แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - airrii

หน้า: [1] 2 3 ... 6
1
ในยุคปัจจุบัน อ่างล้างมือและก๊อกน้ำกลายเป็นอุปกรณ์สำคัญในบ้าน สำนักงาน โรงเรียน ร้านอาหาร รวมถึงสถานที่สาธารณะต่าง ๆ การเลือกอ่างล้างมือและก๊อกน้ำที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยให้การล้างมือเป็นไปอย่างสะอาดและปลอดภัย แต่ยังสร้างความสะดวกสบายในการใช้งานอีกด้วย บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับเคล็ดลับในการเลือกอ่างล้างมือและก๊อกน้ำให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
ทำความรู้จักกับอ่างล้างมือและก๊อกน้ำ

    อ่างล้างมือ: เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับล้างมือและทำความสะอาดบริเวณต่าง ๆ อ่างล้างมือมีให้เลือกหลายแบบ เช่น อ่างแขวนผนัง อ่างวางบนเคาน์เตอร์ หรืออ่างฝังเคาน์เตอร์
    ก๊อกน้ำอ่างล้างมือ: เป็นอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับแหล่งน้ำ เพื่อปล่อยน้ำออกมาสู่ในอ่าง ควรเลือกก๊อกน้ำที่ใช้งานง่าย ทนทาน และดูแลรักษาได้ง่าย



เคล็ดลับเลือกอ่างล้างมือที่เหมาะสม

    วัสดุที่ทนทานและทำความสะอาดง่าย
    ควรเลือกอ่างที่ทำจากเซรามิก, คอนกรีต หรือวัสดุสแตนเลส ซึ่งเป็นวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน และดูแลรักษาง่าย

    ขนาดและดีไซน์ที่เหมาะสมกับพื้นที่
    คำนวณพื้นที่ใช้งานเพื่อเลือกขนาดอ่างอุปกรณ์ห้องน้ำที่พอดี ไม่เล็กเกินไปจนใช้งานไม่สะดวก และไม่ใหญ่เกินพื้นที่

    ดีไซน์เข้ากับสไตล์ของพื้นที่
    เลือกดีไซน์ที่กลมกลืนกับการตกแต่ง เช่น โมเดิร์น คลาสสิก หรือมินิมัล ให้ความรู้สึกสวยงามและลงตัว

เคล็ดลับเลือกก๊อกน้ำอ่างล้างมือ

    ฟังก์ชันการใช้งาน
    เลือกก๊อกน้ำที่มีฟังก์ชันปรับอุณหภูมิและแรงดันน้ำได้ง่าย เช่น ก๊อกน้ำผสมอุณหภูมิแบบกดเดียว

    วัสดุและคุณภาพ
    ควรเลือกก๊อกน้ำที่ทำจากทองเหลืองหรือสแตนเลส เพื่อความทนทาน ป้องกันสนิม และง่ายต่อการทำความสะอาด

    การติดตั้งและการดูแลรักษา
    เลือกก๊อกน้ำที่สามารถติดตั้งง่าย พร้อมระบบกันรั่วซึม และดูแลรักษาได้ง่าย

คำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัย
    ควรทำความสะอาดอ่างล้างมือและก๊อกน้ำอ่างล้างมือเป็นประจำ เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรค
    เลือกก๊อกน้ำที่มีระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ (sensor) เพื่อความสะดวกและสุขอนามัยที่ดีขึ้น
    ตรวจสอบระบบท่อน้ำและก๊อกน้ำเป็นระยะ เพื่อป้องกันการรั่วซึมและลดการใช้น้ำอย่างสิ้นเปลือง

การเลือกอ่างล้างมือและก๊อกน้ำที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การล้างมือเป็นไปอย่างสะดวก สะอาด และปลอดภัย ควรพิจารณาจากวัสดุ การดีไซน์ ฟังก์ชันการใช้งาน รวมถึงความง่ายในการดูแลรักษา เพื่อให้ได้อุปกรณ์ที่ตอบโจทย์และใช้งานได้นาน ค้นหาอ่างล้างมือและก๊อกน้ำคุณภาพดีที่เหมาะสมกับพื้นที่และความต้องการของคุณ เพื่อความสุขและสุขอนามัยที่ดีในทุกวัน

2
การวางแผนเกษียณเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ชีวิตในวัยเกษียณเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย การใช้ประกันสุขภาพและสิทธิ์ลดหย่อนภาษีเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินและสุขภาพของคุณในอนาคต มาดูกันว่าควรทำอะไรบ้างเพื่อวางแผนเกษียณอย่างมีประสิทธิภาพ



1. วางแผนการเงินเพื่อการเกษียณ
    เริ่มออมเงินตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อสะสมทุนสำหรับอนาคต
    เลือกแผนการออมที่เหมาะสม เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
    คำนวณเป้าหมายเงินเกษียณให้ชัดเจน เพื่อวางแผนการออมและลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

2. เลือกประกันสุขภาพเพื่อความคุ้มครองในวัยเกษียณ
    เลือกประกันสุขภาพที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายสูง เช่น ค่ารักษาในโรงพยาบาล ค่าผ่าตัด หรือโรคร้ายแรง
    ควรเลือกแผนประกันที่สามารถต่ออายุได้ง่ายและคุ้มค่ากับเบี้ยประกัน
    ตรวจสอบความคุ้มครองและเงื่อนไขของกรมธรรม์อย่างละเอียด เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต

3. สิทธิประโยชน์ด้านภาษีเพื่อการวางแผนเกษียณ
    ใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันสุขภาพ ลดหย่อนภาษี และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
    รายละเอียดสิทธิ์ลดหย่อนภาษีในแต่ละปี ควรตรวจสอบตามประกาศของกรมสรรพากร
    การวางแผนภาษีอย่างถูกต้อง จะช่วยให้คุณเหลือเงินมากขึ้นในวัยเกษียณ

4. คำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อการวางแผนเกษียณที่ประสบผลสำเร็จ
    เรียนรู้และติดตามข้อมูลข่าวสารทางด้านการเงินและประกัน
    ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและประกันเพื่อวางแผนอย่างมืออาชีพ
    ปรับแผนตามสถานการณ์และเป้าหมายชีวิตของคุณอย่างต่อเนื่อง


การวางแผนเกษียณที่ดีต้องเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ การเลือกประกันสุขภาพที่เหมาะสมและใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีอย่างเต็มที่ จะช่วยให้คุณมีความมั่นคงทางการเงินและสุขภาพในอนาคตอย่างยั่งยืน ซื้อประกันออนไลน์



3
หากต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมหมอกระดูกและข้อ เพื่อดูแลรักษาอาการบาดเจ็บ ข้อเสื่อม หรือปัญหาเกี่ยวกับกระดูกและข้อ ศัลยแพทย์กระดูกและข้อเป็นคำตอบที่ควรพิจารณา ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการรักษาโรคเกี่ยวกับกระดูกและข้อ ศัลยแพทย์เหล่านี้สามารถช่วยให้คุณกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติและมีความสุขอีกครั้ง



ศัลยแพทย์กระดูกและข้อคือใคร?
ศัลยแพทย์กระดูกและข้อเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการวินิจฉัยและการรักษาโรคและอาการบาดเจ็บของกระดูก ข้อ กระดูกสันหลัง และเนื้อเยื่อรอบข้าง โดยใช้เทคนิคการผ่าตัด การฉีดรักษา การฟื้นฟูสมรรถภาพ และการดูแลหลังผ่าตัด เพื่อให้ผู้ป่วยฟื้นฟูสมรรถภาพได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
บริการของศัลยแพทย์กระดูกและข้อ

    การรักษาโรคข้อเสื่อมและโรคข้ออักเสบ
    การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าและข้อสะโพก
    การซ่อมแซมกระดูกหักและอุบัติเหตุ
    การรักษาอาการเจ็บปวดจากหมอนรองกระดูกเคลื่อน
    การดูแลฟื้นฟูสมรรถภาพหลังผ่าตัด
    การตรวจวินิจฉัยและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหากระดูกและข้อ

เหตุผลที่ควรเลือกศัลยแพทย์กระดูกและข้อมืออาชีพ
    หมอศัลยกรรมที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญสูง
    เทคโนโลยีทันสมัยในการวินิจฉัยและรักษา
    คำแนะนำและการดูแลหลังผ่าตัดที่ดีเยี่ยม
    การรักษาที่เน้นความปลอดภัยและผลลัพธ์ระยะยาว

คำแนะนำก่อนเข้ารับการรักษา
    นัดหมายพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษา
    แจ้งประวัติการเจ็บป่วยและข้อมูลทางการแพทย์ให้ครบถ้วน
    ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

4

          โรคตับอาการ หรือ ไวรัสตับอักเสบ (Hepatitis) คือ การที่ตับมีอาการอักเสบ และติดเชื้อ หากพูดถึงไวรัสตับอักเสบ คนส่วนใหญ่คงคุ้นหูกับ “โรคไวรัสตับอักเสบบี” เพราะพบบ่อยในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้านอย่าง AEC แต่ความจริงแล้วไวรัสตับอักเสบมีหลายสายพันธุ์ ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบเอ บี ซี ดี และอี ซึ่งไวรัสตับอักเสบดี และอี พบได้น้อยมากในปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตามโรคไวรัสตับอักเสบ ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุของโรคตับแข็ง และมะเร็งตับ จึงควรได้รับการตรวจรักษา เพื่อป้องกันการเกิดโรคดังกล่าว
         


 การติดเชื้อ และอาการของผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบ
การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ :
    ติดจากการทานอาหารจากผู้ป่วย
    การล้างมือไม่สะอาดหลังเข้าห้องน้ำ
    การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ
    ดื่มน้ำที่มีเชื้อแฝงอยู่

*** ไวรัสตับอักเสบเอ จะไม่ติดต่อทางน้ำลาย และปัสสาวะ ***
           อาการผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบเอ : เป็นไข้ตัวร้อน ร่างกายอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน แน่นบริเวณชายโครงด้านขวา ท้องร่วง อุจจาระสีซีด ปัสสาวะสีเข้ม และมีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง
ไวรัสตับอักเสบบี

การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี :
    การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อโดยไม่สวมถุงยางอนามัย
    การใช้เข็มฉีดยา เข็มสักตามตัว และการเจาะหู รวมถึงของใช้ส่วนตัว เช่น แปรงสีฟัน มีดโกน และที่ตัดเล็บร่วมกับผู้อื่น
    การติดเชื้อขณะคลอดจากแม่ที่มีเชื้อ (ถ้าแม่มีเชื้อลูกมีโอกาสได้รับเชื้อ 90%)
    การสัมผัสเลือด น้ำคัดหลั่ง โดยผ่านเข้าทางบาดแผล
*** ไวรัสตับอักเสบบี จะไม่ติดต่อทางลมหายใจ อาหารหรือน้ำดื่ม การให้นม และการจูบกัน (ถ้าปากไม่มีแผล) ***

อาการผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบบี : แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ
    ระยะเฉียบพลัน ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการภายใน 1-4 เดือน หลังติดเชื้อ
        - มีไข้ ตัวเหลือง ตาเหลือง ปวดท้องด้านชายโครงขวา
        - อาการอื่นๆ ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย เป็นผื่น ปวดข้อ

           อาการตับอักเสบระยะเฉียบพลันจะดีขึ้นใน 1-4 สัปดาห์ และจะหายเป็นปกติเมื่อร่างกายสามารถกำจัดและควบคุมเชื้อไวรัสตับอักเสบได้ ซึ่งมักใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือน แต่ผู้ป่วยส่วนน้อย (5-10%) ไม่สามารถกำจัดเชื้อออกจากร่างกายได้หมด ทำให้ผู้ป่วยมีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง

    ระยะเรื้อรัง แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
        พาหะ คือ ผู้ป่วยที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีในร่างกาย ซึ่งผู้ป่วยจะไม่แสดงอาการแต่สามารถแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้ ดังนั้นการแต่งงานหรือมีเพศสัมพันธ์ควรตรวจหาไวรัสตับอักเสบบีก่อน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ แต่ผู้ป่วยที่เป็นพาหะผลการตรวจเลือดจะพบค่าการทำงานของตับอยู่ในเกณฑ์ปกติ
        ตับอักเสบเรื้อรัง คือ ผู้ป่วยที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีในร่างกาย และตรวจเลือดพบค่าการทำงานของตับผิดปกติ (การติดเชื้อแบบเรื้อรังมักพบบ่อยในเด็กที่ติดเชื้อตั้งแต่แรกเกิด)
        ผู้ป่วยส่วนมากมักไม่แสดงอาการ แต่ในบางรายอาจมีอาการอ่อนเพลียหรือเบื่ออาหาร

ไวรัสตับอักเสบซี

           การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี : สามารถติดต่อกันทางเลือดหรือการมีเพศสัมพันธ์คล้ายกับไวรัสตับอักเสบบี แต่ไม่สามารถติดต่อกันได้ผ่านการให้นมบุตร และการไอ จามรดกัน
           อาการผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซี : อาการของผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบจะมีการคล้ายกัน คือ ตัวเหลือง ตาเหลือง(หรือที่เรียกกันว่าดีซ่าน) มีปัสสาวะสีเข้ม อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ปวดชายโครงขวา ปวดกล้ามเนื้อและปวดข้อ

           ทั้งนี้การที่จะแยกว่าอาการตับอักเสบเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดใด ต้องทำการตรวจร่างกายโดยอายุรแพทย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ ตรวจหาเชื้อไวรัสและภูมิคุ้มกัน ภูมิที่แสดงถึงการติดเชื้อ ต่อไวรัสตับอักเสบชนิดต่างๆ และสามารถป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อได้ โดยการไม่นำตัวเองไปเสี่ยงต่อการติดเชื้อตามที่กล่าวมาข้างต้น และฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไว้รัสตับอักเสบชนิดต่างๆ

5
นี่คือคำถามที่สร้างความสงสัยให้ใครหลายคนทันที โดยเฉพาะคนที่กำลังจะตัดสินใจทำประกันสุขภาพ หลังจากรู้ว่าสมาคมประกันชีวิตไทยได้กำหนดหลักเกณฑ์ ‘ส่วนจ่ายร่วม’ หรือ ‘Copayment’ ในปีต่อ เป็นเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันสุขภาพฉบับใหม่ที่เริ่มคุ้มครองตั้งแต่ 20 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป

เงื่อนไข Copayment 3 กรณีที่ต้องรู้
เราทุกคนต่างรู้กันดีว่า ความเจ็บป่วยและอุบัติเหตุเป็นเรื่องที่ไม่อาจคาดเดาได้ การมีประกันสุขภาพที่คุ้มครองครอบคลุมจึงช่วยกระจายความเสี่ยงเรื่องค่ารักษาพยาบาลไม่ให้เราต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเอง แต่ปัญหาที่ผ่านมา คนส่วนใหญ่มักเลือกแอดมิท (Admit) หรือนอนค้างคืนที่โรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยในจากอาเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ส่งผลให้อัตราการเคลมค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นเกินกว่าความเป็นจริง

กรณี 1 : การเคลมค่ารักษาผู้ป่วยใน (IPD) จากการเจ็บป่วยเล็กน้อย (Simple Diseases) หากเข้าเงื่อนไขทั้ง 3 ข้อนี้จะต้องร่วมจ่าย 30% ทุกค่ารักษาพยาบาลในปีกรมธรรม์ถัดไป
    จำนวนการเคลมมากกว่าหรือเท่ากับ 3 ครั้ง/ปีกรมธรรม์
    อัตราเคลมมากกว่าหรือเท่ากับ 200% ของเบี้ยประกันสุขภาพ อาการเจ็บป่วยเล็กน้อย หมายถึง อาการที่ไม่จำเป็นต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล อาการไม่รุนแรง เพราะเป็นอาการเจ็บป่วยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน รักษาง่ายและหายได้เองรักษาได้ด้วยยาสามัญประจำบ้าน หรือสามารถฟื้นตัวจากอาการป่วยได้เองด้วยภูมิคุ้มกันของร่างกาย ไม่มีอาการภาวะแทรกซ้อน

กรณี 2 : การเคลมค่ารักษาผู้ป่วย (IPD) จากการเจ็บป่วยโรคทั่วไป (ไม่รวมโรคร้ายแรงและการผ่าตัดใหญ่) หากเข้าเงื่อนไขทั้ง 3 ข้อนี้จะต้องร่วมจ่าย 30% ทุกค่ารักษาพยาบาลในปีกรมธรรม์ถัดไป
    จำนวนการเคลมมากกว่าหรือเท่ากับ 3 ครั้ง/ปีกรมธรรม์ อัตราเคลมมากกว่าหรือเท่ากับ 400% ของเบี้ยประกันสุขภาพ
    การเคลมค่ารักษาพยาบาลอาการเจ็บป่วยโรคทั่วไป หมายถึง โรคใด ๆ ที่ไม่ใช่การผ่าตัดใหญ่ โรคร้ายแรง และไม่ใช่อาการเจ็บป่วยเล็กน้อย (Simple Diseases) ให้นับรวมเป็นการเจ็บป่วยทั่วไปทั้งหมด



กรณี 3 : เข้าเงื่อนไขทั้งกรณี 1 และกรณี 2 จะต้องร่วมจ่าย 50% ทุกค่ารักษาพยาบาลในปีกรมธรรม์ถัดไป
ถึงตรงนี้ หลายคนอาจสงสัยเพิ่มอีกว่า ถ้าหากเข้าเงื่อนไข Copayment แล้ว จะมีผลตลอดไปในทุกปีกรมธรรม์หรือไม่ ?
คำตอบคือ Copayment ไม่ใช่การจ่ายร่วมตั้งแต่บาทแรกและไม่ใช่เงื่อนไขถาวร จะขึ้นอยู่กับการเคลมค่ารักษาพยาบาลของผู้ถือกรมธรรม์ประกันสุขภาพ โดยบริษัทประกันจะพิจารณาใหม่ในทุก ๆ รอบปีกรมธรรม์ หากปีกรมธรรม์ใดไม่เข้าเงื่อนไข Copayment ทุกกรณี ผู้ถือกรมธรรม์ประกันสุขภาพก็ไม่ต้องจ่ายร่วมในปีกรมธรรม์ถัดไปนั่นเอง

จ่ายร่วมแต่มั่นคงระยะยาว
ขอย้ำอีกที หากเข้าใจเงื่อนไข Copayment อย่างครบถ้วน ก็ไม่มีอะไรน่ากลัวหรือน่ากังวล ถึงแม้ว่าจะเป็นหลักเกณฑ์ใหม่ที่ทำให้ผู้ถือกรมธรรม์ประกันสุขภาพต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลบางส่วน แต่ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนทันที เพราะขึ้นอยู่กับการเคลมที่ต้องเข้าเงื่อนไขเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถบริหารจัดการได้ เพื่อไม่ให้การเคลมค่ารักษาพยาบาลเข้าเงื่อนไข Copayment
 
หลักเกณฑ์ ‘ส่วนจ่ายร่วม’ หรือ ‘Copayment’ นี้ ยังช่วยสร้างระบบประกันสุขภาพที่มั่นคง ซึ่งส่งผลดีกับทุกคนในระยะยาวทั้ง สร้างความตระหนักรู้ในการใช้บริการด้านการแพทย์ เพราะ Copayment ทำให้ผู้ถือกรมธรรม์ประกันสุขภาพจะคิดไตร่ตรองมากขึ้นว่าอาการเจ็บป่วยที่กำลังเป็นอยู่นั้นรุนแรงมากพอที่จะต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือไม่ และใช้บริการด้านการแพทย์ตามความจำเป็น พร้อมกับหันมาใส่ใจและดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอมากขึ้น

รวมถึง สร้างความยั่งยืนให้ระบบประกันสุขภาพ เพราะหนึ่งในปัญหาที่ทำให้คนจำนวนมากยกเลิกการต่อสัญญากรมธรรม์ประกันสุขภาพ คือ จ่ายเบี้ยประกันต่อไปไม่ไหว Copayment จึงช่วยลดความเสี่ยงและแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ เพราะในเมื่อบริษัทประกันไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่สูงเกินจำเป็น ก็จะสามารถกำหนดเบี้ยประกันสุขภาพให้อยู่ในระดับที่สมเหตุสมผล เพิ่มโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงประกันสุขภาพได้มากขึ้นด้วย

ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งสำคัญของเรื่องนี้ คือ การทำความเข้าใจเงื่อนไขต่าง ๆ อย่างละเอียด และเลือกแผนประกันสุขภาพที่เหมาะสมกับความต้องการและความสามารถในการชำระเบี้ยประกัน เพราะจะทำให้ได้รับความคุ้มครองและผลประโยชน์จากประกันสุขภาพที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของตนเอง

อ้างอิง
    สมาคมประกันชีวิตไทย. (มกราคม 2568). รู้ทันอย่างไม่ตระหนกกับ “ส่วนจ่ายร่วม (Copayment) ในเงื่อนไขการต่ออายุกรณีครบรอบปีกรมธรรม์ประกันภัย”. วารสารประกันชีวิต, 013/2568, 2-13.


