ผู้เขียน หัวข้อ: รีวิว Huawei MateBook D15 2021 โน้ตบุ๊กสเปกครบ  (อ่าน 142 ครั้ง)

ออฟไลน์ Chigaru

  • Hologram 3D TV member
  • ******
  • กระทู้: 19,779
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
รีวิว Huawei MateBook D15 2021 โน้ตบุ๊กสเปกครบ
« เมื่อ: ธันวาคม 16, 2021, 02:42:46 pm »


ขณะที่กำลังนั่งพิมพ์บล็อกตอนนี้อยู่ Huawei ก็กำลังให้พรีออร์เดอร์ Huawei MateBook D15 รุ่นปี 2021 ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 28 เมษายน จนถึง 8 พฤษภาคม 2564 ครับ แต่สำหรับคนที่ยังลังเลอยู่ว่าจะพรีออร์เดอร์หรือไม่นั้น ผมได้ลองเล่นมาราวๆ สัปดาห์เศษๆ แล้ว เลยจะขอเอามาเล่าประสบการณ์ให้ได้อ่านกัน เพื่อที่จะได้เป็นแนวทางในการตัดสินใจ เผื่อใครกำลังลังเลอยู่

ออกตัวล้อฟรีก่อน…

ถึงแม้ว่าทาง Huawei Thailand จะเป็นผู้ให้ผมยืม Huawei MateBook D15 2021 ตัวนี้มารีวิว แต่ขอสัญญาด้วยเกียรติของลูกเสือเลยว่า จะเอาประสบการณ์ในการลองใช้งานสัปดาห์เศษๆ มาเล่าให้อ่านกันอย่างตรงไปตรงมาครับ ว่าเป็นยังไง เพื่อที่จะได้ใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อได้อย่างแม่นยำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

แกะกล่องโน้ตบุ๊กออกมา สิ่งที่เราจะได้เห็นก็จะมีตัวโน้ตบุ๊ก Huawei MateBook D15 2021 อะแดปเตอร์แบบ USB-C 65 วัตต์ สาย USB-C to USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ให้กับโน้ตบุ๊ก ความยาว 180 เซ็นติเมตร ซึ่งถือว่ายาวพอสมควรอยู่นะ แล้วก็จะมีเอกสารการรับประกัน … บอกก่อนว่าตัวที่ผมได้มารีวิว เป็นตัวท็อปของ Huawei MateBook D15 2021 ที่เขาปล่อยในปีนี้ คือใช้ CPU เป็น 11th Gen Intel® Core™ i5-1135G7 Processor ครับ (อีกรุ่นจะเป็น 10th Gen)

โน้ตบุ๊ก Huawei MateBook D15 2021 ด้านบน ขณะพับหน้าจอปิดอยู่
ตัวโน้ตบุ๊ก บอดี้เป็นอลูมิเนียมอัลลอย มีขนาดใหญ่พอสมควร คือ กว้าง 357.8 มม. ลึก 229.9 มม. หนา 16.9 มม. และมีน้ำหนักราวๆ 1.56 กิโลกรัม แต่นั่นก็เป็นอะไรที่ช่วยไม่ได้ละนะ เพราะเจ้านี่เป็นโน้ตบุ๊กหน้าจอขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว ซึ่งขนาดตัวเครื่องได้เท่านี้ ก็ถือว่าดีกว่าสมัยก่อนมากแล้ว (ผมยังมีโน้ตบุ๊ก Intel Core-i3 Gen 2 ตัวนึงอยู่ที่บ้าน หนัก 2 กิโลกรัมกว่าๆ และขนาดใหญ่กว่านี้มาก)

หน้าจอแสดงผลของโน้ตบุ๊ก Huawei MateBook D15
หน้าจอความละเอียด 1,920×1,080 อัตราส่วนการแสดงผลแบบมาตรฐาน 16:9 เป็นจอประเภท IPS LCD ให้ความสว่างสูงสุด 250 nits และมี Contrast ratio ที่ 800:1 มุมมองในการรับชมที่ 178 องศา อ้างอิงตามสเปกบนเว็บไซต์ของ Huawei นะ และเป็นแบบลดแสงสะท้อน ดูแล้วสบายตาดีจริงๆ

