แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Roman

หน้า: [1] 2 3 ... 6
1
สวัสดีครับทุกท่าน ผม "โรมัน" แห่ง LCDTVTHAILAND เจ้าเก่าเวลาเดิม

ขอเรียนเชิญเพื่อนๆมาร่วมงานบรรยายประจำปีของเว็บ LCDTVTHAILAND ประจำครึ่งปีหลัง 2017




Panasonic OLED TV EZ1000T ราคาเปิดตัว 249,990 บาท มีราคาโปรโมชั่นช่วงเปิดตัว

ในหัวข้อ : ครั้งแรกไนไทย ! เปิดตัว Panasonic EZ1000T 4K OLED TV

ในวันเสาร์ที่ 2 กันยายนนี้ เวลา 12.30-15.00 ณ โรงแรมแลนด์มาร์ค สุขุมวิท เข้างานฟรี

ซึ่ง EZ1000T เป็น OLED TV รุ่นแรกที่กำลังจะมีวางขายในไทย

ให้ทุกท่านได้ยลโฉมตัวจริงก่อนใคร พร้อมอธิบายเทคโนโลยีต่างๆของทีวีตัวนี้อย่างเจาะลึก

พร้อมชมการเปรียบเทียบทีวี 3 เจนเนอเรชั่นได้แก่ Plasma TV VS LED TV VS OLED TV ให้ทุกท่านเห็นภาพแบบ Exclusive

เพราะ Plasma TV ที่เป็น "จ้าวแห่งความดำ" ในอดีตที่ผ่านมา ไม่ได้มีวางขายให้เราเชยชมภาพอีกต่อไป

แล้วมาดูกันว่า OLED TV จะสามารถสานต่อตำนานความดำได้หรือไม่ ?? ดี-ด้อยกว่าจุดไหน ??

ท้ายสุดจะแนะนำเทคนิคการปรับภาพให้ดีที่สุด ให้ภาพเทียบเท่า Studio Reference Monitor หรือจอมอนิเตอร์ที่ใช้ในสตูดิโอผลิตภาพยนตร์

ซึ่งถือว่าเป็น "ภาพในอุดมคติ" !!!

สรุปสาระที่ท่านจะได้
- ความแตกต่างระหว่าง Plasma VS LED VS OLED TV ?
- โหมดภาพสำเร็จรูปที่ให้แสงสีถูกต้องที่สุดคือโหมดไหน ?
- อัพสเกลภาพจาก Full HD เป็น 4K เห็นผลหรือไม่ ?  ดูออกไหม ?
- คำว่า "เจิดจรัส" ของ HDR ดูอย่างไร ? เห็นผลแค่ไหน ?
- OLED VS Plasma ทีวีชนิดไหนให้ระดับสีดำที่ดำกว่ากัน ?
- ภาพที่ดีดูอย่างไร ? ใช้อะไรเป็นมาตรฐาน ?

ภายในงานมีอาหารค็อกเทลและเครื่องดื่มเลี้ยงให้อิ่มหนำสำราญกัน ฟรี  เรียกได้ว่าเพลินพุงพร้อมกับรับฟังความรู้ควบคู่กันไป

ยิ่งไปกว่านั้นทาง Panasonic ยังเตรียมของรางวัลไม่ว่าจะเป็น หูฟัง, พรีเมี่ยม และอื่นๆ  มีของติดไม้ติดมือกลับบ้านกันทุกท่านแน่นอน ส่วนใครไม่เอาให้ผมก็ได้นะครับ อิอิ



อยากซื้อทีวีพานาโซนิค ทำอย่างไร ?

สำหรับท่านที่ต้องการจับจอง Panasonic 65EZ1000T OLED TV ทางร้านแอลซีดีทีวีไทยแลนด์ ก็เปิดรับจองใน "ราคาสุดพิเศษ" ภายในงานเลย

ตลอดจน LED TV รุ่นท็อปปี 2017 อย่าง EX750 และ เครื่องเล่น 4K Ultra HD Blu-ray อย่างรุ่น DMP-UB400 ก็ "ราคาสุดพิเศษ" เช่นกัน

พกเครดิตการ์ดมารูดซื้อหรือมัดจำได้เลยครับ ทาง Panasonic เตรียมโปรโมชั่นดีๆมาให้ทุกท่านได้ช้อปปิ้งทีวีเครื่องใหม่กัน




Plasma TV ระดับตำนานอย่าง 65VT20 ก็มาร่วมแจมในงานนี้ด้วย


Exclusive ชมการเปรียบเทียบภาพระหว่างเทคโนโลยี 3 เจนเนอเรชั่น
Plasma VS LED VS OLED TV

ช่องทางการสำรองที่นั่ง ฟรี (จำกัดจำนวนแค่ 60 ท่าน) สำรองที่นั่งฟรี!!!
1) E-mail : ส่งมาที่ [email protected]
2) Facebook : https://www.facebook.com/LCDTVTHAILAND/messages/                          
3) Line : @lcdtvthailand   (*ต้องพิมพ์ @ ด้วยนะ)
4) โพสท์จองที่นั่งลงกระทู้นี้เลย

แล้วพบกันวันเสาร์ที่ 2 กันยายน 2017 โรงแรมแลนด์มาร์ค สุขุมวิท




2
สวัสดีครับทุกท่าน ผม "โรมัน" แห่ง LCDTVTHAILAND เจ้าเก่าเวลาเดิม

ขอเรียนเชิญเพื่อนๆมาร่วมงานบรรยายประจำปีของเว็บ LCDTVTHAILAND ประจำครึ่งปีหลัง 2017




Panasonic OLED TV EZ1000T ราคาเปิดตัว 249,990 บาท มีราคาโปรโมชั่นช่วงเปิดตัว

ในหัวข้อ : ครั้งแรกไนไทย ! เปิดตัว Panasonic EZ1000T 4K OLED TV

ในวันเสาร์ที่ 2 กันยายนนี้ เวลา 12.30-15.00 ณ โรงแรมแลนด์มาร์ค สุขุมวิท เข้างานฟรี

ซึ่ง EZ1000T เป็น OLED TV รุ่นแรกที่กำลังจะมีวางขายในไทย

ให้ทุกท่านได้ยลโฉมตัวจริงก่อนใคร พร้อมอธิบายเทคโนโลยีต่างๆของทีวีตัวนี้อย่างเจาะลึก

พร้อมชมการเปรียบเทียบทีวี 3 เจนเนอเรชั่นได้แก่ Plasma TV VS LED TV VS OLED TV ให้ทุกท่านเห็นภาพแบบ Exclusive

เพราะ Plasma TV ที่เป็น "จ้าวแห่งความดำ" ในอดีตที่ผ่านมา ไม่ได้มีวางขายให้เราเชยชมภาพอีกต่อไป

แล้วมาดูกันว่า OLED TV จะสามารถสานต่อตำนานความดำได้หรือไม่ ?? ดี-ด้อยกว่าจุดไหน ??

ท้ายสุดจะแนะนำเทคนิคการปรับภาพให้ดีที่สุด ให้ภาพเทียบเท่า Studio Reference Monitor หรือจอมอนิเตอร์ที่ใช้ในสตูดิโอผลิตภาพยนตร์

ซึ่งถือว่าเป็น "ภาพในอุดมคติ" !!!

สรุปสาระที่ท่านจะได้
- ความแตกต่างระหว่าง Plasma VS LED VS OLED TV ?
- โหมดภาพสำเร็จรูปที่ให้แสงสีถูกต้องที่สุดคือโหมดไหน ?
- อัพสเกลภาพจาก Full HD เป็น 4K เห็นผลหรือไม่ ?  ดูออกไหม ?
- คำว่า "เจิดจรัส" ของ HDR ดูอย่างไร ? เห็นผลแค่ไหน ?
- OLED VS Plasma ทีวีชนิดไหนให้ระดับสีดำที่ดำกว่ากัน ?
- ภาพที่ดีดูอย่างไร ? ใช้อะไรเป็นมาตรฐาน ?

ภายในงานมีอาหารค็อกเทลและเครื่องดื่มเลี้ยงให้อิ่มหนำสำราญกัน ฟรี  เรียกได้ว่าเพลินพุงพร้อมกับรับฟังความรู้ควบคู่กันไป

ยิ่งไปกว่านั้นทาง Panasonic ยังเตรียมของรางวัลไม่ว่าจะเป็น หูฟัง, พรีเมี่ยม และอื่นๆ  มีของติดไม้ติดมือกลับบ้านกันทุกท่านแน่นอน ส่วนใครไม่เอาให้ผมก็ได้นะครับ อิอิ



อยากซื้อทีวีพานาโซนิค ทำอย่างไร ?

สำหรับท่านที่ต้องการจับจอง Panasonic 65EZ1000T OLED TV ทางร้านแอลซีดีทีวีไทยแลนด์ ก็เปิดรับจองใน "ราคาสุดพิเศษ" ภายในงานเลย

ตลอดจน LED TV รุ่นท็อปปี 2017 อย่าง EX750 และ เครื่องเล่น 4K Ultra HD Blu-ray อย่างรุ่น DMP-UB400 ก็ "ราคาสุดพิเศษ" เช่นกัน

พกเครดิตการ์ดมารูดซื้อหรือมัดจำได้เลยครับ ทาง Panasonic เตรียมโปรโมชั่นดีๆมาให้ทุกท่านได้ช้อปปิ้งทีวีเครื่องใหม่กัน




Plasma TV ระดับตำนานอย่าง 65VT20 ก็มาร่วมแจมในงานนี้ด้วย


Exclusive ชมการเปรียบเทียบภาพระหว่างเทคโนโลยี 3 เจนเนอเรชั่น
Plasma VS LED VS OLED TV

ช่องทางการสำรองที่นั่ง ฟรี (จำกัดจำนวนแค่ 60 ท่าน) สำรองที่นั่งฟรี!!!
1) E-mail : ส่งมาที่ [email protected]
2) Facebook : https://www.facebook.com/LCDTVTHAILAND/messages/                          
3) Line : @lcdtvthailand   (*ต้องพิมพ์ @ ด้วยนะ)
4) โพสท์จองที่นั่งลงกระทู้นี้เลย

แล้วพบกันวันเสาร์ที่ 2 กันยายน 2017 โรงแรมแลนด์มาร์ค สุขุมวิท




3
สวัสดีครับทุกท่าน ผม "โรมัน" แห่ง LCDTVTHAILAND เจ้าเก่าเวลาเดิม

ขอเรียนเชิญเพื่อนๆมาร่วมงานบรรยายประจำปีของเว็บ LCDTVTHAILAND ประจำครึ่งปีหลัง 2017




Panasonic OLED TV EZ1000T ราคาเปิดตัว 249,990 บาท มีราคาโปรโมชั่นช่วงเปิดตัว

ในหัวข้อ : ครั้งแรกไนไทย ! เปิดตัว Panasonic EZ1000T 4K OLED TV

ในวันเสาร์ที่ 2 กันยายนนี้ เวลา 12.30-15.00 ณ โรงแรมแลนด์มาร์ค สุขุมวิท เข้างานฟรี

ซึ่ง EZ1000T เป็น OLED TV รุ่นแรกที่กำลังจะมีวางขายในไทย

ให้ทุกท่านได้ยลโฉมตัวจริงก่อนใคร พร้อมอธิบายเทคโนโลยีต่างๆของทีวีตัวนี้อย่างเจาะลึก

พร้อมชมการเปรียบเทียบทีวี 3 เจนเนอเรชั่นได้แก่ Plasma TV VS LED TV VS OLED TV ให้ทุกท่านเห็นภาพแบบ Exclusive

เพราะ Plasma TV ที่เป็น "จ้าวแห่งความดำ" ในอดีตที่ผ่านมา ไม่ได้มีวางขายให้เราเชยชมภาพอีกต่อไป

แล้วมาดูกันว่า OLED TV จะสามารถสานต่อตำนานความดำได้หรือไม่ ?? ดี-ด้อยกว่าจุดไหน ??

