แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Roman

หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
37
สำหรับคำถามว่า Pioneer จะมี Pre-Processor มาขายไหม ? ผมขออนุญาตส่งต่อคำถามให้ผู้นำเข้า เพื่อส่งต่อไปยังบริษัท Pioneer ที่ญี่ปุ่นนะครับ

จะรีบกลับมาบอกคำตอบให้เร็วที่สุดครับ

===>>> ได้คำตอบแล้วครับว่า Pioneer ไม่ทำ Pre-Processor นะครับ

ส่วน Onkyo มีรุ่นใหม่ออกมาแล้ว รองรับ Dolby Atmos // ส่วนรุ่นเก่าที่่ผมใช้สาธิตในงานบรรยายเป็นประจำก็ตกรุ่น ณ บัดดลเลยครับ ^ ^

ดีครับ ได้ประสบการณ์ ใหม่ๆ ในทริบนี้

แต่ ไม่ทราบว่า ได้มีการถาม ทาง Pioneer ไหมครับ ว่าทำไมไม่ผลิต Pre Processor มาขายบ้างครับ
ซึ่งผมคิดว่าคงมีหลายคนรอ ตัวนี้ ของทาง Pioneer อยู่พอสมควร

38
:::: Day 4 ::::
วันนี้เป็นวันรองสุดท้ายของทริปนี้ ทางทีมงาน Onkyo และ Pioneer ได้วางแผนให้ทางคณะมีโอกาสสำรวจตลาดในย่านเครื่อใช้ไฟฟ้าอันเลื่องชื่ออย่าง Akihabara ในย่านนี้จะมีตึกที่รวบรวมสินค้าอิเล็คโทรนิคส์ครบทุกหมวดตั้งแต่โทรศัพท์มือถือ ทีวี เครื่องเสียง กล้องถ่ายรูป ไดร์เป่าผม แผ่นหนัง แผ่นแพลง การ์ตูน โมเดลฟิกเกอร์ มีหมด ตึกที่ว่าคือห้าง Yodobashi ซึ่งห้างนี้เป็นที่รู้จักดีของนักท่องเที่ยวชาวไทย ขาช็อปท่านไหนมีแพลนจะซื้อสินค้าอิเล็คโทรนิคส์ที่นี่ ขอแนะนำให้พก Passport ติดตัวไว้ เพราะสามารถทำ VAT Refund คืนเงินได้ทันทีถึง 8% (ว้าว)  ตัวผมเองเคยซื้อกล้องฟรุ๊งฟริ๊งไปฝากสาวๆ ราคาหัก VAT Refund แล้วถูกกว่าไทยประมาณ 30% เลยทีเดียว ส่วนการมาเยือนห้าง Yodobashi ครั้งนี้ ผมขอเน้นเก็บภาพโซนดิสเพลย์ขายของของทั้งแบรนด์ Onkyo และ Pioneer มาฝากทุกท่าน มาดูกันสิว่าประเทศญี่ปุ่นเขาขายของหน้าตาเหมือนบ้านเราไหม ?


ห้าง Yodobashi ย่าน Akihabara ศูนย์รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่อันดับหนึ่งในญี่ปุ่น

มาเดินเล่นโซนเครื่องเสียงครับ ปะกับเครื่องเล่น Turntable ของ Onkyo


แอมป์หูฟังของ Pioneer


ช่วงนี้ชุดโฮมเธียเตอร์ดูหนังก็ต้องเน้นไปที่ Dolby Atmos เป็นหลัก
ชุดนี้ใช้ลำโพงแบบ Dolby Enabled Speaker ยิงเสียงขึ้นฟ้า เพื่อชิ่งเพดานลงมา


ชุดเครื่องเล่น CD และ HiFi Amplifier ระดับไฮเอ็นด์


Onkyo Soundbase บ้านเขามี แต่บ้านเราไม่มี
ให้ข้อมูลนิดนึงว่าโครงสร้างลึกๆแบบนี้นี่แหละให้เสียงดีกว่าพวก Soundbar อีกนะ


ที่ญี่ปุ่นขายกันค่อนข้าง Hard Sales แบบนี้ ในไทยขายกันแบบไหน ?


TX-RZ800 AV Receiver รุ่นใหม่รองรับ Dolby Atmos และ DTS-X


ชุด Soundbar และพวก Home Theater in the Box


Micro Component ของ Pioneer


ปิดท้ายด้วยรูปหมู่ของชาวคณะระหว่างยืนรอรถ Airport Bus กลับไปยังสนามบินนาริตะ ประกอบไปด้วยคุณสิงขรและคุณนนทวิทย์จากบริษัท เซ็นทรัล เทรดดิ้ง จำกัด, คุณธรรมนูญ จากนิตยสาร Audiophile, คุณธานี จากนิตยสาร GM2000, อาจารย์วิจิตร จากนิตยสาร The Wave คุณภัคกร Blogger หูฟังขั้นเทพ และสุดท้ายขาดไม่ได้เลยผู้ถ่ายเซลฟี่ภาพนี้คือกระผม "นายโรมัน" นั่นเอง สำหรับทริปสำรวจวงการ A/V ในแดนญี่ปุ่นก็จบลงอย่างประทับใจ ถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้สัมผัสนวัตกรรมสินค้าใหม่และได้ทราบถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของทั้ง 2 แบรนด์นี้จากผู้บริหารชาวญี่ปุ่นโดยตรง อย่าลืมว่าสินค้าเครื่องเสียงและโฮมเธียเตอร์เป็นสินค้าที่ช่วยส่งมอบความสุขให้กับผู้รับชม/ฟัง ฉะนั้นหากตัวสินค้ามันมีคุณภาพดีจริง...มันก็ย่อมสามารถทำหน้าที่นี้ได้อย่างสมบูรณ์ และครั้งนี้ทาง Onkyo และ Pioneer ก็ได้พิสูจน์เรื่องนี้ให้เหล่าบรรดากูรูผู้ร่วมทริปได้ประจักษ์แล้ว ในครั้งหน้าหากมีทริปผจญภัยวงการ A/V เช่นนี้อีก ทางผมเองก็จะไม่พลาดเก็บสาระ ความรู้ และภาพบรรยากาศมากฝากผู้อ่านทุกท่านครับ ครั้งนี้ขอลาไปดูหนัง Dolby Atmos ให้ฉ่ำใจก่อน เพราะบรรยากาศในห้องทดสอบของทั้ง 2 แบรนด์นี้มันบิลด์อารมณ์ซะเหลือเกิน สวัสดีครับ

Roman
14/11/2015

39
:::: สู่ห้องทดสอบ Onkyo ::::
มาสู่เรื่องเครื่องเสียงบ้านกันบ้าง หลังจากเมื่อวานทีม Pioneer เป็นฝ่ายชิงเปิดเกมนำเสนอข้อมูลและสาธิตสินค้าไปก่อน มาวันนี้ทีม Onkyo ไม่ยอมน้อยหน้า เปิด "ห้องฟังลับ" ซึ่งอยู่ชั้นใต้ถุนของโชว์รูมแห่งนี้ เพื่อให้ทางคณะสื่อของพวกเราเข้าไปร่วมพิสูจน์คุณภาพสินค้าของพวกเขา ว่าแล้วไม่รอช้าทยอยลงลิฟท์และจับจองเก้าอี้นั่งภายในห้องทดสอบกันโดยพลัน ทางทีม Onkyo ญี่ปุ่นเริ่มเข้ามาแนะนำตัวและประวัติบริษัทคร่าวๆแบบพอสังเขปดังนี้ ในปี 1946 Mr.Godai ได้เริ่มก่อตั้งบริษัท Osaka Denki Onkyo K.K ซึ่งคำว่า Onkyo นั่นมีความหมายว่า "Sound Harmony" หรือ "เสียงที่สอดประสานกันอย่างลงตัว" สินค้าชิ้นแรกที่ทาง Onkyo ผลิตคือ Crystal Pickup หรือแขนของเครื่องเล่นแผ่นเสียงนั่นเอง ส่วนโรงงานที่ใช้ผลิตลำโพงก็ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1948 และในปี 1950 Onkyo ก็ได้ผลิตลำโพงชิ้นแรกเป็นผลสำเร็จ ซึ่งเป็นลำโพงแบบ Non Press Cone จนมาถึงปี 1953 Onkyo ก็ผลิตวิทยุตั้งโต๊ะตัวแรก จุดเริ่มต้นของแบรนด์เครื่องเสียงส่วนใหญ่มักอยู่ที่ "การผลิตลำโพงชิ้นแรก" จากนั้นจะเริ่มต่อยอดสู่หมวดสินค้าอื่นๆที่เกี่ยวข้องเช่น Amplifier และ Player จนสินค้าครบวงจรเฉกเช่นในปัจจุบันนี้


:::: ปรัชญาการออกแบบ ::::
หลักปรัชญาในการออกแบบสินค้ากลุ่มเครื่องเสียงของ Onkyo คือ Dynamic Audio Concept ขอขยายความว่า "เสียงดนตรีประกอบไปด้วยระดับและความถี่เสียงที่ซับซ้อนไม่ได้คงที่เหมือนสัญญาณเสียงที่ใช้ทดสอบ (เทสโทน) อย่างไรก็ดี Onkyo ให้ความสำคัญกับค่าการตรวจวัดทางไฟฟ้าอย่าง S/N Ratio และ Total Harmonic Distortion เนื่องจากเป็นตัวบ่งชี้ถึงคุณภาพของการออกแบบเครื่องเสียง และที่สำคัญคือ Onkyo เชื่อว่าการถ่ายทอดไดนามิก และการตอบสนองต่อสัญญาณฉับพลันของภาคขยาย เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลถึงการถ่ายทอดอารมณ์ของดนตรี"  สรุปได้ว่าทุกการออกแบบก็เพื่อให้สามารถส่งมอบทุกอารมณ์ของดนตรีไปสู่ผู้ฟังอย่างครบถ้วนสมบูรณ์นั่นเอง ซึ่งสอดรับกับเป้าหมายสูงสุดของ Onkyo ดั่งสโลแกนที่เขามักจะเน้นย้ำว่า Hear Every Detail, Feel Every Emotion หรือ ได้ยินทุกรายละเอียด....เข้าถึงทุกอารมณ์ !


