ความง่วงเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้ามาผิดที่ผิดเวลาในตอนที่เราต้องทำงานก็ต้องหา
วิธีแก้ง่วงตอนทํางาน หนึ่งในวิธียอดฮิตและง่ายที่สุดคือการดื่มกาแฟเพื่อเอาคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายให้กระฉับกระเฉงและกระปรี้กระเปร่าขึ้น แต่น่าแปลกสำหรับบางคนที่ว่ารสชาติขม ๆ ผสมคาเฟอีนที่ดื่มเข้าไปนั้นกลับให้ผลตรงกันข้ามที่นอกจากจะไม่บรรเทาความง่วงแล้วกลับ กินกาแฟแล้วง่วง หนักกว่าเดิม สาเหตุเกิดจากอะไรนั้น วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยกัน
ทำไม กินกาแฟแล้วง่วง มีหลายปัจจัยดังนี้1. ร่างกายคนเราตอบสนองต่อฤทธิ์คาเฟอีนแตกต่างกัน เนื่องจากในร่างกายเรามีเอนไซม์ชนิดหนึ่งที่สามารถย่อยสลายคาเฟอีนได้ ซึ่งคุณสมบัติของสารคาเฟอีนนี้คือทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า ลดความเหนื่อยล้า แต่เมื่อเจอกับเอนไซม์ที่ว่านี้ คาเฟอีนก็จะค่อย ๆ ย่อยสลายหมดฤทธิ์ บางคนเอนไซม์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ กำจัดคาเฟอีนได้เร็วจึงทำให้ร่างกายยังง่วงนอนอยู่ แต่ถ้าเอนไซม์ทำงานได้ไม่เต็มที่ การกำจัดคาเฟอีนก็จะช้าตามไปด้วย ฤทธิ์แก้ง่วงของกาแฟจึงอยู่ได้นานกว่า กินกาแฟแล้วง่วง จึงอาจเป็นไปได้ว่าเอนไซม์ตัวนี้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั่นเอง
2. ตัวคาเฟอีน มีฤทธิ์เป็นยาขับปัสสาวะอ่อน ๆ และเมื่อร่างกายของเราสูญเสียน้ำออกมาทางปัสสาวะ ก็จะทำให้ร่างกายรู้สึกเพลีย จึงส่งผลให้เกิดอาการง่วงนอนได้เช่นเดียวกัน
3. น้ำตาลในกาแฟทำให้ง่วง หากเราดื่มกาแฟแบบเติมนมหรือน้ำตาลลงไป ความหวานเหล่านี้ก็จะไปเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด กระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงาน เมื่อร่างกายนำไปใช้ก็จะทำให้พลังงานในร่างกายต่ำลง ส่งผลให้หลายคนง่วงนอน
4. อาการดื้อคาเฟอีน ถึงแม้ว่าคาเฟอีนจะเป็นตัวช่วยให้ร่างกายตื่น สดชื่น กระปรี้กระเปร่าได้ แต่การที่เรารับคาเฟอีนเยอะอย่างต่อเนื่องในทุกวันก็อาจไม่ดีเท่าไหร่นัก เพราะเมื่อเรารับเอาคาแฟอื่นในปริมาณเยอะทุก ๆ วัน ร่างกายก็จะปรับตัว ทำให้ต้องดื่มมากขึ้นเพราะดื่มเท่าไรก็ยังง่วงอยู่ ทุกวันนี้จึงมี กาแฟไม่มีคาเฟอีน หรือ กาแฟดีแคฟ มาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ผู้ที่รักการดื่มกาแฟ แต่ไม่ต้องการให้ร่างกายได้รับคาเฟอีนมากเกินไปในแต่ละวัน ซึ่ง กาแฟไม่มีคาเฟอีน นี้ดื่มแล้วก็จะได้ความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า แก้ง่วงได้เช่นกัน
การดื่มกาแฟยังคงเป็นหนึ่งใน วิธีแก้ง่วง สุดคลาสสิกที่หลายคนเลือกใช้เป็นประจำ แต่หลายคนก็ทราบดีว่าการดื่มกาแฟในปริมาณที่เกินพอดีนั้นย่อมไม่ดีต่อร่างกาย กาแฟไม่มีคาเฟอีน หรือ กาแฟดีแคฟ ที่มีคาเฟอีนน้อยหรือแทบจะไม่มีคาเฟอีนเลยนั้น จึงกลายเป็นตัวเลือกที่หลายคนชื่นชอบ แต่ไม่ว่าเราจะแก้ง่วงด้วยวิธีใด การทำแต่พอดีและถูกวิธีนั้นย่อมให้ผลลัพธ์ที่พอใจและไม่สร้างผลกระทบข้างเคียงต่อร่างกาย
