ในยุคที่เทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การ เก็บสเต็มเซลล์ กลายเป็นหนึ่งในนวัตกรรมสำคัญที่ช่วยเปิดโอกาสใหม่ ๆ ในการรักษาโรคร้ายต่าง ๆ โดยเฉพาะสเต็มเซลล์ที่ได้จาก placenta หรือรกของทารกในครรภ์ ซึ่งเป็นแหล่งที่มีสเต็มเซลล์คุณภาพสูงและมีศักยภาพในการพัฒนาตัวเองเป็นเซลล์ชนิดต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย
Placenta นับเป็นแหล่งสำคัญของสเต็มเซลล์ชนิด Mesenchymal Stem Cells (MSCs) ที่มีความสามารถพิเศษในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและฟื้นฟูอวัยวะที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งในปัจจุบันนักวิจัยได้ศึกษาการนำสเต็มเซลล์จาก placenta มาใช้ในทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน โรคระบบประสาท รวมถึงโรคทางภูมิคุ้มกัน ซึ่งแสดงผลลัพธ์ที่น่าพอใจและยังมีแนวโน้มว่าจะสามารถขยายการรักษาไปสู่โรคอื่น ๆ ได้ในอนาคต
กระบวนการ
เก็บสเต็มเซลล์ จาก placenta นั้นเป็นกระบวนการที่ปลอดภัยและไม่ส่งผลกระทบต่อตัวแม่หรือทารก เนื่องจาก placenta จะถูกแยกออกหลังการคลอดอยู่แล้ว ทำให้สามารถนำ placenta ไปผ่านขั้นตอนการแยกและเก็บรักษาสเต็มเซลล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสเต็มเซลล์เหล่านี้สามารถเก็บไว้ในสภาพแช่แข็ง (cryopreservation) เพื่อใช้งานในอนาคตได้ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล
ในแง่ของอนาคต เทคโนโลยีการ เก็บสเต็มเซลล์ จาก placenta มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนวิธีการรักษาโรคหลายชนิดให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำมากขึ้น อีกทั้งยังลดผลข้างเคียงจากการรักษาแบบเดิม ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดหรือการผ่าตัดที่มีความเสี่ยงสูง
ดังนั้น การเก็บรักษา
placenta เพื่อนำสเต็มเซลล์มาใช้ประโยชน์ในอนาคตจึงเป็นเรื่องที่ควรได้รับความสนใจและส่งเสริมให้แพร่หลายมากขึ้น เพื่อเปิดประตูสู่การรักษาแบบใหม่ที่ทั้งปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงในยุคที่โลกการแพทย์กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว