ขอตามมาแปะกระทู้นี้ด้วยนะครับ ไว้เป็นข้อมูลสำหรับมือใหม่ที่คิดจะเล่น 3D

จากประสบการณ์ตรงนะครับ ผมซื้อระบบ LG Passive มาเพราะคนชมเยอะกันมาก แต่ซื้อมาวันแรกผมเซ็งกับลายเส้นที่เห็นได้ชัดเวลาดู 3D มาก (ถึงจะเป็นระบบเดียวกับโรงหนัง แต่ภาพในโรงหนังไม่มีลายเส้นแบบนี้นะครับ) เรียกว่าเซ็งทันที และมารู้ทีหลังว่าภาพ 3D Passive ไม่ใช่ Full HD ก็นึกด่าตัวเองที่ไม่หาข้อมูลก่อน แต่ก็พยายามคิดเข้าข้างตัวเองว่ามันต้องรับได้ แต่พอผ่านมา 2 อาทิตย์มีอาการปวดตาอย่างรุนแรง เพราะภาพ 3D Passive จะเคลื่อนไหวไม่ลื่นไหลเอาเสียเลย (เพราะมันไม่ละเอียด) ต่อให้เปิด True Motion แต่จริงๆมีไว้หลอกครับ เพราะดู Passive 3D นี่เปิด True Motion หรือไม่เปิด ภาพเหมือนกันเด๊ะ ผมพยายามลองหลายทีแล้ว (อย่าคิดกันไปเองว่าต่างนะครับ) และเพราะมันเป็นเส้นไม่ละเอียดแบบ Full HD พอฉากเคลื่อนไหวเร็วๆอย่างคนเดินผ่านหน้าจอ จะเห็นเป็นภาพเบลอๆทำให้ผมปวดตาสุดๆ สุดท้ายทนไม่ไหวขายทิ้ง Passive แล้วซื้อ Active ของ Sony มา ผลคือข้อเสียที่หลายคนว่าไว้จนผมกลัวกลับไม่มีปัญหาเลยคือ

1. อาการแว่นกระพริบ = ไม่เจออาการเลยครับ และลองปรับ Motionflow เล่นๆจะพบว่าถ้าปิด Motionflow ภาพกระพิบแหลกเลย แต่เปิด Motionflow ไม่ว่า Standard หรือ Smooth อาการกระพริบหายไปทันใด คอนเฟริ์มครับ

2. อาการภาพมืดลง = ขอเถียงสุดๆนะครับ เพราะใช้ Passive มาแล้ว เจอ Active ของ Sony ไม่มืดแน่นอนครับ ผมเปิดไฟดูด้วยนะ แถมตั้งค่าความสว่างแว่นที่ Auto ด้วย ถ้าปรับเป็น High ภาพสว่างเพิ่มขึ้นอีกครับ แต่สำหรับผมแค่ Auto ก็สว่างพอๆกับ Passive แล้ว คอนเฟริ์มครับ

3. อาการปวดตา = ผมขอสวนกระแสเลย ผมดู Active 3-4 ชั่วโมงไม่ปวดตาเลย คงเพราะภาพไม่กระพิบน่ะครับ แต่ Passive นี่ปวดและคลื่นไส้ครับ คอนเฟริ์ม

4. Active ภาพลอยไม่เท่า Passive = ขอเถึยงอีกครับ ถ้าปรับค่ากลางๆเท่าๆกันทั้ง ความลึกและลอยเท่ากันแน่นอน ผมเทียบมาแล้ว แต่ LG Passive มีปรับความลึกถึง 20 ระดับ หลายคนเลยปรับกันเว่อร์แล้วบอกว่าภาพลอยมาก แต่จริงๆความลึกก็น้อยลงไปด้วย พูดง่ายๆไม่บาลาซ์ครับ แต่ Active ใน Sony Active ของผมได้ลึกและลอยในสัดส่วนกำลังดี โดยตั้งค่าแค่ Auto (High) (และไม่ต้องไม่แตะต้อง +2 หรือ -2 เพิ่มลึกเพิ่มลอยให้ภาพเพี้ยนด้วย) ไม่มีอาการภาพนูนหลอกตาเหมือน LG Passive ครับ (ซึ่งยิ่งปรับภาพนูนให้ลอยมาก ก็ยิ่งปวดตาเข้าไปอีก) ผมเอาเดโม 3D LG ทั้งหลายแหล่มาลองกับ Sony ของผม ยืนยันลอยเหมือนกันเด๊ะ แถมไม่มีลายเส้นกวนใจอีกต่างหาก ยอมรับว่า LG ทำเดโมออกมาดีมากจริงๆ แต่ลองเอามาเปิดใน Sony Active แล้วเพิ่มค่าเป็น Auto (High) จะเห็นว่ามันลอยออกมาเหมือนกันจริงๆ ภาพเนียนกว่าด้วย

