แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - LCDTVTHAILAND

หน้า: 1 2 3 [4] 5
55
สงครามทีวี 3 มิติจะระอุขึ้นแน่ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2010 นี้ เพราะหลายยี่ห้อก็จะทยอยเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบหลังจาก Samsung ชิงเปิดตัวไปแล้วตอนต้นปีที่ผ่านมา อันว่าทีวีสามมิติคือทีวีที่สามารถแสดงภาพได้มีมิติ "ลึก ติ้น หนา บาง ลอย" ได้ดูสมจริงเหมือนเรากำลังอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆร่วมกับตัวละครในภาพยนตร์ อย่างไรก็ตามคำถามก็เกิดขึ้นว่า "พี่ๆเลือกทีวี 3 มิติยี่ห้อไหน รุ่นไหนดี ?" จึงเป็นแรงบันดาลใจให้นายโรมันและทีมงาน LCDTVTHAILAND ขอจัดแมตช์ 3D TV Battle ระดับเทพ เมื่อเอา 3D TV ของ Samsung Sony LG และ JVC มาประชันกันแบบ "ชิดติดจอ" และให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมฟังการ Battle ครั้งนี้ได้ลองใส่แว่น 3 มิติและสัมผัสประสบการณ์ ทีวี 3 มิติ ทั้ง 6 ตัว 4 แบรนด์อย่างใกล้ชิดครับ ลืมบอกไปว่างานจัดขึ้นที่ งาน BAV Show 2010 ที่ชั้น 12 โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ฟอร์จูน วันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา มี Section เดียวเท่านั้น เล่นเอาทีมงานอดหลับอดนอนเพราะอยู่ Set up กันจนดึกดื่นเลยครับ !!!  ว่าแล้วไปดูกันก่อนว่ามีทีวีตัวไหนมาโชว์บ้าง !!!

เริ่มจากยี่ห้อแรก "Samsung" ขนพระเอกมาถึง 3 ตัวด้วยกันครับ

1. Samsung 3D LED TV 55C9000 - รุ่นสุดเทพ มี 3 ตัวโชว์ในประเทศไทยเท่านั้น งานนี้มาโชว์ที่ BAV Show 1 ตัวครับ


Samsung – C9000
 3D LED TV
 2D to 3D Conversion
 Edge LED
 HyperReal 3D Engine
 Motion Plus 240Hz
 Ultra Clear Panel
 Built-In 3D Transmitter
 55” : 279,990 Baht

2. Samsung 3D LED TV 55C8000 - รุ่นรองท็อป มี Precision Dimming ด้วย ภาพดีไหมถามคุณหมี lcdtvthailand ได้ครับ


Samsung – C8000
 3D LED TV
 2D to 3D Conversion
 Edge LED with Local Dimming
 HyperReal 3D Engine
 Motion Plus 240Hz
 Ultra Clear Panel
 Built-In 3D Transmitter
 46” : 139,990 Baht      
 55” : 179,990 Baht

3. Samsung 3D Plasma TV 50C7000: รุ่นท็อปสุด และเป็น Plasma TV แบบ 3 มิติตัวเดียวที่วางจำหน่ายแล้วในตอนนี้


Samsung – C7000
 3D Plasma TV
 2D to 3D Conversion
 Individual Pixel Dimming
 HyperReal 3D Engine
 600Hz Sub-Field Motion
 Real Black Filter
 Built-In 3D Transmitter
 50” : 89,990 Baht / 63” : 109,990 Baht

4. Sony 3D LED TV HX800: รุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งเทพของ Sony 3D TV Series ครับ โดดเด่นด้วย Deep Black Panel และความสามารถในการเปลี่ยน 2D เป็น 3D แถม 3D Transmitter ที่ Sync ตัวทีวีและแว่น 3 มิติ ยังเป้นแบบ External โยกตำแหน่งการวางได้ครับ

Sony – HX800
 3D LED TV
 2D to 3D Conversion
 Edge LED with Local Dimming
 Deep Black Panel
 BRAVIA Engine 3
 Motion Flow 240Hz
 Separated 3D Transmitter

5. LG INFINIA LX9500: หากยังจำโฆษณาทีวีได้ INFINIA คือ Full LED Slim ที่มีรถพุ่งทะยานทะลุจอทีวีออกมาครับ ตัวนี้โดดเด่นด้วย เทคโนโลยี Full LED และ TruMotion 480Hz ที่เหนือกว่าชาวบ้านเรื่องภาพเคลื่อนไหว ส่วนดีไซน์ก็เป็นแบบ "ไร้ขอบ" สวยงามหรูหราตามสไตล์ถนัดของ LG


5. JVC 3D LCD Monitor: สำหรับ JVC ตัวนี้เป็น 3D LCD monitor สำหรับ Commercial Use (ใช้ Display มากกว่ารับชมภายในบ้าน) เป็น 3D แบบ polarization ไม่เหมือนกับ 5 ตัวข้างบนที่เป็นแบบ Frame Sequential แว่นก็ต้องใช้แว่นแบบ 3D Polarized ในขณะที่แบรนด์ออื่นๆใช้แบบ Active Shitter Glasses ครับ ข้อดีของ JVC คือมิติภาพที่หลุดลอย และสบายตา !!!

บรรยากาศวันงาน 3D TV เทพเป็นอย่างไร และ 3D TV Battle !!!
ทีมงาน LCDTVHAILAND ทุกคนตั้งใจจัดงานนี้กันมากครับ จุดประสงค์คือการให้ความรู้เรื่องเทคโนโลยี 3D กับผู้สนใจ และสาธิตทีวีสามมิติทั้ง 6 ตัวให้เห็นกันจะจะไปเลย ไม่ต้องมาโม้ว่าใครดีกว่ากัน "สายตาของคุณเอง" เท่านั้นแหละเป็นตัวตัดสิน งานนี้มันส์หยดติ๋งส์ครับ !!!


ทีมงาน LCDTVTHAILAND เข้ามา Set Up งานอีกทีช่วงเช้าครับ มาลองแว่น 3 มิติและเช็คความเรียบร้อย


กำหนดการในงานทีมงานมีบรรยายเรื่อง 3D TV เทพอย่างไร ??
อธิบายหลักการการทำงานของ 3D + สาธิตการใช้งานจริงๆ


คุณวันชัย Specialist ของ LG และเป็น Specialist ของ LCDTVHAILAND
มาเริ่มเช็คความเรียบร้อยของ 3D TV LG INFINIA


ทีมงานติดป้ายประชาสัมพันธ์ในงาน BAV Show 2010 ครับ จะได้เดินมาฟังบรรยายได้ถูกที่


คนเริ่มทยอยเข้ามาตั้งแต่ 12.30 น. (เริ่มจริง 13.00 น.) เพื่อจับจองเก้าอี้ที่นั่ง  


ก่อนงานเริ่มนายโรมันและคุณวันชัยจาก LG
ก็อธิบายกำหนดการเล็กน้อยครับว่าวันนี้จะมี 3D Battle 4 Brand ดัง


แต่ละแบรนด์ไล่จากขวาไปซ้าย JVC / Sony / LG / Samsung ก็ต่างงัด Content 3D ระดับเทพและเชิญให้ผู้เข้าฟังการบรรยายใส่แว่นรับชมประสบการณ์ภาพ 3 มิติของแบรนด์ตัวเองครับ


สำหรับ Samsung นั้นก็เอาตัวเทพอย่าง 55C9000 (ขวามือ)
และ 55C8000 (ซ้ายมือ) มาโชว์แบบเต็มเหนี่ยว


ได้รับเกียรติจากคุณธนากร Product Owner, Samsung และคุณเดียร์ Specialist
จาก Samsung ในการนำเสนอ 3D TV ของ Samsung ครับ


56
รีวิวงาน "มันแน่นอก!!...เลยยกมาโชว์ LCDTVTHAILAND เปิดห้องชน!" ทีวี,ทีวี,ทีวีเต็มไปหมดเลยย!!

กลับมาแล้วครับผมกับงานบรรยายประจำปีของเว็บเรา ในหัวข้อ "มันแน่นอก!!....เลยยกมาโชว์ LCDTVTHAILAND เปิดห้องชน" ที่ยกเอาสุดยอดทีวีรุ่นเรือธงมาประทะกันแบบไม่เกรงใจแบรนด์ ชมกันแบบจะๆว่าเครื่องไหนจะให้ภาพที่ถูกใจคุณมากที่สุด ซึ่งก็ผ่านไปได้ด้วยดีเช่นเคยครับ ก็ต้องขอบคุณแฟนๆเว็บไซต์เราที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดีเข้ามาชมกันหนาตาเช่นเคย โดยในรีวิวนี้จะเป็นการเก็บภาพบรรยากาศมาฝากทุกท่านที่ไม่ได้ไปให้อิจฉาตาร้อนในความรู้และรางวัลที่ผู้เข้าชมได้รับครับผม ฮ่าๆ



วางเรียงประชันกันแบบนี้เลยกับทีวีที่เรานำมาวัดคุณภาพของภาพกัน ให้ทุกท่านได้เห็นกันชัดๆ

มาดูโฉมหน้าทีวีที่มาประชันในงานนี้ก่อนดีกว่าครับว่ามีรุ่นอะไรกันบ้าง...


ตัวแรกเลยพลาสม่าทีวีตัวใหญ่ที่สุดในงาน Samsung PS64F8500 โดดเด่นเรื่องภาพที่สว่างสดใส
พร้อมการแสดงสีดำที่ดำที่สุดเท่าที่ Samsung เคยผลิตมา


ตัวถัดไป Sony KDL-55W954 แบรนด์จากแดนญี่ปุ่นที่เป็น Dynamic Edge LED TV
ที่ชูฟีเจอร์เด่น Triluminos ที่ช่วยให้จอภาพสามารถแสดงสีสันได้หลายเฉดมากยิ่งขึ้น


ตัวที่สามนี้เป็น LG 55LA8600 จอภาพจากแบรนด์เกาหลีอีกหนึ่งแบรนด์ที่ส่งเข้าประกวด
ที่ปีนี้ก็ยังคงความเหนือชั้นในภาพสามมิติ และฟีเจอร์สมาร์ททีวีที่โดดเด่นไม่เหมือนใครอย่าง Intel Wi-Di


พลาสม่าทีวีอีกหนึ่งตัวครับ TH-P55VT60 อีกหนึ่งพลาสม่าที่ได้ชื่อว่าเป็น "ระดับอ้างอิง"
เนื่องจากการให้สีสันที่ตรงตามมาตรฐานอุตสาหกรรมภาพยนตร์มากที่สุด


ทางด้านนี้เป็น Philips 46PFL8007 โดดเด่นด้วยแสงสีจาก Ambilight ที่สร้างความประทับใจ
ให้กับผู้ฟังบรรยายหลายๆท่าน เล็กพริกขี้หนูจริงๆสำหรับทีวีตัวนี้ครับ


และที่วางอยู่นี้คือ Toshiba 84 นิ้ว 4K TV สุดยอดจอภาพขนาดใหญ่ที่สุดในงานที่มาโชว์ตัวให้ได้ชมกัน
สนนราคาเบาๆ "จ่ายเงินหนึ่งล้าน...ได้ทอนสิบบาท" ความคมความชัด และสีสันเหนือชั้นกว่าทีวี Full HD ทุกตัวครับ
ปล. ทีวีตัวนี้ไม่ได้อยู่ในการแข่งขันนะครับ แค่มาโชว์ตัวเฉยๆ


เมื่อคนเริ่มเข้ามาแน่น คุณโรมันกับคุณชานมก็ได้ออกมาทักทายกันพร้อมแนะนำทีวีทุกตัวที่มาในงานวันนี้
พร้อมแนะนำทีวีที่เข้าแข่งขันแย่งชิงรางวัลป็อปปูล่าโหวต ว่าแต่ละตัวมาจากที่ใด และโดดเด่นยังไงบ้าง


เมื่อถึงเวลาก็เริ่มบรรเลงกันเลยครับ เริ่มจากพลาสม่าทีวี Panasonic 55VT60 ก่อนเลย
โดยพรีเซ็นเตอร์คือคุณลูฟี่เจ้าเก่านั่นเองครับ "มีใครเป็นแฟนพลาสม่าพานาโซนิคบ้าง ขอมือหน่อยย!!"


ตอนนี้คุณลูฟี่กำลังเปิดคอนเทนต์ไม้ตายแสดงสีดำให้ทุกท่านได้ชมครับ เรียกได้ว่ามิติสีสันช่างหลอกตาคนจริงๆ
เห็นวิกเป็นดอกไม้ เห็นดอกไม้เป็นวิก แหม่ไม่ใช่พานาทำไม่ได้นะครับเนี่ย


ชัดๆอีกสักรูปกับดอกไม้ที่หลอกคนดูได้หลายคนเลยทีเดียว เพราะมิติของความดำที่ทำให้สับสน


นอกจากนี้ยังโชว์ฟีเจอร์เด่นๆอย่างสมาร์ททีวีที่มีแอพมากมาย พร้อมกับหน้า My Home Screen
ที่ให้คุณสามารถปรับแต่งเอาแอพที่คุณชื่นชอบมาปักหมุดไว้ในหน้าหลักส่วนตัวของคุณได้

57
ผ่านพ้นกันไปแล้วนะครับกับงานแสดงโชว์เครื่องเสียงซุปเปอร์ไฮเอ็นด์ระดับเทพเทวะ BAV Hi-End Show 2013 ซึ่งหลายๆท่านอาจจะได้มีโอกาสไปเดินชมเดินฟังกันมาไม่มากก็น้อย ใครอยากรู้ว่างานเป็นอย่างไรบ้างเพิ่งจะเคยได้ยินชื่อ ก็ขอเชิญไปอ่านรีวิวงานที่ทางทีมงานได้ทำไว้ได้เลยเพื่อประกอบการตัดสินใจในคราวหน้า

ภายในงานครั้งนี้ทีมงาน LCDTVTHAILAND ของเราก็ได้จัดการบรรยายขึ้นเหมือนเคยนะครับ โดยหัวข้อในครั้งนี้จะเน้นหนักไปในเรื่องของเครื่องเล่นแผ่นกันบ้าง หลังจากที่จับแต่ทีวีมาตลอด นั่นก็เพราะเราอยากให้แฟนๆเว็บไซต์ได้สัมผัสอะไรแปลกใหม่มากยิ่งขึ้น โดยในครั้งนี้ผมนาย Boomerang ก็รับหน้าที่มารายงานบรรยากาศภายในห้องบรรยายให้คนที่พลาดได้รับชมกันครับ ตามผมมาได้เลยยย !!