บรรยากาศห้องทดสอบลับชั้นใต้ดินของ Onkyo
แน่นอนว่าอะคูสติกห้องและเครื่องไม้เครื่องมือนี่เกรด A+


ว่าแล้วผู้บริหารของ Onkyo ก็ยกมือสวัสดีแบบสไตล์คนต่างชาติ


Onkyo Power Amp M-5000R / Pre-Amp P-300R / Player C-N7050 = เซ็ตสามทหารเสือ


ส่วน Speaker เป็นรุ่น  D-77NE รูปทรงคลาสสิค (คู่ใน) ทั้งซิสเต็มนี้แหละที่ทีมงาน Onkyo จะเปิดทดสอบให้ฟัง

:::: ทดสอบฟัง ::::
ทาง Onkyo ได้นำเพลง Fit Song ของ Cornelius เป็นเพลงที่ใช้เอ็ฟเฟกต์เสียงเครื่องเคาะที่บ่งถึงจังหวะเด้งไปเด้งมาของวัตถุในมิวสิควีดีโอของเพลงนี้ เช่นลูกเบสบอลตกกระทบโต๊ะ หรือพวกน้ำตาลก้อนเวลากลิ้งตลบไปตลบมา (เพลงมัน Abstract สุดๆ) โดยนำมาเล่นกับซิสเต็มไฮเอ็นด์อย่าง Onkyo Power Amp M-5000R / Pre-Amp P-300R / Player C-N7050 / Speaker D-77NE ตัว Power Amp, Pre-Amp, และ Player ผมขอนิยามคำจำกัดความว่า "สามทหารเสือ" เพราะถือว่าเป็นซิสเต็มที่ไฮเอ็นด์ที่สุดของ Onkyo ในหมวดสินค้า Hi-Fi 2 แชนแนล ที่สำคัญการออกแบบถูกอ้างอิงตามหลักปรัชญา Dynamic Audio Concept ข้างต้นทั้งหมด ทีมงาน Onkyo เริ่มเปิดเพลง.....ผมก็เริ่มเปิดหูรับฟัง เสียงที่ได้มีความสดใส มีพลัง ให้ความฉับไวและแรงปะทะดี รายละเอียดชัดเจน แต่ฟังสบายไม่ระคายหู ชิ้นดนตรีโดยเฉพาะเครื่องเคาะได้โชว์ออฟกันอย่างจะแจ้ง ความสะอาดสะอ้านโดยเฉพาะความสงัดของแบ็คกราวนด์ยิ่งช่วยส่งให้ผู้ฟังอย่างผมสามารถจินตภาพตำแหน่งเครืองเคาะแต่ละชิ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม ผมฟังเพลงนี้แล้ว "รู้สึกสนุก" ในทันที ถึงแม้ในนาทีนั้นผมเองก็ยังไม่รู้ความหมายของเพลงที่ต้องการสื่อให้เราได้รับทราบด้วยซ้ำ จนผมกลับมายังประเทศไทยก็รีบค้นหาเพลงใน YouTube เพื่อขอเข้าถึงเพลงมันอีกซักรอบ เอาเป็นว่ามาลองฟังเพลงนี้จากคลิปตัวอย่างด้านล่างเป็นการบันทึกเสียงจริงจากซิสเต็มดังกล่าวด้วยโทรศัพท์มือถือของผมนี่แหละ

:::: คลิปทดสอบเสียงจริง :::: https://www.youtube.com/watch?v=0ZeHmypGBPE
เพลง Fit Song กับเสียงเครื่องเคาะอันสดใส เล่นโดยชุดสามทหารเสือของ Onkyo

:::: CD VS Hi-Res ::::
หลังจากสนุกกับเพลง Fit Song ไปแล้ว ทีมงาน Onkyo ก็เข้ามาอธิบายความหมายของ Hi-Res Music ที่กำลังเป็นกระแสว่ามี "คุณภาพสูงสุดเฉกเช่นต้นฉบับในสตูดิโอ" ฉะนั้นเราจะได้ยินทุกอณูรายละเอียดที่ศิลปินเขาได้ยิน ต่างจาก CD Audio ทั่วไปที่ยังโดนบีบอัดข้อมูล รวมถึงเพลงจำพวก mp3 ที่มีคุณภาพต่ำสุดๆ หลังจากนั้นมีให้ทดลองฟังเพลง Top of The World ของ Carpenters แบบ CD VS Hi-Res ฟังสลับกันไปมาแบบ A-B Test เป็นการการันตีว่าซิสเต็ม 3 ทหาารเสือทั้งระบบรองรับการเล่นเพลงแบบ Hi-Res ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ จากการทดลองฟังแบบตั้งใจจับผิดความต่าง (ไม่ได้เสพ แต่เน้นฟังแบบจับจุดต่าง) ความเห็นส่วนตัวไฟล์แบบ Hi-Res จะให้รายละเอียดและความจะแจ้งได้ดีกว่าแบบ CD ปลายเสียงร้องเต่งตึงและชัดกว่า แต่ผมไม่ได้บอกว่า CD ไม่ดีนะ ในทางกลับกันผมว่า CD มันฟังค่อนข้างสบายหูกว่าด้วยซ้ำ บางทีอยากฟังคมจัดชัดจริงก็ต้องจัดไฟล์ Hi-Res แต่ถ้าหากอยากฟังแบบผ่อนคลายลงมาหน่อยก็ต้อง CD หรือหากให้ดีจะเอาธรรมชาตินวลพลิ้วก็ต้องมี Turntable อีกซักตัวจะได้ครบสูตรนักเล่นหูทอง......แต่กระเป๋าแห้ง (ฮา)

::: คลิปทดสอบเสียงจริง :::: https://www.youtube.com/watch?v=uF3YGHJVC6o
ทดสอบเพลง Top of The World : Carpenters แบบ CD VS Hi-Res เปิดสลับให้จับจุดต่าง

:::: Dolby Atmos คืออนาคต ::::
ในปี 2014 ที่ผ่านมา Onkyo ได้เปิดตัว AV Receiver ที่รองรับระบบเสียงรอบทิศทางแบบใหม่ Dolby Atmos ซึ่งเป็นการเพิ่มแชนแนล Top Surround หรือลำโพงด้านบนขึ้นมา มาในปี 2015 ก็ได้เวลาเปิดตัวรุ่นใหม่ ได้แก่รุ่น TX-RZ800 และ TX-RZ900 จุดที่เปลี่ยนแบบใหม่หมดจดเลยคือดีไซน์ตัวถังที่ดูสวยเรียบหรูขึ้น อิงคอนเซปต์ Minimalist เน้นความเรียบของหน้าตา ไม่เน้นความเยอะ แต่ที่เยอะนี่คือฟีเจอร์ที่อัดแน่นแบบรองรับทุกสิ่งอย่างที่พึงจะมีได้ในตอนนี้ อาทิ THX Certified, รองรับความละเอียดภาพสูงสุดถึง 4K/60Hz แบบ 4:4:4 , ระบบเสียงแบบ Immersive Surround ทั้ง Dolby Atmos และ DTS-X, สำหรับการฟังเพลงก็ใช้ DAC แบบ 32Bit / 384 kHz และรองรับไฟล์เพลงระดับ Hi-Res ทั้ง FLAC และ DSD โดยรวมถือว่าเป็น AV Receiver ที่ครบเครื่องที่สุดและรองรับอนาคตมากที่สุดในวงการตัวหนึ่ง ณ ตอนนี้

ส่วนการทดสอบทีม Onkyo เซ็ตอัพซิสเต็มเป็น 7.2.4 แชนแนล ประกอบไปด้วยลำโพงหลัก 7 ตัว ซับวูฟเฟอร์ 2 ตัว และลำโพงบนเพดาน 4 ตัว ในห้องทดสอบที่ถูกออกแบบมาอย่างดีให้เหมาะกับการดูหนังและฟังเพลง ทีมงาน Onkyo ได้ใช้แผ่น Jupiter Ascending ซึ่งเป็นระบบเสียง Dolby Atmos ทดสอบ (แผ่นนี้ยอดฮิตจริง) ลำโพง Top Surround 4 ตัวทำงานสอดประสานกันลำโพง 7 ตัวหลักได้อย่างดีเยี่ยมในการขับเคลื่อนเสียงเฟี้ยวฟ้าวของฉากการต่อสู้ มิติสียงโอบล้อม 360 องศาแบบแบบจริงจัง จังหวะยานบินข้ามหัวไปทำให้เรารู้สึกอย่างนั้นได้จริง หลังจากนั้นได้นำแผ่นทดสอบของ Dolby Atmos เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นแผ่นที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยฟังมา โดยคอนเทนต์เป็น "เสียงยุงรำคาญ" บินวนไปวนมาเสียงดัง วี่...วี่ วนไปในแต่ละแชนแนล จึงทำให้ "หัว" ของเราเทความสนใจไปยังแชนแนลต่างๆที่่ยุงบินไป นึกภาพตามนะครับ ยุงบินไปทางซ้าย หัวผมก็หันไปทางซ้าย บินไปข้างหลังหัวผมก็หันไปข้างหลัง และอยู่ดีๆก็บินขึ้นข้างบน หัวผมก็ต้องเงยหน้าขึ้นตามเสียงไปโดยอัตโนมัติ นี่แหละที่เรียกว่าเสียง 360 องศาอย่างแท้จริง มิได้จำกัดแค่เสียงรอบตัว 180 องศาแบบระบบเดิมๆ

โดยสรุปแล้วผมอยากจะบอกว่าระบบเสียงแบบ Immersive Surround Sound อย่าง Dolby Atmos และ DTS-X ช่วยยกระดับอรรถรสการเสพภาพยนตร์ให้สูงขึ้นจริง ยิ่งในอนาคตแผ่นหนัง Blu-ray จะผนวกระบบเสียงแบบนี้เยอะขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ขาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง และ Onkyo AV Receiver รุ่น TX-ZR900 ที่ใช้ในการสาธิตในวันนี้ก็ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเสียงไปสู่ผู้ฟังในมิติต่างๆได้อย่างสมบูรณ์ ไร้ซึ่งข้อกังขา ขอฟันธงให้ว่า AVR ซีรีส์นี้ "เค้ามีของจริง" ประทับใจทั้ง 360 องศาตั้งแต่ดีไซน์ภายนอกยันภายใน ฟีเจอร์ที่ครบครัน จวบจนคุณภาพเสียงที่ถ่ายทอดออกมา


รุ่นใหม่ TX-RZ800 ราคาเปิดตัว 65,900 บาท
และ TX-RZ900 ราคาเปิดตัว 85,900 บาท
ส่วนบทรีวิวทดสอบฉบับเต็มจะรีบคลอดตามออกมาเร็วๆนี้


ความเห็นส่วนตัว Onkyo รุ่น TX-RZ เป็น AV Receiver ที่มีความหล่อเหลาอยู่ไม่เบา


รูปเครื่องในของ Onkyo TX-RZ900 นำทัพด้วยหม้อแปลง Toroidal Transformer ขนาดจัมโบ้
ขุมกำลังให้กับภาคขยาย ทำให้มีกำลังสำรองขับลำโพงยากๆ ได้ แม้ในระดับความถี่ต่ำสุดขั้วลงลึกถึง 5 Hz


จบ Session ขอชักภาพร่วมกับทีมผู้บริหารชาวญี่ปุ่นของ Onkyo ซักหน่อย


40
:::: Day 3 ::::
ในวันที่ 3 ของทริปนี้เป็นการเยี่ยมชมโชว์รูมของ Onkyo ที่ย่าน Kyobashi ซึ่งติดกับสถานีรถไฟ JR Tokyo ทางคณะก็ไม่ต้องรีบกุลีกุจอมากนักเพราะถือว่าใกล้โรงแรมที่พำนักพอสมควร นั่งรถไฟไม่กี่นาทีก็ถึง ดังนี้ในช่วงเช้าตรู่ผมเลยขอแว่บไปตลาดปลาซึกิจิ เพื่อหาซูชิสดๆหม่ำซะหน่อย เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงโตเกียว ซึ่งโลเคชั่นของตลาดปลาก็ดี๊ดี...ตั้งอยู่ตรงข้ามโรงแรมเลย เพียงแค่ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามก็เท่านั้น สนนราคาเซ็ตนึงประมาณ 15 คำอยู่ที่เกือบ 3,000 เยน รสชาติก็อร่อยสมคำร่ำลือ ได้รสสัมผัสความสดของชิ้นปลา ส่วนรูปประกอบจะไม่ลงเพราะเกรงว่าจะกวนสมาธิการอ่านของทุกท่าน ^ ^ กลับมาเข้าเรื่องกันต่อ โชว์รูม Onkyo เป็นตึกแถวตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจ ภายในชั้น 1 และ 2 ของโชว์รูมมีสินค้าเจ๋งๆอยู่หลายอย่าง ตามมาดูกันเลยครับ


เข้ามาภายในโชว์รูมก็เจอโซน Gibson ผู้ผลิตกีตาร์ระดับโลก
โดย Gibson เป็นหนึ่งในเครือของบริษัท Onkyo ด้วยเช่นกัน


ลำโพงดีไซน์สุดชิคจาก Gibson


ชุดดีเจ จาก Gibson แหม....แบรนด์ Gibson นี่ก็บันเทิงครบทุกด้านจัง


เครื่องเล่นแผ่นเสียงและลำโพงของ TEAC


ชุด Mini Component ของ Onkyo


มาดูของ Pioneer กันบ้าง


แบรนด์ Philips ก็อยู่ภายในการดูแลของ Onkyo แล้วในญี่ปุ่น


หูฟัง Onkyo หลากสีสัน คงเข้ามาบุกตลาดไทยในไม่ช้านี้


หูฟังระดับเทพ ต้องให้คนระดับเทพทดลองใส่แล้วโพสท์ท่าอวดหน่อย (ฮา)


