แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - patmedia

หน้า: [1]
1
คอนโดมิเนียมกลายเป็นหนึ่งในที่อยู่อาศัยที่ใครหลาย ๆ คน มีการซื้อไว้เพื่อการลงทุนในอนาคต ดังนั้นจึงทำให้กระแสของการซื้อ ขายคอนโด ยังคงอยู่ได้ไปอีกยาวนาน ซึ่งถ้าคุณกำลังสนใจจะซื้อห้องคอนโดที่ไม่ว่าจะอยู่อาศัยเอง, ปล่อยเช่า หรือเพื่อเก็งกำไรขายในอนาคต มี 8 เรื่องที่คุณจะต้องควรรู้ไว้ก่อน เพื่อทำให้การซื้อขายห้องคอนโดในปี 2022 ของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น ได้ห้องตรงใจ ตรงงบประมาณ และสามารถผ่อนชำระไปได้จนจบตามกำหนดโดยไม่มีปัญหาใด ๆ ดังนี้

 
1.เลือกทำเลอย่างไรให้ตรงใจ
การเลือกทำเลที่เหมาะสมต่อการอยู่อาศัยของคุณ ถือว่าเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญมาก เพราะการซื้อคอนโดนั้นย่อมมีจุดเริ่มต้นมาจากการตอบโจทย์ความต้องการในเรื่องของการเดินทางไปที่ทำงานหรือที่เรียนได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงควรเริ่มต้นจากการดูความต้องการของคุณก่อน  มีโครงการใดบ้างที่อยู่ใกล้กับจุดทำงานหรือสถานศึกษาของคุณ และทำให้รู้สึกว่าเหมาะสมที่สุด โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้มาก แต่อาจจะอยู่ติดกับรถไฟฟ้า BTS หรือสามารถเชื่อมต่อไปสู่รถไฟใต้ดิน MRT ได้

นอกจากนี้คุณยังสามารถประเมินดูได้ว่าต้องการอยู่ในจุดที่เป็นย่านธุรกิจใจกลางเมือง หรืออยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าชื่อดังต่าง ๆ เพื่อทำให้การใช้ชีวิตสะดวกมากขึ้น พร้อมไปด้วยการเลือกทำเลที่ควรจะต้องมีความปลอดภัย อยู่ในจุดชุมชนที่มีคุณภาพและช่วยทำให้คุณใช้ชีวิตในทุกวันได้อย่างสบายใจ โดยโซนที่มีคอนโดมิเนียมถูกสร้างขึ้นเป็นจำนวนมากและมักจะขายหมดอย่างรวดเร็ว คือ ย่านสาทร, พระราม 9, อโศก, ทองหล่อ, เอกมัย และสีลม เป็นต้น

 
2.เลือกสร้างใหม่หรือมือสอง
สำหรับผู้ที่ยังลังเลใจอยู่ว่าควรจะเลือกซื้อเป็นคอนโดสร้างเสร็จใหม่หรือคอนโดมือสองแบบซื้อต่อจากผู้อื่นดี เพราะให้ข้อดีที่แตกต่างกันออกไป เนื่องมาจากการซื้อคอนโดแบบมือสองจะเป็นการซื้อพร้อมตกแต่งมาแล้วเป็นที่เรียบร้อย จึงไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายด้านการตกแต่งเพิ่มมากนัก แต่ในขณะเดียวกันคอนโดใหม่อาจจะต้องเสียค่าตกแต่งเพิ่มเติม แต่ทั้งนี้ในเรื่องของการอยู่อาศัยคอนโดมือสอง ก็มีสิทธิ์ที่จะต้องซ่อมบำรุงบ่อยครั้งเช่นกัน ซึ่งคอนโดมือหนึ่งในเรื่องนี้อาจจะไม่ต้องน่ากังวล ดังนั้นถ้าคุณต้องการรู้ว่าซื้อคอนโดในลักษณะใดดี? ให้ใช้วิธีการประเมินจากอายุของสิ่งก่อสร้างและประเมินดูพื้นที่โดยรวมด้วยตัวคุณเอง โดยเฉพาะกับผู้ที่ต้องการซื้อคอนโดมือสอง ให้คุณเริ่มพิจารณาจากอายุของคอนโดว่าสร้างเสร็จมานานแล้วเท่าไหร่?, อายุของตัวอาคารอยู่มาแล้วกี่ปี? เพื่อทำให้คุณสามารถคำนวณเรื่องของสภาพความเสื่อมได้มากขึ้น ที่สำคัญที่สุดคือการไปดูด้วยตัวคุณเอง ถ้าส่วนกลางยังคงดีอยู่และมีการซ่อมแซมในส่วนที่เสียหายหรือมีการปรับปรุงและพัฒนาอยู่เสมอ รวมไปถึงสภาพห้องโดยรวมถือว่าดี คุณก็สามารถซื้อได้อย่างสบายใจ
 

3.จุดประสงค์การซื้อคืออะไร?
เรื่องต่อมาที่คุณควรรู้ คือ จุดประสงค์ในการจะซื้อคอนโดของคุณคืออะไร เพราะจะทำให้คุณสามารถเลือกซื้อคอนโดในปี 2022 ได้ง่ายขึ้น เช่น ถ้าคุณต้องการได้คอนโดเพื่ออยู่อาศัยเอง ให้คุณเลือกคอนโดคุณภาพที่อยู่ใกล้กับที่ทำงาน เดินทางสะดวก หรือสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างครบถ้วน แต่ถ้าเป็นคอนโดเพื่อการลงทุนให้เช่าและการขายเก็งกำไร คุณควรเลือกคอนโดกลางกรุงที่มีทำเลดี หรือทำเลใกล้กับโซนที่ทำงานและโซนนักศึกษามหาวิทยาลัย รวมไปถึงโซนตามแนวรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดิน เพื่อช่วยให้คุณหาผู้เช่าหรือผู้ซื้อได้ง่ายมากขึ้น

 
4.ตรวจสอบส่วนกลาง
อีกหนึ่งเรื่องที่คุณห้ามพลาด คือ การตรวจสอบส่วนกลางของทางคอนโดว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคใดบ้าง โดยให้เน้นกิจกรรมส่วนตัวของคุณเป็นหลัก เช่น ถ้าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย ควรเลือกคอนโดที่สามารถให้สวนสีเขียวหรือห้องฟิตเนสที่คุณจะเข้าไปใช้บริการได้ตลอด หรือถ้าคุณมีเด็กเล็กควรเลือก Facilities ที่เด็ก ๆ จะวิ่งเล่นได้อย่างปลอดภัย หรือเป็นโซนสำหรับเด็กโดยเฉพาะ เพื่อทำให้เหมาะสมต่อการใช้ชีวิตมากที่สุด นอกจากการดูเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกแล้ว เรื่องต่อมาที่คุณควรสำรวจด้วยเช่นกัน คือ ภายในโครงการมีร้านค้าและร้านอาหารหรือไม่ ถ้าไม่มีในระยะที่ใกล้เคียงและไม่ไกลมากมีหรือไม่ รวมถึงการสำรวจดูว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เป็นส่วนกลางของคอนโดใช้งานได้จริงแค่ไหน? มีความสะอาด มีการดูแลซ่อมแซม และมีการเข้ามาบำรุงอย่างจริงจังจากทางนิติบุคคลหรือไม่ เพื่อทำให้การซื้อคอนโดของคุณไม่เสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์