บรรยากาศตอนเช้าราวๆ 10 โมงครับ ทีมงานของเรามาพร้อมกันในห้องบรรยายเพื่อเตรียมความพร้อม
และซักซ้อมครั้งสุดท้ายกันเล็กน้อย รวมถึงเช็คซิสเต็มด้วยว่ายังคงทำงานเป็นปกติอยู่หรือเปล่า


โดยชุดโฮมเธียร์เตอร์ที่เรานำมาใช้เพื่อประกอบการบรรยายในครั้งนี้อำนวยการโดยร้าน hometheater2555 ครับ
ประกอบไปด้วยชุดพรีโพเซสเซอร์และมัลติแชนแนลแอมป์พลิฟายเออร์จาก Anthem
พร้อมลำโพงหลัก 7.1 จาก Focus Audio และซับวูฟเฟอร์จาก Accuris ครับผม


แหล่งต้นสัญญาณประสิทธิภาพสูงที่เป็นพระเอกในงานนี้ นั่นก็คือ OPPO BDP-105 นั่นเองครับ
เสียดายหน้าตาหล่อน้อยกว่าทีมงาน LCDTVTHAILAND ไปนิดเดียว


ลำโพง Focus Audio Prestige Series รุ่น FP90 SE
สีดำทะมึนแลดุดันจริงๆ ส่วนเรื่องเสียงหลายๆท่านคงจะได้สัมผัสกันไปแล้วว่าเป็นเช่นไร


โฟกัสกันใกล้ๆ อีกครั้งกับพรีโพรเซสเซอร์จาก Anthem น้ำเสียงดุดันขนาดไหนหลายคนในห้องคงรู้กัน


อีกสักมุมกับซิสเต็มของเราครับ โดยสายสัญญาณลำโพงคู่หน้าจาก VELOCITA รุ่น Rome V
เช่นเดียวกันกับเซอร์ราวด์แต่เป็นรุ่น Naple V ครับผม ใครอยากทราบรายละเอียดคลิ๊กที่ลิ้งค์ด้านล่างเลยครับ
>> รายละเอียดสายสัญญาณ VELOCITA <<


จอ LG 84LM9600 4K ที่ทางทีมงานพามาโชว์ตัวคู่กับซิสเต็มเสียงในครั้งนี้ครับ
กว่าจะเอาขึ้นมาได้เล่นเอาหลังยอกไปหลายคนเลย


เลย 11 โมงมานิดๆ ก็เริ่มมีคนมาลงทะเบียนเข้างานกันแล้ว แหม่มาตรงเวลาน่ารักกันจริงๆ


ทางทีมงานเห็นว่าบางท่านจะรอเวลาจนเบื่อซะก่อน เลยจัดการหรี่ไฟและเปิดภาพยนตร์ให้ดูเป็นน้ำจิ้ม
เพื่อให้ทดลองชมศักยภาพจาก OPPO BDP-105 กันก่อน


ระหว่างชมภาพยนตร์ ภายในห้องเราก็จะมีชั้นวางสินค้าแบบนี้ให้ทุกท่านได้มาสัมผัสและทดลองใช้กันแบบใกล้ชิด
พร้อมทั้งมีทีมงานคอยให้คำแนะนำอยู่เรื่อยๆ ใครอยากถามอะไรสามารถยิงคำถามได้ทันทีทั้งสองรุ่น BDP-103/105


ยิ่งใกล้เที่ยง คนยิ่งมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ ประมาณว่าไม่อยากพลาดที่นั่งในจุดที่ดีที่สุดไป
เลยรีบมาจองที่กันไว้ ทางทีมงานจุดลงทะเบียนนั่งทำงานกันอย่างขะมักขะเม้นตัวเป็นเกลียวเลย


ที่พลาดไม่ได้ในงานนี้ก็คือการมาหย่อนบัตรรายชื่อร่วมสนุกชิงของรางวัลท้ายงานที่ล่อตาล่อกิเลสทีมงานสุดๆ
นั่นก็คือ OPPO BDP-103 และ Canton Movie 70 5.1 Channel Home Theater set


เขียนชื่อเรียบร้อยแล้วก็หย่อนกล่องแดงเลย !! แล้วมาลุ้นกันว่าใครจะได้ของรางวัลกลับบ้านไปนอนกอด


ที่พลาดไม่ได้คือคุณพี่ท่านนี้ครับ ใส่เสื้อ LCDTVTHAILAND มาด้วย !!!
เป็นแฟนพันธุ์แท้เว็บเราที่รักกันเหนียวแน่นจริงๆ


คุณโทนี่ถึงกับทนไม่ไหว ต้องไปขอเก็บภาพคู่ด้วยสักหน่อย นานๆจะได้เจอแฟนๆแบบนี้สักที

58
มาช้ายังดีกว่าไม่มา !! รีวิวงานบรรยาย "วัดกันไหม !! ร่วมค้นหา Best of The Best TV ปี 2012"

กราบสวัสดีครับทุกท่าน หลายเดือนก่อนยังจำกันได้ไหมว่าเว็บไซต์เรามีงานบรรยายในหัวข้อ "วัดกันไหม !! ร่วมค้นหา Best of The Best TV ปี 2012" ที่ทางทีมงานได้นำบรรดาสุดยอดทีวีของหลากแบรนด์ดังมาประชันกันแบบเนื้อๆ เน้นๆ ไม่มีกั๊ก !! เรียกกันว่าประทับใจบรรดาผู้เข้าชมกันไปตามๆกัน และในวันนี้ผมจะมาย้อนรำลึกภาพบรรยากาศให้กับแฟนๆที่พลาดโอกาสไม่ได้ไปร่วมงานได้มาชมกัน เพื่อที่ครั้งหน้าจะได้เตรียมตัวไว้ล่วงหน้า เพื่อที่จะได้ไม่พลาดอีกครับ ! (ฮา)

รายชื่อทีวีที่มาประชันกันมีดังต่อไปนี้ครับ
1. Samsung 55ES8000
2. LG 55LM9600
3. Sony 55HX855
4. Panasonic 55VT50
5. ProVision 42,55ED7


คุณโรมันมาเปิดงานพร้อมแนะนำพรีเซ็นเตอร์แต่ละคนว่าชื่ออะไรและจะประจำตำแหน่งทีวีเครื่องไหนบ้าง
จะเห็นได้ว่าแค่เพิ่งเริ่มคนก็จะเต็มห้องแล้ว
 

ท่านที่มีความสนใจต่างพากันมาจับจองที่นั่งก่อนเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียวครับ


ประเดิมพรีเซ้นต์คนแรกด้วย LG 55LM9600 ก่อนเลยครับดุเด็ดเผ็ดมันส์ตามสไตล์ทีมงาน LCDTVTHAILAND
 

ผู้คนให้ความสนใจกันมากมายเช่นเคยกับฟีเจอร์ Cinema 3D พร้อมกับ Dual Play ฟีเจอร์ใหม่
ที่ช่วยให้คุณสามารถเล่นเกมส์สองผู้เล่นแบบเต็มๆจอได้ !


หมัดเด็ด LG ปีนี้ยังคงเป็น Cinema 3D ที่ให้ภาพลอยโดดเด่นเช่นเคย
 

ผู้เข้าฟังยังคงทะยอยเข้ามาภายในห้องกันอย่างเนืองแน่น ทีมงานเราวิ่งยกเก้าอี้กันจ้าละหวั่น
แว่นสามมิติที่มีมาให้ก็เกินการคาดเดาของพวกเราไปมาก ทำให้ต้องแบ่งๆกันดูให้ทั่วถึงครับ

59
สวัสดีครับทุกท่าน วันนี่นายโรมันเอาภาพบรรยายกาศงานบรรยายในหัวข้อ "LCDTVTHAILAND เอาอยู่ !!! ระเบิดศึกสุดยอดทีวีไฮเอนด์ชนกันตัวต่อตัว" ซึ่งพ่วงด้วย "Workshop สอนเทคนิคการปรับภาพเบื้องต้น" มาฝากทุกท่านครับ โดยงานบรรยายครั้งนี้จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ ในงาน BAV SHOW 2012 ที่โรงแรมแลนด์มาร์ค ซึ่งจำนวนผู้เข้าชมงานบรรยายนั้นก็มากกว่าครั้งที่ผ่านมาพอสมควรเลย เชื่อว่าผู้ที่เข้าร่วมงานคงได้ความรู้ในการปรับภาพกลับบ้านไปแบบเต็มกระเป๋าเป็นแน่แท้ !!!

ตัดมาเฉพาะส่วนต้นๆที่เป็นหลักการปรับภาพเบื้องต้นนะครับ ส่วนตอนปรับภาพเบื้องลึกอย่าง White Balance หรือการใช้ Probe ในการวัดอุณหภูมิสีจะติดลิขสิทธิ์ของ ISF นิดนึงครับ


งานบรรยายเมื่อวันเสาร์ที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมามี "น้องพริตตี้" สุดสวย
ทำหน้าที่ต้อนรับแขกหน้าห้องบรรยาย ^ ^

ยกตัวอย่างเช่น ค่าภาพหลักๆอาทิ Brightness, Contrast, Sharpness, Color, Tint, Aspect Ratio ผู้เข้าร่วมงานน่าจะได้ "เข้าใจ" ถึงความหมายที่แท้จริงของการปรับค่าเหล่านี้ว่าหากเราปรับมากไป-น้อยไป จะเกิดผลเสียอะไรตามมา และรวมถึงวิธีปรับให้ "ถูกต้อง" ต้องทำอย่างไร ด้วยแผ่น Digital Video Essential  รวมถึงการปรับภาพเบื้องลึกอย่างความหมายของ White Balance หรือสมดุลย์สีขาว แถมท้ายด้วยวิธีการปรับโหมดภาพสำเร็จรูปให้ค่า White Balance นี้ใกล้เคียงกับค่าอ้างอิงมากที่สุดครับโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งเครื่องมือปรับภาพราคาแพงมากนัก !!!


แหมมีน้องๆน่ารักมาคอยต้อนรับแบบนี้
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนถึงมารับชมกันเยอะ 555+

อย่างน้อยผมก็เชื่อว่าทุกท่านก็ได้เห็นถึงประโยชน์ของการปรับภาพให้ถูกต้องกันแล้วว่าจะช่วยให้ "รับชมภาพได้เฉกเช่นที่ผู้กำกับต้องการสื่อให้เราได้เห็น" แสงสีของภาพถูกต้องเป็นธรรมชาติแบบเดียวกับฟิลม์ต้นฉบับ นอกเหนือจากนี้ก็ยังได้เห็นศักยภาพจากทีวีทั้ง 6 ตัวจากแบรนด์ชั้นนำที่เราเอามาเปิดเทียบให้ได้ชมภาพเทียบกันแบบตัวต่อตัว


งานบรรยายงานเดียวเท่านั้น !!! ที่สามารถให้ท่านเบิ่งภาพเปรียบเทียบกัน 6 ตัวแบบไม่ต้องแคร์สื่อ

ต้องขอขอบคุณแฟนๆเว็บ LCDTVTHAILAND ด้วยนะครับที่เข้ามารับชมงานกันอย่างมากมาย เรียกได้ว่าทีมงานเราหายเหนื่อยจากการเซ็ตอัพ+แบกทีวีจอยักษ์เป็นปลิดทิ้งเลย 555+ ยิ่งไปกว่านั้นที่พิเศษสุดๆก็คืองานนี้ผู้เข้าฟังบรรยายได้ลุ้นรับรางวัล LCDTVTHAILAND HDMI รุ่น REFERENCE จำนวน 5 เส้น และหมอน LCDTVTHAILAND จำนวน 10 ใบฟรีอีกครับ เรียกได้ว่าได้รับทั้งสาระ ความบันเทิง และของรางวัลติดไม้ติดมือกลับบ้านอีก สามารถดูโฉมหน้าหน้าของผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลหน้าสุดท้ายนะครับ ^ ^

เอาเป็นว่าเรามาชมรูปงานบรรยายกันก่อนเลยดีกว่า มี 5 หน้าค่อยๆคลิ๊กดูไปทีละหน้านะครับ


บรรยากาศการเซ็ตอัพ จะเห็นทีวีทัั้ง 6 ตัวเปรียบเทียบกันแบบตัวต้อตัว !!!


