ผู้เขียน หัวข้อ: เลือกหลังคาโรงรถให้ดี ... รถแฮปปี้ไปอีกนาน  (อ่าน 2700 ครั้ง)

ออฟไลน์ sirao2015

  • Flat TV member
  • *
  • กระทู้: 79
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์

การทำโรงรถในสมัยปัจจุบัน หลายคนที่เป็นเจ้าของรถโดยมาก ก็เริ่มหันมาใส่ใจกับคุณภาพ และ ประสิทธิภาพของโรงรถกันมากขึ้น เช่นนั้น หลังคาโรงรถจึงเป็นสาระสำคัญที่ถูกหยิบเอามาเป็นตัวตัดสินใจอันดับแรกในการเลือกเฟ้นที่จะทำโรงรถแบบไหน รูปทรงใด เพื่อความเหมาะสม กับการใช้งาน และ โครงสร้างของบ้าน อีกทั้งการออกแบบโรงรถ และ หลังคาโรงรถยังจะมีส่วนช่วยให้บ้านพักอาศัยหลังนั้นดูโดดเด่นมีสไตล์อีกด้วย แต่เพราะด้วยวัตถุดิบ ส่วนประกอบของหลังคาโรงรถมีหลายประเภท และ หลายราคา พวกเราก็ควรที่จะรู้ถึงข้อดี-ข้อเสียของแบบ และ ประเภทของหลังคาโรงรถกันก่อนจะเริ่มทำจริงดีกว่านะคะ
หลังคาโรงรถนั้นในปัจจุบันจะใช้วัสดุอยู่หลายประเภท เพราะด้วยสาเหตุที่ว่าหลังคาโรงรถสามารถดัดแปลงนำมาใช้ทำกันสาดของบ้านช่องได้ จึงมีการผลิตวัสดุที่นำมาใช้ทำหลังคาที่หลากหลาย และ อเนกประสงค์ ซึ่งหลังคาโรงรถก็จะมีทั้งแบบทึบ และ แบบโปร่งแสงแล้วแต่เจ้าของที่พักอาศัยจะเลือกนำมาใช้
 
หลังคาโรงรถแบบเหล็กรีดลอน (Metal Sheet)
 
เป็นวัสดุที่ได้รับความชื่นชมมากในอดีตก่อนหน้าที่จะมีวัสดุทางเลือกชนิดอื่นๆ  เพราะเป็นหลังคาที่มีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย มีอุปกรณ์สำหรับติดตั้งสำเร็จครบชุด ตัวแผ่น Metal Sheet สามารถดัดโค้งได้มีหลากสีให้เลือก แถมราคาไม่แพง ราคา Metal Sheet ไม่รวมงานโครงสร้างก็จะตกอยู่ที่ตารางเมตรละ 300 - 500 บาท ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับมาตรฐานของ Metal Sheet ด้วย และที่สำคัญสำหรับบ้านสไตล์โมเดิร์น Metal Sheet จะช่วยเรื่ององศาความลาดเอียงของหลังคาได้ดี เพราะเราสามารถสั่งความยาวแผ่นได้ตามความต้องการของบ้านช่อง จึงทำให้ไม่มีการต่อแผ่น Metal Sheet ตามแนวลาดเอียงเหมือนกระเบื้องมุงหลังคาแผ่นสั้นๆ ตามปกติที่จำเป็นต้องมีความลาดเอียงอยู่ระดับหนึ่งเพื่อไม่ให้น้ำฝนไหลย้อนเข้ามาได้
 
แต่จุดบกพร่องก็มีโดยที่เห็นจนเป็นจุดบอดก็คือ Metal Sheet จะเป็นโลหะ เพราะฉะนั้น จึงมีเสียงดังมากในเวลาที่ฝนตกกระทบ และเรื่องของความร้อนที่อบอวลในเวลากลางวัน จึงทำให้ต้องมีอุปกรณ์เสริมต่างๆ เป็นการลดจุดบอดเหล่านี้ เพื่อทำให้ Metal Sheet มีการกันร้อนและกันเสียง แต่เพราะด้วยคุณสมบัติของเหล็กมีความเป็นตัวนำความร้อนจึงจะส่งผ่านอุณหภูมิได้ดีมาก ตอนกลางคืน หรือ ในฤดูหนาวอุณหภูมิใต้หลังคาแบบ Metal Sheet ก็จะมีความเย็นเช่นกัน เรียกได้ว่าร้อนสุดเย็นสุด
 
หลังคาโรงรถแบบไวนิล
 
หลังคาโรงรถแบบไวนิล หรือ อีกชื่อคือ PVC (Poly Vinyl Chloride) หรือ เรียกกันอีกแบบว่า Rigid PVC ซึ่งที่มีจำหน่ายในท้องตลาดบ้านเราตอนนี้ ซึ่งจะมาจากหลายแหล่งผลิต และ มีสูตรส่วนผสมในปลีกย่อยที่ไม่เหมือนกัน แต่โดยสรุปแล้วจะมีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน
 