5.ค่าใช้จ่ายโดยรวม
การซื้อ ขายคอนโด จะมีค่าใช้จ่ายอยู่หลายส่วนที่คุณจำเป็นจะต้องจดรายละเอียดต่าง ๆ ไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ได้รู้ว่าควรเก็บเงินประมาณใด จึงจะเหมาะสมต่อการอยู่คอนโดได้แบบราบรื่น โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายแบบรายเดือนและรายปี เช่น ค่าส่วนกลางของคอนโด ค่าเงินกองทุนสำรองส่วนกลาง ค่าภาษีที่ดิน และสำหรับผู้ที่กู้ธนาคารเพื่อซื้อคอนโด จะต้องรวมค่าใช้จ่ายด้านการชำระเงินกู้รายเดือนเข้าไปด้วย เพื่อทำให้คุณได้เห็นตัวเลขอย่างชัดเจนในแต่ละเดือน เพื่อนำมาประเมินดูว่าคุณจะสามารถจัดการกับรายจ่ายเหล่านี้ ได้ไปตลอดทุกเดือนหรือไม่? พร้อมการมองหาแผนสำรองด้านค่าใช้จ่ายไว้เพิ่ม เพื่อไม่ทำให้ต้องผิดพลาดจนอาจจะกลายเป็นไม่สามารถอยู่ต่อได้ ส่วนผู้ ขายคอนโด ควรจะต้องดูค่าใช้จ่ายโดยรวมหลังการขายได้แล้วเช่นกัน เพื่อนำมาประเมินดูว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้ คุณจะสามารถจ่ายให้กับผู้มาซื้อได้เองหรือจะใช้เป็นการจ่ายคนละครึ่งต่อไป

 
6.การเตรียมงบประมาณ
เมื่อคุณรู้รายละเอียดของค่าใช้จ่ายโดยรวมแล้ว เรื่องต่อมาที่คุณจะต้องทำ คือ การเตรียมพร้อมด้านงบประมาณของคุณ  โดยให้คุณวางแผนเรื่องการเลือกซื้อคอนโดให้เรียบร้อยก่อน เมื่อได้รูปแบบคอนโดที่ต้องการแล้ว พร้อมยื่นกู้กับทางธนาคาร คุณจะต้องรู้ว่าตัวคุณไม่ควรมีหนี้สินอยู่ที่ตัวเกินกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมดในทุก ๆ เดือน เพราะอาจจะทำให้ทางธนาคารไม่อนุมัติได้ เนื่องมาจากทางธนาคารนั้นจะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของรายได้ในแต่ละเดือน ที่เมื่อหักออกมาแล้วจะต้องเหลือเพียงพอต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและการชำระหนี้ในส่วนอื่น ๆ

ดังนั้นถ้าคุณมีเงินเดือนหลักแสนบาท คุณจะต้องมีภาระหนี้สินที่ไม่เกินไปกว่า 4 หมื่นบาทต่อเดือน ส่วนค่าผ่อนนั้นทางธนาคารจะคิดประเมินอยู่ที่ล้านละ 7,000 บาท คุณจึงนำวิธีการคิดนี้ไปประเมินดูว่าจะซื้อคอนโดราคาใด แล้วไม่กระทบต่องบประมาณที่มีมากจนเกินไป สามารถทำให้คุณผ่อนชำระได้จนครบตลอด โดยไม่ทำให้ต้องเดือดร้อนในอนาคต

 
7.ควรซื้อทำเลแบบไหน
ทำเลหรือบรรยากาศรอบคอนโด มีความสำคัญต่อตัวคุณมาก เพราะคุณจะต้องเข้า-ออกและใช้ชีวิตในบริเวณใกล้เคียงกับคอนโดอยู่ตลอด ดังนั้นคุณต้องประเมินดูว่าสภาพแวดล้อมรอบข้างเป็นอย่างไร ไม่ควรเลือกคอนโดที่มีสภาพแวดล้อมรอบข้างเป็นชุมชนแออัดหรือเข้าซอยลึกจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้คุณเสี่ยงต่ออันตรายได้ นอกจากนี้สภาพแวดล้อมรอบด้านของโครงการที่มีตลาดนัดหรือร้านค้าจำนวนมากและมีผู้คนพลุกพล่าน ก็อาจทำให้คุณไม่สะดวกต่อการเดินทางเข้า-ออกได้เช่นกัน ทั้งยังต้องทนกับเสียงดังรบกวนที่อาจจะเกิดจากชุมชนได้ทุกเมื่อ

นอกจากนี้ถ้าคุณเลือกที่จะซื้อคอนโดมิเนียมที่ติดกับถนนสาธารณะ จะทำให้คุณเข้าออก-ได้ง่าย แต่ถ้าเป็นซอยขนาดเล็กและเป็นจุดที่หน้าปากซอยรถติดด้วยแล้วก็อาจจะยิ่งทำให้การใช้ชีวิตของคุณรู้สึกเครียดมากกว่าเดิมได้ ดังนั้นคุณต้องนำความสะดวกในการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของคุณมาประเมิน ถ้าชอบความง่ายควรเลือกคอนโดที่ติดกับถนนใหญ่ มีร้านค้า ร้านอาหารที่สามารถออกไปซื้อได้ง่าย หรืออาจจะเป็นโซนออกนอกเมืองไปเล็กน้อย เพื่อให้จุดที่อยู่อาศัยไม่หนาแน่นจนเกินไป รวมไปถึงจุดที่อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS, รถไฟใต้ดิน MRT และทางด่วน เพื่อทำให้คุณเดินทางได้สะดวกแบบครบทุกด้าน เป็นต้น

 
8.ไม่มีเงินซื้อต้องทำอย่างไร?
สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อคอนโด แต่ไม่มีเงินก้อนที่จะสามารถทำให้ซื้อได้ด้วยเงินสดทันที ขอแนะนำการยื่นกู้กับทางธนาคาร ที่ถือเป็นตัวช่วยสำคัญ ทำให้คุณสามารถซื้อห้องคอนโดได้อย่างรวดเร็ว ถ้าคุณเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ไม่มีภาระหนี้สินเกินกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ การยื่นกู้ซื้อคอนโดจะมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงมาก แม้แต่ผู้ที่มีอาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์ ถ้ามีเงินหมุนเวียนอยู่ภายในบัญชีเสมอและมีเงินเก็บอยู่ในบัญชีธนาคารจำนวนมาก คุณจะสามารถยื่นกู้ได้ 100% เลยทีเดียว  ดังนั้นเครดิตจึงถือว่ามีความสำคัญ แต่ถ้าต้องการให้ง่ายกว่านั้น คุณควรขอกู้ร่วมกับญาติหรือคู่สมรสที่มีเครดิตดี มีเงินเดือนมั่นคง มีเงินในบัญชีหมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะยิ่งช่วยผลักดันให้สามารถซื้อคอนโดในแบบที่ต้องการได้ง่ายมากกว่าเดิม ส่วนการเลือกธนาคารนั้นให้คุณเลือกธนาคารที่มีเรทดอกเบี้ยพิเศษ หรือถ้าธนาคารใดสามารถให้ดอกเบี้ยต่ำสุดได้ คุณก็สามารถเข้าไปขอรายละเอียดพร้อมการยื่นกู้ธนาคารนั้นได้เลย แต่ถ้าต้องการความสะดวกและการอนุมัติง่ายขึ้น ขอแนะนำเป็นธนาคารที่คุณทำธุรกรรมด้วยเป็นประจำ จะทำให้การติดต่อขอข้อมูล รายละเอียด หรือเอกสารยืนยันเป็นเรื่องที่ทำได้รวดเร็ว จึงรู้ผลการอนุมัติได้ง่าย