ท้ายสุดจะแนะนำเทคนิคการปรับภาพให้ดีที่สุด ให้ภาพเทียบเท่า Studio Reference Monitor หรือจอมอนิเตอร์ที่ใช้ในสตูดิโอผลิตภาพยนตร์

ซึ่งถือว่าเป็น "ภาพในอุดมคติ" !!!

สรุปสาระที่ท่านจะได้
- ความแตกต่างระหว่าง Plasma VS LED VS OLED TV ?
- โหมดภาพสำเร็จรูปที่ให้แสงสีถูกต้องที่สุดคือโหมดไหน ?
- อัพสเกลภาพจาก Full HD เป็น 4K เห็นผลหรือไม่ ?  ดูออกไหม ?
- คำว่า "เจิดจรัส" ของ HDR ดูอย่างไร ? เห็นผลแค่ไหน ?
- OLED VS Plasma ทีวีชนิดไหนให้ระดับสีดำที่ดำกว่ากัน ?
- ภาพที่ดีดูอย่างไร ? ใช้อะไรเป็นมาตรฐาน ?

ภายในงานมีอาหารค็อกเทลและเครื่องดื่มเลี้ยงให้อิ่มหนำสำราญกัน ฟรี  เรียกได้ว่าเพลินพุงพร้อมกับรับฟังความรู้ควบคู่กันไป

ยิ่งไปกว่านั้นทาง Panasonic ยังเตรียมของรางวัลไม่ว่าจะเป็น หูฟัง, พรีเมี่ยม และอื่นๆ  มีของติดไม้ติดมือกลับบ้านกันทุกท่านแน่นอน ส่วนใครไม่เอาให้ผมก็ได้นะครับ อิอิ



อยากซื้อทีวีพานาโซนิค ทำอย่างไร ?

สำหรับท่านที่ต้องการจับจอง Panasonic 65EZ1000T OLED TV ทางร้านแอลซีดีทีวีไทยแลนด์ ก็เปิดรับจองใน "ราคาสุดพิเศษ" ภายในงานเลย

ตลอดจน LED TV รุ่นท็อปปี 2017 อย่าง EX750 และ เครื่องเล่น 4K Ultra HD Blu-ray อย่างรุ่น DMP-UB400 ก็ "ราคาสุดพิเศษ" เช่นกัน

พกเครดิตการ์ดมารูดซื้อหรือมัดจำได้เลยครับ ทาง Panasonic เตรียมโปรโมชั่นดีๆมาให้ทุกท่านได้ช้อปปิ้งทีวีเครื่องใหม่กัน




Plasma TV ระดับตำนานอย่าง 65VT20 ก็มาร่วมแจมในงานนี้ด้วย


Exclusive ชมการเปรียบเทียบภาพระหว่างเทคโนโลยี 3 เจนเนอเรชั่น
Plasma VS LED VS OLED TV

ช่องทางการสำรองที่นั่ง ฟรี (จำกัดจำนวนแค่ 60 ท่าน) สำรองที่นั่งฟรี!!!
1) E-mail : ส่งมาที่ [email protected]
2) Facebook : https://www.facebook.com/LCDTVTHAILAND/messages/                          
3) Line : @lcdtvthailand   (*ต้องพิมพ์ @ ด้วยนะ)
4) โพสท์จองที่นั่งลงกระทู้นี้เลย

แล้วพบกันวันเสาร์ที่ 2 กันยายน 2017 โรงแรมแลนด์มาร์ค สุขุมวิท




4
สวัสดีครับทุกท่าน ผม "โรมัน" แห่ง LCDTVTHAILAND เจ้าเก่าเวลาเดิม

ขอเรียนเชิญเพื่อนๆมาร่วมงานบรรยายประจำปีของเว็บ LCDTVTHAILAND ประจำครึ่งปีหลัง 2017




Panasonic OLED TV EZ1000T ราคาเปิดตัว 249,990 บาท มีราคาโปรโมชั่นช่วงเปิดตัว

ในหัวข้อ : ครั้งแรกไนไทย ! เปิดตัว Panasonic EZ1000T 4K OLED TV

ในวันเสาร์ที่ 2 กันยายนนี้ เวลา 12.30-15.00 ณ โรงแรมแลนด์มาร์ค สุขุมวิท เข้างานฟรี

ซึ่ง EZ1000T เป็น OLED TV รุ่นแรกที่กำลังจะมีวางขายในไทย

ให้ทุกท่านได้ยลโฉมตัวจริงก่อนใคร พร้อมอธิบายเทคโนโลยีต่างๆของทีวีตัวนี้อย่างเจาะลึก

พร้อมชมการเปรียบเทียบทีวี 3 เจนเนอเรชั่นได้แก่ Plasma TV VS LED TV VS OLED TV ให้ทุกท่านเห็นภาพแบบ Exclusive

เพราะ Plasma TV ที่เป็น "จ้าวแห่งความดำ" ในอดีตที่ผ่านมา ไม่ได้มีวางขายให้เราเชยชมภาพอีกต่อไป

แล้วมาดูกันว่า OLED TV จะสามารถสานต่อตำนานความดำได้หรือไม่ ?? ดี-ด้อยกว่าจุดไหน ??

ท้ายสุดจะแนะนำเทคนิคการปรับภาพให้ดีที่สุด ให้ภาพเทียบเท่า Studio Reference Monitor หรือจอมอนิเตอร์ที่ใช้ในสตูดิโอผลิตภาพยนตร์

ซึ่งถือว่าเป็น "ภาพในอุดมคติ" !!!

สรุปสาระที่ท่านจะได้
- ความแตกต่างระหว่าง Plasma VS LED VS OLED TV ?
- โหมดภาพสำเร็จรูปที่ให้แสงสีถูกต้องที่สุดคือโหมดไหน ?
- อัพสเกลภาพจาก Full HD เป็น 4K เห็นผลหรือไม่ ?  ดูออกไหม ?
- คำว่า "เจิดจรัส" ของ HDR ดูอย่างไร ? เห็นผลแค่ไหน ?
- OLED VS Plasma ทีวีชนิดไหนให้ระดับสีดำที่ดำกว่ากัน ?
- ภาพที่ดีดูอย่างไร ? ใช้อะไรเป็นมาตรฐาน ?

ภายในงานมีอาหารค็อกเทลและเครื่องดื่มเลี้ยงให้อิ่มหนำสำราญกัน ฟรี  เรียกได้ว่าเพลินพุงพร้อมกับรับฟังความรู้ควบคู่กันไป

ยิ่งไปกว่านั้นทาง Panasonic ยังเตรียมของรางวัลไม่ว่าจะเป็น หูฟัง, พรีเมี่ยม และอื่นๆ  มีของติดไม้ติดมือกลับบ้านกันทุกท่านแน่นอน ส่วนใครไม่เอาให้ผมก็ได้นะครับ อิอิ



อยากซื้อทีวีพานาโซนิค ทำอย่างไร ?

สำหรับท่านที่ต้องการจับจอง Panasonic 65EZ1000T OLED TV ทางร้านแอลซีดีทีวีไทยแลนด์ ก็เปิดรับจองใน "ราคาสุดพิเศษ" ภายในงานเลย

ตลอดจน LED TV รุ่นท็อปปี 2017 อย่าง EX750 และ เครื่องเล่น 4K Ultra HD Blu-ray อย่างรุ่น DMP-UB400 ก็ "ราคาสุดพิเศษ" เช่นกัน

พกเครดิตการ์ดมารูดซื้อหรือมัดจำได้เลยครับ ทาง Panasonic เตรียมโปรโมชั่นดีๆมาให้ทุกท่านได้ช้อปปิ้งทีวีเครื่องใหม่กัน




Plasma TV ระดับตำนานอย่าง 65VT20 ก็มาร่วมแจมในงานนี้ด้วย


Exclusive ชมการเปรียบเทียบภาพระหว่างเทคโนโลยี 3 เจนเนอเรชั่น
Plasma VS LED VS OLED TV

ช่องทางการสำรองที่นั่ง ฟรี (จำกัดจำนวนแค่ 80 ท่าน) สำรองที่นั่งฟรี!!!
1) E-mail : ส่งมาที่ [email protected]
2) Facebook : https://www.facebook.com/LCDTVTHAILAND/messages/                          
3) Line : @lcdtvthailand   (*ต้องพิมพ์ @ ด้วยนะ)
4) โพสท์จองที่นั่งลงกระทู้นี้เลย

แล้วพบกันวันเสาร์ที่ 2 กันยายน 2017 โรงแรมแลนด์มาร์ค สุขุมวิท




5
สวัสดีแฟนเว็บทุกท่านครับ กระผม "นายโรมัน" หน้ามนคนเดิม !

ขอเรียนเชิญทุกท่านเข้าร่วมงานบรรยายเปิดตัว Sony OLED TV รุ่น A1 ขนาด 65" และ 55"

วันเสาร์ที่ 1 ก.ค. 2017 เวลา 12.30-15.00 น. (ลงทะเบียนจองที่ 12.30 // เริ่มบรรยาย 13.00 น.)

