แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - PostDD

หน้า: 1 ... 231 232 [233] 234 235 ... 249
4177
"USANA" อ่านว่า "ยูซานา" แปลว่า "สุขภาพที่แท้จริง"





THE BEST CELLULAR NUTRITION ด้วยนวัตกรรมใหม่ InCelligence ใน CellSentials สิทธิบัตรหนึ่งเดียวจาก USANA ที่ช่วยบำรุง ปกป้อง และฟื้นฟู เพื่อร่างกายที่แข็งแรงแบบองค์รวม ได้รับการการันตีจากการค้นคว้าวิจัยระดับโลกด้วยรางวัลชนะเลิศ 5ดาว แพลทินัม-พลัส จาก Comparative Guide to Nutrition Supplement ในปี 2017 





usana product ผลิตโดยบริษัทมาตรฐานระดับนานาชาติ อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ NYSE นักกีฬาชื่อดังหลากหลายคนให้ความไว้ใจ ใช้จริง เนื่องจากไม่มีสารตกค้าง



4178


จุฬาฯ เผยเบื้องหลังการขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อสังคมที่ตอบโจทย์อย่างแท้จริง เดินหน้าต่อเนื่อง 3 แนวทาง ผุดนวัตกรรมรับมือโควิด-19 อย่างรอบด้าน พร้อมติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุด และช่องทางใช้ประโยชน์

“โควิด-19” ถือเป็นวิกฤตการณ์ระดับโลกที่ยืดเยื้อยาวนาน เป็นภัยคุกคามที่ทุกประเทศต้องเร่งรับมือและจัดการให้ได้ แต่ก็กลายเป็น “โอกาส” หรือเป็นโจทย์ใหญ่ที่ท้าทาย ยิ่งกว่านั้น การแพร่ระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ได้ส่งผลให้ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตและติดเชื้อเป็นจำนวนมาก นอกจากการเร่งเครื่องพัฒนานวัตกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อรับมือกับมหันตภัยที่คุกคามชีวิตของผู้คนให้ตอบโจทย์ได้ทันต่อสถานการณ์ จนส่งผลให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ตามมามากมายแล้ว ที่สำคัญอย่างยิ่งคือ “วัคซีนโควิด-19” ยังคงเป็นความหวังที่ทุกคนรอคอย โดยเฉพาะวัคซีนฝีมือคนไทยซึ่งพัฒนาโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งวัคซีน ChulaCov19 ซึ่งเป็นวัคซีนชนิด mRNA และวัคซีนจุฬาฯ – ใบยา วัคซีนชนิด Protein Subunit ถึงวันนี้มีความก้าวหน้าในการดำเนินงานเป็นอย่างมาก

หลากหลายนวัตกรรมจากจุฬาฯ เกิดขึ้นมาได้อย่างไร?? เบื้องหลังการขับเคลื่อนให้ทุกภาคส่วน ทั้งคณาจารย์ นักวิจัยและนิสิตจุฬาฯ สามารถคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมเพื่อรับมือการแก้ปัญหาโควิด-19 อย่างต่อเนื่องคืออะไร??

รศ.ดร.ณัฐชา ทวีแสงสกุลไทย รองอธิการบดี จุฬาฯ
รศ.ดร.ณัฐชา ทวีแสงสกุลไทย รองอธิการบดี จุฬาฯ

๐ จากวิสัยทัศน์ สู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง

รศ.ดร.ณัฐชา ทวีแสงสกุลไทย รองอธิการบดี ด้านการวางและกำหนดยุทธศาสตร์ นวัตกรรมและพันธกิจสากล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ปัจจัยความสำเร็จในการพัฒนานวัตกรรมรับมือโควิด-19 ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกิดจากวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยในการเป็นผู้นำสร้างสรรค์องค์ความรู้และนวัตกรรม เพื่อสร้างเสริมสังคมไทยสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งนำมาสู่พันธกิจของจุฬาฯ ที่มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสังคม (Innovations for Society)

รศ.ดร.ณัฐชา ได้ให้ความหมายของ “นวัตกรรม” ว่า ไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์หรือความคิดสร้างสรรค์เท่านั้น แต่สิ่งนั้นจะต้องนำไปใช้ประโยชน์ได้ โดยตัวชี้วัดที่จุฬาฯ ใช้ในงานนวัตกรรมคือ มูลค่าทางการตลาดที่เกิดขึ้นจากนวัตกรรมที่จุฬาฯ บ่มเพาะจะต้องมีมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท และมีผู้ใช้ประโยชน์จากงานนวัตกรรมอย่างน้อย 1 ล้านคน ความสำเร็จในการพัฒนานวัตกรรมของจุฬาฯ เกิดจาก 3 ปัจจัย คือ 1.การมีคนเก่ง มีทักษะ ทัศนคติและวิสัยทัศน์ในการสร้างสรรค์สังคมที่ดีขึ้น แสวงหาโอกาสอย่างมีกลยุทธ์ 2.ความสอดคล้องของผลิตภัณฑ์และการตลาด 3.มีแผนธุรกิจที่แตกต่าง และลอกเลียนแบบยาก รวมถึงสามารถขยายการเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

โดยการขับเคลื่อนให้เกิดผลลัพธ์นั้น มาจากการสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมในจุฬาฯ ซึ่งประกอบด้วย CU Innovation Hub ทำหน้าที่บ่มเพาะทักษะการเป็นผู้ประกอบการ นำงานวิจัย ”จากหิ้งสู่ห้าง” และสร้างสังคมอุดมปัญญา และมี CU Enterprise เป็นบริษัทร่วมลงทุนที่จุฬาฯ ถือหุ้น 100% ทำหน้าที่ลงทุนธุรกิจนวัตกรรมที่มาจากการบ่มเพาะของ CU Innovation Hub ซึ่งปัจจุบันมีการตั้งบริษัทสตาร์ทอัปขึ้นใน 6 คณะ ได้แก่ คณะเภสัชศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ และบริษัท นวัตกรรมจามจุรี ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้อาจารย์สร้างสรรค์งานนวัตกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคมในเวลาที่รวดเร็ว

รศ.ดร.ณัฐชาชี้ให้เห็นถึงหัวใจสำคัญที่ทำให้ระบบนิเวศนวัตกรรมของจุฬาฯ ประสบความสำเร็จว่ามาจาก “PADONE” ประกอบด้วย Prior Experiences (ประสบการณ์ก่อนหน้านี้ในการทำธุรกิจและนวัตกรรม) Accelerate Success (การมีเครือข่ายที่ช่วยทำให้เกิดความสำเร็จรวดเร็วยิ่งขึ้น) Diversify Risk (การกระจายความเสี่ยง) Omni Resources (ทรัพยากรไม่จำกัด) NurtureTrust (ความเชื่อถือไว้ใจ) และ Equity Partnership (การแบ่งปันที่เป็นธรรม)

หุ่นยนต์ CURoboCovid กู้วิกฤตโควิด-19
หุ่นยนต์ CURoboCovid กู้วิกฤตโควิด-19

จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้สังคมไทยเห็นนวัตกรรมจุฬาฯ จำนวนมากที่มีการนำไปใช้ประโยชน์เพื่อช่วยเหลือประเทศชาติและประชาชน นวัตกรรมต่างๆ ของจุฬาฯ เกี่ยวกับโควิด-19 แบ่งเป็น 3 ด้าน ได้แก่ “นวัตกรรมการป้องกัน” เช่น วัคซีน ChulaCov19 วัคซีนจุฬาฯ - ใบยา ฯลฯ “นวัตกรรมการคัดกรอง” เช่น Chula COVID-19 Strip Test รถพระราชทานเคลื่อนที่ตรวจวิเคราะห์ผลโควิด-19 แบบรวดเร็ว แม่นยำ ฯลฯ และ “นวัตกรรมการรักษา” เช่น หุ่นยนต์ปิ่นโต นินจา กระจก ช่วยแพทย์ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ฯลฯ

“แพลตฟอร์มในการทำธุรกิจวิจัยนวัตกรรมช่วยสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาวและทันเวลา การพัฒนานวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเอง ไม่ต้องพึ่งเทคโนโลยีต่างประเทศ เป็นความมั่นคงของประเทศไทยซึ่งสามารถแปลงกลับมาเป็นรายได้เข้าสู่ประเทศ จุฬาฯ มุ่งตอบสนองความต้องการของประเทศ เมื่อใดที่สังคมมีปัญหา จุฬาฯ มีคำตอบ ซึ่งคำตอบนั้นถูกสร้างขึ้นด้วยนวัตกรรมเพื่อสังคม” รองอธิการบดีด้านนวัตกรรม จุฬาฯ กล่าวในที่สุด



๐ หลากหลายนวัตกรรมจุฬาฯ สู้โควิด-19

จุฬาฯ มุ่งมั่นเร่งวิจัยและพัฒนาหลากหลายนวัตกรรมเพื่อบรรเทาปัญหาจากโควิด-19 ทั้งเชิงวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์ ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพของประชาชนเท่านั้น แต่ยังช่วยดูแลจิตใจ พร้อมๆไปกับการเพิ่มพูนทักษะความรู้ที่ส่งเสริมการประกอบอาชีพให้อยู่รอดจากวิกฤตโควิด-19 ส่วนหนึ่งของนวัตกรรมจากจุฬาฯ สู้โควิด-19 มีดังนี้

๐ นวัตกรรมในการป้องกัน

๐๐ “วัคซีน ChulaCov19”
วัคซีน mRNA รุ่นแรกของประเทศไทย โดยคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เริ่มฉีดทดลองในอาสาสมัครแล้ว กำลังพัฒนาวัคซีนรุ่น 2 เพื่อรองรับไวรัสกลายพันธุ์ อ่านเรื่องราวได้ที่ https://www.chula.ac.th/news/47758/

๐๐ “วัคซีนจุฬาฯ – ใบยา”
วัคซีนป้องกันโควิด-19 จากใบพืช โดยบริษัท ใบยาไฟโตฟาร์ม จำกัด สตาร์ทอัปในคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ มีการสร้างโรงงานต้นแบบผลิตวัคซีนจากพืชสำหรับใช้ในมนุษย์แห่งแรกในเอเชีย วางแผนทดสอบในอาสาสมัครภายในเดือนกันยายน 2564 อ่านเรื่องราวได้ที่ https://www.chula.ac.th/news/34189/

