แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Bearmee

หน้า: [1] 2
1
3.3m  ได้ถึง 65" ครับ แต่ถามอีกนิดว่า ดูสัดส่วนภาพไหนเป็นหลัก ระหว่าง 2 35 1  ,  หรือ 1 85 1  ครับ  ถ้าดูข่าว หรือฟรีทีวีบ่อยๆ 65" จะใหญ่ไปนิดครับดูสักพักอาจมีล้าสายตา แต่ถ้าดูหนัง 2 35 1 บ่อยๆ บอกเลยว่าพอดีครับ  แต่ถ้าผมเป็นท่าน จขกท จะเปลี่ยนเป็น 65" ครับ   [ปลื่ม]

2
วิธีนี้ ใช้กับ SONY รุ่นอื่นๆ ได้ไหม ครับ ผมใช้รุ่น X9300D อยู่ และ ปกติ ใช้ standard ถึงแม้สีมันจะหลอกๆ แต่ก็ชอบมากกว่า Cinema Pro หรือ Home ที่สีออกไปแนว film ภาพยนตร์


ใช้ cinema pro เปลี่ยนการปรับไปเลยได้ครับ ใช้ remastered 4k ด้วยจะยิ่งเนียนครับ  standard ก้อปรับแบบที่ชอบค้างไว้ เบื่อๆก็กลับไปใช้ standard อีกครับ เปลี่ยนไปๆมา ได้อารมณ์ภาพหลากหลายดีครับ

3
ขนาด 43-49 รุ่นปี 2016 มีรุ่น เดียว คือ X8000D เป็น รุ่นทีมี 4K HDR ซื้อตอนนี้ ประกัน 3 ปี  ผมยังไม่เคยเห็น ของจริง แต่ตาม spec ก็มีเกือบครบ ทั้ง 4K upscale, Triluminous, ระบบ Motion Flow, ราคาผมหาได้ ที่ 23,XXX.- บาท

 [ปลื่ม]

4
1.มันคือระบบอัพสเกลใช่ไหมครับ
2.แล้วถ้าผมไม่ใช้โหมด cinema pro,home ระบบอัพสเกลมันจะไม่ทำงานใช้มั้ยครับ
P.s ผมใช้โหมด standard อยู่ โหมด pro,home ติดฝุ่นเยอะไปหน่อย

1. ใช่ครับ ทำงานที่ สัญญาณขาเข้าเป็นแบบ 1080p / 24hz ที่ mode cinema home , cinema pro เท่านั้นด้วย ใช้แล้วจะเนียนๆ ขึ้น แทนที่จะคมขึ้น  แต่ก็ควร เปิดมันไว้นะครับ

2. อัพสเกลยังสามารถ ทำงานครับผ่าน chip x1 ปกติ เป็น 4k ให้แล้วในทุกๆ mode  แต่ถ้าใช้ใน mode พิเศษ ที่ให้ Remastered 4k ได้อีก ก็จะ unlocked เพิ่มเติมเรื่อง ความเนียนความสมดุล ครับ  

3. standard ใช้ได้ครับ จะบอกว่าใช้ได้ดีด้วย แต่มันไม่หวือหวาอะไรมาก ตามชื่อครับ  ถ้าดูจนเบื่อแล้วหรือชินตากับ standard แล้ว ควรปรับเป็น pro หรือ home เพราะมี setting บางอย่างที่มันซ่อนอยู่ใน mode นั้นๆครับ เช่น Game , sports จะมีเรื่อง input lag disable ทีคุณปรับไม่ได้ แต่เป็น setting แบบ ที่ default ทำมาให้ครับ  อย่าลืมปรับ White balance Temp ดีๆด้วยนะ ไม่งั้นสีแดง เหลืองเกินไปทั้งภาพ จะดูเพี้ยนๆไปหมด ถ้าไม่มั่นใจ ก็ไม่ต้องไปยุ่งมันครับ จะใช้ Expert 1 2 หรือ cool ก็ยังได้นะครับ ลองๆดู

พวก black level กับ digital noise ปรับ low พอ Gamma 0-1  ถ้าจำไม่ผิด มี local dim มาด้วยใช่ไหมรุ่นนี้ ภาพสวยมาก

