ขอขึ้นต้นว่า "ระวังเล่นเครื่องเสียงวนอยู่ในอ่าง"

...เครื่องเสียงดีๆ ให้ความถึ่เสียงมาครบ 20-20,000 Hz ความเพี้ยนกี่ % ว่ากันไปตามหลักวิชาการที่หูเราๆ ท่านๆ ฟังไม่ออก
...ลำโพงดีๆ ให้เสียงครบ 20-20,000 Hz กี่ db ก็ว่ากันไป
ถ้าเป็นอย่างนี้ เครื่องเสียงทุกยี่ห้อ บุคคลิกกเสียงจะเหมือนกันหมด
...แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ ยี่ห้อนี้ออกแบบแผงวงจรเด่นไปทางเสียงแหลม ยี่ห้อนี้เด่นไปทางเสียงกลางสูง ยี่ห้อนี้เด่นไปทางเสียงกลางต่ำ
ต้องถามว่าลำโพงรองรับความถี่เพียงพอหรือไม่ AVR พลังขับลำโพงได้เต็มที่หรือไม่
...แอมป์ใหญ่ ลำโพงใหญ่ ยี่ห้อดีๆ ฟังยังไงๆ เสียงก็ดีไปหมด

ได้ครอบครองสิ่งดีๆ ข้างต้น แต่เสียงออกมาไม่ดี เพราะอะไร

1.หูคนเรายิ่งอายุมากขึ้น บางความถี่รับได้น้อยกว่าปกติทั่วไป(จึงมักแนะนำก่อนตัดสินใจซื้อ ให้ไปฟังด้วยหูของตนเอง)

2.เสียงสมจริง ท่านคิดว่ายกเครื่องเสียง 5.1 ไปเปิดดูหนังกลางแจ้ง(เสียงไม่สะท้อนกลับมา) กับเปิดในห้องในบ้าน(ปรับไม่ดีเสียงตีกันมั่ว)แบบใดเสียงสมจริงกว่ากัน หรือฟังในห้าง(ซึ่งมันโล่งๆ) พอยกกลับมาบ้าน เสียงทำไมจึงต่างกัน.อย่างนี้เป็นต้น

3.ตำแหน่งจุดตั้งลำโพง เครื่องมือวัด มุมสะท้อนเสียง ระยะห่าง ระยะเคียงคู่หน้า- หลัง เซนเตอร์ ซับ ความสูงลำโพงจากพื้น การวางห่างจากกันของลำโพงคู่หน้า
...หน้าลำโพงหันทำมุมกี่องศา กำลังขยายเสียงสัมพันธ์กับขนาดลำโพง ขนาดห้อง ตำแหน่งนั่งฟังเป็นจุดตัดของลำโพงทุกตัวหรือไม่
...พื้นห้องเป็น ไม้ ปูน พรม กระเบื้อง เพดานสูงต่ำเท่าไร ฝ้าเพดานเป็นยิบซัม เป็นไม้ เป็นปูน เหล่านี้เป็นตัวแปรของเสียงทั้งสิ้น
...เครื่องเสียงจึงมีเมนูให้ปรับแต่งชดเชยเสียงมาให้มากมาย
...ส่วนมากละเลยการอ่านคู่มือ ทำให้ได้เสียงไม่ถูกใจ(เพราะปรับไม่ครบ) จึงคิดเปลี่ยน AVR ใหม่ เปลี่ยนลำโพงใหม่ เปลี่ยนสายสัญญาณ ต่างๆ มากมาย

4.ก่อนเปลี่ยนเครื่องเสียง แนะนำว่า ลองทบทวนกลับไปทำข้อ 3 ให้ครบก่อนครับ.

...เป็นธรรมดาของคนไทยใจร้อน ผมเองก็เช่นเดียวกัน ได้เครื่องใหม่มาต่อลำโพงแล้วนั่งฟังเสียงเลย คู่มือไม่อ่าน อาศัยประสบการณ์ มั่วๆ พอเจอปัญหาก็เปิดคู่มือดู แก้ไขไปเป็นอย่างๆ
...ฝรั่ง ได้เครื่องมาเค้าจะอ่านคู่มือก่อน(ฝรั่งชอบอ่านหนังสืออยู่แล้ว)แล้วค่อยๆ ปฏิบัติตามในคู่มือ
...ยังไงๆ พยายามอ่านคุ่มือ แลัวปฏิบัติตามไปเรื่อยๆ เสียงก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ.

HD Player ---> Onkyo ---> TV จึงจะได้  True HD ส่วนโน๊ตบุ๊คตัดทิ้งไป มันยุ่งยากมั๊กๆๆๆๆ

...ไฟล์หนังเสียงเป็น  True HD  เสียง AVR ออกมาก็  True HD  ถ้าปรับตั้งค่า HD player และ AVR ได้ถูกต้อง(อาศัยคู่มือ) และสเปค AVR รองรับ

...Onkyo s4505 มี Mic setup สะดวกเหมาะสำหรับมือใหม่ ตู้ sub เป็นแบบ Active ให้กำลังสำรองที่เหนือกว่า ไม่ต้อบรบกวนกำลังวัตต์จาก AVR อนาคตเปลี่ยนคู่หน้าเป็น Polk RTi A1(เจ็ดพันกว่า) หรือ A3(หมื่่นกว่านิดๆ) เสียงจะดีกว่า 3500 มากมายครับ

