แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - nenechan

หน้า: [1] 2
1

   เพราะหนึ่งในเป้าหมายของชีวิตเราแทบทุกคนก็คือการมีสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่งก็หมายถึงการที่เรามีเงินเพียงพอต่อการใช้จ่าย อยากใช้เมื่อไหร่ก็มีใช้อย่างคล่องตัว โดยที่ไม่ต้องไปหยิบยืมหรือรู้สึกฝืดเคือง ซึ่งการจะไปถึงจุดนั้นได้ จำเป็นจะต้องมีการวางแผนการออมที่ดี เพื่อให้มีต้นทุนชีวิตพร้อมไปพิชิตเป้าหมายทุกด้านโดยที่ไม่เดือดร้อนเรื่องการเงิน สำหรับมนุษย์ยุคดิจิทัลที่โลกหมุนรอบเทคโนโลยี วันนี้เราก็มีเทคนิคการเก็บเงิน พร้อม 3 แอปเก็บเงินออนไลน์ที่จะมาเปลี่ยนการออมให้มีสีสันและตอบโจทย์ความสะดวกสบายของคนยุคใหม่ มาดูกันเลย



ขอบคุณรูปภาพจาก keptbykrungsri.com

เทคนิคเก็บเงินให้มีกินมีใช้ ไม่ต้องรัดเข็มขัดจนหิว!
   ก่อนอื่น เรามาดูเทคนิคการออมแบบง่ายๆ ที่ช่วยให้ออมอย่างสมดุล ไม่ต้องปวดใจเพราะออมแบบตึงจนเงินไม่พอใช้กัน
- เก็บก่อนใช้อย่างน้อย 10% ของเงินเดือน ความจริงแล้วเงินจำนวนนี้ค่อนข้างน้อย และเราควรเก็บมากกว่า 10% แต่เพื่อให้ไม่ต้องรู้สึกลำบากจนเกินไป ควรหัก 10% นี้มาออมก่อนตั้งแต่มีรายได้เข้ามา จากนั้น หากเงินเหลือค่อยสมทบเข้าไปอีก

-ใช้แอปเก็บเงินออนไลน์เป็นตัวช่วย ไม่ว่าจะเป็นการทำบัญชีรายรับรายจ่ายแบบที่ซื้อเมื่อไหร่ก็บันทึกในมือถือได้ทันที หรือแอปที่ช่วยเพิ่มลูกเล่นในการเก็บเงินให้มีสีสันมากขึ้น

-ลิสต์ของที่ต้องซื้อแล้วช้อปปิ้งให้เป็นเวลา จะได้ลดรายจ่ายจุกจิก ทั้งยังช่วยให้วางแผนการแลกแต้มหรือสะสมคะแนนได้ง่ายขึ้นด้วย

แนะนำ 3 แอปเก็บเงินออนไลน์ที่คนยุคใหม่ควรมีติดมือถือ

1.Kept by Krungsri
   แอปแรกเป็นแอปน้องใหม่จากธนาคารกรุงศรีที่อยากให้ลอง โดยเฉพาะคนที่ชอบช้อป แล้วรู้สึกว่าเก็บเงินไม่ค่อยอยู่ แอปเก็บเงินออนไลน์ตัวนี้จะเป็นเหมือนกระเป๋าแยกไว้สำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยจะแบ่งเงินเป็น 3 กระปุก กระปุก Kept เอาไว้ใช้ กระปุก Grow เอาไว้เก็บเพื่อรับดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี และกระปุก Fun เอาไว้ตั้งค่าให้หักเงินมาเก็บทุกครั้งที่เรามียอดโอนเงินออกไปใช้จ่าย เพียงเท่านี้ก็จะมีเงินเก็บแบบไม่รู้ตัวแล้ว

2.Piggipo
   แอปนี้เหมาะกับคนที่มีบัตรเครดิตหลายใบและใช้จ่ายเพลินจนลืมเก็บเงิน โดยตัวแอปจะเชื่อมต่อข้อมูลบัตรเครดิตจากแอปธนาคารอื่นๆ เพื่อให้เราเห็นยอดใช้จ่ายทั้งของบัตรแต่ละใบและโดยรวมทั้งเดือน อีกทั้งยังมีฟีเจอร์แจ้งเตือนไม่ให้เราลืมจ่ายหนี้บัตรเครดิตอีกด้วย

3.Oh My Cost
   แอปสุดท้ายเป็นแอปบันทึกรายรับ-รายจ่าย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราเห็นพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเอง จะได้เก็บเงินได้มากขึ้น โดยสิ่งที่แตกต่างคือ แอปเก็บเงินออนไลน์ตัวนี้จะมีหน้าตาของบัญชีรายรับรายจ่ายที่น่ารักมากขึ้น สามารถใช้ไอคอนลายการ์ตูนแทนประเภทของรายการได้ ทั้งสนุกและไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์คำว่า อาหาร เสื้อผ้า หรือค่าเดินทาง ฯลฯ อีกต่อไป

2

การส่งพัสดุไปต่างประเทศอาจดูเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับหลายคน แต่ด้วยการเตรียมตัวที่ดี คุณสามารถทำให้กระบวนการนี้ราบรื่นและประสบความสำเร็จได้ บทความนี้จะแนะนำสิ่งที่คุณควรทำและเตรียมก่อนจัดส่งพัสดุไปต่างประเทศ



1. ตรวจสอบกฎระเบียบและข้อจำกัด

ก่อนอื่น คุณต้องศึกษากฎระเบียบและข้อจำกัดในการนำเข้าสินค้าของประเทศปลายทาง บางประเทศอาจมีข้อห้ามหรือข้อจำกัดเฉพาะสำหรับสินค้าบางประเภท เช่น อาหาร ยา หรือสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ ควรตรวจสอบว่ามีภาษีหรือค่าธรรมเนียมใดๆ ที่ผู้รับปลายทางต้องชำระหรือไม่

2. เลือกบริษัทขนส่งที่เหมาะสม

ก่อนจัดส่งพัสดุไปต่างประเทศควรเปรียบเทียบบริการและราคาของบริษัทขนส่งต่างๆ พิจารณาปัจจัยเช่น ความน่าเชื่อถือ ระยะเวลาในการจัดส่ง และบริการติดตามพัสดุ บางบริษัทอาจมีบริการพิเศษสำหรับการส่งระหว่างประเทศโดยเฉพาะ

3. บรรจุสินค้าอย่างปลอดภัย
การบรรจุสินค้าอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการจัดส่งพัสดุไปต่างประเทศ ใช้กล่องที่แข็งแรงและวัสดุกันกระแทกที่มีคุณภาพ หากเป็นสินค้าที่แตกหักง่าย ควรห่อหุ้มเป็นพิเศษและระบุข้อความ "Fragile" บนกล่อง

4. กรอกเอกสารให้ถูกต้องและครบถ้วน

เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียม ได้แก่:
- ใบขนส่งสินค้า (Airway Bill หรือ Bill of Lading)
- ใบกำกับสินค้า (Commercial Invoice)
- ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin) หากจำเป็น
- แบบฟอร์มศุลกากร

กรอกข้อมูลทั้งหมดให้ถูกต้องและชัดเจน โดยเฉพาะรายละเอียดของผู้ส่งและผู้รับ รวมถึงมูลค่าและรายละเอียดของสินค้า

5. ซื้อประกันภัยสินค้า

แม้ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่การซื้อประกันภัยสินค้าจะช่วยปกป้องคุณจากความเสียหายหรือการสูญหายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างส่งพัสดุไปต่างประเทศได้ โดยเฉพาะสำหรับสินค้าที่มีมูลค่าสูง

6. ระบุที่อยู่อย่างชัดเจนและถูกต้อง

เขียนที่อยู่ผู้ส่งและผู้รับให้ชัดเจนและครบถ้วน รวมถึงรหัสไปรษณีย์และหมายเลขโทรศัพท์ หากเป็นไปได้ ควรเขียนที่อยู่เป็นภาษาอังกฤษและภาษาท้องถิ่นของประเทศปลายทาง

7. คำนวณน้ำหนักและขนาดอย่างแม่นยำ

น้ำหนักและขนาดของพัสดุมีผลต่อค่าขนส่ง ควรชั่งน้ำหนักและวัดขนาดอย่างแม่นยำเพื่อประมาณค่าใช้จ่ายได้อย่างถูกต้อง

8. ติดฉลากและสติกเกอร์ที่จำเป็น

นอกจากที่อยู่แล้ว ควรติดฉลากหรือสติกเกอร์ที่จำเป็น เช่น "Fragile" สำหรับสินค้าที่แตกหักง่าย หรือ "This Way Up" เพื่อระบุทิศทางการวางกล่อง

9. เตรียมเอกสารสำเนา

เก็บสำเนาเอกสารทั้งหมดเกี่ยวกับการส่งพัสดุไปต่างประเทศไว้กับตัวเอง รวมถึงหมายเลขติดตามพัสดุ ในกรณีที่ต้องติดตามหรือมีปัญหาเกิดขึ้น

10. แจ้งผู้รับปลายทาง

แจ้งผู้รับปลายทางเกี่ยวกับการจัดส่ง วันที่คาดว่าจะได้รับพัสดุ และหมายเลขติดตามพัสดุ เพื่อให้เตรียมพร้อมรับสินค้าและติดตามสถานะได้

การเตรียมตัวอย่างรอบคอบตามขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้การส่งพัสดุไปต่างประเทศของคุณราบรื่นและประสบความสำเร็จ อย่าลืมว่าการวางแผนล่วงหน้าและความใส่ใจในรายละเอียดเป็นกุญแจสำคัญในการจัดส่งระหว่างประเทศ หากมีข้อสงสัยใดๆ อย่าลังเลที่จะสอบถามบริษัทขนส่งหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้ปฏิบัติตามขั้นตอนทั้งหมดอย่างถูกต้อง