6
โถสุขภัณฑ์เป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญภายในห้องน้ำ การเลือกรูปทรงของ ขนาดชักโครก โถสุขภัณฑ์จึงสำคัญทั้งในแง่ของการใช้งาน และดีไซน์ที่สะท้อนสไตล์ของคุณ

เมื่อพูดถึงห้องน้ำ สิ่งแรกที่คนนึกถึงมักเป็น “โถสุขภัณฑ์” หรือ ทั่วไปเรียกว่า ขนาดชักโครก เพราะเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ขาดไม่ได้ ไม่ได้เพียงแค่ใช้เพื่อการขับถ่ายหรือทำธุระส่วนตัวเท่านั้น หากแต่ยังเป็นสิ่งที่ช่วยยกระดับพื้นที่ห้องน้ำของคุณให้สวยงามมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ นอกจากจะเลือกว่าควรใช้โถสุขภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีด้านความสะอาดเพื่อสุขอนามัยที่ดีแล้วนั้น การเลือกรูปทรงของโถสุขภัณฑ์ก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน มาดูว่าโถสุขภัณฑ์โดยทั่วไปนั้นมีรูปทรงอย่างไรบ้าง และแต่ละทรงเหมาะกับสไตล์ห้องน้ำแบบไหน



รูปทรงของโถสุขภัณฑ์ มีอะไรบ้าง
ในความเป็นจริงแล้ว โถสุขภัณฑ์ หรือ โถชักโครก มีอยู่ด้วยกันหลากหลายรูปทรง แต่โดยทั่วไปมักแบ่งออกเป็น 3 รูปทรงใหญ่ ๆ ซึ่งแต่ละทรงนั้น มีจุดดีและจุดเด่นแตกต่างกันออกไป ดังนี้

1. โถสุขภัณฑ์รูปทรงอีลองเกต (Elongated)
สุขภัณฑ์รูปทรงอีลองเกต มีลักษณะเป็นทรงเรียวยาว นับเป็นหนึ่งในทรงที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะเป็นทรงพื้นฐานของโถสุขภัณฑ์ มีให้เลือกด้วยกันหลากหลายรุ่น หลากหลายดีไซน์ สามารถเลือกติดตั้งคู่กับฝารองนั่งอัตโนมัติ WASHLET เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและสุขอนามัยภายในห้องน้ำได้ โดยมีจุดที่ต้องคำนึงถึงคือ หากเป็นโถสุขภัณฑ์ทรงอีลองเกต (ทรงยาว) จำเป็นต้องมีระยะรูยึดน็อตที่โถสุขภัณฑ์เพื่อติดตั้งฝารองนั่ง 14 ซม. และระยะจากรูยึดน็อตของฝารองนั่งด้านใดด้านหนึ่งถึงหม้อน้ำเป็นระยะอย่างน้อย 5 ซม. ก็จะสามารถใส่คู่กับฝารองนั่งอัตโนมัติได้พอดี

ทั้งนี้ โถสุขภัณฑ์ทรงอีลองเกต เหมาะสำหรับดีไซน์ห้องน้ำทั่วไป ติดตั้งได้ทั้งห้องน้ำขนาดเล็ก มีพื้นที่จำกัด ไปจนถึงห้องน้ำขนาดกว้าง เพราะใช้พื้นที่ในการติดตั้งค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับทรงอื่น ๆ โดยหากห้องน้ำของคุณเป็นสไตล์โมเดิร์น แต่ยังมีความผสมผสานกลมกลืนกับธรรมชาติ ก็สามารถเลือกใช้สุขภัณฑ์อัจฉริยะรูปทรงอีลองเกตได้ ตอบโจทย์ทั้งเรื่องของดีไซน์ที่สวยงาม และฟังก์ชันอัตโนมัติที่ช่วยลดการสัมผัสตัวสุขภัณฑ์ เข้ากับไลฟ์สไตล์ วิถีชีวิตแบบ New Normal

2. โถสุขภัณฑ์รูปทรง D (D-Shape)
สุขภัณฑ์ทรงนี้จะต่างจากทรงอีลองเกตเล็กน้อย ตรงที่จะมีความกว้างมากกว่า สามารถนั่งลงบนโถสุขภัณฑ์ได้อย่างเต็มที่ ลักษณะรูปทรงคล้ายตัวอักษรภาษาอังกฤษตัว D ซึ่งหากเป็นโถสุขภัณฑ์ธรรมดานั้น สามารถเลือกติดตั้งคู่กับฝารองนั่งอัตโนมัติ WASHLET ได้เช่นเดียวกับทรงอีลองเกต แต่จำเป็นต้องพิจารณาถึงขนาดของฝารองนั่ง รวมถึงฝาอัตโนมัติต้องเป็นทรง D เช่นเดียวกัน
สำหรับสุขภัณฑ์รูปทรง D-Shape นั้นจะมีดีไซน์โค้งมน เรียบหรู ช่วยให้ห้องน้ำของคุณดูนุ่มนวล ไม่ขรึมมากจนเกินไปนัก เข้ากันได้ดีกับกระเบื้องห้องน้ำโทนสีอ่อน เช่น สีครีม หรือ สีเบจ จะช่วยให้ห้องน้ำของคุณดูสว่าง สดใส มองแล้วรู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น

3. โถสุขภัณฑ์รูปทรงสแควร์ อีลองเกต (Square Elongated)
สำหรับใครที่อยากมองหาความแปลกใหม่ นอกเหนือไปจากทรงกลมมนที่คุ้นเคย โถสุขภัณฑ์รูปทรงสแควร์ อีลองเกต อาจตอบโจทย์ที่คุณมองหา เนื่องจากมีดีไซน์โฉบเฉี่ยว เหลี่ยมมุมของสุขภัณฑ์ ช่วยยกระดับให้พื้นที่ห้องน้ำของคุณดูโดดเด่น มีสไตล์มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหากติดตั้งคู่กับพื้นกระเบื้องห้องน้ำลายก้างปลา ก็จะทำให้ภาพรวมของห้องดูกลมกลืน เป็นไปในแนวทางเดียวกัน แต่ก็ยังคงมีลูกเล่นที่ทำให้ไม่น่าเบื่อเกินไปนัก สุขภัณฑ์ทรงสแควร์ อีลองเกต มีจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือมีพื้นที่ฝารองนั่งค่อนข้างกว้าง นั่งสบาย เหมาะสำหรับฝารองนั่งชักโครก ผู้สูงอายุ และผู้ที่ชอบใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนาน ๆ แต่ควรติดตั้งในห้องน้ำที่มีขนาดใหญ่ เนื่องจากจำเป็นต้องใช้พื้นที่สำหรับติดตั้งมากกว่ารูปทรงก่อนหน้านี้

7
ปัญหาริ้วรอยเกิดจากอะไร

ริ้วรอยเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้ที่มีอายุ โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่วัยกลางคนขึ้นไป สาเหตุของการเกิดริ้วรอยมีหลายประการ อาทิเช่น
    การลดลงของคอลลาเจนและอีลาสติน: เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ร่างกายผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินได้น้อยลง ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่นและเกิดริ้วรอยง่ายขึ้น
    แสงแดดและรังสี UV: แสงแดดเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ รังสี UV ทำลายเนื้อเยื่อผิวและเร่งกระบวนการเกิดริ้วรอย
    พฤติกรรมการใช้ชีวิต: การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ การนอนหลับไม่เพียงพอ และความเครียด สามารถส่งผลต่อสุขภาพผิวและทำให้เกิดริ้วรอยเร็วขึ้น
    การแสดงอารมณ์บ่อย: การแสดงสีหน้าบ่อย เช่น การหัวเราะ หงุดหงิด หรือเครียด เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเส้นริ้วบนใบหน้า
    พันธุกรรม: ปัจจัยด้านพันธุกรรมก็มีผลต่อความยืดหยุ่นของผิวและการเกิดริ้วรอย



วิธียกกระชับหน้าให้แลดูอ่อนเยาว์

1. ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว, การทำทรีทเม้นท์, โบท็อก ลดริ้วรอย, ฟิลเลอร์ Filler
ผลิตภัณฑ์สูตรลดริ้วรอย ควรมีคุณสมบัติในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ต้านอนุมูลอิสระ และช่วยผลัดเซลล์ผิว ซึ่งส่วนผสมที่นิยมใช้กันได้แก่ เรตินอยด์ (Retinoids), วิตามินซี (Ascorbic acid), อัลฟา ไฮดรอกซี แอซิด (AHA), ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide), โคเอนไซม์ คิวเทน (Coenzyme Q10), และกรดไฮยาลูโรนิค

2.การทำหัตการด้วยเครื่องมือแพทย์
   
2.1 Exilis Ultra 360
Exilis Ultra 360 คือ การส่งคลื่นความร้อนที่มีความปลอดภัยสูงไปสู่ชั้นผิวหนังเรียกได้ว่าเป็น NEW Model ที่สามารถผสมผสาน ระหว่าง พลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง (Monopolar RF) และ คลื่นเสียง Ultrasound เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้การส่งพลังงานสามารถกระจายได้อย่างทั่วถึง ซึ่ง Exilis Ultra 360 จะส่งผ่านพลังงาน 2 ชนิดเข้าไปกระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจน รวมทั้งทำให้คอลาเจนใต้ผิวแข็งแรง ช่วยให้ผิวบริเวณที่มีริ้วรอยกระชับได้
   
2.2 Ulthera
วิธีลดริ้วรอยด้วย Ulthera เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยในการยกกระชับผิวหน้า ปัจจุบันเริ่มเป็นที่คุ้นเคยมากขึ้น โดยการทำงานของ Ulthera จะไม่ต้องฉีดหรือใช้เข็ม ทำงานโดยใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ที่ยิงเข้าไปใต้ชั้นผิว เหมาะกับคนที่ต้องการปรับโครงสร้างหน้าและมีริ้วรอยเล็ก ๆ ช่วย ลดริ้วรอย แก้ไขความหย่อนคล้อยและเพิ่มความกระชับให้กับบริเวณผิวหน้า
   
3.3. New Doublo 2.0
New Doublo 2.0 คือ เครื่องมือในการยกกระชับผิว ที่มาพร้อมกับ Synergy Effect เป็นการรวม 2 พลังงานสำคัญในการกระตุ้นคอลลาเจน ยกกระชับผิว ด้วย คลื่นเสียง - MFU (Micro Focused Ultrasound) และ คลิ่นวิทยุ - RF (Redio Frequency) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่มีเฉพาะเครื่อง Doublo 2.0 เครื่องแรกและเครื่องเดียวเท่านั้น

