ผู้เขียน หัวข้อ: แนวทางใช้งานดิจิตอลมัลติมิเตอร์ เครื่องมือวัด fluke  (อ่าน 1344 ครั้ง)

ออฟไลน์ lnwneverdie2015

  • Full LED TV member
  • ****
  • กระทู้: 2,191
  • ?????????????????????????????????????????????? BMW R 1200 GS ?????????????????? 2017
    • ดูรายละเอียด

Credit : www.measuretronix.com
เครื่องมือไฟฟ้าเป็นสิ่งที่มือใหม่ หรือพ่อบ้านทั่วไป จำเป็นต้องฝึกหัดรู้จักการใช้งานให้คล่อง มากกว่าการรู้แต่จากหนังสือเท่านั้น และเครื่องมือวัดไฟ เป็นอีกอุปกรณ์ไฟฟ้าอีกตัวที่ขาดไม่ได้อย่างมากสำหรับมือใหม่ เพราะเป็นเครื่องมือชิ้นต้นๆ ที่ช่วยให้เราเข้าใจเรื่องมูลฐานไฟฟ้า กระนั้นคุณต้องเลือกซื้อหา ดิจิตอลมัลติมิเตอร์ มาใช้งานก่อน ซึ่งมีอยู่มากมายหลายแบรนด์ในตลาด ทั้งที่ราคาถูก และราคาสูงแตกต่างกัน บางรุ่นจะมีฟังค์ชั่นพิเศษ เช่น  การเหนี่ยวนํา แต่ส่วนใหญ่แล้วเครื่องมือวัดไฟ ราคาถูกจะจะแสดงค่าคลาดเคลื่อนมากนัก เราขอแนะเครื่องมือวัดไฟยี่ห้อ fluke ซึ่งแม้จะมีราคาค่างวดที่สูงสักนิด แต่ใช้งานทนทาน ได้มาตรฐาน และอ่านค่าได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเรียกว่าซื้อทีเดียวจบ โดยเราสามารถสั่งออนไลน์ผ่าน ตัวแทนจำหน่าย fluke ได้ สำหรับงานไฟฟ้าทั่วไป แนะนำรุ่น FLUKE 117 ซึ่งมีคุณสมบัติการวัดที่จำเป็นครบเหมาะกับมือสมัครเล่นมากครับ
มัลติมิเตอร์ คืออะไร
ดิจิตอลมัลติมิเตอร์ เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า ที่ช่วยให้ท่านสามารถวัดค่าไฟฟ้าต่างๆ เช่น แรงดันไฟฟ้า, แอมแปร์, โอห์มและวัดค่าไดโอด เครื่องมือวัด fluke 117 มีฟังชันก์ เหล่านี้ทั้งหมดนี้ หน้าจอ fluke 117 แสดงผลตัวเลข 4 หลัก ซึ่งเพียงพอแล้วสำหรับมือสมัครเล่น เครื่องมือวัดไฟจะมีช่วงพิสัยต่างๆ ให้เลือก โดยการบิดลูกบิดไปที่ค่าย่านเหล่านั้น ตามสัญลักษณ์ ดังนี้
V สำหรับตรวจสอบแรงดันไฟ ทั้งแบบกระแสไฟตรง และกระแสสลับ
mV วัดแรงดันไฟฟ้า มิลลิแอมป์ แบบกระแสตรง และกระแสสลับ
Ohm วัดค่าความต้านทาน
A ตรวจสอบแอมแปร์ แบบDC และกระแสสลับ
และย่านวัดความต่อเนื่องสำหรับ ตรวจสอบสายไฟขาด
สำหรับขั้นตอนการตรวจสอบย่านพื้นฐานต่างๆ เราได้รวบรวมวิธีการไว้ดังต่อไปนี้
การตรวจสอบโวลต์
การวัดค่าโวลต์ หรือโวลต์ ย่าน DCและ AC ก่อนอื่นคุณต้องหาถ่าน AA ที่ใช้งานมาทำการทดสอบจากนั้น
1.ต่อสายดำเข้ากับช่อง COM (common) ที่ตัวเครื่องมือวัด fluke
2.ต่อสายแดงเข้าช่อง V
3.ปรับหน้าปัดไปยังสัญลักษณ์ V แรงดันไฟฟ้า แรงดันกระแสไฟตรงสูง หรือกระแสไฟตรงต่ำ mV จอแสดงผลจะขึ้นสัญลักษณ์ DC
4.นำสายไฟสีแดงแตะที่ขั้วบวก แท่งสายสีดำแตะขั้วลบ ของถ่าน AA
5.ค่าของแรงดันไฟฟ้า ของแบตเตอรี่จะขึ้นตัวเลขที่หน้าจอบนมัลติมิเตอร์
6.ในกรณีวัดไฟบ้าน ให้บิดหน้าปัดไปที่ย่าน V แรงดันกระแสสลับ สูง Hz เท่านั้น ซึ่งหน้าจอจะเห็นเครื่องหมาย AC
7.เสียบสายดำแดงที่ปลั๊กไฟบ้าน แต่ต้องระวังอย่าให้ทั้งแท่งสายขั้วบวกลบสัมผัสกัน หรือนิ้วไปถูกบริเวณปลายเหล็ก ซึ่งไฟกระแสตรงเมืองไทยจะขึ้นค่าประมาณ 220V

