โรคแพร่กระจายเป็นภัยของคนตั้งแต่อดีตกาลจนถึงช่วงปัจจุบัน แม้ว่าการรักษาจะถูกพัฒนาให้ทันสมัยขึ้น แต่หลายหนที่โรคแพร่กระจายเกิดขึ้นใหม่ก็ได้เกิดขึ้น โรคแพร่กระจายที่ทำให้เกิดการเจ็บไข้และคร่าชีวิตผู้คน ก่อให้เกิดความย่อยยับให้กับคนเราอย่างประเมินค่าไม่ได้ โรคแพร่กระจายที่เกิดขึ้นในโลกมนุษย์ยุคหลังมักมีความคลุมเครือ แม้จะทำการเล่าเรียน หากบางโรคความแจ่มแจ้งก็ยังไม่ได้มีทั่ว และหนึ่งโรคแพร่กระจายที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในสมัยนี้ ก็คือ โรคไวรัสสายพันธุ์ใหม่ นามว่า โรคเชื้อไวรัสอีโบลา หรือ โรคไข้เลือดออกอีโบลา นั่นเอง
โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา เป็นโรคที่เกิดจากไวรัสที่จัดอยู่ในสกุล
Ebolavirus <https://th.wikipedia.org/w/index.php?title=Ebolavirus&action=edit&redlink=1> โดยมีเชื้อโรคก่อโรคทั้งหมดสี่ชนิดด้วยกัน พวกแรกก็คือกลุ่มที่เป็นที่มาของชื่อโรคนี้ก็คือเชื้อไวรัสอีโบลา (Ebola virus, EBOV) นั่นเอง ส่วนเชื้อโรคอีกสามตระกูลที่เหลือที่ก่อโรคเดียวกันได้แก่ ไวรัสบันดิบูเกียว ซูดาน และ ป่าตาอี ค่ะ
จนถึงปัจจุบันนี้ ก็ยังไม่สามารถค้นพบข้อรับรองที่แน่ชัดว่าครั้งแรกไวรัสอีโบลาเข้าสู่ร่างกายมนุษย์เราได้อย่างไร มีเพียงสมมติฐานจากนักวิทย์ ฯที่เชื้อว่าเชื้อไวรัสพวกนี้คงแพร่กระจายผ่านทางน้ำคัดหลั่งของร่างกายสัตว์ที่ติดไวรัส
เชื้อไวรัสอีโบลาเกิดการติดเชื้อผู้เจ็บป่วยบคุคลหนึ่งสู่บุคคลอื่นได้โดยผ่านทางกระแสเลือดหรือน้ำคัดหลั่งจากร่างกายของผู้ที่ติดเชื้อ มีบันทึกว่าบุคคลากรทางการแพทย์ในอาฟริกาติดเชื้อไวรัสอีโบลาจำนวนมาก เพราะว่าไม่มีมาตรการป้องกันที่ดีพอ เมื่อเกิดการแพร่เชื้อโรคและเข้าไปทำการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ
คนไข้ที่ติดเชื้อโรคอีโบลาจะเกิดอาการผิดปกติอย่างทันที โดยอาการขั้นเริ่มต้นของผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสอีโบลานั้นจะมีลักษณะคล้ายกับผู้เจ็บป่วยที่ติดเชื้อไวรัสอีโบลาโรคไข้หวัดใหญ่ คือ มีอาการล้า หมดแรงง่าย มีไข้ขึ้นสูง ปวดตามส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น ปวดหัว ปวดกระบอกตา ปวดตามข้อ ปวดกล้ามเนื้อ มีอาการเซ็งอาหาร ไม่อยากกินอะไร อาจมีคลื่นไส้ อาเจียน หรือ ท้องเสีย นอกจากนี้คนป่วยที่ติดเชื้อโรคอีโบลาประมาณกึ่งหนึ่งจะเกิดผื่นแดง เมื่อพ้นระยะเริ่มแรกของอาการแสดงไป ต่อจากนั้นในระยะเลือดออก โดยผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคอีโบลาจะเกิดอาการผิดปกติคือมีเลือดออกง่ายได้ทั้งร่างกาย อาจเกิดอาการตกเลือดในอวัยวะภายในท้อง มีกิริยาอาการอาเจียนหรืออุจจาระเป็นเลือด เลือดออกในเยื่อบุตาขาว เกิดจุดหรือห้อเลือดออกตามตัว ผู้เจ็บป่วยที่มีเลือดออกมากจะมีการดำเนินโรคที่แย่กว่า ใช้เวลาการแก้โรคที่นาน และเพิ่มอัตราการตายจากการติดเชื้อ ถึงอย่างไรการเกิดเลือดออกนั้นไม่ใช่สาเหตุโดยตรงของการล่วงลับในคนป่วยที่ติดเชื้อโรคอีโบลา เนื่องจากปริมาณของเลือดที่ออกนั้นไม่มากพอ ข้อยกเว้น การเสียเลือดระหว่างการออกลูก แต่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าผู้ป่วยที่ติดไวรัสอีโบลาตายจากการทำงานของอวัยวะภายในที่แปลกประหลาด เพราะสารน้ำในหลอดเลือดแพร่กระจายออกจากหลอดเลือดไปอยู่ที่ช่องว่างภายในร่างกาย (fluid redistribution) ทำให้เกิดความดันโลหิตต่ำ นำมาซึ่งการทำงานของอวัยวะภายในที่ผิดปกติ