ณ โรงแรมแกรนด์เมอร์เคียวฟอร์จูน (ชั้น 3)  สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT "พระราม 9"

โดยงานครั้งนี้จัดร่วมอยู่ในงานเครื่องเสียง TAV SHOW 2017

-------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฟังบรรยายได้ความรู้

ภายในงานจะมีการแนะนำและสาธิต Sony OLED TV ตัว Flagship อย่างเจาะลึก

ทั้งคุณภาพของ ภาพ เสียง และลูกเล่น Android TV ที่คุณไม่รู้มาก่อน

นำบรรยายโดยผมเอง "นายโรมัน พร้อมอาจารย์โยดาแห่งวงการภาพและเสียง "คุณชานม" และ เซียนใต้ดินสายฮาอย่าง "คุณนัท อันเดอร์กราวด์"

โดยลักษณะการบรรยายก็เป็นแนว "วัยรุ่นวุ่นรัก" คือ เฮฮา ครื้นเครง เป็นกันเอง ตามไสตล์ที่พวกเราถนัด !  

ถือว่าได้ "ความรู้" ควบคู่ "ความบันเทิง" แบบ "สองเด้ง" กันแบบฟรีๆ !!!

ส่วน "เด้งที่สาม" ทุกท่านที่ลงทะเบียนเข้าร่วมงานยังมีสิทธิลุ้นรางวัล Lucky Draw เป็นของที่ระลึกท้ายงาน ฟรี

ไม่ว่าจะเป็น สาย LCD HDMI ทั้ง Jericho (2,190 บาท) , Hitman (1,090 บาท), Sting (790 บาท) เอาไปใช้กับทีวี 4K HDR ของท่าน

ตลอดจนของรางวัลจาก Sony นาฬิกาปลุก FM ดิจิตอลสุดกิ๊บเก๋ รูปกระกอบด้านล่าง ผมยังอยากได้เลย แต่เก็บไว้จับฉลากดีกว่า หุหุหุ


-------------------------------------------------------------------------------------------------------

ท่านที่ต้องการซื้อทีวีราคาพิเศษ

รวมถึงภายวันเสาร์ที่ 1 นี้เวลา 10.00-18.00 น. ภายในห้องบรรยาย

ทาง Sony ร่วมกับร้าน LCDTVTHAILAND จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษ One-Day-Sale สินค้าทีวี Sony ราคาพิเศษ ทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น

W750E (Full HD), X7000E (4K), X8000E (4K), X8500E (4K), X9000E (4K), X9300E / X9400E (4K), Z9D (4K) ทุกขนาดไม่ว่าจะเป็น 49" 55" 65" 75"

พร้อมสิทธิพิเศษรับประกัน 3 ปี และ 2 ปี ขึ้นอยู่กับรุ่น

พร้อมผ่อน 0% 6-10 เดือน ฟรี ! มี Cashback นิดหน่อยด้วย

โปรดเตรียม บัตรกรุงศรี, เซนทรัล, กรุงศรีโฮมโปร, เทสโก้ (บัตรเครือกรุงศรีโปรดีสุด) และ กสิกร ของท่านไว้ให้ดี


-------------------------------------------------------------------------------------------------------

ช่องทางการสำรองที่นั่ง ฟรี (จำกัดจำนวนแค่ 100 ท่าน) สำรองที่นั่งฟรี!!!

1) E-mail : ส่งมาที่ [email protected]
2) Facebook : https://www.facebook.com/LCDTVTHAILAND/messages/                          
3) Line : @lcdtvthailand   (*ต้องพิมพ์ @ ด้วยนะ)
4) โพสท์จองที่นั่งลงกระทู้นี้เลย

ตัวอย่างการสำรองที่นั่ง
ให้พิมพ์รายละเอียดชื่อ เบอร์โทร และจำนวนที่นั่ง
ชื่อ นายสมชาย รักษ์เรียน เบอร์ 0919018000 จำนวน 1 ที่

-------------------------------------------------------------------------------------------------------

โปรโมชั่นราคาพิเศษ ONE-DAY-SALE เสาร์ที่ 1 ก.ค. นี้เท่านั้น
ทีวี Sony ทุกรุ่นทุกขนาด ขยายเวลารับประกันเป็น 2-3 ปี และผ่อน 0% 6-10 เดือน


นาฬืการปลุกดิจิตอลพร้อมวิทยุ FM ในตัว จาก Sony ดีไซน์กิ๊บเก๋ ! ลุ้นรับฟรี


สาย LCD HDMI : JERICHO / HITMAN / STING  มีเอาไป แจกฟรี ในงาน


จัดโดย LCDTVTHAILAND



------------------------------- แล้วพบกันในงานครับ แฟน LCDTVTHAILAND ทุกท่าน ------------------------

6
สวัสดีแฟนเว็บทุกท่านครับ กระผม "นายโรมัน" หน้ามนคนเดิม !

ขอเรียนเชิญทุกท่านเข้าร่วมงานบรรยายเปิดตัว Sony OLED TV รุ่น A1 ขนาด 65" และ 55"

วันเสาร์ที่ 1 ก.ค. 2017 เวลา 12.30-15.00 น. (ลงทะเบียนจองที่ 12.30 // เริ่มบรรยาย 13.00 น.)

ณ โรงแรมแกรนด์เมอร์เคียวฟอร์จูน (ชั้น 3)  สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT "พระราม 9"

โดยงานครั้งนี้จัดร่วมอยู่ในงานเครื่องเสียง TAV SHOW 2017

-------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฟังบรรยายได้ความรู้

ภายในงานจะมีการแนะนำและสาธิต Sony OLED TV ตัว Flagship อย่างเจาะลึก

ทั้งคุณภาพของ ภาพ เสียง และลูกเล่น Android TV ที่คุณไม่รู้มาก่อน

นำบรรยายโดยผมเอง "นายโรมัน พร้อมอาจารย์โยดาแห่งวงการภาพและเสียง "คุณชานม" และ เซียนใต้ดินสายฮาอย่าง "คุณนัท อันเดอร์กราวด์"

โดยลักษณะการบรรยายก็เป็นแนว "วัยรุ่นวุ่นรัก" คือ เฮฮา ครื้นเครง เป็นกันเอง ตามไสตล์ที่พวกเราถนัด !  

ถือว่าได้ "ความรู้" ควบคู่ "ความบันเทิง" แบบ "สองเด้ง" กันแบบฟรีๆ !!!

ส่วน "เด้งที่สาม" ทุกท่านที่ลงทะเบียนเข้าร่วมงานยังมีสิทธิลุ้นรางวัล Lucky Draw เป็นของที่ระลึกท้ายงาน ฟรี

ไม่ว่าจะเป็น สาย LCD HDMI ทั้ง Jericho (2,190 บาท) , Hitman (1,090 บาท), Sting (790 บาท) เอาไปใช้กับทีวี 4K HDR ของท่าน

ตลอดจนของรางวัลจาก Sony นาฬิกาปลุก FM ดิจิตอลสุดกิ๊บเก๋ รูปกระกอบด้านล่าง ผมยังอยากได้เลย แต่เก็บไว้จับฉลากดีกว่า หุหุหุ


-------------------------------------------------------------------------------------------------------

ท่านที่ต้องการซื้อทีวีราคาพิเศษ

รวมถึงภายวันเสาร์ที่ 1 นี้เวลา 10.00-18.00 น. ภายในห้องบรรยาย

ทาง Sony ร่วมกับร้าน LCDTVTHAILAND จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษ One-Day-Sale สินค้าทีวี Sony ราคาพิเศษ ทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น

W750E (Full HD), X7000E (4K), X8000E (4K), X8500E (4K), X9000E (4K), X9300E / X9400E (4K), Z9D (4K) ทุกขนาดไม่ว่าจะเป็น 49" 55" 65" 75"

พร้อมสิทธิพิเศษรับประกัน 3 ปี และ 2 ปี ขึ้นอยู่กับรุ่น

พร้อมผ่อน 0% 6-10 เดือน ฟรี ! มี Cashback นิดหน่อยด้วย

โปรดเตรียม บัตรกรุงศรี, เซนทรัล, กรุงศรีโฮมโปร, เทสโก้ (บัตรเครือกรุงศรีโปรดีสุด) และ กสิกร ของท่านไว้ให้ดี


-------------------------------------------------------------------------------------------------------

ช่องทางการสำรองที่นั่ง ฟรี (จำกัดจำนวนแค่ 100 ท่าน) สำรองที่นั่งฟรี!!!

1) E-mail : ส่งมาที่ [email protected]
2) Facebook : https://www.facebook.com/LCDTVTHAILAND/messages/                          
3) Line : @lcdtvthailand   (*ต้องพิมพ์ @ ด้วยนะ)
4) โพสท์จองที่นั่งลงกระทู้นี้เลย

ตัวอย่างการสำรองที่นั่ง
ให้พิมพ์รายละเอียดชื่อ เบอร์โทร และจำนวนที่นั่ง
ชื่อ นายสมชาย รักษ์เรียน เบอร์ 0919018000 จำนวน 1 ที่

-------------------------------------------------------------------------------------------------------

โปรโมชั่นราคาพิเศษ ONE-DAY-SALE เสาร์ที่ 1 ก.ค. นี้เท่านั้น
ทีวี Sony ทุกรุ่นทุกขนาด ขยายเวลารับประกันเป็น 2-3 ปี และผ่อน 0% 6-10 เดือน


นาฬืการปลุกดิจิตอลพร้อมวิทยุ FM ในตัว จาก Sony ดีไซน์กิ๊บเก๋ ! ลุ้นรับฟรี


สาย LCD HDMI : JERICHO / HITMAN / STING  มีเอาไป แจกฟรี ในงาน


จัดโดย LCDTVTHAILAND



------------------------------- แล้วพบกันในงานครับ แฟน LCDTVTHAILAND ทุกท่าน ------------------------

7
พบกับผมและทีมงาน LCDTVTHAILAND

เสาร์ที่ 20 พ.ค. นี้ เวลา 12.30-15.00

ณ โรแรมฮิลตัน สุขุมวิท 24 (BTS พร้อมพงศ์)

แล้วเจอกันครับ

Roman

8
พบกับผมและทีมงาน LCDTVTHAILAND

เสาร์ที่ 20 พ.ค. นี้ เวลา 12.30-15.00

ณ โรแรมฮิลตัน สุขุมวิท 24 (BTS พร้อมพงศ์)

แล้วเจอกันครับ

Roman

9
ขออนุญาตมาเรียนเชิญทุกท่านด้วยตัวเองครับ กระผม "นายโรมัน" LCDTVTHAILAND

งานบรรยายเปิดตัว OPPO UDP-203 เครื่อเล่นบลูเรย์ 4K HDR ครั้งแรกในไทย

นำบรรยาย "สไตล์วัยรุ่น" โดย นายโรมัน คุณชานม พร้อมทีมงาน LCDTVTHAILAND ยกชุด

ภายในงานท่านจะได้สัมผัสกับระบบภาพ 4K HDR แท้ๆที่แสดงบนจอ LG OLED TV รุ่นท็อปสุด

พร้อมชุดลำโพง Canton จับคู่กับซับวูฟเฟอร์ SVS เซ็ตระบบเสียงรอบทิศทาง 360 องศาเหนือหัวอย่าง Dolby Atmos

โดยทั้งหมดถูกขับโดยชุด Pre-Processor และ Power Amplifier ของ Anthem

ทีมงานเตรียมแผ่นหนังบลูเรย์ 4K HDR แท้ๆและแผ่นคอนเสิร์ตเพลงยอดฮิต

เพื่อทดสอบทุกมิติคุณภาพของเจ้า OPPO ตัวนี้ให้ท่านได้ประจักษ์พยานด้วยตาและหูของท่านเอง

อาจกล่าวได้ว่า OPPO UDP-203 เปรียบเสมือน "จิ๊กซอว์" ตัวสุดท้ายที่จะมาเติมเต็มระบบภาพและเสียงให้สมบูรณ์เฉกเช่นโรงภาพยนตร์ชั้นนำ

ฉะนั้นมาร่วมพิสูจน์ไปด้วยกันว่า OPPO UDP-203 จะใช่ "จิ๊กซอว์" ตัวนั้นหรือไม่ ?