มีจัดเป็นชุด Dolby Atmos ขนาดกระทัดรัดเพื่อจำลองการเซ็ตอัพในห้องนั่งเล่น


ลำโพงสไตล์วินเทจของ Onkyo รุ่น D-77N หาดูได้ยาก

:::: Digital Audio Player ::::
ตอนนี้ได้เวลาเข้าห้องประชุมเพื่อรับทราบทิศทางทางการตลาดของสินค้าประเภท Digital Audio Player (DAP) หรือเครื่องเล่นเพลงพกพา ต้องยอมรับว่ายุคสมัยนั้นเปลี่ยนไป จากครั้งหนึ่งในยุคเครื่องเล่น mp3 แบบพกพารุ่งเรืองสุดขีด จนการก้าวเข้ามาของโทรศัพท์ Smart Phone ทำให้เครื่องเล่น mp3 ราคาต่ำนั้นแทบสูญพันธุ์ไป จนกระทั่งในยุคอินเตอร์เน็ตและสัญญาณ 3G/4G แรงเต็มสปีด การดาวน์โหลดเพลงหรือแม้กระทั่งสตรีมมิ่งเพลงระดับ Hi-Res เป็นเรื่องง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วย ความต้องการเสพเพลงที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าพวก mp3 จึงทวีความเข้มข้นขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งโทรศัพท์ Smart Phone ในปัจจุบันกลับตอบโจทย์ตรงนี้ไม่ได้ ทำให้เกิดช่องว่างในตลาดสำหรับเครื่องเล่น Hi-Res Audio Player บูมเป็นกระแสขึ้นมา และเป็นตลาดที่มีแนวโน้มว่าจะโตขึ้นและโตขึ้นในทุกๆปี แบรนด์อย่าง Onkyo และ Pioneer เองต้องยอมรับว่าเข้ามายังตลาดนี้ "ช้ากว่า" ผู้เล่นเจ้าเก่าอยู่บ้าง แต่สำหรับผมแล้วถือว่า "มาช้ายังดีกว่าไม่มา" หากพิจารณาถึง "องค์ความรู้" ที่ทาง Onkyo และ Pioneer มีอยู่ก็น่าสนุกไม่เบา อย่าลืมว่าทั้ง 2 แบรนด์นี้คือแบรนด์แนวหน้าในเรื่องเครื่องเสียงบ้าน หากจะถ่ายทอดเทคโนโลยีที่มีอยู่ในมืออยู่แล้ว...ลงสู่เครื่องเล่นเพลง Hi-Res แบบพกพาก็คงน่าฟังมิใช่น้อย เอาเป็นว่ามาดูการแนะนำเครื่องเล่น Hi-Res ของทั้ง 2 เจ้ากันก่อน


เริ่มพรีเซนต์ : โปรเจกต์พิเศษของ Onkyo ที่ทำหูฟังร่วมกับ Iron Maiden วง Heavy Metal จากเกาะอังกฤษ


ฉากหลังนี่กีต้าร์ Gibson เรียงกันเป็นตับ กิเลสพุ่งกันเป็นแถบ


รูปหมู่พร้อมกับทีมงาน Onkyo ชาวญี่ปุ่น ประกบด้วย
พี่ธรรมนูญแห่งนิตยสาร Audiophile - Videophile และน้องภัคกร Blogger หูฟังรุ่นใหม่ไฟแรง

:::: Onkyo VS Pioneer ::::
เอาหละขอเข้าประเด็นเรื่องเครื่องเล่น Digital Audio Player : DAP (หรือจะเรียกว่า Hi-Res Audio Player ก็ได้เช่นกัน) แบบพกพาเลยดีกว่า ทาง Onkyo ได้เริ่มเปิดตัว DP-X1 ราคาเปิดตัวที่ญี่ปุ่นไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่ที่ 69,800 เยน  กลุ่มเป้าหมายเน้นกลุ่ม Audiophile หรือพวกที่ชื่นชอบคุณภาพเสียงดีที่สุดเป็นหลัก โดยแผงวงจรเป็นแบบ Full Balanced เพื่อคอ Audiophile โดยเฉพาะ ความพิเศษของ DP-X1 ที่เหนือกว่า DAP ทั่วไปคือใช้ DAC ESS Sabre x 2 (Dual Sabre DAC) ทาง Onkyo "เบิ้ล DAC" ให้แบบนี้คือจัดเต็มเรื่องคุณภาพของเสียงอย่างแน่นอน

มาถึงฝ่ายแดงกันบ้าง Pioneer รุ่น XDP-100R ราคาเปิดตัวตำกว่าอยู่ที่ 59,800 เยน ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม เน้นกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปและพวกมือใหม่อยากไฮเรส ตัวเครื่องใช้ DAC ESS Sabre x 1 และตัดพอร์ท Balance ออกไป แต่ที่มีเพิ่มมาคือ Speaker ขนาดเล็กเผื่อเปิดเพลงฟังแบบชิลๆ อีกจุดที่ต่างกันคือเรื่องโครงสร้างภายใน ถึงแม้จะใช้แผงเมนบอร์ดของ Android เหมือนกัน แต่ Onkyo ใช้ Capacitor ที่ใหญ่กว่าส่งผลถึงระบบไฟภายในที่ดีเลิศกว่า ซึ่งทำให้แบตเตอรี่หมดช้ากว่าด้วย ส่วนที่เหมือนทั้งคู่คือระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 สามารถโหลดแอพส์จาก Playstore ได้ รองรับไฟล์ Hi-Res Audio หลากรูปแบบ และมีความจุภายในสูงถึง 288 GB


เครื่องเล่นเพลงพกพา Onkyo & Pioneer เปิดตัวพร้อมกัน พร้อมกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต่างกัน


Digital Audio Player ของ Pioneer รุ่น XDP-100R


Digital Audio Player ของ Pioneer รุ่น XDP-100R


ส่วนนี่พระเอกของงาน Onkyo DP-X1 ซึ่งใช้ Dual Sabre DAC

:::: ผลการทดลองฟัง ::::
จากการทดลองฟังสลับไปๆมาๆซึ่งมีเวลาค่อนข้างประมาณ 15 นาทีเท่านั้น (ต้องสลับให้พี่ๆสื่อท่านอื่นฟังด้วย ^ ^) ต้องยอมรับว่า DAP ของทั้ง Onkyo และ Pioneer เสียงดีทั้งคู่ แต่ของ Onkyo เสียงที่ได้ดูเหมือนจะดีกว่าหากตั้งใจฟังดีๆ ทั้งเรื่องความสะอาดสะอ้าน และความชัดแจ้งของทั้งเสียงร้องและชิ้นดนตรี รวมถึง User Interface ของ Onkyo มีดีไซน์ที่ดูล้ำกว่า เป็นวงกลมไซไฟแบบรูปด้านบน สรุปได้ว่าคุณภาพไหลตามราคาไปครับงานนี้ ผมเองก็ค่อนข้างชื่นชอบน้ำซุ่มน้ำเสียงของแอมป์บ้านของ Onkyo เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซึ่งก็สามารถถ่ายทอด DNA ไปยังเครื่องเล่นเพลงขนาดพกพาได้อย่างดี เลยให้คำมั่นสัญญากับตัวเองว่าหากสินค้าเข้าไทยจริงและบริษัทผู้นำเข้าสามารถทำราคาเจ้า DP-X1 ได้ดีจริง ก็คงไม่พลาดสอยมาใช้งานเองซักตัว


41
:::: แนะนำสินค้าเรือธง ::::
เอาหละตอนนี้ทางทีม Pioneer ได้เชิญผมและคณะเข้าห้องทดสอบกันแล้ว โดเจ้าห้องที่ว่านี้ถูกออกแบบและใช้วัสดุซับเสียงตามหลักอะคูสติกที่ถูกต้องเพื่อทดสอบระบบเสียงแบบจริงจัง รวมถึงการติดตั้งลำโพงบนเพดานเพื่อให้เสียงในระบบ Dolby Atmos ที่กำลังเป็นกระแสนิยมในช่วงนี้ โดยหมวดสินค้าแรกที่ทางญี่ปุ่นจะบรรยายและสาธิตคือ

1) AV Receiver : ปณิธานสูงสุดของ Pioneer ในการออกแบบ AV Receiver คือ "True Realism" ซึ่งคือ การถ่ายทอดภาพและสียงออกมาสมจริงมากที่สุดดั่งที่ผู้กำกับอยากจะให้เป็น โดยรุ่นที่เขานำเสนอเป็นพิเศษคือรุ่นท็อปตัวเอ้ที่ได้รับรางวัล "ห้าดาว" จากนิตยสาร What HiFi ของฝั่ง UK อย่างรุ่น SC-LX88 ส่วนจุดเด่นได้แก่หลักการออกแบบแบบ Direct Energy Output ที่ผสมผสานหลักการภาคขยายแบบ Class D มีระบบปรับเสียงแบบ MCACC หรือ Multi Channel Acoustic Calibration System ที่จะคอยปรับเสียงและชดเชยเสียงลำโพงแต่ละแชนแนลให้แมตช์กับสภาพห้องที่ต่างกันไป ให้เสียงแต่ละย่านสอดประสานกันอย่างไร้รอยต่อ นอกจากนี้ยังมีระบบ WiFi Dual Band  รองรับการสตรีมมิ่งเพลง Hi-Res แบบไร้สายในคลื่นความถี่แบบ 2.4 GHz และ 5 GHz (สำหรับสตรีมเพลง Hi-Res ที่มีขนาดไฟล์ใหญ่) และยังรอบรับการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth ด้วยเช่นกัน ส่วนระบบภาพมี 4K Video Scaler ที่ต่อยอดมาจากตัวเครื่องเล่น Blu-ray BDP-LX88 ที่รองรับการอัพสเกลภาพจาก HD/Full HD ให้เป็นระดับ 4K และทำได้สูงสุดคือ 4K 60p ยิ่งไปกว่านั้นยังรองรับคุณสมบัติแห่งอนาคตออย่าง HDR หรือ High Dynamic Range และมาตรฐานขอบเขตสีแบบใหม่ล่าสุดอย่าง BT.2020 เสียด้วย


ณ ห้องทดสอบของ Pioneer สัมผัสของจริงภาพจริงเสียงจริง


ตัวหลักในการทดสอบได้แก่ AV Receiver รุ่น SC-LX88 และ Blu-ray Player รุ่น BDP-LX88


AV Receiver รุ่นเรือธง SC-LX88 ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 79,990 บาท


ด้านหลัง


ผู้บริหาร Pioneer แกยิ้มแฉ่ง Proud to Present แผงวงจรของ SC-LX88

2) Blu-ray Player : ฺBDP-LX88 เป็นเครื่องเล่นแผ่น Blu-ray ตัวท็อป ผมขอเริ่มสรุปจากที่ได้รับฟังบรรยายจากผู้บริหารชาวญี่ปุ่น เริ่มจากโครงสร้างการออกแบบ ตัวถังภายนอกแข็งแกร่งด้วยวัสดุโลหะ มีน้ำหนัก 13.4 กิโลกรัม ส่วนโครงสร้างภายในดูแน่นหนา เครื่องเคราถูกจัดเต็มไว้ภายใน ไม่ได้กลวงโบ๋เหมือนเครื่องเล่นราคาถูกตามท้องตลาดทั่วไป โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักได้แก่

1) Power Supply Block : ภาคจ่ายไฟ
2) Digital Processing Block : ภาคดิจิตอลและตัวไดรฟ์บลูเรย์
3) Audio Circuit Block : ภาคอนาล็อก

ซึ่งเป็นปกติของเครื่องเล่นระดับไฮเอ็นด์ที่มีการแบ่งเป็นสัดเป็นส่วนแบบนี้เพื่อให้การทำงานและสัญญาณ "ไม่กวนกัน" ส่วนตัวขับเคลื่อนอย่าง BD Drive ก็มีโครงสร้างกันการสั่นสะเทือนเพื่อความสมบูรณ์ในการอ่านแผ่น ในแง่ของคุณภาพการเล่นเพลง มีการออกแบบในส่วนของ Power Supply ให้ตัวหม้อแปลงมีการชีลด์กันสั่นสะเทือนและลดสัญญาณรบกวนด้วยเคสโลหะเคลือบทองแดง โดยเจ้าหม้อแปลงที่ว่าจะจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ภาค Analog โดยตรง จึงได้ความสะอาดและความเสถียรของระบบไฟซึ่งส่งผลต่อคุณภาพของเสียงอย่างยิ่งยวดทั้งเรื่องไดนามิกและความสงัดของแบ็คกราวนด์ ส่วนชิพ DAC : Digital to Analog Converter ก็ใช้ของ ESS Sabre 32 เบอร์ ES9018 อันเลื่องชื่อ พร้อมขั้วต่อแบบ XLR (Balanced) ส่วนระบบภาพถูกขับเคลื่อนด้วย Pixel Precise HD Engine ที่ช่วยยกระดับคุณภาพของภาพให้ดีขึ้น แถมยังช่วยลดสัญญาณรบกวนพวก Block Noise และ Mosquito Noise อีกด้วย ตัวเครื่องยังสามารถอัพสเกลสัญญาณภาพ Full HD ธรรมดาให้เป็น 4K ด้วยชิพประมวลผลที่มีชื่อว่า 4K Reference Converter การอัพสเกลสัญญาณภาพจะช่วยทั้งเรื่องการดึงรายละเอียดพื้นผิวให้ชัดแจ้งขึ้นและขัดเกลาขอบภาพให้เรียบเนียนขึ้นไร้ซึ่งรอยหยัก


BDP-LX88 หนึ่งใน Blu-ray Player ที่ดีที่สุด ณ นาทีนี้
สนนราคาเปิดตัวอยู่ที่ 39,900 บาท


ด้านหลังมี HDMI Out ให้ 2 ชุด และพอร์ท XLR และ RCA สำหรับฟังเพลงโดยเฉพาะ
ขั้วต่อทั้งหมดมีการ "ชุบทอง" คงถูกใจนักเล่นเส้นสายมิใช่น้อย


รูปโครงสร้างภายในที่แบ่งเป็น 3 ส่วนทั้ง 1) ภาคจ่ายไฟ 2) ภาคดิจิตอล 3) ภาคอนาล็อก


สังเกต "ลำโพงบนเพดาน" ถูกเซ็ตอัพไว้รองรับระบบเสียง Dolby Atmos


ซิสเต็มที่ใช้ทดสอบในวันนี้ทุกอย่างคือสินค้าในเครือ Pioneer
ทั้ง TAD Speaker (ไฮโซนะเนี่ย) , Pioneer AV Receiver และ Pioneer Blu-ray Player


แผ่น Blu-ray Disc เรื่องต่างๆที่ Pioneer ใช้อ้างอิง ท่านไหนยังไม่มีแผ่นไหนรีบไปซื้อมาประดับบารมีซะ


หนังมิวสิคัลเรื่อง Chicago มีระบบเสียง Dolby Atmos ด้วยนะ
ผมเองรีบตามหาแผ่นนี้โดยด่วนเช่นกัน


ในเมื่อเครื่องเล่นพร้อมและแผ่นก็พร้อม จะรอช้าอยู่ใย เริ่มทดสอบสิครับพี่น้อง !

:::: ทดสอบ ::::
มาดูการทดสอบเสียงจริงภาพจริงกัน ทีม Pioneer เลือกเปิดหนังเรื่อง Jupiter Ascending ระบบเสียงเป็นแบบ Dolby Atmos แท้ๆ ซุ่มเสียงที่ได้ถือว่าให้มิติดีเยี่ยม การโยนเสียงจากแชนแนลสู่อีกแชนแนลทำได้เรียบเนียนไร้รอยต่อ เสียงจากลำโพงบนเพดานช่วยเสริมอรรถรสให้สมจริงในจังหวะยานบินฉวัดเฉวียนข้ามหัวไปข้ามหัวมา น้ำหนักเสียงหนักแน่นแบบพอดีๆ ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัด ปลายเสียงชัดเจนจะแจ้ง ความเห็นส่วนตัวได้อารมณ์มากกว่าดูโรงหนังบ้านเราด้วยซ้ำ ถัดไปเป็นหนังมิวสิคัลเรื่อง Chicago ที่มีทำเป็นเวอร์ชั่น Dolby Atmos ในฉากร้องเพลง Cell Block Tango โดยเจ๊แคทเธอรีน ซีต้าโจนส์  (แอบปลื้มในความสวยอมตะ) ทั้งซิสเต็มสามารถขับเคลื่อน "ความยิ่งใหญ่" ทั้งสเกลเสียงร้องและชิ้นดนตรีส่งตรงเข้าโสตสัมผัสของผมและสมาชิกร่วมทริป บีทเพลงและจังหวะเครื่องเคาะเครื่องเป่าเย้ายวนพลันให้ผงกหัวตามไปโดยมิรู้ตัว

ส่วนเรื่องภาพนี่คงไม่ต้องสาธยายถึงคุณภาพนัก จัดว่าใสสะอาด ให้สีสันสวยเป็นธรรมชาติ โมชั่นภาพเมื่อเล่นกับเครื่องฉายนี่ลื่นดีมาก ตอนแรกก็ตั้งสมมติฐานว่าการทำงานร่วมกันระหว่าง AV Receiver และเครื่องเล่น Blu-ray Player ซึ่งเป็น "แบรนด์เดียวกัน" น่าจะให้ผลลัพธ์ที่ดูลงตัวกว่า (ประหนึ่งนักฟุตบอลที่เล่นเข้าขากัน) ซึ่งก็มารู้ทีหลังว่ามันก็เป็นเรื่อง "จริง" หลังจากสอบถามทางวิศวกร เขาให้เหตุผลว่า Pioneer มีเทคโนโลยี PQLS ซึ่งหากใช้เครื่องเล่น Blu-ray Player กับ AV Receiver เข้าด้วยกัน การส่งผ่านสัญญาณดิจิตอลจะเป็นไปอย่างราบลื่นกว่ามากเพราะ PQLS จะช่วยลดทอนปัญหา Jitter ด้วยการปรับสัญญาณนาฬิกาหรือ Clock จากทั้ง 2 อุปกรณ์ให้ตรงกัน ทำให้คุณภาพภาพและเสียงที่ได้มีควาสมบูรณ์ยิ่งกว่า

หลังจากนั้นทีมงาน Pioneer ก็ได้เปิดเพลง Classic แบบ Hi-Res 96Hz/24Bit โดยนักประพันธ์ Tchaikovsky เพลง Souvenir De Florence. Op 70: I. Allegro Con Spirito ให้ทดสอบกันอย่างต่อเนื่องไปเลย โดยเล่นผ่าน USB ที่รองรับไฟล์ Hi-Res ในตัว ผลลัพธ์ที่ได้ให้เสียงที่โอ่อ่า เวทีเสียงกว้างขวาง เสียงรัวไวโอลินลื่นไหล ฟังสบายในขณะที่ยังคงความหนักแน่นไว้ได้ดี เห็นแบบนี้คำว่า Universal Player ถูกบัญญัติมาให้ BDP-LX88 ได้อย่างเต็มตัว ลบภาพเดิมๆว่า Blu-ray Player ต้องเอามาเล่นแผ่นหนังอย่างเดียวไปเสียจนหมดสิ้น โดยเจ้า BDP-LX88 รองรับการเล่นแผ่นแทบทกุรูปแบบตั้งแต่ BD, DVD, CD Audio, DVD Audio และ SACD และยังรองรับการเล่นมัลติมิเดียไฟล์ผ่านทาง USB อีกด้วย โดยเฉพาะไฟล์เสียง Hi-Res อย่าง FLAC, DSD, WAV, ALAC, AAC เหมาเข่งเล่นได้ทั้งหมด

:::: คลิปทดสอบเสียงจริง :::: https://www.youtube.com/watch?v=H0ZwAvbi0Es
เพลงคลาสสิค Hi-Res ของ Tchaikovsky - Souvenir De Florence. Op 70: I. Allegro Con Spirito
เล่นผ่าน Pioneer BDP-LX88 / Pioneer AVR SC-LX88 / และลำโพง TAD

:::: แล้วเลือกตัวไหนดีหละ ? ::::
สำหรับ Blu-ray Player ของ Pioneer ระดับไฮเอ็นด์นั้นมี 2 รุ่นด้วยกันได้แก่รุ่นท็อป BDP-LX88 ราคา 39,900 บาท และรุ่นรองท็อปซึ่งก็คือ BDP-LX58 ราคา 20,900 บาท เลยขอฟันธงให้ว่า หากงบประมาณไม่ใช่ปัญหา  อยากไปให้สุดทั้งการดูหนัง+ฟังเพลง LX88 คือคำตอบที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตามหากเน้นดูหนังเป็นหลัก ไม่เน้นฟังเพลงมากนัก กับงบประมาณที่มีจำกัด LX58 จะเป็นตัวเลือกที่ให้คุณค่าสูงมากเมื่อเทียบกับเม็ดเงินที่จ่ายไป

:::: บทสรุป ::::
ทั้งเครื่องเล่น Blu-ray BDP-LX88 และ AV Receiver SC-LX88 ร่วมกันแสดงศักยภาพออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ซึ่งก็มิได้เกินความคาดหมายอะไรนักเพราะทีมวิศวกรชาวญี่ปุ่นของ Pioneer พี่แกเล่นใช้ "ของดี" เซ็ตอัพทุกอย่างให้ดูสมบูรณ์แบบที่สุด ไหนจะอะคูสติคของห้องที่เปรียบดั่งโรงภาพยนตร์ขนาดย่อม ผสานลำโพงเกรดไฮเอ็นด์อย่าง TAD  แต่ก็นั่นแหละที่ทำให้ผมได้มีโอกาสสัมผัสกับ "ศักยภาพที่แท้จริง" ของซิสเต็มนี้โดยปราศจากข้อจำกัดแม้แต่น้อย สุดท้ายก็ได้รับทราบถึงประสิทธิภาพสูงสุดจากทั้ง 2 อุปกรณ์รุ่นเรือธงที่พึงจะเผยออกมาได้ ด้วยคุณภาพระดับนี้ Pioneer จึงน่าจะกลับมา "ผงาด" ในตลาด Home Entertainment บ้านเราได้ไม่ยาก


หลังจากนั้นก็มีการนำเสนอสินค้าอีกหมวดได้แก่
3) Integrated Amplifier และ 4) เครื่องเล่น Hi-Res Audio Player ระดับ Hi-Fi
สมาชิกร่วมทริปมีงัดเอาเพลง Hi-Res ส่วนตัวจากมือถือตัวเองมาร่วมทดสอบ
และบ้างก็พกแผ่น CD เพลงไทยมาเพื่อฟีเจอริ่งกับเครื่องเสียงญี่ปุ่นโดยเฉพาะ


พลพรรคสื่อมวลชนไปรอช้ารีบเข้าไป "ไทยมุง" เจ้า Pioneer Integrated Amplifier กันอย่างใกล้ชิด


สุดท้ายมีการสาธิตเจ้า 5) Mini Component ซึ่งในปัจจุบันนี้การเล่นเพลงจาก CD Audio อย่างเดียว...
ไม่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในยุคดิจิตอลแล้ว ทว่าความสามารถ
ในการเล่นเพลงผ่าน Mobile Device ต่างหากเข้ามามีอิทธิพลสำคัญในยุคนี้