๐๐ “เครื่องแบ่งบรรจุวัคซีนอัตโนมัติ”
นวัตกรรมจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ สามารถดูดและบรรจุวัคซีนแอสตราเซเนกาลงเข็มฉีดยาได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว ปลอดภัย ช่วยเพิ่มจำนวนผู้ได้รับวัคซีนอีก 20% อ่านเรื่องราวได้ที่ https://www.chula.ac.th/highlight/49475/

๐๐ “Shield+: Protecting Spray”
สเปรย์พ่นหน้ากากผ้าป้องกันฝุ่น PM2.5 และไวรัสโควิด-19 สามารถนำมาใช้ซ้ำ ช่วยลดขยะจากการใช้หน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้ง อ่านเรื่องราวได้ที่ https://www.chula.ac.th/news/29889/

๐๐“หน้ากากอนามัย 2 in 1”
ป้องกันฝุ่นและไวรัส มีประสิทธิภาพสูง เพื่อสุขภาพชีวิตวิถีใหม่ ผลงานของหลักสูตรวิศวกรรมและเทคโนโลยีการป้องกันประเทศ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ และบมจ.ปตท. อ่านเรื่องราวได้ที่ https://www.chula.ac.th/highlight/47688/

๐๐ “Cure Air Sure”
หน้ากากกรองฝุ่นพิษและเชื้อโรค 99.9% นวัตกรรมจุฬาฯ เพื่อลมหายใจสะอาด ใส่สบาย หายใจสะดวก อ่านเรื่องราวได้ที่ https://www.chula.ac.th/highlight/48107/

๐๐ “เครื่องพ่นละอองไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์”
นวัตกรรมการพ่นฆ่าเชื้อในห้องและอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อความปลอดภัยจาก COVID-19 ผลงานคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ อ่านเรื่องราวได้ที่ https://www.chula.ac.th/news/29789/



๐ นวัตกรรมในการคัดกรอง

๐๐ “สุนัขดมกลิ่นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19”
ความสำเร็จครั้งแรกในประเทศไทยโดยคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ในการใช้สุนัขดมกลิ่นเหงื่อผู้ติดเชื้อโควิด-19 ช่วยคัดกรองผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ นอกจากนี้ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ยังได้ต่อยอดงานวิจัยสู่การผลิตเครื่องมือตรวจเชื้อโควิดจากกลิ่นเหงื่อ สามารถทราบผลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำกว่า 95% อ่านเรื่องราวได้ที่ https://www.chula.ac.th/news/44526/ และhttps://www.chula.ac.th/highlight/49578/

๐๐ “รถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ”
รถพระราชทานเคลื่อนที่ตรวจวิเคราะห์ผล COVID-19 แบบรวดเร็ว แม่นยำ ปลอดภัย ช่วยขยายการตรวจคัดกรองผู้ป่วยโควิด-19 แบบเชิงรุกในพื้นที่ชุมชน อ่านเรื่องราวได้ที่ https://www.chula.ac.th/news/41055/

๐๐ “COVID-19 SCAN”
นวัตกรรมชุดตรวจคัดกรองโควิดเชิงรุกผลงานของแพทย์จุฬาฯ รวดเร็ว แม่นยำ มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับเทคนิค Real-time PCR สำหรับโรงพยาบาลและหน่วยงานทางการแพทย์ในการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน อ่านเรื่องราวได้ที่ https://www.chula.ac.th/news/48500/



๐ นวัตกรรมในการรักษา

๐๐ หุ่นยนต์ CURoboCovid กู้วิกฤตโควิด-19
หุ่นยนต์น้อง “ปิ่นโต” “กระจก” “นินจา” ผลงานคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ช่วยแพทย์และพยาบาลสื่อสารทางไกลกับคนไข้โดยไร้การสัมผัส อ่านเรื่องราวได้ที่ https://www.chula.ac.th/news/37194/

นอกจากนี้ จุฬาฯ ยังได้สร้างสรรค์ “นวัตกรรมทางสังคมเพิ่มทางรอดโควิด-19” ไม่ว่าจะเป็น “คอร์สเรียนออนไลน์” เพิ่มทักษะได้ง่ายๆ ที่บ้าน จาก Chula MOOC แม้ต้องถูก Lockdown แต่การเติมเต็มความรู้ไม่หยุดนิ่งไปด้วย มาเรียนวิชาความรู้ได้ 24 ชม. กับ Chula MOOC ค้นหาคอร์สที่น่าสนใจได้ที่ https://mooc.chula.ac.th/

“โครงการจุฬาอารี” (Chula Ari) โครงการบูรณาการสหศาสตร์เพื่อรองรับสังคมสูงวัย ผุดนวัตกรรมและความช่วยเหลือหลากหลาย ช่วยดูแลคนสูงวัยในยุคโควิด-19 สามารถติดตามเรื่องราวของโครงการจุฬาอารีได้ที่ http://www.chulaari.chula.ac.th/

“Mind Space & Mind Café” แพลตฟอร์มใหม่เพื่อนใจนิสิต โดย Chula Student Wellness ช่วยดูแลสุขภาพจิตนิสิตจุฬาฯ ในช่วงที่ต้องรักษาระยะห่าง หวังให้นิสิตรับมือความเครียดในชีวิตทั้งการเรียนและความสัมพันธ์ อ่านเรื่องราวได้ที่ https://www.chula.ac.th/highlight/45411/



รวมทั้ง ”Quick MBA from Home” โดยชวนทุกคนมาเรียนบริหารธุรกิจแบบใช้ได้จริง เรียนรู้เคล็ดลับธุรกิจจากกูรูผู้เชี่ยวชาญจุฬาฯ ได้ง่ายๆ จากบ้าน โดยคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ ติดตามรายละเอียดได้ที่ https://www.cbs.chula.ac.th/quick-mba-from-home/

เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 นวัตกรรมมากมายดังกล่าวที่จุฬาฯ สรรค์สร้างและพัฒนาขึ้นมานั้น ได้สร้างประโยชน์ให้ก่อเกิดในสังคมทั้งในระดับบุคคลและระดับประเทศในวงกว้างอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม

4179


โฆษกกระทรวงสาธารณสุขของกัมพูชาเผยวันนี้ (5) ว่าทางการได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างน้อย 1 เข็มให้กับผู้ที่มีสิทธิเข้ารับการฉีดแล้วเกือบ 11.2 ล้านคน หรือ 70% ของประชากร 16 ล้านคนของประเทศ

ออร์ แวนดิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุขระบุในคำแถลงว่า จากจำนวนดังกล่าว มี 8.87 ล้านคน หรือ 55% ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และ 660,292 คน ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3

“ณ วันที่ 4 ก.ย. ประมาณ 95.3% ของประชากรวัยผู้ใหญ่ที่ตั้งเป้าไว้ 10 ล้านคน และ 84.4% ของกลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุระหว่าง 12-17 ปี ที่ตั้งเป้าไว้เกือบ 2 ล้านคน ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม” ออร์ แวนดิน กล่าว

ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้เริ่มโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในเดือนก.พ. โดยตั้งเป้าที่จะฉีดวัคซีนให้ประชาชนราว 12 ล้านคน หรือ 75% ของประชากรทั้งหมด ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่

วัคซีนส่วนใหญ่ที่ใช้ในโครงการสร้างภูมิคุ้มกันของประเทศคือ วัคซีนซิโนแวคและวัคซีนซิโนฟาร์มของจีน และตามข้อมูลของสถานทูตจีนในกัมพูชา จนถึงขณะนี้ จีนได้มอบวัคซีนให้กับกัมพูชาแล้ว 26.8 ล้านโดส และในจำนวนดังกล่าว 4.3 ล้านโดสเป็นการบริจาคเพื่อมนุษยธรรม

สหประชาชาติในกัมพูชากล่าวเมื่อเดือนก่อนว่ากัมพูชามีเปอร์เซ็นต์การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในประชากรวัยผู้ใหญ่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตกขององค์การอนามัยโลก

กระทรวงสาธารณสุขยังระบุว่าพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 461 คน ในวันอาทิตย์ (5) ทำให้จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสมอยู่ที่ 95,300 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 7 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 1,957 คน ขณะเดียวกัน มีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 411 คน ทำให้ยอดผู้ป่วยรักษาหายรวมเป็น 90,684 คน.

4180
Feels Telecom เครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์สายเลือดไทย ที่กำลังมีคนพูดถึงมากที่สุดในขณะนี้

เปิดรับสมัครทีมการตลาด ขยายสาขาออนไลน์ทั่วประเทศ
มีสัญญาแต่งตั้งการเป็นดิลเล่อร์จากบริษัท K4 Communication ถูกต้องตามกฎหมาย 100%

คุณสมบัติผู้สมัคร
- อายุ 18 ปีขึ้นไป
- เป็นผู้มีบัตรประชาชน
- เป็นผู้ต้องการหารายได้ 

ผลตอบแทนการทำงาน
- โบนัสค่าโทรศัพท์ มูลค่า 1,000
- ค่าคอมมิชชั่นสูงสุด 50%
- One Time Bonus สูงสุด 30,000 บาท
- ค่าโบนัสพิเศษ
- ค่าคอมมิชชั่นจากการเติมเงิน สูงสุด 1.5 %
- Revenue Share 1%

ติดต่อโดยตรงTel.097-651-1982
คลิ๊กลิงค์เพื่อดูสมัครหรือดูข้อมูลเพิ่มเติม
ลิงค์​เซลเพจ
https://training.simk4.com/vsp?id=0974163363

