เสาร์ที 4 กุมภาพันธ์ 2017 นี้ เวลา 12.30-15.00 น. ชั้น 9 โรงแรมแลนด์มาร์ค สุขุมวิท (งาน BAV HI-END SHOW)

หมายเหตุ
1) ท่านที่ลงทะเบียนมางานบรรยายก็มีสิทธิ์ร่วมลุ้นซื้อ OPPO UDP-203 ราคาพิเศษจาก OPPO THAI เฉพาะวันงานวันเดียวเท่านั้น !!!
2) ย้ำอีกที่ของมีจำนวนจำกัด ไม่มาวันนี้อาจจะต้องรออีกเป็นเดือนๆ

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

ช่องทางการสำรองที่นั่ง  
1) E-mail : ส่งมาที่ [email protected]
2) Facebook : https://www.facebook.com/LCDTVTHAILAND/messages/                          
3) Webboard : ให้ PM มาที่ User : LCDTVTHAILAND
4) Line : @lcdtvthailand   (*ต้องพิมพ์ @ ด้วยนะ)
5) โพสท์จองที่นั่งลงกระทู้นี้เลย

----------------------------------------------------------------------------------------------------------

ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน ฟรี ! ไม่มีเสียค่าใช้จ่าย แต่ขอสงวนสิทธิ์ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้จริงเท่านั้น

**ตัวอย่างการลงชื่อเพื่อสำรองที่นั่ง (ฟรี) **
ขอสำรอง 2 ที่นั่ง งาน OPPO
1) นายสมชาย รักษ์ดี เบอร์โทร 091-901-7000
2) นายสรทัศน์ รักเรียน เบอร์โทร 091-901-8000

----------------------------------------------------------------------------------------------------------




10
ขออนุญาตมาเรียนเชิญทุกท่านด้วยตัวเองครับ กระผม "นายโรมัน" LCDTVTHAILAND

งานบรรยายเปิดตัว OPPO UDP-203 เครื่อเล่นบลูเรย์ 4K HDR ครั้งแรกในไทย

นำบรรยาย "สไตล์วัยรุ่น" โดย นายโรมัน คุณชานม พร้อมทีมงาน LCDTVTHAILAND ยกชุด

ภายในงานท่านจะได้สัมผัสกับระบบภาพ 4K HDR แท้ๆที่แสดงบนจอ LG OLED TV รุ่นท็อปสุด

พร้อมชุดลำโพง Canton จับคู่กับซับวูฟเฟอร์ SVS เซ็ตระบบเสียงรอบทิศทาง 360 องศาเหนือหัวอย่าง Dolby Atmos

โดยทั้งหมดถูกขับโดยชุด Pre-Processor และ Power Amplifier ของ Anthem

ทีมงานเตรียมแผ่นหนังบลูเรย์ 4K HDR แท้ๆและแผ่นคอนเสิร์ตเพลงยอดฮิต

เพื่อทดสอบทุกมิติคุณภาพของเจ้า OPPO ตัวนี้ให้ท่านได้ประจักษ์พยานด้วยตาและหูของท่านเอง

อาจกล่าวได้ว่า OPPO UDP-203 เปรียบเสมือน "จิ๊กซอว์" ตัวสุดท้ายที่จะมาเติมเต็มระบบภาพและเสียงให้สมบูรณ์เฉกเช่นโรงภาพยนตร์ชั้นนำ

ฉะนั้นมาร่วมพิสูจน์ไปด้วยกันว่า OPPO UDP-203 จะใช่ "จิ๊กซอว์" ตัวนั้นหรือไม่ ?

เสาร์ที 4 กุมภาพันธ์ 2017 นี้ เวลา 12.30-15.00 น. ชั้น 9 โรงแรมแลนด์มาร์ค สุขุมวิท (งาน BAV HI-END SHOW)

หมายเหตุ
1) ท่านที่ลงทะเบียนมางานบรรยายก็มีสิทธิ์ร่วมลุ้นซื้อ OPPO UDP-203 ราคาพิเศษจาก OPPO THAI เฉพาะวันงานวันเดียวเท่านั้น !!!
2) ย้ำอีกที่ของมีจำนวนจำกัด ไม่มาวันนี้อาจจะต้องรออีกเป็นเดือนๆ

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

ช่องทางการสำรองที่นั่ง  
1) E-mail : ส่งมาที่ [email protected]
2) Facebook : https://www.facebook.com/LCDTVTHAILAND/messages/                          
3) Webboard : ให้ PM มาที่ User : LCDTVTHAILAND
4) Line : @lcdtvthailand   (*ต้องพิมพ์ @ ด้วยนะ)
5) โพสท์จองที่นั่งลงกระทู้นี้เลย

----------------------------------------------------------------------------------------------------------

ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน ฟรี ! ไม่มีเสียค่าใช้จ่าย แต่ขอสงวนสิทธิ์ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้จริงเท่านั้น

**ตัวอย่างการลงชื่อเพื่อสำรองที่นั่ง (ฟรี) **
ขอสำรอง 2 ที่นั่ง งาน OPPO
1) นายสมชาย รักษ์ดี เบอร์โทร 091-901-7000
2) นายสรทัศน์ รักเรียน เบอร์โทร 091-901-8000

----------------------------------------------------------------------------------------------------------




11
ขออนุญาตมาเรียนเชิญทุกท่านด้วยตัวเองครับ กระผม "นายโรมัน" LCDTVTHAILAND

งานบรรยายเปิดตัว OPPO UDP-203 เครื่อเล่นบลูเรย์ 4K HDR ครั้งแรกในไทย

นำบรรยาย "สไตล์วัยรุ่น" โดย นายโรมัน คุณชานม พร้อมทีมงาน LCDTVTHAILAND ยกชุด

ภายในงานท่านจะได้สัมผัสกับระบบภาพ 4K HDR แท้ๆที่แสดงบนจอ LG OLED TV รุ่นท็อปสุด

พร้อมชุดลำโพง Canton จับคู่กับซับวูฟเฟอร์ SVS เซ็ตระบบเสียงรอบทิศทาง 360 องศาเหนือหัวอย่าง Dolby Atmos

โดยทั้งหมดถูกขับโดยชุด Pre-Processor และ Power Amplifier ของ Anthem

ทีมงานเตรียมแผ่นหนังบลูเรย์ 4K HDR แท้ๆและแผ่นคอนเสิร์ตเพลงยอดฮิต

เพื่อทดสอบทุกมิติคุณภาพของเจ้า OPPO ตัวนี้ให้ท่านได้ประจักษ์พยานด้วยตาและหูของท่านเอง

อาจกล่าวได้ว่า OPPO UDP-203 เปรียบเสมือน "จิ๊กซอว์" ตัวสุดท้ายที่จะมาเติมเต็มระบบภาพและเสียงให้สมบูรณ์เฉกเช่นโรงภาพยนตร์ชั้นนำ

ฉะนั้นมาร่วมพิสูจน์ไปด้วยกันว่า OPPO UDP-203 จะใช่ "จิ๊กซอว์" ตัวนั้นหรือไม่ ?

เสาร์ที 4 กุมภาพันธ์ 2017 นี้ เวลา 12.30-15.00 น. ชั้น 9 โรงแรมแลนด์มาร์ค สุขุมวิท (งาน BAV HI-END SHOW)

หมายเหตุ
1) ท่านที่ลงทะเบียนมางานบรรยายก็มีสิทธิ์ร่วมลุ้นซื้อ OPPO UDP-203 ราคาพิเศษจาก OPPO THAI เฉพาะวันงานวันเดียวเท่านั้น !!!
2) ย้ำอีกที่ของมีจำนวนจำกัด ไม่มาวันนี้อาจจะต้องรออีกเป็นเดือนๆ

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

ช่องทางการสำรองที่นั่ง  
1) E-mail : ส่งมาที่ [email protected]
2) Facebook : https://www.facebook.com/LCDTVTHAILAND/messages/                          
3) Webboard : ให้ PM มาที่ User : LCDTVTHAILAND
4) Line : @lcdtvthailand   (*ต้องพิมพ์ @ ด้วยนะ)
5) โพสท์จองที่นั่งลงกระทู้นี้เลย

----------------------------------------------------------------------------------------------------------

ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน ฟรี ! ไม่มีเสียค่าใช้จ่าย แต่ขอสงวนสิทธิ์ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้จริงเท่านั้น

**ตัวอย่างการลงชื่อเพื่อสำรองที่นั่ง (ฟรี) **
ขอสำรอง 2 ที่นั่ง งาน OPPO
1) นายสมชาย รักษ์ดี เบอร์โทร 091-901-7000
2) นายสรทัศน์ รักเรียน เบอร์โทร 091-901-8000

----------------------------------------------------------------------------------------------------------




12
กรี๊ดด้วยคน ขอราคาไม่สูงมากนัก รวมถึงเมนูให้ปรับ CMS ด้วยนะครับ ^ ^

13
จบงานไปด้วยดีครับ เดี๋ยวขอใ้เวลารวบรวมรูปแล้วเขียนเป็นรีวิวซักพักครับ

ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงานนะครับ

เพื่อนๆท่านไหนที่มาร่วมงาน สามารถมาช่วยเขียนมินิรีวิวงานให้หน่อยก็จักขอบพระคุณอย่างยิ่งครับ

ยิ่งมีรูปประกอบก็จะยิ่งดีครับ จะได้ช่วยกันแบ่งปันความเห็นต่อทีวีรุ่นต่างๆ

ขอบคุณครับ

Roman

14
ท่านที่ลงทะเบียนไว้

วันเสาร์นี้ เจอกัน 12.30 น. ที่ชั้น 3 โรงแรมแลนด์มาร์ค สุขุมวิท (BTS นานา)

ทีมงาน LCDTVTHAILAND พร้อมวิทยากรทั้ง 5 ท่านจาก 5 แบรนด์ พร้อมให้ความรู้ควบคู่ความบันเทิงในเรื่องเทคโนโลยีของ

และจะได้เห็นภาพทีวีเปรียบเทียบกันอย่างถึงพริกถึงขิง เพื่อหาทีวีตัวที่ดีที่สุดในปีนี้ครับ

แล้วพบกัน ^ ^

Roman




15
สุดยอดเลยครับ หากลองเล่นแล้ว ลองมินิรีวิวให้เพื่อนสมาชิกดูด้วยนะครับ ผมจะช่วยแชร์ในแฟนเพจของ LCDTVTHAILAND ให้ด้วยครับ ^ ^

16
ท่านที่ลงทะเบียนไว้ พบกันวันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน นี้นะครับ เริ่มลงทะเบียนเวลา 12.30 น.