 
9.เรื่องควรระวังของการเลือกซื้อห้องคอนโด
สำหรับเรื่องควรระวังของการซื้อห้องคอนโดนั้นจะมีอยู่ด้วยกันหลายเรื่อง ดังนี้

        ถ้าโครงการที่คุณต้องการซื้ออยู่ขายได้ไม่หมด และมีเจ้าของโครงการเป็นเจ้าของร่วมอยู่ภายในคอนโดด้วย คุณต้องตรวจสอบดูว่าทางโครงการมีปัญหาเรื่องการจ่ายค่าส่วนกลางหรือไม่ และมีการจ่ายค่าส่วนกลางไปหมดแล้วหรือยัง เพื่อทำให้การเข้าอยู่ของคุณเป็นไปอย่างยุติธรรมที่สุด
        การเลือกคอนโดแบบโครงการมิกซ์ยูสที่เป็นการอยู่อาศัยร่วมเชิงพาณิชย์ ควรเลือกให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อตัวคุณเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้ชีวิต, ความเป็นส่วนตัว รวมไปถึงค่าส่วนกลาง
        ควรเลือกโครงการแล้วเสร็จที่ไม่มีปัญหาใด ๆ มาก่อน แต่ถ้าเลือกเป็นโครงการที่ยังสร้างไม่เสร็จ คุณควรดูว่าตัวโครงการก่อสร้างล่าช้าเกินไปหรือไม่ และมีปัญหากับชุมชนข้างเคียงมาก่อนหรือไม่ เพื่อทำให้คุณไม่ต้องเสี่ยงเสียเงินเปล่าจากปัญหาการฟ้องร้องของชุมชนรอบด้าน จนทำให้การก่อสร้างอาจต้องหยุดชะงักเลยก็ได้เช่นกัน
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ซื้อหรือผู้ ขายคอนโดมิเนียม คุณควรรู้ทั้ง 8 เรื่องนี้ก่อน เพื่อทำให้การซื้อขายของคนเป็นไปอย่างสบายใจ ไม่ก่อให้เกิดปัญหาใด ๆ ในอนาคต จนอาจจะทำให้คุณรู้สึกเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ได้


ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.estopolis.com

2
แหล่งพลังงานทางเลือกที่ได้รับความสนใจอย่างมากในยุคปัจจุบัน เนื่องจากแผงโซล่าเซลล์สามารถเปลี่ยนพลังงานจากแสงอาทิตย์มาผลิตกระแสไฟฟ้าได้ เพียงติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ไว้บนหลังคาบ้านหรือตัวอาคาร แต่แผงโซล่าเซลล์ที่วางจำหน่ายทั่วๆไปนั้นก็มีมากมายหลายแบบ และมีตัวแทนจำหน่ายดังนั้นเราจึงควรหาข้อมูลหรือศึกษาข้อมูลเบื้องต้นไว้ก่อนที่จะเลือกซื้อเพื่อมาใช้งานจริง


มารู้จักแผงโซล่าเซลล์
แผงโซล่าเซลล์ คืออะไร?

แผ่นโซล่าเซลล์คือแผ่นขนาดสี่เหลี่ยมที่นำมาวางรวมกัน จนกลายเป็นแผงโซล่าเซลล์ ที่ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ ทำมากจากผลึกซิลิคอนที่มีคุณสมบัติหลักในการรับพลังงานจากแสงอาทิตย์ และเปลี่ยนให้เป็นพลังงานไฟฟ้าได้ ซึ่งถือเป็นแหล่งพลังงานสะอาดที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม และบรรยากาศของโลก จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้แผงโซล่าเซลล์ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน

แผงโซล่าเซลส์ มีให้เลือกหลายแบบและหลายขนาด สามารถเลือกใช้ตามวัตถุประสงค์ได้ สำหรับในประเทศไทยนั้น มีแผงโซล่าเซลล์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก 3 ประเภท ซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน

แผงโซล่าเซลล์ ชนิดโมโนคริสตัลไลน์ (Monocrystalline Silicon Solar Cells)
ทำมาจากซิลิคอนทรงกระบอกบริสุทธิ์ ต้นทุนสูง เกรดดีที่สุด และมีประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าสูง แม้จะอยู่ในภาวะที่มีแสงน้อยก็ตาม มีอายุการใช้งานมากกว่า 25 ปีขึ้นไป ราคาค่อนข้างสูง

แผงโซล่าเซลล์ ชนิดโพลีคริสตัลไลน์ (Polycrystalline Silicon Solar Cells)
ลักษณะพิเศษเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ไม่ตัดมุม การผลิตไม่ซับซ้อนมากนัก ทำให้มีราคาถูกกว่า แต่ก็มีคุณสมบัติผลิตไฟฟ้าได้น้อยกว่าแบบแรก จึงเหมาะติดตั้งในที่ที่มีอุณหภูมิสูง มีอายุการใช้งานประมาณ 20-25 ปี

แผงโซล่าเซลล์ ชนิดฟิล์มบาง (Thin Film Solar Cells)
ทำมาจากสารอะมอฟัส (Amorphous silicon) และสารชนิดอื่นๆ โดยนำมาฉาบเคลือบเป็นแผ่นฟิล์ม มีคุณสมบัติผลิตไฟฟ้าได้น้อยที่สุด จึงมีราคาถูก แต่ไม่เหมาะนำมาใช้ในบริเวณที่มีพื้นที่จำกัด อายุการใช้งานสั้นกว่าประเภทอื่นๆ
 
แผงโซล่าเซลล์ มีกี่วัตต์ / กี่โวลต์ ผลิตไฟฟ้าได้เท่าไหร่?
ทั่วไปแล้วแผงโซล่าเซลล์ ใช้แรงดันไฟ 12 โวลต์ และ 24 โวลต์ ซึ่งที่นิยมซื้อกันจะเป็นแผ่น 12V 300W และ 250W (แรงดันไฟ 12 โวลต์ 300 วัตต์ และ 250 วัตต์) แต่แผงโซลาร์เซลล์จะมีประสิทธิภาพสูงสุดกี่วัตต์นั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งเรื่องประเภท ขนาด และจำนวนแผงเซลล์ ซึ่งมีผลทำให้กระแสไฟวิ่งไม่เท่ากัน ซึ่งหากการติดตั้งมีระบบการผลิตและควบคุมที่ดี ก็อาจสามารถผลิตไฟฟ้าได้สูงสุดประมาณ 4,500 หน่วยต่อปีเลยทีเดียว

แผงโซล่าเซลล์ ติดหลังคาบ้าน
หลายต่อหลายคนเริ่มให้ความสนใจ ที่จะนำพลังงานแสงอาทิตย์มาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าใช้ภายในบ้านเรือน ซึ่งควรจะศึกษารายละเอียดของแผงโซล่าเซลล์ให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ

เนื่องจากหากจะติดตั้งบนหลังคาบ้านนั้น จะต้องดำเนินเรื่องขออนุญาตจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบโครงสร้างของบ้าน และตำแหน่งที่เหมาะสมจะติดตั้ง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
 