จนถึงปัจจุบันนี้การรักษายังไม่สามารถหาวิธีการรักษาหรือยาที่ฆ่าเชื้อโรคอีโบลาได้โดยตรง การรักษาผู้เจ็บป่วยที่ติดเชื้อโรคอีโบลาจะเน้นที่การประคับประคองและแก้โรคตามอาการ เช่น การให้ยาลดไข้ การให้ยาแก้เจ็บปวดเมื่อย การตรวจติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต และปริมาณปัสสาวะ เพื่อประมาณปริมาณสารน้ำที่ควรได้ทดแทนทางหลอดเลือดดำ มีการเจาะเลือดเพื่อหาระดับเกลือแร่และแก้ไขให้เป็นปกติ
โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา เป็นโรคติดโรคอุบัติใหม่ที่มีความรุนแรงสูง พบอัตราการสิ้นชีพของผู้เจ็บป่วยที่ติดไวรัสอีโบลาถึงประมาณอัตราร้อยละ 50-90 แม้ว่ายังไม่มีการรักษาเฉพาะความเจ็บไข้สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคอีโบลา แต่การศึกษาในปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์พบว่า หากผู้เจ็บป่วยที่ติดเชื้อโรคอีโบลาได้รับการเยียวยาตั้งแต่ระยะแรกของโรค จะมีการพยากรณ์ของโรคภัยไข้เจ็บที่ดีกว่า และมีโอกาสสิ้นชีพต่ำลง กระนั้นก็ตามในสมัยปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนในการปกป้องการติดเชื้อจากเชื้อไวรัสอุบัติใหม่ที่แสนน่ากลัวนี้ แต่ก็มีความดีขึ้นทางด้านการศึกษาทดลองวัคซีนเพื่อปกป้องการติดไวรัสอีโบลาจำนวนมาก ด้วยความหวังว่าจะช่วยป้องกันและลดอัตราการถึงแก่ชีวิตของผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคอีโบลาลงได้
การรักษาการติดเชื้อโรคอีโบลา สามารถเริ่มแรกได้จากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมโดยเน้นการใช้และรณรงค์ให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงกับการสัมผัสสารเลือดและสารน้ำคัดหลั่งจากผู้ป่วยที่ติดไวรัสอีโบลาโดยตรง รวมทั้งศพของคนป่วยที่ติดเชื้อโรคอีโบลา มีการสวมใส่ถุงมือ หน้ากาก และแว่นตา รวมทั้งการล้างมือที่สะอาด นอกจากนี้ยังพบว่าการกักโรค ในกรณีที่สงสัยว่าจะเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสอีโบลาจะสามารถที่จะลดอัตราการติดโรคและจำนวนผู้เจ็บป่วยที่ติดโรคลงได้
โรคไวรัสอุบัติใหม่อีโบลายังคงความน่ากลัวเพราะมีอัตราการล่วงลับจากการติดเชื้อสูง ทั้งยังไม่มีการระวังรักษาเฉพาะโรค แต่การรณรงค์และใช้มาตรการการป้องกันการติดเชื้อโรคที่มีศักยภาพจะช่วยลดจำนวนคนไข้ที่ติดไวรัสอีโบลาลงได้ รวมทั้งสามารถลดความวิบัติและอัตราถึงแก่ชีวิตของคนไข้ที่ติดไวรัสอีโบลาได้เช่นกัน
เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง :
https://www.unicef.or.th/supportus/thTags : อีโบล่า,Ebola,โรคอีโบล่า