...DVD กำลังขับ 1000 W   vs  BD กำลังขับ 1100 w กำลังขับต่างกันเล็กน้อย ใช้ร่วมกันได้ 5.1 ch. เหมือนกัน
...ชุดเสาสูงๆ ส่วนมากขายเป็นชุด เรียกว่าซื้อเครื่องแถมลำโพงละกัน ถ้าเสียซ่อมไม่ได้ก็ทิ้ง(เครื่องจะเสียก่อนลำโพง ระยะ 5 ปี)
...อนาคตถ้าเปลี่ยนเครื่อง แนะนำเล่น AVR ครับ อายุยืนยาวกว่า 20 ปีขึ้นไป ราคาพอๆ กัน

...ไม่ได้เข้ามาซะนานๆๆๆๆ

...ใช้ Mic เซ็ท Auto โดยตั้งวอลลุุ่มซับครึ่งหนึ่งครับ เฟสก็ครึ่งหนึ่งเช่นกัน เครื่องจะคำนวนเร่งเสียง AVR แล้วปล่อยสัญญาณที่เหมาะสมให้
...สเตปที่ 2 ฟังเสียงซับ แล้วปรับเฟสไปสุดๆ ไปที่เสียงเบสดีขึ้น
...สเต็ป 3 ถ้าเสียงซับดังไม่สะใจ เร่งวอลลุ่มตู้ซับ (เพราะสัญญาณ AVR ปล่อยมาเหมาะสมแล้ว)
...ถ้าไม่สะใจอีก เร่ง Level ของ เมนูซับ AVR ขึ้นมาที่ 0 ฟังดู แล้วปรับไปที่ + ,- เท่าที่จะพอใจ..รับรองเบสมาตรึมจนอาจเพี้ยน

....สั้นๆ ก็มีเท่านี้ครับ อิ อิ.

...ถ้าใจร้อน หามือ 2 ไม่ถึงหมื่น ถ้าเลือกไม่ดีจะได้เป็นเพียงแค่ 5.1 โปรโลจิก ซึ่งปัจจุบัน TureHD กันแล้ว ต้องอ่านสเปคให้ดี จดรุ่นแล้วค้นในกูเกิล
...อีกทางเลือกหนึ่ง มีงบเท่าไร ตั้งงบเล็งซื้อที่ห้าง กลับบ้านเริ่มเก็บเดือนละ 500 บาท 10 เดือนได้ 5000 บาท คิดซะว่ากำลังผ่อนสินค้า 1 ชิ้น พอปลายปีนี้ จะมีรายการลดราคา รุสต๊อก เงินได้ตามเป้า ซื้อประเภท in the box ไว้ก่อน เพราะราคาหมื่นนิดๆ เงินไม่พอ จ่าย 10000 บาท ที่เหลือผ่อนเดือนละสองสามร้อยบาท 10 เดือน ประมาณนี้ครับ
...ประการที่ 3 นำเงินที่มีไปวางดาวน์(ถ้าสามารถจ่ายได้เดือนละ 500 บาทมากว่า หรือน้อยกว่าก็ได้) หาผู้ค้ำประกัน 1 คนอาจเป็นเพื่อน พี่ชาย น้า ญาติได้ทั้งนั้น สำเนาบัตรประชาชน เท่านี้ก็หิ้วกลับบ้านได้ครับ.แต่อย่าเบี้ยวจ่ายทำให้ผู้ค้ำเดือดร้อน เสียเครดิตต่อไป อีก 5 ปี 10 ปี จะซื้ออะไรก็ไม่มีใครเค้ากล้าค้ำประกัน

...ขอให้มีความสุขกับการดูหนังฟังเพลงเหมือนพี่ๆ ในห้องนี้ครับ

 - ข้อที่ 2 แนวทางที่ 2 คือ ไปหาชุด home in the box ที่มี HDMI ทั้งฝั่ง in และ out (แบบนี้มันมีไหมครับ) เพื่อที่จะส่งทั้งภาพและเสียงจาก NB เป็น digital ไปเลย ไม่ต้องซื้อ USB SOUND CARD มาถอดรหัส

...เป็นทางเลือกที่ถูกต้องครับ ถ้ายึดถือโน๊ตบุ๊กเป็นหลัก ไม่จบ บานปลายครับ.

...แนะนำไปหาหมอตรวจหู วัดคลื่นเสียง ปิ๊ดๆ ตู๊ดๆ เป็นกราฟ ออกมา หมอจะจัดหูฟังให้เข้ากับความถี่ที่สูญเสียไป หูฟังทั่วไปยิ่งเร่งดีงทุกความถี่ยิ่งดัง หูยิ่งเสื่อมลง ผิดกับของหมอ เร่งเฉพาะความถี่ที่สูญหาย (ควรเลือกชนิดเร่งวอลลุ่มเสียงภายนอกได้) เท่านี้หูข้างที่เสื่อมก็จะได้ยิน เสียงโมโนก็จะเป็นสเตริโอ ฟังเพลงได้ยินเสียงสเตริโอปกติ(แถมชัดกว่าคนทั่วไป เสียงกรุ๊งกริ้งได้ยินหมด) ดูหนังเสียงวิ่งรอบตัวดีทีเดียวครับ เชื่อผม.