ที่ชั้น 3 โรงแรมแลนด์มาร์ค สุขุมวิท หากขับรถมาเองที่จอดรถของโณงแรมไว้บริการอยู่แล้ว หากนั่งรถไฟฟ้า BTS มา ให้ลงสถานี "นานา" ถึงหน้าโรงแรมเลยครับ

แล้วพบกัน !

17

สำหรับมือใหม่และมือเก๋าที่กำลังจะซื้อทีวีเครื่องใหม่ในปี 2016-2017 มาอัพเดทดูกันดีกว่าว่าหากจะซื้อทีวีเครื่องใหม่ซักเครื่อง เราควรจะต้องพิจารณาปัจจัยและเทคโนโลยีอะไรกันบ้างในการเลือกซื้อ ? จุดประสงค์ก็เพื่อให้ท่านสามารถตัดสินใจซื้อทีวี "ตัวที่ใช่สำหรับท่านที่สุด" ภายใต้กรอบงบประมาณและลักษณะการใช้งานของตัวท่าน หวังว่า TV Buying Guide ทั้ง 10 ประการนี้จะช่วยเป็น "เข็มทิศ" ให้ท่านเดินไปหาทีวีตัวที่ใช่ได้อย่างถูกต้องและถูกใจ

1) ขนาดหน้าจอ : ในอดีตที่พวกเรายังเคยชินกับทีวีจอตู้ หรือ CRT TV ขนาด 25"- 29" พอก้าวไปสู่ LCD TV เครื่องแรกก็มักจะเล่นขนาดเริ่มต้นที่ 32" เป็นหลัก เนื่องด้วยระดับราคาที่ไม่สูงนัก แต่หลายปีผ่านไปทำให้ผู้ใช้งานเรียกนรู้ว่าทีวีจอ 32" นั้นมันค่อนข้างเล็กเกินไป ยิ่งถ้าหากเคยไปดูทีวีจอใหญ่ๆที่บ้านเพื่อนมาแล้วจะล่วงรู้เลยว่า "อาหารจอหดเป็นอย่างไร?" ซึ่งจากประสบการณ์ขอแนะนำว่าหากมีระยะชมห่างซัก 1.5-2 เมตร สามารถเลือกซื้อทีวีขนาดใหญ่ซัก 40"- 50" ได้เลย หรือหากระยะรับชม 2 เมตรขึ้นไป ขนาดใหญ่มาตรฐานอย่าง 55" จะเป็นตัวเลือกที่มีความพอดิบพอดี อย่าลืมว่า ทีวียิ่งจอใหญ่ = อรรถรสและความสุขก็จะยิ่งใหญ่ตาม



ระยะนั่งรับชมที่แนะนำ


2) ความละเอียดหน้าจอ 4K VS Full HD : 4K คือความละเอียดหน้าจอ 3840 x 2160 = 8.2 ล้านพิกเซล ส่วน Full HD คือความละเอียด หน้าจอ 1920 x 1080 = 2.1 ล้านพิกเซล ต่างกันถึง 4 เท่า ซึ่งแน่นอนว่าความละเอียดสูงก็ย่อมดีกว่าในเรื่องรายละเอียดและความคมชัด รวมถึงระบบอัพสเกลภาพความละเอียด HD / Full HD (ที่ยังเป็นความละเอียดของคอนเทนต์ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน) ให้ใกล้เคียงกับภาพ 4K ก็พัฒนาดีขึ้นตามลำดับ ภาพเนียนกริ๊บ ไม่หยาบกร้านเหมือนทีวี 4K ยุคบุกเบิกอีกต่อไป ฉะนั้นหากอยากไปให้สุดและ "รองรับอนาคต" ทีวีความละเอียด 4K เป็นตัวเลือกที่ "ตอบโจทย์" อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามหากลักษณะการใช้งานคือการดูฟรีทีวี เคเบิ้ลทีวี หรือหนัง HD และ DVD ทั่วไปเป็นหลักซึ่งมีความละเอียดอยู่ในระดับ Full HD / HD ทั่วไป ทีวีความละเอียด Full HD ก็เป็นตัวเลือกที่ "เพียงพอ" ต่อการใช้งาน แสดงภาพคอนเทนต์เหล่านั้นได้ดีเพราะความละเอียดแมตช์ชิ่งกันพอดี แถมยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้พอสมควรอีกด้วย

ทีวีความละเอียด 4K มีจำนวนจุดเม็ดพิกเซลมากกว่า Full HD ถึง 4 เท่า !


3) HDR หรือ SDR : HDR หรือ High Dynamic Range เป็นเทคโนโลยีการแสดงผลภาพแบบใหม่ล่าสุดที่ให้ระดับความดำได้ดำสนิท ระดับความสว่างที่สว่างกว่าเดิม รวมถึงสีสันที่สดอิ่มเจิดจรัส เหนือกว่าภาพแบบปกติธรรมดาหรือ Standard Dynamic Range โดยปัจจุบันนี้ HDR มี 2 มาตรฐานคือ HDR 10 และ Dolby Vision HDR หากจะเล่นทีวีความละเอียดระดับ 4K ให้สุด ก็ขอแนะว่าตัวทีวีต้องรองรับ HDR ด้วย เพราะคอนเทนต์ 4K Blu-ray Disc หรือแม้กระทั่งพวกแอพวีดีโอสตรีมมิ่งอย่าง Netflix ก็เริ่มมี "หนัง 4K HDR" ให้รับชมกันแล้ว หมายเหตุว่าทีวีความละเอียด 4K รุ่นเริ่มต้นราคาประหยัดก็มักจะไม่รองรับ HDR ส่วนทีวีความละเอียด Full HD ก็จะไม่รองรับ HDR อยู่แล้วแต่ต้นเลย ฉะนั้นตรวจสอบฟีเจอร์ของทีวีให้แน่ชัดก่อนตัดสินใจซื้อ                                  

HDR เทคโนโลยีภาพชนิดใหม่ สว่างขึ้น ดำขึ้น สีสันสดสวยเจิดจรัสขึ้น

หนัง 4K HDR เริ่มทยอยออกสู่ตลาด


4) จอโค้ง หรือ จอตรง : จอโค้ง เป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ภาพโอบล้อมผู้ชม...เฉกเช่นโรงหนัง IMAX" มิติภาพที่ลึกขึ้นเสมือนดึงเราเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ ถึงแม้ระยะรับชมจะต้องใกล้พอเพื่อที่จะสัมผัสประสบการณ์ที่กล่าวมาได้จริง (ก็เหอะ) ตลอดจนดีไซน์ที่ "หล่อขึ้นเป็นกอง" เมื่อตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางบ้าน หากเปรียบเป็นผู้หญิงก็จะออกแนวสวยเปรี้ยว แต่งตัวเห็นสัดส่วนโค้งเว้าแบบวับๆแวมๆ สะดุดตาทันทีเมื่อแรกพบ ส่วนจอตรงจะได้ความเรียบหรูไม่ว่าจะตั้งโต๊ะ หรือเมื่อนำไปแขวนผนังก็จะเหมือนกรอบรูป เป็นดีไซน์ที่คงกระพันอยู่ได้ในระยะยาว หากเปรียบเป็นผู้หญิง ก็จะออกแนวสวยไฮไซ แต่งตัวเรียบแต่ดูหรูดั่งผู้ดีมีสกุล สรุปได้ว่าเรื่องดีไซน์ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล จากประสบการณ์ตรงทั้งทดสอบ+เขียนรีวิวตลอดจนออกไปเยี่ยมเยียนบ้านลูกค้าจริงทั้งผู้ใช้ทีวีจอตรงและจอโค้ง ขอบอกเลยว่าผลกระทบเรื่องดีไซน์ต่อการใช้งานจริงจัดว่ามีน้อยมาก (เช่น คนขายจอโค้งมักเชียร์บอกว่าจอโค้งมุมมองดีกว่า หรือคนขายจอตรงมักบอกว่ามุมมองการรับชมจอตรงย่อมดีกว่าจอโค้ง => แต่อันที่จริงก็พอๆกัน ขึ้นอยู่กับชนิดขอจอ Panel ซะมากกว่า) ฉะนั้นเลือกเล่นตามที่ "หัวใจ" เราเรียกร้องได้เลย



ทีวีจอโค้งเทรนด์ใหม่

ทีวีจอตรงเรียบหรู


5) ติดตั้งแบบแขวน หรือ ตั้งโต๊ะ : การติดตั้งแบบพื้นฐานที่สุดคือการตั้งบนชั้นวาง (หรือตั้งโต๊ะ) โดยเราสามารถใช้ขาตั้งที่แถมมากับตัวเครื่องทีวีได้เลย ซึ่งดีไซน์ขาตั้งของทีวีแต่ละรุ่นก็ไม่เหมือนกัน บ้างก็เป็นทรง "กิ่งไม้" อยู่ด้านซ้ายและขวาของตัวเครื่อง ซึ่งทำให้ทีวีดูมีความเพรียวบาง จะทำให้มีช่องว่างในการสอดพวกเครื่องเล่นหรือพวกกล่อง Set-Top-Box ตรงกลาง ในทางกลับกันพวกฐานตั้งแบบ "แกนกลาง" ทั่วไป ก็มีจุดศูนย์กลางที่ชัดเจน ไม่จำเป็นต้องเผื่อความกว้างของโต๊ะหรือชั้นวางทีวีมากกนัก สรุปหากจะตั้งโต๊ะ/ชั้นวาง ก็จงเลือกดีไซน์ของขาตั้งทีวีให้สัมพันธ์กับชั้นวางของท่าน ส่วนการแขวนผนังนั้น จะได้เปรียบเรื่องการประหยัดพื้นที่ เหมาะกับพวกคอนโดหรือห้องนอนที่มีขนาดเล็ก หรือห้องนั่งเล่นที่ทำบิลด์อินสวยงามมาเพื่อการนี้เพราะแขวนปุ๊บดูเรียบหรูแบบสไตล์ Minimalist ทันที ระยะสูงต่ำในการแขวนหากอ้างอิงตามทฤษฎี "สายตาควรอยู่กลางจอพอดี" ทว่าเอาเข้าจริงก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวด้วยแหละ บางท่านชอบแขวนสูงขึ้นหน่อยเพื่อในเวลาเแหงนศรีษะขึ้นในท่าขี้เกียจบนโซฟาจะสอดรับกันพอดีเป๊ะ !