Credit : maxtech.nanasupplier.com
การแอมป์มิเตอร์
1.เสียบสายดำเข้ากับช่อง COM (common)
2.เสียบสายแดงที่รูสัญลักษณ์ A ซึ่งเครื่องมือวัด fluke 117 สามารถตรวจสอบปริมาณไฟได้ถึงเพียงแค่ 10A
3.ปรับหน้าปัดไปยังย่าน กระแส กระแสไฟ DC
4.ทำการต่อสายสีดำ-แดงเชื่อม เข้าโหลดกับวงจรแบบอนุกรม ค่ากระแสไฟฟ้าที่ผ่านดิจิตอลมัลติมิเตอร์จะแสดงขึ้นที่หน้าจอ
5.กรณีต้องการวัดไฟฟ้ากระแสสลับ ให้บิดลูกบิดไปที่ สัญลักษณ์ตรวจสอบกระแสสูง หรือสัญลักษณ์ A Hz ต่อสายแดงดำ เข้าโหลดแหล่งจ่ายไฟฟ้าแบบอนุกรม ตัวเลขปริมาณกระแสไฟ ACจะแสดงที่หน้าจอมัลติมิเตอร์ กระนั้นควรพึงระวังเสมอว่าเครื่องวัดสามารถตรวจสอบปริมาณไฟได้สูงสุด 10A เท่านั้น ถ้านำไปตรวจสอบกระแสไฟที่มากกว่านั้น ฟิวส์ภายในมัลติมิเตอร์จะระเบิด ทำให้ดิจิตอลมัลติมิเตอร์เสียหายได้
การตรวจสอบค่าโอห์ม
การวัดความต้านทาน หรือ R คือ ตัวต้านทาน กระแสไฟ เพื่อปรับลดปริมาณไฟให้เหมาะกับเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือวงจรต่างๆ
1.เสียบสายดำแดง เหมือนการวัดค่าแรงดันไฟฟ้า เส้นสีแดงเสียบเข้ากับเครื่องหมาย Ohm โอเมก้า เครื่องหมายกรีกโบราณ ที่ตัวเครื่องมือวัด fluke
2. บิดลูกบิดไปยังย่านโหมด Ohm ความต้านทาน และหากเอาสายแดงดำมาแตะกันจะไม่มีค่าโอห์ม เครื่องวัดจะขึ้นค่า 0 โอห์ม คือความต้านทานไม่มี
3.นำเอาสายขั้วบวกลบ ไปสัมผัสยังปลายสองข้างของสายไฟที่จะตรวจสอบ R
4.จากนั้นหน้าจอมาตรวัดจะแสดงตัวเลขค่าความต้านทานของสายไฟนั้นๆ ซึ่งถ้าไม่มีRแล้ว ค่าโอห์มจะเท่ากับ 0
การตรวจสอบความต่อเนื่อง หรือวิธีเช็คสาย
ตรวจสอบความต่อเนื่อง เป็นการตรวจสอบตัวนำไฟฟ้าของเครื่องมือ หรือเช็คอุปกรณ์นำไฟฟ้าว่าต่อกัน ตรวจสอบว่าสายไฟขาดในหรือไม่ ซึ่งมีแนวทางดังนี้
1.ต่อสายสีดำ เข้าช่อง COM (common)
2.เสียบสายแดงเข้า ช่องโอห์ม ที่ตัวเครื่องมือวัด fluke
3.บิดลูกบิดไปที่ช่วงพิสัยความต่อเนื่อง ลักษณะคล้ายสัญญาณมือถือ
4.ทดสอบโดยการนำปลายสายดำแดงมาสัมผัสกัน ซึ่งจะมีเสียงดัง ปี๊บ นั่นหมายความว่ามีความต่อเนื่องกัน
5.จากนั้นเอานำสายแดง-ดำ สัมผัสที่ปลายวัสดุที่เราจะตรวจสอบทั้งสองด้าน ถ้าหากมีเสียงดังบี๊บๆ แสดงว่ามีความต่อเนื่องกัน นั่นเอง แต่ถ้าเครื่องมือวัดไม่ส่งเสียง แสดงว่าสายอาจจะขาดใน
ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ ทั้งนี้เพื่อนๆต้องทำการปฏิบัติฝึกฝนให้รู้เรื่อง ให้แตกฉาน และต้องพึงระวังเสมอเวลาจะตรวจสอบไฟกระแสสลับ ซึ่งเป็นไฟฟ้าที่มีแรงดันสูง อันตรายอย่างมาก และหากคุณมีงบเพียงพอ การซื้อเครื่องเครื่องมือวัดไฟแบรนด์ fluke จากตัวแทนจำหน่าย fluke ในเว็บออนไลน์ จะช่วยให้คุณตรวจวัดไฟได้ไม่ยากเลย เพราะยี่ห้ออื่นแล้วจะมีช่วงพิสัยที่ใช้งานยากกว่านี้ แต่กับของ fluke มีทำระบบทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ความเนี๊ยบของงาน fluke ถือเป็นเบอร์หนึ่งทีเดียว

เครดิต : http://www.meterdd.com

Tags : เครื่องมือวัด fluke,ตัวแทนจำหน่าย fluke
GSA1200 Adventure
[img]http://ep.yimg.com/ay/yhst-66049453130018/rox-adjustable-2-inch-pivoting-risers-for-bmw-r1200gs-r1200gsa-liquid-cooled-2013-newer-made-in-usa-28.gif[/img