5
(HDR Native ไม่ support อย่าสับสนกับ modeภาพ HDR Virtual ในทีวีนะครับ เพี้ยนๆ เต่อๆ กับ BT2020 ที่สีสันเพี้ยนหนักมากกับ Live colour  แบบที่ใน LCD TV thailand เคยรีวิวไว้ ) นี่ยิ่งหนักเลยครับบางคนบอก ไม่มี HDR บางรุ่นยังดีกว่านี้  อันนี้ ตรงกันข้ามครับ  บางรุ่นอย่าง x8500c ตัวนี้ดีจริงครับ ถึงไม่มี HDR แต่มันดีในแบบของมันเองครับฟิลลิ่งภาพมาเต็มกว่าตัวนี้อีกนะในสายตาผม  


รุ่นปี 2015 X8500C S8500C X9000C X9300C X9400C

รองรับ HDR (native) ครับ


ถ้าเปิดไฟล์ HDR แล้วสีเพี้ยนแสดงว่า ตัวเครื่องที่ทดสอบยังไม่ได้อัพเกรด firmware เพื่อปลดล๊อค HDR

เพิ่งเห็นตอบกระทู้  ขอบคุณมากๆเลยครับ  ผมลองแบบ HDR FW update ล่าสุดแล้วครับ

6
ลองกดดูที่ info display ตรงทีวีสิ ว่า มันฟ้องว่าอะไรก็ยังเป็นแค่ 1080p /60hz เวลามันโชว์บางคนบอกมันขาเข้านะ ไม่ใช่ขาออก คือมันก็เข้าและออกนั่นแหละครับ   เหมือนเดิมนั่นแหลยังไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยกับ 4k  บางคนเข้าใจผิดคิดว่ากะลังเล่นเกมส์ ps4 เป็นแบบ 4k [เศร้า]  เพราะถ้าเป็น 4k upscale จริงๆมันจะขึ้นแบบนี้ครับ  










ข้อมูลเวลากด info คือ สัญญาณของขาเข้าอย่างเดียวครับ

ถ้าใช้แหล่งสัญญาณ ที่ความละเอียดต่ำกว่า 4K ส่งเข้าทีวี ไม่ว่าจะความละเอียด 1080i/p 720p 480p 240p
ตัวทีวีก็จะทำการอัพสเกลเป็น 4K โดยอัตโนมัติ นั่นก็คือภาพที่แสดงบนทีวี 4K นั้นจะผ่านการอัพสเกลเป็น 4K เสมอ

ส่วนที่ เล่น ps4 ผ่านจอ 4K แล้วกด info แสดงตัวเลขขึ้นเป็น 3940 x 2160
นั่นคือ สัญญาณต้นทางของPS4ผ่านการอัพสเกลก่อนเข้าตัวทีวี อาจจะด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง
เช่น อัพสเกล ผ่าน AVR หรือ อัพสเกลผ่านเครื่องupscale โดยเฉพาะ

ไม่ว่าจะเล่น PS4 ผ่านทีวี4K ด้วยวิธีไหน สัญญาณที่แสดงผลขั้นสุดท้ายก็จะเป็น สัญญาณ 4K(อัพสเกล)อยู่ดี

ตัวอย่าง

วิธีที่1
PS4(1080p) ต่อตรงไปที่ทีวี4K สัญญาณขาเข้าจะขึ้นเป็น 1920 x 1080
แต่ภาพที่แสดงผลจะเป็น 4K(อัพสเกล) วิธีนี้คือการใช้ระบบอัพสเกลของทีวี

วิธีที่2
PS4(1080p) ต่อผ่าน AVR แบบ direct ไม่มีการอัพสเกล แล้วส่งสัญญาณไปที่ทีวี4K
สัญญาณขาเข้าจะขึ้นเป็น 1920 x 1080
แต่ภาพที่แสดงผลจะเป็น 4K(อัพสเกล) วิธีนี้คือการใช้ระบบอัพสเกลของทีวี เช่นกัน

วิธีที่3
ps4(1080p) ต่อผ่าน AVR โดยให้AVR อัพสเกลเป็น 4K ก่อน แล้วส่งสัญญาณภาพไปที่ทีวี4K
สัญญาณขาเข้าจะขึ้นเป็น 3940 x 2160
ภาพที่ได้ก็จะเป็ 4K(อัพสเกล) วิธีนี้คือการใช้ระบบอัพสเกลของ AVR

ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนผลลัพธ์ในการแสดงผลหน้าจอลำดับสุดท้าย ก็จะออกมาเป็น 4K เหมือนกัน

แต่คุณภาพของภาพที่ได้นั้นจะต่างกันตามประสิทธิภาพของการอัพสเกลในแต่ละอุปกรณ์

เช่น ทีวีรุ่นสูงๆ ประสิทธิภาพในการอัพสเกลย่อมดีกว่า player หรือ AVR รุ่นทั่วไป

AVR กับ player รุ่นท๊อปๆ ประสิทธิภาพในการอัพสเกลย่อมดีกว่า TV 4K ในระดับเริ่มต้น


.................


ทีวี 4K เกือบทุกตัว มีระบบอัพสเกลอยู่ในตัวอยู่แล้ว

ถ้าทีวีไม่มีระบบอัพสเกล เวลาเปิดไฟล์ 1080pหรือต่ำกว่านั้น มันจะกลายเป็นเพียงการดับเบิ้ลขยายภาพให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอย่างเดียว

เปรียบเสมือนการเปิดไฟล์ภาพ บน PC แล้วกดปุ่มขยาย 200 - 400% ภาพก็จะออกมาแตกๆเน่าๆ นั่นแหละครับ

http://www.lcdtvthailand.com/topic_detail.php?id=1175


...............


http://www.lcdtvthailand.com/webboard/index.php?topic=185380.0

http://www.lcdtvthailand.com/webboard/index.php?topic=200523.0
^
^
อ่านเพิ่มเติมได้ในกระทู้นี้


ก่อนอื่นสวัสดีครับคุณเจ๊หวี 555 ผมก็ติดตามข้อมูลหลายๆเรื่องของ ท่านอยู่ครับ แต่ก็มีทั้งถูกและไม่ถูกซะทีเดียว อันนี้ผมพูดตรงๆอย่าโกรธนะ  แต่โดยรวมข้อมูลท่านมาเต็มเสมอ และเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆเสมอ ขอบคุณมากๆครับ

    คืออย่างนี้ครับ  เรื่อง 4K มันค่อนข้างจะละเอียดอ่อนนิดนึง   ตรงที่ 4kแท้จะไม่พูดถึงในตอนนี้ กับ 4kเทียม(และทำให้เหมือนแท้ที่สุด 4k upscale) ส่วนเรื่อง source signal  ทีวีจะทำเป็น 4k internal scaler ให้เลยผมทราบอยู่แล้วครับ เช่น 1080p 60hz  >> 4k 60hz  เพียงแต่ส่ิงที่ผมจะกล่าวคือ แนะนำให้ใช้ Scaler แยกก็ดีเหมือนกันครับ ในตัวทีวีเองก็ดีระดับนึงแล้ว แต่มันมีข้อติติงนิดนึงตรง ส่วนตัวผมกลับไม่ชอบเท่าไรครับ เหมือนมันยังอั้นๆทั้งในเรื่องความชัดเจนในลักษณะ ที่ยังไม่ถูก artifact  จนเกินความจำเป็น   พยายามปรับดูยังไงมันก็ยังไม่สุดแน่นอนละครับมันแค่ input source 1080p 24hz เอง จะให้เหมือน 4k ก็คงจะเป็นไปไม่ได้แน่นอน    ทีนี้มาตกกระทบกับกระทู้ 4k ตามท่านจขกทถามไว้ ผมเลยลองให้น่ะครับไม่อยากเชื่อสเปคหรือจากบทความ  แต่ดูด้วยตาเลยดีกว่า  แล้วก็แถมเรื่อง upscale จาก AVR กับ Scaler แยกชิ้น เพื่อทดสอบว่า มันจะ over scan เกินไปไหม่ สรุปคือ ใช้ได้ดีกว่าจริงๆ แต่จะคุ้มค่าไหมตอบเลยคุ้มถ้าจะหาอะไรใหม่ๆเล่นหรืออยากทดลองผิดลองถูก   แต่ถ้าการใช้งานจริงเกินความจำเป็นครับ^ ^ ถ้าจอแค่ 55" 65"ผมว่ามัน mini 4k เกินไป