ว่าแล้วก็เชื่อมต่อมือถือผ่าน Bluetooth และเล่นเพลงผ่าน iPhone ซะเลย

:::: แล้ว Onkyo VS Pioneer ??? ::::
สำหรับการทัวร์สำนักงานใหญ่ของ Pioneer ที่เมืองคาวาซากิซึ่งใช้เวลาเต็มวันก็สิ้นสุดลง ถือว่า"เต็มวัน" ก็ได้ "เต็มอิ่ม" กับระบบภาพและเสียงที่ไม่บ่อยนักจะได้สัมผัสแบบใกล้ชิดเช่นนี้ รวมถึงมีโอกาสถามคำถามเชิงเทคนิคกับวิศวกรชาวญี่ปุ่นโดยตรง ซึ่งก็ได้รับคำตอบคลายข้อสงสัยทุกประเด็น จึงนำข้อมูลมาเรียบเรียงเป็นบทความให้ทุกท่านได้อ่านกันนี่แหละ และอีกหนึ่งคำถามที่ผมและหลายท่านสงสัยมากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องการรวมบริษัท Onkyo และ Pioneer จะมีผลกับสินค้าทั้ง 2 แบรนด์อย่างไร ? คำตอบคือแนวทางการออกแบบสินค้ายังไงก็แบรนด์ใครแบรนด์มัน ปรัชญาการออกแบบต่างกัน (ทีมออกแบบคนละทีม) บุคลิกของเสียงจึงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนกัน ท่านที่เล่นเครื่องเสียง Pioneer จะทราบดีกว่าบุคลิกเสียงของ Pioneer AV Receiver เสียงเบสจะออกดุดัน ฟังแล้วหนักแน่นตึงตังกว่า ส่วน Onkyo ให้ความละเมียดละไมไหลลื่น เสียงสดใส ฟังสบาย ทั้ง 2 แบรนด์จึงเป็น "ตัวเลือก" ที่ดีสำหรับลูกค้าที่มี "ความชอบแตกต่างกันออกไป" ในขณะที่ประโยชน์ที่ทั้ง 2 บริษัทได้รับไปเต็มๆก็คือเรื่อง Economy of Scale หรือชิ้นส่วนบางอย่างที่สามารถผลิตหรือใช้ร่วมกันได้ จะถูกผลิต/สั่งซื้อในปริมาณที่เยอะขึ้น = ต้นทุนก็จะถูกลง รวมถึง Technology Sharing การถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ซึ่งกันและกันเพื่อต่อยอดพัฒนาสินค้าให้ดีขึ้นกว่าเดิม ผู้บริโภคอย่างเราจึงมีแต่ได้กับได้ เอาหละตอนถัดไปจะพาไปเยี่ยมโชว์รูมของ Onkyo แบรนด์เครื่องเสียงที่ถูกจัดว่าเป็น "อันดับหนึ่ง" ขวัญใจชาวเว็บ LCDTVTHAILAND จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปดูกันต่อเลย !

42
"ญี่ปุ่น" ประเทศในฝันของชายไทยหลายท่าน เป็นศูนย์กลางความเจริญในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน แฟชั่น ตลอดจนสินค้าเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่าใครเพื่อน หากพูดถึงวงการเครื่องเสียงและโฮมเธียเตอร์บ้านเรา 2 แบรนด์ยักษ์ใหญ่จากแดนอาทิตย์อุทัยที่เราได้ยินชื่อกันมาแต่เด็กก็คงหนีไม่พ้น Onkyo และ Pioneer ในช่วงปี 2015 ที่ผ่านมาก็เกิดปรากฏการณ์การรวมตัวครั้งใหญ่ขึ้น (ยังกับคอนเสิร์ต) ทางบริษัท Onkyo ได้ร่วมเข้าถือหุ้นบริษัท Pioneer และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Onkyo Pioneer Corporation เท่ากับว่าเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญในวงการภาพและเสียง ดังนี้เมื่อวันที่ 18-22 ตุลาคมที่ผ่านมาทาง บริษัท เซ็นทรัล เทรดดิ้ง จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าเครื่องเสียงแบรนด์ Onkyo และ Pioneer จึงได้เชิญพลพรรคสื่อมวลชนในวงการภาพและเสียงเดินทางลัดฟ้าไปยังมหานครโตเกียว เพื่อเข้าเยี่ยมชมทั้ง 2 บริษัท และรับทราบถึงทิศทางการดำเนินงาน ตลอดจนนวัตกรรมสินค้าใหม่ๆ เป็นโอกาสอันดีที่ผม "นายโรมัน" จะได้ร่วมสัมผัสสินค้าใหม่ก่อนใคร และเก็บภาพบรรยากาศตลอดทั้งทริปมาฝากแฟนเว็บทุกท่านครับ เชื่อว่าช่วยให้ท่านได้เห็นมุมมองใหม่ๆของทั้ง 2 บริษัท เพราะแต่เริ่มเดิมทีทางเว็บก็จะมีแต่การตะบี้ตะบันรีวิวสินค้าแบบเจาะลึกเพียงอย่างเดียว

Onkyo Pioneer Corporation

:::: Day 1 & 2 ::::
คณะเริ่มเดินทางแต่เช้าวันที่ 18 ตุลาคม จากสนามบินสุวรรณภูมิและมาถึงสนามบินนาริตะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นในช่วงเย็นใกล้ค่ำของวันนั้น กว่าจะเดินเดินทางเข้าโรงแรมย่านตลาดปลาซึกิจิก็เกือบหมดวันแล้ว รุ่งขึ้นทางคณะก็ได้เริ่มภารกิจเยี่ยมชม บริษัท Pioneer Corporation จำกัด ในวันที่ 19 ตุลาคม ใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro และไปต่อรถไฟบนดิน JR สิริรวมแล้วประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงเมืองคาวาซากิซึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากโตเกียวมากนัก ทว่าได้กลิ่นอายความเป็นต่างจังหวัดอยู่มิน้อย สังเกตจากทุ่งหญ้าริมทางระหว่างนั่งรถไฟไปเหมือนดูรายงานเที่ยวญี่ปุ่นตามช้่อง True Visions ยังไงอย่างงั้น พอเข้ามาในอาณาเขต ไม่สิหรือจะเรียกอาณาจักรสำนักงานใหญ่ก็ได้เห็นตัวตึกขนาดใหญ่โตตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า


สำนักงานใหญ่ของ Pioneer ตั้งอยู่ที่เมืองคาวาซากิ ไม่ไกลจากกรุงโตเกียว


ทางคณะผู้บริหาร Pioneer ออกมาต้อนรับคณะของพวกเราและให้เกียรติถ่ายรูปอย่างเป็นกันเอง
ส่วนโฉมหน้าค่าตาของสื่อมวลชนไทยที่ไปในทริปนี้ขอบอกว่าระดับ "บิ๊กเนม" ทั้งนั้นในวงการภาพและเสียง


บรรยากาศภายในโชว์รูมดูโล่งโปร่งสบาย


เริ่มสำรวจอาณาบริเวณภายในสำนักงานใหญ่ก็ไปปะกับอดีตทีวีที่ดีที่สุดในวงการ Pioneer - Kuro
Kuro อ่านว่า คุโระ แปลว่า "ดำ" เพราะว่า Kuro เป็น Plasma TV ที่ให้ระดับความดำได้ดีที่สุดในยุคนั้น
แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ยุติการผลิตไปหมดแล้ว คงเหลือแต่สินค้าหมวด Home Theater และ Audio


รูปปั้นของคุณมัทสึโมโต้ ผู้ก่อตั้ง Pioneer


ตู้โชว์ "ลำโพงชิ้นแรก" ของ Pioneer ที่ผลิตโดยผู้ก่อตั้งบริษัท คุณโนโซมุ มัตสึโมโต้
เชื่อไหมครับว่าเริ่มผลิตที่โรงรถเล็กๆในบ้านของเขาเอง เพียงก้าวเล็กๆก้าวนี้ก่อให้เกิดความยิ่งใหญ่อย่างไม่น่าเขื่อ

ก่อนที่ทีมงาน Pioneer จะเริ่มต้นการบรรยายไลน์อัพสินค้าของเขา ผมขอแนะนำประวัติของบริษัท Pioneer ให้ทุกท่านทราบพอสังเขป เริ่มต้นในปี 1938 โดยคุณโนโซมุ มันสึโมโต้ จากเพียงแค่การผลิตลำโพงในโรงรถเล็กๆที่บ้าน จนมาในปี 1947 ก็ได้จดทะเบียนก่อตั้งเป็น บริษัท Pioneer Corporation จำกัด โดยปัจจุบันมีโรงงานผลิตสินค้าอยู่ที่เมืองไซตามะ ส่วนสำนักงานใหญ่ก็ตั้งอยู่ที่เมืองคาวาซากิ มีจำนวนพนักงานทั้งหมดกว่า 19,000 คน มียอดขายปีล่าสุดกว่า 501,676 ล้านเยน และนอกจากนี้ Pioneer ยังเป็นผู้ผลิต "เจ้าแรกของโลก" ในหลายหมวดสินค้าไม่ว่าจะเป็น LD Player, CD Player, Component Car Stereo , Projection Monitor, XGA Plasma TV, และรวมถึงเจ้า Kuro Plasma TV ขนาด 50" กับความละเอียดระดับ Full HD เป็นต้น


43
ขอบคุณมากครับคุณ The Jia

ส่วนครั้งถัดไปจะมีงานบรรยายหัวข้ออะไร โปรดติดตามกันเรื่อยๆนะครับผม ^ ^

ไปร่วมงานมาครับ ประทับใจภาพ HDR, แจ่มจริงๆครับ แม้จะยังไม่เห็นวี่แววว่าจะได้เอามาใช้ในช่วง 2-3 ปีนี้เท่าไหร่ แต่ได้ดูแล้วก็ตื่นตาตื่นใจดี

มีตอนเดินเข้าห้องไปครั้งแรกก่อนงานเริ่ม ตกใจนึกว่าทีมงานยังไม่ได้ตั้งค่าจอหรือ calibrate ภาพมา เพราะทุกจอดูสีจางเป็นฝ้าหมดเลย ไม่เว้นแม้แต่ 78" รุ่นท๊อป... เผลอคิดว่าจะมา calibrate ให้ดูกันสดๆ หรือให้ดูภาพก่อน calibrate อะไรประมาณนั้น

ปรากฏว่าเป็นเพราะมุมมองจอมันแคบมาาาากกก คือถ้ามองภาพตรงๆนี่สวยเลย แต่มองเอียงจากจอแค่นิดเดียว สีเปลี่ยน และไม่ได้เปลี่ยนแค่นิดหน่อย แต่เปลี่ยนเยอะมาก จากรุ่นท๊อปกลายเป็นรุ่นถูกทันที อย่างที่ทีมงานพยายามพูดในช่วงบรรยายตลอดว่า อยากให้ดูจอแบบตรงๆ น่าจะเพราะปัญหาเรื่องนี้

พอลองไปหาข้อมูลพบว่าจอ samsung มีมุมมองภาพแค่ 17 องศาเท่านั้น ! ถ้าใครที่ดูทีวีจากด้านหน้าตรงๆตลอดอยู่แล้ว ภาพมันก็แจ่มมากนะ แต่คงไม่เหมาะไปตั้งห้องนั่งเล่นที่เน้นมุมกว้าง ถ้าห้องดูหนังน่าจะหล่อเลย

อารมณ์มันคล้ายๆภาพนี้เลยครับ แต่ของจริงจะเห็นค่อนข้างชัด คือจอที่อยู่ใกล้สุดภาพจะดูเข้มสุด และสีสันดูดีสุด เพราะมันอยู่ในมุมที่ไม่เอียงมากนัก (ทั้งที่เป็นจอรุ่นถูกสุดนะ ตัวใกล้)


โดยรวมจัดงานออกมาได้ดีครับ พิธีกรพูดสนุก ผมคิดว่าพอจะรู้เรื่องพวกนี้เยอะพอสมควรนะ แต่มางานก็ยังได้รู้อะไรเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกมากทีเดียว

44
โชว์ให้เห็น เล่นให้รู้ ดูให้เป็น !!!! Workshop นี้จะเปิดโลกทัศน์เกี่ยวกับระบบภาพ และเสริมความรู้ที่ท่านไม่เคยได้เห็นจากที่ไหนมาก่อน เหมาะมากทั้งมือใหม่หรือมือโปรนักเล่นทีวี





เหลืออีกไม่กี่ที่แล้วครับ งานนี้ฟังบรรยายฟรี ! ถือเป็นการมีทติ้งเว็บ LCDTVTHAILAND ไปในตัวเลยครับ ^ ^

วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม เวลา 13.00-15.00 ที่งาน TAV SHOW 2015 ชั้น 2 โรงแรมเอเชีย (BTS ราชเทวี)

ลงทะเบียนจองที่นั่ง ส่งชื่อ เบอร์โทร และจำนวนที่นั่ง มาที่ Email

1. อีเมล์ [email protected] หรือ [email protected]

2. หรือ PM หามผม Roman หรือคุณ NrDM เจ้าของกระทู้ก็ได้

2. และเช็คการอัพเดทรายชื่อที่กระทู้นี้ครับ


45
ตอนนี้ทีมงานได้เตรียมคอนเทนต์และแพทเทิร์นทดสอบเรื่องภาพไว้ครบแล้วครับ

ในงานจะได้เห็นเป็นครั้งแรกอยู่หลายอันพอสมควร

1. Resolution 4K VS Full HD ต่างกันหรือไม่ ? เช็คอย่างไร ?

2. Color เรื่องสีสัน VS ขอบเขตของสี : ต่างกันอย่างไร ?

3. Motion ภาพเคลื่อนไหว อย่างไรเรียกดี ? อย่างไรไม่ดี ? ต้องเปิด Motion Plus แทรกเฟรมภาพระดับไหน ?

4. จอแบบ 10 Bit VS 8 Bit จะเช็คได้อย่างไร ? แล้ว 10 Bit มันมีดีอย่างไร ?