5. Cross Talk = ไม่เห็นเลย หรือเห็นบ้างแต่บางและน้อยมาก ยิ่งถ้าไม่ไปปรับความลึกลอยเพิ่มให้เพี้ยนแต่ตั้งที่ Auto รับรองเห็นยากครับ LG Passive ที่ผมเคยใช้ผมก็เห็นนะครับไม่ใช่ไม่มี แต่ก็เห็นไม่มากถ้าตั้ง Viewpoint ที่ 0

6. อาการสีเพี้ยนหรือสดใส = เนื่องจากภาพไม่มืดลง อาการสีผิดเพี้ยนไม่มีแน่นอน ผมทดสอบจากหนังเรื่องเดียวกันหลายเรื่องแล้วครับ คอนเฟริ์มอีกครั้ง

7. แว่นหนักกว่า Passive = ข้อนี้ผมรับได้ และใส่แล้วมันก็ไม่ได้หนักอะไรเกินจะทนนะครับ แถมของ Sony ชารจ์ไฟทางช่อง USB ในคอมได้ ไม่ต้องซื้อถ่านให้วุ่นวาย ผมดูมาไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมงแล้วตั้งแต่ซื้อมา แบตยังไม่หมดครับ ไม่รู่ว่าได้นานกี่ชั่วโมง

8. ซิงค์สัญญาณแว่นกับทีวี = ผมไม่รู้ว่าคนที่เคยมีปัญหากับ Sumsung เป็นยังไง แต่ Sony นี่ผมนั่งที่โซฟากดปุ่มเปิดแว่นมันก็ซิงค์กันทันที ไม่ต้องเอาแว่นไปจ่อที่หน้าทีวีครับ

ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัว และเป็นประสบการณ์จากรุ่น Sony HX750 ที่ผมซื้อมาแทน LG LM7600 นะครับ ซึ่งอาจเป็นเพราะเทคโนโลยี Active ในปี 2012 ปรับปรุงข้อเสียแล้ว แต่คนส่วนใหญ่อาจไม่ทราบก็ได้ และในห้องนอนผมใช้หลอดไฟตะเกียบครับ เวลาแสงผ่านแว่นจึงไม่กระพิบด้วย ผมไม่มีเจตนาว่าร้ายระบบ Passive แต่เล่าจากประสบการณ์ที่ใช้มาทั้ง 2 ระบบแล้วต้องการไว้เป็นข้อมูลให้คนลองหรือตัดสินใจให้ดี การไปยืนดูตามห้างแป๊ปเดียวไม่ช่วยเท่านั่งดูที่บ้านนานๆครับ ส่วนใหญ่ตามร้านก็ตั้งค่ากันไม่เป็นเวลาไปดูอาจเจอข้อเสียทั้งๆที่มันปรับได้ด้วย ก่อนซื้อตัดสินใจให้ดีนะครับ

ป.ล. อันนี้ผมยังไม่พูดถึงข้อเสียอื่นๆของ LG LM7600 พวกแสงรั่วตามขอบจอที่ทำให้ผมหงุดหงิดมาก เฉดสีที่ไม่สดใสเอาเสียเลย แสงตามขอจอจะสลัวๆสว่างไม่เท่ากันทั่วจออีกต่างหาก เวลาเปลี่ยนช่อง Input ชอบถามให้กด OK ตอบบ่อยๆ เสียเวลามาก ตอนที่ไปเดินห้างเพื่อหาเครื่องมาแทน LG ที่ไหนก็แล้วแต่พนักงานแต่ละที่เชียร์ LG กันแบบกระหน่ำมาก บอกภาพลอยโน้นนี้ แว่นเบา ไม่ใส่ถ่าน สบายตา (นึกในใจตรูซื้อ LG มาแล้วขายทิ้งไปแล้ว) คนที่รัก Passive ก็อย่าโกรธกันนะครับ ของแบบนี้แล้วแต่ชอบ ถือเป็นมุมมองผมนะครับ

มั่วหรือเปล่าครับ

ผมว่าเป็นการเพิ่มช่องทางเลือกให้มากขึ้นเท่านั้นแหละครับ มันไม่ได้มีผลกระทบแบบรุนแรงอะไร ใครที่อยากดูฟรีทีวีแบบ ภาพ HD 16:9 ก็ต้องจัดหา
ทีวีที่มีระบบรองรับ หรือจะใช้ทีวีเก่าก็แค่เพิ่มชุดรับสัญญาณเท่านั้นครับ ส่วนใครดูผ่านจานหรือระบบเคเบิล จะไม่กระทบเลยครับแต่อาจจะยิ่งดีขึ้นคือได้คุณภาพของภาพ
ที่ชัดขึ้น

เห็นหนังมีเยอะขึ้นเรื่อยๆแบบนี้แล้วคงต้องเปลืองตังค์อีกเยอะเลย