4181


สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ในฐานะหน่วยร่วมดำเนิน “โครงการสนับสนุน SMEs รายย่อย” วงเงินรวม 1,200 ล้านบาท ขยายระยะเวลาแจ้งความประสงค์ยื่นกู้ออกไปจนถึงภายในวันที่ 12 กันยายน 2564 นี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยพิเศษ 1% ต่อปี ผ่อนนานสูงสุด 7 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุด 12 เดือน วงเงินกู้ บุคคลธรรมดา สูงสุด 3 แสนบาท นิติบุคคล สูงสุด 5 แสนบาท สำหรับกลุ่มเป้าหมายธุรกิจโรงแรม ห้องพัก เกสต์เฮาต์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว (Supply Chain) ได้แก่ ธุรกิจนำเที่ยว-ทัวร์ ธุรกิจคมนาคมขนส่ง ธุรกิจสปา และธุรกิจค้าส่งค้าปลีก จำหน่ายสินค้าที่ระลึก ธุรกิจนันทนาการ และธุรกิจเพื่อความบันเทิง รวมถึงธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอาหาร ได้แก่ เครื่องดื่ม ร้านกาแฟ ขนม เบเกอรี เป็นต้น ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดนำร่องเปิดการท่องเที่ยว และจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวม 35 จังหวัด หรือที่จะมีประกาศเพิ่มเติมในอนาคต โดยใช้เกณฑ์การพิจารณาจากหลักฐานแบบแสดงการยื่นภาษี ภ.ง.ด.90 และการชำระภาษี ในปี 2562 หรือ 2563 ที่สูงกว่าเป็นฐาน ช่วยให้เข้าถึงแหล่งทุนได้ง่าย



ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่สนใจขอให้รีบดำเนินการแจ้งความประสงค์โดยเร็วผ่านช่องทางออนไลน์ ได้แก่ สแกน QR Code ในโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ หรือคลิก https://qrgo.page.link/VF6Ka รวมถึง เว็บไซต์ SME D Bank (https://www.smebank.co.th/), Line OA : SME Development Bank และแอปพลิเคชัน : SME D Bank สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1357

4182


บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เปิดตัว “S&P Mooncake 2021” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ของขวัญจากพระจันทร์” เพื่อมอบสิ่งดีๆ แทนความรักและความห่วงใยผ่านขนมไหว้พระจันทร์ เอส แอนด์ พี หลากหลายรสชาติ พร้อมกันนี้ได้เปิดตัวขนมไหว้พระจันทร์ 2 รสชาติใหม่ ได้แก่ ขนมไหว้พระจันทร์ไส้หมอนทองเก๋ากี้ไข่เค็มลาวา และขนมไหว้พระจันทร์ไส้หมูฮ่องเต้ซอสเอ๊กซ์โอ ในปีนี้บริษัทฯ มุ่งเน้นการขายขนมไหว้พระจันทร์ผ่านช่องทางดิลิเวอรี่ และจับมือกับพันธมิตรเพื่อให้บริการจัดส่งขนมไหว้พระจันทร์ทั่วประเทศเป็นครั้งแรก พร้อมขนทัพขนมไหว้พระจันทร์ที่หลากหลายและมากที่สุดไว้ที่ ‘ตลาดนัด เอส แอนด์ พี แบบเต็มรูปแบบ’

อรรถ ประคุณหังสิต ประธานเจ้าหน้าที่สายปฏิบัติการธุรกิจเอส แอนด์ พี บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จากัด (มหาชน) กล่าวถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ในปีนี้ว่า “เอส แอนด์ พี เป็นผู้นำตลาดขนมไหว้พระจันทร์ เรามีขนมไหว้พระจันทร์หลากหลายรสชาติถึง 14 รสชาติ (19 ไส้) โดยบริษัทฯ ยังมีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกปี สำหรับปีนี้เปิดตัวขนมไหว้พระจันทร์ไส้ใหม่ “ขนมไหว้พระจันทร์ไส้หมอนทองเก๋ากี้ไข่เค็มลาวา” และ “ขนมไหว้พระจันทร์ไส้หมูฮ่องเต้ซอสเอ๊กซ์โอ” เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค และสร้างความแปลกใหม่ให้กับตลาดขนมไหว้พระจันทร์ อย่างไรก็ตาม เอส แอนด์ พี ยังคงพัฒนาคุณภาพขนมไหว้พระจันทร์ไส้ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ไส้หมอนทองล้วน / ไข่1 / ไข่2 ไส้หมอนทองแมคคาเดเมีย ไส้หมอนทองเจ ไส้โหงวยิ้งล้วน / ไข่1 / ไข่2 ไส้งาดำ ไส้บัวล้วน / ไข่1 ไส้บัวแมคคาเดเมียไข่ ไส้แปดเซียน ไส้อินทผาลัมธัญพืช ไส้บัวทองไข่เค็มลาวา นอกจากนี้ยังมีขนมไหว้พระจันทร์เปลือกสีที่สร้างความแปลกใหม่ ได้แก่ ไส้มัตฉะชาเขียวถั่วแดง ไส้ส้มช็อกโกแลตลาวา เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน จึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของเราสะอาด ปลอดภัย พร้อมส่งมอบความปรารถนาดีให้แก่คนที่คุณรักอย่างอุ่นใจ



สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดเทศกาลไหว้พระจันทร์ในปีนี้ บริษัทฯ มุ่งเน้นการขายขนมไหว้พระจันทร์ผ่านช่องทางดิลิเวอรี่ ภายใต้กลยุทธ์ดังนี้ 1.เปิดตัวขนมไหว้พระจันทร์ 2 รสชาติใหม่ “ขนมไหว้พระจันทร์ไส้หมอนทองเก๋ากี้ไข่เค็มลาวา” และ “ขนมไหว้พระจันทร์ไส้หมูฮ่องเต้ซอสเอ๊กซ์โอ” พร้อมเปิด PRE-SALE ลด 20% เมื่อลูกค้าสั่งจองขนมไหว้พระจันทร์ล่วงหน้า จำนวน 4 ชิ้นขึ้นไป ตั้งแต่วันนี้ - 15 กันยายน 2564 ผ่าน www.snp1344.com แอปพลิเคชั่น 1344 และ Call Center 2. โปรโมท S&P Mooncake Merketplace ขนทัพขนมไหว้พระจันทร์ที่หลากหลายและมากที่สุดในประเทศไทย รวบรวมไว้ที่ ตลาดนัด เอส แอนด์ พี แบบเต็มรูปแบบ ณ จุดขายร้าน เอส แอนด์ พี จำนวน 130 สาขาทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกซื้อสินค้าอย่างสะดวกและจุใจ 3. ร่วมมือกับพันธมิตรองค์กรต่างๆ อาทิ ธนาคาร SCB, KTC, BBL, Krungsri เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ AIS, TRUE, Dtac รวมถึงการขายสินค้าช่องทาง อีคอมเมิร์ซผ่าน LAZADA, Shopee นอกจากนี้ยังวางจำหน่ายที่ Tops Supermarket และ Tesco Lotus อีกประมาณ 30 แห่ง ซึ่งเป็นการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายขนมไหว้พระจันทร์ เอส แอนด์ พี 4.ขยายพื้นที่การจัดส่งขนมไหว้พระจันทร์ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดย เอส แอนด์ พี ได้จับมือกับพันธมิตร อาทิ GrabFood, Line Man, Foodpanda, 1112Delivery และบริการจัดส่งโดยบริษัทขนส่งชั้นนำ เพื่อให้บริการจัดส่งขนมไหว้พระจันทร์ถึงบ้านลูกค้าทั่วประเทศเป็นครั้งแรก ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน สำหรับกลยุทธ์การสื่อสารและสื่อประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ผ่านสื่อโทรทัศน์ สื่อออนไลน์ สื่อ LED Screen รวมถึงสื่อประชาสัมพันธ์ ณ จุดขายร้านเอส แอนด์ พี โดยมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าใหม่ให้เกิดความสนใจขนมไหว้พระจันทร์ และยังคงรักษาฐานลูกค้าเดิม ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ของขวัญจากพระจันทร์” ซึ่งเปรียบขนมไหว้พระจันทร์ เอส แอนด์ พี เป็นตัวแทนของการให้ และเป็นของขวัญล้ำค่าแทนความรักและความห่วงใยที่มีให้แก่กันในช่วงเทศกาลสำคัญนี้”

ในส่วนของการออกแบบบรรจุภัณฑ์ขนมไหว้พระจันทร์ เอส แอนด์ พี ยังคงสัญลักษณ์ความเป็นมงคลโดยใช้ภาพหญิงสาวชาวจีนเป็นตัวแทนเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ โดยสวมเครื่องประดับจีนโบราณที่ประดับไปด้วยดอกไม้มงคล ได้แก่ ดอกโบตั๋น เป็นตัวแทนของความมั่งมีศรีสุข ลาภยศ ดอกกล้วยไม้สีส้ม สัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญ ดอกกล้วยไม้สีขาว สัญลักษณ์แห่งความสง่างาม ความเคารพ และความนอบน้อม รวมทั้งยังมีผีเสื้อซึ่งเป็นสัตว์มงคล แทนสัญลักษณ์เรื่องของความรัก และหินสีชมพู สัญลักษณ์ของความสุขและโชคลาภ นอกจากนี้ เอส แอนด์ พี ยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ทำมาจากกระดาษรีไซเคิล ซึ่งเป็นการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
สำหรับปีนี้ เอส แอนด์ พี ยังจำหน่ายขนมไหว้พระจันทร์ชุดพิเศษ! จำนวน 5 ชุด ชุดละ 4 ชิ้น ได้แก่ “ชุดมั่งคั่ง” ประกอบไปด้วยขนมไหว้พระจันทร์ไส้หมูฮ่องเต้ซอสเอ๊กซ์โอ ไส้บัวทองไข่เค็มลาวา ไส้หมอนทองไข่ 1 และไส้โหงวยิ้งไข่ 1 ราคา 483 บาท “ชุดมั่งมี” ประกอบไปด้วยขนมไหว้พระจันทร์ไส้หมอนทองเก๋ากี้ไข่เค็มลาวา ไส้บัวไข่1 ไส้หมอนทองล้วน และไส้โหงวยิ้งล้วน ราคา 464 บาท “ชุดหมอนทองมงคล” ประกอบไปด้วยขนมไหว้พระจันทร์ไส้หมอนทองล้วน ไส้หมอนทองไข่1 จำนวน 2 ชิ้น และไส้หมอนทองไข่2 ราคา 500 บาท “ชุดโชคลาภ” ประกอบไปด้วยขนมไหว้พระจันทร์ไส้โหงวยิ้งไข่1 ไส้หมอนทองไข่1 ไส้บัวไข่1 และไส้แปดเซียน ราคา 470 บาท และ “ชุดบัวนำโชค”ประกอบไปด้วยขนมไหว้พระจันทร์ไส้บัวล้วน ไส้บัวไข่1 ไส้บัวทองผสมแมคคาเดเมียไข่1 และไส้บัวทองไข่เค็มลาวา ราคา 443 บาท พิเศษ! สำหรับสมาชิก S&P Joy Card รับส่วนลด 20% เมื่อซื้อขนมไหว้พระจันทร์ และสำหรับลูกค้าทั่วไป รับส่วนลด 20% ทุกวันพุธ ตลอดช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์นี้