ริ้วรอยเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นตามวัยและปัจจัยเสริมต่าง ๆ ซึ่งสามารถป้องกันและบำรุงรักษาได้ด้วยวิธีการดูแลผิวอย่างเหมาะสม รวมถึงการเลือกใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อยกกระชับหน้าให้ดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดีขึ้น หากสนใจวิธีการดูแลและฟื้นฟูผิว ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกแนวทางที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

8
มะเร็งรังไข่และมะเร็งปากมดลูกเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญในกลุ่มผู้หญิง อาการมะเร็ง รังไข่ สามารถป้องกันและตรวจพบได้แต่เนิ่นๆ หากเข้าใจอาการและการตรวจคัดกรองอย่างถูกต้อง บทความนี้จะชี้แนะข้อมูลสำคัญเพื่อให้คุณดูแลสุขภาพของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ



อาการของมะเร็งรังไข่
มะเร็งรังไข่มักมีอาการที่ไม่ชัดเจนในระยะแรก แต่บางอาการที่อาจบ่งบอกถึงความเสี่ยง ได้แก่:

    - ปวดท้องน้อยหรือหลัง
    - ความรู้สึกอึดอัดหรือเต็มในช่องท้อง
    - การเปลี่ยนแปลงของการมีประจำเดือน
    - การเบื่ออาหาร น้ำหนักลดหรือเพิ่มโดยไม่ทราบสาเหตุ
    - ความรู้สึกป่องหรือแน่นท้องเป็นเวลานาน
    - ความรู้สึกอยากปัสสาวะบ่อยหรือไม่สบายขณะปัสสาวะ

หากคุณพบอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและดูแลรักษาอย่างเหมาะสม

ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
มะเร็งปากมดลูกเป็นหนึ่งในมะเร็งที่สามารถป้องกันได้ด้วยการตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งประกอบด้วย:

    - การตรวจ Pap Smear: เป็นการเก็บตัวอย่างเซลล์จากปากมดลูกเพื่อตรวจหาเซลล์ผิดปกติ
    - การตรวจ HPV: ตรวจหาเชื้อไวรัส HPV ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งปากมดลูก

แนะนำให้ผู้หญิงเริ่มตรวจคัดกรองตั้งแต่อายุ 21 ปี และทำซ้ำทุกปี หรือตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อการป้องกันและการรักษาแต่เนิ่นๆ
เคล็ดลับดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันมะเร็ง

    - รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และสมดุล
    - ออกกำลังกายเป็นประจำ
    - หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก
    - เข้ารับการตรวจคัดกรองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
    - สังเกตอาการผิดปกติและไปพบแพทย์ทันทีหากมีความกังวล

การรู้จักอาการของมะเร็งรังไข่และการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลสุขภาพของผู้หญิงอย่างมีประสิทธิภาพ การตรวจคัดกรองเป็นสิ่งที่ง่ายและสามารถช่วยชีวิตได้ หากคุณใส่ใจและปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ คุณจะสามารถลดความเสี่ยงและดูแลตัวเองให้ปลอดภัยจากโรคมะเร็งในระยะยาว

9
ห้องน้ำเป็นพื้นที่สำคัญที่ไม่เพียงแต่ใช้สำหรับทำความสะอาดร่างกายเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ที่ช่วยให้เราผ่อนคลายและรีเฟรชตัวเองในแต่ละวัน การออกแบบห้องน้ำให้ดีและเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างบรรยากาศที่สงบ สบาย และเติมเต็มความสุขในการใช้งาน ร่วมทำความรู้จักกับแบบห้องน้ำที่ดี ที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย พร้อมเคล็ดลับการออกแบบและตกแต่งให้เหมาะสมกับความต้องการ



แบบห้องน้ำที่ดี ควรมีคุณสมบัติอะไรบ้าง
    ความเป็นระเบียบ และการใช้งานที่สะดวกสบาย
จัดเก็บของใช้อย่างเป็นระเบียบ ไม่ให้รกสายตา คือการจัดระเบียบสิ่งของให้เข้าที่เข้าทาง และซ่อนสิ่งของที่ไม่จำเป็นให้พ้นจากสายตา เพื่อให้บ้านดูสะอาดตาและเป็นระเบียบ
การแบ่งโซนเปียกและแห้ง ห้องน้ำควรมีการแยกโซนเปียก (เช่น ฝักบัว, อ่างอาบน้ำ) และโซนแห้ง (เช่น โถสุขภัณฑ์, อ่างล้างหน้า) ที่แยกจากกันอย่างชัดเจน
การระบายอากาศ ห้องน้ำควรมีระบบระบายอากาศที่ดีเพื่อป้องกันกลิ่นอับ และความชื้นสามารถทำช่องระบายอากาศติดตั้งพัดลมดูดอากาศ หรือมีหน้าต่างที่ให้แสงสว่างส่องเข้าถึง มีพื้นที่วางอุปกรณ์และของใช้ที่ใช้งานได้ง่าย

    การเลือกใช้วัสดุที่ปลอดภัย และทนทาน
        กระเบื้องกันลื่นสำหรับพื้นที่ออกแบบมาเพื่อลดความเสี่ยงของการลื่นไถลและอุบัติเหตุจากการลื่นล้ม โดยมีพื้นผิวหยาบกว่ากระเบื้องทั่วไป เหมาะสำหรับปูพื้นในบริเวณที่เสี่ยงต่อการเปียก
        วัสดุที่ทนต่อความชื้นและเชื้อรา ควรเป็นวัสดุที่ดูดซึมน้ำต่ำหรือกันน้ำได้ กระเบื้องพอร์ซเลน กระเบื้องแกรนิต กระเบื้องหินชนวน และผนัง PVC รวมถึงฝ้าที่ทำจากยิปซั่มกันชื้น หรือไฟเบอร์ซีเมนต์

    การติดตั้งอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผ่อนคลาย
        อ่างอาบน้ำหรืออ่างจากุซซี่ เป็นอ่างอาบน้ำที่ติดตั้งเครื่องอัดอากาศ เพื่อให้สามารถปล่อยอากาศออกมาให้เป็นเหมือนเครื่องนวด
        ฝักบัว Rain Shower ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและเหมือนได้อาบน้ำกลางธรรมชาติ น้ำไหลลงบนร่างกายอย่างนุ่มนวลและทั่วถึง ทำให้รู้สึกสดชื่นและมีชีวิตชีวามากขึ้น
ที่ฉีดชำระอัตโนมัติ (automatic bidet) คืออุปกรณ์ที่ติดตั้งกับฝารองนั่งชักโครก ทำหน้าที่ฉีดน้ำเพื่อทำความสะอาดหลังการขับถ่าย โดยมีระบบควบคุมอุณหภูมิและแรงดันน้ำที่สามารถปรับได้

    การใช้สี และแสงให้เหมาะสม
        โทนสีอ่อน ๆ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย โทนสีอ่อนสามารถช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลายและสงบได้ดี โดยเฉพาะสีฟ้าอ่อน, เขียวอ่อน, และสีชมพูอ่อน ซึ่งมักถูกนำมาใช้เพื่อสร้างบรรยากาศที่น่าผ่อนคลาย
        แสงไฟนวลและสบายตา ความสว่างของห้องน้ำควรเป็นแสงไฟสีขาวนวล (Cool White) ที่มีอุณหภูมิสีประมาณ 4,000 – 5,000 K เป็นแสงที่ให้ความสว่างชัดเจน และสามารถมองเห็นอุปกรณ์ห้องน้ำได้ดี เพื่อการใช้งานที่ปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุด้วย

แบบห้องน้ำที่ดีควรเน้นความสงบ สบาย และเป็นธรรมชาติ การเลือกใช้โทนสีอ่อน วัสดุธรรมชาติ และการจัดวางพื้นที่อย่างลงตัว จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและทำให้ทุกครั้งที่ใช้งานเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับทุกคน หากอยากทำให้ห้องน้ำเป็นพื้นที่แห่งความสุขและความผ่อนคลาย ลองปรับเปลี่ยนดีไซน์และตกแต่งให้เหมาะสมตามแนวทางนี้ รับรองว่าจะได้พื้นที่ในฝันที่ช่วยเติมเต็มความสุขในทุกวัน

10
สาเหตุร่วมที่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมตัวผู้ป่วย

    สภาพภูมิศาสตร์ มักอยู่บริเวณที่ราบสูงประเทศ พบมากในภาคอีสานและเหนือ
    สภาพอากาศและฤดูกาลในฤดูร้อน จะพบว่าผู้ป่วยเป็นโรคนิ่วทางเดินปัสสาวะมาก อาจเนื่องมาจากการเสียเหงื่อมาก ทำให้ปัสสาวะเข้มข้นทำให้นิ่วโตเร็วขึ้น จึงเกิดอาการขึ้น
    ปริมาณน้ำดื่ม ซึ่งจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับความเข้มข้นของน้ำปัสสาวะถ้าดื่มน้ำดื่ม และยังอาจจะเกี่ยวกับเกลือแร่ที่ละลายในน้ำดื่มของแต่ละท้องถิ่น
    สภาพโภชนาการ การบริโภคอาหารนานาชนิดและการดื่มน้ำดื่ม เป็นผลให้มีการเพิ่ม/ลดของสารต่างๆ ที่เป็นส่วนประกอบของก้อนนิ่ว เช่น การกินอาหารพวกเครื่องในสัตว์ , ยอดผัก , สาหร่ายจะทำให้เกิดกรดยูริกได้ การกินอาหารจำพวกผักที่มีสารออกซาเลต เช่น ผักโขม ผักแพว หน่อไม้ ชะพลู ก็จะมีโอกาสเกิดนิ่วพวกออกซาเลต เด็กเล็กที่ขาดสารอาหารพวกโปรตีนจะเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะมาก การขาดวิตามินเอ หรือได้รับวิตามินดีมากเกินไปก็ทำให้เกิดนิ่วได้
    อาชีพ ผู้ที่มีอาชีพเกษตรกรทำงานกลางแจ้ง ก็จะมีการเสียเหงื่อมาก ทำให้ปัสสาวะมีความเข้มข้นก็อาจมีการตกผลึกของสารละลายในน้ำปัสสาวะเกิดนิ่วได้ ผู้ที่มีรายได้ต่ำก็จะบริโภคอาหารจำพวกแป้งและผักมาก โปรตีนน้อย ทำให้เกิดนิ่วจำพวกออกซาเลตได้ง่าย ผิดกันกับผู้ที่มีรายได้สูงมีการบริโภคอาหารที่มีโปรตีน, ไขมันมากกว่าปกติ ทำให้เกิดเป็นนิ่วพวกกรดยูริกและนิ่วแคลเซียมสูง