พอร์ตต่างๆ ที่อยู่ทางด้านซ้ายมือของโน้ตบุ๊ก Huawei MateBook D15 2021
รอบๆ ตัวเครื่อง ด้านซ้ายก็มีพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ และสามารถใช้ในการถ่ายโอนข้อมูลได้ด้วย มาให้พอร์ตนึง พอร์ต HDMI ซึ่งสเปกก็ไม่ได้บอกว่าเป็นเวอร์ชันไหน แต่เดาว่าอาจจะ HDMI1.4b หรือ HDMI2.0 ซึ่งผมก็ไม่มีวิธีในการตรวจสอบเช่นกัน เพราะถ้าจะเอาไปเสียบกะจอทีวี ทีวีบ้านผมก็รุ่นเก่า น่าจะรองรับได้แค่ HDMI1.4b แค่นั้น (4K@30Hz) กลัวจะให้ข้อมูลผิดอะ แล้วก็มีพอร์ต USB 3.2 Gen 1 (แบนด์วิธ 5Gbps) มาให้พอร์ตนึง

พอร์ตต่างๆ ที่อยู่ด้านขวามือของโน้ตบุ๊ก Huawei MateBook D15 2021
ส่วนด้านขวาก็จะเป็นพอร์ต USB 2.0 จำนวน 2 พอร์ต และช่องเสียบหูฟังแบบคอมโบ คือ ได้ทั้งหูฟังและไมโครโฟนในรูเดียวมาให้อีกพอร์ตนึง

ด้านล่างของโน้ตบุ๊ก Huawei MateBook D15 2021
ระบบระบายความร้อน ออกแบบมาให้อยู่ด้านหลัง และด้านล่างของตัวเครื่อง นอกจากนี้ก็ยังมีลำโพงสเตริโออยู่ด้วยฮะ อยู่ค่อนมาทางด้านหน้า อยู่ด้านซ้ายและขวาของตัวเครื่อง ด้านละอัน

ภาพจากมุมสูงของคีย์บอร์ดและ TouchPad ของ Huawei MateBook D15 2021
และด้วยความที่ Huawei MateBook D15 2021 มันเป็นโน้ตบุ๊กแบบจอ 15.6 นิ้วอะ มันก็เลยทำให้คีย์บอร์ดนี่ดูใหญ่โตมาก TouchPad ก็ใหญ่โต เอาเป็นว่า แป้นพิมพ์แต่ละแป้น และ TouchPad นี่ใหญ่กว่า ASUS ROG Strix G731GU-EV231T ที่ผมใช้อยู่นี่ซะอีก แต่มันก็แลกมาด้วยการที่ ไม่เหลือที่พอให้ใส่แป้นพิมพ์ตัวเลขนะครับ แต่สำหรับคนใช้โน้ตบุ๊กจนชิน ก็ไม่น่าจะติดขัดอะไร

ที่โดดเด่นกว่าของคนอื่น คือกล้องเว็บแคม ความละเอียด 720p (ซึ่งส่วนตัวคิดว่าแอบกั๊กสเปกไปนิด น่าจะให้ซัก 1080p) ที่แอบอยู่ในแป้นพิมพ์ระหว่างปุ่ม F6 กับ F7 ซึ่งมีสัญลักษณ์รูปกล้องถ่ายรูปให้เห็น เปิดปิดด้วยการกดให้กล้องมัน Pop-up ออกมาครับ อันนี้คือ ใครที่ชอบกังวลเรื่องโดนแฮกเข้ามาแอบดูกล้อง จะไม่ต้องกังวลไปหาสติกเกอร์อะไรมาปิดเลย เพราะเราสามารถกดปิดกล้องได้ด้วยตัวเอง

ประสิทธิภาพของ Huawei MateBook D15 2021 เป็นยังไงบ้าง
พิจารณาจากสเปก CPU 11th Gen Intel® Core™ i5-1135G7 Processor ที่มาพร้อมกับชิปกราฟิก Intel® Iris® Xe ซึ่งมีประสิทธิภาพดีกว่า nVidia GeForce MX350 มาพร้อมกับหน่วยความจำ 16GB และ SSD ความจุ 512GB ซึ่งผมลองทดสอบความเร็วของ SSD ด้วยโปรแกรม CrystalDiskMark 8.0.1 แล้ว ความเร็วค่อนข้างน่าประทับใจครับ คือ เขียนและอ่านด้วยความเร็วระดับ 3.5GB/s และ 3GB/s ตามลำดับ (ผมปัดๆ เศษตัวเลขเอานะ ผลการทดสอบมันได้ต่ำกว่าในระดับที่แทบไม่แตกต่างกัน)