4183


เมื่อวันที่ 3 ก.ย.กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จัดเสวนาผ่าน เฟซบุคไลฟ์ เรื่อง “ผนึกกำลังฝ่าวิกฤตโควิด-19 ในสถานประกอบกิจการ” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐและภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อนมาตรการป้องกันควบคุมโรค หยุดการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในสถานประกอบกิจการ ตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข โดยมีนายกอบชัย สิงสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธาน มีผู้ร่วมรับชมผ่าน เฟซบุค ไลฟ์ กว่าสองหมื่นคนทั่วประเทศ

นายกอบชัย สิงสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการด้านการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19 ในโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า การจัดเสวนาครั้งนี้ มีเป้าหมายในการควบคุมการแพร่ระบาด เพื่อปกป้องเศรษฐกิจประเทศให้เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของศูนย์บริหารสถานการณ์วิกฤตกระทรวงอุตสาหกรรม ตั้งแต่ 1 เม.ย.–29 ส.ค. 2564 พบการติดเชื้อในโรงงาน 845 แห่ง ใน 62 จังหวัด มีผู้ติดเชื้อกว่า 60,380 ราย โรงงานหลายแห่งต้องหยุดกิจการชั่วคราว ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศ โดยมาตรการหลักที่จะใช้ป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ในโรงงานทั่วประเทศ ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ได้แก่ มาตรการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ (Bubble and Seal) โดยการจัดกลุ่มย่อย ทำงาน ทำกิจกรรม ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน สถานประกอบกิจการดำเนินการต่อไปได้ และมาตรการจีเอฟพี (Good Factory Practice :GFP) ที่เป็นพื้นฐานด้านสุขอนามัยที่ดีของโรงงานและพนักงาน

ทางด้านนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การดำเนินการตามมาตรการบับเบิลแอนด์ซีล ต้องดำเนินงานอย่างจริงจัง เพื่อลดการแพร่กระจายโรคโควิด 19 ภายในสถานประกอบกิจการและชุมชน ทั้งนี้การสื่อสารสร้างความเข้าใจให้กับพนักงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เกิดสมดุลระหว่างสุขภาพและเศรษฐกิจ สำหรับหัวข้อการเสวนาในวันนี้ ประกอบด้วย 6 เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1.สถานการณ์การแพร่ระบาดในโรงงาน โดยนายเดชา จาตุธนานันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม 2.มาตรการบับเบิลแอนด์ซีลและระบบพี่เลี้ยง (Coaching System) โดยนายแพทย์อภิชาติ วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค 3.การดูแลสุขภาพใจวัยทำงานภายใต้มาตรการบับเบิลแอนด์ซีล โดยนายแพทย์จุมภฎ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต 4.มาตรการจีเอฟพี ในสถานประกอบกิจการ โดยนายแพทย์เอกชัย เพียรศรีวัชรา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย 5.การสนับสนุนและทิศทางของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยนางพิมพ์ใจ ลี้อิสสระนุกูล สภาอุตสาหกรรม 6.การแชร์ประสบการณ์การดำเนินงาน ต้นแบบสถานประกอบกิจการตามมาตรการบับเบิลแอนด์ซีล จากโครงการอยุธยาโมเดล โดยบริษัทข้าวซี.พี. จำกัด จ.พระนครศรีอยุธยา ในการเสวนาครั้งนี้ มีทีมที่ปรึกษา ทีม Coaching ในการร่วมตอบคำถามกับผู้รับชมผ่านเฟซบุคไลฟ์ ซึ่งเป็นกลไกที่สำคัญในการบูรณาร่วมกันระหว่างกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ถือเป็นการผนึกกำลังทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการขับเคลื่อนมาตรการ “บับเบิลแอนด์ซีล” ปกป้องได้ ควบคุมไว แรงงานปลอดภัย เศรษฐกิจไทยเดินหน้า

4184


วันนี้ (4 ก.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 64 กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จัดสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อ ‘สำรวจสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ในวิกฤตโควิด-19 การศึกษาไทยเดินหน้าอย่างไร ไม่ให้เด็กหลุดจากระบบการเรียนรู้’ โดย ดร.ไกรยส ภัทราวาท รองผู้จัดการ กสศ. กล่าวว่า จากข้อมูลล่าสุดปีการศึกษา 1/2564 มีเด็กยากจนและยากจนพิเศษ รวมประมาณ 1.9 ล้านคน ถือเป็นสัดส่วนที่สูงมาก เมื่อเทียบกับเด็กทั้งหมด ในช่วงวัยเรียนการศึกษาภาคบังคับที่มีประมาณ 9 ล้านคน ซึ่งผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้รายได้ของครอบครัวเด็กและเยาวชนกลุ่มนี้ลดลงเหลือเฉลี่ยเดือนละ 1,094 บาท อีกทั้งในรายละเอียดพบว่า รายได้จากการเกษตรหรือด้านอื่นๆ ส่วนใหญ่ลดลง แต่รายได้ที่เพิ่มมาจาก สวัสดิการรัฐ เงินช่วยเหลือเยียวยา และผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้จำนวนเด็กยากจนพิเศษที่คัดกรองรอบใหม่ภาคเรียนที่ 1/2564 เพิ่มมากขึ้นเป็นนิวไฮ คือ 1,302,968 คน หรือเพิ่มขึ้น 128,524 คน จากภาคเรียนที่ 2/2563 โดยคาดหวังว่าจำนวนเด็กที่ยากจนฉับพลันหลังสถานการณ์โควิด-19 จะเป็นแค่เพียงสถานการณ์ชั่วคราวที่จะคลี่คลายและกลับไปสู่สภาวะปกติได้ในอีกระยะเวลาไม่นาน

“จากความสุ่มเสี่ยงที่เด็กยากจนพิเศษจะหลุดจากระบบการศึกษา ที่ผ่านมา กสศ. ได้เข้าไปช่วยสนับสนุนทุนการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อให้นักเรียนยากจนพิเศษในช่วงชั้นรอยต่อกลับเข้าเรียนได้ โดยจากการติดตามล่าสุด ณ เดือนสิงหาคม พบว่า นักเรียนยากจนพิเศษช่วงชั้นรอยต่อ 294,454 คน นั้น 82.82% หรือ 242,081 คน เข้าสู่ระบบการศึกษาแล้ว แต่ยังมีเด็ก 43,060 คน หรือ 14.6% ยังไม่พบข้อมูลว่าได้กลับเข้ามาเรียนต่อ โดยส่วนใหญ่อยู่ในระดับ ม.3 จำนวน 33,710 คน และ ป.6 จำนวน 8,699 คน เป็นโอกาสสำคัญที่จะได้ติดตามเด็กกลุ่มนี้ไม่ให้หลุดออกจากระบบการศึกษา ทำให้เขาได้รับโอกาสและสิทธิประโยชน์”

รองผู้จัดการ กสศ. กล่าวอีกว่า กสศ.ยังได้สำรวจนักเรียนยากจนพิเศษในพื้นที่ 29 จังหวัด ที่ประสบปัญหาการเรียนช่วงโควิด-19 เนื่องจากไม่มีไฟฟ้าและอุปกรณ์ พบว่า มีนักเรียนที่ประสบปัญหาถึง 87.94% หรือ 271,888 คน โดยจังหวัดที่พบปัญหามากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ นราธิวาส ปัตตานี ตาก นครราชสีมา และ ยะลา รวมถึง โควิด-19 ยังส่งผลกระทบต่อเด็กในเรื่องการติดเชื้อที่พบตัวเลขเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากต้นเดือนสิงหาคมที่มีเด็กติดเชื้อ 65,086 คน ขยับขึ้นเป็น 138,329 คน ในต้นเดือนกันยายน และมีเด็ก 366 คน สูญเสียพ่อแม่จากโควิด-19 ซึ่งเด็กกลุ่มนี้ควรได้รับการดูแลระยะยาวลักษณะเดียวกับความรุนแรงในสามจังหวัดภาคใต้ หรือ สึนามิ ภัยพิบัติทางธรรมชาติขนาดใหญ่ ที่ให้ความช่วยเหลือเด็กที่ต้องสูญเสียพ่อแม่ผู้ปกครองจากเหตุการณ์เหล่านั้น ให้ได้รับการศึกษาจนจบปริญญาตรี เพราะไม่มีใครมาช่วยดูแลพวกเขา

ดร.ไกรยส กล่าวต่อว่า รวมทั้งยังมีประเด็นเรื่องผลกระทบระยะยาว หรือ Long Covid ที่เด็กจะได้รับผลกระทบทางสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งควรได้รับการติดตามเป็นระยะ ตั้งแต่ 6 เดือนไปถึง 3 ปี โดยจะเห็นว่า ที่ผ่านมา กสศ.ได้ร่วมมือกับหลายฝ่ายตั้งศูนย์ช่วยเหลือวิกฤตโควิด-19 อีกด้านหนึ่ง โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อมูลค่าทางเศรษฐกิจในระยะยาว ทำให้สูญเสียการพัฒนาทุนมนุษย์ ในวันที่เด็กเกิดน้อยลง มีเด็กจำนวนมากที่กำลังเสี่ยงจะหลุดจากระบบการศึกษา และยังเผชิญกับเรื่องความรู้ถดถอย หลังจากโควิดเราหวังว่าจะนำไปสู่ Build back equity นำความเสมอภาคกลับมา ประเทศก็จะสร้างการเจริญเติบโต

