถ้าญาติพอมีกำลังซื้อ เขาก็จะซื้อในส่วนของที่ไม่แพงมาก เป็นเพราะพิษเศรษฐกิจ พอประหยัดอะไรได้ก็ประหยัด

“...กำลังทรัพย์ของญาติบางคนก็บอกว่าเขาตกงาน ไม่มีเงินที่พอจะช่วยได้ เราก็พูดตรงๆ ถ้าไม่มีเลยเราสามารถช่วยให้ได้หมด จนกระทั่งหาวัดเผาให้ฟรีได้ โควิดบางเคสเราก็บริจาคให้นะคะ เคสไหนไม่มี เราก็ช่วยทั้งหมด เรื่องหีบศพ เรื่องรถบริการ อุปกรณ์ต่างๆ แล้วเราก็ติดต่อที่วัดให้ ก็จะมีบางวัดที่เขาเผาให้ฟรีได้ ญาติก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลย” นางริญญารัตน์ สุริยเสนีย์ กรรมการผู้จัดการสุริยาหีบศพ เปิดเผย

กล่าวได้ว่าธุรกิจบริการหลังความตายได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน แต่อาจไม่มากเท่าธุรกิจอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม งานศพในยุคโควิด-19 ดำเนินไปตามวิถี New Normal จำเป็นต้องมีการเว้นระยะห่างทางสังคม สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดข้อจำกัดเรื่องการเดินทางไปแสดงความอาลัยผู้เสียชีวิตเป็นครั้งสุดท้ายด้วยตัวเอง ยิ่งไปว่านั้นเคสเสียชีวิตจากติดเชื้อโควิด-19 วัดงดสวดพระอภิธรรมส่งศพขึ้นเมรุเผาทันที ส่วนผู้เสียชีวิตจากสาเหตุอื่นๆ ยังมีการจัดพิธีกรรมธรรมเนียมไทยแบบกระชับขึ้น

ธุรกิจพวงหรีดเป็นอีกหนึ่งบริการหลังความตายที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ เพราะการส่งพวงหรีดกลายเป็นสัญลักษณ์แสดงความอาลัย กล่าวได้ว่าที่ใดมีงานศพที่นั่นต้องมีพวงหรีด

สำหรับรูปแบบของพวงหรีดมีความแตกจากไปจากเดิม จากนิยมส่งพวงหรีดดอกไม้สดก็มีปรับเปลี่ยนตามยุคสมัยเป็นทางเลือกใหม่ๆ ต่อยอดพวงหรีดไอเดียใหม่ๆ พวงหรีดพัดลม พวงหรีดผ้าห่ม พวงหรีดโต๊ะ-เก้าอี้ พวงหรีดนาฬิกา พวงหรีดจักรยาน พวงหรีดต้นไม้ หรือ ล่าสุด พวงหรีดหน้ากากอนามัย พวงหรีด ATK ฯลฯ

เรียกได้ว่าธุรกิจพวงหรีดมีการต่อยอดไอเดียตลอดเวลา ที่นิยมตลอดกาลคือพวงหลีกดอกไม้ราคาหลักร้อยไต่ระดับไปจนถึงหลักหมื่น ซึ่งในปัจจุบันพวงหรีดรูปแบบใหม่ๆ ได้รับความสนใจในการแสดงความอาลัยมากขึ้นเรื่อยๆ

อาทิ พวงหรีดกระดาษรีไซเคิล by Carenation พวงหรีดกระดาษสะพานบุญ จุดขายชูทางเลือกที่มอบสิ่งดีๆ คืนให้สังคม ทั้งการเลือกใช้วัสดุที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และจากบริจาคเงินแก่องค์กรการกุศล โดยพวงหรีดแต่ละราคาจะกำหนดยอดหักเงินนำไปบริจาคไว้แล้ว อาทิ 1,500 บาท บริจาค 300 (20%), 2,000.00 บริจาค 500 (25%), 2,500.00 บริจาค 750 (30%), 3,000.00 บริจาค 1,050 (35%), ลฤก (ระลึก) พวงหรีดเสื่อผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล 100% สำหรับไว้อาลัยต่อผู้ล่วงลับ ช่วยสร้างบุญ พร้อมลดขยะในงานศพเพื่อเป็นการระลึกถึงคนที่จากไป เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อวัดสวดอภิธรรมศพน้อยลง ปฏิเสธไม้ได้ว่าธุรกิจพววงหรีดได้รับผลกระทบกันอย่างถ้วนทั่ว

อัตราการเสียชีวิตของคนไทยที่เพิ่มมากขึ้น แม้ดูจะเป็นโอกาสทางธุรกิจของกลุ่มธุรกิจบริการหลังตาย แต่ในความเป็นจริงอาจไม่เช่นนั้น

ภาพประกอบจาก สุริยาหีบศพ 2499 – พรานนก

19078
ต้องการถมดิน ถมที่ นึกถึงเรา เริ่มที่เราจบที่เรา ไม่ใช่นายหน้า ติดต่อ 080-022-3804
รับทุกขนาดพื้นที่ ฟรีตรวจสอบพื้นที่ประมาณ ราคา

หน้า: 1 ... 1058 1059 [1060] 1061 1062 ... 1085