ข้อควรรู้ก่อน ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ บนหลังคาบ้าน
- แจ้งสำนักงานเขต, กรมกำกับพลังงาน, การไฟฟ้านครหลวง หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อขออนุญาตใช้แผงโซล่าเซลล์
- ตำแหน่งที่เหมาะสมในการติดโซล่าเซลล์ ควรอยู่ในบริเวณที่เปิดโล่ง ไม่มีร่มเงาของต้นไม้บดบังแผงเซลล์
- หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝุ่นหนาแน่น เพราะอาจส่งผลกระทบต่ออายุการใช้งานแผงโซล่าเซลล์
- การติดตั้งโซล่าเซลล์ควรให้ลาดเอียงประมาณ 10-15 องศา เพื่อให้สามารถรับแสงอาทิตย์ได้เต็มที่มากที่สุด
- กรณีที่ติดต่อให้บริษัทเอกชนต่างๆ ดำเนินเรื่องและติดตั้งโซล่าเซลล์ให้ ควรใช้บริการจากองค์กรที่น่าเชื่อถือและมีใบรับรองถูกต้อง

การติดตั้งโซล่าเซลล์ นั้นมีหลากหลายให้เลือกใช้แต่หากต้องการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญแล้วละก็นึกถึง SHERA ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านหลังคามากกว่า 40 ปี ให้คำปรึกษาและตอบสนองความต้องการอย่างแท้จริง

3
คลายความสงสัยของการมอบต้นไม้มงคลให้กับของขวัญขึ้นบ้านใหม่ คอนโดใหม่
ไม่ว่าจะเป็นบริษัท ห้างร้าน หรือบ้าน คอนโด ไม่ว่าจะเป็นคนที่ทำธุรกิจก็ดี หรืออยู่อาศัยก็ตามแต่ การหาไม้มงคล ต้นไม้มงคลมาปลูก หรือมาประดับไว้ที่บ้าน คอนโด หรือร้านค้าก็ตาม เพื่อช่วยส่งเสริมโชคลาภทางด้านการเงิน ส่งเสริมทางด้านสุขภาพ อีกทั้งยังช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสร้างบรรยากาศที่มองแล้วสดชื่นทุกครั้ง แต่การปลูกไม้มงคลนั้นก็มีความเชื่อแต่โบราณสืบเนื่องต่อๆกันมา วันนี้จะพามาดูความไม้ของไม้มงคลแต่ละชนิดกันค่ะ ว่าทำไมต้องปลูก แล้วปลูกเพื่ออะไร

1. โป๊ยเซียน
          ต้นโป๊ยเซียน มีลำต้นที่แข็ง และมีหนามแหลม ใบยาวรี ปลายใบแหลม ออกดอกเป็นกลุ่ม ๆ มีหลายสี เช่น สีแดง ชมพู ขาว เหลือง เป็นต้น คนโบราณเชื่อว่าหากปลูกโป๊ยเซียนไว้ที่หน้าบ้านจะนำโชคมาให้ และควรปลูกไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ควรปลูกในวันพุธ จะทำให้เป็นมงคลยิ่งขึ้น เพราะเชื่อว่าเป็นต้นไม้ของเทพเจ้าทั้ง 8 องค์ ที่จะช่วยปกป้องคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข เงินทองไหลมาเทมา

2. ดาวเรือง
         ลักษณะของดอกดาวเรืองคือมีขนาดใหญ่ ปลูกง่าย ต้นโตเร็ว และแข็งแรงไม่ค่อยมีโรค รูปทรงดอกเป็นพุ่มกลมสีสันสดใสสวยงาม บานทนนานหลายวัน ปลูกได้ตลอดปี และปลูกได้ทุกที่ในประเทศไทย ความเชื่อเกี่ยวกับการปลูกดาวเรืองก็คือ จะช่วยนำเงินทองเข้ามาในบ้าน เพราะสีเหลืองทองอร่ามของดอกดาวเรืองเปรียบเสมือนเงินทองเต็มบ้าน ถ้าหากปลูกไว้หน้าบ้านหรือในบริเวณบ้านให้ออกดอกเยอะ ๆ เหมือนทุ่งทอง จะยิ่งเสริมให้มีโชคลาภ มีความก้าวหน้ายิ่งๆขึ้น

3. ต้นนางกวัก
         ต้นนางกวักมีก้านตั้งตรง ลำต้นหนา ก้านใบยาว มีลักษณะคล้ายใบโพธิ์ และมีสีเขียวแกมน้ำเงิน ใบด้านบนมีความมัน เห็นเส้นใบโค้งตามรูปใบชัดเจน หากปลูกเพียงแค่ต้นเดียวก็สามารถมีหน่อได้จนเต็มกระถางที่ปลูก ต้นนางกวักเป็นไม้มงคล ที่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าจะช่วย กวักเงิน กวักทอง เข้าบ้าน ปลูกต้นนางกวักเอาไว้จะช่วยทำให้กิจการเจริญรุ่งเรือง ลูกค้าเยอะและค้าขายดี


4. กระบองเพชร
         ลำต้นดูอ้วนเตี้ยน่ารัก มีทั้งต้นเป็นเหลี่ยมรูปทรงกระบอก และรูปทรงกลม มีขน หรือหนามรอบต้นแล้วแต่ชนิดพันธุ์ ความเชื่อเกี่ยวกับการปลูกต้นกระบองเพชรในบ้านนั้น เชื่อกันว่าจะทำให้กิจการก้าวหน้า จะได้เลื่อนหน้าที่การงานเร็ว และจะพาโชคลาภมาสู่ครอบครัว ได้เงินได้ทองไม่ขาดมือเลยจ้า

5. ว่านรวยไม่เลิก
         ว่านรวยไม่เลิกเป็นไม้อวบน้ำ ตระกูลเดียวกับกระบองเพชร ชอบดินร่วน ชอบแดดไม่จัดมาก และมีการระบายน้ำได้ดี ลักษณะของใบจะนิ่ม ๆ เหมือนยาง ด้านบนจะมีจุด ๆ สีเขียวเข้มบนพื้นใบสีเขียวอ่อนเหมือนใบเป็นรอยช้ำ การดูแลรักษาง่ายมาก ๆ เชื่อกันว่าบ้านไหนปลูกจะทำให้รวยตลอดไปเหมือนชื่อต้น และถ้าออกดอกเมื่อไร เชื่อกันว่าเจ้าของจะมีโชคลาภมาเกยถึงที่

6. ออมเงิน ออมทอง
         ต้นออมเงิน ออมทองเป็นพรรณไม้เลื้อยที่มีลำต้นเป็นเถา ลำต้นมีสีเขียวผิวเรียบ ใบมีลักษณะกลมมน คนโบราณเชื่อว่าบ้านไหนปลูกต้นออมเงิน ออมทอง จะทำให้มีเงิน มีทองมาก เพราะเป็นไม้มงคลเหมือนดั่งชื่อต้นนั่นเอง


7. เงินไหลมา
         เงินไหลมาเป็นพรรณไม้เลื้อยที่มี เถายาว ลำต้นมีสีเขียว และกลมเกลี้ยง ใบเป็นแฉกประมาณ 5 แฉกลึกเข้าหาโคนใบ ส่วนปลายใบเรียวแหลม พื้นใบมีสีเขียวปนเหลือง ควรปลูกในดินร่วนซุย ต้องการแสงแดดรำไร และต้องการน้ำไม่มาก ชื่อของต้นนี้ก็รู้แล้วว่าเป็นมงคลขนาดไหน เพื่อเพิ่มความโชคดีมากขึ้น ควรปลูกต้นนี้ในวันอังคาร และวางไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เชื่อว่าเงินจะไหลเข้ามาบ้านอยู่เรื่อย ๆ