“กสศ. กำลังแสวงหาความร่วมมือเพื่อช่วยให้เด็กๆ ไม่หลุดจากระบบการศึกษา เป็นความพยายามที่อยากให้คนไทยทุกภาคส่วนเข้าไปสนับสนุนในส่วนไหนก็ได้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้เกิดความร่วมมือ ทั้งภาคธุรกิจ ภาครัฐ ประชาชน ผู้นำทางความคิด มาร่วมเป็นเครือข่ายทางสังคมที่แน่นแฟ้น เอาชนะอุปสรรคไปด้วยกัน ทาง กสศ.ก็จะพยายามนำข้อมูลที่มีอยู่ มาแปลงเป็นความร่วมมือเพื่อสร้างความเสมอภาคให้เกิดขึ้น” รองผู้จัดการ กสศ.กล่าว
ด้าน ดร.ดิลกะ ลัทธพิพัฒน์ นักเศรษฐศาสตร์ทรัพยากรมนุษย์ กลุ่มงานการศึกษา ประจำธนาคารโลกสำนักงานประเทศไทย กล่าวว่า ผลการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบของโควิด-19 ตั้งแต่เดือนมกราคม 2020 จนถึงปัจจุบัน พบว่ามีเด็กที่ได้รับผลกระทบจากการปิดเรียนราว 369 ล้านคน จากจำนวนประชากรเด็ก 375 ล้านคนทั่วโลก หลายประเทศจึงได้นำวิธีการต่างๆ มาใช้เพื่อลดความสูญเสียทางการศึกษาให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด ด้วยการจัดการศึกษาผ่านออนไลน์ โทรทัศน์ ผสมผสานกับสื่อการเรียนรู้หลายรูปแบบ เช่น สั่งงานหรือการบ้าน ที่จะครอบคลุมถึงเด็กทุกกลุ่มไม่ให้หลุดจากการเรียนรู้ 100% อย่างไรก็ตาม การเรียนทางไกลกลับทำให้ช่องว่างของความเหลื่อมล้ำทางการศึกษายิ่งชัดเจนขึ้น

ดร.ดิลกะ เผยว่า ประเทศที่ถือว่าจัดการศึกษาออนไลน์ในระดับที่ประสบความสำเร็จ เช่น ประเทศจีน ที่ผลสำรวจชี้ว่าถึงแม้ครูกว่า 70% ยืนยันว่าเครื่องมือและระบบที่พร้อมและมีความเสถียรช่วยให้การจัดการศึกษาเข้าถึงนักเรียนได้ แต่อีก 40% ระบุว่าการเรียนผ่านระบบออนไลน์ทำให้เกิดปัญหาในการโต้ตอบกับนักเรียน รวมถึงอีกมากกว่า 50% ไม่สามารถจัดระเบียบควบคุมชั้นเรียนได้ สำหรับประเทศไทย ข้อมูลจาก PISA ระบุว่า ก่อนวิกฤตโควิด-19 มีเด็กนักเรียนในกลุ่มยากจนด้อยโอกาสเข้าถึงคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนเพียง 20% ขณะที่กลุ่มเด็กจากครอบครัวที่พร้อมสามารถเข้าถึงได้ 90% ดังนั้น จึงคาดการณ์ได้ว่าหากสถานการณ์การเรียนทางไกลเพื่อรับมือโรคระบาดยังยืดเยื้อต่อไป จะยิ่งส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา เกิดช่องว่างเพิ่มขึ้นในเด็กที่มาจากครอบครัวต่างกัน

“ผลการศึกษาประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบว่า การจัดการศึกษาทางไกลทำให้ความรู้ของเด็กนักเรียนสูญหายไปราว 50% หรือเท่ากับเวลาประมาณครึ่งปี และหากสถานการณ์ยังต่อเนื่องไปถึงสิ้นสุดเดือนธันวาคม 2021 อัตราการสูญหายทางการเรียนรู้ของเด็กจะยิ่งเพิ่มขึ้นไปเท่ากับช่วงเวลา 1 ปี การคาดการณ์ดังกล่าวสะท้อนไปถึงผลที่จะเกิดกับเศรษฐกิจในอนาคตว่า จะมีมูลค่าความสูญเสียมากกว่า 9 ล้านล้านดอลลาร์”

ดร.ดิลกะ เผยอีกว่า ขณะที่ในประเทศไทย ถ้าสถานการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลงจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2021 อัตราการสูญเสียการเรียนรู้จะอยู่ที่ประมาณ 1.27 ปี คิดความเสียหายเป็นมูลค่าประมาณ 3.9 แสนล้านดอลลาร์ หรือเทียบเท่ากับ 30% ของ GDP ซึ่งในอนาคตเด็กกลุ่มนี้จะทยอยเข้าสู่ตลาดแรงงาน ความรู้ที่สูญเสียไปจะหมายถึงคุณภาพของตลาดแรงงานที่ด้อยลง และเด็กกลุ่มนี้จะต้องอยู่ในตลาดแรงงานจนถึงปี 2081 หรือ 60 ปีนับจากนี้ และทุนมนุษย์ที่สูญเสียไปในช่วงนี้จะลดทอนศักยภาพอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโดยตรง ทั้งการสะสมทุน ผลผลิตของประเทศ รวมไปถึงการลดลงของพัฒนาการในทุกด้าน

ดร.ดิลกะ กล่าวว่า ปัญหาการศึกษาไทยมีมาก่อนวิกฤตโควิด-19 โดยตัวเลขจาก OECD ระบุว่า เด็กนักเรียนไทยกว่า 60% มีทักษะทางวิชาการต่ำกว่ามาตรฐานการเรียนรู้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในกลุ่ม OECD ด้วยกัน โดยปัญหาหลักที่พบคือ การขาดแคลนทรัพยากรทางการศึกษา โดยเฉพาะบุคลากรครูที่ไม่เพียงพอในโรงเรียนทุกระดับ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในโรงเรียน เช่น อุปกรณ์การเรียนการสอน หรือเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเอื้อต่อการจัดการศึกษาในปัจจุบัน

ขณะที่กลุ่มงานการศึกษา ประจำธนาคารโลกสำนักงานประเทศไทย มีแผนการทำงานร่วมกับ กสศ. และ สพฐ. ในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ด้วยโครงการ Fundamental School Standard ซึ่งทำสำเร็จมาแล้วในประเทศต้นแบบ โดยจะทำการเก็บข้อมูลเบื้องต้น ทั้งการบริหารจัดการ ความเพียงพอของโครงสร้างพื้นฐาน เริ่มจากโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลจนถึงโรงเรียนในเมืองทั่วประเทศ แล้วนำมาออกแบบนิยามมาตรฐานโรงเรียนที่มีคุณภาพ เพื่อให้ สพฐ.มีแนวทางในการแก้ปัญหาของแต่ละโรงเรียนให้ถูกจุด เพิ่มเติมในส่วนที่ขาด และยกระดับมาตรฐานทุกโรงเรียนให้ทัดเทียมกัน ทำให้ในอนาคตไม่ว่าเด็กจะอยู่ในพื้นที่ใด ก็จะสามารถเข้าถึงโรงเรียนที่มีคุณภาพได้

4185


การแข่งขันฟุต.รีโว่ ไทยลีก 2021 นัดแรก เมื่อวันเสาร์ที่ 4 กันยายน 2564 พีที ประจวบ เอฟซี ที่เปลี่ยนมาใช้สนามเขากระโดง สเตเดี้ยม จ.บุรีรัมย์ ชั่วคราว พบกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด

เริ่มครึ่งแรก ได้เพียง 3 นาที เจ้าถิ่นได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ วิลเล่น โมต้า จ่าย.ให้ ตาอัว เฟอร์เรร่า ดอส ซานโตส หลุดไปซัดจ่อๆ ทำให้ พีที ประจวบ เอฟซี ออกนำเร็ว 1-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง น.69 เมืองทอง ยูไนเต็ด ตามตีเสมอ 1-1 จาก สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ วาง.เข้าเขตโทษ ก่อนที่ วิลเลี่ยน พอพพ์ จะสอดตัวเข้ามาจิ้ม.เข้าประตูง่าย ๆ

น.80 ทีมเยือนได้ประตูพลิกแซง 2-1 ศรัณยู เสีย.ให้ เจสซี เคอร์แรน แล้วจ่ายเร็วให้ ปรเมศย์ จับหนึ่งจังหวะแล้วสับไกยิงทันที ขวัญชัย เซฟไม่อยู่

ทว่า น.87 พีที ประจวบ มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ ชาติชาย แสงดาว ทำแฮนด์.ในกรอบเขตโทษ และเป็น วิลเล่น โมต้า รับหน้าที่สังหารพา พีที ประจวบ ตีเสมอ 2-2 ก่อนจะหมดเวลาแข่งขัน เป็น พีที ประจวบ เอฟซี เปิดบ้านเสมอ เมืองทอง ยูไนเต็ด 2-2

รายชื่อ 11 ผู้เล่นทั้งสองทีม

พีที ประจวบ : ขวัญชัย สุขล้อม (GK), อัคนาน โอราโฮวัค, พีฬาวัช อรรคธรรม, สหรัฐ ปองสุวรรณ, ถิรายุ บรรหาร, วันเฉลิม ยิ่งยง, อนาวิน จูจีน, รัชพล นาวันโน, เมธี สาระคำ, วิลเล่ม โมต้า และ เฟร์ไรร่า ดอส ซานโต้ส

เมืองทอง : สมพร ยศ (GK), สุพร ปีนะกาตาโพธิ์, ลูคัส โฮช่า, ชาติชาย แสงดาว, วัฒนากรณ์ สวัสดิ์ละคร, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, วงศกร ชัยกุลเทวินทร์, ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ, พิชา อุทรา, วิลเลี่ยน พอพพ์ และ อดิศักดิ์ ไกรษร

4186


นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เปิดเผยว่า Green Youth หรือโครงการดำเนินกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมของเยาวชนภายในมหาวิทยาลัย เป็นโครงการที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นให้เกิดการดำเนินกิจกรรมทางด้านสิ่งแวดล้อมของเครือข่ายเยาวชนสิ่งแวดล้อม และให้การหนุนเสริมการทำงานของเยาวชนผ่านทางชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือชมรมด้านสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องภายในมหาวิทยาลัย โดยมีกรอบแนวคิดประเด็นสิ่งแวดล้อมสำคัญที่เกี่ยวข้องใน 4 แนวคิด ได้แก่ 1. การบริโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายในมหาวิทยาลัย 2. การจัดการของเสียภายในมหาวิทยาลัย 3.การเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในมหาวิทยาลัย และ 4. การจัดการพลังงานภายในมหาวิทยาลัย สำหรับผลการดำเนินการ สามารถจัดตั้งเครือข่ายชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัยในระดับอุดมศึกษาทั่วประเทศที่เป็นสมาชิกกว่า 65 มหาวิทยาลัย และได้มีการดำเนินกิจกรรมภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม

“โดยหนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมได้ดำเนินการ คือ การนำเกณฑ์ประเมินโครงการการดำเนินกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมของเยาวชนภายในมหาวิทยาลัย (Green Youth) มาใช้ประเมินผลเพื่อพิจารณาคัดเลือกโครงการดำเนินกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม Green Youth ในแต่ละปี ถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการกระตุ้นและผลักดันขับเคลื่อนการดำเนินกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมของเยาวชนในระดับอุดมศึกษาให้เข้มแข็งและเป็นรูปธรรมมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เยาวชนเรียนรู้ ซึมซับ และปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต โดยเน้นการลงมือปฏิบัติเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น ทั้งภายในมหาวิทยาลัยและขยายผลไปยังชุมชน และสังคมโดยรอบ ซึ่งเป็นการยกระดับแนวทางการดำเนินกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมในมหาวิทยาลัย โดยมุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชมรมอนุรักษ์ฯ ภายในมหาวิทยาลัย เพื่อนำไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว (Green University)”

นายวราวุธกล่าวต่อไปว่า กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมได้ประกาศผลการตัดสินการประเมินโครงการการดำเนินกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมของเยาวชนภายในมหาวิทยาลัย (Green Youth) ประจำปี 2563 โดยมีมหาวิทยาลัยที่ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งสิ้นจำนวน 52 แห่ง แบ่งเป็น มหาวิทยาลัยที่ได้รับรางวัลมาตรฐานระดับทอง จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ 1. มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี 2. มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี 3. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง 4. มหาวิทยาลัยสวนดุสิต 5. มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ 6. มหาวิทยาลัยขอนแก่น 7. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี 8. มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา 9. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี 10. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ 11. มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ 12. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง ขณะที่มหาวิทยาลัยที่ได้รับรางวัลมาตรฐานระดับเงินมีจำนวน 16 แห่ง และได้รับมาตรฐานระดับทองแดงมีจำนวน  24 แห่ง

“การสนับสนุนและผลักดันกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมของเครือข่ายเยาวชนในระดับอุดมศึกษา กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มุ่งให้ความสำคัญต่อการพัฒนาเยาวชนมาอย่างต่อเนื่อง เพราะเยาวชนคือพลังสำคัญในการพิทักษ์ รักษาและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้มีความเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” นายวราวุธกล่าวทิ้งท้าย

4187


วันนี้ (4 ก.ย.) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การเฝ้าระวังสังเกตสถานการณ์ การระบาดรายวันพบว่า แคมป์ก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ขณะนี้คนงานเริ่มกลับมาปฏิบัติงาน จึงทำให้เกิดความกังวลใจของคนในพื้นที่ใกล้เคียงว่าอาจจะเสี่ยงทำให้เกิดการระบาดเป็นกลุ่มก้อนอีกครั้ง ดังนั้น เพื่อเป็นการยับยั้งการระบาดเป็นกลุ่มก้อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ จึงขอให้เจ้าของกิจการหรือนายจ้าง มีมาตรการควบคุมการเข้า-ออกของบุคคลภายนอก การรับ-ส่งคนงาน การควบคุมดูแลความสะอาดที่พักคนงาน พื้นที่รับประทานอาหาร ห้องน้ำ อุปกรณ์สิ่งของที่ใช้ร่วมกัน การเว้นระยะห่างช่วงทำงานและขณะพัก จัดให้มีที่ล้างมือพร้อมสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ คุ้มเข้มการสวมหน้ากากตลอดเวลา รวมทั้งการคัดกรองเบื้องต้น พร้อมสังเกตอาการป่วยของคนงาน สำหรับคนงานก่อสร้างและคนในครอบครัว หากมีสมาชิกอยู่ในบ้านร่วมกันหลายคน ต้องปฏิบัติตามมาตรการ ดังนี้ 1) ควรสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ร่วมกันในครอบครัว และงดการนำมือมาสัมผัสใบหน้า 2) หมั่นล้างมือด้วยสบู่และน้ำ แยกใช้สิ่งของเครื่องใช้ 3) หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดหรือการรวมกลุ่ม ให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างกันในทุกกิจกรรม ออกนอกบ้านเมื่อจำเป็นและ ต้องสวมหน้ากากทุกครั้ง และ 4) กินอาหารปรุงสุก ใช้ช้อนกลางส่วนตัวหรือแยกสำรับกัน

“ทั้งนี้ ขอความร่วมมือเจ้าของกิจการหรือนายจ้างควรให้คนงานในแคมป์ต่าง ๆ ประเมินความเสี่ยง ผ่าน “ไทยเซฟไทย”ของกรมอนามัย และหากเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง เช่น สัมผัสหรือใกล้ชิดผู้ติดเชื้อทั้งที่มีอาการและไม่มีอาการ ผู้ที่เริ่มมีอาการสงสัยว่าติดเชื้อโควิด-19 ควรตรวจด้วยชุดตรวจโควิด-19 หรือ Antigen Test kit (ATK) เพื่อคัดกรองเบื้องต้น รวมถึงหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกัน แยกการใช้อุปกรณ์ส่วนตัว งดการเดินทาง หมั่นล้างมือเป็นประจำ ทำความสะอาดอุปกรณ์และบริเวณที่จับร่วมกันบ่อย ๆ เช่น ตู้เย็น ลูกบิดประตูราวบันได โต๊ะอาหาร และให้งดกินอาหารร่วมกัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการแพร่เชื้อโควิด-19 ไปยังสมาชิกในครอบครัวภายในแคมป์ก่อสร้าง” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด

4188


นักวิเคราะห์ของ JPMorgan Chase เตือนลูกค้าว่าดูเหมือนฟองสบู่ตลาดคริปโตเคอเรนซีปริใกล้แตกแล้ว หลังจากที่ตลาดซื้อขายในเดือนสิงหาคมเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งปริมาณการซื้อขายในตลาดสปอตนั้นทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์อีกครั้ง

Huay cryptocorenews รายงานถึง บทสรุปคำแนะนำการลงทุนที่ส่งถึงลูกค้าภายในตลาด ซึ่งกล่าวอ้างนักวิเคราะห์ของ JP Morgan ว่าการประเมินมูลค่าของตลาด crypto โดยเฉพาะ altcoins และ NFT นั้นสูงเกินพื้นฐานจริงไปแล้ว

“ตามมาตรฐานทางประวัติศาสตร์ ส่วนแบ่งของ altcoins ดูเหมือนจะค่อนข้างสูง ในมุมมองของเรา สิ่งนี้มีแนวโน้มที่จะสะท้อนถึงฟองสบู่และความคลั่งไคล้ของนักลงทุนรายย่อยมากกว่าที่จะสะท้อนถึงแนวโน้มขาขึ้นเชิงโครงสร้าง”

นักวิเคราะห์ของธนาคารตั้งข้อสังเกตว่าตอนนี้ธุรกรรม altcoin คิดเป็นประมาณ 33% ของตลาด cryptocurrency ทั้งหมด เพิ่มขึ้นจาก 22% ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม

แม้ว่าผู้ค้าสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมากพอใจกับราคาที่เพิ่มขึ้น แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่าการเพิ่มขึ้นของความสนใจ ที่เห็นได้ชัดอาจไม่เพียงพอที่จะรักษาไว้ได้เป็นเวลานาน

นักวิเคราะห์ยังเน้นย้ำถึงกระแสสุทธิของการลงทุนรายย่อยเข้าสู่หุ้นสหรัฐ ด้วยความช่วยเหลือของผู้ค้ารายวันที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Reddit ซึ่งการไหลเข้าลงทุนสุทธิ ณ เดือนสิงหาคมอยู่ที่ 13 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากทำสถิติสูงสุดที่ 16 พันล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม โดยพวกเขาเชื่อว่าความคลั่งไคล้ในการซื้อได้แพร่กระจายไปยัง NFT, DeFI และแพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะ รวมถึง Solana, Binance Coin และ Cardano

ขณะที่นักลงทุนสปอตได้ผลักดัน altcoins หลักหลายตัวให้อยู่เหนือระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งก่อน จากข้อมูลจาก CoinMarketCap ระบุว่า Cardano (ADA) มีราคาซื้อขายที่มากกว่า $3 เป็นครั้งแรก ในขณะที่ Solana (SOL) เพิ่มขึ้นมากกว่า 400% ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม

นอกจากนี้การที่เหรียญ Bitcoin ดีดตัวขึ้นเหนือ 50,000 เหรียญสหรัฐเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่พฤษภาคม 2564 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งเช่นกัน

ในเวลาเดียวกัน OpenSea ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาด NFT ที่ใหญ่ที่สุด เห็นปริมาณการซื้อขาย ตั้งแต่ต้นปี 2564 ถึงปริมาณธุรกรรมบนแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้นมากกว่า 76,000% จากข้อมูล ของ Dune Analytics ณ วันที่ 31 สิงหาคม ปริมาณธุรกรรมเกินเรดาร์แอปพลิเคชัน US$4

ทั้งนี้จากข้อมูลของ Dune Analytics ปริมาณธุรกรรมของโทเค็น DeFi ในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 152% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ทำให้ปริมาณธุรกรรมรวมมากกว่า 11 พันล้านดอลลาร์ หลายแพลตฟอร์มการซื้อขายและข้อตกลง DeFi บรรลุเป้าหมายแล้ว ส่วน Uniswap มีเกินปริมาณการซื้อขายรายวันของ Coinbase เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม และมูลค่าการล็อคมูลค่ารวมของ Synthetix (TVL) ได้รับกว่า 1B USD

4189


ตามที่กระทรวงการคลังได้ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องการขออนุญาตให้ออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทย และที่แก้ไขเพิ่มเติมนั้น

กระทรวงการคลังขอเรียนว่า การพิจารณาให้นิติบุคคลต่างประเทศสามารถออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยในแต่ละครั้ง กระทรวงการคลังได้พิจารณาถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อตลาดการเงินและตลาดตราสารหนี้ไทยในภาพรวม เช่น