ผลการทดสอบความเร็วของ SSD ของ Huawei MateBook D15 2021 ด้วยโปรแกรม CrystalDiskMark 8.0.1
สำหรับการเล่นเกม ผมลองใช้ Benchmark ของ Final Fantasy XV ดูครับ แน่นอนว่าผมลองเริ่มจากความละเอียดสูงสุด แล้วค่อยๆ ไล่ลงมาเรื่อยๆ ผมก็พบว่าแม้การตั้งค่าเป็น Lite Quality ที่ความละเอียด Full HD จะได้คะแนนประสิทธิภาพออกมาต่ำ แต่เท่าที่ผมลองดูกราฟิกมันวิ่ง ก็ไม่ได้แย่นะครับ

ผลการทดสอบการเล่นเกมด้วย Benchmark ของ Final Fantasy XV
ประสบการณ์ในการใช้งานจริงเป็นยังไงบ้าง?
ถ้าเรามองในเรื่องของการใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows และโปรแกรมต่างๆ ที่คนทั่วๆ ไปใช้กัน ไม่ว่าจะเป็น Microsoft Office ในการทำงานเอกสาร ท่องเน็ตด้วย Microsoft Edge หรือ Google Chrome เท่าที่ผมลอง ก็ไม่ติดปัญหาใดๆ แม้จะเปิดแท็บทีหลายสิบแท็บ นั่นก็เพราะว่ามันมีแรมมาตั้ง 16GB นี่นะ ผมบ่นเสมอครับ ว่าแรม 16GB ควรจะเป็นขั้นต่ำสุดของคอมพิวเตอร์ที่รันระบบปฏิบัติการ Windows ได้แล้ว และขอบคุณมากที่ Huawei ให้มาเป็นทางเลือก สำหรับโน้ตบุ๊กราคาต่ำกว่า 3 หมื่นบาท ซึ่งในตลาดมีสเปกนี้ในราคานี้ไม่กี่ยี่ห้อไม่กี่รุ่นเลย

โน้ตบุ๊ก Huawei MateBook D15 2021 กำลังเปิดใช้งานโปรแกรม DaVinci Resolve อยู่
แม้ว่า Huawei MateBook D15 2021 จะไม่ได้ใช้ชิปกราฟิกไฮโซอลังการอะไรมาก แต่ถ้าเกิดจำเป็นต้องใช้มันทำงานตัดต่อวิดีโอบ้างอะไรบ้าง ทำกราฟิกด้วยโปรแกรมอย่าง Adobe Photoshop อะไรพวกนี้ ด้วยหน่วยประมวลผลของมัน กับแรมที่มีให้ ก็พอถูไถไปได้ หากคุณไม่ได้ทำอะไรแบบมืออาชีพสุดๆ (ซึ่งถ้าคุณต้องทำงานระดับมืออาชีพ จริงจัง นี่ไม่ใช่เครื่องที่เป็นคำตอบของคุณอยู่แล้ว) แต่ผมลองเอามาใช้ตัดต่อแบบง่ายๆ ด้วย DaVinci Resolve 17.1.1 มันก็โอเคนะ

กล้องเว็บแคมแบบ Pop-up ของ Huawei MateBook D15 2021
ผมชอบดีไซน์กล้องแบบป๊อบอัพของ Huawei MateBook D15 2021 ครับ มาซ่อนอยู่ตรงนี้ ไม่เกะกะอะไรบนหน้าจอเลย และทำให้เราได้ขอบจอที่บางลงด้วยไง ขอบจอบางๆ อะ ใช้แล้วมันก็ดูดี แต่เสียดายตรงที่ตัวกล้องมันความละเอียดแค่ 720p เท่านั้น คือผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพวกทำโน้ตบุ๊กเขาไม่ค่อยให้กล้องเว็บแคมแบบ Full HD 1080p ซักเท่าไหร่ ฉะนั้น แม้จะแอบเสียดายที่ Huawei ไม่ได้ให้ 1080p มา แต่ก็ไม่ถึงกับต้องตำหนิ เพราะค่ายอื่นๆ ก็มักจะให้สเปกราวๆ นี้แหละ

คีย์บอร์ดของ Huawei MateBook D15 2021 ถือว่าพิมพ์ได้ถนัดถนี่ดีครับ แป้นใหญ่ พิมพ์สะดวก แต่ในฐานะคนที่ชอบปุ่มคีย์บอร์ดแบบเด้งๆ (สไตล์ Mechanical keyboard) ผมรู้สึกว่าปุ่มของ Huawei MateBook D15 2021 นี่แอบนิ่มไปหน่อยครับ คือ พิมพ์ถนัด แต่พิมพ์แล้วไม่มันมือ

ภาพของ TouchPad ของโน้ตบุ๊ก Huawei MateBook D15 2021 ขณะกำลังถูกใช้งาน
TouchPad ที่ใหญ่ รองรับ Multi-touch gesture ด้วย ช่วยให้ใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้เต็มที่ ปุ่ม Power ของตัวเครื่อง ทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ก็ทำให้ใช้งานฟีเจอร์ Windows Hello ได้ ซึ่งช่วยให้เราล็อกอินได้เร็วๆ ด้วยการสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งสะดวกดีครับ

ภาพระยะใกล้ของปุ่ม Power ของโน้ตบุ๊ก Huawei MateBook D15 2021 ที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้วย
เรื่องการเชื่อมต่อ ผมว่าดี ไม่กั๊กสเปก ให้ WiFi รองรับมาตรฐาน 802.11ax (WiFi 6) มาเลย แล้วก็ยังรองรับ 802.11a/b/g/n/ac อีก เป็นแบบ 2×2 MIMO รองรับทั้ง WPA/WPA2/WPA3 ส่วนบลูทูธก็รองรับมาตรฐาน Bluetooth 5.1 แล้ว เรื่อง WiFi นี่เรียกว่านำเน็ตเวิร์กในบ้านผมไปแล้ว 555

ที่แอบขัดใจคือ การที่ Huawei MateBook D15 2021 ให้พอร์ต USB 2.0 มาตั้งสองพอร์ต คือเข้าใจได้นะว่าถ้าจะเอามาเสียบเมาส์หรือคีย์บอร์ด ใช้แค่ USB 2.0 แบนด์วิธก็เกินพอแล้ว แต่สำหรับการใช้งานโน้ตบุ๊กแล้ว ผมว่าให้มาพอร์ตเดียวเอาไว้เสียบเมาส์ก็เกินพอครับ โน้ตบุ๊กจอใหญ่ 15.6 นิ้ว คีย์บอร์ดเต็มรูปแบบแบบนี้ ผมไม่เห็นความจำเป็นต้องเสียบคีย์บอร์ดเดิมแต่อย่างใด ควรให้ทุกพอร์ตมาเป็นพอร์ต USB 3.2 Gen 1 เป็นอย่างน้อยมากกว่า

USB-C ที่เอาไว้ใช้ชาร์จแบตเตอรี่ สามารถเอามาใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้นะครับ แต่หลายคนที่คิดว่าพอร์ต USB-C จะต้องเร็วปรี๊ด (เพราะอุปกรณ์ที่ใช้พอร์ต USB-C ส่วนใหญ่ จะมีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูง) อันนี้คุณคิดผิดนะครับ ผมลองเอามาจิ้มกับ WD My Passport SSD แล้วลองวัดความเร็วแล้ว ได้แค่ 42MB/s เท่านั้น หรือ ถ้าให้ลองคำนวณเป็นแบนด์วิธแล้ว ก็อยู่แถวๆ USB 2.0 เท่านั้นเอง ใครที่คิดว่าจะใช้เพื่อเอามาต่อ USB-C Hub นี่ ข้ามจุดนี้ไปได้เลยครับ ใช้ไม่ได้ครับ และคงไม่ต้องถามว่าจะใช้ต่อกับพวกจอแสดงผลภายนอกรุ่นใหม่ๆ ที่รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB-C ได้หรือไม่ละนะ คำตอบคือ ไม่ได้นะครับ

ส่วนตำแหน่งของแต่ละพอร์ต ก็ถือว่าอยู่ในจุดที่เสียบอุปกรณ์ได้สะดวกอยู่ และไม่ควรจะไปเกะกะกันและกันเท่าไหร่ ยกเว้นแต่คุณจะดันไปใช้อุปกรณ์ USB ที่ดันมีดีไซน์ใหญ่ ประหลาดๆ พวก Flashdrive แฟนซีทั้งหลายนั่นแหละ

ถ้าถามว่า ในเรื่องของการระบายความร้อนเป็นยังไงบ้าง? ก็เรียกว่าทำได้ดีในแง่ของการที่ความร้อนมันไม่ขึ้นมาตรงด้านบนของตัวเครื่อง คือ คีย์บอร์ดและ TouchPad ไม่ร้อน ตรงมุมๆ ของตัวเครื่องที่ไว้วางฝ่ามือก็แค่อุ่นนิดเดียว แต่ว่าใต้เครื่องตรงบริเวณด้านหลังอะ ร้อนเลยแหละ ร้อนแบบว่า ถ้าเอามาวางบนตักแล้ว สัมผัสโดนต้นขาเรา เรารู้สึกไม่สบายแน่นอน ฉะนั้น ในการใช้งานแบบวางตัก ผมว่าไม่เหมาะเท่าไหร่ ตรงขอบๆ ตัวเครื่องด้านซ้าย ที่เป็นพอร์ตชาร์จแบตเตอรี่ ก็แอบร้อนด้วยนะ