เรื่อง ps4 upscale อันนี้ ผมทราบอยู่แล้วครับว่ามันเป็น 4k หลอกๆ จากในทีวีผ่าน ชิฟประมวลสารพัดอย่าง  ภาพอะไรเข้าก็เป็น 4k หมด แต่ผลที่ออกมามันไม่ได้ดีขนาดนั้นน่ะครับผมเลยพูดเชิงเหน็บๆว่า ต่อให้ภาพขึ้นเฉยๆ แค่สีสดขึ้นภาพคมขึ้นเฟรมลื่นขึ้น มันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไร (แหมเราเล่นทีวีมาขนาดนี้ไม่ทราบก็แย่แล้วครับท่าน)

ปล. Scaler แยกข้อดีคือ จะมี function การปรับค่า Detail Deep Enhancer ได้อีกแยกเป็นเรื่องๆเลยนะครับ บางยี่ห้อได้ถึง 100 level เลย รวมถึงความสมดุลภาพต่างๆด้วย(สำหรับจอที่เกิน 100" ขึ้นไปมีผลชัดเจนแน่นอน)  ไม่ใช่แค่ on off แบบ กดรีโมททีวี 4k remastered หรือแค่ low mid high มันบอกอะไรไม่ได้เลย คนละอย่างกัน  ส่วนราคาของ scaler แยกแบบเทพแพงกว่าทีวี x9300d เยอะๆเลย ครับ ผมเลยคิดว่าเรื่องนี้จะให้ใช้ scaler ใน TV ยังไงก็สู้แยกชิ้นออกมาไม่ได้เลยครับ

7
คุณ Bearmee คงต่อผ่าน AVR ละมั้ง เลยขึ้นแบบนั้น แค่โดนตัวเลขของ AVR หลอกเฉยๆ
ใช้ X9300D อยู่รึเปล่าครับ ลองต่อ PS4 ตรงเข้าทีวีเลย รุ่นระดับนี้ ผมว่าภาพก็คงไม่ต่างกับต่อผ่าน AVR ตัวโหดๆหรอก
 [ม่ายยย]



ขอบคุณท่านมากๆครับ  ผมไม่ได้ถูกหลอกด้วยตานะก็เข้าใจเหมือนหลายๆท่านนั่นล่ะครับ  555 คือ สรุปแบบนี้ละกันครับ  ตัว TV ก็คือทำ 4k ที่สมดุลย์ในตัวเองได้อยู่แล้ว  เพียงแต่ ผมอยากลองเอาไป upscaler ทั้ง AVR และ ตัว scaler แยกชิ้น over scan มัน อีกที ว่ามันจะสวยอย่างที่ตั้งใจไหม  ผลก็คือ ได้ในระดับนึงครับ เลยไปสอดคล้องกับคำถามของ จขกท พอดิบพอดีเรื่อง ps4  เลยทำการทดลองให้จากที่ใช้งานจริงๆน่ะครับว่า  มันดีขึ้นจริงครับ และมาอธิบายให้ว่า 4k จาก TV ก็เพียงพอแล้ว แต่สำหรับผมมันยังน้อยไปหน่อยแค่นั้นเองครับ

ปล. ปกติผมเล่น PS4 แบบต่อตรงมาตลอดครับและพอใจแล้วกับภาพและความเป็น 4k ในระดับนึงแล้วครับ   เพียงแต่อยากลองอะไรใหม่ๆแค่นั้นเองครับว่าจะดีขึ้นกี่ %  [เปล่า]
อีกเรื่องที่สำคัญมาก Scaler ในทีวีสู้ external scaler ไม่ได้นะครับ ยังไงก็สู้ไม่ได้ครับ ความละเอียดในการปรับแต่งแบบ Custom ก็ต่างแล้วครับ ผมก็ยังงงๆว่าทำไมทุกท่านยังคิดว่า scaler ในทีวีมันดี ผมว่ามันแค่ average เอง