          7 ไม้มงคลนี้ที่นำมาให้ได้อ่านกันเป็นเพียงความเชื่อของคนโบราณ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนนะคะ ดังนั้นหากต้องการนำเป็นของฝากหรือของขวัญเข้าบ้านใหม่ บ้านเดี่ยว พระราม5 ก็ได้เลยนะคะ เพราะชื่อแต่ละต้นนั้นเป็นมงคลที้งสิ้น แต่ก็ต้องมีพื้นที่ด้วยนะคะ ถ้ามีระเบียงชั้นบนก็เหมาะเลยจ้า หรือผู้รับทำการค้าธุรกิจ ยิ่งเหมาะอย่างยิ่ง


4
จัดทิศนอนให้ถูกหลักฮวงจุ้ย ทิศทางดีอยู่แล้วร่ำรวย เงินทองไหลมา 
ห้องนอนเป็นห้องที่สำคัญห้องหนึ่งในคอนโด หรือบ้านก็ตาม เพราะเป็นพื้นที่ที่ใช้ในการพักผ่อนให้เรามีแรงทำงานในวันถัดไป ซึ่งตามหลักฮวงจุ้ยแล้วนั้น ห้องนอนที่ดีจะส่งเสริมพลังงานดี หน้าที่ต่างๆ ก็จะสำเร็จ ส่งผลให้เงินทองไหลมาเทมาอีกด้วย

แต่ถ้าหากพบว่าหลังจากนอนแล้วร่างกายอ่อนเพลีย เจ็บป่วยออดๆ แอดๆ บ่อยๆ หรือมีอารมณ์หงุดหงิดง่ายจนเป็นอุปสรรคในการทำงาน การจัดห้องให้ถูกทิศทาง ตามหลักฮวงจุ้ยห้องนอนก็สามารถช่วยได้มากเลยทีเดียวค่ะ

เราจะมาดูทิศทางของห้องนอนและเตียงนอนกันก่อน โดยตำแหน่งของห้องนอนไม่ควรมีห้องน้ำอยู่ด้านบนห้อง หรืออยู่เหนือตำแหน่งเตียง เพราะห้องน้ำถือเป็นสิ่งที่ระบายสิ่งสกปรก นอนแล้วผู้อาศัยได้รับ พลังงานด้านลบ ก็เหมือนกับได้รับของเสียจากห้องน้ำเป็นประจำนั่นเอง

ส่วนเรื่องของประตูห้องนอนก็เช่นเดียวกัน คือห้ามตรงกับประตูห้องน้ำเด็ดขาด เนื่องจากพลังงานที่แย่จากห้องน้ำจะเข้ามาปะทะกับประตูห้องนอน

นอกจากนี้หลังกำแพงห้องนอนก็ยังไม่ควรเป็นห้องน้ำ ห้องครัว หรือห้องเก็บของอีกด้วย ซึ่งพลังงานด้านลบนี้จะส่งผลต่อสุขภาพ เกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด

ทำให้ผู้อาศัยมีอารมณ์รุนแรง โดยเฉพาะถ้าหลังห้องนอนเป็นระเบียงทางเดิน ทำให้คนที่อยู่หงุดหงิดง่าย ไม่มีสมาธิในการทำงานที่ดีนั่นเอง

เป็นอย่างไรบ้างคะหลักการจัดทิศนอนให้ถูกหลักฮวงจุ้ย สามารถนำไปจัดทิศทางหัวนอนให้กับบ้านเดี่ยวพระราม5 ของคุณกันจะได้รับพลังที่ดีและมีโชคดี รับทรัพย์กันถ้วนหน้านะจ้ะ



เรามาดูกันว่า แต่ละทิศควรวางเตียงอย่างไร แล้วแต่ละทิศส่งผลต่อการดำรงชีวิตของผู้อยู่อาศัย ได้อย่างไร
ทิศเหนือ = ช่วยเรื่องในการรับรู้ตามสัญชาตญาณ
ทิศใต้ = ช่วยให้เป็นคนมีชื่อเสียงที่ดี มีห้ามีตา มีเกียรติในสังคม
ทิศตะวันออก = ช่วยทำให้นอนหลับสนิท มีความสงบในการพักผ่อน
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ = เสริมการทำงานที่ดี โดยเฉพาะการทำงานด้านการค้นคว้าวิจัย หรือการทดลองต่างๆ
ทิศตะวันออกเฉียงใต้ = ช่วยทำให้มีความขยันพากเพียร มีความอดทนในการทำงานมากขึ้น
ทิศตะวันตก = ส่งเสริมให้มีลูกดก เหมาะสำหรับคู่สามีภรรยาที่ต้องการมีลูก
ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ = ส่งเสริมการมีบริวารมีเพื่อนฝูงและคนรู้จักมาก
ทิศตะวันตกเฉียงใต้ = ช่วยในเรื่องความรักทำให้ราบรื่นและสมหวัง

นอกจากทิศทางของห้องนอนเรามาดูการจัดหัวเตียงนอนกันบ้าง หันหัวเตียงดี ชีวิตรุ่งโรจน์ ควรจัดหัวเตียงนอนให้เยื้องจากประตู  ในหลักฮวงจุ้ยจะทำให้ได้รับพลังงานที่ดี มีโชคลาภ ทำงานราบรื่น อุปสรรคน้อย หัวเตียงควรติดกำแพง ไม่ควรปล่อยหัวเตียงมีพื้นที่ว่างมากเกินไป เพราะจะทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย ฝันไม่ดีบ่อย ความสูงของเตียงนอน ควรห่างจากพื้นประมาณ 2 ฟุตกว่า ซึ่งถือว่าเป็นความสูงในระดับพอดี ชนิดฟูก  ให้นึกถึงความสบายเป็นหลักมากกว่าราคา เลือกฟูกที่หลับสบาย และทำให้การนอนมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีสุขภาพแข็งแรง



5
อยากจะมีคอนโดสักห้องติดรถไฟฟ้า แน่นอนว่าต้องทำให้ชีวิตดีขึ้นแน่ๆ ไม่ต้องลำบากรถติดนานเป็นชั่วโมง นั่งรถไฟฟ้าไปทำงานก็แสนจะสะดวก มีปาร์ตี้กับเพื่อนก็ไม่ต้องกลัวว่าเมาแล้วขับกลับไม่ถูก รถไฟฟ้าปรื้ดเดียวถึง
แน่นอนล่ะว่าปัจจุบันคอนโดติดรถไฟฟ้าก็มีเต็มไปหมด แถมยังมีราคาถูกๆ ผ่อนสบายกระเป๋า ให้พวกมนุษย์เงินเดือนได้มีโอกาสเป็นเจ้าของได้อย่างง่ายดาย เมื่อเราหาข้อมูลเรียบร้อยแล้ว คอนโดติดรถไฟฟ้าแน่นอนล่ะว่าราคาเฉลี่ยประมาณ 2 ล้านต้นๆแน่นอน ดูเป็นราคาที่พอจะเอื้อมถึงอยู่ แล้วระบบการเงินล่ะ คุณเตรียมความพร้อมไว้หรือยัง งั้นเรามาเตรียมความพร้อมเรื่องระบบการเงินกันดีกว่าค่ะ