          ส่วนเนื้อของ Rigid PVC จะมีลักษณะเป็นโพรงอากาศเล็กๆ ทำให้มีน้ำหนักเบา และเป็นฉนวน และ ทนต่อทุกสภาพอากาศ มีความยืดหยุ่นตัว ทำให้สามารถดัดโค้งงอได้ มีคุณสมบัติไม่ติดไฟ รูปแบบหลังคามีลักษณะเป็นแผ่นเรียบ ความกว้างจะอยู่ที่ประมาณ 12.5 ซม. แต่มีความยาวจำกัดที่ 4 - 6 เมตร หนา 7 มม. ในบ้านเรานิยมนำใช้ทำกันสาดและหลังคาโรงรถ แต่ไม่ควรนำไปมุงเป็นหลังคาหลักของบ้านเรือน เพราะอุปกรณ์ในการติดตั้ง และระบบกันรั่วซึมยังไม่เหมาะจะมาใช้กับตัวที่พักแบบถาวร ซึ่งจะเห็นได้จากการติดตั้งเป็นการมุงซ้อนๆ กัน ในบริเวณด้านข้างของบ้านเรือน ที่ตัวแผ่นจะลักษณะที่สามารถทำให้ล็อกติดกันระหว่างแผ่นได้เลย แต่จะไม่มีรายละเอียดการซ้อนกันที่หัวแผ่นและท้ายแผ่น โดยจะยึดแต่ละแผ่นเข้าด้วยกันกับโครงโดยใช้สกรูมีโทนสีให้เลือกเฟ้นคือสีขาว และ สีโทนน้ำตาลอ่อน-เข้ม ซึ่งพอติดตั้งแล้วงานจะดูเรียบร้อย เข้าสมัย มีสไตล์เพิ่มความโดดเด่นให้กับที่อยู่สมัยใหม่  แต่ราคาจะค่อนไปทางสูงพอสมควร เฉพาะราคาหลังคาไวนิลอย่างเดียว ซึ่งยังไม่รวมโครง ก็ตกอยู่ที่ประมาณ 1,000 - 1,200 บาทต่อตารางเมตรไปแล้ว ส่วนที่มีขายในบ้านเราส่วนมากจะขายพร้อมติดตั้งรวมโครงไปด้วยเลย โดยสามารถเลือกได้ว่าจะติดตั้งบนโครงเหล็กทาสี หรือ ติดตั้งบนสเตนเลส ซึ่งราคาจะสูง หรือตกอยู่ที่ประมาณตารางเมตรละ 2,500 - 2,900 บาทเลยทีเดียว เรียกได้ว่าอาคารบ้านเรือนหลังไหนใช้ต้องมีเงินอยู่พอสมควร
 
หลังคาโรงรถแบบ UPVC (Unplastizide Poly Vinyl Chloride)
 
เป็นหลังคาโรงรถชนิดใหม่ที่ออกมาแข่งขันกับหลังคาโรงรถ Metal Sheet เพราะถึงขั้นสามารถใช้เป็นหลังคาหลักของอาคารบ้านเรือนได้เลย แต่ตอนนี้ได้รับความนิยมนำมาใช้เป็นหลังคาโรงรถ และ กันสาดไปในตัวหลังคาจะมีลักษณะเป็นรูปลอน และ หน้ากว้างแต่ละแผ่นจะใกล้เคียงกัน แต่ความยาวตอนนี้จะจำกัดที่ 12 เมตร สาเหตุนั้นมาจากเรื่องการขนส่ง ตัวแผ่นหลังคาจะเป็นการประกบกัน 3 ชั้น เหมือนแซนด์วิช โดยที่ไส้กลางจะเป็นฉนวนกันร้อน เช่น Polymer Foam หรือ Carbon Fiber ที่บริเวณผิวของแผ่นจะมีการเคลือบสี และสารป้องกัน UV ไว้ด้วย ทำให้อายุการใช้งานจากนานกว่าเดิมเป็นสิบๆ ปี ตัวหลังคาจะมีความหนารวมประมาณ 2 - 3 มม.
 
          ด้านคุณสมบัติอื่นๆ ก็จะไม่ต่างจากหลังคาไวนิลเท่าไหร่นัก เรียกได้ว่าเอาจุดเด่นของ Metal Sheet กับจุดเด่นของไวนิลมารวมกันก็ว่าได้ ทั้งในเรื่องของความหนักเบาที่เบา มีคุณลักษณะไม่ติดไฟ และ แนวการมุงก็เป็นการยึดด้วยสกรูเข้ากับโครงเหล็กเช่นเดียวกับ Metal Sheet ซึ่งอุปกรณ์การติดตั้งสามารถจะใช้ร่วมกับหลังคาแบบ Metal Sheet ได้ เช่น ตัว Flashing ที่พับเป็นครอบข้าง หรือ Flashing ที่ใช้กันน้ำ และจุดแข็งอีกอย่างก็คือ มีหลายสีให้เลือกทั้งสีขาว, แดง, เขียว และ น้ำเงิน ซึ่งจุดแข็งที่สำคัญคือราคาไม่สูงเกินไป เพราะตารางเมตรหนึ่งจะตกอยู่ที่ประมาณ 300 - 350 บาทเท่านั้นเอง
 

          สำหรับหลายๆ คน ที่คิดจะติดตั้งหลังคาโรงรถนั้นไม่ใช่แค่วัสดุหลังคาเท่านั้นที่ต้องใส่ใจ แต่แบบโครงสร้างของหลังคา และวัสดุของโครงสร้างก็มีความจำเป็นที่เราจะต้องใส่ใจ เพราะทุกส่วนในการติดตั้งล้วนแล้วแต่มีผลต่ออายุการใช้งานและความสวยงาม เช่นนั้น เจ้าของที่พักอาศัยควรจะต้องขอคำแนะนำสถาปนิก หรือ วิศวกรเพื่อให้โรงรถของเราให้มีความยืนยงแข็งแรง และ ใช้ประโยชน์กับเราได้ไปอีกนานแบบคุ้มค่าเงินในกระเป๋าที่ต้องเสียไปนะคะ
 

ที่มา : http://www.scgexperience.co.th/home-consult/dreamdriverblog/new-home/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%94%E0%B8%B8%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%87.aspx

Tags : หลังคาโรงรถ , โรงรถหลังคา