ฟิลเลอร์ใต้ตา คือการฉีดสารเติมเต็ม (filler) ลงไปที่บริเวณใต้ตา เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากการสูญเสียความยืดหยุ่นของผิวหนังตามธรรมชาติ หรือจากการมีอายุที่มากขึ้น ซึ่งทำให้เกิด ร่องลึก หรือ รอยคล้ำ ใต้ตา ฟิลเลอร์ที่ใช้ในบริเวณนี้มักจะเป็นสารที่มีความปลอดภัยและสามารถสลายได้ตามธรรมชาติ เช่น Hyaluronic Acid (HA) ที่ช่วยเติมเต็มและทำให้ผิวใต้ตาดูเต่งตึง อิ่มน้ำ และเรียบเนียนมากขึ้น
ทำไมการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาถึงฮิต?- แก้ปัญหาร่องลึกและรอยคล้ำใต้ตาได้ทันที หลายคนมีปัญหาใต้ตาลึกหรือหมองคล้ำจากกรรมพันธุ์ การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรืออายุที่มากขึ้น ซึ่งแม้การทาครีมจะช่วยได้บ้าง แต่ไม่เห็นผลชัดเจนเท่าการฉีดฟิลเลอร์ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ทันทีหลังฉีด
- ใช้เวลาไม่นานและไม่ต้องพักฟื้น การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้เวลาเพียง 15-30 นาที และไม่ต้องพักฟื้นยาวนาน หลังฉีดสามารถกลับไปทำงานหรือใช้ชีวิตประจำวันได้เลย
- ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ หากเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมและฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผลลัพธ์จะดูเนียนและเป็นธรรมชาติ ทำให้ดวงตาดูสดใสเหมือนนอนหลับเต็มอิ่มอยู่ตลอดเวลา
- ไม่ต้องผ่าตัด ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีที่ปลอดภัยและไม่ต้องผ่าตัด ลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับการทำศัลยกรรมดึงหน้า
เคล็ดลับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาให้ดวงตาดูเด็กลง1. เลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะกับบริเวณใต้ตา ฟิลเลอร์ใต้ตาควรเป็นฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic Acid (HA) ที่มีโมเลกุลเล็กและยืดหยุ่นได้ดี เช่น Restylane, Juvederm หรือ Belotero เพื่อให้เนื้อเจลกลมกลืนกับผิวและลดโอกาสการจับตัวเป็นก้อน
2. ฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นงานที่ต้องอาศัยความละเอียดสูง เนื่องจากบริเวณนี้มีโครงสร้างซับซ้อนและมีเส้นเลือดจำนวนมาก การเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์จึงช่วยลดความเสี่ยงและทำให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงาม
3. ดูแลตัวเองหลังฉีดอย่างเคร่งครัด หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงการนวดหรือกดบริเวณใต้ตาในช่วง 48 ชั่วโมงแรก หลีกเลี่ยงความร้อนจัด เช่น ซาวน่า หรือการอาบน้ำอุ่น เพื่อป้องกันไม่ให้ฟิลเลอร์เสียรูป
4. ดื่มน้ำเยอะ ๆ Hyaluronic Acid ในฟิลเลอร์จะดูดซับน้ำเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและทำให้ฟิลเลอร์ฟูเต็มอยู่เสมอ การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานขึ้น
5. เลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน อย่าเลือกฉีดฟิลเลอร์กับผู้ที่ไม่มีใบอนุญาต หรือใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือเกิดผลข้างเคียงที่อันตราย
ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา- ดวงตาดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น การเติมฟิลเลอร์ช่วยให้ใต้ตาดูเต็มขึ้น รอยลึกและความหมองคล้ำลดลง ใบหน้าดูสดชื่น ไม่เหนื่อยล้า
- ผิวดูชุ่มชื้นและเรียบเนียนขึ้น Hyaluronic Acid ในฟิลเลอร์ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้ผิวใต้ตาดูอิ่มน้ำและเนียนขึ้น
- ความมั่นใจเพิ่มขึ้น เมื่อปัญหาใต้ตาถูกแก้ไข ใบหน้าจะดูมีชีวิตชีวาและดูอ่อนกว่าวัย ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจได้อย่างมาก