1) ด้านเสถียรภาพของตลาดการเงินในประเทศ

2) ด้านผลกระทบต่อการออกหุ้นกู้ของภาคเอกชนไทย

3) ด้านการส่งเสริมให้นักลงทุนในประเทศมีตราสารหนี้ที่มีคุณภาพให้ลงทุน

4) ด้านการพัฒนาตลาดพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาท

ในรอบการพิจารณาอนุญาตให้นิติบุคคลต่างประเทศออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทย รอบที่ 3/2564 ระหว่างวันที่ 1 กันยายน 2564-31 พฤษภาคม 2565 กระทรวงการคลังได้อนุญาตให้นิติบุคคลต่างประเทศ จำนวน 1 ราย ได้แก่ กระทรวงการเงินแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (Ministry of Finance of the Lao People’s Democratic Republic : MOFL) ออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยได้ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 โดยมีเงื่อนไขให้ใช้เงินที่ได้รับจากการออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทได้ตามที่กระทรวงการคลังกำหนด

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิในการระงับการออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทย ในกรณีที่สถานภาพ สถานะการเงิน หรือการอื่นใดที่เกี่ยวข้องของผู้ได้รับอนุญาตมีการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินอย่างมีนัยสำคัญ หรือเมื่อผู้ได้รับอนุญาตมีการดำเนินการไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่ได้รับอนุญาต

กระทรวงการคลังขอขอบคุณผู้ยื่นคำขออนุญาตทุกรายที่ให้ความสนใจในการออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทย สำหรับผู้มีความประสงค์จะขออนุญาตในรอบถัดไปสามารถยื่นหนังสือแสดงความจำนงได้ปีละ 3 ครั้ง ในเดือนมีนาคม กรกฎาคม และพฤศจิกายนของทุกปี

สำนักพัฒนาตลาดตราสารหนี้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ โทร.0-2271-7999 ต่อ 5814

4190


นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (เฟทโก้) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ เปิดเผยว่า ในระยะถัดไปเชื่อว่าจะเห็นการประกาศควบรวมกิจการ (M&A) ของธุรกิจไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะได้ปัจจัยหนุนจากที่บริษัทขนาดใหญ่กำเงินสดเอาไว้ค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นผลจากที่กลุ่มบริษัทดังกล่าวชะลอการลงทุนในปี 2563 เพื่อตุนสภาพคล่องไว้ใช้รับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อวิกฤติมีแนวโน้มคลี่คลายลงจึงเห็นการประกาศเข้าลงทุนใหม่อย่างต่อเนื่องประกอบกับสภาพตลาดที่มีต้นทุนดอกเบี้ยต่ำ ส่งผลให้ต้นทุนในการทำธุรกรรมลดลง

ทั้งนี้เชื่อว่าเทรนด์ดังกล่าวจะต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง ตราบใดที่ต้นทุนดอกเบี้ยยังต่ำ และกระแสเงินสดในมือของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ยังอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ อีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการทำ M&A เพิ่มขึ้น คือภาคธุรกิจไทยเริ่มเห็นความสำคัญในการร่วมมือเป็นพันธมิตรกัน ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งมากกว่าการดำเนินการคนเดียว รวมถึงค่านิยมที่เปลี่ยนแปลงไป กล่าวคือ ธุรกิจครอบครัวเริ่มเปิดรับมากขึ้น และลดความหวงแหนธุรกิจที่ต้องการบริหารภายในครอบครัวเท่านั้นลดลง

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย และกรรมการผู้อำนวยการ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเห็นการประกาศดีลธุรกิจที่สำคัญหลายดีล ได้แก่ กลุ่มบีทีเอสเข้าถือหุ้นกลุ่มเจมาร์ท กลุ่มซีพีปรับโครงสร้างธุรกิจ และกลุ่มเซ็นทรัลที่เข้าซื้อกิจการของ บมจ.สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ (SF) แม้บางกรณีเป็นการเตรียมการมาตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดโควิด-19

ทั้งนี้ยอมรับว่าโควิด-19 ส่งผลให้ธุรกิจเห็นประโยชน์ในการร่วมมือกันมากยิ่งขึ้น ขณะที่ภาวะดอกเบี้ยต่ำเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหนุน เพราะส่งผลให้ต้นทุนในการทำดีลถูกลง


อย่างไรก็ดี หลายดีลที่ประกาศเป็นการปรับโครงสร้างของธุรกิจ หรือปรับตัวจากวิกฤติที่เกิดขึ้น ส่วนธุรกิจที่ถูกผลกระทบหนักอย่างโรงแรมยังไม่เห็นความชัดเจน เพราะยังติดเรื่องความต้องการของผู้ซื้อและผู้ขายที่ไม่ตรงกัน กล่าวคือ ผู้ซื้อต้องการซื้อกิจการในต้นทุนที่ต่ำ แต่ผู้ขายมีความต้องการอยากขายกิจการในราคาที่สูง

นายวิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนีตี้ จำกัด กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทเห็นการปรับตัวของของบจ. ด้วยวิธีการต่างๆ โดยเฉพาะการประกาศความร่วมมือทางธุรกิจผ่านการปรับโครงสร้างภายในเพื่อใช้ห่วงโซ่อุปทานร่วมกัน (Crossing Huay Supply Chain) ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำของธุรกิจ เพื่อเพิ่มอัตราการทำกำไร (มาร์จิน) และเพื่อลดต้นทุนทางธุรกิจให้ถูกลง เช่นกรณีของกลุ่มซีพี เป็นต้น

ขณะที่รูปแบบ M&A มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยเห็นชัดตั้งแต่ช่วงที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดเป็นขาลง และมีวิกฤติโควิด-19 เป็นตัวเร่ง (Catalyst) ให้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพราะการร่วมมือกันเพื่อแชร์ต้นทุนและฐานลูกค้า ส่งผลให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งและสามารถอยู่รอดได้ท่ามกลางวิกฤติ และแม้ว่าวิกฤติโควิด-19 จะคลี่คลายลง แต่คาดว่ากระแสการร่วมมือกันจะยังมีต่อเนื่อง

สำหรับ บล.ทรีนีตี้ พบว่าลูกค้าหลายรายเริ่มเห็นความจำเป็นของการปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อให้ต้นทุนน้อยลง และสามารถใช้ทรัพยากรที่มีร่วมกันให้เกิดประโยชน์ นอกจากการทำ M&A ระหว่างธุรกิจในอุตสาหกรรมเดียวกันแล้ว ยังเห็นความต้องการควบรวมกิจการระหว่างอุตสาหกรรมอีกด้วย

ส่วนธุรกิจที่ถูกกระทบหนักอย่างโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ยอมรับว่าที่ผ่านมายังเห็นความร่วมมือไม่มากนัก เพราะรายได้ของธุรกิจดังกล่าวยังไม่กลับคืนมา และแม้ร่วมมือกันความต้องการใช้บริการ (ดีมานด์) ของผู้บริโภคก็ยังไม่กลับมาเช่นกัน อย่างไรก็ดี คาดว่าในระยะถัดไปจะเริ่มเห็นความชัดเจนของดีลการซื้อขายโรงแรมมากขึ้น จากที่บจ.ขนาดใหญ่ในตลาดหุ้นที่มีฐานทุนแกร่งเริ่มมองหาพอร์ตโรงแรมที่ตัวเองยังขาด ขณะที่บริษัทขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบเริ่มเห็นประโยชน์ในการเข้ามาใช้ทรัพยากรของกลุ่มทุนใหญ่มากขึ้น

4191


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศอย่างเป็นทางการว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แข้งจอมสับขวัญใจ 'เรด เดวิลส์' ตลอดกาล จะสวมเสื้อหมายเลข 7 เบอร์เก่งของตัวเอง ลงฟาดแข้งให้กับทีมในการคัมแบ็กรอบนี้

โรนัลโด้ เป็นที่รู้จักกันดีหลังแจ้งเกิดยิงประตูถล่มทลาย 118 ตุงให้ แมนฯยู เมื่อปี 2003-2009 พร้อมกับเสื้อหมายเลข 7 ที่กลายเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าตัวในการเล่นอาชีพกับทีมต่างๆ ทั้ง รีล มาดริด, ยูเวนตุส และทีมชาติโปรตุเกส

ก่อนหน้านี้ คนที่ครองเสื้อเบอร์ 7 คือ เอดินสัน คาวานี กองหน้าตัวเก๋าจากอุรุกวัย แต่หลังจากที่ ดาเนียล เจมส์ ปีกจอมกระชากชาวเวลส์ ผู้สวมหมายเลข 21 ย้ายไปเล่นกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ทำให้เบอร์ 21 ว่างลงและ คาวานี ก็ใส่เบอร์นี้ต่อซึ่งเป็นเบอร์เดียวกับตอนที่เล่นทีมชาติอุรุกวัย

และในที่สุด เสื้อหมายเลข 7 ก็กลับมาอยู่กับ โรนัลโด้ ตามเดิมสำหรับใส่ลงฟาดแข้งให้ทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชา ทุกรายการของซีซั่นนี้ โดยที่สโมสรมีการยืนยันออกมาเป็นที่เรียบร้อย

สำหรับ โรนัลโด้ ถูกคาดการณ์ว่าจะปรากฏตัวลงสนามเล่นเกมแรกให้ แมนฯยู ในการคัมแบ็กหนนี้ เจอกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด วันที่ 11 กันยายน นี้

4192


คอนซาโดเล่ ซัปโปโร เปิดบ้านเฉือน เอฟซี โตเกียว 2-1 ในศึกลูวาน คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย เลกแรก แต่ข่าวไม่ค่อยสู้ดีนักคือ 'เจ' ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติไทย โชคร้ายได้รับบาดเจ็บตอนวอร์ม ชวดลงสนาม ทั้งๆ มีชื่อออกสตาร์ทเป็นตัวจริง

ศึกฟุต.ถ้วย 'ลูวาน คัพ 2021' รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก ประจำวันพุธที่ 1 ก.ย.64 เจ้าบ้าน คอนซาโดเล่ ซัปโปโร อดีตรองแชมป์เมื่อปี 2019 เปิดบ้าน อัตสึเบสึ สเตเดี้ยม รับมือแชมป์เก่า เอฟซี โตเกียว และดีกรีแชมป์รายการนี้ 3 สมัยในปี 2004, 2009, 2020