นิ่วในไต
    ผู้ป่วยที่มีนิ่วในไตอาจจะไม่มีอาการอะไรเลยก็ได้ ถ้าหากมีอาการต่อไปนี้ก็ให้สงสัยว่าเป็นโรคไต ผู้ป่วยจะมีอาการปวดเอว ปัสสาวะขุ่น ปัสสาวะเป็นเลือด หรือสีน้ำล้างเนื้อ หากมีการอักเสบติดเชื้อร่วมด้วยก็จะมีไข้สูง หนาวสั่น ปัสสาวะเป็นหนองมีกลิ่นเหม็นคาว หากมีการอุดตันร่วมด้วยก็จะมีก้อนในท้องส่วนบนซ้ายหรือขวา หากมีนิ่วที่ไต 2 ข้างและประสิทธิภาพในการทำงานเสื่อมไป ผู้ป่วยก็จะมีอาการปัสสาวะน้อยลง บวม โลหิตจาง คลื่นไส้ อาเจียนผิวหนังแห้งคล้ำ และคัน ผู้ป่วยอาจจะซึม หรือไม่รู้สึกตัวถ้ามีของเสีย ค้างอยู่ในกระแสเลือดมาก

นิ่วในท่อไต
    ผู้ป่วยอาจจะมีอาการปวดเอว หรือปวดเป็นพักๆ ในข้างที่มีนิ่วข้างนั้นๆ อาจจะมีปวดร้าวมาท้องน้อย หน้าขา ถุงอัณฑะ หรือ แคมอวัยวะเพศหญิง หากนิ่วอยู่ในท่อไตส่วนล่างใกล้กระเพาะปัสสาวะ ผู้ป่วยก็จะมีอาการปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะขุ่น เป็นหนอง หากผู้ป่วยมีไตข้างเดียว หรือมีนิ่วในไตทั้ง 2 ข้าง ผู้ป่วยอาจจะไม่มีปัสสาวะออกมาเลย ผู้ป่วยอาจจะบวมน้ำ หอบ เหนื่อย ประสาทสับสน หรือไม่รู้สึกตัวได้

นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
    ส่วนมากผู้ป่วยจะมีอาการปวดปัสสาวะ ปัสสาวะขัด ปัสสาวะสะดุด ปัสสาวะขุ่น หรือปัสสาวะเป็นสีเลือดจาง เมื่อหยุดเบ่งผู้ป่วยก็จะได้ปัสสาวะออกมาได้ใหม่และเกิดอาการขึ้นมาอีก

นิ่วในท่อปัสสาวะ
    นิ่วในท่อปัสสาวะจะหลุดลงมาจากกระเพาะปัสสาวะเป็นส่วนใหญ่ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดขึ้นทันทีที่กำลังปัสสาวะไม่ออกมาเลยก็ได้ หากคลำดูตามท่อปัสสาวะก็จะคลำพบก้อนนิ่วแข็งๆ ได้

อาการแทรกซ้อน
    อาจทำให้เกิดการติดเชื้อกลายเป็นกรวยไตอักเสบ อาการ และถ้าปล่อยไว้นานๆ มีการติดเชื้อบ่อยๆ ก็ทำให้เนื้อไตเสียกลายเป็นไตวายเรื้อรังได้

การวินิจฉัย
    มักจะวินิจฉัยโดยการตรวจปัสสาวะ (พบมีเม็ดเลือดแดงจำนวนมาก) ตรวจเลือด เอกซเรย์ไตด้วยการฉีดสี (Intravenous Pyelogram หรือ IVP) และอาจตรวจพิเศษอื่นๆ ถ้าจำเป็น ถ้าก้อนนิ่วเล็กอาจหลุดออกมาได้เอง แต่ถ้าก้อนใหญ่อาจจะต้องผ่าตัดเอาออก

การรักษา
    การรักษาโดยเฝ้าดูจะติดตามโดยการตรวจปัสสาวะว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ จะทำการติดตามโดย X-ray เป็นระยะดูการเปลี่ยนแปลง
    การรักษาโดยให้ยา นิ่วที่ได้ทำการวิเคราะห์ว่าเป็นนิ่วชนิดใดแล้วก็อาจให้ยาละลายนิ่วได้ นิ่วยูริกแอซิดก็ทำให้ยาทำให้ปัสสาวะเป็นด่างหรือร่วมให้ยาลดระดับยูริกเอซิด หรือซีสตีนในเลือดอาจให้ยาระงับความเจ็บปวดและยาปฏิชีวนะร่วมด้วย
    การรักษาโดยการผ่าตัดเอานิ่วออก เมื่อนิ่วมีขนาดใหญ่ไตมีการอักเสบไตโป่งพอง หรือไตไม่ทำงานแล้ว
    การรักษาโดยใช้เครื่องสลายนิ่วด้วยพลังเสียง (Extracorporeal shok wave lithotripsy/ESWL) เหมาะสำหรับนิ่วที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 3 ซม. และทางเดินปัสสาวะส่วนที่ต่ำกว่าไม่มีการตีบตัน เพื่อนิ่วที่สลายซึ่งมีขนาดเล็กลงสามารถผ่านปนมากับปัสสาวะได้
    การรักษาโดยใช้เครื่องส่องไตโดยผ่านท่อไต ใช้คลื่นเสียง Ultrasonic หรือ Laser ทำการสลายให้นิ่วมีขนาดเล็กลงแล้วคีบเอาออก

11
ทำความรู้จักกับ Modern Preppy
Modern Preppy เป็นสไตล์แฟชั่นที่นำกลิ่นอายความเนี้ยบและคลาสสิกของ เสื้อผ้าแฟชั่น Preppy มาปรับให้ทันสมัยและเหมาะกับยุคปัจจุบัน โดยมีการผสมผสานไอเทมร่วมสมัยเข้ากับลุคแบบนักเรียน Ivy League หรือการแต่งตัวแนวผู้ดีอังกฤษที่ดูภูมิฐานและเป็นระเบียบ



จุดเด่นของ Modern Preppy
1. การแมตช์เสื้อผ้าคลาสสิกกับความโมเดิร์น
เสื้อผ้าแฟชั่น อย่าง เสื้อโปโล เสื้อเชิ้ตคอปก กระโปรงเทนนิส กางเกงชิโน หรือเสื้อเบลเซอร์ที่เป็นไอเทมหลักของ Preppy ยังคงมีอยู่ แต่ถูกนำมาดีไซน์ใหม่ให้มีความสดใสมากขึ้น เช่น การใช้สีสันจัดจ้าน หรือการตัดเย็บที่มีความโฉบเฉี่ยว

2. ลวดลายและเท็กซ์เจอร์
ลายตาราง (Plaid), ลายทาง (Stripes) และลาย Argyle ยังคงเป็นหัวใจสำคัญ แต่เพิ่มลูกเล่นให้ดูทันสมัย เช่น การเล่นกับขนาดของลาย หรือการใช้สีที่โดดเด่น

3. สไตล์ที่เน้นความเรียบง่ายแต่ดูแพง
Modern Preppy ไม่เน้นความเยอะ แต่ให้ความรู้สึก "Less is More" เช่น แมตช์เบลเซอร์สีคลาสสิกกับกางเกงยีนส์ทรงตรง หรือเสื้อเชิ้ตเรียบๆ กับกระโปรงเทนนิส เพิ่มความลงตัวด้วยเครื่องประดับเล็กๆ

Modern Preppy ไม่ใช่แค่ เสื้อผ้าแฟชั่น แต่เป็นการแสดงออกถึงไลฟ์สไตล์และรสนิยมที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิกกับความทันสมัยได้อย่างลงตัว สถานที่ชอปปิงที่สามารถเติมเต็มทุกความต้องการด้าน เสื้อผ้าแฟชั่น shopping mall bangkok

12
จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ก๊อกอ่างล้างหน้าได้พัฒนาไปไกล ทั้งในด้าน เทคโนโลยี และ ดีไซน์ เพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้งานในยุคใหม่ ก๊อกอ่างล้างหน้าเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในห้องน้ำและเป็นส่วนหนึ่งของดีไซน์ที่ส่งผลต่อความรู้สึกและความสะดวกในการใช้งานในแต่ละวัน ปัจจุบันนวัตกรรมก๊อกอ่างล้างหน้ามีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานและความสวยงาม เช่น ระบบเซนเซอร์แบบอัตโนมัติ ระบบประหยัดน้ำ และดีไซน์ที่ตอบโจทย์เทรนด์ทันสมัย บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับนวัตกรรมก๊อกอ่างล้างหน้ารูปแบบต่าง ๆ พร้อมเคล็ดลับเลือกใช้อย่างคุ้มค่า



นวัตกรรมก๊อกอ่างล้างหน้า รูปแบบใหม่ที่น่าสนใจ
1. ก๊อกอ่างล้างหน้าระบบเซนเซอร์อัตโนมัติ (Sensor Faucet) เป็นก๊อกน้ำที่เปิด-ปิดด้วยระบบเซ็นเซอร์โดยอัตโนมัติ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องสัมผัสก๊อกโดยตรง ช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อโรคและสิ่งสกปรก ก๊อกน้ำแบบนี้ช่วยประหยัดน้ำ และยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ เช่น การหยุดน้ำอัตโนมัติเมื่อใช้งานเกินเวลาที่กำหนด
    ลักษณะ: เปิด-ปิดน้ำโดยไม่ต้องสัมผัส ช่วยลดการแพร่เชื้อโรคและประหยัดน้ำ
    ข้อดี: สะดวกและปลอดภัย เหมาะกับสถานที่สาธารณะหรือบ้านที่เน้นสุขอนามัย

2. ก๊อกอ่างล้างหน้าประหยัดน้ำ (Water-saving Faucet) มีคุณสมบัติในการจำกัดปริมาณน้ำที่ไหลออกมา เพื่อลดการใช้และช่วยประหยัดทรัพยากรน้ำ. นอกจากนี้ ก๊อกประหยัดน้ำยังมีคุณสมบัติอื่น ๆ เช่น การออกแบบที่ทนทานต่อการกัดกร่อน การเคลือบผิวที่ป้องกันรอยขีดข่วน และซีลยางที่ช่วยป้องกันการรั่วซึม
    ลักษณะ: ออกแบบให้ใช้น้ำในปริมาณน้อยลง แต่ยังคงประสิทธิภาพในการใช้งาน
    ข้อดี: ช่วยลดค่าใช้จ่ายน้ำและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

3. ก๊อกอ่างล้างหน้าดีไซน์โมเดิร์นและเรียบง่าย จะเน้นความสะอาดของเส้นสายและสีสันที่หลากหลาย เช่น สีขาว สีดำ สีเงิน หรือสีทอง นอกจากนี้ คุณสมบัติที่ควรมีก็คือ ทนทานต่อการกัดกร่อน ใช้งานง่าย และมีระบบป้องกันการรั่วซึม
    ลักษณะ: ดีไซน์ทันสมัย เน้นความเรียบง่ายดูสะอาดตา เหมาะกับห้องน้ำสไตล์โมเดิร์น
    ข้อดี: เพิ่มความหรูหราและดูแลรักษาง่าย ทำจากทองเหลืองหรือสเตนเลส 304 ซึ่งทนทานต่อการกัดกร่อนและมีอายุการใช้งานยาวนาน

4. ก๊อกอ่างล้างหน้ารุ่นปรับอุณหภูมิน้ำอัตโนมัติ (Automatic Temperature Mixer) คุณสมบัติหลักคือการควบคุมอุณหภูมิน้ำให้คงที่และปลอดภัยผ่านระบบเทอร์โมสตัทวาล์ว ที่ทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิของน้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์ให้เหมาะสม โดยการเปิดหรือปิดวาล์วเพื่อให้น้ำหล่อเย็นมาระบายความร้อนที่หม้อน้ำ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ เช่น ดีไซน์ที่ทันสมัย ระบบป้องกันการเปิดน้ำร้อนเกินไป และตัวเรือนที่ทนทาน
    ลักษณะ: มีฟังก์ชันปรับอุณหภูมิน้ำอัตโนมัติ ช่วยให้ใช้งานสะดวกและง่ายขึ้น
    ข้อดี: การควบคุมอุณหภูมิน้ำอย่างแม่นยำช่วยลดการใช้พลังงานในการทำให้น้ำร้อนเกินความจำเป็น

เคล็ดลับเลือกใช้นวัตกรรมก๊อกอ่างล้างหน้าให้คุ้มค่า

    พิจารณาฟังก์ชันการใช้งาน
        เมื่อพิจารณาฟังก์ชันการใช้งานก๊อกอ่างล้างหน้า ควรคำนึงถึงความต้องการในการปรับอุณหภูมิน้ำ ความต้องการในแบบก๊อกเดี่ยวหรือก๊อกผสม และฟังก์ชันพิเศษ เช่น ก๊อกน้ำอัตโนมัติหรือก๊อกน้ำที่ประหยัดน้ำ นอกจากนี้ ควรเลือกขนาดและความสูงของก๊อกที่เหมาะสมกับอ่างล้างหน้า และวัสดุที่ทนทานและมีอายุการใช้งานยาวนาน

 เลือกดีไซน์ให้เข้ากับสไตล์ห้องน้ำ
        การเลือกดีไซน์ก๊อกอ่างล้างหน้าให้เข้ากับสไตล์ห้องน้ำสวยๆ เป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยเสริมความสวยงาม และสร้างความกลมกลืนในห้องน้ำ ควรพิจารณาจากสไตล์ห้องน้ำที่ต้องการ เช่น สไตล์โมเดิร์น, คลาสสิก, หรือวินเทจ เพื่อเลือกก๊อกอ่างล้างหน้าที่มีดีไซน์ที่เข้ากับสไตล์นั้นๆ

    วัสดุและคุณภาพ
        ก๊อกอ่างล้างหน้าควรเลือกวัสดุคุณภาพสูง เช่น ทองเหลืองเคลือบโครเมียมหรือสแตนเลส 304 ก๊อกทองเหลืองทนต่อการกัดกร่อนได้ดี ส่วนสแตนเลส 304 ทนทานต่อการกัดกร่อนและทนต่อความร้อน ส่วนก๊อกน้ำที่เคลือบโครเมียมจะทนทานต่อสารเคมีและรอยขีดข่วน

13
ลดสัดส่วน - ปัญหาโรคอ้วน น้ำหนักเกินค่ามาตรฐาน หรือ รูปร่างไม่ได้สัดส่วน ถือเป็นปัญหายอดฮิตในสังคมปัจจุบัน  เนื่องจากปัจจัยทั้งด้านชนิดของอาหาร ความสะดวกสบายในการสั่งมาส่ง รวมถึงลักษณะการทำงาน การเดินทางที่ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ไม่ว่างออกกำลังกาย และเงื่อนไขข้อจำกัดอื่นๆอีกมากมาย

   แต่รู้หรือไม่ว่า การมีน้ำหนักเกินค่ามาตรฐาน จะทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพตามมามากมาย เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคข้อเข่าเสื่อม ภาวะการหยุดหายใจขณะหลับ และโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ
   การประเมินว่า น้ำหนักของตัวเราเทียบส่วนสูงอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมหรือไม่ สามารถหาได้จาก ค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index: BMI) ซึ่งสามารถใช้คัดกรองเพื่อระบุผู้ที่มีน้ำหนักเกิน หรือภาวะอ้วนและผู้ที่มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานในผู้ใหญ่ที่อายุ 20 ปีขึ้นไป

   วิธีการคำนวนค่า BMI =   น้ำหนักตัว (กิโลกรัม)  ÷  ส่วนสูง (เมตร)2
      เช่น สูง 168 cm หนัก 58kg มี BMI = 58 ÷ (1.68 x 1.68) = 20.549


สำหรับการแปลผลนั้น ค่า BMI ในช่วง 18.5 – 22.90 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่สำหรับคนเอเชีย ถ้าค่าBMI ตั้งแต่ 23 ขึ้นไป ถือว่าน้ำหนักเกินแล้ว ทั้งนี้อาจมีข้อยกเว้นในกรณีที่มีมวลกล้ามเนื้อมาก อาจทำให้ค่า BMI สูงกว่าเกณฑ์ แม้จะมีรูปร่างดี



การ[^_^] ≠ การลดสัดส่วน

   การ[^_^] คือ การเน้นไปที่การลดมวลไขมันทั่วทั้งตัว ไม่ได้เน้นไปที่การปรับส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเป็นพิเศษ วิธี[^_^]ที่ได้ผลเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปคือ การควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย โดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบ cardio ซึ่งจะช่วยในการเผาผลาญพลังงาน เมื่อพลังงานที่ใช้ไปมากกว่าพลังงานจากอาหารที่ได้รับ ก็จะทำให้ร่างกายดึงเอาพลังงานสำรองที่เก็บอยู่ในรูปไขมันออกมาใช้ ทำให้น้ำหนักลดลง

   ในด้านของการลดสัดส่วนนั้น  จะมุ่งเน้นผลลัพธ์ไปที่รูปร่างและสัดส่วนเฉพาะที่ เช่น รอบเอว ต้นขา ต้นแขน หรือสะโพก โดยการลดสัดส่วนนั้นจะมีเป้าหมายเป็นการลดไขมันส่วนเกินของร่างกาย เพื่อให้เห็นสัดส่วนที่ดูกระชับสมส่วนมากขึ้น ขั้นตอนในการลดสัดส่วนนั้นมักจะซับซ้อนกว่าการ[^_^] เพราะจะต้องมีการออกกำลังกายแบบ weight training เฉพาะกล้ามเนื้อที่ต้องการให้ตรงจุด เพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและลดไขมันเฉพาะที่

   สำหรับการลดสัดส่วนนั้น จึงนิยมใช้ทางลัดทางการแพทย์เพื่อแก้ไขปัญหานี้เป็นส่วนใหญ่ ได้แก่ การใช้ยาฉีดสลายไขมันเฉพาะจุด ซึ่งอาจทำให้ไขมันลดลง แต่มีปัญหาผิวย่อน ไม่กระชับ หรือการใช้เครื่องมือแพทย์เพื่อกระชับสัดส่วน แต่มักประสบปัญหาสามารถลดสัดส่วนได้ในช่วงแรก แต่ไม่สามารถคงผลลัพธ์นั้นไว้ได้ในระยะยาว

แล้วแพทย์แนะนำอย่างไร
   คลินิกสำหรับการลดสัดส่วนนั้น คุณหมอต้องได้ทำการวางโปรแกรมพิเศษเป็น signature servise เพื่อตอบโจทย์ทั้งในแง่การลดสัดส่วน กระชับผิว รวมไปถึงการสร้างกล้ามเนื้อเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการลดสัดส่วน และไม่เกิดการโยโย่ตามมา จึงมีการดีไซน์โปรแกรม Body Sculpt ซึ่งเป็นการใช้เครื่อง Exilis Ultra 360 ในการสลายไขมัน ควบคู่ไปกับการใช้เครื่อง Emsculpt เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ในพื้นที่เดียวกัน ทำให้เห็นผลลัพธ์ในการลดสัดส่วนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

Exilis Ultra 360 คืออะไร
   เป็นเทคโนโลยียกกระชับ ที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (Radio Frequency) ในการยกกระชับผิวในชั้นบน ร่วมกับ คลื่นเสียง (Ultrasound) ซึ่งช่วยสลายไขมันใต้ชั้นผิวหนัง จึงสามารถสลายไขมันไปพร้อมกับกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน  ช่วยแก้ไขปัญหาสำหรับผู้มีไขมันส่วนเกินเฉพาะจุดพร้อมกับการทำให้ผิวแน่นกระชับยิ่งขึ้น สามารถใช้ได้กับหลายพื้นที่ เช่น ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง รอบเอว สะโพก ปีกหลัง เป็นต้น 

    เครื่อง Exilis Ultra 360 ได้รับการรับรองจาก USFDA ว่ามีประสิทธิภาพในการลดไขมันเฉพาะจุด ช่วยกระชับผิว และลดเซลลูไลต์ได้ ตามที่มีงานวิจัยรับรอง
แล้ว Emsculpt คืออะไร?
   เครื่อง Emsculpt ใช้เทคโนโลยี HIFEM(High-Intensity Focused Electromagnetic) หรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความเข้มข้นสูง เป็นตัวช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อ ส่งพลังงานเข้าไปเพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อให้เกิดการหดตัว เสมือนการออกกำลังกาย โดยจะกระตุ้นด้วยความถี่ที่สูงเกินกว่าสมองจะสั่งการได้ หรือที่เรียกว่าSupramaximal muscle contraction ซึ่งการใช้เครื่อง Emsculpt กระตุ้นกล้ามเนื้อนี้ สามารถทำให้เกิดการหดตัวของกล้ามเนื้อเลียนแบบการออกกำลังกายที่กล้ามเนื้อมัดนั้นได้ถึง 20,000 ครั้ง ภายใน 30 นาที ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพ เช่น หากเราใช้เครื่องกระตุ้นที่กล้ามเนื้อหน้าท้อง ก็เทียบเท่ากับเรา sit- up ไป 20,000 ครั้งในครึ่ง ชม เลยทีเดียว

   ซึ่งการใช้เครื่อง Emsculptกระตุ้นกล้ามเนื้อนี้ ผ่านการรับรองประสิทธิภาพและความปลอดภัยจาก USFDA ตามงานวิจัยพบว่า จะทำให้ร่างกายตอบสนองด้วยการสร้างมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นประมาณ 20 % เลยทีเดียว และยังพบว่า เมื่อมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น การเผาผลาญก็เพิ่มขึ้น จึงทำให้มวลไขมันในบริเวณดังกล่าว ลดลงไปประมาณ 20 % ด้วยเช่นกัน

โปรแกรม Body Sculpt จึงเป็นโปรแกรมพิเศษที่คุณหมอต้องแนะนำ ให้หนึ่งในตัวช่วยในการลดสัดส่วนเฉพาะจุด ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ ลดไขมัน และกระชับผิวไปพร้อมกัน เหมาะสำหรับวิถีชีวิตที่แสนยุ่งวุ่นวายในปัจจุบัน เพราะสามารถย่นระยะเวลาในการอกกำลังกายไปได้มาก อีกทั้งยังมีประโยชน์ ในคนที่มีข้อจำกัดในการออกกำลังกาย หรือมีปัญหาต้องการแก้ไขสัดส่วนเฉพาะจุด

14
ในยุคนี้ การวางแผนการเงินเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคน การเลือกประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพที่เหมาะสมไม่ใช่แค่เรื่องความคุ้มครองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประกันที่สามารถช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินในอนาคต เช่น ประกันควบการลงทุน และประกันเพื่อการออมเงิน ซึ่งแต่ละแบบมีความแตกต่างกันอย่างไร? บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเพื่อเลือกแผนที่เหมาะสมกับเป้าหมายทางการเงินของคุณ

ประกันควบการลงทุน (Unit-Linked Insurance) คืออะไร
    ความหมาย: เป็นประกันชีวิตที่ผสมผสานการคุ้มครองและการลงทุนในกองทุนต่าง ๆ โดยผู้เอาประกันสามารถเลือกลงทุนในกองทุนที่สนใจได้
    จุดเด่น: โอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน พร้อมความคุ้มครองชีวิตในกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ
    ข้อเสีย: ความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดทุน อาจมีผลตอบแทนไม่แน่นอน

ประกันเพื่อการออมเงิน (Endowment Insurance) คืออะไร
    ความหมาย: เป็นประกันชีวิตที่ออกแบบมาเพื่อสะสมเงินออมระยะยาว โดยจะจ่ายเงินคืนเมื่อครบกำหนดสัญญาหรือตอนเสียชีวิต
    จุดเด่น: เน้นความมั่นคงในการออมเงิน มีผลตอบแทนแน่นอนตามอัตราที่กำหนด
    ข้อเสีย: ผลตอบแทนต่ำกว่าการลงทุนในตลาดทุน แต่มีความเสี่ยงน้อยกว่า



ข้อดีและข้อเสีย
    ประกันควบการลงทุน
        ข้อดี: โอกาสรับผลตอบแทนสูง จากการลงทุนในตลาดทุน ลดหย่อนภาษีได้ตามกฎหมายกำหนด
        ข้อเสีย: ความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด

    ประกันเพื่อการออมเงิน
        ข้อดี: ผลตอบแทนแน่นอน ปลอดภัย เน้นความมั่นคง ลดหย่อนภาษีได้
        ข้อเสีย: ผลตอบแทนต่ำกว่าแบบลงทุน ภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายต่อเนื่อง

เลือกประกันแบบไหนที่เหมาะกับคุณ
    ถ้าคุณมองหาโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงและรับความเสี่ยงได้ ควรพิจารณาประกันควบการลงทุน
    ถ้าคุณต้องการความปลอดภัยและผลตอบแทนแน่นอนในระยะยาว การเลือกประกันสะสมทรัพย์ เพื่อการออมเงินจะเป็นตัวเลือกที่ดี

การเลือกประกันควบการลงทุนหรือประกันเพื่อการออมเงินขึ้นอยู่กับเป้าหมายทางการเงินและความเสี่ยงที่คุณยอมรับ หากต้องการผลตอบแทนสูงและรับความเสี่ยงได้ ประกันควบการลงทุนเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าคุณเน้นความมั่นคงและแน่นอนในผลตอบแทน ประกันเพื่อการออมเงินคือคำตอบที่เหมาะสมที่สุด

15
ถ้าพูดถึงการวางแผนทางเงินแบบเบสิกแล้ว โดยทั่วไปหลายคนจะมีวิธีการออมเงินในรูปแบบการประกันชีวิต โดยการฝากเงินในรูปแบบการประกันชีวิต ซึ่งเป็นการวางแผนทางการเงินแบบความเสี่ยงต่ำ เพื่อรักษาเงินต้นไม่ให้หายไป แต่ก็ต้องยอมรับสิ่งที่ตามมาว่าเราจะได้รับผลตอบแทนที่น้อย ยิ่งปัจจุบันเป็นยุคที่มีอัตราดอกเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น แต่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ลดลงเรื่อยๆ แน่นอนว่าเราจำเป็นต้องมองหาแผนทางการเงินใหม่เพื่อที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น อย่างไรก็ดี ประกันออมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับพิจารณาในการวางแผน

เปลี่ยนเงินฝากมาเป็นประกันออมทรัพย์ หรือ ประกันสะสมทรัพย์ ดีกว่าอย่างไร
ก่อนอื่น เราจำเป็นต้องทำความรู้จักกับ ประกันออมทรัพย์ หรือ ประกันสะสมทรัพย์ กันก่อน ซึ่งประกันออมทรัพย์เป็นประกันอีกรูปแบบหนึ่ง ที่มีหลักการคือเน้นการสะสมเงิน (ออมเงินในรูปแบบการประกันชีวิต) พร้อมกับความคุ้มครองชีวิตเพิ่มขึ้นมา โดยเราจำเป็นต้องส่งเบี้ยประกันตามระยะเวลาที่กรมธรรม์ระบุไว้ เมื่อครบกำหนดประกันออมทรัพย์ก็จะจ่ายเงินคืนให้เรา ซึ่งการจ่ายเงินคืนนี้จะเป็นไปตามที่เราตกลง โดยทั่วไปแล้วจะมีการจ่ายคืนเป็นก้อน หรือจ่ายเงินคืนระหว่างทางตลอดสัญญา และในกรณีที่เราเสียชีวิตระหว่างที่ส่งกรมธรรม์ ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินก้อนที่เรียกว่า "จำนวนเงินเอาประกัน" ตามที่ระบุไว้ในกรรมธรรม์
ผลตอบแทนมากกว่า
ผลตอบแทนของประกันออมทรัพย์นั้นเราจำเป็นต้องดูจากผลประโยชน์เกี่ยวกับเงินปันผล เงินคืน และเงินครบกำหนดสัญญา ซึ่งถ้ามีการจ่ายคืนแบบ "คงที่" ตรงนี้เราสามารถคำนวณจำนวนเงินได้ทันที ซึ่งมีแนวโน้มที่จะให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ ดังนั้นประกันออมทรัพย์จึงเหมาะสำหรับใครที่มีเป้าหมายเพื่อออมเงินในรูปแบบการประกันชีวิต และทำประกันชีวิตไปพร้อมๆ กัน ซึ่งตรงนี้ให้ผลตอบแทนที่มากกว่าและตรงใจ



ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้
เงินที่ได้รับจากประกันออมทรัพย์นั้นจะไม่มีการเสียภาษีใดๆ นั่นหมายถึงเราจะได้รับเงินเต็มจำนวนเมื่อครบกำหนดสัญญาของประกันออมทรัพย์ ทั้งนี้ยังสามารถใช้สิทธิเพื่อลดหย่อนภาษีได้เมื่อประกันออมทรัพย์ที่มีอายุกรรมธรรม์และคุ้มครองมากกว่า 10 ปีขึ้นไป สามารถลดหย่อนภาษีเงินได้ส่วนบุคคลได้สูงสุดปีละ 100,000 บาท

ได้รับความคุ้มครองเพิ่ม
การวางแผนทางการเงินในรูปแบบประกันออมทรัพย์ นอกจากจะเป็นการสะสมทรัพย์แล้ว ยังมีการคุ้มครองชีวิตเพิ่มเข้ามาด้วย เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือไม่คาดฝันขึ้น ยังมีความคุ้มครองจากประกันออมทรัพย์ที่จะช่วยคุ้มครองดูแลเราและครอบครัว นอกจากนี้ยังสามารถซื้อประกันอื่นๆ เพิ่มเติมได้เช่น ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ โดยที่จะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล รวมถึงเงินชดเชยรายได้ระหว่างการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล

ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน
การลงทุนในรูปแบบประกันออมทรัพย์ ถือเป็นการลงทุนระยะยาวและสม่ำเสมอ เป็นการสร้างวินัยในการออมในรูปแบบการประกันชีวิตได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อครบสัญญาตามกรมธรรม์ ผู้ที่ถือประกันจะได้รับผลตอบแทนและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ตามกำหนด นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในด้านการลงทุนหรือวางแผนอนาคตได้อย่างมั่นคง นั่นก็คือ สามารถกู้เงินในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำจากมูลค่าเวนคืนเงินสดตามกรมธรรม์ได้ ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับใครที่ต้องการทำการลงทุน

การฝากเงินธรรมดาทั่วไปให้ผลตอบแทนที่น้อยมากในปัจจุบัน และยังต้องมีการเสียภาษี ซึ่งประกันเหมาจ่าย เป็นอีกหนึ่งทางเลือกทางเลือกที่ดี เพื่อเพิ่มเติมผลตอบแทนในระยะยาว และยังสามารถลดหย่อนภาษีได้ แน่นอนว่าข้อดีนี้เหมาะกับใครที่มีรายได้เข้าเกณฑ์เสียภาษี ที่สำคัญยังเหมาะสำหรับใครที่กำลังมองหาการคุ้มครองชีวิต สุขภาพ รวมถึงอุบัติเหตุ ไว้ให้กับตนเองและครอบครัวอีกด้วย


