สู้ไม่ได้เรื่องความดำอยู่แล้วครับ เพราะมีแสงส่องข้างหลัง กับไม่มี นั่นเอง แต่ข้อได้เปรียบของ Qled คือ HDR เพราะ peak brightness มันสูงกว่า Oled มาก และการไล่เฉดสี Panel QLED ทำได้มากกว่า ทำให้เวลาแสดงผล HDR การไล่เฉดสีและความสว่างความเด้ง ของภาพ Qled จะดีกว่า
สรุป
Qled
- ความดำ
- contrast ratio
- viewing angel
+ การไล่สี
+ peak brightness (HDR)
Oled
- peak brightness
- การไล่สี (จริงๆ OLED ก็ดีมากเหมือนกันเรื่องนี้)
+ ความดำ
+ contrast ratio
+ viewing angel
ถ้าอยู่ในห้องที่ควบคุมแสงได้ Oled ก็ดูจะเป็น compromise ที่ีดีนะ เพราะถึงเวลาดูจริง ก็ต้องลด peak brightness อยู่ดีเพราะมันแสบตา แต่ถ้าห้องสว่างๆนี่ ต่างกันเหมือนกัน
หากเทียบที่ความหมายของคำว่า "การไล่สี" จริงๆแล้ว QLED ไม่ได้ไล่สีได้ดีกว่า OLED นะครับ
เรื่องของสี ที่ QLED เหนือกว่า OLED มีอยู่สองประการ คือ
1 Wide Color Gamut ขอบเขตความกว้างของเฉดสี
QLED ทำได้ 99% DCI P3 ,OLED 2017 ทำได้ 97% DCI P3 นั่นคือ QLED เหนือกว่า 2%
มันคือ ความกว้างของเฉดสีที่ทำได้ดีกว่าครับ เช่น OLED สามารถแสดงสีแดงที่กว้างที่สุดได้คือแดงทับทิมในระดับที่สดสุดๆ
ส่วน QLED สามารถแสดงสีแดงทับทิมได้สดกว่า OLED ไปอีกนิดดนึง
ซึ่งนั่นไม่ได้หมายความว่า QLED จะไล่เฉดสีได้ดีกว่า แต่หมายถึงQLEDขอบเขตสีที่กว้างกว่า ครับ
กรณีนี้เทียบได้กับ รถ 2 คัน คันนึง คือ benz ความเร็วสูงสุด 300 กม/ชม อีกคันคือ AUDI ความเร็วสูงสุด 320 กม/ชม
รถยี่ห้อ AUDI ความเร็วสูงสุดมากกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่า รถจะแล่นได้เสถียรราบลื่นกว่า
2 Color Volume เป็นระดับความสามารถการแสดงปริมาณสี ในสภาวะที่ความสว่างต่างกัน
โดยปกติ ทีวีทั่วไปนั้นจะมี colour volume ที่ต่ำ เมื่อเร่งความสว่างหน้าจอขึ้นจนถึงระดับหนึ่งขอบเขตการแสดงสีจะแคบลงและจะพบว่าสีเพี้ยน
และในระดับความสว่างสูงสุด ขอบเขตสีก็จะยิ่งแคบลงอีกสีก็เพี้ยนขึ้นอีก
ส่วนทีวีที่มี colour volume สูงมากๆ เช่น OLED QLED เมื่อเร่งความสว่างสูงขึ้นหรือแสดงภาพที่มีความสว่างขึ้นปรากฎ
ขอบเขตสีก็จะแคบลงและแสดงสีเพี้ยนเช่นกัน แต่จะเพี้ยนน้อยกว่าทีวีทั่วไป
ตรงหัวข้อนี้ colour volume ของ QLED ก็แสดงเฉดสีได้กว้าง OLED ไปแค่ 1-2% เช่นเดียวกับหัวข้อด้านบน
QLED จะแสดงสีสว่างๆได้ดี แต่โทนสีมืดๆ ไม่สามารถทำสีให้อิ่มเอิบได้เหมือน OLED
หัวข้อนี้เปรียบได้กับนักร้องสองคน QLED เปรียบได้กับ mariah carey ถนัดการร้องแบบหวีดมีช่วงเสียงที่กว้างและเสียงสูงที่สุดในโลก
ส่วน OLED เปรียบได้กับ whitney houston
ถ้าเทียบเสียงตอนกว้างที่สุด(ตอนหวีด) mariah carey เสียงจะแผดไปได้ไกลกว่า แต่ในช่วงเสียงต่ำๆและเสียงปกติ whitney houston จะมีเสียงที่เต็มมากกว่า
ซึ่งถ้าจะเทียบ "การไล่สี" ในสภาวะใช้งานปกติ OLED ยังคงไล่สีได้ดีกว่า QLED
เนื่องด้วยเทคโนโลยีการกำเนิดภาพที่ทุก pixel กำเนิดแสงได้ด้วยตัวเองอย่างอิสระ การไล่สีจึงดูราบลื่นไม่สะดุดหรือสีด่าง แบบจอที่ต้องใช้ backlight ส่องครับ