3


   TOEIC (Test of English for International Communication) เป็นข้อสอบวัดระดับความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษสำหรับการสื่อสารในโลกธุรกิจ เป็นที่นิยมใช้ในการวัดระดับภาษาอังกฤษสำหรับการสมัครงาน เลื่อนตำแหน่ง หรือขอทุนการศึกษา หลายคนมุ่งหวังที่จะสอบ TOEIC ให้ได้คะแนนเต็ม เพื่อให้ผ่านการสอบคัดเลือกตามที่ตั้งใจ แต่การจะบรรลุเป้าหมายนั้น ต้องอาศัยทั้งความตั้งใจ ความพยายาม และเทคนิคการเตรียมตัวที่ดี เราจึงมี 7 เคล็ดลับเพื่อสอบ TOEIC ให้ได้คะแนนเต็มมาฝากกัน


ฝึกฝนคำศัพท์อย่างสม่ำเสมอ
   คำศัพท์เป็นหัวใจสำคัญในการสอบ TOEIC การฝึกฝนคำศัพท์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณเข้าใจเนื้อหาข้อสอบได้ดีขึ้น โดยควรเน้นศัพท์ที่ใช้ในบริบทธุรกิจ ฝึกท่องจำคำศัพท์โดยใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น การใช้ Flashcards แอปพลิเคชัน หรืออ่านหนังสือพิมพ์และบทความภาษาอังกฤษ ก็ช่วยได้เช่นกัน

ฝึกฝนการฟังภาษาอังกฤษ
   การฟังเป็นอีกหนึ่งพาร์ตที่สำคัญในข้อสอบ TOEIC ซึ่งคุณฝึกฝนการฟังภาษาอังกฤษจากสื่อต่าง ๆ ได้มากมาย เช่น เพลง ภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ หรือบทสนทนาภาษาอังกฤษ และฝึกจับใจความสำคัญ ฝึกจดโน้ต ฝึกเดาคำศัพท์ใหม่ เพื่อพัฒนาทักษะการฟังของคุณให้พร้อมสำหรับการสอบด้วย

อ่านหนังสือภาษาอังกฤษเยอะ ๆ
   การอ่านเป็นพาร์ตที่ใช้เวลานานที่สุดในข้อสอบ TOEIC อยากได้คะแนนเต็มต้องฝึกฝนการอ่านภาษาอังกฤษจากสื่อต่าง ๆ อย่าสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็น บทความข่าว บทความธุรกิจ หรือหนังสือภาษาอังกฤษ โดยฝึกควบคู่กันไปทั้งการอ่านจับใจความสำคัญ การอ่านเร็ว และการตอบคำถามเกี่ยวกับเนื้อหาที่อ่าน

หมั่นทำข้อสอบเก่า
   การฝึกทำข้อสอบเก่า TOEIC เป็นวิธีที่ดีในการทดสอบความรู้ความเข้าใจ ฝึกบริหารเวลา และฝึกเทคนิคการทำข้อสอบ หาข้อสอบเก่ามาฝึกทำ จับเวลาให้เหมือนจริง วิเคราะห์ข้อผิดพลาด และปรับปรุงจุดอ่อนของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ใช้เทคนิคการทำข้อสอบจากมือโปร
   มีเทคนิคการทำข้อสอบ TOEIC มากมายที่สามารถช่วยให้คุณประหยัดเวลาและเพิ่มโอกาสสอบ TOEIC ได้คะแนนเต็ม เช่น เทคนิคการตอบคำถาม เทคนิคการอ่านจับใจความเทคนิคการบริหารเวลา และเทคนิคการลดข้อผิดพลาด ศึกษาเทคนิคต่าง ๆ ฝึกฝนจนคล่องแคล่ว และนำไปใช้ในห้องสอบได้จริง

พักผ่อนให้เพียงพอ
   การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน จะช่วยให้สมองของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จดจ่อกับการทบทวนบทเรียน และจดจำเนื้อหาในการสอบ TOEIC ได้ดีขึ้น

เข้าห้องสอบด้วยความมั่นใจ
   ความมั่นใจเป็นสิ่งสำคัญมากในการสอบ TOEIC เชื่อมั่นในตัวเอง คิดบวก และทำข้อสอบอย่างเต็มที่ ควบคุมสติ อ่านคำถามอย่างละเอียด ตอบคำถามตามความรู้ความเข้าใจ อย่าเสียเวลาไปกับข้อที่ทำไม่ได้ เพียงเท่านี้ก็มีโอกาสได้คะแนนสูงตามความตั้งใจแล้ว

   การสอบ TOEIC ให้ได้คะแนนเต็ม ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ตั้งใจ พยายาม ฝึกฝน และใช้เทคนิคการเตรียมตัวที่ดี คุณก็สามารถบรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้อย่างแน่นอน


4

ปากเกร็ด อำเภอหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ห่างจากกรุงเทพมหานครเพียงไม่กี่กิโลเมตร ที่นี่เปรียบเสมือนอัญมณีที่ซ่อนตัวอยู่ เพราะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งนอกจากโรงแรมที่พัก คอนโด และอพาร์ทเม้นท์ในย่านปากเกร็ดจะมีให้เข้าพักอย่างมากมายแล้ว ในย่านนี้ยังมีสถานที่ที่น่าแวะไปสัมผัสกับวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมอีกมากมายอีกด้วย


สำหรับใครที่กำลังวางแผนปักหมุดไปท่องเที่ยวในย่านนี้ และกำลังอยากจะหาที่พักค้างคืน ตัวเลือกอย่างอพาร์ทเม้นท์ในย่านปากเกร็ดที่เปิดให้บริการแบบเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ก็มีอยู่หลากหลายที่ ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ไม่แพ้การเข้าพักในโรงแรมเลยทีเดียว

1. เกาะเกร็ด
เกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องปั้นดินเผา แหล่งรวมช่างฝีมือที่มีทักษะสืบทอดมายาวนาน นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นชมบรรยากาศ เลือกซื้อของฝาก เรียนรู้วิธีการทำเครื่องปั้นดินเผา หรือแวะชิมอาหารอร่อยๆ ริมแม่น้ำ

2. วัดปรมัยยิกาวาส
ตั้งอยู่บนเกาะเกร็ด โดดเด่นด้วยเจดีย์มุเตาสีขาว ภายในวัดร่มรื่น เหมาะสำหรับการไหว้พระขอพร ชมสถาปัตยกรรมไทยโบราณ และเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของเกาะเกร็ด

3. ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง
ตลาดน้ำโบราณริมคลองบางน้ำผึ้ง บรรยากาศร่มรื่น เต็มไปด้วยร้านค้าขายของกิน ของใช้ ผลไม้ และผักสด นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือชมวิถีชีวิตริมน้ำ ชิมอาหารไทยโบราณ และเลือกซื้อของฝาก
ทำไมย่านปากเกร็ดถึงน่าเที่ยวน่าอยู่?

นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ย่านปากเกร็ดยังขึ้นชื่อว่าน่าอยู่ หากใครที่กำลังมองหาคอนโดหรืออพาร์ทเม้นท์ในย่านปากเกร็ดเพื่ออยู่อาศัย มาดูเหตุผลสำคัญที่ย่านนี้ตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตกัน

1.  การเดินทางสะดวก
รถไฟฟ้าสายสีชมพู: เปิดให้บริการแล้ว เชื่อมต่อปากเกร็ดกับกรุงเทพมหานคร และจังหวัดปทุมธานี
มีถนนสายหลักให้เลือกใช้: คนที่ปักหมุดอยากอาศัยในย่านนี้ และกำลังมองหาอพาร์ทเม้นท์ย่านปากเกร็ด แต่กำลังวงในเรื่องการเดินทาง บอกเลยว่าย่านนี้มาพร้อมกับถนนเส้นหลักหลายสาย ที่เชื่อมต่อปากเกร็ดกับกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลได้อย่างรวดเร็ว เช่น ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนติวานนท์ ถนนประชาธิปไตย
ทางด่วน: เชื่อมต่อปากเกร็ดกับกรุงเทพมหานคร และหัวเมืองต่างๆ เช่น ทางด่วนสายอุดรรัถยา ทางพิเศษอ.รัตนาธิเบศร์

2.  สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน:

ห้างสรรพสินค้า: เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ เทสโก้ โลตัส  บิ๊กซี โฮมโปร
โรงพยาบาล: โรงพยาบาลมหาราช โรงพยาบาลพระนั่งครินทร์ โรงพยาบาลเปาโลเกษม
โรงเรียน: โรงเรียนนนทบุรีวิทยาลัย โรงเรียนสตรีวิทยา 2 โรงเรียนปากเกร็ด
มหาวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ มหาวิทยาลัยสยาม มหาวิทยาลัยรัตนบดินทร์
คอนโดและอพาร์ทเม้นท์ในย่านปากเกร็ดมีให้เลือกหลากหลาย : หากพูดถึงสถานที่ในการพักอาศัย ย่านปากเกร็ดก็ครบครัน ไม่ว่าจะเลือกซื้อคอนโด หรือยู่อาศัยกับอพาร์ทเม้นท์ก็สามารถเลือกได้ตามต้องการ


5

ในยุคสมัยที่ค่ารักษาพยาบาลพุ่งสูงขึ้น การเจ็บป่วยครั้งหนึ่งอาจสร้างภาระทางการเงินมหาศาล ประกันสุขภาพจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน แต่ด้วยรูปแบบประกันที่มีหลากหลาย หลายคนอาจสับสนว่าประกันแบบไหนเหมาะกับตัวเอง บทความนี้จึงจะพามาแนะนำประกันสุขภาพเหมาจ่าย ที่ให้ความคุ้มครองแบบครอบคลุม ช่วยเสริมความอุ่นใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แต่ก่อนตัดสินใจซื้อ เรามีเรื่องควรรู้เกี่ยวกับประกันประเภทนี้มาฝากกัน


ทำความรู้จัก ประกันสุขภาพเหมาจ่าย คืออะไร ?
ประกันสุขภาพเหมาจ่ายเป็นประเภทหนึ่งของประกันสุขภาพ ที่ให้ความคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลแบบวงเงินเหมาจ่าย โดยผู้เอาประกันจะจ่ายเบี้ยประกันเป็นจำนวนเงินที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เมื่อเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลที่อยู่ในเครือข่ายของบริษัทประกัน ผู้เอาประกันสามารถใช้สิทธิ์เบิกค่ารักษาได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่เกินวงเงิน ทำให้สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ทั้งแบบผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD) ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละกรมธรรม์

ข้อดีของประกันสุขภาพเหมาจ่าย
-คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลแบบครอบคลุม ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น
-หมดกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลพุ่งสูง โดยเฉพาะโรคร้ายแรงที่มีค่ารักษาพยาบาลสูง
-เข้ารับการรักษาพยาบาลได้สะดวก ไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลก่อน
-ประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลาในการตรวจสอบใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล
-วางแผนค่าใช้จ่ายได้ง่าย เพราะทราบวงเงินค่ารักษาพยาบาลที่แน่นอน
-ได้รับความคุ้มครองเพิ่มเติม บางกรมธรรม์ของประกันสุขภาพเหมาจ่าย ยังมีบริการเสริมอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน บริการตรวจสุขภาพ บริการทันตกรรม

ข้อควรพิจารณาในการเลือกซื้อประกันสุขภาพเหมาจ่าย
-วงเงินค่ารักษาพยาบาล ควรเลือกวงเงินที่เหมาะสมกับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล พิจารณาจากเพศ อายุ สุขภาพ ประวัติการรักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลปัจจุบัน
-ค่าเบี้ยประกันภัย เปรียบเทียบเบี้ยประกันภัยจากบริษัทประกันภัยต่าง ๆ โดยพิจารณาจากความคุ้มครอง วงเงินค่ารักษาพยาบาล
- เงื่อนไข และบริการที่ได้รับ
-ความน่าเชื่อถือของบริษัทประกันภัย เลือกบริษัทประกันภัยที่มีชื่อเสียง มั่นคง มีฐานะการเงินที่มั่นคง และมีบริการที่ดี
-เงื่อนไขของกรมธรรม์ อ่านรายละเอียดเงื่อนไขของกรมธรรม์อย่างละเอียด พิจารณาถึงความคุ้มครอง วงเงินค่ารักษาพยาบาล ข้อยกเว้น ระยะเวลารอคอย ระยะเวลาคุ้มครอง และสิทธิประโยชน์ต่างๆ
-บริการของบริษัทประกันภัย พิจารณาถึงบริการของบริษัทประกันภัย เช่น มีเครือข่ายโรงพยาบาลที่รองรับกว้างขวางหรือไม่ มีบริการเคลมประกันที่สะดวกหรือไม่ มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินหรือไม่ เป็นต้น

ประกันสุขภาพเหมาจ่าย เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลแบบครอบคลุม ซึ่งจะช่วยให้คุณอุ่นใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบเงื่อนไข และเลือกซื้อประกันสุขภาพเหมาจ่ายจากบริษัทประกันภัยที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด


6

สำหรับคนที่เงินขาดมือ ต้องการจำนำสิ่งของใกล้ตัวที่สุดอย่างมือถือ แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกบริการรับจำนำมือถืออย่างไรดี เรามีเคล็ดลับดี ๆ มาแนะนำ



5 เคล็ดลับการเลือกบริการรับจํานํามือถือ ปลอดภัย ได้เงินจริง
1.ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการรับจํานํามือถือ

ก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการรับจำนำมือถือ สิ่งแรกที่ควรทำคือการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ ควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

-ประวัติและระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจ บริษัทที่มีประสบการณ์ยาวนานมักจะมีความน่าเชื่อถือมากกว่า
-ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ ตรวจสอบว่ามีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
-รีวิวและความคิดเห็นจากลูกค้า อ่านรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงเพื่อดูประสบการณ์ของคนอื่น ๆ
-ที่อยู่และช่องทางการติดต่อที่ชัดเจน บริษัทที่มีที่ตั้งชัดเจนและช่องทางการติดต่อหลากหลายมักจะน่าเชื่อถือกว่า

2.เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมเป็นปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกบริการรับจำนำมือถือ ควรเปรียบเทียบข้อเสนอจากผู้ให้บริการหลาย ๆ ราย โดยควรเลือกผู้ให้บริการที่มีอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมที่สมเหตุสมผล ไม่สูงจนเกินไป และมีเงื่อนไขที่ยืดหยุ่น เพื่อให้สามารถจ่ายคืนได้โดยไม่เป็นภาระมากเกินไป

3.พิจารณาวิธีการประเมินราคามือถือ
ผู้ให้บริการรับจำนำมือถือแต่ละรายอาจมีวิธีการประเมินราคามือถือที่แตกต่างกัน ควรเลือกผู้ให้บริการที่มีวิธีการประเมินราคาที่เป็นธรรมและโปร่งใส สามารถอธิบายเหตุผลในการกำหนดราคาได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ควรตรวจสอบว่าราคาที่ได้รับการประเมินนั้นใกล้เคียงกับราคาตลาดหรือไม่ เพื่อให้แน่ใจว่าได้รับข้อเสนอที่ยุติธรรม

4.ตรวจสอบความปลอดภัยในการเก็บรักษามือถือ
เนื่องจากมือถือเป็นอุปกรณ์ที่มีมูลค่าและอาจมีข้อมูลส่วนตัวสำคัญ จึงควรให้ความสำคัญกับวิธีการเก็บรักษามือถือของผู้ให้บริการรับจำนำมือถือ โดยผู้ให้บริการที่ดีควรมีระบบรักษาความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือ และมีนโยบายชดเชยที่ชัดเจนในกรณีที่เกิดความเสียหายหรือสูญหาย นอกจากนี้ ควรแนะนำให้ลูกค้าลบข้อมูลส่วนตัวออกจากเครื่องก่อนนำมาจำนำเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

5.ศึกษาเงื่อนไขและข้อตกลงให้ละเอียด
ก่อนตกลงใช้บริการรับจำนำมือถือ ควรอ่านและทำความเข้าใจเงื่อนไขและข้อตกลงทั้งหมดอย่างละเอียด โดยให้ความสนใจกับประเด็นต่าง ๆ หากมีข้อสงสัยหรือไม่เข้าใจในส่วนใด ควรสอบถามเจ้าหน้าที่ให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจ

ทั้งนี้ ก่อนตัดสินใจจำนำมือถือ ควรพิจารณาทางเลือกอื่น ๆ ก่อน เช่น การขอความช่วยเหลือจากครอบครัวหรือเพื่อน หรือการหา[^_^] หากจำเป็นต้องใช้บริการจำนำมือถือจริง ๆ ให้ใช้บริการอย่างรอบคอบ วางแผนการชำระคืนให้ดี และพยายามไถ่ถอนให้เร็วที่สุดเพื่อลดภาระดอกเบี้ยและค่าใช้จ่าย การใช้บริการอย่างมีสติและรับผิดชอบจะช่วยให้คุณสามารถแก้ไขปัญหาทางการเงินเฉพาะหน้าได้โดยไม่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสถานะทางการเงินในระยะยาว


7

   เชียงใหม่ เมืองหลวงทางวัฒนธรรมและธรรมชาติของภาคเหนือ ถึงแม้ว่าจะเป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี แต่ในฤดูร้อน ก็บอกเลยว่าจังหวัดเชียงใหม่ก็อากาศร้อนระอุไม่จังหวัดอื่น ๆ เช่นกัน ดังนั้น การติดตั้งเครื่องปรับอากาศหรือแอร์ เพื่อให้อากาศภายในอาคารเย็นสบายมากขึ้น จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทั้งบ้าน ร้านค้า ร้านอาหาร และสถานประกอบการต่าง ๆ ซึ่งหากจะหาซื้อแอร์ในเชียงใหม่นั้น ก็มีร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าเปิดให้บริการมากมาย แต่จะเลือกซื้อแอร์จากร้านในเชียงใหม่อย่างไรให้อุ่นใจชัวร์ มาดูคำตอบได้ที่นี่ !


1.ขอคำแนะนำจากคนรู้จัก
อยากซื้อแอร์ในเชียงใหม่ แต่ไม่รู้จะเลือกร้านไหนดี หนึ่งในจุดเริ่มต้นในการหาร้านที่ไว้ใจได้คือการขอคำแนะนำจากบุคคลที่คุณรู้จัก เช่น เพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน หรือคนในครอบครัว คำแนะนำจากปากต่อปากเป็นวิธีที่น่าเชื่อถือในการค้นหาร้านที่มีชื่อเสียงในท้องถิ่นเนื่องจากบางคนอาจมีประสบการณ์ในการซื้อแอร์มาก่อนและสามารถแนะนำร้านที่ดีให้คุณได้นั่นเอง

2.อ่านรีวิวออนไลน์
ในยุคปัจจุบัน การอ่านรีวิวออนไลน์ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สำคัญในการค้นหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการต่าง ๆ รวมถึงการเลือกร้านแอร์ด้วย การอ่านรีวิวจากหลาย ๆ แหล่งจะช่วยให้คุณได้รับมุมมองที่หลากหลายจากประสบการณ์จริงของลูกค้าคนอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม อย่าตัดสินจากรีวิวเพียงรีวิวเดียว เนื่องจากบางรีวิวอาจเป็นเรื่องเฉพาะกรณีหรือมีเจตนาแอบแฝงได้