8
VR กับหนัง AV   [หื่น]

9
 อธิบายซะยาว ลืมตอบสิ่งที่ จขกท ถาม สรุปว่า ควรใช้ TV Full HD หรือ 4k รุ่นใหม่ๆ เล่นเกมส์  PS4  ตอบเลยว่า Full HD ครับ ประหยัดกว่า ถูกกว่า ตอบโจทย์ แต่ถ้าถามว่า ตัวที่เป็น Full HD ที่มี ระบบดีๆ มันจะไม่มีให้เลือกครับ เพราะแต่ละยี่ห้อก็ ขนอาวุธหนัก ใส่ไปใน LED 4k TVกันหมด ทั้ง Bit ของสี Bit ของ Display เอง ทั้งความละเอียดในการใช้งานแบบ default เอง และการปรับแบบ Custom
 ภาพที่ได้ออกมา ถ้าถามผมนะ แค่สีครับที่สดใสขึ้นกับ เฟรม interpolation ที่ดีขึ้น ความละเอียด ก็เหมือนเดิมๆ จะเปลี่ยนไปก็เรื่อง Sharpness  กับ Edge Enhance แค่นั้นเอง  ถ้าท่านไม่มี upscaler ดีๆ ที่อยู่ใน AVR รุ่นกลางๆขึ้นไปซึ่งผมก็ไม่เคยเจอ รุ่นไหนมีของดีๆสักเท่าไร ต้องจัดรุ่นสูงสุดถึงจะใช้งานได้จริงๆ   หรือก็ต้องไป ใช้ Scaler แยก ชิ้นซึ่งราคาแพงพอๆกับทีวีเลยทีเดียว   

ปล.  สรุป 4k หลอกๆ ผ่านไปก่อนเถอะครับ ไม่ค่อยถึงกับที่ผมตั้งความหวังไว้   ใช้ Full HD โลดต่อไปดีกว่าครับ แต่ถ้ามีโปรแกรมจะซื้อ TV 4k อยู่แล้วก็คิดว่าเป็นของแถมในเรื่องเล่นเกมส์ไปดีกว่า คล้ายๆกับระบบ 3D ที่คิดว่าเป็นของแถมมา ^ ^

10
เข้าใจผิดกันไปคนละทิศคนละทางหมดแล้ว   [ไม่เอา]  4k ที่เป็นพวก Remastered มันทำงานที่ 1080p 24hz บางยี่ห้ออาจมี 60Hz ให้เห็นบ้าง และบางโหมดภาพด้วย ( On แล้วภาพมันจะเนียนๆ ผิดเพี้ยนไปหมด) อย่าง sony ถ้าเปิดก็ได้แค่ mode cinema pro กับ home แล้วถ้าเล่นเกมส์มันต้องจำเป็นใช้ในเรื่องของ  input lag disable mode อีกนะ นั่นก็คือ sports หรือ game  พอเลือก 2 mode นี้ 4k remastered มันก็ไม่ทำงานอีก   ส่ิงสำคัญคือ  Ps4   มันเป็นแค่ 1080p 60Hz native  ถ้าไม่ได้ใช้ส่ิงที่ผมยกตัวอย่างในเรื่อง mode TV  ตรงจุดนี้ก็บอกได้ว่า chip set 4k ที่กะลังพูดถึง ยังไม่ทำงานเต็มที่นะหรือทำงานแค่ครึ่งเดียว หรือแปลง่ายๆแค่เปิดให้ภาพขึ้นเท่านั้นเอง ในเรื่องผ่าน chip 4k ในทีวีเอง จะยี่ห้ออะไรก็เป็น default หมดพวก x1pro หรือจะอะไรก้ตามยี่ห้ออื่นๆสารพัดมันก็เท่านั้นสีอาจดีขึ้นก็นานาจิตตัง    แต่ที่ผมจะกล่าวจริงๆคือมันจะต้อง มีผลในเรื่อง Resolution Enhancer , Detail Enhance  ไม่ใช่ Edge sharpness หรือ Colour Extended เพียงอย่างเดียวนะ ลองกดดูที่ info display ตรงทีวีสิ ว่า มันฟ้องว่าอะไรก็ยังเป็นแค่ 1080p /60hz เวลามันโชว์บางคนบอกมันขาเข้านะ ไม่ใช่ขาออก คือมันก็เข้าและออกนั่นแหละครับ   เหมือนเดิมนั่นแหลยังไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยกับ 4k  บางคนเข้าใจผิดคิดว่ากะลังเล่นเกมส์ ps4 เป็นแบบ 4k [เศร้า]  เพราะถ้าเป็น 4k upscale จริงๆมันจะขึ้นแบบนี้ครับ 











11
นี่คือภาพที่ได้จาก sony X9300d 65" + yamaha AVR RX3050 เปลี่ยนสายใหม่หมด ระบบไฟเดินเต็มกำลัง  4k upscale (ไม่ใช่ passthrough) ทำได้ระดับ Reference แล้วครับ  ซื้อไปเลย 3050 ถูกและคุ้ม


12
ส่วนตัวผมชอบ yamaha มากกว่า คุ้มค่าคุ้มราคากว่า 4k upscale สวยมาก

13
รายงานความคืบหน้าล่าสุด pioneer krp 500a ของคุณ puccainbkk

แรกๆยังแค่รวนๆ. แต่ตอนนี้ไฟไม่เข้า และจากไปอย่างสงบแล้วครับ

 [ปาดเหงื่อ] [ปาดเหงื่อ] [ปาดเหงื่อ]

แล้วซ่อมได้หรือไม่อย่างไรครับ

14
ซวยละใช้ KRP500A มา6 ปี แล้ว ลุ้นกันไปเลยว่าจะอยู่ได้อีกกี่ปี T T  ดูทีวีตัวไหนเทพแค่ไหนก็ต้องมาจบที่ตัวนี้จริงๆ  [เศร้า]

15
พูดตรงๆอย่าโกรธนะ เป็น คหสต จากประสบการณ์ ที่ใช้จริงๆ ผมเองก็ชอบ sony อยุ่มากๆ มากกว่าทีวีพวกยี่ห้อ เกาหลี ที่เน้นแต่ spec มาสู้กัน จนลืมคำว่า  balanced ซึ่งรุ่นที่ดีๆของ แบรนด์เกาหลี ก็มีนะ แต่น้อยมาก ส่วนตัวซื้อตัว Top มาตลอด 10 ปีที่ผ่านมาซัดมาเกือบจะทุกยี่ห้อแล้ว  อะไรดีบอกดีห่วยบอกห่วย เอากันตรงๆ  อยากจะบอกว่า เทสแบบจริงๆจังๆแทบจะทุก source กับ 65X9300c  ภาพ 2 มิติ มันยังอั้นอยู่อย่างมากๆเลย กับหลายๆโหมด เป็นแบบ high ก็แล้วปรับทุกอย่างก็แล้ว ลองถึงขั้นปิด เป็น off ก็แล้ว  ทั้งๆที่เป็น X1pro ตัวเทพ แต่ภาพมัน default มาไม่ดีถึงค่าสีจะใกล้เคียงเครื่องวัดสีตามแบบสากลที่ทำกัน ก็ตาม  แต่ฟิลลิ่งภาพจริงๆที่ออกมา มันยังไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น   หรือแปลง่ายๆดีกว่าพวกรุ่นล่างๆแบบ 10%-15% เท่านั้นเอง (HDR Native ไม่ support อย่าสับสนกับ modeภาพ HDR Virtual ในทีวีนะครับ เพี้ยนๆ เต่อๆ กับ BT2020 ที่สีสันเพี้ยนหนักมากกับ Live colour  แบบที่ใน LCD TV thailand เคยรีวิวไว้ ) นี่ยิ่งหนักเลยครับบางคนบอก ไม่มี HDR บางรุ่นยังดีกว่านี้  อันนี้ ตรงกันข้ามครับ  บางรุ่นอย่าง x8500c ตัวนี้ดีจริงครับ ถึงไม่มี HDR แต่มันดีในแบบของมันเองครับฟิลลิ่งภาพมาเต็มกว่าตัวนี้อีกนะในสายตาผม  พักเรื่อง 3D ไว้ก่อน เอา 2D ให้เป็น Reference ยังยากเลยรุ่นนี้  แต่กับ 75" ในรุ่นเดียวกันแบบคนละงานคนละอย่างเลยตัวนี้ไม่เป็นแต่แอบสี over saturate อยู่พอควร แล้วก็ Bias deep black มากเกินไป  แต่ยังไงก็ปรับได้แน่นอนกับ 75"

 ปล.  มีอีก solution นึงครับ ให้ช่างที่ชำนาญจริงๆมาปรับทีวี calibrate stat ใหม่หมดเลยครับ น่าจะดึงเอาความสามารถทีวี  65 x6300c ขอบท่านออกมาได้ สุดกว่านี้ หรืออาจเจอภาพที่ท่านตามหาอยู่  อันนี้คนละเรื่องกับ สาย AC เทพๆ HDMI แพงๆ  หรือแม้แต่ กับพวกเดินระบบไฟใหม่ทั้งบ้าน ไม่ได้ช่วยครับ มันคนละเรื่องกัน