โน้ตบุ๊ก Huawei MateBook D15 2021 กำลังเล่นเกม Resident Evil 3 Remake
ตอนที่ผมได้ทดสอบไปในตอนแรก ที่ผมบอกว่า Benchmark ของ Final Fantasy XV มันบอกว่า แม้จะปรับคุณภาพกราฟิกไปต่ำสุดแล้ว แต่ประสิทธิภาพก็ยังจัดอยู่ในระดับต่ำ แต่ก็ลองดูแล้วกราฟิกก็ไม่ได้กระตุกอะไร ผมก็เลยลองดาวน์โหลดเกม Resident Evil 3 Remake ที่เป็นเกมที่กราฟิกสวยมาก และบอกเลย ถ้าปรับไปเยอะๆ นี่ แม้แต่เกมมิ่งโน้ตบุ๊กที่ผมใช้อยู่ก็เอาไม่อยู่ครับ แรมการ์ดจอมันไม่พอ มาลองด้วย Huawei MateBook D15 2021 นี่ ผมบอกเลยว่าไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แค่เปิดเกมขึ้นมาก็เห็นได้ถึงความกระตุกแล้ว แต่นั่นเพราะว่า Settings เก่าที่ผมใช้บนเกมมิ่งโน้ตบุ๊กมันตามมาด้วยอะ พอไปปรับให้ความละเอียดของเกมเป็นแค่ HD 720p แล้วคุณภาพกราฟิกที่เหลือต่ำสุดให้หมด เรียกว่ายอมเสียความสมจริงของกราฟิกไปเลยดีกว่า มันยังบอกว่าต้องการแรมการ์ดจอ 1GB นิดๆ ในขณะที่ตัวระบบมันมีให้แค่ 0.13GB เอ๊ะ แล้วแบบนี้มันจะไปรอดไหมเนี่ย

ปรากฏว่ารอดครับ เล่นได้โอเคเลยนะ คือ ถ้าพยายามจ้องจับผิดก็อาจจะรู้สึกว่ามีบางช่วงที่เฟรมเรตมันตกไปบ้างแหละ มีกราฟิกชะงักแว้บนึงอะไรแบบเนี้ย แต่โดยรวมก็ยังถือว่าเล่นเกมได้ไหลลื่นอยู่ ไม่แย่ และถ้าเกิดไม่เคยเล่นเกมเดียวกันนี้ที่ความละเอียดสูงๆ มาก่อน ผมว่ามันก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกที่แย่นะ เกมสมัยนี้ ความละเอียดของกราฟิกมันก็ดีกว่าสมัยก่อนเยอะมากแล้ว ขนาดกราฟิกต่ำสุด ผมว่ามันก็ยังดูดีเลย แต่แน่นอนว่าถ้าเล่นแบบมีการ์ดจอแยก มันก็ย่อมดีกว่าครับ

ที่ผมติ ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องของลำโพงมากกว่า ที่ไม่ดังเท่าไหร่ น่าจะดังกว่านี้ได้อีกอะครับ นี่ขนาดอยู่ในห้องคนเดียว เปิดเสียงดังเต็ม 100% แล้วดู YouTube นี่คือแค่พอได้ยินประมาณนึงเอง ตอนเล่นเกม ถ้าอยากได้ยินเสียงเกม ก็คือใส่หูฟังสถานเดียวครับ

โน้ตบุ๊ก Huawei MateBook D15 2021 พร้อมสมาร์ทโฟน Huawei P40 Pro ขณะกำลังใช้งานแอป Huawei Share
ลองใช้งาน Huawei Share ที่ถือว่าเป็นจุดขายอันนึงของโน้ตบุ๊ก Huawei ครับ คือ สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของ Huawei เพื่อที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลจากสมาร์ทโฟนได้จากคอมพิวเตอร์เลย สะดวกในเรื่องการถ่ายโอนข้อมูลไปมาระหว่างคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนมาก และสามารถเรียกใช้งานสมาร์ทโฟนได้ผ่าน Screen mirroring เลยครับ แจ่มแมวมาก เสียดายว่าต้องเป็นสมาร์ทโฟนร่วมกับโน้ตบุ๊กของ Huawei เท่านั้น และตัวสมาร์ทโฟนต้องใช้ EMUI 11.0 ขึ้นไปด้วย (ดูรุ่นของสมาร์ทโฟนที่รองรับ Huawei Share ได้ที่เว็บไซต์ของ Huawei)