3.เยี่ยมชมร้านด้วยตนเอง
หลังจากรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นจากคำแนะนำและรีวิวต่าง ๆ ได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปที่สำคัญคือการเยี่ยมชมร้านด้วยตัวคุณเอง การได้เห็นสภาพแวดล้อมภายในร้าน ความเป็นระเบียบเรียบร้อย บรรยากาศการบริการ และการปฏิบัติตัวของพนักงาน จะช่วยให้คุณได้เห็นบรรยากาศจริงและการบริการของร้านนั้น ๆ
และเมื่อได้พบและพูดคุยกับพนักงานขายโดยตรง อย่าลังเลที่จะสอบถามข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าติดตั้ง การบริการหลังการขาย ระยะเวลาการรับประกัน คุณสมบัติและประสิทธิภาพของแบรนด์และรุ่นต่าง ๆ ที่มีจำหน่าย พนักงานขายที่ดีควรให้คำแนะนำและชี้แจงด้วยความเต็มใจ มีความเข้าใจในสินค้า และสามารถอธิบายรายละเอียดได้อย่างชัดเจน

4.เปรียบเทียบราคาระหว่างหลายๆ ร้าน
ราคาถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องนำมาพิจารณาประกอบในการตัดสินใจซื้อแอร์ในเชียงใหม่ ดังนั้น หลังจากเยี่ยมชมและรวบรวมข้อมูลจากหลาย ๆ ร้านแล้ว อย่าลืมเปรียบเทียบราคาเพื่อหาร้านที่เสนอราคาที่เหมาะสมที่สุด นอกจากนี้ ยังควรสอบถามเกี่ยวกับโปรโมชัน ส่วนลด หรือสิทธิประโยชน์พิเศษที่อาจมีในช่วงเวลานั้นด้วย เพื่อให้ได้โปรโมชันที่คุ้มค่าที่สุด

   การเลือกซื้อแอร์จากร้านในเชียงใหม่อาจดูเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่หากคุณใช้หลักการเลือกตามข้อแนะนำเหล่านี้ คุณจะสามารถหาร้านที่ดี มีคุณภาพ ให้บริการที่ประทับใจ และคุ้มค่ากับการลงทุนได้อย่างแน่นอน

8

วันนี้การเทรดฟอเร็กซ์ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักลงทุน เนื่องจากเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงและเปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม การเลือกเว็บเช็กโบรกเกอร์ Forex ที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้นั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากคุณจะต้องฝากเงินเข้าบัญชีเทรด ดังนั้นในบทความนี้จะขอแนะนำวิธีเลือกเว็บเช็กโบรกเกอร์ Forex ที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้


1.ตรวจสอบใบอนุญาตและการกำกับดูแล
สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาคือดูว่าเว็บเช็กโบรกเกอร์ Forex นั้นถูกกำกับดูแลโดยหน่วยงานกำกับดูแลที่น่าเชื่อถือหรือไม่ เช่น Financial Conduct Authority (FCA) ของสหราชอาณาจักร, National Futures Association (NFA) ของสหรัฐอเมริกา, Australian Securities and Investments Commission (ASIC) เป็นต้น
การมีใบอนุญาตจากหน่วยงานเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าโบรกเกอร์ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎระเบียบและมาตรฐานที่กำหนด

2.ศึกษาประวัติและชื่อเสียง
ชื่อเสียงของเว็บเช็กโบรกเกอร์ Forex นั้นมีความสำคัญมาก ดังนั้น ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประวัติ ความน่าเชื่อถือ และชื่อเสียงของโบรกเกอร์นั้น ๆ จากบทวิจารณ์ของลูกค้าที่ใช้บริการจริง รวมถึงเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เชื่อถือได้ โบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงดีย่อมได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนมากกว่า

3.ความปลอดภัยของระบบ
ระบบความปลอดภัยของเว็บเช็กโบรกเกอร์ Forex นั้นมีความสำคัญ เนื่องจากคุณจะต้องฝากเงินและข้อมูลส่วนตัวไว้กับพวกเขา โดยควรตรวจสอบว่าโบรกเกอร์นั้นใช้ระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง เช่น การเข้ารหัสข้อมูล, ระบบยืนยันตัวตน 2 ชั้น และมีนโยบายรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนตัวที่เข้มงวด

4.สภาพคล่องและคำสั่งซื้อขาย
สภาพคล่องในการซื้อขายคู่สกุลเงินหลักและการดำเนินการคำสั่งซื้อขายอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพนั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเทรด ควรเลือกใช้บริการกับเว็บเช็กโบรกเกอร์ Forex ที่มีสภาพคล่องสูงและดำเนินการคำสั่งซื้อขายได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้สามารถเข้าและออกจากตลาดได้ในเวลาที่เหมาะสม

5.ค่าธรรมเนียมและข้อกำหนดในการเทรด
ค่าธรรมเนียมและข้อกำหนดในการเทรดของเว็บเช็กโบรกเกอร์แต่ละแห่งอาจแตกต่างกันไป ควรเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมและข้อกำหนดต่าง ๆ เช่น ค่าคอมมิชชั่น, สเปรดราคา, เงินฝากขั้นต่ำ และกลยุทธ์การเทรด เพื่อหาเว็บเช็กโบรกเกอร์ที่มีเงื่อนไขที่เหมาะสมและคุ้มค่ากับการลงทุนของคุณมากที่สุด

6บริการและความช่วยเหลือลูกค้า
บริการและความช่วยเหลือลูกค้าที่ดีนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนที่เริ่มต้นใหม่ ควรเลือกเว็บเช็กโบรกเกอร์ที่มีทีมบริการลูกค้าที่เชี่ยวชาญและพร้อมให้คำแนะนำ รวมถึงมีช่องทางการติดต่อหลากหลายรูปแบบ เช่น โทรศัพท์, อีเมล, แชท และอื่น ๆ

ก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการเว็บเช็กโบรกเกอร์ Forex ควรอ่านความคิดเห็นและบทวิจารณ์จากนักลงทุนคนอื่น ๆ ที่ใช้บริการจริงบนเว็บไซต์ต่าง ๆ รวมถึงฟอรั่มที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ


9

ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าหลายๆ ธนาคารเริ่มมีการพัฒนาระบบการทำธุรกรรมทางด้านการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการโอนเข้า โอนออก ชำระด้วย QR Code ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้งานรายบุคคลแล้วในตอนนี้ก็จะเห็นได้ว่าหลายๆ ร้านค้าได้มีการเพิ่มทางเลือกการชำระเงินให้กับลูกค้าด้วยการสแกนจ่ายตลอดไปจนถึงการแปะป้ายรับโอนเงินทุกธนาคารจากลูกค้า เพื่อเป็นการตอบสนองว่าประเทศไทยนั้นเข้าสู่สังคมแบบไร้เงินสด (Cashless) อย่างเต็มรูปแบบ ง่ายๆ เพียงแค่ใช้สมาร์ตโฟนและโอนชำระผ่านแอปพลิเคชัน แต่ทั้งนี้ในมุมมองของร้านค้าเอง สิ่งที่ควรทราบและระมัดระวังเกี่ยวกับการติดป้ายรับโอนเงินทุกธนาคารนั้นจะมีอะไรบ้าง บทความนี้มีข้อมูลดีๆ มาแชร์


ความปลอดภัย
สิ่งสำคัญอันดับแรกที่คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ของการแปะป้ายรับโอนเงินทุกธนาคารของร้านค้า แนะนำว่าให้ระมัดระวังเรื่องของความปลอดภัย หากเป็นไปได้แนะนำว่าให้แปะป้ายเป็น QR Code และให้หลีกเลี่ยงการแปะเป็นเลขบัญชีธนาคารจะดีกว่า นอกจากจะเพื่อความสะดวกของลูกค้าในการโอนชำระแล้ว ยังเป็นการลดความเสี่ยงที่ทางร้านค้าเจ้าของบัญชีจะถูกแฮ็กข้อมูลจากผู้ไม่ประสงค์ดีด้วยเช่นกัน

ความถูกต้อง
สำหรับในบางร้านค้าที่เลือกติดป้ายรับโอนเงินทุกธนาคาร แนะนำว่าให้ระมัดระวังเรื่องของความถูกต้องในระหว่างการโอนชำระด้วยเช่นกัน ในบางกรณีที่ร้านค้ามีลูกค้าเยอะๆ ในชั่วโมงเร่งด่วน ลูกค้าหลายคนต้องการโอนชำระพร้อมกันในเวลาเดียว หากเป็นไปได้แนะนำให้ทางร้านค้าตรวจสอบในแต่ละรายการรับโอนด้วยว่าถูกต้องหรือไม่ เพื่อป้องกันความสับสน ความผิดพลาด ตลอดไปจนถึงป้องกันมิจฉาชีพด้วยนั่นเอง

การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
แน่นอนว่าถ้าหากทางร้านค้าเลือกที่จะติดป้ายรับโอนเงินทุกธนาคาร นั่นหมายถึงว่าลูกค้าทุกคนที่ต้องการโอนชำระแทนการใช้เงินสดจำเป็นต้องมีแอปพลิเคชันธนาคาร สำคัญไปกว่านั้นคือสัญญาณอินเทอร์เน็ตต้องดีด้วยเช่นกัน แต่สำหรับในข้อควรระวังนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอะไรมากนักเพราะปัจจุบันเชื่อว่าลูกค้าทุกคนมีสมาร์ตโฟนและสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ดีอยู่แล้ว ตามประสิทธิภาพของระบบเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในไทยเอง

เพื่อเตรียมความพร้อมให้ประเทศไทยเข้าสู่สังคมไร้เงินสด (Cashless) ได้อย่างเต็มตัว แม้ว่าป้ายรับโอนเงินทุกธนาคารจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ทางร้านค้าเลือกที่จะอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า อย่างไรก็ตามแนะนำว่าในทุกๆ การทำธุรกรรมจะต้องเป็นไปอย่างปลอดภัย ตรวจสอบข้อมูลผู้รับโอนให้ดีก่อนที่จะกดยืนยันเพื่อทำธุรกรรม เพื่อให้การทำธุรกรรมผ่านเทคโนโลยีสุดทันสมัยเป็นไปอย่างปลอดภัยมากที่สุดนั่นเอง และถ้าหากพบสัญญาณความไม่ชอบมาพากลในระหว่างการทำธุรกรรมทางการเงินที่คิดว่าน่าจะเป็นมิจฉาชีพหรือผู้ไม่ประสงค์ดีก็ควรรีบหลีกเลี่ยงและติดต่อธนาคารเจ้าของบัตรให้เร็วที่สุด