นัดนี้ มิ. เปโตรวิช กุนซือเจ้าถิ่นใส่ชื่อ 'เจ' ชนาธิป สรงกระสินธ์ ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงแต่เจ้าตัวไปมีอาการบาดเจ็บตอนวอร์มทำให้เป็น เจย์ โบธรอยด์ ที่ได้ลงเล่นแทน และเมื่อผ่านมาถึง นาทีที่ 14 เอฟซี โตเกียว ได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ ฮิโรตากะ มิตะ เปิดฟรีคิกให้ ทัตสึโยชิ วาตานาเบะ ขึ้นโหม่ง.ย้อยเสียบเสาไกลเข้าประตูไป

แต่ถัดมา นาทีที่ 21 คอนซาโดเล่ ไล่ตามตีเสมอได้ทันควัน ลูคัส เฟอร์นานเดส เปิด.ไปที่เสาไกลให้ ชุนตะ ทานากะ ขึ้นโหม่งเหน่งๆ ส่ง.ตุงตาข่าย จบครึ่งแรก คอนซาโดเล่ ซัปโปโร เสมอ เอฟซี โตเกียว 1-1

กลับมาหวดต่อในครึ่งหลัง จนกระทั่งนาทีที่ 81 คอนซาโดเล่ แซงขึ้นนำ 2-1 เจย์ โบธรอยด์ เบิ้ล.จังหวะเดียวย้อนมาให้ ทาคูมะ อาราโนะ วิ่งมาตะบันด้วยขวาตามน้ำ.เบียดเสาเข้าประตูไป จบเกม คอนซาโดเล่ ซัปโปโร เอาชนะ เอฟซี โตเกียว 2-1 ก่อนที่เลกที่สองจะกลับไปเล่นในบ้านของ เอฟซี โตเกียว ในวันที่ 5 กันยายนนี้

สรุปผลคู่อื่นๆ ที่ลงสนามในวันเดียวกัน
เซเรโซ่ โอซาก้า 0-1 กัมบะ โอซาก้า
ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร 2-1 เอฟซี โตเกียว
นาโกย่า แกรมปัส 2-0 คาชิม่า แอนท์เลอร์ส
อูราวะ เรด ไดมอนส์ 1-1 คาวาซากิ ฟรอนตาเล่

โปรแกรมถ่ายทอดสด ศึก ลูวาน คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง ในช่วงสุดสัปดาห์ ทาง SIAMSPORT YouTube Channel ในวันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน 2564 มีดังนี้

16.00 น. เอฟซี โตเกียว พบ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร
16.00 น. กัมบะ โอซาก้า พบ เซเรโซ โอซาก้า
16.00 น. คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ พบ อูราวะ เรดส์ ไดมอนด์
16.00 น. คาชิม่า แอ๊นท์เลอร์ส พบ นาโงย่า แกรมปัส

4193


ชูลส์ คุนเด โดนใบแดงช่วงต้นครึ่งหลัง 'ตราไก่' ฝรั่งเศส ฟอร์มฝืด เปิดบ้านทำได้แค่เสมอกับ บอสเนียฯ 1-1 ยังรั้งจ่าฝูงของกลุ่ม ดี

ศึกฟุต.โลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป วันพุธที่ 1 กันยายน 2564 เกมที่น่าสนใจ กลุ่ม ดี 'ตราไก่' ฝรั่งเศส เปิดบ้านที่ สต๊าด เดอ ลา เมนัว รับการมาเยือนของ บอสเนีย แอนด์ เฮอร์เซโกวิน่า

ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ เฮดโค้ชฝรั่งเศส วาง คาริน เบนเซมา, อองตวน กรีซมันน์ และคีเลียน เอ็มบัปเป้ เป็น 3 ประสานแนวรุก โดยมี พอล ป็อกบา คุมแดนกลาง ขณะที่ บอสเนียฯ นำทัพมาโดย เอดิน เชโก, มิราเล็ม ปานิช และเซอัด โคลาซินัช

ปรากฎว่าเกมนี้ บอสเนียฯ ได้ประตูออกนำก่อน 1-0 จาก เอดิน เชโก น.36 แต่ฝรั่งเศส ตีเสมอย่างรวดเร็ว 1-1 จาก อองตวน กรีซมันน์ น.40 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังทัพ 'ตราไก่' ต้องเหลือผู้เล่น 10 นาที หลังจาก ชูลส์ คุนเด โดนใบแดงโดยตรงไล่ออกจากสนาม

สุดท้ายทั้งสองทีมไม่มีใครทำประตูกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที ฝรั่งเศส เสมอ บอสเนียฯ 1-1 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน

จากผลเสมอดังกล่าวทำให้ ฝรั่งเศส มีเพิ่มเป็น 4 คะแนน ยังรั้งจ่าฝูงของกลุ่ม ดี มี 8 แต้ม จาก 4 นัด ส่วน บอสเนียฯ มี 3 แต้ม จาก 3 นัด รั้งอันดับ 4 ของกลุ่ม

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
ฝรั่งเศส : อูโก ญอริส (GK), จูลส์ คุนเด, ราฟาเอล วาราน, เพรสเนล คิมเพมเบ, ลูกา ดีญ, จอร์แดน เวเรตู, พอล ป็อกบา, โธมัส เลอมาร์, อองตวน กรีซมันน์, คาริม เบนเซมา, คีเลียน เอ็มบัปเป้

บอสเนียฯ : อิบราฮิม เซฮิช (GK), เดนนิส ฮัดซิกาดูนิช, อาเนล อาห์เมด์ฮอดซิช, ซินิซา ซานิคานิน, มาเตโอ ซูซิช, อาเมียร์ ฮัดซิอาห์เมโตวิช, มิราเล็ม ปานิช, โกจ์โค คิมิรอต, เซอัด โคลาซินัช, เอร์เมดิน เดมิโรวิช, เอดิน เชโก

4194


“ฟันเฟืองที่หยุดเดิน แต่เธอเอาน๊อตมาขันเสียบ” เปรียบกับคนที่ไม่เหลืออะไรแล้ว แต่มีความรักที่ดีมาเป็นพลังให้กับชีวิต จึงกลัวที่จะสูญเสียคนรักไป หนึ่งในท่อนแร็ปเพลง “กลัว” ซิงเกิลใหม่ที่หนุ่มน้อยวัย 18 ปี หนุ่ม SURE (เจ้าสัว- จิรเมธ เทพณรงค์) จากค่าย KOOL SUP โชว์ฝีมือการแต่งเพลงและเรื่องราวความสัมพันธ์ในเรื่องความรักไว้ได้อย่างชัดเจน งานนี้นอกจาก SURE ทั้งร้องทั้งแร็ปด้วยตัวเองแล้ว เจ้าตัวยังโดดมาเล่นมิวสิควิดีโอเองเป็นครั้งแรกอีกด้วย...

งานนี้หนุ่ม SURE ขอเล่าเบื้องลึกเบื้องหลังการทำงานเพลงซิงเกิลนี้ว่า .. “หลังจากที่ผมผ่านออดิชั่นมาเป็นศิลปินค่าย KOOL SUP ผมมีโอกาสได้ส่ง Demo เพลงที่ผมทำไว้ให้ทางค่ายฟัง ก่อนหน้าผมมีอัดเพลงไว้บ้างพอสมควร สำหรับเพลง “กลัว” จุดเริ่มต้นมาจากผมไปเจอบีทเดโมเพลงเก่า ผมฟังรู้สึกว่าบีทนี้ให้ความรู้สึกทั้งรักเศร้า อยู่ที่เราจะเลือกฟังแบบไหน ผมก็เลยลองเขียนเนื้อออกมา ตอนนั้นเป็นช่วงคบกับแฟนเก่าด้วย เนื้อเพลงนี้เลยมาจากเรื่องจริงของผมเกี่ยวกับความรัก ผมเลือกที่จะเล่าคำว่า “กลัว” ในแง่มุมของความรัก เพลงนี้พูดถึงความสัมพันธ์ของคน 2 คน ที่กำลังเป็นไปด้วยดี แต่ก็กลัวว่าวันหนึ่งจะไม่มีคนรักอยู่ข้างกาย คิดไปเองต่างๆ นานา ว่าความสัมพันธ์จะไม่เหมือนเดิม กลัวว่าความรักจะมีคนใหม่ รวมถึงกลัวระยะทางที่จะทำให้ความสัมพันธ์ต้องห่างไกลกัน เพราะการที่อยู่ด้วยกันนั้นมีแต่สิ่งดีๆ เกิดขึ้นมากมาย มีคนคอยเติมเต็มทุกอย่างครับ เพลงนี้ช่วงต้นของเพลงจะเป็นการร้องมาก่อน แล้วจะมาแร็ปจัดหนักในช่วงท้ายๆ เพลงครับ ที่สำคัญเพลงนี้ผมยังได้เล่นมิวสิควิดีโอเองเป็นครั้งแรกด้วยครับ ตื่นเต้นมาก ปกติที่เคยทำเพลงผมจะร้องซิ้งค์อย่างเดียว การแอคติ้งผมยังถือว่าใหม่มากๆ เรื่องซีนอารมณ์ก็แอบยากอยู่เหมือนกัน แต่ก็พยายามทำให้ดีที่สุดครับ รู้สึกตื่นเต้นมากๆ ที่จะได้มีซิงเกิลแรกในฐานะศิลปินในค่าย KOOL S UP ด้วย ลุ้นว่าจะมีคนฟังเพลงเราเยอะไหม อยากให้ทุกคนเปิดใจลองฟังเพลงของผมกันครับ และขอฝากเนื้อฝากด้วยทุกคนด้วยครับ”
​​​ติดตามและให้กำลังใจ หนุ่ม SURE (เจ้าสัว- จิรเมธ เทพณรงค์) ศิลปินหน้าใหม่ค่าย KOOL SUP กับการถ่ายทอดเรื่องราวความรักในซิงเกิล “กลัว” ได้ทาง https://youtu.be/AWCcW8rn4f8
#กลัว #SURE #KOOLSUP

ติดตามผลงาน SURE: https://youtube.com/KOOLSUPOFFICIAL
https://www.tiktok.com/@sureishappyboy
https://www.instagram.com/666sure

หน้า: 1 ... 231 232 [233] 234 235 ... 249