5. ระดับความดำ เปิด Local Dimming ดีหรือไม่ ? ใช้งานอย่างไร ? Edge LED VS Full LED ใครดีกว่ากัน ?

6. HDR ครั้งแรกในประเทศไทยกับการสาธิตด้วยคอนเทนต์ HDR แท้ๆ ? มี HDR แล้วภาพดีจริงขึ้นหรือไม่ ? หรือแค่ฟีเจอร์กำมะลอ ?

ทั้งหมดคือฟีเจอร์ของ SUHD และมาดูกันว่าเซ็ตอัพอย่างไรให้ "ภาพดีที่สุด" !!!

----------------------------------------------------------------------------------------


งานบรรยายนี้เหมาะกับใคร

1. มือใหม่ : จะได้เห็นภาพการทดสอบทีวีกับแบบตัวเป็นๆ มิใช่การอ่านตัวอักษรรีวิวในเว็บหรือนิตยสาร จะได้จำแนกได้ว่าอันไหนภาพดีหรือไม่ดี ?

2. มือโปร : เห็นการทดสอบแบบเจาะลึก คลายทุกข้อสงสัย เห็นภาพเทียบกันแบบตัวต่อตัว

3. ผู้ที่มีความสนใจเรื่อง AV : ได้สาระและความรู้มากมายแน่นอน


------------------------------------------------------------------------------------------

จองที่นั่งฟังบรรยาย (ฟรี แถมมีของแจกอีก)

ส่ง Email เข้ามาที่ [email protected] หรือ [email protected]

แจ้งชื่อจริง เบอร์โทรศัพท์ และจำนวนที่นั่งที่ต้องการ (ฟังบรรยายฟรี)

หลังจากที่ท่านส่งอีกเมล์เข้ามาแล้ว ให้ท่านกลับมาอัพเดทรายชื่อของท่านได้ที่
>>> http://www.lcdtvthailand.com/webboard/index.php?topic=169923.msg1131043#msg1131043

-----------------------------------------------------------------------------------------

งานบรรยายประจำปีของเว็บ LCDTVTHAILAND ฟังฟรี มีของแจก

หัวข้อ : ล้วงลึก Samsung SUHD TV สุดยอดเทคโนโลยีทีวีจริงหรือ?

แล้วพบกัน วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม 2015 ชั้น 2 โรงแรมเอเชีย (BTS นานา) งานแสดงเครื่องเสียง TAV SHOW 2015

** เวลา 10.00 - 13.00 ช่วงโปรโมชั่นทีวี Samsung ราคาพิเศษ

** เวลา 13.00 - 15.00 ช่วงเวลาบรรยายให้ความรู้ : ล้วงลึก Samsung SUHD TV สุดยอดเทคโนโลยีทีวีจริงหรือ? (ลงทะเบียน 12.30)

** เวลา 15.00 - 19.00 ช่วงโปรโมชั่นทีวี Samsung ราคาพิเศษ

-----------------------------------------------------------------------------------------------



46
พี่ DooDoo มาแทบทุกครั้งเลยครับ

ครั้งนี้ขอจัดที่นั่งพิเศษ เป็นเก้าอี้นวดให้เลยนะครับ ^ ^

doodoo  ส่งPM ไปจอง 2 ที่นั่งครับ

47
จากใจคุณโรมัน....อยากให้พบกันในงานบรรยาย

เพื่อนๆรีบลงทะเบียนกันเลยนะครับ งานนี้ฟังฟรี ได้ความรู้ ความบันเทิง แถมมีของแจกฟรีอีกครับ ^^

เสมือนการ Meeting เว็บ LCDTVTHAILAND ไปในตัวครับ จะได้เห็นหน้าค่าตาตัวเป็นๆก็วันนี้แหละ

นักเขียนทุกท่าน ผมนายโรมัน, คุณชานม, คุณ DearSir, คุณ Boss, คุณ Oatstate, คุณ Tony และท่านอื่นๆไปกันครบยกทีมครับ ^ ^

พร้อมคอนเทนต์ใช้ทดสอบคุณภาพของภาพแบบ Exclusive เฉพาะ LCDTVTHAILAND ประมาณว่าดูเสร็จ เอาไปลองทดสอบกับทีวีที่บ้านท่านได้เลย

และยังรวมถึงแนะนำ "เทคนิคปรับภาพ" โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือหรือซอฟท์แวร์ ที่ไม่เคยเผยในเว็บมาก่อน

ท่านจะได้เห็นภาพและจำแนกออกว่าที่นักเขียนเขาบอกว่า "ภาพดี...มันเป็นอย่างไร ?"  เป็นการอัพเกรดสกิลตาเทพของท่านให้ขึ้นไปอีกระดับ

อีกทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆอย่าง HDR (High Dynamic Range) เห็นพูดๆกันตรึม

ถามจริงมีใครเคยเห็นภาพ HDR VS Non-HDR หรือไม่ ? แล้วดีกว่าอย่างไร ? งานมีให้เห็นครั้งแรกในไทย !

พลาดแล้วจะเสียใจนะครับ เทคนิคและความรู้แบบนี้หาไม่ได้ทั้งเว็บรีวิวของไทยหรือแม้กระทั่งเว็บนอก จะบอกให้ !

------------------------------------------------------------------------------------------

งานบรรยายนี้เหมาะกับใคร

1. มือใหม่ : จะได้เห็นภาพการทดสอบทีวีกับแบบตัวเป็นๆ มิใช่การอ่านตัวอักษรรีวิวในเว็บหรือนิตยสาร จะได้จำแนกได้ว่าอันไหนภาพดีหรือไม่ดี ?

2. มือโปร : เห็นการทดสอบแบบเจาะลึก คลายทุกข้อสงสัย เห็นภาพเทียบกันแบบตัวต่อตัว

3. ผู้ที่มีความสนใจเรื่อง AV : ได้สาระและความรู้มากมายแน่นอน


------------------------------------------------------------------------------------------

จองที่นั่งฟังบรรยาย (ฟรี แถมมีของแจกอีก)

ส่ง Email เข้ามาที่ [email protected] หรือ [email protected]

แจ้งชื่อจริง เบอร์โทรศัพท์ และจำนวนที่นั่งที่ต้องการ (ฟรี)

หลังจากที่ท่านส่งอีกเมล์เข้ามาแล้ว ให้ท่านกลับมาอัพเดทรายชื่อของท่านได้ที่
>>> http://www.lcdtvthailand.com/webboard/index.php?topic=169923.msg1131043#msg1131043

------------------------------------------------------------------------------------------

โปรโมชั่นสุดแรงใจ.....โดย Samsung ประเทศไทย

ช่วงท้ายงาน ทางบริษัท Samsung ประเทศไทย ร่วมกับร้าน LCDTVTHAILAND

จัดโปรโมชั่นราคา สุดพิเศษ!!! (ติดเครื่องหมายตกใจให้เยอะๆหน่อย ^ ^) พร้อมของแถมเริ่ดๆที่นี่ที่เดียว

ท่านที่จะสอยทีวี Samsung ไม่ว่าจะเป็น Series 5, 6, 7 ,8 หรือ 9 ขนาดใดก็ตาม มารูดซื้อวันงานได้เลย

จัดส่งและติดตั้งโดยทีมงานของ LCDTVTHAILAND ครับ จะได้ทีวีใหม่ก็งานนี่แหละสำหรับท่านที่ตั้งหลักง้างมานาน ^ ^

-----------------------------------------------------------------------------------------------

แล้วพบกัน วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม 2015 ชั้น 2 โรงแรมเอเชีย (BTS นานา) งานแสดงเครื่องเสียง TAV SHOW 2015

** เวลา 10.00 - 13.00 ช่วงโปรโมชั่นทีวี Samsung ราคาพิเศษ

** เวลา 13.00 - 15.00 ช่วงเวลาบรรยายให้ความรู้ : หัวข้อ SUHD TV และเทคนิคปรับภาพ (ลงทะเบียน 12.30)

** เวลา 15.00 - 19.00 ช่วงโปรโมชั่นทีวี Samsung ราคาพิเศษ

-----------------------------------------------------------------------------------------------

48
ขอบคุณพี่ doodoo (แฟนพันธุ์แท้) มากครับที่มาร่วมงานบรรยายเมื่อเสาร์ที่ผ่านมาครับ

ไว้งานบรรยายครั้งหน้ามาลุ้นรางวัลใหม่อีกรอบนะครับพี่

ส่วนบรรยากาศงานบรรยาย ทั้ง "รูปภาพ" และ "คลิปวีดีโอ"

ติดตามได้ที่กระทู้นี้เร็วๆนี้


วันนี้มีโอกาสได้เข้าไปนั่งฟังนั่งชม บรรยากาศสนุกสนานเฮฮากันเองเหมือนเดิม แต่เสียดายที่วางแผนเวลาไว้ไม่ตรงกับชั่วโมงบรรยายจริง
(คาดว่าเริ่ม 12.00 ถึง 14.00 ก็กลับไปรับลูกที่โรงเรียนทัน) แต่บรรยายจริง 13.00 น. เลยอยู่ได้แค่ถึงดูภาพ 3มิติ เท่านั้นเอง ต้องรีบเผ่นออกจากงาน
อุตส่าห์จอง เครื่องฉาย LED ที่คุณโรมันจะมอบให้ซะหน่อย ฮ่า ๆ  อดเลย...พบกันงานหน้าครับทีมงาน LCDTVTHAILAND ขอบคุณทุกท่านครับ [ปลื่ม]

49
วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน นี้เจอกันที่งานชั้น 9 โรงแรมแลนด์มาร์คเวลา 12.00-15.00 ครับ

สมาชิกเว็บมากันได้เลยครับ

50
 [เท่ห์] [เท่ห์] [เท่ห์] [เท่ห์] [เท่ห์] [เท่ห์] [เท่ห์] [เท่ห์] [เท่ห์]

สวัสดีครับสมาชิกเว็บทุกท่าน กระผม "นายโรมัน" ออกโรงเองเลยครับงานนี้

ขอเชิญชวนทุกท่่านมาร่วมรับฟัง/รับชมงานบรรยายประจำปีของเว็บไซต์ LCDTVTHAILAND ของพวกเรา

งานบรรยายมีชื่อหัวข้อว่า "เห็นแล้วพี่อึ้ง !!! ฉายใกล้...จอใหญ่ 120 นิ้ว ในงบแค่ 30,000 กว่าบาท"


โดยงานจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 20 มิถุนายนนี้ เวลา 12.30-14.00 น.