10
ในยุคสมัยที่เต็มไปด้วยความเครียด การนวดสปาถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกาย แต่ด้วยร้านนวดสปาที่มีให้เลือกมากมาย การค้นหาร้านที่เหมาะกับความต้องการและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายนั้น อาจจะเป็นเรื่องที่ยากลำบาก สำหรับคนที่สนใจบริการ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกสถานที่นวดสปาที่ไหนดีให้ตรงใจ เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การนวดที่ดีที่สุดในราคาที่คุ้มค่า


1. กำหนดความต้องการของคุณ
นวดสปาที่ไหนดี ? ก่อนอื่น ต้องกำหนดความต้องการของคุณก่อนว่าต้องการนวดแบบไหน เพื่ออะไร ต้องการบรรยากาศแบบไหน เช่น
ต้องการผ่อนคลาย : เลือกร้านที่มีบรรยากาศผ่อนคลาย เงียบสงบ พนักงานบริการดี มีโปรแกรมนวดสำหรับการผ่อนคลายโดยเฉพาะ
ต้องการรักษาสุขภาพ : เลือกร้านที่มีโปรแกรมนวดที่เน้นการรักษา เช่น นวดแผนไทย นวดอโรม่า หรือนวดเพื่อลดอาการปวดเมื่อย
ต้องการความสวยงาม : เลือกร้านที่มีโปรแกรมนวดที่เน้นความสวยงาม เช่น นวดกระชับผิว นวดหน้าใส หรือสครับผิว

2. ตั้งงบประมาณ
เมื่อทราบความต้องการของตัวเองแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการตั้งงบประมาณ โดยทั่วไปแล้ว ราคานวดสปาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของการนวด สถานที่ บรรยากาศ และชื่อเสียงของร้าน

3. หารีวิวและเปรียบเทียบ
ปัจจุบันมีช่องทางออนไลน์มากมายที่คุณสามารถหารีวิวนวดสปาที่ไหนดีได้จากเว็บไซต์ Wongnai, Pantip, Facebook หรือ Google Maps  ลองอ่านรีวิวจากลูกค้าจริง เปรียบเทียบราคา โปรแกรมนวด และบรรยากาศของร้าน

4. เลือกร้านที่เดินทางสะดวก
หากคุณไม่สะดวกในการเดินทาง ร้านนวดสปาที่อยู่ใกล้บ้านหรือใกล้ที่ทำงานก็จะช่วยประหยัดเวลาและค่าเดินทางของคุณได้

5. เลือกร้านที่มีโปรโมชั่น
หลาย ๆ ร้านนวดสปามักจะมีโปรโมชั่นส่วนลดหรือแพ็กเกจพิเศษออกมาอยู่เสมอ ลองติดตามข่าวสารจากทางร้านผ่านเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดีย

6. เลือกร้านที่มีมาตรฐาน
ก่อนตัดสินใจเลือกร้านนวดสปาที่ไหนดี ลองตรวจสอบดูว่าร้านนั้นๆ มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจอย่างถูกต้องหรือไม่ พนักงานมีใบรับรองหรือไม่  สถานที่สะอาดถูกสุขอนามัยหรือไม่

7. ลองไปสัมผัสด้วยตัวเอง
หากเป็นไปได้ ลองไปที่ร้านนวดสปาเพื่อดูบรรยากาศ พูดคุยกับพนักงาน และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

ขั้นตอนการเข้าใช้บริการนวดสปา
แจ้งความต้องการของคุณให้พนักงานทราบอย่างละเอียด
แจ้งให้พนักงานทราบหากมีโรคประจำตัวหรือแพ้อะไร
เลือกโปรแกรมนวดที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของคุณ
แจ้งพนักงานหากต้องการแรงกดมากหรือน้อย
ผ่อนคลายและปล่อยวางความกังวล

การนวดสปาเป็นวิธีที่ดีในการผ่อนคลายความเครียด ฟื้นฟูร่างกาย และเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายและจิตใจ แต่หากยังไม่รู้ว่านวดสปาที่ไหนดี หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณในการเลือกที่นวดสปาที่เหมาะกับความต้องการและคุ้มค่ากับเงินที่จ่าย



11
ผิวแพ้ง่าย เป็นปัญหาที่ใครหลายคนต้องเผชิญ มักมาพร้อมกับอาการระคายเคือง ผื่นคัน แห้งตึง ไม่สบายผิว การเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวจึงมีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะสบู่อาบน้ำที่เหมาะกับผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ แต่ในการเลือกใช้สบู่อาบน้ำสำหรับผิวแพ้ง่ายนั้น ควรเลือกแบบใดที่ช่วยให้เหมาะกับผิวของเรา พร้อมช่วยฟื้นฟูให้ผิวแข็งแรงมีสุขภาพดี เรามีเคล็ดลับการเลือกซื้อสบู่อาบน้ำเพื่อคนมีผิวแพ้ง่ายมาฝากกัน   


1. สบู่ที่มีส่วนผสมอ่อนโยน
สำหรับวิธีการเลือกสบู่อาบน้ำสำหรับผิวแพ้ง่าย มีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเพื่อให้คุณสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กับผิวของตนเองที่สุด
ค่า pH สมดุล: เลือกสบู่ที่มีค่า pH ใกล้เคียงกับผิวหนังปกติ อยู่ที่ประมาณ 5.5 - 6.5 ช่วยรักษาสมดุลของกรดและด่างบนผิว ป้องกันการระคายเคือง
สารทำความสะอาด: เลือกสบู่อ่อนโยน ปราศจากสาร SLS (Sodium Lauryl Sulfate) และ SLES (Sodium Laureth Sulfate) ซึ่งอาจทำให้ผิวแห้งตึง ระคายเคือง เหมาะกับเด็กทารกและผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
สารสกัดจากธรรมชาติ: เลือกสบู่อาบน้ำสำหรับผิวแพ้ง่าย ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น ว่านหางจระเข้ คาโมมายล์ ข้าวโอ๊ต ช่วยปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบ ให้ความชุ่มชื้น
Ceramide: สารสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างชั้นปกป้องผิว ลดการสูญเสียน้ำ ให้ผิวชุ่มชื้น เนียนนุ่ม

2. ส่วนผสมฟื้นฟูและปกป้องผิว
Niacinamide: ช่วยลดรอยแดง รอยดำ เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว
Hyaluronic Acid: เติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว ชะลอริ้วรอย
Shea Butter: บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ลึกถึงชั้นผิว
Vitamin E: ต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอริ้วรอย ปกป้องผิวจากมลภาวะ

3. หลีกเลี่ยงส่วนผสมที่ทำร้ายผิว
หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผิวเกิดปัญหาไม่หยุด นั่นก็คือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมทำร้ายผิว ซึ่งในการเลือกใช้สบู่อาบน้ำสำหรับคนผิวแพ้ง่าย ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารเหล่านี้
น้ำหอม: อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
สีสังเคราะห์: อาจก่อให้เกิดการแพ้ระคายเคือง
แอลกอฮอล์: ทำให้ผิวแห้งตึง
Paraben: สารกันบูดที่อาจก่อให้เกิดมะเร็ง

4. สังเกตสัญญาณเตือนบนผิว
หากใครใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่ซื้อมาแล้ว เกิดอาการเหล่านี้ ควรหยุดใช้ทันที เพราะผิวของคุณอาจไม่เหมาะกับผลิตภัณฑ์เหล่านั้น
อาการแสบร้อน คัน: เป็นสัญญาณเตือนว่าผิวแพ้สบู่ ควรหยุดใช้ทันที
ผื่นแดง: อาการแพ้ อาจมีตุ่มน้ำพองร่วมด้วย
ผิวแห้งลอก: สบู่อาจทำลายชั้นปกป้องผิว
5. ทดสอบสบู่ก่อนใช้
ทาที่ท้องแขนด้านใน: รอ 24 ชั่วโมง สังเกตอาการแพ้
เริ่มใช้ปริมาณน้อย: ค่อยๆ เพิ่มปริมาณ
สังเกตผลลัพธ์: หากผิวดีขึ้น แสดงว่าสบู่เหมาะกับคุณ
ตัวอย่างสบู่อาบน้ำสำหรับผิวแพ้ง่าย
Eucerin pH5 Soap-Free Shower Gel: อ่อนโยน ปราศจากสบู่ เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
Kaff & Co: สบู่ก้อนดอกคำฝอยและใบบัวบก (ผิวหน้าหรือผิวกาย) มีความอ่อนโยนพร้อมช่วยปกป้องและฟื้นฟูผิว เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
Cetaphil Gentle Skin Cleanser: ทำความสะอาดอ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม เหมาะกับผิวบอบบาง
Sebamed Cleansing Bar: ค่า pH 5.5 สมดุลกับผิว อ่อนโยนต่อผิว
Physiogel Derma Soap Extra Mild: อ่อนโยน ปราศจากสบู่ เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
Aveeno Daily Moisturizing Body Wash: ให้ความชุ่มชื้น เหมาะกับผิวแห้ง

12
TPAT1 ความถนัดแพทย์ ด่านสำคัญสำหรับนักเรียนมัธยมปลายที่ใฝ่ฝันอยากสวมเสื้อกาวน์สีขาว การสอบวัดความถนัดนี้เปรียบเสมือนกุญแจดอกสำคัญที่ไขประตูสู่คณะแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ และสัตวแพทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศ บทความนี้เรามาพร้อมกับคำแนะนำในการเตรียมตัวสอบTPAT1 ความถนัดแพทย์ เพื่อให้น้อง ๆ ทุกคนสร้างความฝันให้เป็นจริง