จะแขวนผนัง หรือ ตั้งชั้นวาง วางแผนให้ดีก่อนซื้อ !


ฐานตั้งทรง "กิ่งไม้" เรียบหรูแบบ Minimal แต่ก็ต้องใช้ชั้นวางทีวีที่มีความกว้างให้พอดีกัน


6) Smart TV จำเป็นหรือไม่ ? : ระบบปฏิบัติการ Smart TV มีหากแบรนด์หลากรูปแบบทั้ง Tizen, webOS,  Android , Firefox, Super TV ซึ่งมีวิธีการใช้งานแตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่จะออกแบบเมนูให้ใช้งานง่าย เน้นโหลดแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานจริงอย่างเช่นแอพส์ดูหนังดูวีดีโอออนไลน์อย่าง YouTube และ Netflix ยิ่งไปกว่านั้นบางค่ายก็ยังรองรับพวกรีโมทแบบพิเศษ เช่น Magic Remote (แอร์เมาส์), Touchpad (ใช้นิ้วโป้งสไลด์), หรือแม้กระทั่ง Gamepad (จอยเกมส์) เป็นตัวช่วยในการควบคุมและสั่งงาน Smart TV ให้คล่องแคล่วขึ้น บ้างก็นำมาใช้ควบคุมการเล่นเกมส์บนจอได้อย่างจริงจัง ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ Smart TV ส่วนใหญ่จะรองรับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ สามารถแชร์ภาพ แชรร์เพลง แชร์วีดีโอ หรือแม้กระทั่งแชร์ YouTube จากมือถือไปแสดงผลบนจอทีวีจอใหญ่ได้ทันที ย้ำอีกทีวีว่า Smart TV ยุคนี้รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายทั้งหมด อีกทั้งยังมีพอร์ท LAN ไว้ให้ท่านที่ต้องการเชื่อมต่อด้วยสาย LAN เพื่อความเสถียรสูงสุดของสัญญาณอินเตอร์เน็ตอีกด้วย อรรถประโยชน์ของ Smart TV นั้นมีมากมายก่ายกอง ให้สาธยายทั้งวันก็คงไม่หมด แต่ก็ต้องแลกมาด้วยระดับราคาขายที่สูงขึ้น ฉะนั้นผู้ซื้อต้องถามใจตัวเองก่อนว่าจะใช้งานฟีเจอร์เหล่านี้หรือไม่ ? ซึ่งไฟท์บังคับทีวีรุ่นกลางไปจนรุ่นบนมักจะมี Smart TV มาให้ด้วย แต่หากคิดว่าที่บ้านให้ผู้เฒ่าผู้แก่ที่บ้านใช้ดูทีวีหรือดูเคเบิ้ลเพียงอย่างเดียว ก็แนะนำง่าอาจจะไม่จำเป็นนัก ซื้อทีวีรุ่นเริ่มต้นก็เพียงพอต่อการใช้แบบงานเบสิคทั่วไปแล้ว


Smart TV เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและโหลดแอพส์ได้เลย หลักการเดียวกับ Smart Phone


7) ช่องต่อ : ปัจจัยที่หลายท่านมองข้าม ช่องต่อที่มีความสำคัญที่สุดคือ HDMI ที่สามารถให้ภาพและเสียงระดับ HD ได้ในช่องเดียว โดยทั่วไปทีวีก็จะใช้ช่องต่อ HDMI เฉลี่ย 2-4 ช่อง ใหคำนวณเครื่องเล่นหรือกล่องที่เราจะนำมาเชื่อมต่อกับทีวีไว้ให้ดี อาทิ กล่อง Set-Top-Box, เครื่องเล่น DVD / Blu-ray Player, กล่อง HD Player / Android Box, เครื่องเล่นเกมส์ PS4 / XฺBoX หากจำนวนช่อง HDMI ไม่เพียงพอ ก็คงได้ถอดสลับสายกันมันส์แน่ อีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือช่องต่อ USB ซึ่งทีวีส่วนใหญ่จะรองรับการเล่นไฟล์มัลติมีเดีย รูปภาพ เพลง วีดีโอ ผ่านช่องนี้ สุดท้ายหากจะใช้งานทีวีร่วมกับลำโพงซาด์บาร์ ก็ขอแนะนำให้ดูช่องต่ออย่าง HDMI ที่มีระบุว่า ARC : Audio Return Channel และช่องต่อ Optical Out สำหรับส่งผ่านเสียงจากทีวีมาออกยังลำโพงซาวด์บาร์หรือชุดเครื่องเสียงของท่าน



ช่อง HDMI คำนวณจำนวนให้ดีก่อนซื้อ รวมถึงช่องต่อแบบอื่นๆอาทิ USB, AV, Audio Out


8) ลำโพงทีวี หรือ ลำโพงซาวด์บาร์ หรือไปสุดที่ ชุดโฮมเธียเตอร์ : เสียงจากลำโพงทีวีมักจะอยู่ในระดับแค่ "พอฟังได้" เท่านั้น เพราะระดับความบางของตัวเครื่องจะส่งผลต่อการผนวกดอกลำโพงเข้าไป ระดับความดังมักจะอยู่ราว 20 ไปจนถึง 60 วัตต์ หากเป็นตัวท็อปก็มักจะผนวกลำโพงวูฟเฟอร์ฝังหลังเครื่องมาให้ด้วยเพื่อให้เสียงมีน้ำมีนวลไม่แห้งเหือด ฉะนั้นลำโพงซาวด์บาร์ (Soundbar) จะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการอัพเกรดคุณภาพเสียงของทีวีโดยไม่กระทบงบประมาณในกระเป๋ามากนัก รวมถึงการติดตั้งที่ง่ายดายแถมไม่กินพื้นที่ ไม่มีสายเกะกะรกรุงรังรอบห้อง ลำโพงซาวด์บาร์ ส่วนใหญ่จะมีกำลังขับสูงถึง 200-400 วัตต์ มาพร้อมซับวูฟเฟอร์ไร้สาย ช่วยยกระดับอรรถรสการรับชมได้อย่างเห็นผลชัดเจน หรือหากอยากได้ระบบเสียงที่รอบทิศทางโอบล้อมสมบูรณ์แบบ มีลำโพงล้อมหน้าล้อมหลังเสมือนโรงภาพยนตร์จริงๆ ก็คงต้องก้าวไปจัดชุดโฮมเธียเตอร์ซักชุดแทน ไม่ว่าจะเป็นแบบชุดสำเร็จรูปหรือซื้อเป็นลำโพงแยกชิ้นก็ตาม



ลำโพงซาวด์บาร์ เสริมอรรถรสการรับชมได้อย่างดีเยี่ยม
ให้ดูว่าทีวีมีช่อง HDMI : ARC และ Optical Out หรือไม่ ?


9) แบรนด์ เกาหลี VS ญี่ปุ่น VS จีน VS ไทย !!! ?
- แบรนด์เกาหลี LG, Samsung : ได้เรื่องนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเหนือใคร มีดีไซน์ที่สวยโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ในระดับราคาเดียวกับแบรนด์ญี่ปุ่นก็มักมาพร้อมสเป็คและฟีเจอร์ที่จัดเต็มกว่า
- แบรนด์ญี่ปุ่น Sony, Panasonic, Sharp, Toshiba ชื่อเสียงที่สั่งสมมานานย่อมก่อให้เกิดความไว้วางใจในคุณภาพสินค้า มาตรฐานการผลิตสูงส่ง ความคงทนที่มักมีเหนือแบรนด์ชาติอื่น ดีไซน์ที่ดูเรียบๆแต่ก็สวยแบบยั่งยืน แต่ก็ต้องแลกมาด้วยระดับราคาที่จะสูงกว่าแบรนด์ชาติอื่นถึง 1-2 สเต็ป
- แบรนด์จีน TCL , Hisense, Skyworth แบรนด์น้องใหม่ไฟแรง หากเทียบคุณภาพและนวัตกรรมอาจจะยังมิได้ทัดเทียมกับแบรนด์เกาหลีและญี่ปุ่น แต่เรื่องความคุ้มค่านี่มาเกินร้อย ราคาถูกกว่าได้จอที่ใหญ่กว่าหรือลูกเล่นที่มากกว่าเป็นต้น
- แบรนด์ไทย ProVision, Mitron, Altron, Aconatic คุณภาพจัดว่าสูสีกับแบรนด์จีน ได้เรื่องความคุ้มค่าเช่นกันเพราะระดับราคาจับต้องได้ บางเจ้ายังมีนวัตกรรมเป็นของตนเองอย่างเช่น ProVision มีระบบ Super TV ดูรายการทีวีย้อนหลังได้ทันที  


แบรนด์จากประเทศไหนดี ?


10) งบประมาณ : ปัจจัยที่สำคัญที่สุดก็คือ "เงินในกระเป๋า" เพราะสมัยนี้คุณภาพและลูกเล่นของทีวีจะสูงตามระดับราคา กล่าวคือ ยิ่งราคาสูง = คุณภาพยิ่งดี การแบ่งระดับซีรีส์ของทีวีมีความแม่นยำสูงมากมาก อย่างเช่นซีรส์ 9 ก็จะมีคุณภาพและลูกเล่นที่ดีกว่าซีรีส์ 8,7,6,5 เรียงลงมาตามลำดับแบบขั้นบันได สเป็คและฟีเจอร์ก็จะย่อหยอนลงมาตามระดับราคา อย่าลืมว่าทีวีตัวที่แพงที่สุดอาจะมิใช่ทีวีตัวที่ใช่ที่สุดสำหรับท่าน หากจะซื้อทีวีซักเครื่องเพื่อเสพความสุขจากมัน จงอย่ามองว่า การซื้อทีวี = ค่าใช้จ่าย แต่จงมองว่าการซื้อทีวี = การลงทุน บางทีซีรส์ 6 ที่คุณภาพของภาพและลูกเล่นอยู่ในระดับดีปานกลางเท่านั้น แต่ก็อาจจะเป็น "ตัวที่ใช่" ที่ "เพียงพอ" ต่อการใช้งาน และ "พอดี" กับเงินในกระเป๋า ก็ย่อมหมายถึงการเสพทีวีได้อย่างสุขกายสบายใจไร้ซึ่งกังวล ทว่าบางท่านอาจะมีงบประมาณเหลือเฟือ อยากจะได้กับทีวีจอใหญ่ที่คุณภาพที่ดีที่สุดพร้อมลูกเล่นครบถ้วนสุดซักตัวเพื่อเสพอรรถรสที่ดีที่สุด เพื่อนบรรลุปลายทางก็คือ "ความสุขสูงสุด" จากการรับชมนั่นเอง สรุปสั้นๆว่าเงินซื้อความสุขได้นะ..ใครบอกว่าไม่หละ ? ^ ^


18

สำหรับมือใหม่และมือเก๋าที่กำลังจะซื้อทีวีเครื่องใหม่ในปี 2016-2017 มาอัพเดทดูกันดีกว่าว่าหากจะซื้อทีวีเครื่องใหม่ซักเครื่อง เราควรจะต้องพิจารณาปัจจัยและเทคโนโลยีอะไรกันบ้างในการเลือกซื้อ ? จุดประสงค์ก็เพื่อให้ท่านสามารถตัดสินใจซื้อทีวี "ตัวที่ใช่สำหรับท่านที่สุด" ภายใต้กรอบงบประมาณและลักษณะการใช้งานของตัวท่าน หวังว่า TV Buying Guide ทั้ง 10 ประการนี้จะช่วยเป็น "เข็มทิศ" ให้ท่านเดินไปหาทีวีตัวที่ใช่ได้อย่างถูกต้องและถูกใจ

1) ขนาดหน้าจอ : ในอดีตที่พวกเรายังเคยชินกับทีวีจอตู้ หรือ CRT TV ขนาด 25"- 29" พอก้าวไปสู่ LCD TV เครื่องแรกก็มักจะเล่นขนาดเริ่มต้นที่ 32" เป็นหลัก เนื่องด้วยระดับราคาที่ไม่สูงนัก แต่หลายปีผ่านไปทำให้ผู้ใช้งานเรียกนรู้ว่าทีวีจอ 32" นั้นมันค่อนข้างเล็กเกินไป ยิ่งถ้าหากเคยไปดูทีวีจอใหญ่ๆที่บ้านเพื่อนมาแล้วจะล่วงรู้เลยว่า "อาหารจอหดเป็นอย่างไร?" ซึ่งจากประสบการณ์ขอแนะนำว่าหากมีระยะชมห่างซัก 1.5-2 เมตร สามารถเลือกซื้อทีวีขนาดใหญ่ซัก 40"- 50" ได้เลย หรือหากระยะรับชม 2 เมตรขึ้นไป ขนาดใหญ่มาตรฐานอย่าง 55" จะเป็นตัวเลือกที่มีความพอดิบพอดี อย่าลืมว่า ทีวียิ่งจอใหญ่ = อรรถรสและความสุขก็จะยิ่งใหญ่ตาม



ระยะนั่งรับชมที่แนะนำ


2) ความละเอียดหน้าจอ 4K VS Full HD : 4K คือความละเอียดหน้าจอ 3840 x 2160 = 8.2 ล้านพิกเซล ส่วน Full HD คือความละเอียด หน้าจอ 1920 x 1080 = 2.1 ล้านพิกเซล ต่างกันถึง 4 เท่า ซึ่งแน่นอนว่าความละเอียดสูงก็ย่อมดีกว่าในเรื่องรายละเอียดและความคมชัด รวมถึงระบบอัพสเกลภาพความละเอียด HD / Full HD (ที่ยังเป็นความละเอียดของคอนเทนต์ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน) ให้ใกล้เคียงกับภาพ 4K ก็พัฒนาดีขึ้นตามลำดับ ภาพเนียนกริ๊บ ไม่หยาบกร้านเหมือนทีวี 4K ยุคบุกเบิกอีกต่อไป ฉะนั้นหากอยากไปให้สุดและ "รองรับอนาคต" ทีวีความละเอียด 4K เป็นตัวเลือกที่ "ตอบโจทย์" อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามหากลักษณะการใช้งานคือการดูฟรีทีวี เคเบิ้ลทีวี หรือหนัง HD และ DVD ทั่วไปเป็นหลักซึ่งมีความละเอียดอยู่ในระดับ Full HD / HD ทั่วไป ทีวีความละเอียด Full HD ก็เป็นตัวเลือกที่ "เพียงพอ" ต่อการใช้งาน แสดงภาพคอนเทนต์เหล่านั้นได้ดีเพราะความละเอียดแมตช์ชิ่งกันพอดี แถมยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้พอสมควรอีกด้วย

ทีวีความละเอียด 4K มีจำนวนจุดเม็ดพิกเซลมากกว่า Full HD ถึง 4 เท่า !


3) HDR หรือ SDR : HDR หรือ High Dynamic Range เป็นเทคโนโลยีการแสดงผลภาพแบบใหม่ล่าสุดที่ให้ระดับความดำได้ดำสนิท ระดับความสว่างที่สว่างกว่าเดิม รวมถึงสีสันที่สดอิ่มเจิดจรัส เหนือกว่าภาพแบบปกติธรรมดาหรือ Standard Dynamic Range โดยปัจจุบันนี้ HDR มี 2 มาตรฐานคือ HDR 10 และ Dolby Vision HDR หากจะเล่นทีวีความละเอียดระดับ 4K ให้สุด ก็ขอแนะว่าตัวทีวีต้องรองรับ HDR ด้วย เพราะคอนเทนต์ 4K Blu-ray Disc หรือแม้กระทั่งพวกแอพวีดีโอสตรีมมิ่งอย่าง Netflix ก็เริ่มมี "หนัง 4K HDR" ให้รับชมกันแล้ว หมายเหตุว่าทีวีความละเอียด 4K รุ่นเริ่มต้นราคาประหยัดก็มักจะไม่รองรับ HDR ส่วนทีวีความละเอียด Full HD ก็จะไม่รองรับ HDR อยู่แล้วแต่ต้นเลย ฉะนั้นตรวจสอบฟีเจอร์ของทีวีให้แน่ชัดก่อนตัดสินใจซื้อ                                  

HDR เทคโนโลยีภาพชนิดใหม่ สว่างขึ้น ดำขึ้น สีสันสดสวยเจิดจรัสขึ้น

หนัง 4K HDR เริ่มทยอยออกสู่ตลาด


4) จอโค้ง หรือ จอตรง : จอโค้ง เป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ภาพโอบล้อมผู้ชม...เฉกเช่นโรงหนัง IMAX" มิติภาพที่ลึกขึ้นเสมือนดึงเราเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ ถึงแม้ระยะรับชมจะต้องใกล้พอเพื่อที่จะสัมผัสประสบการณ์ที่กล่าวมาได้จริง (ก็เหอะ) ตลอดจนดีไซน์ที่ "หล่อขึ้นเป็นกอง" เมื่อตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางบ้าน หากเปรียบเป็นผู้หญิงก็จะออกแนวสวยเปรี้ยว แต่งตัวเห็นสัดส่วนโค้งเว้าแบบวับๆแวมๆ สะดุดตาทันทีเมื่อแรกพบ ส่วนจอตรงจะได้ความเรียบหรูไม่ว่าจะตั้งโต๊ะ หรือเมื่อนำไปแขวนผนังก็จะเหมือนกรอบรูป เป็นดีไซน์ที่คงกระพันอยู่ได้ในระยะยาว หากเปรียบเป็นผู้หญิง ก็จะออกแนวสวยไฮไซ แต่งตัวเรียบแต่ดูหรูดั่งผู้ดีมีสกุล สรุปได้ว่าเรื่องดีไซน์ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล จากประสบการณ์ตรงทั้งทดสอบ+เขียนรีวิวตลอดจนออกไปเยี่ยมเยียนบ้านลูกค้าจริงทั้งผู้ใช้ทีวีจอตรงและจอโค้ง ขอบอกเลยว่าผลกระทบเรื่องดีไซน์ต่อการใช้งานจริงจัดว่ามีน้อยมาก (เช่น คนขายจอโค้งมักเชียร์บอกว่าจอโค้งมุมมองดีกว่า หรือคนขายจอตรงมักบอกว่ามุมมองการรับชมจอตรงย่อมดีกว่าจอโค้ง => แต่อันที่จริงก็พอๆกัน ขึ้นอยู่กับชนิดขอจอ Panel ซะมากกว่า) ฉะนั้นเลือกเล่นตามที่ "หัวใจ" เราเรียกร้องได้เลย



ทีวีจอโค้งเทรนด์ใหม่

ทีวีจอตรงเรียบหรู


5) ติดตั้งแบบแขวน หรือ ตั้งโต๊ะ : การติดตั้งแบบพื้นฐานที่สุดคือการตั้งบนชั้นวาง (หรือตั้งโต๊ะ) โดยเราสามารถใช้ขาตั้งที่แถมมากับตัวเครื่องทีวีได้เลย ซึ่งดีไซน์ขาตั้งของทีวีแต่ละรุ่นก็ไม่เหมือนกัน บ้างก็เป็นทรง "กิ่งไม้" อยู่ด้านซ้ายและขวาของตัวเครื่อง ซึ่งทำให้ทีวีดูมีความเพรียวบาง จะทำให้มีช่องว่างในการสอดพวกเครื่องเล่นหรือพวกกล่อง Set-Top-Box ตรงกลาง ในทางกลับกันพวกฐานตั้งแบบ "แกนกลาง" ทั่วไป ก็มีจุดศูนย์กลางที่ชัดเจน ไม่จำเป็นต้องเผื่อความกว้างของโต๊ะหรือชั้นวางทีวีมากกนัก สรุปหากจะตั้งโต๊ะ/ชั้นวาง ก็จงเลือกดีไซน์ของขาตั้งทีวีให้สัมพันธ์กับชั้นวางของท่าน ส่วนการแขวนผนังนั้น จะได้เปรียบเรื่องการประหยัดพื้นที่ เหมาะกับพวกคอนโดหรือห้องนอนที่มีขนาดเล็ก หรือห้องนั่งเล่นที่ทำบิลด์อินสวยงามมาเพื่อการนี้เพราะแขวนปุ๊บดูเรียบหรูแบบสไตล์ Minimalist ทันที ระยะสูงต่ำในการแขวนหากอ้างอิงตามทฤษฎี "สายตาควรอยู่กลางจอพอดี" ทว่าเอาเข้าจริงก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวด้วยแหละ บางท่านชอบแขวนสูงขึ้นหน่อยเพื่อในเวลาเแหงนศรีษะขึ้นในท่าขี้เกียจบนโซฟาจะสอดรับกันพอดีเป๊ะ !

จะแขวนผนัง หรือ ตั้งชั้นวาง วางแผนให้ดีก่อนซื้อ !


