Acoustic Research M2 ดาวดวงใหม่  DAP เครื่องเล่นเพลงพกพาทรงพลังระดับออดิโอไฟล์แท้ๆ

หลายท่านที่เคยเล่นเครื่องเสียงมานาน ตั้งแต่ยุคก่อนๆ สมัย คุณลุง คุณพ่อ คงไม่มีใครไม่รู้จักยี่ห้อ Acoustic Research หรือเรียกสั้นๆว่า AR ซึ่งในสมัยนั้นลำโพงยี่ห้อนี้โด่งดังมากทั้งประเทศไทยและต่างประเทศ และมีอยู่ช่วงหนึ่งก็หายไปในบ้านเราทำให้นักเล่นรุ่นใหม่ๆอาจจะไม่รู้จัก แต่เมื่อไม่กี่ปีมานี้ทาง AR ได้กลับมาในประเทศไทยอีกครั้งพร้อมกับสินค้าในกลุ่มใหม่ เครื่องเล่น M1 เครื่องเล่น ไฟล์ lossless ณ ขณะนั้น ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญในการกลับมาอย่างสง่างามของ AR อีกครั้ง



ประวัติคร่าวๆของ AR ก่อตั้งโดย Edgar Villchur และ Henry Kloss ที่ Massachusetts ในปี 1954 เป็นช่วงปีที่หลายๆบริษัทดังๆก่อตั้งขึ้นในขณะนั้น ด้วยชื่อชั้นและประสบการณ์เกี่ยวกับเสียงของยี่ห้อนี้ ถือว่าหายห่วง



ย้อนกลับมาเรื่อง M1 ได้เจาะตลาดกลุ่ม head-fi ผู้ที่ต้องการเสียงระดับคุณภาพดีกว่าเครื่องพกพาทั่วๆไปที่เราใช้กัน ซึ่งโอกาสแรกที่ได้ฟังเสียงของ M1จำได้ว่าเหมือนเปิดโลกทัศน์ในการฟังเพลงใหม่ อุทานว่า โอ้วว มันยอดดดมาก เสียงที่ได้มีความสด แน่น กระชับด้วยกำลังขับค่อนข้างสูง แต่ก็จะมีข้อเสียตรงกินแบตค่อนข้างเยอะเล่นได้ประมาณ 4 ชั่วโมง ต้องแลกกับคุณภาพเสียงที่ดี หลังจากนั้นปีต่อมาให้หลังทาง AR ได้พัฒนาปรับปรุงสินค้าใหม่ โดยออกมาล่าสุดคือเจ้า M2 โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ Brital Show 2015 ที่อังกฤษเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2015

หลังจากนั้นก็เกิดกระแสในวงการ เกิด viral ต่างในเวปไซต์ เช่น head-fi ต่างได้การตอบรับที่เยี่ยมยอดมาก ไม่ว่าจะเป็นงาน Headphone Festival ที่ญี่ปุ่น เพียงแค่ช่วงจัดงาน สั่งซื้อไปมากกว่า 200 เครื่อง หรือว่าจะเป็นที่อังกฤษ ก็ได้รับรีวิว เช่น จาก Hi-Fi Choice ว่ายอดเยี่ยมในแง่ของความชัดและเฮดรูม และดีที่สุดด้วยไฟล์ DSD และเทสในกรุ๊ปก็ได้อันดับหนึ่ง จากเครื่องเล่นยี่ห้ออื่นๆ เช่น AK120, FiiO5, Lotoo PAW Gold, Sony NW2-A15 เป็นต้น ไม่ธรรมดาๆ

ส่วน What Hi-Fi นิตยสารที่มีชื่อเสียงจากประเทศอังกฤษรีวิวว่า เป็นเครื่องเล่น Hi-res ที่ดีที่สุดในขณะนี้ นอกจากนี้ล่าสุด BBC Focus ได้จับคู่เทียบระหว่าง M2 กับ AK ซึ่งไม่ได้จับเทียบรุ่นกับ AK รุ่นที่ราคาใกล้เคียงกันนะครับ เค้าจับคู่ไปนู่นเลย AK240 ซึ่งมีค่าตัวแพงกว่า 2 เท่า!! เป็นยังไงครับ ชักอยากรู้แล้วว่าหูคนไทยจะเหมือนหูคนต่างชาติหรือป่าว ลองมาดูข้อดีต่างๆของ M2 อีกซักนิดครับ อาทิเช่น

 1.   ใช้ชิบ Burr-Brown PCM1794a DAC ซึ่งเป็นรุ่นเรือธงของ Burr-Brown ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญต่อเสียง นักเล่นเครื่องเสียงต่างรู้ชื่อเสียงของชิบค่ายนี้ดี สามารถวัดเปรียบกระแสเอ๊าท์พุด DAC ดีกว่า 2 เท่าของ Burr-Brown PCM1795, ดีกว่า 2.8 เท่าของ Cirrus CS4398(PCM mode), ดีกว่า  4 เท่า Cirrus CS4398 (DSD mode) ดีกว่า 2.8 เท่าของ Wolfson WM8740 (Dual DAC mode, 1-ch/DAC) และดีกว่า 4 เท่าของ Wolfson WM8740 (Single DAC mode, 2-ch/DAC)