5 เคล็ดลับในการสอบTPAT1 ความถนัดแพทย์
1. ศึกษาเนื้อหาอย่างลึกซึ้ง:
หาข้อมูลเกี่ยวกับ TPAT1: ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ TPAT1 ความถนัดแพทย์ จากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น เว็บไซต์ของสถาบันทดสอบการศึกษาแห่งชาติ (NIETS) เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนคณะแพทย์ศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ และสัตวแพทยศาสตร์ หนังสือเตรียมสอบ TPAT1
ทำความเข้าใจรูปแบบข้อสอบ: ศึกษารูปแบบข้อสอบ TPAT1 ในแต่ละพาร์ท แยกประเภทของข้อสอบ วิเคราะห์ระดับความยากง่าย
ทบทวนเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง: ทบทวนเนื้อหาที่ออกข้อสอบ TPAT1 เน้นวิชาหลัก เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ
เพิ่มเติมความรู้ทางการแพทย์: ศึกษาความรู้พื้นฐานทางการแพทย์ ศัพท์เฉพาะทาง จริยธรรมทางการแพทย์ ข่าวสารความคืบหน้าทางการแพทย์
2. ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ:
ฝึกทำข้อสอบเก่าและข้อสอบจำลอง: หาข้อสอบเก่าและข้อสอบจำลอง TPAT1 มาฝึกทำ วิเคราะห์จุดอ่อนและจุดแข็ง ปรับปรุงกลยุทธ์การทำข้อสอบ
จับเวลาฝึกทำข้อสอบ: ฝึกทำข้อสอบตามเวลาจริง ฝึกบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพ
ฝึกทำโจทย์หลากหลายประเภท: ฝึกทำโจทย์หลากหลายประเภทเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการตัดสินใจ
ฝึกทำข้อสอบแบบออนไลน์: ฝึกทำข้อสอบแบบออนไลน์เพื่อจำลองบรรยากาศการสอบจริง
3. พัฒนาทักษะที่จำเป็น:
ทักษะการคิดวิเคราะห์: ฝึกฝนการคิดวิเคราะห์ข้อมูล แยกแยะประเด็นสำคัญ หาความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งต่างๆ
ทักษะการแก้ปัญหา: ฝึกฝนการคิดหาวิธีแก้ปัญหาอย่างมีตรรกะและเป็นระบบ เลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด
ทักษะการตัดสินใจ: ฝึกประเมินข้อมูลต่างๆ วิเคราะห์ทางเลือก ชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสีย ตัดสินใจอย่างมีเหตุผล
ทักษะการสังเกต: ฝึกฝนการสังเกตรายละเอียด เก็บข้อมูล ค้นหาสิ่งที่ผิดปกติ
ทักษะการดึงข้อมูล: ฝึกฝนการดึงข้อมูลความรู้ที่เกี่ยวข้องมาใช้ เชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ เข้าด้วยกัน
ทักษะการบริหารเวลา: ฝึกบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพ จัดลำดับความสำคัญของงาน วางแผนการเรียนและการสอบ
4. ดูแลสุขภาพและจิตใจ:
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทานอาหารที่มีประโยชน์: ทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและสมอง
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยลดความเครียดและเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียน
ฝึกสมาธิ: ฝึกสมาธิเพื่อให้จิตใจสงบ
หาแรงบันดาลใจ: หาแรงบันดาลใจจากบุคคลที่ประสบความสำเร็จ
5. มั่นใจในตัวเอง:
ศรัทธาในความสามารถของตัวเอง
คิดบวก มองโลกในแง่ดี
ไม่ท้อถอย
พยายามอย่างเต็มที่
 
TPAT1 ความถนัดแพทย์ เปรียบเสมือนประตูสู่คณะแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชศาสตร์ และสัตวแพทยศาสตร์ การเตรียมตัวอย่างรอบคอบ ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ พัฒนาทักษะที่จำเป็น ดูแลสุขภาพและจิตใจ และมีความมั่นใจ ล้วนเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้นักเรียนมัธยมปลายสามารถคว้าโอกาสสวมเสื้อกาวน์สีขาวได้สำเร็จ


13
สำหรับพนักงานประจำที่จะมีรายได้เข้ามาเพียงเดือนละครั้ง มีโอกาสที่จะเกิดเหตุไม่คาดฝัน จนทำให้จำเป็นต้องใช้เงินสดเร่งด่วนได้ ซึ่งในบทความนี้ จะมาแนะนำสินเชื่อสำหรับพนักงานประจำให้ได้รู้กัน ทั้งยังมาบอกถึงวิธีในการเลือกใช้บริการสินเชื่อสำหรับพนักงานด้วย


สินเชื่อสำหรับพนักงานประจำมีอะไรบ้าง
สินเชื่อสำหรับพนักงานมีหลายประเภท ได้แก่
สินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งเป็นสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันและวงเงินไม่สูงมากนัก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เงินเร่งด่วนในจำนวนไม่มาก สินเชื่อประเภทนี้จะมีขั้นตอนการดำเนินการอนุมัติที่รวดเร็ว เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านวงเงินน้อยกว่าสินเชื่อประเภทอื่น ทำให้เหมาะกับพนักงานที่เกิดเหตุฉุกเฉินและต้องการใช้เงินด่วน

สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นสินเชื่อสำหรับพนักงานประจำที่ใช้สำหรับการซื้อบ้าน คอนโดมิเนียม หรือที่ดิน โดยนำทรัพย์สินนั้นมาเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ ทำให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินเสี่ยงน้อยลง จึงสามารถอนุมัติสินเชื่อได้ในวงเงินสูง อัตราดอกเบี้ยก็มักจะต่ำกว่าสินเชื่อประเภทอื่น สินเชื่อประเภทนี้จึงเหมาะกับพนักงานประจำที่มีความมั่นคงในการทำงาน และต้องการที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง

สินเชื่อบัตรกดเงินสด เป็นสินเชื่อสำหรับพนักงานประจำที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้เงินสดเร่งด่วนในจำนวนไม่มากนัก มักจะมีอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับสินเชื่อประเภทอื่น แต่ก็เป็นทางเลือกที่สะดวกรวดเร็วสำหรับพนักงานที่เกิดเหตุฉุกเฉิน
สินเชื่อในรูปแบบของการจำนำทรัพย์สิน เช่น การจำนำรถยนต์ เครื่องประดับ ทรัพย์สินมีค่า ซึ่งเป็นการนำทรัพย์สินมาค้ำประกันเพื่อขอสินเชื่อเงินสด เป็นตัวเลือกสำหรับพนักงานที่มีทรัพย์สินมีค่า แต่ขาดสภาพคล่องทางการเงินในช่วงเวลาหนึ่ง

ข้อดีของสินเชื่อสำหรับพนักงานประจำ
ข้อดีของสินเชื่อสำหรับพนักงานประจำ คือการอนุมัติที่ง่ายและรวดเร็วกว่าบุคคลทั่วไป เนื่องจากพนักงานมีรายได้ประจำที่สามารถนำมาค้ำประกันได้ นอกจากนี้ สถาบันการเงินยังมักจะเสนออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าบุคคลทั่วไป เพื่อเป็นสวัสดิการให้กับพนักงานประจำ แต่สำหรับผู้ที่มีประวัติเครดิตไม่ดี ก็อาจต้องเสียอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า สินเชื่อพนักงานยังเป็นตัวช่วยในการแบ่งเบาภาระทางการเงินในช่วงหนึ่งของชีวิต เพื่อให้สามารถผ่านพ้นสถานการณ์ฉุกเฉินหรือค่าใช้จ่ายจำนวนมากได้

5 เคล็ดลับในการเลือกใช้บริการสินเชื่อสำหรับพนักงานประจำ
เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย เงื่อนไขการผ่อนชำระ และค่าธรรมเนียมต่างๆ จากสถาบันการเงินหลายแห่ง
พิจารณาระยะเวลาการผ่อนชำระให้เหมาะสมกับรายได้ของตน
เลือกใช้บริการจากสถาบันที่มีชื่อเสียงน่าเชื่อถือ
ศึกษาเงื่อนไขต่าง ๆ ให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ
ประเมินความจำเป็นที่แท้จริงก่อนกู้ และวางแผนการใช้จ่ายเงินกู้อย่างรอบคอบ

สินเชื่อสำหรับพนักงานประจำ อีกหนึ่งตัวช่วยทางการเงินที่จะมาเสริมสภาพคล่องในยามที่ต้องใช้เงินฉุกเฉินเร่งด่วน เพื่อให้ชีวิตสามารถไปต่อได้

14
Marketing Analysis คือ กระบวนการวิเคราะห์การตลาดโดยการเก็บรวบรวมข้อมูลมาเพื่อทำความเข้าใจตลาด กลุ่มเป้าหมาย คู่แข่ง และแนวโน้มต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาและปรับปรุงกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ


เป้าหมายของการทำ Marketing Analysis คืออะไร ?
เพื่อทำความเข้าใจตลาด ผ่านการวิเคราะห์ขนาดตลาด เทรนด์ และโอกาส
เพื่อทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย ผ่านการวิเคราะห์ความต้องการ พฤติกรรม และข้อมูลประชากรของกลุ่มเป้าหมาย
เพื่อวิเคราะห์คู่แข่ง โดยการหาจุดแข็ง จุดอ่อน กลยุทธ์ และส่วนแบ่งการตลาดของคู่แข่ง
เพื่อประเมินกลยุทธ์การตลาด ประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาดและกลยุทธ์ต่าง ๆ
เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล ใช้ข้อมูลที่วิเคราะห์มาเพื่อตัดสินใจทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
 
ประเภทของการทำ Marketing Analysis คืออะไรบ้าง ?
การวิเคราะห์เชิงปริมาณ ใช้ข้อมูลตัวเลข เช่น ยอดขาย ส่วนแบ่งการตลาด และข้อมูลประชากร
การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ ใช้ข้อมูลที่ไม่ใช่ตัวเลข เช่น ความคิดเห็นของลูกค้า พฤติกรรม และข้อมูลเชิงลึก
การวิเคราะห์การแข่งขัน วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน กลยุทธ์ และส่วนแบ่งการตลาดของคู่แข่ง
การวิเคราะห์ SWOT วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคของธุรกิจ
 