รายได้ขั้นต่ำที่เราควรจะต้องมีหากต้องการซื้อคอนโดราคา 2 ล้านบาท มนุษย์เงินเดือนอย่างเราต้องมีรายได้คงที่อย่างน้อยก็ 1 ใน 60 ของราคาคอนโด ตามสูตรคิดง่ายๆ ดังนี้
ราคาคอนโด=เงินเดือนx60
เพราะหลังจากที่เราได้เป็นเจ้าของคอนโดติดรถไฟฟ้าสมใจแล้วล่ะก็ ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ตามอีกเพียบเลยจ้า
ไม่ว่าจะเป็น ค่าส่วนกลาง ค่าน้ำ-ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าทริปกับเพื่อนก๊วนสนิท
ซึ่งถ้าหากมีรายรับที่น้อยเกินไป แล้วต้องผ่อนคอนโดในราคาเกินตัว ก็อาจจะลำบากได้นะจ้ะ
"อัตราค่าผ่อนต่อเดือน"
ถ้าหากเราไม่ได้รวยขนาดซื้อคอนโดด้วยเงินสดแล้วละก็ ก็ต้องมีการผ่อนต่อเดือนใช่มะล่ะ ยิ่งผ่อนเยอะ ก็จะหมดไว
หนี้ก็จะหมดเร็ว แต่ถ้าผ่อนมากไป ก็อาจจะค่าใช้จ่ายไม่พอ รายได้กลายเป็นติดลบอีก

ถ้างั้นเรามาวางแผนการผ่อนชำระให้พอดี กับรายได้ของเรา กรณีที่ไม่มีภาระหนี้สินอื่นๆ นะ
ค่าผ่อนต่อเดือนก็ไม่ควรเกิน 40%ของเงินเดือน ซึ่งตัวเลขนี้เราประมาณการมาจากหลายปัจจัย เช่น การแบ่งใช้ในชีวิตประจำวัน 40-50% และที่ขาดไม่ได้คือควรออมเงินอีกสัก 10-20% เพื่อใช้ในยามเกษียณ หรือลงทุนต่อยอดให้มี Passive Income จะได้มีเงินใช้ในอนาคตนะจ้ะ
"แล้วเงินดาวน์จะเท่าไหร่ดีล่ะ"
ถ้ามีเงินดาวน์มาก แน่นอนเราก็จะผ่อนน้อยลง ผ่อนหมดเร็วขึ้น ก็ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยมาก ประหยัดไปได้เยอะเลยแหละ แต่ถ้ามัวแต่เก็บเงินดาวน์นานไป ระวังจะแก่ก่อนได้อยู่เด้อ

คิดแบบง่ายๆ ว่าเราควรเก็บเงินให้ได้สัก 10% ของราคาเต็ม แล้วก็เอาไปวางดาวน์เลย
ถ้าคิดจะซื้อคอนโดใหม่ 2 ล้าน เก็บเงินเพื่อดาวน์ให้ได้สัก 2 แสน ก็น่าจะกำลังโอเคนะ
แต่ทั้งนี้เราก็จะต้องดูเงื่อนไขของคอนโดหรือธนาคารด้วย ว่าเค้ามีบังคับขั้นต่ำเท่าไหร่
ถ้าลงเงินดาวน์เพิ่มจะได้ดอกเบี้ยลดไปอีกมากน้อยแค่ไหน ต้องเจรจากับเขาดูก่อนด้วยนะ
"ระยะเวลาการผ่อน"
การผ่อนด้วยระยะเวลายิ่งสั้นก็จะยิ่งดีใช่มั้ยหละ ยิ่งผ่อนนาน ดอกเบี้ยก็จะยิ่งบาน บางคนผ่อนกันไป 30 ปี ดอกเบี้ยดันแพงกว่าตัวคอนโดซะแล้ว แต่การผ่อนให้หนี้ยิ่งหมดเร็ว ค่าผ่อนต่องวดเราก็จะยิ่งเยอะขึ้น อาจจะต้องกินแกลบทุกเดือน  เรามาลองคำนวณเล่นๆกันดูค่ะ ว่า ราคาคอนโด 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 4%ต่อปี
ผ่อน เดือนละ 10,000 บาท
เราต้องจ่ายเป็นเวลาประมาณ 28 ปี
และถ้าเราเพิ่มค่างวดแค่เดือนละ 3,000 บาท
จะลดเวลาในการผ่อนเหลือแค่ 18 ปี !!!

โอ้โห!!! คิดเองก็ตกใจเหมือนกันนะนี่  แค่เพิ่มเงินไปเดือนละแค่ 3,000 บาท เราจะสามารถลดเวลาในการผ่อนลงได้ถึง 10 ปี และถ้ามองในมุมของดอกเบี้ยด้วยแล้วล่ะก็น่าจะประหยัดไปได้อีกประมาณ 5 แสนบาทเลยทีเดียว ว้าวๆ


https://www.ananda.co.th/th/คอนโดใหม่

6
เติมเต็มความสุขของครอบครัวด้วยบ้านที่อบอุ่น การออกแบบบ้านเดี่ยว เราใส่ใจและคำนึงถึงความสุขของครอบครัวคุณเป็นสำคัญ และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือความปลอดภัย อีกทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก มีครบให้คุณที่นี่ การเดินทางที่สะดวกทุกเส้นทาง ความร่มรื่นให้คุณได้สัมผัสธรรมชาติตั้งแต่ทางเข้าโครงการบ้านเดี่ยวพัฒนาการ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สร้างความร่มรื่น เงียบสงบ แปลกใหม่ ทุกอย่างครบจบที่เดียว รอบด้านครบช้อปปิ้ง ที่พักผ่อน ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง เพราะชีวิตความวุ่นวายในเมืองกรุง รถติด ฝุ่นละออง ความแออัด พาคุณหลีกหนีความวุ่นวาย ให้ได้สัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริง กับการพักผ่อนกับคำว่าบ้านได้ที่นี่ เราขอส่งต่อความเจริญของวิถีชีวิตคนกรุงเทพ ให้คุณได้ที่บ้านเดี่ยวพัฒนาการ


7
คลายความสงสัยของการมอบต้นไม้มงคลให้กับของขวัญขึ้นบ้านใหม่ คอนโดใหม่
ไม่ว่าจะเป็นบริษัท ห้างร้าน หรือบ้าน คอนโด ไม่ว่าจะเป็นคนที่ทำธุรกิจก็ดี หรืออยู่อาศัยก็ตามแต่ การหาไม้มงคล ต้นไม้มงคลมาปลูก หรือมาประดับไว้ที่บ้าน คอนโด หรือร้านค้าก็ตาม เพื่อช่วยส่งเสริมโชคลาภทางด้านการเงิน ส่งเสริมทางด้านสุขภาพ อีกทั้งยังช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสร้างบรรยากาศที่มองแล้วสดชื่นทุกครั้ง แต่การปลูกไม้มงคลนั้นก็มีความเชื่อแต่โบราณสืบเนื่องต่อๆกันมา วันนี้จะพามาดูความไม้ของไม้มงคลแต่ละชนิดกันค่ะ ว่าทำไมต้องปลูก แล้วปลูกเพื่ออะไร

1. โป๊ยเซียน
          ต้นโป๊ยเซียน มีลำต้นที่แข็ง และมีหนามแหลม ใบยาวรี ปลายใบแหลม ออกดอกเป็นกลุ่ม ๆ มีหลายสี เช่น สีแดง ชมพู ขาว เหลือง เป็นต้น คนโบราณเชื่อว่าหากปลูกโป๊ยเซียนไว้ที่หน้าบ้านจะนำโชคมาให้ และควรปลูกไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ควรปลูกในวันพุธ จะทำให้เป็นมงคลยิ่งขึ้น เพราะเชื่อว่าเป็นต้นไม้ของเทพเจ้าทั้ง 8 องค์ ที่จะช่วยปกป้องคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข เงินทองไหลมาเทมา