ข้อควรระวังในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแม้ฟิลเลอร์ใต้ตาจะปลอดภัย แต่ก็มีข้อควรระวัง เช่น
- การฉีดผิดตำแหน่ง อาจทำให้เกิดก้อนนูนหรืออาการบวมผิดปกติ
- เสี่ยงต่อการอุดตันของเส้นเลือด หากฉีดโดยผู้ที่ไม่เชี่ยวชาญ
- อาการแพ้หรือการอักเสบ หากใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
ดังนั้นการศึกษาข้อมูลและเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับใคร การฉีด
ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีที่สามารถช่วยปรับปรุงลักษณะของดวงตาและใบหน้าให้ดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้น แต่ไม่ทุกคนที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ดังนั้นจึงมีบางกลุ่มคนที่อาจจะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการทำหัตถการนี้ ซึ่งรวมถึง
- คนที่มีร่องลึกใต้ตา ผู้ที่มีร่องลึกใต้ตา มักจะมีปัญหาดวงตาดูเหนื่อยล้าและมีอายุ ฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถช่วยเติมเต็มร่องลึกเหล่านี้ ทำให้ดวงตาดูสดใสและเต็มอิ่มขึ้น ช่วยลดความหมองคล้ำและทำให้ใบหน้าดูสดชื่นขึ้นได้
- คนที่มีรอยคล้ำใต้ตา รอยคล้ำใต้ตาเป็นปัญหาที่พบบ่อยจากการนอนหลับไม่เพียงพอ หรือจากกรรมพันธุ์ หากรอยคล้ำใต้ตาเกิดจากการขาดความชุ่มชื้นและผิวบาง การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถช่วยปรับปรุงให้ผิวดูเนียนและสดใสมากขึ้น
- คนที่มีอายุเริ่มมากขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังใต้ตาจะเริ่มหย่อนคล้อยและบางลง ฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถช่วยเติมเต็มและยกกระชับผิวใต้ตาให้กลับมาดูเต่งตึงและอ่อนเยาว์อีกครั้ง ทำให้ใบหน้าดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
- คนที่มีความเหนื่อยล้าหรือดวงตาดูหมองคล้ำ หากคุณรู้สึกว่าดวงตาของคุณดูหมองคล้ำและเหนื่อยล้า แม้จะนอนหลับเพียงพอแล้ว การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยปรับลักษณะของผิวให้ดูสดใสและมีชีวิตชีวามากขึ้น
- คนที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและไม่ต้องการการผ่าตัด ฟิลเลอร์สามารถเติมเต็มร่องลึกใต้ตาและปรับโครงสร้างใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นในเวลาที่รวดเร็ว
- คนที่มีปัญหาผิวแห้งหรือขาดความชุ่มชื้นใต้ตา การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยเติมน้ำและให้ความชุ่มชื้นใต้ตาได้ดี ทำให้ผิวใต้ตาดูอิ่มน้ำและเรียบเนียนขึ้น
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แต่ละยี่ห้อ ใช้กี่ CC การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแต่ละยี่ห้อใช้ปริมาณประมาณ 0.5 - 1 CC ต่อข้างขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหาและผลลัพธ์ที่ต้องการ
- Restylane: ประมาณ 0.5 - 1 CC ต่อข้าง
- Juvederm Volbella: ประมาณ 0.5 - 1 CC ต่อข้าง
- Belotero: ประมาณ 0.5 - 1 CC ต่อข้าง
- Teosyal Redensity II: ประมาณ 0.5 - 1 CC ต่อข้าง
การใช้ปริมาณฟิลเลอร์จะปรับตามความลึกของร่องและผลลัพธ์ที่ต้องการค่ะ
สรุปฟิลเลอร์ใต้ตาได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเป็นวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำและร่องลึกได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย หากฉีดอย่างถูกต้อง ผลลัพธ์จะดูเป็นธรรมชาติและช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัยทันที อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ อย่าลืมปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด