1
ห้องซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนของจิปาถะ / 2021 แล้ว ควรโหลด! แอปเก็บเงินออนไลน์ ตัวช่วยสู่ความมั่งคั่ง
« เมื่อ: กันยายน 09, 2024, 03:38:21 pm »เพราะหนึ่งในเป้าหมายของชีวิตเราแทบทุกคนก็คือการมีสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่งก็หมายถึงการที่เรามีเงินเพียงพอต่อการใช้จ่าย อยากใช้เมื่อไหร่ก็มีใช้อย่างคล่องตัว โดยที่ไม่ต้องไปหยิบยืมหรือรู้สึกฝืดเคือง ซึ่งการจะไปถึงจุดนั้นได้ จำเป็นจะต้องมีการวางแผนการออมที่ดี เพื่อให้มีต้นทุนชีวิตพร้อมไปพิชิตเป้าหมายทุกด้านโดยที่ไม่เดือดร้อนเรื่องการเงิน สำหรับมนุษย์ยุคดิจิทัลที่โลกหมุนรอบเทคโนโลยี วันนี้เราก็มีเทคนิคการเก็บเงิน พร้อม 3 แอปเก็บเงินออนไลน์ที่จะมาเปลี่ยนการออมให้มีสีสันและตอบโจทย์ความสะดวกสบายของคนยุคใหม่ มาดูกันเลย

ขอบคุณรูปภาพจาก keptbykrungsri.com
เทคนิคเก็บเงินให้มีกินมีใช้ ไม่ต้องรัดเข็มขัดจนหิว!
ก่อนอื่น เรามาดูเทคนิคการออมแบบง่ายๆ ที่ช่วยให้ออมอย่างสมดุล ไม่ต้องปวดใจเพราะออมแบบตึงจนเงินไม่พอใช้กัน
- เก็บก่อนใช้อย่างน้อย 10% ของเงินเดือน ความจริงแล้วเงินจำนวนนี้ค่อนข้างน้อย และเราควรเก็บมากกว่า 10% แต่เพื่อให้ไม่ต้องรู้สึกลำบากจนเกินไป ควรหัก 10% นี้มาออมก่อนตั้งแต่มีรายได้เข้ามา จากนั้น หากเงินเหลือค่อยสมทบเข้าไปอีก
-ใช้แอปเก็บเงินออนไลน์เป็นตัวช่วย ไม่ว่าจะเป็นการทำบัญชีรายรับรายจ่ายแบบที่ซื้อเมื่อไหร่ก็บันทึกในมือถือได้ทันที หรือแอปที่ช่วยเพิ่มลูกเล่นในการเก็บเงินให้มีสีสันมากขึ้น
-ลิสต์ของที่ต้องซื้อแล้วช้อปปิ้งให้เป็นเวลา จะได้ลดรายจ่ายจุกจิก ทั้งยังช่วยให้วางแผนการแลกแต้มหรือสะสมคะแนนได้ง่ายขึ้นด้วย
แนะนำ 3 แอปเก็บเงินออนไลน์ที่คนยุคใหม่ควรมีติดมือถือ
1.Kept by Krungsri
แอปแรกเป็นแอปน้องใหม่จากธนาคารกรุงศรีที่อยากให้ลอง โดยเฉพาะคนที่ชอบช้อป แล้วรู้สึกว่าเก็บเงินไม่ค่อยอยู่ แอปเก็บเงินออนไลน์ตัวนี้จะเป็นเหมือนกระเป๋าแยกไว้สำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยจะแบ่งเงินเป็น 3 กระปุก กระปุก Kept เอาไว้ใช้ กระปุก Grow เอาไว้เก็บเพื่อรับดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี และกระปุก Fun เอาไว้ตั้งค่าให้หักเงินมาเก็บทุกครั้งที่เรามียอดโอนเงินออกไปใช้จ่าย เพียงเท่านี้ก็จะมีเงินเก็บแบบไม่รู้ตัวแล้ว
2.Piggipo
แอปนี้เหมาะกับคนที่มีบัตรเครดิตหลายใบและใช้จ่ายเพลินจนลืมเก็บเงิน โดยตัวแอปจะเชื่อมต่อข้อมูลบัตรเครดิตจากแอปธนาคารอื่นๆ เพื่อให้เราเห็นยอดใช้จ่ายทั้งของบัตรแต่ละใบและโดยรวมทั้งเดือน อีกทั้งยังมีฟีเจอร์แจ้งเตือนไม่ให้เราลืมจ่ายหนี้บัตรเครดิตอีกด้วย
3.Oh My Cost
แอปสุดท้ายเป็นแอปบันทึกรายรับ-รายจ่าย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราเห็นพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเอง จะได้เก็บเงินได้มากขึ้น โดยสิ่งที่แตกต่างคือ แอปเก็บเงินออนไลน์ตัวนี้จะมีหน้าตาของบัญชีรายรับรายจ่ายที่น่ารักมากขึ้น สามารถใช้ไอคอนลายการ์ตูนแทนประเภทของรายการได้ ทั้งสนุกและไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์คำว่า อาหาร เสื้อผ้า หรือค่าเดินทาง ฯลฯ อีกต่อไป