ในยุคที่ใครๆ ก็อยากมีผิวสวยหน้าใสอย่างเป็นธรรมชาติ การบำรุงแค่ภายนอกอาจไม่เพียงพอ หนึ่งในทางเลือกที่มาแรงในวงการความงามคือ PRP หน้าใส ซึ่งหลายคนอาจยังไม่รู้ว่า
PRP หน้าใส คือ การใช้พลาสมาเข้มข้นที่ได้จากเลือดของตัวเอง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูเซลล์ผิวอย่างล้ำลึก โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีหรือการผ่าตัดใดๆ
PRP หน้าใส คือ เทคโนโลยีที่นำเลือดของเรามาปั่นแยกเพื่อให้ได้เกล็ดเลือดเข้มข้น (Platelet Rich Plasma) ซึ่งอุดมไปด้วยโกรทแฟคเตอร์ (Growth Factors) ช่วยเร่งการซ่อมแซมผิวหนังที่เสื่อมสภาพ ลดเลือนริ้วรอย รอยดำรอยแดงจากสิว และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มน้ำอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ ผิวแห้งขาดน้ำ หรือเริ่มมีสัญญาณแห่งวัย
ข้อดีของ PRP คือความปลอดภัย เพราะใช้เลือดของเราเอง ทำให้โอกาสเกิดการแพ้ต่ำมาก อีกทั้งยังเป็นวิธีที่แพทย์ผิวหนังแนะนำกันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเห็นผลจริงและฟื้นฟูผิวได้ในระยะยาว
นอกจาก PRP แล้ว ยังมีอีกหนึ่งวิธีการฟื้นฟูสุขภาพผิวและร่างกายที่น่าสนใจ นั่นคือการใช้ สเต็มเซลล์ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเรื่องผิวพรรณเท่านั้น แต่ยังใช้ในวงการแพทย์เพื่อรักษาโรคต่างๆ อีกมากมาย
สเต็มเซลล์รักษาโรคอะไรได้บ้าง? คำตอบคือหลายโรค เช่น โรคระบบเลือดอย่างลูคีเมีย โรคทางระบบประสาทอย่างพาร์กินสัน หรือแม้กระทั่งการฟื้นฟูอวัยวะที่เสื่อมสภาพ รวมถึงการเสริมภูมิคุ้มกันในผู้ป่วยโรคเรื้อรัง โดยในวงการความงามก็เริ่มมีการนำสเต็มเซลล์มาใช้ควบคู่กับ PRP เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการฟื้นฟูเซลล์ผิว
หากคุณกำลังมองหาวิธีฟื้นฟูผิวหน้าให้ดูสดใสอย่างปลอดภัย PRP หน้าใส คือ คำตอบที่หมอผิวหนังหลายคนแนะนำ พร้อมทั้งการดูแลสุขภาพจากภายในด้วยสเต็มเซลล์ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพื่อผิวสวยและสุขภาพดีอย่างยั่งยืน