2. ดาวเรือง
         ลักษณะของดอกดาวเรืองคือมีขนาดใหญ่ ปลูกง่าย ต้นโตเร็ว และแข็งแรงไม่ค่อยมีโรค รูปทรงดอกเป็นพุ่มกลมสีสันสดใสสวยงาม บานทนนานหลายวัน ปลูกได้ตลอดปี และปลูกได้ทุกที่ในประเทศไทย ความเชื่อเกี่ยวกับการปลูกดาวเรืองก็คือ จะช่วยนำเงินทองเข้ามาในบ้าน เพราะสีเหลืองทองอร่ามของดอกดาวเรืองเปรียบเสมือนเงินทองเต็มบ้าน ถ้าหากปลูกไว้หน้าบ้านหรือในบริเวณบ้านให้ออกดอกเยอะ ๆ เหมือนทุ่งทอง จะยิ่งเสริมให้มีโชคลาภ มีความก้าวหน้ายิ่งๆขึ้น

3. ต้นนางกวัก
         ต้นนางกวักมีก้านตั้งตรง ลำต้นหนา ก้านใบยาว มีลักษณะคล้ายใบโพธิ์ และมีสีเขียวแกมน้ำเงิน ใบด้านบนมีความมัน เห็นเส้นใบโค้งตามรูปใบชัดเจน หากปลูกเพียงแค่ต้นเดียวก็สามารถมีหน่อได้จนเต็มกระถางที่ปลูก ต้นนางกวักเป็นไม้มงคล ที่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าจะช่วย กวักเงิน กวักทอง เข้าบ้าน ปลูกต้นนางกวักเอาไว้จะช่วยทำให้กิจการเจริญรุ่งเรือง ลูกค้าเยอะและค้าขายดี


4. กระบองเพชร
         ลำต้นดูอ้วนเตี้ยน่ารัก มีทั้งต้นเป็นเหลี่ยมรูปทรงกระบอก และรูปทรงกลม มีขน หรือหนามรอบต้นแล้วแต่ชนิดพันธุ์ ความเชื่อเกี่ยวกับการปลูกต้นกระบองเพชรในบ้านนั้น เชื่อกันว่าจะทำให้กิจการก้าวหน้า จะได้เลื่อนหน้าที่การงานเร็ว และจะพาโชคลาภมาสู่ครอบครัว ได้เงินได้ทองไม่ขาดมือเลยจ้า

5. ว่านรวยไม่เลิก
         ว่านรวยไม่เลิกเป็นไม้อวบน้ำ ตระกูลเดียวกับกระบองเพชร ชอบดินร่วน ชอบแดดไม่จัดมาก และมีการระบายน้ำได้ดี ลักษณะของใบจะนิ่ม ๆ เหมือนยาง ด้านบนจะมีจุด ๆ สีเขียวเข้มบนพื้นใบสีเขียวอ่อนเหมือนใบเป็นรอยช้ำ การดูแลรักษาง่ายมาก ๆ เชื่อกันว่าบ้านไหนปลูกจะทำให้รวยตลอดไปเหมือนชื่อต้น และถ้าออกดอกเมื่อไร เชื่อกันว่าเจ้าของจะมีโชคลาภมาเกยถึงที่

6. ออมเงิน ออมทอง
         ต้นออมเงิน ออมทองเป็นพรรณไม้เลื้อยที่มีลำต้นเป็นเถา ลำต้นมีสีเขียวผิวเรียบ ใบมีลักษณะกลมมน คนโบราณเชื่อว่าบ้านไหนปลูกต้นออมเงิน ออมทอง จะทำให้มีเงิน มีทองมาก เพราะเป็นไม้มงคลเหมือนดั่งชื่อต้นนั่นเอง


7. เงินไหลมา
         เงินไหลมาเป็นพรรณไม้เลื้อยที่มี เถายาว ลำต้นมีสีเขียว และกลมเกลี้ยง ใบเป็นแฉกประมาณ 5 แฉกลึกเข้าหาโคนใบ ส่วนปลายใบเรียวแหลม พื้นใบมีสีเขียวปนเหลือง ควรปลูกในดินร่วนซุย ต้องการแสงแดดรำไร และต้องการน้ำไม่มาก ชื่อของต้นนี้ก็รู้แล้วว่าเป็นมงคลขนาดไหน เพื่อเพิ่มความโชคดีมากขึ้น ควรปลูกต้นนี้ในวันอังคาร และวางไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เชื่อว่าเงินจะไหลเข้ามาบ้านอยู่เรื่อย ๆ


          7 ไม้มงคลนี้ที่นำมาให้ได้อ่านกันเป็นเพียงความเชื่อของคนโบราณ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนนะคะ ดังนั้นหากต้องการนำเป็นของฝากหรือของขวัญเข้าบ้านเดี่ยวพระราม5 ก็ได้เลยนะคะ เพราะชื่อแต่ละต้นนั้นเป็นมงคลที้งสิ้น แต่ก็ต้องมีพื้นที่ด้วยนะคะ ถ้ามีระเบียงชั้นบนก็เหมาะเลยจ้า หรือผู้รับทำการค้าธุรกิจ ยิ่งเหมาะอย่างยิ่ง

8
อยากจะมีคอนโดสักห้องติดรถไฟฟ้า แน่นอนว่าต้องทำให้ชีวิตดีขึ้นแน่ๆ ไม่ต้องลำบากรถติดนานเป็นชั่วโมง นั่งรถไฟฟ้าไปทำงานก็แสนจะสะดวก มีปาร์ตี้กับเพื่อนก็ไม่ต้องกลัวว่าเมาแล้วขับกลับไม่ถูก รถไฟฟ้าปรื้ดเดียวถึง
แน่นอนล่ะว่าปัจจุบันคอนโดติดรถไฟฟ้าก็มีเต็มไปหมด แถมยังมีราคาถูกๆ ผ่อนสบายกระเป๋า ให้พวกมนุษย์เงินเดือนได้มีโอกาสเป็นเจ้าของได้อย่างง่ายดาย เมื่อเราหาข้อมูลเรียบร้อยแล้ว คอนโดติดรถไฟฟ้าแน่นอนล่ะว่าราคาเฉลี่ยประมาณ 2 ล้านต้นๆแน่นอน ดูเป็นราคาที่พอจะเอื้อมถึงอยู่ แล้วระบบการเงินล่ะ คุณเตรียมความพร้อมไว้หรือยัง งั้นเรามาเตรียมความพร้อมเรื่องระบบการเงินกันดีกว่าค่ะ

รายได้ขั้นต่ำที่เราควรจะต้องมีหากต้องการซื้อคอนโดราคา 2 ล้านบาท มนุษย์เงินเดือนอย่างเราต้องมีรายได้คงที่อย่างน้อยก็ 1 ใน 60 ของราคาคอนโด ตามสูตรคิดง่ายๆ ดังนี้
ราคาคอนโด=เงินเดือนx60
เพราะหลังจากที่เราได้เป็นเจ้าของคอนโดติดรถไฟฟ้าสมใจแล้วล่ะก็ ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ตามอีกเพียบเลยจ้า
ไม่ว่าจะเป็น ค่าส่วนกลาง ค่าน้ำ-ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าทริปกับเพื่อนก๊วนสนิท
ซึ่งถ้าหากมีรายรับที่น้อยเกินไป แล้วต้องผ่อนคอนโดในราคาเกินตัว ก็อาจจะลำบากได้นะจ้ะ
"อัตราค่าผ่อนต่อเดือน"
ถ้าหากเราไม่ได้รวยขนาดซื้อคอนโดด้วยเงินสดแล้วละก็ ก็ต้องมีการผ่อนต่อเดือนใช่มะล่ะ ยิ่งผ่อนเยอะ ก็จะหมดไว
หนี้ก็จะหมดเร็ว แต่ถ้าผ่อนมากไป ก็อาจจะค่าใช้จ่ายไม่พอ รายได้กลายเป็นติดลบอีก