ลงทะเบียนเข้างานกันก่อน
ลงทะเบียนแล้วจะได้รับเอกสารความรู้เกี่ยวกับการปรับภาพ 1 แผ่นประกอบการบรรยาย


1. ตัวแรก 55ST30 Panasonic Plasma TV ราคา 64,990 บาท
รุ่นนี้สู้แสงได้ดี ความสว่างมากกว่ารุ่นท็อปนิดหน่อยครับ


2. ตัวที่ 2 Samsung Plasma TV 51D8000 ดำดี สีสดเด้ง
ราคา 49,990 บาท


3. Samsung LED TV 55D8000 ราคา 111,990 บาท
ดีไซน์บางเฉียบมีสไตล์ เห็นแล้วน้ำลายหก


4. ยักษ์ใหญ่ในงาน Sony 65HX925 อภิมหาเทพ Full LED ราคา 179,990 บาท
ท่านที่เข้าชมงานคงประจักษ์ถึงระดับค่าตัวที่สูงไม่แพ้คุณภาพ


5. LG Cinema 3D 55LW6500 ทีวี 3 มิติลอยที่สุดใน 3  โลก !!!
ราคา 59,990 บาท


6. สุดท้าย LG 55LW9500 Full LED รุ่นท็อปของปีที่แล้ว แต่ LG ไม่ได้นำเข้าบ้านเราครับ
ทีมงานไปขอเป็นกรณีพิเศษเอามาโชว์ในงาน เลยไม่มีระดับราคาให้อ้างอิง


อุ่นเครื่องให้ผู้เข้าร่วมงานใส่แว่นรับชมทีวี 3 มิติลอยๆกันก่อน
เสื้อลายน้ำเงินๆด้านซ้ายท่าน somchai ขาประจำเว็บบอร์ด (รายงานตัวด้วยนะเฮีย)

60

พาชม !!! สงคราม 3 มิติ  Active VS Polarized ใครจะอยู่ ใครจะไปที่ BAV Show 2011‏


ผ่านพ้นไปแล้วนะครับ สำหรับงาน BAV Show 2011 ที่ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 9 แล้ว ซึ่งผู้คนที่เข้าชมงานทั้งหมดนั้นก็ถือว่าเยอะมากทีเดียว และทางทีมงาน LCDTVTHAILAND เองก็ไม่พลาดที่จะนำภาพบรรยากาศภายในงานทั้งหมดมาให้ชมกัน แต่ !!! ในวันนี้ถึงคิวของ "สงคราม 3 มิติ" บ้าง เชื่อว่าหลายฝ่ายต่างก็ทำการบ้านมาดี ศึกษาข้อดี ข้อเสีย เพื่อเตรียมมาออกรบกัน ใครที่พลาดในวันนั้น เดี๋ยวนาย ToNy จะพาไปชมกันครับ ตามมาได้เลย !!


บรรยากาศในห้องบรรยาย ที่ทางทีมงานได้เซ็ทอัพทีวีกันไว้แล้ว

ก่อนอื่นก็ต้องแนะนำ 3D TV กันก่อนว่ามีอะไรบ้าง

พรรค 3D Active



1. Samsung 55D8000 - LED TV ดีไซน์สุดบาง พร้อมภาพสีสันสดใส
และฟังก์ชั่น Smart TV สุด Modern ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว


2.Panasonic 50VT30 - พลาสม่าหนึ่งเดียวในงานนี้
ที่มาในชื่อ Neo PDP ภาพเคลื่อนไหวคมชัดสมจริง แฝงด้วยสีสันอุ่นสบายตา


3. Sony 46HX925 - หรูหราด้วย Monolithic Design จอภาพเอนมีระดับโดดเด่น
พร้อมคุณภาพคับแก้ว ขุนพลแนวหน้าจากค่ายยักษ์ใหญ่แดนอาทิตย์อุทัย

พรรค 3D Polarized


4. ProVision 42U5D - LCD TV สามมิติราคาประหยัดที่คุณภาพไม่มีกั๊ก !!
 ดูแล้วภาคภูมิใจ แบรนด์คนไทยขายเอง


2. LG 55LW6500 - มาแรงที่สุดในช่วงนี้ด้วยเทคโนโลยี Cinema 3D
ภาพลอยเร้าใจสบายตา ไม่มีกระพริบ พร้อมเชื่อมต่อสู่โลกออนไลน์ด้วย Content ระดับ Premium


ก่อนเริ่มการบรรยายจากทางทีมงาน LCDTVTHAILAND เริ่มมีผู้ที่มาจับจองที่นั่งกันแล้ว
ระหว่างนั้นทางผู้เข้าร่วมก็ได้มีโอกาสลองรับชม 3D ทั้งสองแบบกันครับ


คุณโรมัน และคุณชานม ได้อธิบายถึงบัตรเลือกตั้ง (เลือกข้าง 3D) ในวันนี้
เพราะหลังจากบรรยายและรับชมเสร็จ เรามีให้โหวตกันด้วยนะครับ


พร้อมเอาของรางวัลมาให้ทุกท่านชมคือ หมอน LCD จำนวน 5ใบ และ
สาย LCD HDMI จำนวน 5 เส้น !! และผ้าพันคอสีน้ำเงินนั้นคือทีม 3D Active
เริ่มที่ซ้ายสุดคุณ กอล์ฟคุง คุณโรมัน และคุณชานม


จากนั้นคุณโรมันก็ซ้อมโหวตกันเล็กน้อย เรียกเสียงเฮกันได้เป็นช่วงๆ


สำหรับอีกทีมของวันนี้นั่นก็คือ 3D Polarized !!
ซ้ายสุดคุณบูมเมอแรง ถัดมาคือผม (ToNy) และ คุณนัท Underground นั่นเอง

ก่อนที่จะเริ่มทำสงคราม3มิติ กันนั้นผมเชื่อว่าหลายท่านก็ยังไม่รู้ว่า ทุกวันนี้ 3D นั้นมีกี่ประเภท มีหลักการทำงานอย่างไร อย่างนี้เรียกว่าอะไร ทางทีมงานจะได้อธิบายให้รับฟังรับชมในหน้าถัดไปครับ

61

ถึงเวลาแล้วครับสำหรับการประกาศผลรางวัล "VIDEOPHILE LCDTVTHAILAND AWARDS 2012-2013" ที่ทางทีมงานได้จัดขึ้นมาตลอดและจะมีการประกาศผลรางวัลในช่วงเดือนพฤศจิกายน รางวัลนี้เปรียบเสมือนการพิจารณาภาพรวมของเทคโนโลยีทีวีตลอดทั้งปี ถ้าหลายๆ ท่านจำได้ ในปีที่แล้วจะไม่มีรางวัล Best Smart TV Award และ Best Midrange LED TV Award เหตุผลที่ทางทีมงานตัดสินใจเพิ่มสองรางวัลนี้เข้าไปเพราะเป็นการก้าวกระโดดของเทรนด์เทคโนโลยีทีวีในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา หลายๆ แบรนด์ต่างพัฒนาลูกเล่นของสินค้าให้ดูแตกต่าง และโดดเด่นในแนวทางของตัวเอง ผลตอบรับกับผู้บริโภคก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ อีกทั้งยังมีการเพิ่มไลน์สินค้าประเภท LED TV ให้มากกว่าเดิม ทีมงานจึงเห็นสมควรเพิ่มรางวัล LED TV ระดับกลางยอดเยี่ยมตามมาด้วย ทางทีมงานหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการประกาศผลรางวัลนี้จะเป็นหนึ่งในแนวทางที่ช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อทีวีได้ง่ายขึ้นนะครับ และผมขอทิ้งท้ายไว้ด้วยประโยคคลาสสิคว่า...

"ทีวีที่ดี ไม่ใช่ทีวีที่แพงที่สุด.. หากแต่เป็นทีวีที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด"


-----------------------------------------------------------------------------------

รางวัลประเภท Best TV Awards 5 รางวัล



1. รางวัล Best Of The Best TV Award : สุดยอดทีวีที่ดีที่สุดประจำปี

สำหรับรางวัลสุดยอดทีวีที่ดีที่สุดประจำปี ตกเป็นของ Panasonic NeoPlasma รุ่น “VT50” หากเปรียบเทียบกับ VT30 ของปีที่แล้ว จัดได้ว่า VT50 แสดงภาพออกมาได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด การแสดงสีดำที่อิ่มลึกจากอัตราการเรืองแสงที่น้อยกว่า และโทนสีดำที่ถูกต้องเป็นธรรมชาติกว่า Plasma TV และ LED TV ทุกรุ่นในปี 2012 นี้ โทนแสงสีอบอุ่นนุ่มนวล ดูสบายตา แม้ว่าระดับความสว่างจะเป็นรองทีวีหลายๆ รุ่น แต่มิใช่จุดด้อย หากคุมแสงแวดล้อมได้ดี (ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรกระทำ เมื่อต้องการดึงศักยภาพของทีวีออกมา) หากเอาไปตั้งในห้องโฮมเธียเตอร์ที่คุมสภาพแวดล้อมได้ จะถ่ายทอดภาพออกมาได้ใกล้เคียงกับจอฉายในโรงภาพยนตร์มากที่สุด แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือ การรองรับการปรับภาพละเอียดจากโหมด Professional (ISFccc) ที่ยืดหยุ่น และเที่ยงตรงที่สุดสำหรับมาตรฐานคอนซูเมอร์ทีวีในปีนี้ โหมดภาพสำเร็จรูปอย่าง THX ทั้ง 2 โหมด ก็ตอบสนองการใช้งานได้ดี แนวภาพที่ได้เป็นที่ต้องตาต้องใจไม่ใช่เฉพาะทีมงานเท่านั้น แต่ถือเป็นเอกฉันท์จากผลโหวตของผู้เข้าร่วมงานบรรยายในงาน BAV SHOW 2012 ที่จัดโดยทีมงาน LCDTVTHAILAND เมื่อกลางปี หากเปรียบเทียบกับบรรดาผู้เข้าชิงอย่าง LG LM9600, Samsung E8000, และ Sony HX855 ทีมงานให้ Panasonic VT50 เฉือนเรื่องคุณภาพของภาพจากบรรดาผู้เข้าชิงไปครึ่งช่วงตัว ซึ่งคุณภาพของภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ที่ใช้ในการประเมินผลรางวัล กระนั้นประเด็นด้านอื่นๆ VT50 ก็ทำได้ดี คุณภาพเสียงแม้มิได้โดดเด่นเป็นที่สุด แต่ตอบสนองการใช้งานได้ดี ให้น้ำเสียงหนักแน่น แลดูมีพลัง มิแห้งเหือด ส่วนลูกเล่นอย่าง Smart VIERA พวกออนไลน์วีดีโอคอนเทนต์ (หนัง), เกมส์, แอพพลิเคชั่นต่างๆ สามารถใช้งานได้จริง โดยเฉพาะหนังคุณภาพ HD จาก 3BB Movie Buffet สุดท้ายคือ ดีไซน์หน้าจอแบบ One Sheet Of Glass หรือกระจกแผ่นเดียวเรียบเนียนทั้งผืน ฉีกหนีการดีไซน์แบบอนุรักษ์นิยมเดิมๆ ของ Panasonic ออกไป จากเหตุผลทั้งหมดข้างต้น จึงมอบรางวัล Best of The Best TV หรือทีวีดีที่สุดของที่สุดประจำปี 2012-2013 ให้กับ Panasonic VT50 ไปครอง  !  

Candidates: LG LM9600, Panasonic VT50, Samsung ES8000, Sony HX855


>> รีวิว Panasonic VT50 <<



คุณนาวี อินทรสังขนาวิน มอบรางวัล Best Of The Best TV Award : Panasonic VT50 ให้กับ
Mr.Hideki Tanaka, Director, AV & DI Marketing Department บริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

-----------------------------------------------------------------------------------