 
2.   หน้าจอใหญ่ ระบบปฎิการณ์แอนดรอย์ เล่นได้อย่างไหลลื่น ปรู๊ดปร๊าด ไม่ติดขัด



3.   ตัวเครื่องทนสวยงามแข็งแรง พกพาสะดวก

4.   ตัวเฮดโฟนแอมป์ทรงกลับมาก สามารถขับหูฟังไฮเอ็นท์ได้อย่างสบาย ไม่ว่าหูฟัง 600 โอห์มก็ขับได้ (จุดที่โดดเด่นมากอีกจุดของ M2 เลย)



มาพูดถึงเสียงก่อนเป็นอันดับแรก อย่างที่บอกไว้แต่แรกแบรนด์นี้มีพื้นฐานเกี่ยวกับเรื่องเสียงไฮไฟมาตั้งแต่ปี 1954 ดังนั้นคาดหวังไว้ว่าเสียงต้องถูกใจชาวออดิโอไฟล์เป็นแน่ เริ่มแรกเราจับกับหูฟัง KEF M500 ซึ่งเป็นหูฟังราคาระดับกลาง แนวเสียงของเค้ามีความเป็นบาล๊านซ์สูง มาเริ่มที่เพลง Stroms are on the ocean เป็นเพลงอะคูสสิกสบายๆ เสียงร้องมีความชัดเจน โดดเด่น เสียงดีดกีตาร์มีความกลมกล่อม เมื่อถึงในช่วงที่เบาหรือดังของเพลง ทำได้สงัดมาก เวทีเสียงมีความกว้างขวาง แยกแยะชิ้นดนตรีได้อย่างชัดเจน

ต่อมาลองฟัง Love will keep us alive ของ Eagles ขึ้นอินโทรเป็นเสียงกีตาร์ ได้ยินเสียงกีตาร์อย่างชัดเจน ประกอบกับเสียงกลอง snare มีประกายดีมาก ออกครบทุกย่าน

ต่อมาเพลง Jam Michael Jackson ขอให้ทำใจแป๊บกับเสียงแก้วแตก เสียงที่ได้เหมือนจริงมาก ยังกับแก้วตกจริงๆ เสียงคมชัด ขับรายละเอียดได้ออกอย่างหมดจด เบสมาเป็นลูกๆ

การใช้งาน ระบบปฎิบัติการแอนดรอย์ การเล่นไหลลื่น สบายมือ เหมือนเล่นกับโทรศัพท์อีกเครื่อง และข้อดีอีกอย่างที่ชอบคือการเปิดวอลุ่มเสียงโดยตัวหมุน เหมือนกับรุ่นก่อนหน้า M1 ได้ความรู้สึกแบบอนาล็อกอย่างดี นอกจากนี้ยังสามารถลงไฟล์ APKในการเล่น Tidal, Spotify, Qobuz แบบสตีมมิ่งได้ด้วย ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลามาโหลดเพลง เรียกว่าสะดวกสบายมากๆครับ (เพียงแต่ว่าต้องเสียค่าบริการรายเดือน ทั้งแบบไฟล์เพลงธรรมดา หรือระดับ lossless)

 ตัวเครื่องหน้าจอขนาด 5 นิ้ว เหมาะกับคนที่ชอบจอใหญ่ๆ ดูสบายตา สามารถใส่ในกระเป๋ากางเกงได้



ด้วยราคาที่เปิดตัวมาเท่ากับ 900 ปอนด์ ในต่างประเทศ (48,000บาท) ในขณะที่บ้านเราเปิดตัวมาที่ 45,900 บาท ถือได้ว่าราคาไม่แตกต่างจากเมืองนอกมากนัก อย่างไรก็ตามทางผู้นำเข้ามอบสิทธิพิเศษให้กับนักเล่นชาวไทยอีก 6,000 บาท โดยราคาพิเศษช่วงแนะนำตัวอยู่ที่ 39,900 เรียกได้ว่าซื้อที่ประเทศไทย ดีที่สุดแล้ว พร้อมรับประกันหายห่วง

 


"สรุปว่า M2 เป็นตัวเลือกนึงในขณะนี้ที่กำลังมาแรง ถ้าท่านใช้หูฟังฟลูไซด์หรือหูฟังไฮเอ็นท์ตัวนี้สามารถฟันธงไปได้เลยว่าต้อง M2 หรือถ้าท่านใช้หูฟังประเภทอื่นๆ เช่น in-ear หรือ CIEM M2 ด้วยเสียงที่ไม่เหมือนใคร และกำลังขับสูง และต้องการฟีเจอร์สตีมมิ่งด้วย M2 เป็นตัวที่น่าสนใจและลงตัวมากๆกับราคาขนาดนี้ ทำเอา DAP ยี่ห้ออื่นหนาวๆร้อนๆได้เลย แต่จะร้อนจริงหรือไม่ ต้องลองฟังดูครับสำหรับท่านที่กำลังมองหา DAP ซักตัวอยู่ M2 ต้องไม่พลาดที่ต้องลองก่อนตัดสินใจครับ"
http://sound-republic.com/news_activity_detail.php?activID=350