ถ้างั้นเรามาวางแผนการผ่อนชำระให้พอดี กับรายได้ของเรา กรณีที่ไม่มีภาระหนี้สินอื่นๆ นะ
ค่าผ่อนต่อเดือนก็ไม่ควรเกิน 40%ของเงินเดือน ซึ่งตัวเลขนี้เราประมาณการมาจากหลายปัจจัย เช่น การแบ่งใช้ในชีวิตประจำวัน 40-50% และที่ขาดไม่ได้คือควรออมเงินอีกสัก 10-20% เพื่อใช้ในยามเกษียณ หรือลงทุนต่อยอดให้มี Passive Income จะได้มีเงินใช้ในอนาคตนะจ้ะ
"แล้วเงินดาวน์จะเท่าไหร่ดีล่ะ"
ถ้ามีเงินดาวน์มาก แน่นอนเราก็จะผ่อนน้อยลง ผ่อนหมดเร็วขึ้น ก็ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยมาก ประหยัดไปได้เยอะเลยแหละ แต่ถ้ามัวแต่เก็บเงินดาวน์นานไป ระวังจะแก่ก่อนได้อยู่เด้อ

คิดแบบง่ายๆ ว่าเราควรเก็บเงินให้ได้สัก 10% ของราคาเต็ม แล้วก็เอาไปวางดาวน์เลย
ถ้าคิดจะซื้อคอนโด 2 ล้าน เก็บเงินเพื่อดาวน์ให้ได้สัก 2 แสน ก็น่าจะกำลังโอเคนะ
แต่ทั้งนี้เราก็จะต้องดูเงื่อนไขของคอนโดหรือธนาคารด้วย ว่าเค้ามีบังคับขั้นต่ำเท่าไหร่
ถ้าลงเงินดาวน์เพิ่มจะได้ดอกเบี้ยลดไปอีกมากน้อยแค่ไหน ต้องเจรจากับเขาดูก่อนด้วยนะ
"ระยะเวลาการผ่อน"
การผ่อนด้วยระยะเวลายิ่งสั้นก็จะยิ่งดีใช่มั้ยหละ ยิ่งผ่อนนาน ดอกเบี้ยก็จะยิ่งบาน บางคนผ่อนกันไป 30 ปี ดอกเบี้ยดันแพงกว่าตัวคอนโดซะแล้ว แต่การผ่อนให้หนี้ยิ่งหมดเร็ว ค่าผ่อนต่องวดเราก็จะยิ่งเยอะขึ้น อาจจะต้องกินแกลบทุกเดือน  เรามาลองคำนวณเล่นๆกันดูค่ะ ว่า ราคาคอนโด 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 4%ต่อปี
ผ่อน เดือนละ 10,000 บาท
เราต้องจ่ายเป็นเวลาประมาณ 28 ปี
และถ้าเราเพิ่มค่างวดแค่เดือนละ 3,000 บาท
จะลดเวลาในการผ่อนเหลือแค่ 18 ปี !!!

โอ้โห!!! คิดเองก็ตกใจเหมือนกันนะนี่  แค่เพิ่มเงินไปเดือนละแค่ 3,000 บาท เราจะสามารถลดเวลาในการผ่อนลงได้ถึง 10 ปี และถ้ามองในมุมของดอกเบี้ยด้วยแล้วล่ะก็น่าจะประหยัดไปได้อีกประมาณ 5 แสนบาทเลยทีเดียว ว้าวๆ

นอกจากเรื่องการเงินแล้ว ก็อย่าลืมดูอย่างอื่นด้วยนะคะ เช่น  ทำเล คุณภาพ สภาพแวดล้อมต่างๆ สิ่งอำนวยความสะดวก และหากถ้ายังไม่แน่ใจเรื่องหาซื้อคอนโดใหม่ ลองดูไปหลายๆ ที่ก่อน เงินตั้งเป็นล้าน ค่อยๆ ตัดสินใจก็ได้ ถ้าเสียเครดิตการขอสินเชื่อไปแล้ว จะทำอะไรก็ลำบากนะจ้ะเธอ

9
อีกหนึ่งโครงการดีๆ จากอนันดา ไอดีโอ โมบิ อีสต์เกต คอนโดสุดหรูใกล้ BTS บางนา ย่านจราจรคับคั่งหนาแน่นไปหมด แต่มีความสะดวกสบายด้วยการดีไซน์ห้องสุดหรู
อีกทั้งคอนโดยังใกล้กับ สถานีรถไฟฟ้า บางนา ทำให้หมดปัญหากังวลใจด้านการเดินทางของผู้อยู่อาศัยในย่านนี้ไปค่ะ ไม่ว่าจะเดินทางไปช้อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้า
ก็ง่ายสะดวกรวดเร็ว จะไปเส้นทางไหน ไม่กี่นาทีก็ถึงจุดหมาย ไม่ต้องกังวลใจให้รถติด ผิดเวลานัด หรือทำงานสายเลยล่ะค่ะ ส่วนเรื่องของการดีไซน์นำสมัย 

การออกแบบดีไซน์ทางสถาปัตยกรรมและการตกแต่งคอนโดบางนา ด้วยแนวคิดรูปลักษณ์แห่งอนาคต ที่จะทำให้ที่อยู่อาศัยของคุณ โดดเด่นและเป็นเอก
ลักษณ์เหนือระดับกว่าใคร เน้นประโยชน์สูงสุดในการใช้งาน จึงทำให้คอนโดบางนามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งภายนอกและภายในสะท้อนการอยู่อาศัยที่ก้าว
ล้ำนำหน้าอย่างมีพลัง ด้วยรูปแบบของ Dynamic Line

สิ่งอำนวยความสะดวก
Private Green Park สวนขนาดใหญ่ภายในโครงการให้คุณผ่อนคลายกับพื้นที่ สีเขียวกว่า 1,000 ตร.ม.กับพื้นที่สีเขียวกว่า 1,000 ตร.ม.พร้อมด้วย
GREEN PARK LIBRARY ห้องสมุด ท่ามกลางสวนเขียว ให้คุณใช้สมาธิกับหนังสือเล่มโปรดได้อย่างเต็มที่ คอนโดบางนาที่ให้คุณสัมผัสบรรยากาศเงียบสงบและเป็นส่วนตัว สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ Olympic Sixze ยาว 50 ม. พร้อมระบบ Jacuzzi
ให้คุณสัมผัสทุกมุมมองวิวถนนบนสุขุมวิทไกลสุดสายตา ทั้งหมดนี้คอนโดบางนา มีหนึ่งเดียวที่ไม่เหมือนใครคือ Sky Deck & Sky Lounge รับวิวแม่น้ำและวิวเมืองชั้น 30
สัมผัสทุกมุมมองที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งได้ที่คอนโดบางนา




หน้า: [1]