พูดคุยเรื่องทั่วไปเรื่องจองภาพ LED TV, LCD TV, Plasma TV, Projector > บทความสำหรับมือใหม่ เลือกซื้อทีวี - เครื่องเสียงโฮมเธียเตอร์

OLED TV และ QLED TV ต่างกันอย่างไร ? ต้องเลือกแบบไหน ?

(1/2) > >>

BIGBOOM:
[size=[^_^]]OLED TV และ QLED TV ต่างกันอย่างไร ? ต้องเลือกแบบไหน ?[/color][/size]


OLED TV  ย่อมาจาก Organic Light Emitting Diode เป็นเทคโนโลยีการแสดงผลภาพใหม่ล่าสุด เม็ดพิกเซลสามารถเปล่งแสงสีออกมาได้ด้วยตัวเอง ให้ระดับสีดำที่ดำสนิท 100% ให้ระดับคอนทราสต์สูงมาก พร้อมสีสันที่สดอิ่มแวววับ "คุณภาพของภาพดีเยี่ยมสุด" ในนาทีนี้

ในอดีตอาจมีข้อจำกัดเรื่องการเบิร์นอินหรือภาพค้างติดหน้าจอหากเปิดภาพนิ่งไว้เป็นเวลานานอยู่บ้าง ทว่าตอนนี้ OLED TV รุ่นใหม่สามารถจัดการปัญหานี้ได้ดีขึ้นมากแล้ว หากใช้งานทีวีแบบปกติทั่วไป เช่นดูหนังหรือดูรายการทีวี ปัญหานี้ก็แทบจะไม่เกิดขึ้น

OLED TV เหมาะกับ …..??

1) ท่านที่จริงจังกับคุณภาพของภาพแบบ “ไปให้สุด” แถมให้มุมมองรับชมที่กว้าง ดูเฉียงๆภาพยังสีสด

2) ดูหนังในห้องมืด เพราะสร้างระดับความดำได้ 100% พื้นหลังดำสนิทอย่างแท้ทรู ส่งผลให้แสงสีดูป็อปอัพเจิดจรัสมาก

3) ห้องสว่างแบบปกติก็ให้ภาพที่สวยโดดเด้ง ไม่ว่าจะดูหนังหรือรายการทีวีทั่วไป

4) เล่นเกมคอนโซลที่มีภาพเคลื่อนไหวและสลับฉากอยู่เป็นช่วงๆ

OLED TV ไม่เหมาะกับ ….???

1) ต่อกับคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊คแล้วใช้เป็นจอมอนิเตอร์ทำงานหรือเล่นเกมส์ เช่นเปิด Powerpoint หรือหน้า Desktop ค้างไว้

2) เป็นจอ Display แสดงผลภาพนิ่งเป็นระยะเวลานาน เช่น จอแสดงตารางการบินในสนามบินหรือจอแสดงเมนูในร้านอาหาร

QLED TV ย่อมาจาก Quantum Dot Light Emitting Diode TV โดยพื้นฐานเป็นจอ LED LCD TV แต่อัพเกรดประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยี Quantum Dot ที่ช่วยส่งผลให้สีสันและความสว่างเหนือชั้นกว่า LED TV ทั่วไป โดยระดับสว่างสูงสุดของรุ่นท็อปๆก็มักทะลุเกิน 2000 nits

ซึ่งถือว่าสว่างสุดฤทธิ์หากเทียบกับ LED TV ทั่วไปซึ่งจะอยู่ราว 300-1000 nits และ OLED TV ที่สว่างสุดประมาณ 700 nits จุดเด่นนอกเหนือจากความสว่างอันซูซ่าคือไม่มีปัญหาเรื่องเบิร์นอินจึงสามารถใช้งานทีวีได้ "ยืดหยุ่นทุกรูปแบบ" อย่างไม่ต้องกังวลใจ 100% Worry Free

QLED TV เหมาะกับ ….?

1) ดูในห้องสว่างมากเช่นไม่มีม่านคุมแสงและห้องสว่างปกติ สู้ได้ทุกสภาพแสง แถมให้ค่าปริมาตรสีหรือ Color Volume ที่สูง สีจึงสดไม่ซีดเซียวไม่ว่าจะเร่งความสว่างหน้าจอให้สูงเท่าไหร่ก็ตาม

2) ห้องมืดสนิทหรือห้องแสงสลัวก็ยังใช้ได้ดี แม้โครงสร้างหลอดไฟแบ็คไลท์จะเป็น Edge LED หรือ Full LED ก็ดี แต่ก็ยังมีฟีเจอร์ Local Dimming ที่ช่วยเปิด-ปิด-หรี่ หลอดไฟเป็นโซน สามารถถ่ายทอดระดับความดำอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ แต่ก็ยังไม่ถึงขึ้นดำสนิท 100%

3) เล่นเกมส์คอนโซลและเกมส์คอมพิวเตอร์ทุกรูปแบบ เปิดค้างคืนไว้ยังได้

4) ต่อเป็นมอนิเตอร์คอมพิวเตอร์ เพราะเปิดภาพนิ่งหรือสไลด์โชว์แช่ไว้นานแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัวเบิร์นอิน

ข้อจำกัดของ QLED TV

1) โครงสร้างพื้นฐานยังเป็นจอ LED LCD จึงต้องใช้หลอดไฟ LED Backlight ในการกำเนิดแสงสว่างให้แต่ละเม็ดพิกเซล

2) มุมมองการรับชมกว้างขึ้นก็จริงแต่ก็ยังมีองศาที่จำกัดอยู่ เจอมุมเฉียงโหดๆก็มีสีซีดให้เห็น

สรุป

OLED TV และ QLED TV เป็นจอภาพที่ใช้เทคโนโลยีที่ต่างกัน มีจุดเด่นและข้อจำกัดคนละแบบ

ขอให้ท่านเลือกชนิดทีวีให้ “เหมาะกับลักษณะการใช้งาน” ของท่านที่สุด และพร้อมเรียนรู้ที่จะใช้ทีวีแต่ละชนิดให้ “ถูกทาง” เพื่อบรรลุจุดหมายปลายทางของการใช้ทีวีนั่นก็คือ “ความสุขอย่างยั่งยืน” ในการรับชมคอนเทนต์โปรดนั่นเอง !

anavut18:
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

Elinsunder:
อย่างนี้นี่เองครับ แต่ผมซื้อไปละ



บาคาร่า

onlinepbn24_1:
ขอบคุณนะค่ะ กำลังจะเลือกซื้อพอดี คิวว่าน่าจะQLED 55" มีตัวไหนแนะนำไหมค่ะ

micacle168168:
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆที่นำมาบอกต่อครับ  [ปลื่ม]

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version