16
ซื้อมาใช้ได้เลยครับ  ผมจะหนี ไป AX5100 แล้ว  เพราะมันดีจนต้องเปลี่ยนครับ

17
ลง FW1.81 อย่างไร แล้ว Set การวางลำโพง 5.1.2 ให้เหมาะต้องตั้งลำโพงอย่างไร ขอบคุณครับ

โหลดจาก web yamaha ตรง supports เลือกรุ่น AVR ของท่าน แล้วก็เลือกโหลดลงคอมเลย  โหลดแล้ว Extracted ให้เรียบร้อย ดึงมาเฉพาะ .bin แล้ว ลง flash drive ที่ format มาแบบ Fat32 เสียบเข้าที่หน้า AVR ช่อง USB ปิด off AVR ไปก่อน แล้วเปิดเครื่องอีกที โดย กด Straight ค้างไว้ พร้อมเปิด power แล้วปล่อย จะเข้าไปที่ setting menu ดัน ลูกศร ซ้ายขวาตรงหน้าเครื่อง ไปจนถึง Updated FW เลือก USB แล้วกด Info นะครับเพื่อ enter รอสัก 15 นาที แค่นี้ครับท่านจะได้ 1.81 กดดูได้จาก information ใน AVR ได้เลย 

การ Set up ต้องผ่าน Ypao 1 ตำแหน่ง กับ Ypao angle  ก่อนจะดีมากครับ ลองดูเลยครับ มันจะ Auto ให้หมดแล้วมาปรับค่า อื่นๆทีหลัง Subwoofer set ไป bypass นะ volume 12 ไปก่อนครับ phase 0 ไปก่อนได้ครับ วาง Sub ชิดกำแพงไม่เกิน 1 m วางคู่กับคู่หน้าได้ครับฝั่งไหนก็ตามสะดวก  หรือวางระหว่าง Center กับ คู่หน้า  แต่อย่ากลางห้องเสียงมันจะหายไปเลย ให้มันชิด กำแพงเยอะๆที่สุด  เรื่อง Sub ละเอียดมากครับ ลองหาอ่านดูจากท่าน Lex HT guru ได้เลยครับเทพสุดๆ ไม่หลงทางแน่นอนครับ ^ ^ อย่าลืมเรื่อง Distance Sub ด้วยนะครับมันสำคัญจริงๆ  ใช้หน่วย Ft ดีสุดเพราะละเอียดครับ  ออถ้างบถึงควร ใช้ Sub 2 ตัวนะยี่ห้อเดียวกันรุ่นเดียวกันไปเลย ดอกเท่ากันปรับง่าย  ถ้าเป็นไปได้นะครับ   ส่วน sub กับ center ใช้ต่างยี่ห้อกับคู่หน้าคู่หลังได้ครับ เพราะเป็น independence channel   แต่ Surround ทั้งหมดควรเป็นยี่ห้อ หรือถ้าเป็นไปได้ รุ่นเดียวกับ คู่หน้าจะดีมากๆครับ การโยนเสียง ความ กลมกลืน จะปรับง่ายมากๆ

ปล.ถ้ามี power amp ค่อยว่ากันต่อนะ เพราะผมก็ต่อแบบ power amp เป็นอีกเรื่องไปเลยครับ

18
ตอนผมซื้อทีวี เทียบ 2 รุ่นนี้ติดกันเลย สวยทั้งคู่ มีดี มีด้อย ต่างกันไป  แต่ไปจบที่  sony 65X9300d  ด้วยเหตุผลเดียวเลยครับ เวลาดูหนัง ไม่ได้ดูที่ สเปคครับดูที่ feeling ภาพล้วนๆ อีกอย่างมีใคร เปิด vivid mode ดูหนังตลอด 24 ชม.บ้างครับ เปรียบกับ ญ ถ้าลองลบเครื่องสำอางออก บอกตัวตนที่แท้จริงครับ  ผมแนะว่าท่านกลับไปลองที่ร้าน แล้วตั้ง off หมดทุก feature ปรับแสงต่ำๆ สู้กันแบบแฟร์ๆเลยครับ แล้ววาง คู่กัน 2 รุ่น แล้วท่านจะตัดสินใจได้ทันที

หน้า: [1] 2