กลยุทธ์ในการทำ Marketing Analysis คืออะไรบ้าง ?
การวิจัยตลาด เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตลาด กลุ่มเป้าหมาย และคู่แข่ง
การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้เครื่องมือและเทคนิคต่าง ๆ วิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บรวบรวมมา
การสร้างแบบจำลอง สร้างแบบจำลองเพื่อจำลองสถานการณ์ต่าง ๆ และคาดการณ์ผลลัพธ์
การทดสอบ ทดสอบกลยุทธ์การตลาดต่าง ๆ เพื่อดูว่ากลยุทธ์ใดมีประสิทธิภาพมากที่สุด
 
ประโยชน์ของการทำ Marketing Analysis คืออะไร ?
ข้อมูลที่วิเคราะห์มาจะช่วยให้นักการตลาดสามารถตัดสินใจได้อย่างมีแม่นยำและมีประสิทธิภาพ
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาด เนื่องจาก Marketing Analysis คือกลยุทธ์ที่ช่วยให้นักการตลาดสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ และออกแบบแคมเปญการตลาดที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้
ช่วยเพิ่ม ROI ของการลงทุนทางการตลาด การวิเคราะห์การตลาดช่วยให้นักการตลาดสามารถวัดผลลัพธ์ของแคมเปญการตลาดและประเมิน ROI ของการลงทุน

ข้อมูลที่วิเคราะห์มาจะช่วยให้นักการตลาดเข้าใจตลาดและกลุ่มเป้าหมายได้ดีขึ้น ซึ่งทำให้สามารถพัฒนาสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้
ช่วยให้สร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง เพราะ Marketing Analysis คือกลยุทธ์ที่ช่วยให้นักการตลาดสามารถระบุจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคของธุรกิจ ซึ่งช่วยให้สามารถพัฒนากลยุทธ์ที่ทำให้ธุรกิจสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งได้
 
ตัวอย่างเครื่องมือช่วยวิเคราะห์ตลาด
Google Analytics เครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ฟรีที่ช่วยติดตามการเข้าชมเว็บไซต์ พฤติกรรมของผู้ใช้ และประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาด
Facebook Insights เครื่องมือวิเคราะห์ฟรีสำหรับ Facebook page ที่ช่วยติดตามการมีส่วนร่วมของผู้ติดตาม ประสิทธิภาพของโพสต์ และข้อมูลประชากรของผู้ติดตาม
Semrush เครื่องมือวิเคราะห์ SEO และ SEM ที่ช่วยวิเคราะห์คีย์เวิร์ด คู่แข่ง และ Backlink
Ahrefs เครื่องมือวิเคราะห์ SEO ที่ช่วยค้นหาคีย์เวิร์ด Backlink และอื่น ๆ ที่มีผลต่อการจัดอันดับเว็บไซต์
 
จะเห็นได้ว่า Marketing Analysis คือกลยุทธ์ที่สำคัญต่อการทำธุรกิจเป็นอย่างมาก เนื่องจากกระบวนการที่ใช้ข้อมูลและเครื่องมือวิเคราะห์เพื่อทำความเข้าใจตลาด กลุ่มเป้าหมาย คู่แข่ง และแนวโน้มต่าง ๆ เพื่อนำไปพัฒนาและปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

15

การลงทุนในกองทุนรวมเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยให้คุณได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ซึ่งจะทำให้เงินที่คุณลงทุนไปนั้นคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น การลงทุนในกองทุนรวมบางประเภทจะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามหลักเกณฑ์ของประกาศกรมสรรพากร โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มลงทุนในกองทุนรวม รายการ
กองทุนลดหย่อนภาษีต่อไปนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับมือใหม่
หัดลงทุน


1.กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพเป็นกองทุนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างหลักประกันรายได้หลังเกษียณ โดยเงินสะสมในกองทุนและผลประกอบการจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ โดยคุณสามารถนำเงินสะสมที่จ่ายเข้ากองทุนนี้ไปลดหย่อนภาษีได้ร้อยละ 30 ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 500,000 บาท ต่อปี เมื่อรวมกับประกันบำนาญ และกลุ่มเกษียณอื่น ๆ เป็นกองทุนลดหย่อนภาษีที่ขอแนะนำสำหรับมือใหม่เริ่มลงทุน

2.Super Savings Fund (SSF)
กองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF) เป็นกองทุนรวมเงินสะสมที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้นใหม่ สำหรับการออมระยะยาว มีสิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุด 30% แต่ไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี และเมื่อรวมกับกองเกษียณอื่น ๆ จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท ไม่มีขั้นต่ำ และไม่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี
กองทุนรวม SSF เป็นกองทุนลดหย่อนภาษีที่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่เริ่มลงทุน และอยากได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี แนะนำเลย

3.กองทุนรวม Thai ESG
เป็นกองทุนลงหย่อนภาษีที่เหมาะสำหรับมือใหม่ ซึ่งจะให้สิทธิประโยชน์กับนักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนรวมในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษี 30% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี แต่ต้องลงทุนทั้งหมด 8 ปี แบบวันชนวัน
กองทุนรวม Thai ESG เป็นกองทุนใหม่ ที่สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้ เป็นเทรนด์การลงทุนของโลกที่น่าสนใจ

กองทุนลดหย่อนภาษีทั้ง 3 กองทุน เป็นกองทุนที่เหมาะสมสำหรับมือใหม่ และยังเหมาะสำหรับวัยทำงานที่ต้องการสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี และนอกเหนือจากการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีแล้ว การลงทุนในกองทุนรวมยังมีข้อดีอื่น ๆ เช่น การกระจายความเสี่ยง โอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดี และการบริหารจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม คุณควรศึกษาความเสี่ยงและระดับความเสี่ยงที่คุณสามารถยอมรับได้ก่อนตัดสินใจลงทุน และเลือกกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของคุณมากที่สุด

การลงทุนในกองทุนรวมเพื่อลดหย่อนภาษีเป็นอีกหนึ่งวิธีการที่ช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการภาษีของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และช่วยให้คุณสร้างผลตอบแทนในระยะยาว หากคุณต้องการลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีทั้งสามตัวนี้ขอแนะนำสำหรับมือใหม่ และผู้ที่อยากได้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปี


16

สำหรับใครที่เป็นมือใหม่หัดปลูกพืช ไม่ว่าจะเป็นพืชสวนครัว ดอกไม้ หรือต้นไม้ชนิดต่างๆ รู้หรือไม่ว่าหนึ่งในวัสดที่ช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีก็คือ เปลือกสนฝรั่งเศส อีกทั้งในปัจจุบัน
เปลือกสนฝรั่งเศส
ยังถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ใครที่เพิ่งก้าวขอเข้ามาสู่โลกของการปลูกต้นไม้ วันนี้เราจะขอมาแนะนำวัสดุปลูกพืชชนิดนี้ให้ได้รู้กันมากยิ่งขึ้น 

เปลือกสนฝรั่งเศส (French Maritime Pine Bark) เป็นวัสดุปลูกชั้นเยี่ยมที่ได้รับความนิยมจากนักปลูกมืออาชีพและมือสมัครเล่นทั่วโลก ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น จึงกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับการปลูกพืชหลากหลายชนิด แต่จะมีประโยชน์ในการนำมาเพาะปลูกไปหาคำตอบกันเลย


คุณสมบัติของเปลือกสนฝรั่งเศส

ความโปร่ง: มีโครงสร้างที่โปร่ง ช่วยให้รากพืชสามารถเจริญเติบโตได้อย่างสะดวก อากาศถ่ายเทได้ดี และน้ำขังน้อย ป้องกันปัญหารากเน่า
การกักเก็บน้ำ: วัสดุปลูกชนิดนี้ สามารถดูดซับและกักเก็บน้ำได้ดี ช่วยให้ดินมีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ เหมาะสำหรับพืชที่ต้องการน้ำปานกลาง
ความเป็นกรด-ด่าง: มีค่า pH ประมาณ 5.5-6.5 อยู่ในช่วงกรดอ่อน เหมาะสำหรับพืชที่ชอบดินกรด เช่น กล้วยไม้ บลูเบอร์รี่ อะซิเลีย
ธาตุอาหาร: มีธาตุอาหารรองและจุลธาตุที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช เช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม แคลเซียม ธาตุเหล่านี้ช่วยให้พืชแข็งแรง ใบเขียว ช่วยให้พืชออกดอกออกผล
ความทนทาน: มีความทนทานต่อการย่อยสลาย ช่วยให้ใช้งานได้ยาวนาน โดยไม่ต้องเปลี่ยนวัสดุปลูกบ่อยๆ
ปราศจากโรค: ผ่านกรรมวิธีฆ่าเชื้อ ปราศจากเชื้อรา แบคทีเรีย และแมลงศัตรูพืช ช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้อย่างปลอดภัย

ประโยชน์ของเปลือกสนฝรั่งเศส
กล้วยไม้: เป็นวัสดุปลูกกล้วยไม้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ช่วยให้กล้วยไม้เจริญเติบโต ออกดอกสวยงาม
ไม้ประดับ: เหมาะสำหรับปลูกไม้ประดับหลากหลายชนิด เช่น บอนไซ ฟิโลเดนดรอน แคคตัส ช่วยให้ไม้ใบเขียว ชะอุ่ม
ไม้ผล: สามารถใช้ปลูกไม้ผล เช่น บลูเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ มะเขือเทศ ช่วยให้ผลไม้มีรสชาติดี
ผักสวนครัว: เหมาะสำหรับปลูกผักสวนครัว เช่น ผักสลัด กะเพรา โหระพา ช่วยให้ผักเจริญเติบโตเร็ว ใบใหญ่