2. Editors' Choice Award : รางวัลทีวี "ขวัญใจ" ทีมงาน

รางวัลสุดยอดทีวีขวัญใจทีมงานปีนี้ ตกเป็นของ Samsung ES8000 ทีวีเจ้าของฉายา “หน้าตาดี มีรถขับ โทรศัพท์ถ่ายรูปได้” การตัดสินจะให้เหตุผลส่วนตัวของทีมงานผู้รีวิว และคณะกรรมการตัดสินล้วนๆ ซึ่งต้องยอมรับว่ามีการแย้งกันอยู่พอสมควร (ต่างคน ต่างมีเหตุผลความชอบส่วนตัวกันไปคนละด้าน) กระนั้นเมื่อใช้การโหวต และประเมินกันด้วยเหตุผลจึงได้ข้อสรุปออกมาดังนี้ ประเด็นศักยภาพการถ่ายทอดความเที่ยงตรง ทีวีรุ่นนั้นจะต้องได้มาตรฐานตรงกับค่าอ้างอิง ซึ่งรายชื่อผู้เข้าชิงถือว่าผ่านทั้งหมด อาจแตกต่างกันบ้างก็เพียงเล็กน้อย ทว่าในมุมมองผู้ทดสอบ ตัวเลือกตั้งค่าบางประเด็นอาจจะด้อยกว่าคู่แข่งอยู่บ้าง แต่เมื่ออ้างอิงสภาพแวดล้อมเดียวกัน ปัจจัยภายนอกที่กระทบระหว่างการปรับภาพ Samsung ES8000 ค่อนข้างน้อย จึงสามารถปรับภาพให้แสงสีถูกต้องใกล้เคียงกับค่าอ้างอิงได้ง่าย ไม่ซับซ้อนหรือยุ่งยากจนเกินไป ประเด็นรูปลักษณ์ภายนอกก็มิได้ขี้เหร่ ออกจะดูดีทันสมัยถูกใจหลายท่าน สามารถตั้งเด่นเป็นสง่าในห้องนั่งเล่น ยันห้องโฮมเธียเตอร์ได้ไม่ตกเทรนด์ แต่เหนือสิ่งอื่นใด จุดที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ได้รางวัลนี้ คือ การบุกเบิกเริ่มต้นแนวคิดใหม่ๆ ซึ่งหลายอย่าง อาจยังมีข้อจำกัด ต้องอาศัยเวลาในการพัฒนา แต่ต้องให้เครดิตกับ “ความกล้า” ฉีกกฎเกณฑ์การใช้งานทีวีให้ต่างไปจากเดิม ไม่ว่าจะเป็นเมื่อก่อนหรือตอนนี้ หน้าที่หลักของทีวี คือ การนำเสนอสื่อวิดีโอ หรือภาพนิ่งรูปแบบต่างๆ เรื่องจะนำทีวีไปใช้งานด้านอื่นคงไม่มีใครคิด Samsung ถือเป็นผู้นำในการบุกเบิกเพิ่มคุณค่าทีวีให้สูงขึ้นด้วยคำว่า “Smart TV” ได้ชัดเจนที่สุด พอปีนี้ ขณะที่ยี่ห้ออื่นยังคงอิงพื้นฐานเทคโนโลยี Smart TV เดิมๆ มิได้มีอะไรแหวกแนวชัดเจนนัก แต่ Samsung กลับมุ่งพัฒนาเรื่องของ Smart TV ต่อไป ด้วยการเสริมเรื่องของ Smart Interaction นวัตกรรมที่ปฏิวัติรูปแบบการควบคุมสั่งงานทีวี ด้วยเครื่องมือที่เรียบง่ายทว่าหวือหวากว่าที่คิด โดยการใช้ “อวัยวะของมนุษย์” ในการสั่งงานทีวีโดยตรง ไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มือถือเหมือนก่อน ไม่ว่าจะใช้เสียง การเคลื่อนไหว หรือใบหน้า เพื่อเปิด/ปิดเครื่อง เพิ่มลดระดับวอลลุ่ม รวมถึงการเปลี่ยนช่อง เปลี่ยนอินพุต และการใช้งานฟังก์ชั่น Smart TV ทั้งนี้การส่งเสริม Smart Interaction จำเป็นต้องมีปัจจัยสนับสนุนการใช้งาน ซึ่งผู้ผลิตให้ความสำคัญและพัฒนาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การติดตั้งกล้องเว็บแคมมาพร้อมสรรพ แอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ทั้ง Global และ Local หนึ่งในนั้น คือ Angry Birds เกมยอดฮิต ที่สอดรับการควบคุมด้วย “มือ” อย่างลงตัว Samsung ES8000 จึงเป็นผู้สร้างบรรทัดฐานใหม่ของการควบคุมทีวีสุดอัจฉริยะให้กับเรา เชื่อเหลือเกินว่าในอนาคต จะเริ่มเห็นการควบคุม Smart Interaction นี้ กับทีวีระดับกลางของ Samsung และค่ายอื่นๆ คงจะเริ่มทยอยให้ความสำคัญกับลูกเล่นอำนวยความสะดวกแบบนี้อีกเป็นแน่แท้ ด้วยความลงตัวทั้งคุณภาพ และลูกเล่นที่จะเป็นบทบัญญัติใหม่ของทีวีในอนาคต จึงขอยกรางวัลสุดยอดทีวี “ขวัญใจทีมงาน” หรือ “Editors' Choice Award” ให้กับ Samsung ES8000 !!!


>> รีวิว Samsung ES8000 <<



คุณวีรเกียรติ จิรัฐการุณธ์ มอบรางวัล Editor's Choice Award : Samsung ES8000
ให้กับคุณอัศวิน ชูสถาพรกุล ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์ภาพและเสียง บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด

-----------------------------------------------------------------------------------



3. รางวัล Best LED TV Award : สุดยอด LED TV ที่ดีที่สุดประจำปี

LG LM9600 LED TV หนึ่งเดียวของปี 2012-2013 ที่ใช้ “Full LED” Backlight หรือการจัดวางหลอด LED เรียงเต็มแผงหลังจอ ความสว่างจึงทำได้สูงกว่าอย่างไม่ต้องสืบ ในขณะที่ผู้เข้าชิงรายอื่นๆ จะจัดวางหลอดแค่ตามขอบจอแบบที่เรียกว่า Edge LED Backlight เท่านั้น นอกจากนี้จุดเด่นสำคัญของ Full LED ที่รองรับฟังก์ชั่น “Local Dimming” หรือการเปิด-ปิด-หรี่ หลอดไฟ LED ในแต่ละจุดได้อิสระ ทำให้ LG LM9600 ได้เปรียบเรื่องการ “คุมแสง” ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานของจอ อันมีส่วนช่วยในการถ่ายทอดระดับสีดำได้อย่างโดดเด่น และจะส่งผลถึงระดับเปรียบต่างของความสว่าง (Contrast) ที่สูงขึ้นจริงอย่างมีนัยสำคัญ จากทั้งระดับความสว่างสูง และต่ำ (มืด) สุด คาแรกเตอร์ตัวตนของภาพจาก LG LM9600 ให้สีสันที่อิ่มเข้ม ดุดัน ซึ่งมิใช่รับรู้ได้เพียงมุมมองตำแหน่งกึ่งกลางจอเท่านั้น การรับชมจากพาเนลแบบ IPS จัดได้ว่าเป็นพระเอกเลยทีเดียว อาการสีซีดโพลน หรือระดับความสว่างดร็อปลงจากมุมมองเฉียงๆ น้อยกว่าพาเนล LED TV ทุกตัวในท้องตลาด ลูกเล่นต่างๆ ทั้ง Cinema 3D ที่ใช้แว่นแบบ Polarized เป็นที่ถูกใจหลายๆ ท่าน ทั้งเรื่องน้ำหนักแว่นที่เบา ราคาประหยัด แต่ที่สำคัญ คือ ปราศจากการกะพริบ 100% ไม่ต้องใช้แบ็ตฯ และไม่ต้อง sync กับทีวี ตามด้วยดีไซน์แบบ Cinema Screen ขอบบางเฉียบเพียง 5 มม. หล่อแบบ “ไร้ขอบ”  หากให้เปรียบเทียบกับผู้เข้าชิงอย่างอย่าง Sony HX855 และ Samsung ES8000 การแสดงภาพและความถูกต้องของแสงสี จัดได้ว่าสูสีกัน แต่ LG LM9600 จะเฉือนเรื่องการคุมแสงจาก Local Dimming อันเกี่ยวเนื่องกับการแสดงสีดำ มุมมองการรับชม ตลอดจนคุณภาพเสียงที่ทรงพลังโดดเด่น กระจ่างชัด และหนักแน่นกว่าใคร ด้วยเหตุนี้ขอมอบรางวัล BEST LED TV ประจำปี 2012-2013 ให้ไปครองอย่างเป็นเอกฉันท์

Candidates : LG LM9600, Samsung ES8000, Sony HX855


>> รีวิว LG LM9600 <<



 คุณนาวี อินทรสังขนาวิน มอบรางวัล Best LED TV Award : LG LM9600 ให้กับ
คุณขวัญใจ นพนันทกุล  ผู้จัดการอาวุโสกลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์

-----------------------------------------------------------------------------------



4. รางวัล Best LCD TV Award : สุดยอด LCD TV ที่ดีที่สุดประจำปี

สำหรับรางวัล Best LCD TV Award 2012-2013 ต้องยอมรับว่าในตลาดปัจจุบันมีรุ่นให้เลือกไม่เยอะเหมือนช่วง 2-3 ปีก่อน โดยเฉพาะแบรนด์หลักอย่าง Samsung และ LG ต่างก็ลดการผลิตลงมาเหลือเพียง 1 รุ่นเท่านั้น LCD TV ที่วางขายก็จะเน้นในด้าน "ราคา" เป็นหลัก ด้วยเหตุผลหลายๆ ประการ อย่างเช่น ระดับราคาของ LED TV รุ่นล่างสุด ที่วางขายในปีนี้ถือว่าลดต่ำลงมาก จนทับกับเพดานราคาของ LCD TV เดิม การจะทำราคาให้ LCD TV สูงกว่า LED TV ย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะจะยิ่งเร่งฝัง LCD TV ให้ตายลงทางอ้อม ดังนั้นคุณภาพของ LCD TV จึงอยู่ในระดับที่เรียกว่า ประคองราคาให้ต่ำ เน้นไปทางความคุ้มค่าเป็นหลัก เมื่อพิจารณาศักยภาพดูแล้ว ผลสรุปจึงมาลงตัวที่ Sony CX450 ด้วยตัวทีวีที่ใส่ฟังก์ชั่นลูกเล่นต่างๆ มาให้แบบ "จัดเต็ม" ไม่ว่าจะเป็นโหมดภาพสำเร็จรูป Scene Mode ต่างๆ มีระบบ "Intelligent Picture PLUS" ช่วยปรับปรุงสัญญาณให้ดียิ่งขึ้น ระบบ Picture And Picture ที่สามารถปรับแบ่งเพื่อรับชมภาพจาก 2 แหล่งสัญญาณพร้อมกัน และสำคัญที่สุด คุณภาพของภาพที่ออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่า LCD TV รุ่นอื่นๆ ในปีนี้ค่อนข้างชัดเจน สามารถเทียบเคียงกับ LED TV ระดับล่างๆ ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ ประกอบกับในปัจจุบันไม่ค่อยมีแบรนด์ใด ที่งัดลูกเล่นของ LCD TV ออกมาเต็มอย่างนี้เท่าไรนัก แม้ Polytron H12A ที่เป็นคู่แข่ง จะมีระบบปฏิบัติการณ์ "Android TV" เป็นจุดขายเพิ่มคุณค่า แต่ในด้านการใช้งานจริงยังเป็นรอง Android Devices อื่นๆ อยู่บ้าง คุณภาพเสียงดี แต่เรื่องภาพเป็นรอง Sony ในบางด้าน ทำให้ผลการตัดสินรางวัล Best LCD TV Award ตกเป็นของ Sony CX450 ครับ

Candidates : Sony CX450 , Polytron H12A


>> รีวิว Sony CX450 <<


คุณวีรเกียรติ จิรัฐการุณธ์ มอบรางวัล Best LCD TV Award : Sony CX450 ให้แก่
Mr. Jumpei Sugimoto : Marketing Manager กลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอนเตอร์เทนเมนท์ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด

-----------------------------------------------------------------------------------



5. รางวัล Best Plasma TV Award : สุดยอด Plasma TV ที่ดีที่สุดประจำปี

คงเป็นการขยายความจากรางวัล Best of The Best TV ที่ Panasonic VT50 ได้เข้าวินไป หากให้เปรียบเทียบสุดยอด Plasma TV ประจำปีนี้ ที่สูสีกันมีเพียงแค่ 2 ตัวเลือก คือ Panasonic VT50 และ Samsung E8000 ออกจะ “ดีกันคนละด้าน” อย่าง VT50 ได้เปรียบเรื่อง “การแสดงสีดำที่ดำสนิทกว่า” แนวภาพที่แลเป็นธรรมชาติใกล้เคียงกับ “จอฉายในโรงภาพยนตร์” มากกว่า มีโหมดภาพสำเร็จรูปอย่าง THX (Cinema, Bright Room) แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือ โหมด Professional (ISFccc) ที่เปิดโอกาสให้เข้าไปปรับภาพเบื้องลึกอย่างละเอียดได้ ในขณะที่ Samsung E8000 ให้โทนภาพที่มีความสว่าง สีสันสดใส ศักยภาพสู้แสงได้ดีกว่า Panasonic VT50 และหากเทียบกับรุ่นของปีที่แล้ว (D8000 ซึ่งติดอมแดงนิดๆ) E8000 จะให้ความแม่นยำได้ดีกว่าเรื่อง “ความถูกต้องของสี” และสามารถปรับแต่งค่าแสงสีออกมาได้อย่างถูกต้องเที่ยงตรงได้ อย่างไรก็ดี “การแสดงสีดำ” ของ E8000 จะลดทอนความโดดเด่นลงเล็กน้อย รวมถึงตัวเลือกในการตั้งค่าปรับภาพละเอียดจะน้อยกว่า VT50 ในบางจุด ดังนี้ในเรื่ององค์ประกอบความสมบูรณ์ของคุณภาพของภาพที่จะได้รับ Panasonic VT50 แอบเฉือน Samsung E8000 ไปเล็กน้อย ในด้านของลูกเล่น Samsung จะหวือหวากว่า ด้วย Smart Interaction พร้อมกล้องเว็บแคมในตัว รองรับการสั่งงานได้ด้วยเสียง ท่าทาง และระบบจดจำใบหน้า ส่วน Panasonic มีดีที่ออนไลน์วีดีโอคอนเทนต์ที่เป็นภาพยนตร์ดัง ชมได้ทั้งเรื่อง แบบ HD และ SD จาก 3BB ส่วนจอภาพขนาดใหญ่ สำหรับ Panasonic มีให้เลือกสรรทั้ง 55” และ 65” ส่วน Samsung มีขนาด 51” และ 64” หากให้น้ำหนักพิจารณาดูแล้ว ทีมงานให้ Panasonic เฉือนแบบเส้นยาแดงผ่าแปดในประเด็นเรื่องคุณภาพของภาพ ที่เหนือกว่าเล็กน้อย จึงเข้าวินคว้ารางวัล Best Plasma TV Award ประจำปีนี้ไปครอง

Candidates : Panasonic VT50 , Samsung E8000


>> รีวิว Panasonic VT50 <<


คุณวีรเกียรติ จิรัฐการุณธ์ มอบรางวัล Best Plasma TV Award : Panasonic VT50 ให้กับ
Mr.Hideki Tanaka, Director, AV & DI Marketing Department บริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

-----------------------------------------------------------------------------------


62
สนใจลงโฆษณาหรือกระทู้ปักหมุดในห้องซื้อขาย "จานดาวเทียม" และ "เคเบิลทีวี"