16
ห้องน้ำสวยๆเป็นพื้นที่สำคัญในบ้านที่ไม่เพียงแต่ใช้เพื่อความสะอาด แต่ยังเป็นสถานที่ที่สร้างบรรยากาศผ่อนคลายและความสุขในชีวิตประจำวัน การออกแบบห้องน้ำให้สวยงามและใช้งานได้อย่างลงตัวจึงเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญ
แนวทางการแต่งห้องน้ำ รวมถึงอุปกรณ์ห้องน้ำที่ช่วยเสริมความสวยงามและความสะดวกสบาย

ไอเดียการตกแต่งห้องน้ำให้สวยงาม
    เลือกโทนสีที่เหมาะสม
        สีขาว คลาสสิก เพิ่มความรู้สึกสะอาดและกว้าง
        โทนสีเทา น้ำตาลอ่อน ให้ความรู้สึกอบอุ่นและโมเดิร์น
        สีพาสเทล เช่น ฟ้าอ่อน ชมพูอ่อน ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย

    เลือกเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ที่เข้ากัน
        เลือกเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า โต๊ะอาบน้ำ และชั้นวางของให้เข้าชุดกัน เพื่อความเป็นระเบียบและสวยงาม

    ใช้แสงไฟที่เหมาะสม
        เลือกไฟส่องสว่างแบบนุ่มนวล เสริมบรรยากาศผ่อนคลาย เพิ่มไฟ LED ที่ให้ความสว่างทั่วถึงและประหยัดพลังงาน

    ตกแต่งด้วยของตกแต่งเล็กๆ
        พรมเช็ดเท้า ตะกร้าหรือกล่องเก็บของ ตุ๊กตา หรือภาพศิลปะ เพื่อเพิ่มความน่ารักและความเป็นส่วนตัว



อุปกรณ์ห้องน้ำที่ควรมีเพื่อความสวยงามและใช้งานดี
    อ่างล้างหน้าสวยงามและใช้งานได้ดี
    ฝักบัวและอุปกรณ์ฝักบัวคุณภาพสูง
    กระจกเงาขนาดพอเหมาะ พร้อมกรอบดีไซน์สวยงาม
    ชั้นวางของและกล่องเก็บของ เพื่อความเป็นระเบียบ
    ที่แขวนผ้าเช็ดตัวและผ้าขนหนูอย่างเป็นระเบียบ
    อุปกรณ์อาบน้ำ เช่น สบู่ ฟองน้ำ แชมพู ครีมนวดผม

เคล็ดลับแต่งห้องน้ำให้ดูสวยงามและใช้งานได้ดี
    เลือกวัสดุที่ทนทานต่อความชื้น เช่น กระเบื้องเซรามิก กระเบื้องแก้ว หินอ่อนเทียม
    คำนึงถึงการระบายอากาศที่ดี เช่น ติดตั้งพัดลมดูดอากาศ เพื่อป้องกันกลิ่นและความชื้นสะสม
    จัดวางอุปกรณ์ให้เข้าถึงง่ายและดูเป็นระเบียบ
    เพิ่มต้นไม้เล็กๆ เพื่อความสดชื่นและสร้างบรรยากาศธรรมชาติ

การตกแต่งห้องน้ำให้สวยงามไม่ใช่เรื่องยาก เพียงใส่ใจเลือกอุปกรณ์ห้องน้ำ และไอเดียการตกแต่งให้เข้ากับสไตล์บ้านการมีห้องน้ำที่สวยงามและใช้งานได้อย่างลงตัวจะช่วยเพิ่มความสุขในชีวิตประจำวันและสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือน

17
ริ้วรอยบนใบหน้าเป็นปัญหาที่หลายคนกังวลใจ เนื่องจากเป็นสัญญาณแห่งวัยที่ส่งผลต่อความมั่นใจและภาพลักษณ์ การดูแลผิวอย่างถูกวิธีสามารถช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยและทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มารู้จักกับวิธีลดริ้วรอยบนใบหน้า พร้อมเคล็ดลับดูแลผิวอย่างถูกวิธีเพื่อความงามที่ยั่งยืน

    เลือกใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมช่วยลดริ้วรอย
        เรตินอยด์ (Retinoids): ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวใหม่และเพิ่มคอลลาเจน
        วิตามิน C: ช่วยลดเลือนจุดด่างดำและเสริมความกระจ่างใส
        ไฮยาลูโรนิค แอซิด: เติมน้ำให้ผิวและลดเลือนริ้วรอย
        กรดผลไม้ (AHA/BHA): ช่วยผลัดเซลล์ผิวให้ผิวเรียบเนียนขึ้น

    บำรุงผิวด้วยครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน
        แสงแดดเป็นสาเหตุหลักของการเสื่อมสภาพของผิวและการเกิดริ้วรอย ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30 และป้องกันทั้ง UVA และ UVB

    ดูแลสุขภาพและโภชนาการที่ดี
        รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผลไม้ ผัก และอาหารที่มีกรดไขมันดี
        ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิว
        หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำลายคอลลาเจนในผิว



    นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
        การนอนหลับสนิทและเพียงพอช่วยฟื้นฟูผิวและลดเลือนริ้วรอย

    ทำทรีทเมนท์ดูแลผิวอย่างมืออาชีพ
        การทำเลเซอร์, การฉีดฟิลเลอร์, การทำไมโครนีดดิ้ง หรือการทำโบท็อกซ์ สามารถช่วยลดริ้วรอยลึกและปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น

   หลีกเลี่ยงความเครียดและรักษาความสมดุลของฮอร์โมน
       ความเครียดปล่อยสารอนุมูลอิสระที่ทำร้ายผิว ควรหากิจกรรมผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ โยคะ หรือกิจกรรมที่ชอบ
       ออกกำลังกายเป็นประจำ
       การเคลื่อนไหวร่างกายช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวดูสดใสและสุขภาพดี

การลดริ้วรอยบนใบหน้าไม่ใช่เรื่องยากหากใส่ใจดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ ควบคู่กับการรับประทานอาหารที่ดี พักผ่อนให้เพียงพอ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสม ก็จะช่วยให้แลดูอ่อนเยาว์และมั่นใจในทุกช่วงวัย

สนใจเคล็ดลับดูแลผิวเพิ่มเติม หรือต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการฟื้นฟูผิว ควรปรึกษาคลินิกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

18
ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจที่เป็นโรคร้ายแรงเกิดจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza virus) ซึ่งมีหลายสายพันธุ์ โดยสายพันธุ์หลัก ๆ ที่ก่อให้เกิดโรคในมนุษย์มีดังนี้

สายพันธุ์ของไข้หวัดใหญ่
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A: เป็นสายพันธุ์ที่พบได้บ่อยและมีความรุนแรงที่สุดมีการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมได้ง่าย ทำให้เกิดสายพันธุ์ย่อยใหม่ ๆ อยู่เสมอ
สามารถพบได้ในสัตว์หลายชนิด เช่น นก สุกร และมนุษย์ ตัวอย่างสายพันธุ์ย่อยที่สำคัญ ได้แก่ H1N1 (ไข้หวัดใหญ่ 2009) และ H3N2

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B: พบได้เฉพาะในมนุษย์มีการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมน้อยกว่าสายพันธุ์ A โดยทั่วไปมีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์ A

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ C: พบได้น้อยกว่าสายพันธุ์ A และ B โดยทั่วไปมีอาการไม่รุนแรง คล้ายไข้หวัดธรรมดาไม่ค่อยก่อให้เกิดการระบาด



อาการของไข้หวัดใหญ่จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปจะมีอาการดังนี้:
ไข้สูง, ปวดศีรษะ, ปวดเมื่อยตามตัว, เจ็บคอ, ไอ, คัดจมูก, อ่อนเพลีย

ความรุนแรงของโรคขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของไวรัสและสุขภาพของผู้ป่วย โดยผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน ได้แก่:
เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอด โรคหัวใจ หรือโรคเบาหวาน หญิงตั้งครรภ์

วิธีการรักษา
การรักษาตามอาการ:พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ ใช้ยาลดไข้และยาแก้ปวด ยาแก้ไอและยาแก้คัดจมูก

การรักษาด้วยยาต้านไวรัส:
ยาต้านไวรัส เช่น โอเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir) และซานามิเวียร์ (Zanamivir) สามารถช่วยลดความรุนแรงของโรคและระยะเวลาการป่วยได้ ยาเหล่านี้ควรใช้ภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากเริ่มมีอาการ
การป้องกัน:
การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นวิธีป้องกันที่มีประสิทธิภาพที่สุด การล้างมือบ่อย ๆ การหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยการปิดปากและจมูกเมื่อไอหรือจาม หากมีอาการรุนแรงหรือมีภาวะแทรกซ้อน ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

ค่ารักษาไข้หวัดใหญ่ในโรงพยาบาลเอกชนนั้นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น
ความรุนแรงของอาการ: หากมีอาการรุนแรงหรือมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ ค่ารักษาจะสูงขึ้น
ระยะเวลาในการรักษา: หากต้องนอนโรงพยาบาลเป็นเวลานาน ค่ารักษาจะสูงขึ้น
โรงพยาบาล: โรงพยาบาลเอกชนแต่ละแห่งมีค่ารักษาที่แตกต่างกัน
การตรวจวินิจฉัย: การตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม เช่น การตรวจเลือด การเอกซเรย์ หรือการตรวจทางห้องปฏิบัติการ จะเพิ่มค่าใช้จ่าย
ยาและเวชภัณฑ์: ยาและเวชภัณฑ์ที่ใช้ในการรักษา จะมีผลต่อค่าใช้จ่าย
โดยทั่วไปแล้ว ค่ารักษาไข้หวัดใหญ่ในโรงพยาบาลเอกชนอาจมีค่าใช้จ่ายประมาณดังนี้:

ค่าตรวจผู้ป่วยนอก (OPD): ประมาณ 1,000 - 10,000 บาทต่อครั้ง
ค่ารักษาผู้ป่วยใน (IPD): ประมาณ 46,000 - 72,000 บาท ขึ้นไปต่อการนอนโรงพยาบาล 1 ครั้ง
ข้อควรทราบ
ค่ารักษาที่กล่าวมาเป็นเพียงค่าประมาณ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
หากซื้อประกันออนไลน์ ควรตรวจสอบความคุ้มครองและเงื่อนไขกับบริษัทประกัน

คำแนะนำ
หากมีอาการไข้หวัดใหญ่ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษา การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นวิธีป้องกันที่มีประสิทธิภาพ
ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง โดยการพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

หน้า: [1] 2 3 ... 6