วิธีการใช้เปลือกสนฝรั่งเศส
รองก้นกระถาง: วางเปลือกสนฝรั่งเศสลงก้นกระถางก่อนใส่ดิน ช่วยให้การระบายน้ำดี ป้องกันปัญหารากเน่า
ผสมกับดิน: ผสมเปลือกสนฝรั่งเศสกับดินปลูก ช่วยให้ดินมีความโปร่ง ร่วนซุย เหมาะกับการเจริญเติบโตของรากพืช
คลุมดิน: โรยเปลือกสนฝรั่งเศสบนผิวดิน ช่วยรักษาความชุ่มชื้น ป้องกันวัชพืช กักเก็บธาตุอาหาร

เปลือกสนฝรั่งเศสเป็นวัสดุปลูกชั้นเลิศที่เหมาะสำหรับพืชหลากหลายชนิด ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น ตามที่ได้กล่าวไปยังจะช่วยให้พืชเจริญเติบโต ออกดอกออกผล สวยงาม แข็งแรง  และปลอดภัยจากโรคได้อีกด้วย



17

   สมองและระบบประสาท เป็นหนึ่งในโครงสร้างภายในร่างกายของมนุษย์ที่มีความยุ่งยากและซับซ้อน ทำหน้าที่ในการควบคุมกลไกการทำงานอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเคลื่อนไหว การรับรู้ความรู้สึก รสชาติ กลิ่น เสียง ความคิด รวมถึงการจดจำต่าง ๆ ซึ่งหากสมองและระบบประสาทได้รับการกระทบกระเทือน หรือมีความผิดปกติจะทำให้การทำงานบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทส่วนนั้นได้รับความเสียหายและแสดงอาการออกมาในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป


ดังนั้นเมื่อมีอาการเหล่านี้แล้วจำเป็นต้องปรึกษาผ่านทางคุณหมอสมองและระบบประสาทที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ วันนี้เราจึงจะขอพาทุกคนไปรู้จัก 3 โรงพยาบาลหมอสมองและระบบประสาทชื่อดัง ที่คุณสามารถเข้าไปติดต่อ หรือตรวจสภาพร่างกายด้านระบบประสาทได้อย่างหายห่วง ซึ่งจะมีที่ไหนกันบ้างไปดูกันเลย

โรงพยาบาลสินแพทย์

โรงพยาบาลสินแพทย์ ถือเป็นโรงพยาบาลชื่อดังที่มีหลากหลายสาขาเปิดให้บริการ โดยผู้ป่วยสามารถปรึกษาทีม
คุณหมอสมองและระบบประสาท
เพื่อวินิจฉัยโรคทางสมองและป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยมีอาการเรื้อรังไปมากกว่าเดิม โดยผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงมักจะมีอาการทางโรคสมอง เช่น ปวดศีรษะ อาการชัก หมดสติ หรือผู้ป่วยบางรายที่มีอาการรุนแรงจนทำให้เกิดอัมพาตได้ ดังนั้นโรงพยาบาลจึงมีการตรวจรักษาให้อย่างละเอียด ตั้งแต่การตรวจร่างกายเบื้องต้น ตลอดจนถึงการใช้เครื่องมืออุปกรณ์สมัยใหม่ที่ครบครัน เพื่อให้การวินิจฉัยแม่นยำและสามารถวางแผนการรักษาได้อย่างทันท่วงที

โรงพยาบาลกรุงเทพ
   
มาต่อกันที่โรงพยาบาลกรุงเทพ อีกหนึ่งโรงพยาบาลที่มีหมอสมองและระบบประสาทที่มีความเข้าใจเรื่องความซับซ้อนของระบบประสาทเป็นอย่างดี ทำให้โรงพยาบาลแห่งนี้อุดมไปด้วยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน แถมยังมีอุปกรณ์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ตอบโจทย์ทางด้านการรักษาได้อย่างครอบคลุม อีกทั้งเจ้าหน้าที่พยาบาลยังพร้อมดูแลและให้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ อย่างน่าประทับใจ ทำให้ผู้ป่วยที่มาใช้บริการสามารถวางใจในเรื่องการรักษาได้อย่างหมดห่วง

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

มาถึงโรงพยาบาลสุดท้ายที่มีหมอสมองและระบบประสาทกับโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ โรงพยาบาลมาตรฐานระดับสากลที่เปิดให้บริการผู้ป่วยทางด้านโรคสมองและประสาทด้วยการใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การเข้ารับบริการตรวจ การให้คำปรึกษาและวินิจฉัย ตรวจจนถึงการวางแผนขั้นตอนในการรักษาโรคสมองและระบบประสาท เช่น หลอดเลือดสมอง อัมพาต ลมชัก อัลไซเมอร์ รวมไปถึงพาร์กินสัน ให้ได้รับการรักษาอย่างตรงจุด แถมยังมีเป็นโปรแกรมสำหรับการฟื้นฟูระบบประสาทให้ผู้ป่วยได้เข้ารับการรักษาแบบคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

จบไปแล้วกับ 3 โรงพยาบาลหมอสมองและระบบประสาทชื่อดังที่เราได้เก็บทุกโรงพยาบาลที่เต็มไปด้วยทีมแพทย์มากประสบการณ์ และเหล่าเครื่องมือ รวมถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยในระดับมาตรฐานสากล ตอบโจทย์ทุกเรื่องการรักษาที่ยุ่งยากให้สามารถวินิจฉัยได้อย่างตรงจุด เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ

18


กระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อนเป็นกระเบื้องที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ด้วยความสวยงามและหรูหราของลายหินอ่อน จึงทำให้เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับการตกแต่งบ้านและอาคารต่าง ๆ


อย่างไรก็ตาม การเลือกซื้อกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อนให้มีคุณภาพดีนั้น จำเป็นต้องมีความรู้และเทคนิคในการเลือกซื้ออยู่บ้าง เพื่อให้ได้กระเบื้องที่มีคุณภาพ มีอายุการใช้งานยาวนาน และสวยงามสมใจ บทความนี้จึงขอแนะนำเทคนิคเช็กคุณภาพฉบับมืออาชีพ เพื่อช่วยให้คุณเลือกซื้อกระเบื้องได้ตรงใจและคุ้มค่าที่สุด

   
1. ตรวจสอบความสม่ำเสมอของลาย
ลายหินอ่อนเป็นความสวยงามที่โดดเด่นของกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อน ดังนั้น การตรวจสอบความสม่ำเสมอของลายจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด จะต้องสังเกตว่าลายหินอ่อนบนกระเบื้องแต่ละแผ่นมีความสม่ำเสมอกันหรือไม่ ไม่ควรมีลายที่แตกต่างหรือผิดเพี้ยนกันมากจนเกินไป
หากลายหินอ่อนบนกระเบื้องแต่ละแผ่นมีความสม่ำเสมอกันดี แสดงว่ากระเบื้องมีคุณภาพดีและผลิตจากเทคโนโลยีที่ทันสมัย

2. ตรวจสอบความหนาแน่นของเนื้อกระเบื้อง
ความหนาแน่นของเนื้อกระเบื้องก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญต่อคุณภาพ โดยกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อนที่ดีควรมีความหนาแน่นสูง แน่นหนา ไม่แตกหักง่าย
คุณสามารถตรวจสอบความหนาแน่นของเนื้อกระเบื้องได้โดยใช้นิ้วเคาะเบา ๆ หากได้ยินเสียงทึบแน่นแสดงว่ากระเบื้องมีความหนาแน่นสูง มีคุณภาพดี

3. ตรวจสอบความเรียบของผิวสัมผัส
ผิวสัมผัสก็มีความสำคัญเช่นกัน กระเบื้องแกรนิตโต้ที่ดีควรมีผิวสัมผัสเรียบเนียน ไม่ขรุขระหรือเป็นรอย
คุณสามารถตรวจสอบความเรียบของผิวสัมผัสได้โดยใช้มือลูบสัมผัส หากผิวสัมผัสเรียบเนียน แสดงว่ากระเบื้องมีคุณภาพดี

4. ตรวจสอบสีสันของกระเบื้อง
สีสันก็เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาเช่นกัน กระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อนที่ดีควรมีสีสันสม่ำเสมอกันทั้งแผ่น ไม่ซีดจางหรือมีรอยด่าง
คุณสามารถตรวจสอบสีสันของกระเบื้องได้โดยสังเกตจากกระเบื้องหลาย ๆ แผ่น หากสีสันสม่ำเสมอกันดี แสดงว่ากระเบื้องมีคุณภาพดี

5. ตรวจสอบขนาดของกระเบื้อง
กระเบื้องแกรนิตโต้ที่ดีควรมีขนาดที่เท่ากันทั้งแผ่น ไม่เบี้ยวหรือเอียง คุณสามารถตรวจสอบขนาดของกระเบื้องได้โดยใช้ไม้บรรทัดวัด หากขนาดของกระเบื้องเท่ากันทั้งแผ่น แสดงว่ากระเบื้องมีคุณภาพดี

6. ตรวจสอบความสมบูรณ์ของกระเบื้อง
ก่อนซื้อกระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อน ควรตรวจสอบความสมบูรณ์ของกระเบื้องด้วยว่าไม่มีรอยแตกร้าวหรือชำรุดเสียหายใด ๆ
หากพบกระเบื้องที่มีรอยแตกร้าวหรือชำรุดเสียหาย ควรหลีกเลี่ยงการซื้อ เพราะอาจทำให้กระเบื้องเสียหายได้ง่ายและอายุการใช้งานสั้นลง

7. ตรวจสอบตราสัญลักษณ์และฉลากสินค้า
ควรตรวจสอบตราสัญลักษณ์และฉลากสินค้าของกระเบื้องด้วยว่าถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ ตราสัญลักษณ์และฉลากสินค้าสามารถบ่งบอกถึงคุณภาพและมาตรฐานของกระเบื้องได้ หากกระเบื้องแกรนิตโต้มีตราสัญลักษณ์และฉลากสินค้าถูกต้องครบถ้วน แสดงว่ากระเบื้องมีคุณภาพดีและผ่านการรับรองมาตรฐาน


หน้า: [1] 2