ณ ตอนนี้คู่แข่งอีกรายที่มีฟีเจอร์คล้ายๆ กันคือ Samsung ครับ แต่ของ Samsung จะได้เปรียบกว่า เพราะเขาไปร่วมมือกับ Microsoft โดยตรง (ซึ่งเป็นอะไรที่ Huawei ทำไม่ได้ เพราะโดนกีดกันทางการค้าอยู่) ส่งผลให้ เมื่อติดตั้งแอป Your Phone ซึ่งเป็นแอปของ Microsoft แล้ว ก็จะทำได้คล้ายๆ กับของ Huawei เลย เพราะแนวคิดเดียวกัน (และจริงๆ คือ แอบทำได้เยอะกว่าหน่อยด้วย เพราะเช็ก SMS จากคอมพิวเตอร์ได้เลย กดโทรศัพท์จากคอมพิวเตอร์ก็ได้)

มาดูที่เรื่องแบตเตอรี่บ้าง Huawei เขาบอกว่า แบตเตอรี่ของ Huawei MateBook D15 2021 นี่ให้มาใหญ่ 56Wh ถ้าเอามาดูวิดีโอ Full HD อย่างเดียวเลย ทำได้ต่อเนื่อง 11 ชั่วโมง ซึ่งบอกตรงๆ ว่า นึกไม่ออกว่าแบตเตอรี่อึดแค่ไหน เพราะมันไม่ใช่การใช้งานจริง แต่จากที่ผมได้ลองมา 1 สัปดาห์ บวกกับที่ลองดูการคำนวณด้วย Batter Manager ของ Windows 10 และการทดสอบด้วยโปรแกรม Batter Mark เพื่อลองให้โหลด CPU ไปโหดสุดๆ แบบเฉียด 100% ตลอดเวลา พบว่า แบตเตอรี่น่าจะอยู่ได้แถวๆ 3.5-5.5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานของเราครับ

บทสรุปการรีวิว Huawei MateBook D15 2021
ราคา 27,990 บาท ถือว่าโอเคสำหรับสเปกนี้ครับ เขาเน้นไปที่การให้ CPU รุ่นใหม่ Gen 11th มา และแรม 16GB เพียงพอต่อการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสารทั่วไป ท่องเว็บ หรือแม้แต่ถ้าจำเป็น ก็พอจะใช้ตกแต่งกราฟิก ตัดต่อวิดีโอได้นิดๆ หน่อยด้วย เล่นเกมก็พอไปไหว แม้จะไม่ได้เล่นด้วยกราฟิกสวยที่สุด แต่ก็ไม่ได้ถึงกับกระตุกจนแย่ แม้จะเป็นเกมออกใหม่เมื่อปีที่แล้วอย่าง Resident Evil 3 Remake

ถ้าจะให้ผมติ ก็น่าจะเป็นเรื่องของความร้อนที่ยังแผ่ออกมาจากตัวเครื่องอยู่ไม่น้อย ถึงแม้ Huawei จะมีพูดถึงระบบระบายความร้อน Huawei Shark fin cooling ที่ว่ากันว่าเพิ่มความสามารถในการระบายความร้อนได้ดีขึ้น 50% ก็ตาม แต่ผมว่าไอ้ที่ถูกระบายออกมา มันออกไปอยู่บนผิวสัมผัสของตัวเครื่องบางจุด ที่เรามีโอกาสไปสัมผัสโดนในระหว่างการใช้งานมากไปหน่อย นอกจากนี้ Huawei ก็แอบกั๊กสเปกไปนิดนึงนะ ในมุมมองของผม พอร์ต USB สามพอร์ตที่ให้มา น่าจะเป็น USB 3.2 Gen 1 อย่างน้อยสองพอร์ตอะ และจะให้ดี USB-C ก็ควรจะเป็น USB 3.2 Gen 1 หรือ USB 3.2 Gen 2 ด้วย เผื่อคนที่ไม่ได้เอาไปชาร์จแบตเตอรี่ จะได้เอาไปใช้ทำอย่างอื่นได้