ฐานตั้งทรง "กิ่งไม้" เรียบหรูแบบ Minimal แต่ก็ต้องใช้ชั้นวางทีวีที่มีความกว้างให้พอดีกัน


6) Smart TV จำเป็นหรือไม่ ? : ระบบปฏิบัติการ Smart TV มีหากแบรนด์หลากรูปแบบทั้ง Tizen, webOS,  Android , Firefox, Super TV ซึ่งมีวิธีการใช้งานแตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่จะออกแบบเมนูให้ใช้งานง่าย เน้นโหลดแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานจริงอย่างเช่นแอพส์ดูหนังดูวีดีโอออนไลน์อย่าง YouTube และ Netflix ยิ่งไปกว่านั้นบางค่ายก็ยังรองรับพวกรีโมทแบบพิเศษ เช่น Magic Remote (แอร์เมาส์), Touchpad (ใช้นิ้วโป้งสไลด์), หรือแม้กระทั่ง Gamepad (จอยเกมส์) เป็นตัวช่วยในการควบคุมและสั่งงาน Smart TV ให้คล่องแคล่วขึ้น บ้างก็นำมาใช้ควบคุมการเล่นเกมส์บนจอได้อย่างจริงจัง ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ Smart TV ส่วนใหญ่จะรองรับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ สามารถแชร์ภาพ แชรร์เพลง แชร์วีดีโอ หรือแม้กระทั่งแชร์ YouTube จากมือถือไปแสดงผลบนจอทีวีจอใหญ่ได้ทันที ย้ำอีกทีวีว่า Smart TV ยุคนี้รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายทั้งหมด อีกทั้งยังมีพอร์ท LAN ไว้ให้ท่านที่ต้องการเชื่อมต่อด้วยสาย LAN เพื่อความเสถียรสูงสุดของสัญญาณอินเตอร์เน็ตอีกด้วย อรรถประโยชน์ของ Smart TV นั้นมีมากมายก่ายกอง ให้สาธยายทั้งวันก็คงไม่หมด แต่ก็ต้องแลกมาด้วยระดับราคาขายที่สูงขึ้น ฉะนั้นผู้ซื้อต้องถามใจตัวเองก่อนว่าจะใช้งานฟีเจอร์เหล่านี้หรือไม่ ? ซึ่งไฟท์บังคับทีวีรุ่นกลางไปจนรุ่นบนมักจะมี Smart TV มาให้ด้วย แต่หากคิดว่าที่บ้านให้ผู้เฒ่าผู้แก่ที่บ้านใช้ดูทีวีหรือดูเคเบิ้ลเพียงอย่างเดียว ก็แนะนำง่าอาจจะไม่จำเป็นนัก ซื้อทีวีรุ่นเริ่มต้นก็เพียงพอต่อการใช้แบบงานเบสิคทั่วไปแล้ว


Smart TV เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและโหลดแอพส์ได้เลย หลักการเดียวกับ Smart Phone


7) ช่องต่อ : ปัจจัยที่หลายท่านมองข้าม ช่องต่อที่มีความสำคัญที่สุดคือ HDMI ที่สามารถให้ภาพและเสียงระดับ HD ได้ในช่องเดียว โดยทั่วไปทีวีก็จะใช้ช่องต่อ HDMI เฉลี่ย 2-4 ช่อง ใหคำนวณเครื่องเล่นหรือกล่องที่เราจะนำมาเชื่อมต่อกับทีวีไว้ให้ดี อาทิ กล่อง Set-Top-Box, เครื่องเล่น DVD / Blu-ray Player, กล่อง HD Player / Android Box, เครื่องเล่นเกมส์ PS4 / XฺBoX หากจำนวนช่อง HDMI ไม่เพียงพอ ก็คงได้ถอดสลับสายกันมันส์แน่ อีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือช่องต่อ USB ซึ่งทีวีส่วนใหญ่จะรองรับการเล่นไฟล์มัลติมีเดีย รูปภาพ เพลง วีดีโอ ผ่านช่องนี้ สุดท้ายหากจะใช้งานทีวีร่วมกับลำโพงซาด์บาร์ ก็ขอแนะนำให้ดูช่องต่ออย่าง HDMI ที่มีระบุว่า ARC : Audio Return Channel และช่องต่อ Optical Out สำหรับส่งผ่านเสียงจากทีวีมาออกยังลำโพงซาวด์บาร์หรือชุดเครื่องเสียงของท่าน



ช่อง HDMI คำนวณจำนวนให้ดีก่อนซื้อ รวมถึงช่องต่อแบบอื่นๆอาทิ USB, AV, Audio Out


8) ลำโพงทีวี หรือ ลำโพงซาวด์บาร์ หรือไปสุดที่ ชุดโฮมเธียเตอร์ : เสียงจากลำโพงทีวีมักจะอยู่ในระดับแค่ "พอฟังได้" เท่านั้น เพราะระดับความบางของตัวเครื่องจะส่งผลต่อการผนวกดอกลำโพงเข้าไป ระดับความดังมักจะอยู่ราว 20 ไปจนถึง 60 วัตต์ หากเป็นตัวท็อปก็มักจะผนวกลำโพงวูฟเฟอร์ฝังหลังเครื่องมาให้ด้วยเพื่อให้เสียงมีน้ำมีนวลไม่แห้งเหือด ฉะนั้นลำโพงซาวด์บาร์ (Soundbar) จะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการอัพเกรดคุณภาพเสียงของทีวีโดยไม่กระทบงบประมาณในกระเป๋ามากนัก รวมถึงการติดตั้งที่ง่ายดายแถมไม่กินพื้นที่ ไม่มีสายเกะกะรกรุงรังรอบห้อง ลำโพงซาวด์บาร์ ส่วนใหญ่จะมีกำลังขับสูงถึง 200-400 วัตต์ มาพร้อมซับวูฟเฟอร์ไร้สาย ช่วยยกระดับอรรถรสการรับชมได้อย่างเห็นผลชัดเจน หรือหากอยากได้ระบบเสียงที่รอบทิศทางโอบล้อมสมบูรณ์แบบ มีลำโพงล้อมหน้าล้อมหลังเสมือนโรงภาพยนตร์จริงๆ ก็คงต้องก้าวไปจัดชุดโฮมเธียเตอร์ซักชุดแทน ไม่ว่าจะเป็นแบบชุดสำเร็จรูปหรือซื้อเป็นลำโพงแยกชิ้นก็ตาม



ลำโพงซาวด์บาร์ เสริมอรรถรสการรับชมได้อย่างดีเยี่ยม
ให้ดูว่าทีวีมีช่อง HDMI : ARC และ Optical Out หรือไม่ ?


9) แบรนด์ เกาหลี VS ญี่ปุ่น VS จีน VS ไทย !!! ?
- แบรนด์เกาหลี LG, Samsung : ได้เรื่องนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเหนือใคร มีดีไซน์ที่สวยโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ในระดับราคาเดียวกับแบรนด์ญี่ปุ่นก็มักมาพร้อมสเป็คและฟีเจอร์ที่จัดเต็มกว่า
- แบรนด์ญี่ปุ่น Sony, Panasonic, Sharp, Toshiba ชื่อเสียงที่สั่งสมมานานย่อมก่อให้เกิดความไว้วางใจในคุณภาพสินค้า มาตรฐานการผลิตสูงส่ง ความคงทนที่มักมีเหนือแบรนด์ชาติอื่น ดีไซน์ที่ดูเรียบๆแต่ก็สวยแบบยั่งยืน แต่ก็ต้องแลกมาด้วยระดับราคาที่จะสูงกว่าแบรนด์ชาติอื่นถึง 1-2 สเต็ป
- แบรนด์จีน TCL , Hisense, Skyworth แบรนด์น้องใหม่ไฟแรง หากเทียบคุณภาพและนวัตกรรมอาจจะยังมิได้ทัดเทียมกับแบรนด์เกาหลีและญี่ปุ่น แต่เรื่องความคุ้มค่านี่มาเกินร้อย ราคาถูกกว่าได้จอที่ใหญ่กว่าหรือลูกเล่นที่มากกว่าเป็นต้น
- แบรนด์ไทย ProVision, Mitron, Altron, Aconatic คุณภาพจัดว่าสูสีกับแบรนด์จีน ได้เรื่องความคุ้มค่าเช่นกันเพราะระดับราคาจับต้องได้ บางเจ้ายังมีนวัตกรรมเป็นของตนเองอย่างเช่น ProVision มีระบบ Super TV ดูรายการทีวีย้อนหลังได้ทันที  


แบรนด์จากประเทศไหนดี ?


10) งบประมาณ : ปัจจัยที่สำคัญที่สุดก็คือ "เงินในกระเป๋า" เพราะสมัยนี้คุณภาพและลูกเล่นของทีวีจะสูงตามระดับราคา กล่าวคือ ยิ่งราคาสูง = คุณภาพยิ่งดี การแบ่งระดับซีรีส์ของทีวีมีความแม่นยำสูงมากมาก อย่างเช่นซีรส์ 9 ก็จะมีคุณภาพและลูกเล่นที่ดีกว่าซีรีส์ 8,7,6,5 เรียงลงมาตามลำดับแบบขั้นบันได สเป็คและฟีเจอร์ก็จะย่อหยอนลงมาตามระดับราคา อย่าลืมว่าทีวีตัวที่แพงที่สุดอาจะมิใช่ทีวีตัวที่ใช่ที่สุดสำหรับท่าน หากจะซื้อทีวีซักเครื่องเพื่อเสพความสุขจากมัน จงอย่ามองว่า การซื้อทีวี = ค่าใช้จ่าย แต่จงมองว่าการซื้อทีวี = การลงทุน บางทีซีรส์ 6 ที่คุณภาพของภาพและลูกเล่นอยู่ในระดับดีปานกลางเท่านั้น แต่ก็อาจจะเป็น "ตัวที่ใช่" ที่ "เพียงพอ" ต่อการใช้งาน และ "พอดี" กับเงินในกระเป๋า ก็ย่อมหมายถึงการเสพทีวีได้อย่างสุขกายสบายใจไร้ซึ่งกังวล ทว่าบางท่านอาจะมีงบประมาณเหลือเฟือ อยากจะได้กับทีวีจอใหญ่ที่คุณภาพที่ดีที่สุดพร้อมลูกเล่นครบถ้วนสุดซักตัวเพื่อเสพอรรถรสที่ดีที่สุด เพื่อนบรรลุปลายทางก็คือ "ความสุขสูงสุด" จากการรับชมนั่นเอง สรุปสั้นๆว่าเงินซื้อความสุขได้นะ..ใครบอกว่าไม่หละ ? ^ ^


หน้า: [1] 2 3 ... 6