สินค้าที่รับลงโฆษณา
- จำหน่ายสินค้าอาทิเช่น จานดาวเทียม เคเบิลทีวี กล่องรับสัญญาณ
- รับบริการติดตั้งจานดาวเทียม
- และอื่นๆที่เกียวข้องกับสินค้าและบริการกล่องและจานดาวเทียม

ติดต่อ [email protected] หรือ PM มาที่ lcdtvthailand ครับ

63
Digital TV คืออะไร ? ใช้กับทีวีที่บ้านเราได้หรือไม่ ? ร่วมไขข้อข้องใจได้ที่นี่ !!

Digital TV คืออะไร ?
ระบบดิจิทัล ทีวี ( Digital TV ) คือ.. ระบบส่งสัญญาณแบบใหม่ที่จะมาแทนที่การส่งแบบ Analog TV ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการยกระดับการส่งสัญญาณโทรทัศน์ ให้เป็นระบบดิจิทัลตั้งแต่ต้นทาง เริ่มจาก "เสาอากาศภาคพื้นดิน" จนถึงทีวีที่บ้านเรา ซึ่งตัวเครื่องจำเป็นต้องมีภาครับหรือ Digital Tuner ที่มีมาตรฐาน DVB-T2 หรือใช้กล่อง Set top Box เป็นตัวรับสัญญาณและเชื่อมต่อเข้าทีวีอีกที



ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นแบบไหน ?
ถ้าจะกล่าวถึง Digital TV ก็ต้องขอพูดถึงระบบทีวีที่รับชมกันในบ้านเราตั้งแต่ดั้งเดิมมาจนถึงปัจจุบัน เป็นการรับสัญญาณแบบ Analog TV คือใช้สถานีโทรทัศน์ภาคพื้นดินเป็นตัวส่งสัญญาณ และตามบ้านก็ใช้เสาอากาศรับสัญญาณหรือที่เรียกติดปากว่า "เสาหนวดกุ้ง" นั่นแหละครับ ทำให้ความคมชัดก็ขึ้นอยู่กับระยะทางด้วย ยิ่งไกล สัญญาณอ่อน เราก็ยิ่งเห็นเม็ดยิบๆบนจอมากขึ้นเรื่อยๆ



ถัดมาคือโทรทัศน์ดาวเทียมหรือ Satellite TV ที่เกิดขึ้นมามากมายในช่วง 15 ปีมานี้ ยกตัวอย่างเช่น True Vision , GMM-Z , D-TV ซึ่งเราสามารถรับสัญญาณดิจิทัลโดยตรงจากจานดาวเทียม สู่จานเหลือง จานแดง จานส้ม ตามแต่จะเรียก แต่สุดท้ายต้องผ่าน "กล่อง" Set Top Box ซึ่งทำหน้าที่ "ถอดรหัสสัญญาณดิจิทัลเป็นอนาล็อก"เพื่อเข้าทีวีเราอีกที ค่าบริการที่แต่ละที่เรียกเก็บก็ต่างกันตามโปรโมชั่น
** ในปัจจุบันก็มีบางเจ้าใช้กล่อง Set Top Box ที่มีช่อง Output  เป็น HDMI ซึ่งเป็นดิจิทัล เช่นเดียวกัน **



Digital TV ดียังไงล่ะ ?
ระบบ Digital นั้นจะทำให้เราได้รับชมภาพแบบ High- Definition หรือ HD ได้ ซึ่งมีความคมชัดสูง และรับชมกับโทรทัศน์แบบ Wide Screen 16:9 ได้อย่างเต็มจอ โดยอัตราส่วนไม่ผิดเพี้ยนแต่อย่างใด ( ทุกวันนี้ทีวีที่ออกอากาศในบ้านเราส่งสัญญาณมาแบบ 4:3 ) รวมถึงช่องสัญญาณฟรีทีวีที่จะมีให้รับชมมากขึ้นถึง 48 ช่อง โดย 24 ช่องเป็นของเอกชน อีก 24 ช่อง เป็นของรัฐบาล และจะมี 4 ช่องที่แพร่ภาพแบบ HD และจะไม่มีอาการสัญญาณขาดๆหายๆเหมือนอย่าง Analog TV ที่ภาพเป็นเม็ดๆอีกต่อไป จะมีแต่ "รับได้ ภาพขึ้น" กับ "รับไม่ได้ ภาพไม่ขึ้น"

** รายละเอียดช่องรายการยังมีข้อสรุปไม่เป็นที่แน่ชัด อาจเปลี่ยนแปลงได้ **

ประเทศไทยใช้ระบบ Digital TV แบบไหน ?
ประเทศไทยเลือกใช้ระบบ DVB-T2 หรือ (Digital Video Broadcasting – Terrestrial 2nd generation) ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ของการส่งสัญญาณโทรทัศน์ระบบดิจิทัล ซึ่งพัฒนามาจากระบบ DVB-T (Digital Video Broadcasting – Terrestrial ) ที่ประเทศไทยไม่ได้ใช้ แต่ข้ามไป T2 เลย ( เจ๋งปะล่ะ ! ^^ )  ข้อดีคือมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่องสัญญาณมากกว่าแบบ Terrestrial เดิมถึง 1.5 เท่า สามารถส่งสัญญาณความละเอียดสูงแบบ HD หรือ Full HD ได้ ที่สำคัญคือระยะส่งที่ไกลกว่าเดิม โดยในปัจจุบันหลายประเทศกำลังทดลองใช้ระบบนี้ รวมถึงประเทศในกลุ่มอาเซียนทั้งหมดก็ตกลงร่วมกันว่าจะใช้ระบบ DVB-T2

แล้วทำยังไงเราถึงจะดู Digital TV ได้ล่ะ ?
1. ใช้กล่องรับสัญญาณ Digital TV หรือ ( Set Top Box ) ที่สามารถรับสัญญาณ DVB-T2 ได้ ข้อดีคือไม่ว่าคุณจะใช้ทีวีรุ่นไหนก็ตาม CRT / LCD TV / LED TV / PLASMA TV จะเก่าจะใหม่ ก็สามารถดูได้หมด ยกตัวอย่าง ถ้าทีวีมีช่องต่อ HDMI ก็ใช้ต่อผ่านช่องนี้เพื่อรับชมด้วยสัญญาณดิจิทัลได้เลย ถ้าเป็นจอแก้วรุ่นเก่าใช้ช่องต่อ AV แดงขาวเหลือง ตัวกล่องก็จะทำหน้าที่แปลงสัญญาณจากดิจิทัลเป็นอนาล็อกเพื่อเข้าทีวีรับชมได้เหมือนกัน



2. ใช้ทีวีที่มี Digital Tuner แบบ DVB-T2 ในตัว ในปัจจุบันทีวีที่วางขายส่วนมากจะมีแต่แบบ  DVB-T ซึ่งไม่สามารถใช้ร่วมกับมาตรฐานแบบ  DVB-T2 ได้ แต่เชื่อว่าในปีนี้ 2013 นี้จะมีหลายรุ่นออกมาวางจำหน่ายแน่ๆ



ถ้ายังอยากใช้แบบเก่า จะสามารถดูฟรีทีวีได้หรือไม่ ?
ถ้าที่บ้านไม่มี Digital TV ที่สามารถรับ DVB-T2 ได้ และยังไม่มีกล่องรับสัญญาณ Set Top Box ก็ยังสามารถรับชมฟรีทีวีเหมือนเดิมได้ทุกประการ ผ่านการส่งสัญญาณแบบ Analog ที่ใช้อยู่ ณ ปัจจุบัน ซึ่งรัฐบาลมีข้อตกลงว่าจะทำการแพร่ภาพระบบ Analog และ Digital ควบคู่กันไป จนถึงปี 2563 หรืออีกประมาณ 7 ปีนั่นเอง

ถ้าที่บ้านใช้ระบบ "จานแดง จานเหลือง" อยู่แล้วล่ะ ?
ต้องแยกกันระหว่างระบบที่ส่งสัญญาณภาพพื้นดิน กับระบบดาวเทียม ถ้าที่บ้านใช้จานรับสัญญาณดาวเทียมดูผ่าน Set Top Box อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นของ True Vision , GMM-Z และอื่นๆ ก็ยังสามารถรับชมได้ตามปกติครับ ไม่มีปัญหาใดๆ

ทีวีที่วางขายในปัจจุบันมีรุ่นใด ยี่ห้อใดบ้างที่มี Digital Tuner DVB-T2 ?
ณ ปัจจุบันทีวีที่วางขายในประเทศไทย ยังไม่มีรุ่นใดมี Digital Tuner แบบ DVB-T2 แต่คาดการณ์ว่าในปี 2013 นี้ ทีวีที่กำลังจะเปิดตัวตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป บางรุ่นจะมี Digital Tuner DVB-T2 ติดมาด้วยแน่นอน !! โดยเฉพาะบิ๊ก 4 อย่าง Sony , LG , Samsung , Panasonic ส่วนจะเป็นรุ่นใด ราคาเท่าใด ต้องรอติดตามครับผม



บทความ Digital TV คืออะไร ? ใช้กับทีวีที่บ้านเราได้หรือไม่ ? ร่วมไขข้อข้องใจได้ที่นี่ !!:
 http://www.lcdtvthailand.com/article/detail.asp?param_id=1492

64


"JERICHO" ผ่านการวิจัยและพัฒนาจากทีมวิศวกรและทดสอบโดยทีมนักรีวิวผู้เชี่ยวชาญมามากกว่า 2 ปีเต็ม ด้วยคุณสมบัติพิเศษและเทคโนโลยีการผลิตที่ "เหนือกว่า" อันได้แก่ ตัวนำเคลือบ "เงินบริสุทธิ์" พร้อมวิธีการเข้าหัวแบบ "BAYONET" ปราศจากการบัดกรีและตะกั่ว และตลอดจน "ลูกศรบอกทิศ" เพื่อให้สัญญาณไหลไปในทิศทางที่ถูกต้อง จึงทำให้ JERICHO เป็นสาย HDMI ที่เรากล้าการันตีว่าให้คุณภาพของภาพและเสียงที่ "ดีที่สุด" ในช่วงราคา

สาย HDMI : JERICHO ได้ผ่านการทดสอบแล้วว่า
"รองรับมาตรฐานใหม่ล่าสุด HDMI Version 2.0
รวมถึงรองรับมาตรฐานช่องต่อเวอร์ชั่น 2.1 ในอนาคต แน่นอน "

ติดตามข้อมูลสินค้าและโปรโมชั่นได้ที่ https://www.facebook.com/Lcdhdmi


เปิดตัวมี 3 ขนาดพร้อมราคาพิเศษได้แก่
1 เมตร = ราคาปกติ 2,390 บาท // ราคาพิเศษ 2,190 บาท
2 เมตร = ราคาปกติ 2,690 บาท // ราคาพิเศษ 2,490 บาท
3 เมตร= ราคาปกติ 2,990 บาท // ราคาพิเศษ 2,790 บาท

NEW !!! ขนาดใหม่สำหรับต่อใช้งานโปรเจคเตอร์
10 เมตร = ราคาปกติ 7,990 บาท // ราคาพิเศษ 6,990 บาท
12 เมตร = ราคาปกติ 9,990 บาท // ราคาพิเศษ 8,490 บาท
15 เมตร = ราคาปกติ 12,990 บาท // ราคาพิเศษ 9,990 บาท

ติดตามอัพเดทข่าวสารและโปรโมชั่น LCD HDMI ได้ที่ http://www.facebook.com/Lcdhdmi


------------------------------------------------------------------------------------

A. Cutting Edge Technologies - สุดยอดเทคโนโลยีอันเหนือชั้น

1. Silver Plated :: ตัวนำแกนเดี่ยวเคลือบ “เงินบริสุทธิ์” ระดับออดิโอไฟล์  นำสัญญาณได้ดีกว่าตัวนำแบบปรกติ(ทองแดง) เพื่อการถ่ายทอดสัญญาณภาพและเสียงที่สมบูรณ์แบบกว่าที่เคย    

2. Bayonet :: “เบโญเนต” คือ เทคโนโลยีเอกสิทธิล่าสุดของการเข้าหัวระหว่างตัวนำและตัวหัวคอนแทคแบบเสียบเข้าล็อกเฉกเช่น “ดาบติดปลายปืน” ปราศจากการบัดกรีและตะกั่วที่มักจะ "ทำลาย" คุณภาพของตัวนำ ซึ่งสาย HDMI ทั่วไปในท้องตลาดมักจะใช้วิธีการบัดกรี ดังนี้จึงสามารถรักษาคุณภาพสัญญาณภาพและเสียงได้ 100% โดยไม่ลดทอนสัญญาณเลยแม้แต่นิดเดียว

3. Balanced Twisted Pair Geometry :: “การตีเกลียว” ตัวนำข้างในให้มีระยะห่างในการพันเกลียวที่เท่ากัน ซึ่งต้องใช้ความแม่นยำสูงมากในขั้นตอนการผลิต เพื่อลดสัญญาณรบกวน และเสริมประสิทธิภาพการนำสัญญาณให้ดียิ่งขึ้น นิยมใช้กันในสายลำโพงระดับไฮเอนด์

4. Directional Arrow :: เนื่องด้วยตัวนำมีการเคลือบเงิน สัญญาณภาพและเสียงในความถี่ต่าง ๆจึงจะไหลผ่านบนพื้นผิวของเงินเสียส่วนใหญ่ ดังนั้นการที่สัญญาณไหลไปในทิศทางเดียวกันตลอดเวลาโดยไม่ย้อนศรจะช่วยคงประสิทธิภาพของการนำสัญญาณให้ดีที่สุด JERICHO จึงมาพร้อมกับลูกศรเพื่อช่วยในการระบุทิศทางของสัญญาณ เพื่อประสิทธิภาพอันสูงสุดเวลาเชื่อมต่อเพื่อใช้งานจริง

