สวัสดีครับเพื่อนๆ ผมเป็นเจ้าของโรงงานผลิตพลาสติกขนาดกลาง วันนี้อยากมาแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับการติดตั้งโซล่าเซลล์ที่โรงงานของผม เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนเจ้าของธุรกิจท่านอื่น
ก่อนหน้านี้ โรงงานของผมมีค่าไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 45,000-55,000 บาทต่อเดือน เนื่องจากเครื่องจักรต้องทำงานต่อเนื่อง ค่าไฟจึงเป็นต้นทุนหลักที่ส่งผลกระทบต่อกำไรมาก โดยเฉพาะในช่วงที่ค่าไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้น
หลังจากศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและประเมินผลตอบแทนที่น่าจะได้รับ ผมตัดสินใจติดตั้งระบบโซล่าเซลล์บนหลังคาโรงงาน โดยเลือกใช้บริการจากบริษัท Powervault เนื่องจากมีประสบการณ์ด้านการติดตั้งระบบในโรงงานจำนวนมาก และสามารถให้คำปรึกษาเกี่ยวกับขนาดระบบที่เหมาะสมกับการใช้งานได้เป็นอย่างดี
การติดตั้งโซล่าเซลล์ในโรงงานจะแตกต่างจากบ้านพักอาศัย เพราะต้องพิจารณาเรื่องโหลดการใช้ไฟในแต่ละช่วงเวลา ทีมงานจาก Powervault ได้วิเคราะห์พฤติกรรมการใช้ไฟของโรงงานผมอย่างละเอียด ก่อนแนะนำให้ใช้ระบบขนาด 100 กิโลวัตต์ ซึ่งตอบโจทย์การใช้พลังงานของโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขั้นตอนการติดตั้งใช้เวลาประมาณ 5 วัน เนื่องจากจำนวนแผงที่ใช้ค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม ทีมช่างสามารถดำเนินการติดตั้งได้โดยไม่รบกวนการทำงานของโรงงาน ทำให้กระบวนการผลิตยังคงเดินหน้าได้ตามปกติ
หลังจากใช้งานโซล่าเซลล์มาเป็นเวลา 10 เดือน ค่าไฟเฉลี่ยลดลงประมาณ 35,000 บาทต่อเดือน และในบางวันที่แดดดี ขณะที่โรงงานไม่ได้ใช้เครื่องจักรเต็มที่ ยังสามารถขายไฟฟ้ากลับคืนให้การไฟฟ้าได้อีกด้วย ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิตลงอย่างชัดเจน
นอกจากช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว การติดตั้งโซล่าเซลล์ยังส่งเสริมภาพลักษณ์ด้าน CSR ของบริษัทด้วย เพราะเป็นการใช้พลังงานสะอาด ลูกค้าหลายรายในปัจจุบันให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากขึ้น และสิ่งนี้ก็กลายเป็นจุดเด่นอีกอย่างของธุรกิจ
สำหรับเจ้าของธุรกิจที่กำลังพิจารณาการ
ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ ผมแนะนำให้คำนวณผลตอบแทนการลงทุน (ROI) ให้รอบคอบ เลือกบริษัทที่มีประสบการณ์ในการติดตั้งในภาคอุตสาหกรรม และตรวจสอบรายละเอียดการรับประกันระยะยาวให้ชัดเจน เพราะนี่คือการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนยาวนานถึง 20-25 ปี
โดยรวมแล้ว การตัดสินใจติดตั้งโซล่าเซลล์ถือเป็นหนึ่งในการลงทุนที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจของผม เพราะช่วยทั้งในด้านการลดต้นทุน และยังส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนครับ แต่ก็อย่าลืมศึกษาเกี่ยวกับ
solar ppa ไว้ด้วยนะ