จัดที่ ชั้น 9 โรงแรมแลนด์มาร์ค สุขุมวิท ภายในงานเครื่องเสียง BAV HI-END SHOW ครับ หากมาด้วย BTS ก็ลงที่สถานี "นานา" ก็จะถึงโรงแรมเลยจ้า

โดยทีมบรรยายก็จะมีตัวกระผมนายโรมัน, คุณชานม "อาจารย์โยดาแห่งภาพและเสียง" (น้องๆทีมงานสถาปนาให้), และ ทีมงาน LCDTVTHAILAND อีกคับคั่ง เรียกได้ว่าได้เจอะตัวจริงเสียงจริงกันแบบตัวเป็นๆเลยครับ ฮ่าฮ่า งานนี้ตั้งใจมามอบ "สาระ ความรู้ และความบันเทิง" ให้สมาชิกกันอย่างเต็มที่


เข้าเรื่องเลยละกัน เมื่อปี 2014 ที่ผ่านมา ทีม LCDTVTHAILAND และ Acer ได้เคยร่วมมือกันจัดบรรยายในหัวข้อ "มือใหม่ Acer Projector ดูหนังจอใหญ่ในงบเบาๆ" ก็ประสบความสำเร็จไปด้วยดี สมาชิกก็ให้เกียรติย่างกายเข้ามาฟังอย่างล้นหลาม (ปลื้ม) เรียกได้ว่าเป็นการ "ปรับทัศนคติ" ที่มักคิดว่าการรับชมจาก Projector นั้นมันแลยุ่งยาก ข้อจำกัดเยอะ ซึ่งงานบรรยายครั้งนั้นก็พิสูจน์ว่า "มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด" และยิ่งไปกว่านั้น "มันง่ายและดีกว่าที่คิด...ไปมาก"  โดยเฉพาะเรื่อง ขนาดใหญ่ = ความสุขก็ใหญ่ตาม...ในราคาเบาเบา นี่แหละ


มาในปี 2015 นี้ผู้บริหาร Acer ก็ติดใจอีก จึงได้ทำการประชุม "ไตรภาคี" ระหว่าง Acer, LCDTVTHAILAND และทีมผู้จัดงาน BAV HI-END SHOW เพื่อร่วมมือกันจัดงานบรรยายสินค้าชนิดใหม่ไฉไลกว่าเดิมซึ่งก็คือ Acer Short Throw Projector หรือโปรเจกเตอร์ที่ฉายแค่ "ระยะสั้นๆ..แต่ได้จอใหญ่เบ้อเริ่ม" หากพูดให้เห็นภาพ คือตั้งระยะฉายห่างแค่ 1.5 เมตรก็ได้ภาพใหญ่กว่า 100 นิ้วแล้ว ไม่โบร่ำโบราณเหมือน Projector รุ่นเก่าที่หากอยากได้ภาพใหญ่ ต้องถอยไปไกลถึงสุไหโกลก (ฮา)


และรุ่นที่เป็นไฮไลท์ที่จะนำมาสาธิตก็ได้แก่ H7550ST (H7) และ  H6510BD (H6) ผมขอเรียกว่าซีรีย์ H7 และ H6 ตามลำดับ ซึ่งเป็นรุ่นที่ทีมงานได้บรรจงคัดสรรมาแล้วว่า "คุณภาพยอดเยี่ยม...ในราคาย่อมเยาว์" โดยจะพยายามฉายในจอรับภาพขนาดใหญ่ 100 - 120 นิ้ว เพื่อให้ทุกท่านที่เข้าร่วมงานได้รับชมกันอย่างทั่วถึง โดยระบบภาพและเสียงจะถูกขับเคลื่อนด้วย Acer Revo One : Mini PC ตัวล่าสุด ที่ควบรวมความสามารถของคอมพิวเตอร์ PC และเครื่องเล่น HD Player ไว้ด้วยกัน ใส่ Harddisk ได้สูงสุดถึง 3 Slots เชียวนะ บางท่านนึกในใจก็คงแปลว่ายัดหนังได้หลายเรื่องเลยสิ อืม..ผมใช้คำให้ไพเราะว่า สามารถบรรจุคอนเทนต์ได้ปริมาณเยอะก็แล้วกัน ^ ^


เรื่องภาพเป็นพระเอกไปแล้ว มาดูเรื่องระบบเสียงกันบ้าง เป้าหมายของทีมงานคือจำลองบรรยากาศให้เสมือนโรงหนังและคอนเสิร์ตฮอลล์มากที่สุด จึงได้จัดชุดลำโพงไฮเอ็นด์อย่าง KEF AUDIO แบรนด์ดังจากอังกฤษ ในรุ่น "R" Series ผสาน Subwoofer จาก KLIPSCH พร้อมระบบ Pre-Processor และ Power Amplifier จาก Onkyo มาช่วยขับพลังเสียง โดยทั้งหมดจะถูกเซ็นอัพในระบบ 7.2 แชนแนล


โดยทีมงานจะสาธิตฉากเด็ดจากหนังดังและคอนเสิร์ตเพลงเพราะๆให้ท่านได้ลองเสพย์กับจอใหญ่ในระดับ 100 - 120 นิ้ว เพราะเชื่อว่าท่านเคยชินกับการดูทีวีขนาดประมาณ 40-60 นิ้ว จะได้เกิดการ "เปรียบเทียบ" ถึง "ข้อดีและข้อเสีย" ในชุดความคิดของท่าน และนั่นคือ "จุดประสงค์หลัก" ของงานบบรรยายครับ


ภายในงานก็มีบูธขายของ Acer Projector ทั้งรุ่น H7 จาก 79,990 บาท เหลือ 4x,xxx บาท และ H6 จาก 45,900 บาท เหลือ  3x,xxx บาท และ Acer Revo One : Mini PC ใน "ราคาสุดพิเศษ" ถูกกว่าข้างนอกและของแถมตรึม อย่างงานบรรยายปีที่ผ่านมาสมาชิกเว็บก็ได้ Projector ใหม่ไปดูหนังเป็นสิบยี่สิบเครื่อง


สุดท้ายทาง Acer โชว์ป๋า เตรียมของรางวัล "อื้อซ่า" มาแจกผู้โชคดี ทั้ง Acer LED Projector, USB Flash Drive, ตั๋วหนัง และทีมงานเราก็เอาสาย LCD HDMI ไปร่วมแจกอีก งานนี้นอกจาก "ฟังฟรี" แล้ว ยังได้ลุ้น "ของฟรี" ติดไม้ติดมือกลับบ้านอีกนะ


งานนี้เหมาะกับใคร ?

1. มือใหม่ : อยากลองเล่นโปรเจกเตอร์ดูบ้าง แต่ไม่กล้าลองตามห้าง มันเขิลลลลอะนะ บอกไม่ถูก ท่านต้องรีบบมาเลยแหละครับ งานนี้เราสอนวิธีการติดตั้ง Projector แบบง่าย รวมถึง Basic Setup ให้ถูกต้อง+ถูกใจในคราวเดียวกัน    

2. คนทั่วไปที่ใช้ LED / LCD TV อยู่แล้ว : อันนี้อยากเชิญชวนจริงๆครับ ท่านจะได้รับทราบถึงข้อดีและข้อเสีย และสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่า Projector ทำได้ มันมีบางอย่าง Unseen ที่ท่านยังไม่รู้ ท่านจะได้สาระและความรู้เพียบ

3. แฟนพันธุ์แท้เว็บ LCDTVTHAILAND : มาเลยครับ ยินดีต้อนรับท่านอีกครั้ง บางท่านมาทุกครั้ง ทีมงานก็จำได้ทุกครั้งมิรู้ลืม


>>>>ถือว่าเป็นกิจกรรมเว็บไซต์มีทติ้งไปในตัวเลยครับ<<<<

--------------------------------------------------------------------------------------

ขอเชิญชวนสมาชิกทุกท่านที่สนใจ หากจะลงทะเบียนเข้างานก็ทำได้ 2 วิธี

1. ลงชื่อกระทู้และจำนวนคนที่กระทู้นี้เลย

2. หรือ PM ไปหาคุณ Dear_sir ผู้ตั้งกระทู้นี้

แล้วเจอกันวันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน ที่ชั้น 9 โรงแรมแลนด์มาร์ค สุขุมวิท

มาลงทะเบียนจองที่กันในเวลา 12.30 น. แนะนำให้รับประทานอาหารเที่ยงให้เรียบร้อยก่อนนะครับ

แล้วพบกัน

Roman

52
แล้วเจอกันครับ

เสาร์ที่ 27 กันยายนนี้ 12.00-15.00

ชั้น 12 โรงแรมแกรนด์เมอร์เคียวฟอร์จูน ถนนรัชดาภิเษก

งาน TAV SHOW 2014

53
ขออนุญาตมาเชิญชวนด้วยตัวเองเลยครับ ^ ^

งานบบรรยายครั้งนี้ทาง LCDTVTHAILAND ได้ร่วมกับบริษัท LG มีวัตถุประสงค์ในการโชว์ศักยภาพของ "ทีวีแห่งอนาคต" ทั้งตัว Curved OLED TV 55EC930T รุ่นใหม่...เปิดตัวครั้งแรกในไทยที่แรก !!! และทีวีความละเอียด 4K Ultra HD ขนาดจัมโบ้ 84" 84UB980T ซึ่งโดยปกติแล้วจะโชว์อยู่ในห้างหรูเท่านั้น ทำให้พวกเราไม่ค่อยกล้าเล่นหรือสัมผัสแบบเจาะลึกเสียเท่าไหร่ (แบบว่าเขินพนักงานขาย) แต่ครั้งนี้ทีมงานยกเอามาให้ทดสอบและลองเล่นแคะแกะเกากันอย่างใกล้ชิด

นอกจากหลักการการแสดงภาพของทั้งจอ OLED TV และ Ultra HD TV ที่เราจะอธิบายให้เห็นภาพอย่างกระจ่างแล้ว  สิ่งที่อยากนำเสนอในงานคือการเปรียบเทียบระหว่างจอ "OLED TV ปะ-ฉะ-ดะ LED TV แบบตัวต่อตัว" เพื่อให้ท่านได้พิสูจน์ด้วยตาของตัวเองว่าใครดีใครเด่นกว่ากัน ทั้งเรื่อง ความดำ, ความสว่าง, สีสัน และอื่นๆ โดยใชคอนเทนต์ระดับโปรเฟสชั่นแนลที่ทีมงานใช้ทดสอบกันในห้องแล็บ และตลอดจนแผ่นหนัง Blu-ray ฉากประจำที่ทีมงานใช้อ้างอิงด้วยเช่นกัน และไม่พลาดให้ท่านได้ลองดูคอนเทนต์ 3 มิติ จากเทคโนโลยี Cinema 3D อันเลื่องชื่อว่า ดู 3D จากจอใหญ่ขนาด 84" มันจะต่างจากจอขนาดปกติอย่างพวก 47" 50" 55" กันมากแค่ไหนกันเชียว ?

เทคนิคการทดสอบเหล่านี้ย้ำว่า Exclusive จริงๆท่านจะไม่ได้เห็นในเว็บรีวิวทั้งไทยและเทศหรือจากที่ไหนมาก่อน ! จึงอยากให้มารับชมกันเยอะๆครับ

งานนี้เหมาะกับใคร ?
1. ทั้งมือใหม่หรือมือเก๋าที่มีความสนใจเรื่องเทคโนโลยีจอภาพ
2. แฟนพันธุ์แท้ LG
3. ไม่ใช่แฟน LG ก็มาได้
4. แฟนๆเว็บ LCDTVTHAILAND
5. ผู้ที่สนใจซื้อทีวี LG อยู่แล้ว แต่อยากทดสอบประสิทธิภาพให้เห็นกับตาซะก่อน

หมายเหตุ : หากท่านที่เคยมางานบรรยายของพวกเราเมื่อครั้งก่อนๆจะทราบถึงเอกลักษณ์การบรรยายของทีมงานได้ทั้งสาระและความบันเทิงอย่างครบครับ ทูอินวันกันไปเลย

แถมท้ายงานยังได้ ลุ้นของรางวัลมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องเล่น Blu-ray Player จาก LG มูลค่า 4,990 บาท ถึง 3 รางวัล, LG Pocket Photo จำนวน 2 รางวัล, สาย LCD HDMI - Sting, หมอน LCDTVTHAILAND, และอื่นๆอีกมากมาย จะเรียกได้ว่าได้ทั้งสาระความรู้พร้อมของรางวัลติดไม้ติดมือกลับบ้านไปอีก

สรุปว่าให้รีบลงทะเบียนโดย PM ไปหาคุณ Boomerang เจ้าของกระทู้ด้านบน พร้อมระบุว่าขอจองกี่ที่นะครับ ที่นั่งมีจำกัด หากที่เต็มก็ยืนเอาหลังห้องได้ไม่ว่ากัน แล้วมาพบกับทีมงาน LCDTVTHAILAND ที่ไปร่วมงานทุกคนได้ด้วย มีอะไรปรึกษาทีมงานก็งานนั้นได้เลยจ้า

ชื่องานบรรยาย : เปิดตัวครั้งแรก!! LG OLED TV 55EC930T สุดยอดทีวี...หรือแค่มโนไปเอง
วันที่บรรยาย : เสาร์ที่ 27 กันยายน 2557 เริ่มตั้งแต่ 13.00-15.00 น. (ลงทะเบียน 12.00 น.)
สถานที่ : งาน TAV SHOW 2014 ณ ห้องชั้น 12 โรงแรมแกรนด์เมอร์เคียวฟอร์จูน (MRT พระราม 9)
นำบรรยายโดย : คุณโรมัน,คุณชานม และทีมงานดีกรีบอยแบนด์ของเว็บไซต์ LCDTVTHAILAND.com

ตารางเวลา
12.30 : ลงทะเบียนที่ชั้น 12 หน้าห้องบรรยาย
13.00 : เริ่มบรรยาย - แนะนำสินค้า LG รุ่นใหม่ทั้ง Curved OLED TV และ 4K Ultra HD TV (รวมแล้ว 5 ตัว)
13.15 : อธิบายถึงหลักการสร้างภาพของ OLED TV พร้อมพิสูจน์ให้เห็นถึงเม็ดพิกเซล
13.30 : ทดสอบประสิทธิภาพ OLED TV VS LED TV แบบ "ปะ-ฉะ-ดะ"
13.50 : แนะนำ LG 84UB980T 4K Ultra HD TV พร้อมคอนเทนต์ 4K แท้ๆครั้งแรก
14.10 : ทดสอบภาพ 3 มิติพร้อมกันทุกคนและสอนเทคนิคใช้งาน Web OS
14.30 : สรุปฟันธง ! ซื้อแบบไหนคุ้มกว่ากัน ?
14.45 : ร่วมจับฉลากแจกของรางวัล
15.00 : จบการบรรยาย

แล้วพบกันวันเสาร์ที่ 27 กันยายนครับ ที่งาน TAV SHOW โณงแรมแกรนด์เมอร์เคียวฟอร์จูนครับ
Roman

54
สวัสดีโซเชียลแคม...ไม่มีอะไรมาก....กระทู้นี้ผมอยากจะโพสท์เชิญชวนให้กับสมาชิกเว็บทุกท่านมาร่วมงานบรรยายของพวกเราครับ

ซึ่งมีหัวข้อว่า "เป็นไปได้หรือ!? สัมผัสภาพยนตร์จอยักษ์กว่า 100 นิ้ว ที่บ้าน ภายในงบแค่ 30,000 บาท"

โดยผมขอย้อนเบื้องหลังของการจัดงานนี้ขึ้นมาว่า บ่อยครั้งที่มีแฟนๆเว็บมีความต้องการจะซื้อทีวีไซส์ใหญ่

อาทิเช่น 70" 80" 90" แต่ระดับราคานั้นมักจะกระโดดไปสูงมาก

จะเรียกได้ว่าล่อเข้าไปหลักสามสี่แสนไปจนถึงหลักล้านบาท ซึ่งแน่นอนว่าแพงบรม ...

ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า "มีงบแค่ 2-3 หมื่นบาท แต่อยากได้จอใหญ่ๆไว้ดูหนัง HD + ดูบอลโลกกันแบบยกแก็งค์ จะทำอย่างไรได้บ้าง ?"

ผมตอบได้สั้นและง่ายมากเลยครับคือ "เล่นโปรเจกเตอร์สิครับพี่ !"

แต่ปัญหาของผู้ใช้งานส่วนใหญ่คือยังติดภาพของโปรเจกเตอร์ไว้ใช้สำหรับพรีเซนเทชั่น Powerpoint ในสำนักงานเท่านั้น

หรือเข้าใจว่าหากเป็นโปรเจกเตอร์ดูหนังก็ต้องระดับราคาแสนสองแสนอัพ ถึงจะเทพเข้าที

รวมถึงเรื่องของสถานที่ในการติดตั้งและความยุ่งยากในการติดตั้งที่มักเป็น "กำแพงด่านแรก" ที่คอยขวางกั้นในการที่เราจะเป็นเจ้าของมันซักเครื่อง

-------------------------------------------------------------------------------------------------

ปัจจัยข้างต้นจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ยังไม่ค่อยมีผู้ (กล้า)ใช้งานโปรเจกเตอร์เท่าที่ควรจะเป็น

ดังนี้ผมจึงอยากทำงานบรรยายเพื่อนำเสนอโปรเจกเตอร์ Full HD ระดับราคา 2-3 หมื่นบาท ซึ่งเป็นระดับราคาที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ "เอื้อมถึง" เพื่อให้ท่านจะ "เห็นภาพ" และ"มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้" ต่อตัวสินค้า

ซึ่งผมและทีมงานมีโอกาสทดสอบ ACER รุ่น H7532BD และรุ่น P1500 โปรเจกเตอร์ที่มีคุณภาพที่ดี (มาก) ให้ความคุ้มค่าสูง (มาก) หากเทียบกับระดับราคาของมัน

ราคาโปรโมชั่น Acer Projector ที่จะจำหน่ายในงานบรรยายวันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2014 เท่านั้น

1. Acer H7532BD (เกรดดูหนังโดยเฉพาะ) ราคาปกติ 54,900 บาท ราคาพิเศษในงาน 3x,xxx บาท พร้อมของแถม
http://www.lcdtvthailand.com/review/detail.asp?param_id=1691


Acer Projector รุ่น H7532BD Full HD DLP Projector
ราคาปกติ 54,900 บาท ราคาพิเศษในงาน 3x,xxx บาท

2. Acer P1500 (เกรดดูหนัง+พรีเซนเทชั่น) ราคาปกติ 32,900 บาท ราคาพิเศษในงาน 2x,xxx บาท พร้อมของแถม
http://www.lcdtvthailand.com/review/detail.asp?param_id=1828


ACER รุ่น P1500 Full HD DLP Projector
ราคาปกติ 32,900 บาท ราคาพิเศษในงาน 2x,xxx บาท

-------------------------------------------------------------------------------------------------

และเป็นโอกาสอันดีที่ตัวผมและทีมงานจะได้สอนวิธีการเซ็ตอัพเบื้องต้นที่ง่ายกว่าที่ท่านคิด

แนะนำโหมดภาพสำเร็จรูปที่แสงสีถูกต้อง เมื่อท่านนำไปติดตั้งที่บ้านก็แค่เลือกโหมดนี้ก็โป๊ะเช๊ะ

รวมถึงการทดสอบกับฉากเด็ดจากแผ่นหนัง Blu-ray หลายๆเรื่อง พร้อมทดสอบกับเกมส์ PlayStation ให้ดูว่าเล่นเกมส์จอยักษ์จะต่างจากทีวีอย่างไร ?

ทั้งหมดนี้จะเซ็ตอัพพร้อมชุดเครื่องเสียงแบบ 7.1 แชนแนลเพื่อเป็นการจำลองบรรยากาศห้องโฮมเธียเตอร์โดยมี Acer projector เป็นศูนย์กลาง

ผมเองจัดงานบรรยายมาหลายครั้งแล้วครับ โดยหัวข้อส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับทีวี ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมและทีมงานอยากจะนำเสนอเรื่องโปรเจกเตอร์

ซึ่งผมบอกได้เลยว่ามันจะคุ้มค่ามากๆ หากท่านรู้เคล็ดลับการใช้งานที่จะรีดประสิทธิภาพของมัน

และท่านจะได้รับทราบหลากมุมมองของคำถามที่ว่า ทีวี VS โปรเจกเตอร์ อะไรดีกว่ากัน ?

แต่เหนือสิ่งอื่นใดท่านจะหาคำตอบให้กับตัวเองว่า เลือกซื้อแบบไหนเหมาะสมและคุ้มกว่ากันต่างหาก !!! เพราะเราจะเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงข้อดีและข้อจำกัดของทั้งคู่

หากให้เกริ่นคร่าวๆในมุมของโปรเจกเตอร์ก็จะเรียกได้ว่าเครื่องเดียวได้ทั้ง ดูหนัง ดูบอล เล่นเกมส์ ดูรายการทีวี พรีเซนเทนชั่น ต่อโน็ตบุ๊ค

และให้ขนาดภาพได้ใหญ่สะใจกว่าทีวีธรรมดาถึง 500-600% ด้วยจำนวนเงินที่จ่ายเท่ากัน (ผมเน้นตัว 2-30,000 บาทเพราะให้ความคุ้มค่าสูงมาก)

ผมเองมีฉากหนัง เกมส์ และแผ่นทดสอบที่เตรียมมาเฉพาะ อยากทดสอบให้ท่านได้ดูแบบ Exclusive กล่าวคือเห็นเทคนิคเหล่านี้ได้ในงานบรรยายเท่านั้น

-------------------------------------------------------------------------------------------------

จึงอยากเฃิญชวนให้แฟนๆเว็บไซต์และสมาชิกเว็บบอร์ด LCDTVTHAILAND มาร่วมฟังบรรยายซึ่งรับรองว่าได้ทั้งสาระความรู้ควบคูู่ความสนุกสนาน

พร้อมพบโปรโมชั่นสินค้า Acer Projector ที่ราคาพิเศษมากถึงมากที่สุด แบบว่าหั่นราคากันเพื่ออยากให้ได้ทดลองใช้เลยว่างั้นเถอะ

แถมยังได้ร่วมลุ้นรางวัลใหญ่-เล็กมากมาย อาทิเช่น Acer projector, Acer Power Bank, สาย LCD HDMI : HITMAN & JERICHO, หมอน LCDTVTHAILAND, เสื้องาน BAV HI-END SHOW, USB Flash Drive ซึ่งรวมของรางวัลแล้วก็เรียกได้ว่ามีเปอร์เซนต์สูงมากที่จะได้ "ของรางวัลฟรี" ติดไม้ติดมือกันกลับบ้าน

สรุปนะครับ
งานบรรยาย ​: "เป็นไปได้หรือ!? สัมผัสภาพยนตร์จอยักษ์กว่า 100 นิ้ว ที่บ้าน ภายในงบแค่ 30,000 บาท"
สถานที่ : ห้องบรรยายชั้น 9 โรงแรมเดอะแลนด์มาร์ค สุขุมวิท(ลง BTS นานา)
วันและเวลา : 13.00 น. - 15.00 น. วันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2557
ลงทะเบียนจองที่ : รบกวน PM ไปหาคุณ Boomerang หรือคลิ๊กด้านล่าง


ขอสงวนสิทธิสำหรับที่ผู้ที่สนใจและสามารถมาร่วมงานบรรยายได้จริงๆเท่านั้นนะครับ จะได้ไม่เสียสิทธิท่านอื่น




แล้วพบกันวันเสาร์ที่ 14  มิถุนายนนี้ที่โรงแรมแลนด์มาร์คนะครับ

Roman

หน้า: 1 2 [3] 4 5 6