------------------------------------------------------------------------------------

B. Intelligent Design - สุดยอดการออกแบบอันชาญฉลาด

5. Zinc Alloy Shell :: หัว Connector ใช้วัสดุเป็น Zinc Alloy เกรดพรีเมี่ยม มีคุณสมบัติเป็น Non-Magnetic กล่าวคือไม่ได้เป็นแม่เหล็ก เมื่อนำแม่เหล็กมาดูดจะไม่ติด จึงสามารถป้องกันสัญญาณรบกวนอย่าง EMI : Electromagnetic Interference ได้อย่างเต็มที่ ต่างจากสายทั่วไปที่มักจะใช้เป็นหัวยางหรือหัวพลาสติก ทั้งนี้นอกจากจะให้ความสวยงามทางด้านการออกแบบแล้ว ยังเป็น “ปราการด่านสุดท้าย” ในการป้องกัน Noise ได้อย่างดี

6. Micro Vibration Reduction Nylon Jacket :: ตัวแจ็คเกตของสายที่ถักเป็นสีน้ำตาลสลับดำให้สีสันลงตัวกับสีของขั้วต่อซึ่งเป็นสีบรอนซ์  ช่วยป้องกันการการสั่นไหวของตัวสายสัญญาณในระดับจุลภาค (สั่นแบบเล็กน้อยที่สายตาเราจะไม่สังเกตเห็น) โดยจะช่วยลดผลกระทบต่อสัญญาณที่กำลังเดินทางอยู่บนตัวนำให้เหลือน้อยที่สุด

7. Grip :: แถบจับ 4 ขีดบริเวณด้านข้างของหัว Connector ป้องกันการลื่นไถล  ทำให้จับกระชับขึ้น เพื่อให้เสียบกับช่องต่อของเครื่องเล่นและทีวีได้อย่างแม่นยำ

8. Vintage “LCD” Logo :: หัวขั้วต่อดีไซน์แบบย้อนยุคสีบรอนซ์ทองแดงสลับดำ เอกลักษณ์เฉพาะตัว

------------------------------------------------------------------------------------

C. Future Proof - รองรับอนาคตอย่างสมบูรณ์แบบ

9. Full 3D Support :: รองรับสัญญาณภาพ 3 มิติทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น 3D Blu-ray, 3D Full Rip, Side by Side, Top Bottom รวมถึงรองรับกับทีวี 3 มิติทุกรุ่นทุกยี่ห้อทั้งแบบ Active และ Polarized

10. 4K Resolution :: รองรับการแสดงภาพความละเอียดสูงสุดถึง 8 ล้านพิกเซล หรือ 4096 x 2160 Pixel นั่นเอง (4K)

------------------------------------------------------------------------------------


หน้าตากล่องแพ็กเกจของ JERICHO ซีลสูญญากาศมาอย่างดี


JERICHO เป็นสาย HDMI รุ่นล่าสุดปี 2012 ดีไซน์สวยงามแนว Vintage


หัวขั้วต่อทำจาก Zinc Alloy Shell ป้องกัน Noise ประเภท Electromagnetic Interference (EMI) ได้อย่างดีเยี่ยม


ลูกศรบอกทิศทาง + Grip ด้านจับแบบ 4 ขีด


Nylon Jacket เป็นแบบ Micro Vibration Reduction ลดการสั่นไหวระดับจุลภาค กระทบต่่อการนำสัญญาณภายในให้น้อยที่สุด


เทคโนโลยีการเข้าหัวแบบ BAYONET เสียบเข้าล็อกเฉกเช่นดาบติดปลายปืน
ปราศจากการบัดกรีและตะกัว คงคุณภาพของตัวนำได้อย่างสมบูรณ์
ซึ่งสาย HDMI ทั่วไปกว่า 99% ในท้องตลาดยังใช้วิธีบัดกรีอยู่
จะส่งผลเสียต่อคุณภาพของตัวนำที่จะถูกทำลายด้วยความร้อนและตะกั่ว


เปรียบเทียบการเข้าหัวด้วยวิธี "Bayonet" ของ JERICHO
ซึ่งเป็นเคล็ดลับที่ส่งผลถึงคุณภาพอันยอดเยี่ยมของ JERICHO
และการเข้าหัวของสาย HDMI ทั่วไปแบบการบัดกรี



ตัวนำเคลือบ "เงินบริสุทธิ์" พร้อมการเข้าหัวแบบ "BAYONET" ซึ่งเป็นวิธีการเข้าหัวที่ล้ำสมัยที่สุดและเรียบร้อยที่สุด
ซึ่งจะรักษาคุณภาพของสัญญาณภาพและเสียงได้ดีที่สุดในปัจจุบัน เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ JERICHO เท่านั้น


โครงสร้างสาย ตัวนำเป็น Solid Core "Silver Plated" OFC แบบแกนเดี่ยวเคลือบ "เงินบริสุทธิ์"
พร้อมการจับคู่ตัวนำและตีเกลียวแบบ "Twisted Pair" เพื่อลด Noise ประเภท RFI และ EMI


เชื่อมต่อกับพอร์ท HDMI ด้านข้างของ LED TV ดีไซน์บางๆได้อย่างสบาย
ให้ใช้ด้านที่เป็น "ลูกศรชี้ขึ้น" เชื่อมต่อกับทีวี


ต่อจากเครื่องเล่น Blu-ray Player Oppo 95 ให้นำด้าน "หัวลูกศรชี้ลง" เชื่อมต่อช่อง HDMI Out


หากใช้ 2 เส้นต่อกับ AV Receiver ช่อง HDMI Out ให้ใช้ด้านที่เป็น "ลูกศรชี้ลง" เชื่อมต่อ
และหากเป็นช่อง HDMI In ให้นำด้านที่เป็น "ลูกศรชี้ขึ้น" ทำการเชื่อมต่อ


สาย HDMI Jericho ความยาว 10 เมตร / 12 เมตร / 15 เมตร เหมาะสำหรับใช้ต่อกับ Projector


แพคเกจสำหรับ Jericho ความยาว 10 เมตร / 12 เมตร / 15 เมตร

------------------------------------------------------------------------------------


คุณสมบัติ Jericho
- High Speed HDMI with Ethernet (Version 2.0)
- Full 3D Support รองรับภาพ 3 มิติทุกรูปแบบ
- รองรับความละเอียดสูงสุดที่ 4K Resolution 4096 x 2160
- Silver Plated OFC ตัวนำเคลือบเงินบริสุทธิ์
- Bayonet เทคโนโลยีเข้าหัวแบบเสียบเข้าล็อคเฉกเช่นดาบติดปลายปืน
- Balanced Twisted Pair Geometry ตีเกลียวตัวนำข้างในเพื่อลดสัญญาณรบกวน
- Directional Arrow ลูกศรบอกทิศทางการเชื่อมต่อ
- หัวขั้วต่อแบบ Zinc Alloy Shell เกรดพรีเมี่ยม
- 24K Gold Plated Contact
- Audio Return Channel
- Ethernet

เปิดตัวมี 3 ขนาดพร้อมราคาพิเศษได้แก่
1 เมตร = ราคาปกติ 2,390 บาท // ราคาพิเศษ 2,190 บาท
2 เมตร = ราคาปกติ 2,690 บาท // ราคาพิเศษ 2,490 บาท
3 เมตร= ราคาปกติ 2,990 บาท // ราคาพิเศษ 2,790 บาท

NEW !!! ขนาดใหม่สำหรับต่อใช้งานโปรเจคเตอร์
10 เมตร = ราคาปกติ 7,990 บาท // ราคาพิเศษ 6,990 บาท
12 เมตร = ราคาปกติ 9,990 บาท // ราคาพิเศษ 8,490 บาท
15 เมตร = ราคาปกติ 12,990 บาท // ราคาพิเศษ 9,990 บาท

สามารถเปรียบเทียบสเป็คและราคาสาย HDMI ได้
http://www.lcdtvthailand.com/hdmi/

เปรียบเทียบข้อแตกต่างของ HDMI ทั้ง 3 รุ่น[/size]



65
ให้ขายของมือ 2 เท่านั้น หากฝ่าฝืน จะดำเนิการลบกระทู้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้านะครับ

หากท่านไหนยังเนียนขายอยู่อีกจะดำเนินการแบน User ด้วยครับ

ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ

 

66
ปรับภาพนั้น…สำคัญไฉน !!! ความสำคัญของการปรับภาพและเทคนิคการปรับภาพเบื้องต้น

เนื่องด้วยเว็บไซต์ LCDTVTHAILAND อันเป็นที่รักของพวกเรามีอายุครบ 3 ปี ทางนายโรมันเองเลยขอเขียนบทความพิเศษ “สอนเทคนิคการปรับภาพทีวีเบื้องต้น” ให้กับสมาชิกครับ ครั้นจะเขียนรีวิวทดสอบสินค้าแบบปกติก็รู้สึกจะธรรมดาไปสักนิดครับ เอาเป็นว่าใครใช้พวก LED / LCD TV หรือ Plasma TV อยู่ที่บ้านในตอนนี้สามารถลองเอาไปปรับเล่นดูได้ครับ



ภาพที่ดีคืออะไร?
เชื่อเหลือเกินว่าโดยทั่วไปแล้วเมื่อเราเดินไปที่แผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าโซนทีวี เห็นภาพที่แบรนด์ทีวีชั้นนำต่างเปิดเรียงรายกันด้วย Content ระดับเทพที่ทำมาเพื่อการแสดงหน้าร้านโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่เป็นพวกการ์ตูนหรือหนังตัวอย่าง ที่ได้รับการปรับให้มีความสดจัดจ้าน เน้น Sharpness สูงเสียจนคมแต่แข็ง พวกเราจะคิดว่า “ทีวีตัวนั้นภาพดี” แต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่ครับ ภาพที่ดีคือ “ภาพที่เหมือนหรือใกล้เคียงกับต้นฉบับ อาทิเช่นฟิล์มภาพยนตร์ต้น หรือไฟล์ดิจิทัลต้นฉบับในสตูดิโอนั่นเอง” หากให้เปรียบเทียบกับพวกเครื่องเสียงก็คือ เครื่องเสียงที่ดีจะต้องสามารถถ่ายทอดรายละเอียดออกมาให้เหมือนกับนักร้องมา “ร้องสด” ต่อหน้าเราจริงๆ หรือหากเทียบกับแผ่น CD Audio ก็คือเสียงที่เหมือนกับเวลาที่นักร้องกำลัง “บันทึกอยู่ในสตูดิโอ หรือคอนเสิร์ตฮอลล์” นั่นแหละครับ แต่ส่วนใหญ่คนทั่วไปจะเข้าใจว่าเครื่องเสียงที่ดีจะต้องถ่ายทอดเสียงแบบคมชัดสุดๆ เสียงร้องชัดๆ คมๆจัดๆ เสียงใส เบสกระหึ่ม เหมือนกับที่ร้านเครื่องเสียงบางแห่งมักจะเซ็ตอัพให้เราได้ลองฟังกัน



ทำไมต้องปรับภาพ ?
แน่นอนครับทีวีที่ออกมาจากโรงงานมักจะปรับภาพหรือเซ็ตอัพให้สดสว่างๆ ชัดจัดจ้าน ซึ่งแน่นอนว่าภาพมันจะ “เกินจริง” เหตุผลเพราะว่าภาพมันจะได้ “เรียกร้องความสนใจ” เมื่อแรกเห็น กับลูกค้าที่เดินเข้ามาภายในบูธของแบรนด์ทีวีนั้นๆ ครับ เครื่องเสียงเช่นเดียวกันกับเครื่องเสียงหากเซ็ตอัพให้ฟังแล้วคมชัดๆจัดจ้านตั้งแต่ต้น บางทีลูกค้าอาจจะมีความรู้สึก “ว้าว” กับ First Impression ที่ได้สัมผัส ดังนี้ภาพที่ได้ในตอนแรกมักไม่ถูกต้องครับ กล่าวได้ว่าพวก Contrast, Brightness, Color, Sharpness และค่าตัวช่วยเรียกร้องความสนใจด้านภาพอื่นๆ จะ “ถูกเร่งมาสูงเกินจริงเสมอ” เราต้องเข้าใจด้วยว่าภาพแบบนั้นมันเหมาะกับการโชว์ในห้างร้านอย่างเดียว

ประโยชน์ของการปรับภาพ
1.ได้ภาพถูกต้องเฉกเช่นที่ “ผู้กำกับต้องการสื่ออออกมาให้เราได้เห็น” :: นั่นหมายถึงเราจะเข้าถึงอารมณ์และความหมายของหนังที่แท้จริงได้ ยกตัวอย่างเช่นหากเราดูหนังเรื่อง 300 ขุนศึกพันธุ์สะท้านโลก เกี่ยวกับการต่อสู้ในสมรภูมิของนักรบสปาร์ตันที่มีกำลังพลเพียงแค่ 300 คนเท่านั้น สังเกตได้ว่าโทนแสงสีของหนังจะออกแนวกึ่งโมโนโทน ค่อนข้าง “ทะมึนทึมทึบ” ทั้งหุบเขา ต้นไม้ ใบหญ้า เพื่อจะสื่อให้เห็นบรรยากาศแห่งความ “หดหู่” และ “กดดัน” ในสภาวะสงคราม หนังจึงมีอารมณ์บีบหัวใจเป็นอย่างมาก บางท่านไม่เข้าใจโทนแสงสีแบบนี้และไม่ชอบอะไรที่ดูทะมึนๆ ก็จะไปปรับแสงสีให้ดูสดจัดจ้าน ไปเร่งค่า Brightness และ Contrast จนโอเว่อร์ ภาพที่ได้ก็จะเกินจริงกว่าที่ผู้กำกับต้องการสื่อออกมาให้เห็น ในขณะเดียวกันหนังเรื่อง AVATAR จะสังเกตได้ว่าโทนแสงสีของต้นไม้ ใบหญ้าในป่า Pandora นั้นมีความจัดจ้าน เขียวชอุ่ม ทะเลสาบสีน้ำเงินเข้ม ท้องฟ้าก็สีฟ้าสดใส นี่คือสิ่งที่ผู้กำกับ “เจมส์ คาเมรอน” ต้องการสื่อออกมาให้เห็นความ “อุดมสมบูรณ์” ในป่า Pandora ในช่วงที่ไม่มีเหล่า “มนุษย์” เข้ามารุกราน แต่บางท่านชอบแนวภาพนวลตา อาจไปลดความสดอิ่มของสี ให้มันดูจืดๆ ลง เพราะเข้าใจว่า ระดับสีสันที่นวลตาให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากกว่า แต่อย่าลืมว่านี่เป็นการอ้างอิงจากสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน มิได้รวมถึง “จินตนาการ” จากสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง หากปรับแบบนี้ก็จึงเป็นการบิดเบือนภาพที่ผู้กำกับต้องการสื่อให้เราได้รับรู้


หากจะให้บอกว่าแนวภาพที่ผู้กำกับอยากจะสื่อออกมาให้เห็น = ภาพที่ถูกต้อง หนัง 2 เรื่องนี้คงทำให้ทุกท่านเห็นภาพ

2. นำไปใช้เป็นค่ากลางในการอ้างอิงเปรียบเทียบประสิทธิภาพของจอแบบตัวต่อตัวได้ :: แน่นอนว่าหากจะเอาทีวีมาเปรียบเทียบกันแบบตัวต่อตัวแล้ว หากเราไม่ปรับภาพให้ถูกต้องตามมาตรฐานอุตสาหกรรมวีดีโอก่อนหละก็ ทีวีตัวเป็นแสนก็สามารถแพ้ทีวีตัวละไม่กี่หมื่นได้ ยิ่งทำงานทางด้านรีวิวสินค้าแบบนี้ ซึ่งต้องฟันธงและให้คะแนนทีวีแต่ละตัว ก็ยิ่งต้องปรับภาพให้ถูกต้องเป็นมาตรฐานเดียวกันเสียก่อนครับ

หลักการปรับภาพ 4 ข้อ (อ้างอิงจากสถาบัน Imaging Science Foundation “ISF”)

1. Dynamic Range :: คือการปรับ Brightness และ Contrast เพื่อให้จอสามารถแสดงรายละเอียดในที่มืดและที่สว่างออกมาได้อย่างครบถ้วนเต็มศักยภาพ นี่เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของการปรับภาพ

2. Color Saturation :: คือการปรับระดับความสดอิ่มของสี ให้ถูกต้องเป็นธรรมชาติ ไม่สดเกินไป และไม่จิดเกินไป โดยเราจะปรับค่า Color และ Tint

3. Colorimetry :: ความถูกต้องของสี แบ่งเป็น 2 ส่วนได้แก่ 1) White Balance : การกำหนดให้อุณหภูมิสีใกล้เคียง 6500°K ซึ่งจะทำให้ White balance หรือสมดุลสีขาวอยู่ตรงจุด D65 White Balance อันเป็นการอ้างอิงอุณหภูมิสีของแสงจากดวงอาทิตย์ตอนเที่ยงตรง เป็นแสงสีขาวที่ใช้อ้างอิงว่าเป็นแสงสีขาวที่ถูกต้องในแง่สมดุล ไม่ใช่ขาวอมน้ำเงิน อมเหลือง หรือขาวอมเขียว เป็นต้น 2) Color Space หรือ การอ้างอิงความสัมพันธ์ของขอบเขตและความถูกต้องของแม่สีหลัก RGB และแม่สีรอง CMY

4. Resolution :: คือการปรับ Aspect Ratio หรือ Picture Size ของทีวี (สัดส่วนภาพ) ให้แสดงภาพแบบ 1:1 Pixel Matching ได้ คือ Input มากี่พิกเซล ก็สามารถ Output ออกจอต้องเท่ากับจำนวน Input แบบเป๊ะๆ เพื่อมิให้บิดเบือนรายละเอียด รวมไปถึงพื้นที่การแสดงภาพ



67
ปรับภาพนั้น…สำคัญไฉน !!! ความสำคัญของการปรับภาพและเทคนิคการปรับภาพเบื้องต้น

เนื่องด้วยเว็บไซต์ LCDTVTHAILAND อันเป็นที่รักของพวกเรามีอายุครบ 3 ปี ทางนายโรมันเองเลยขอเขียนบทความพิเศษ “สอนเทคนิคการปรับภาพทีวีเบื้องต้น” ให้กับสมาชิกครับ ครั้นจะเขียนรีวิวทดสอบสินค้าแบบปกติก็รู้สึกจะธรรมดาไปสักนิดครับ เอาเป็นว่าใครใช้พวก LED / LCD TV หรือ Plasma TV อยู่ที่บ้านในตอนนี้สามารถลองเอาไปปรับเล่นดูได้ครับ



ภาพที่ดีคืออะไร?
เชื่อเหลือเกินว่าโดยทั่วไปแล้วเมื่อเราเดินไปที่แผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าโซนทีวี เห็นภาพที่แบรนด์ทีวีชั้นนำต่างเปิดเรียงรายกันด้วย Content ระดับเทพที่ทำมาเพื่อการแสดงหน้าร้านโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่เป็นพวกการ์ตูนหรือหนังตัวอย่าง ที่ได้รับการปรับให้มีความสดจัดจ้าน เน้น Sharpness สูงเสียจนคมแต่แข็ง พวกเราจะคิดว่า “ทีวีตัวนั้นภาพดี” แต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่ครับ ภาพที่ดีคือ “ภาพที่เหมือนหรือใกล้เคียงกับต้นฉบับ อาทิเช่นฟิล์มภาพยนตร์ต้น หรือไฟล์ดิจิทัลต้นฉบับในสตูดิโอนั่นเอง” หากให้เปรียบเทียบกับพวกเครื่องเสียงก็คือ เครื่องเสียงที่ดีจะต้องสามารถถ่ายทอดรายละเอียดออกมาให้เหมือนกับนักร้องมา “ร้องสด” ต่อหน้าเราจริงๆ หรือหากเทียบกับแผ่น CD Audio ก็คือเสียงที่เหมือนกับเวลาที่นักร้องกำลัง “บันทึกอยู่ในสตูดิโอ หรือคอนเสิร์ตฮอลล์” นั่นแหละครับ แต่ส่วนใหญ่คนทั่วไปจะเข้าใจว่าเครื่องเสียงที่ดีจะต้องถ่ายทอดเสียงแบบคมชัดสุดๆ เสียงร้องชัดๆ คมๆจัดๆ เสียงใส เบสกระหึ่ม เหมือนกับที่ร้านเครื่องเสียงบางแห่งมักจะเซ็ตอัพให้เราได้ลองฟังกัน



ทำไมต้องปรับภาพ ?
แน่นอนครับทีวีที่ออกมาจากโรงงานมักจะปรับภาพหรือเซ็ตอัพให้สดสว่างๆ ชัดจัดจ้าน ซึ่งแน่นอนว่าภาพมันจะ “เกินจริง” เหตุผลเพราะว่าภาพมันจะได้ “เรียกร้องความสนใจ” เมื่อแรกเห็น กับลูกค้าที่เดินเข้ามาภายในบูธของแบรนด์ทีวีนั้นๆ ครับ เครื่องเสียงเช่นเดียวกันกับเครื่องเสียงหากเซ็ตอัพให้ฟังแล้วคมชัดๆจัดจ้านตั้งแต่ต้น บางทีลูกค้าอาจจะมีความรู้สึก “ว้าว” กับ First Impression ที่ได้สัมผัส ดังนี้ภาพที่ได้ในตอนแรกมักไม่ถูกต้องครับ กล่าวได้ว่าพวก Contrast, Brightness, Color, Sharpness และค่าตัวช่วยเรียกร้องความสนใจด้านภาพอื่นๆ จะ “ถูกเร่งมาสูงเกินจริงเสมอ” เราต้องเข้าใจด้วยว่าภาพแบบนั้นมันเหมาะกับการโชว์ในห้างร้านอย่างเดียว

ประโยชน์ของการปรับภาพ
1.ได้ภาพถูกต้องเฉกเช่นที่ “ผู้กำกับต้องการสื่ออออกมาให้เราได้เห็น” :: นั่นหมายถึงเราจะเข้าถึงอารมณ์และความหมายของหนังที่แท้จริงได้ ยกตัวอย่างเช่นหากเราดูหนังเรื่อง 300 ขุนศึกพันธุ์สะท้านโลก เกี่ยวกับการต่อสู้ในสมรภูมิของนักรบสปาร์ตันที่มีกำลังพลเพียงแค่ 300 คนเท่านั้น สังเกตได้ว่าโทนแสงสีของหนังจะออกแนวกึ่งโมโนโทน ค่อนข้าง “ทะมึนทึมทึบ” ทั้งหุบเขา ต้นไม้ ใบหญ้า เพื่อจะสื่อให้เห็นบรรยากาศแห่งความ “หดหู่” และ “กดดัน” ในสภาวะสงคราม หนังจึงมีอารมณ์บีบหัวใจเป็นอย่างมาก บางท่านไม่เข้าใจโทนแสงสีแบบนี้และไม่ชอบอะไรที่ดูทะมึนๆ ก็จะไปปรับแสงสีให้ดูสดจัดจ้าน ไปเร่งค่า Brightness และ Contrast จนโอเว่อร์ ภาพที่ได้ก็จะเกินจริงกว่าที่ผู้กำกับต้องการสื่อออกมาให้เห็น ในขณะเดียวกันหนังเรื่อง AVATAR จะสังเกตได้ว่าโทนแสงสีของต้นไม้ ใบหญ้าในป่า Pandora นั้นมีความจัดจ้าน เขียวชอุ่ม ทะเลสาบสีน้ำเงินเข้ม ท้องฟ้าก็สีฟ้าสดใส นี่คือสิ่งที่ผู้กำกับ “เจมส์ คาเมรอน” ต้องการสื่อออกมาให้เห็นความ “อุดมสมบูรณ์” ในป่า Pandora ในช่วงที่ไม่มีเหล่า “มนุษย์” เข้ามารุกราน แต่บางท่านชอบแนวภาพนวลตา อาจไปลดความสดอิ่มของสี ให้มันดูจืดๆ ลง เพราะเข้าใจว่า ระดับสีสันที่นวลตาให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากกว่า แต่อย่าลืมว่านี่เป็นการอ้างอิงจากสิ่งที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน มิได้รวมถึง “จินตนาการ” จากสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง หากปรับแบบนี้ก็จึงเป็นการบิดเบือนภาพที่ผู้กำกับต้องการสื่อให้เราได้รับรู้


หากจะให้บอกว่าแนวภาพที่ผู้กำกับอยากจะสื่อออกมาให้เห็น = ภาพที่ถูกต้อง หนัง 2 เรื่องนี้คงทำให้ทุกท่านเห็นภาพ

2. นำไปใช้เป็นค่ากลางในการอ้างอิงเปรียบเทียบประสิทธิภาพของจอแบบตัวต่อตัวได้ :: แน่นอนว่าหากจะเอาทีวีมาเปรียบเทียบกันแบบตัวต่อตัวแล้ว หากเราไม่ปรับภาพให้ถูกต้องตามมาตรฐานอุตสาหกรรมวีดีโอก่อนหละก็ ทีวีตัวเป็นแสนก็สามารถแพ้ทีวีตัวละไม่กี่หมื่นได้ ยิ่งทำงานทางด้านรีวิวสินค้าแบบนี้ ซึ่งต้องฟันธงและให้คะแนนทีวีแต่ละตัว ก็ยิ่งต้องปรับภาพให้ถูกต้องเป็นมาตรฐานเดียวกันเสียก่อนครับ

หลักการปรับภาพ 4 ข้อ (อ้างอิงจากสถาบัน Imaging Science Foundation “ISF”)

1. Dynamic Range :: คือการปรับ Brightness และ Contrast เพื่อให้จอสามารถแสดงรายละเอียดในที่มืดและที่สว่างออกมาได้อย่างครบถ้วนเต็มศักยภาพ นี่เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของการปรับภาพ

2. Color Saturation :: คือการปรับระดับความสดอิ่มของสี ให้ถูกต้องเป็นธรรมชาติ ไม่สดเกินไป และไม่จิดเกินไป โดยเราจะปรับค่า Color และ Tint

3. Colorimetry :: ความถูกต้องของสี แบ่งเป็น 2 ส่วนได้แก่ 1) White Balance : การกำหนดให้อุณหภูมิสีใกล้เคียง 6500°K ซึ่งจะทำให้ White balance หรือสมดุลสีขาวอยู่ตรงจุด D65 White Balance อันเป็นการอ้างอิงอุณหภูมิสีของแสงจากดวงอาทิตย์ตอนเที่ยงตรง เป็นแสงสีขาวที่ใช้อ้างอิงว่าเป็นแสงสีขาวที่ถูกต้องในแง่สมดุล ไม่ใช่ขาวอมน้ำเงิน อมเหลือง หรือขาวอมเขียว เป็นต้น 2) Color Space หรือ การอ้างอิงความสัมพันธ์ของขอบเขตและความถูกต้องของแม่สีหลัก RGB และแม่สีรอง CMY

4. Resolution :: คือการปรับ Aspect Ratio หรือ Picture Size ของทีวี (สัดส่วนภาพ) ให้แสดงภาพแบบ 1:1 Pixel Matching ได้ คือ Input มากี่พิกเซล ก็สามารถ Output ออกจอต้องเท่ากับจำนวน Input แบบเป๊ะๆ เพื่อมิให้บิดเบือนรายละเอียด รวมไปถึงพื้นที่การแสดงภาพ



68
++++++ ประกาศ !!! กฏการใช้เว็บบอร์ดซื้อขาย LCDTVTHAILAND 2016 +++++++


เนื่องด้วยขณะนี้มี "มิจฉาชีพ" แฝงตัวเข้ามาในเว็บของเราจำนวนมาก
ทางทีมงานจึงอยากให้ทุกท่านใช้ความระมัดระวังในการซื้อขายสินค้าทุกชนิด
โดยเฉพาะพ่อค้าหน้าใหม่และให้โอนเงินก่อนอย่างเดียว ควรจะเช็คประวัติให้ดี หรือใช้วิธีนัดเจอเพื่อรับสินค้าจะดีที่สุดครับ

อ้างถึง
1. การดันกระทู้ขายของ ต้องเว้นระยะ 30 นาที ต่อการดัน 1 ครั้งเท่านั้น

( นับจากเวลาที่แสดงในกระทู้เป็นหลัก )

ยกตัวอย่างเช่นดันครั้งแรกตอน 14.00 น. จะมาโพสท์ดันครั้งถัดไปต้องเป็นหลัง 14.30 น.

2. ร้านค้าสามารถโพสต์กระทู้ขายของได้ "1 ร้านต่อ 1 กระทู้" เท่านั้น

3. ห้ามจำหน่ายของผิดกฏหมายทุกชนิด !!! เช่น หนังผิดลิขสิทธิ์, สินค้าปลอมแปลงเครื่องหมายการค้า เป็นต้น

4. ห้ามตั้งกระทู้ผิดหมวด !!! เช่นตั้งขายของในห้อง "พูดคุย" หรือตั้งขายผิดประเภทสินค้า

5. ทางเว็บ LCDTVTHAILAND เป็นเพียงสื่อกลางในการให้พื้นที่ "ซื้อขาย" เท่านั้น มิได้มีส่วนรับผิดชอบต่อความเสียหายที่ลูกค้าโดนมิจฉาชีพ"คดโกง"

และทางเรายินดีให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลและช่วยเหลืออย่างเต็มที่ครับ


ปล. กฏนี้รวมทุกห้องในหมวดซื้อขาย



ทั้งนี้ขอความร่วมมือจากผู้ค้าและลูกค้าทุกท่านร่วมกันสอดส่องและแจ้งการทำผิดกฏมาได้

ทางทีมงานจะดำเนินการ "ลบกระทู้" และ Ban User ตามความเหมาะสม

ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมมือกันทำให้สังคมในเว็บเรา "น่าอยู่" ยิ่งขึ้น ^^

คำแนะนำ !!! หากท่านไหนสมัครสมาชิกแล้วยังไม่ได้รับ Email ตอบกลับเพื่อยืนยัน !!!

ช่วยกรุณา Email username ของท่านมาที่ [email protected] ครับ

เราจะทำการ Activate ให้ใช้งานได้ครับ




ทีมงาน LCDTVTHAILAND
25/02/2016

69
++++++ ประกาศ !!! กฏการใช้เว็บบอร์ดซื้อขาย LCDTVTHAILAND 2016 +++++++


เนื่องด้วยขณะนี้มี "มิจฉาชีพ" แฝงตัวเข้ามาในเว็บของเราจำนวนมาก
ทางทีมงานจึงอยากให้ทุกท่านใช้ความระมัดระวังในการซื้อขายสินค้าทุกชนิด
โดยเฉพาะพ่อค้าหน้าใหม่และให้โอนเงินก่อนอย่างเดียว ควรจะเช็คประวัติให้ดี หรือใช้วิธีนัดเจอเพื่อรับสินค้าจะดีที่สุดครับ

อ้างถึง
1. การดันกระทู้ขายของ ต้องเว้นระยะ 30 นาที ต่อการดัน 1 ครั้งเท่านั้น

( นับจากเวลาที่แสดงในกระทู้เป็นหลัก )

ยกตัวอย่างเช่นดันครั้งแรกตอน 14.00 น. จะมาโพสท์ดันครั้งถัดไปต้องเป็นหลัง 14.30 น.

2. ร้านค้าสามารถโพสต์กระทู้ขายของได้ "1 ร้านต่อ 1 กระทู้" เท่านั้น

3. ห้ามจำหน่ายของผิดกฏหมายทุกชนิด !!! เช่น หนังผิดลิขสิทธิ์, สินค้าปลอมแปลงเครื่องหมายการค้า เป็นต้น

4. ห้ามตั้งกระทู้ผิดหมวด !!! เช่นตั้งขายของในห้อง "พูดคุย" หรือตั้งขายผิดประเภทสินค้า

5. ทางเว็บ LCDTVTHAILAND เป็นเพียงสื่อกลางในการให้พื้นที่ "ซื้อขาย" เท่านั้น มิได้มีส่วนรับผิดชอบต่อความเสียหายที่ลูกค้าโดนมิจฉาชีพ"คดโกง"

และทางเรายินดีให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลและช่วยเหลืออย่างเต็มที่ครับ


ปล. กฏนี้รวมทุกห้องในหมวดซื้อขาย



ทั้งนี้ขอความร่วมมือจากผู้ค้าและลูกค้าทุกท่านร่วมกันสอดส่องและแจ้งการทำผิดกฏมาได้

ทางทีมงานจะดำเนินการ "ลบกระทู้" และ Ban User ตามความเหมาะสม

ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมมือกันทำให้สังคมในเว็บเรา "น่าอยู่" ยิ่งขึ้น ^^

คำแนะนำ !!! หากท่านไหนสมัครสมาชิกแล้วยังไม่ได้รับ Email ตอบกลับเพื่อยืนยัน !!!

ช่วยกรุณา Email username ของท่านมาที่ [email protected] ครับ

เราจะทำการ Activate ให้ใช้งานได้ครับ




ทีมงาน LCDTVTHAILAND
25/02/2016

70
วันนี้ทีมงานได้รวบรวม "บทความ" ที่เป็นประโยชน์สำหรับ "มือใหม่" ที่กำลังหาซื้อ LCD, LED, Plasma TV ครับ
ค่อยๆอ่านเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีทีวีนะครับ ประกอบกับการอ่านรีวิว และสเป็คสินค้า เชื่อว่าจะทำให้ท่านหาทีวีที่ "เหมาะสม" กับการใช้งานและงบประมาณของท่านได้แน่นอนครับ

1. หลักการเลือกซื้อ LCD TV 6 ข้อที่ทุกคนควรทราบ


2. LCD VS Plasma TV ต่างกันอย่างไร อะไรดีกว่า ??


3. LED VS LCD  ต่างกันอย่างไร อะไรดีกว่ากัน ??


4. 4K คืออะไร ? มารู้จักกับมาตรฐานใหม่ของความละเอียดหน้าจอกัน


5. Digital TV คืออะไร ? ใช้กับทีวีที่บ้านเราได้หรือไม่ ? ร่วมไขข้อข้องใจได้ที่นี่ !!


6. ระยะห่างในการรับชมทีวีกับขนาดของทีวีที่เหมาะสม



7. อ่านค่าสเป็คต่างๆ ง่ายนิดเดียว ความหมายของคำศัพท์ Resolution, Contrast Ratio, Response Time, PIP, HDMI และอื่นๆ ??


8. Contrast Ratio คืออะไร ??


9. Response Time คืออะไร ??


10. ดูแลรักษา LCD TV อย่างไรให้อยู่กับเราได้นานๆ ??


11. มารู้จักกับเพื่อนคนสนิทของ Plasma TV ที่ชื่อ Burn in กันเถอะ...



12. แขวน LCD TV สูงเท่าไหร่ดี..ถึงจะรับชมภาพได้ดีที่สุด ???


13. Motion Flow 100Hz 200Hz คือะไร ??? และมีประโยชน์อย่างไร ???


14. 20 เรื่องจริง !!! ของทีวี 3 มิติที่คุณต้องรู้…โดยนายโรมัน


15. แผ่น ปลอม !!! แผ่น Blu-ray แท้ VS แผ่นปลอม ดูอย่างไร ??? เข้ามาเลย


16. HDMI คืออะไร???


17. ทีวี 3 มิติคืออะไร ? มีกี่ประเภท ? เทคนิค 3 ข้อในการชมทีวี 3 มิติ และแนะนำตัวเด็ด


18. มือใหม่ Smart TV / Internet TV มันคืออะไร ??  ทำอะไรได้บ้าง ??


19. คลายทุกข้อสงสัย !!! HD Player คืออะไร ?? ข้อดี ข้อแตกต่าง ทำไมถึงต้องใช้ HD Player ??


20. ก่อนเลือกซื้อทีวี !!! มาดูกันว่า Panel แต่ละชนิด มีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร ที่นี่เลย !!!


21. ปรับภาพนั้น…สำคัญไฉน !!! ความสำคัญของการปรับภาพและเทคนิคการปรับภาพเบื้องต้น


22. จัดให้ !!! มือใหม่มาทางนี้ "ต่อคอมพิวเตอร์เข้าทีวี" ทำอย่างไรให้ภาพขึ้น ที่นี่มีคำตอบ


23. Basic Home Theater FAQ - เลือกโฮมเธียเตอร์ 5.1 หรือ 7.1 ดี?


24. Basic Home Theater FAQ - รู้จักกับระบบโฮมเธียเตอร์


25. 10 เรื่องจริงที่ควรรู้เกี่ยวกับ HDMI version 1.4




ผมเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์และเป็นข้อมูลการกำลังตัดสินใจซื้อ LCD, LED, Plasma TV ลองอ่านดูก่อน ใครมรคำถามสงสัยหรือข้อสงสัยโพสต์กระทู้ใหม่ได้เลยครับ

71
++++++ ประกาศ !!! กฏการใช้เว็บบอร์ดซื้อขาย LCDTVTHAILAND 2016 +++++++


เนื่องด้วยขณะนี้มี "มิจฉาชีพ" แฝงตัวเข้ามาในเว็บของเราจำนวนมาก
ทางทีมงานจึงอยากให้ทุกท่านใช้ความระมัดระวังในการซื้อขายสินค้าทุกชนิด
โดยเฉพาะพ่อค้าหน้าใหม่และให้โอนเงินก่อนอย่างเดียว ควรจะเช็คประวัติให้ดี หรือใช้วิธีนัดเจอเพื่อรับสินค้าจะดีที่สุดครับ

อ้างถึง
1. การดันกระทู้ขายของ ต้องเว้นระยะ 30 นาที ต่อการดัน 1 ครั้งเท่านั้น

( นับจากเวลาที่แสดงในกระทู้เป็นหลัก )

ยกตัวอย่างเช่นดันครั้งแรกตอน 14.00 น. จะมาโพสท์ดันครั้งถัดไปต้องเป็นหลัง 14.30 น.

2. ร้านค้าสามารถโพสต์กระทู้ขายของได้ "1 ร้านต่อ 1 กระทู้" เท่านั้น

3. ห้ามจำหน่ายของผิดกฏหมายทุกชนิด !!! เช่น หนังผิดลิขสิทธิ์, สินค้าปลอมแปลงเครื่องหมายการค้า เป็นต้น

4. ห้ามตั้งกระทู้ผิดหมวด !!! เช่นตั้งขายของในห้อง "พูดคุย" หรือตั้งขายผิดประเภทสินค้า

5. ทางเว็บ LCDTVTHAILAND เป็นเพียงสื่อกลางในการให้พื้นที่ "ซื้อขาย" เท่านั้น มิได้มีส่วนรับผิดชอบต่อความเสียหายที่ลูกค้าโดนมิจฉาชีพ"คดโกง" และทางเรายินดีให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลและช่วยเหลืออย่างเต็มที่ครับ

6. ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557 ห้าม "ร้านขายทีวี" ตั้งกระทู้ขาย "ทีวี" โดยเด็ดขาด ยกเว้นเป็นการขายโดย "ผู้ใช้งานทั่วไป" เท่านั้น


ปล. กฏนี้รวมทุกห้องในหมวดซื้อขาย



ทั้งนี้ขอความร่วมมือจากผู้ค้าและลูกค้าทุกท่านร่วมกันสอดส่องและแจ้งการทำผิดกฏมาได้

ทางทีมงานจะดำเนินการ "ลบกระทู้" และ Ban User ตามความเหมาะสม

ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมมือกันทำให้สังคมในเว็บเรา "น่าอยู่" ยิ่งขึ้น ^^

คำแนะนำ !!! หากท่านไหนสมัครสมาชิกแล้วยังไม่ได้รับ Email ตอบกลับเพื่อยืนยัน !!!

ช่วยกรุณา Email username ของท่านมาที่ [email protected] ครับ

เราจะทำการ Activate ให้ใช้งานได้ครับ




ทีมงาน LCDTVTHAILAND
25/02/2016

72
ประกาศ !!! ห้ามโพสท์ขายของในห้องนี้และรวมถึงของผิดกฎหมาย

สืบเนื่องจากห้องนี้เป็นห้องพูดคุยเรื่อง จานดาวเทียม และ เคเบิ้ลทีวี

ให่พูดคุยสอบถามกันอย่างเดียวนะครับ

ห้ามโพสต์ขายของ เช่น Server, Dreambox, เว็บบิท และอื่นที่ผิดกฎหมาย

หากฝ่าฝืนจะโดนแบน User และ IP ครับ

LCDTVTHAILAND.COM

หน้า: 1 2 3 [4] 5