พบกันทุกปีกับการประกาศรางวัล VIDEOPHILE LCDTVTHAILAND AWARD ประจำปี 2019-2020 หรือ รางวัลทีวีที่ดีที่สุดแห่งปี ปีนี้เป็นอีกครั้งที่เทรนด์ของทีวีมีการเปลี่ยนแปลงขยับจากไซส์กลางไปเป็นไซส์ใหญ่จัมโบ้ขึ้น ตลอดจนระบบ Smart TV ที่เข้ามาอัพเกรดให้การรับชมคอนเทนต์โปรดมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น สุดท้ายคือนวัตกรรมให่กับความละเอียดภาพแบบ 8K ที่ได้เริ่มคิกออฟอย่างเป็นทางการ
ส่วนรางวัลอื่นๆ ก็มีการแบ่งตามประเภทและระดับราคา เพื่อให้ง่ายต่อผู้อ่านในการกำหนดงบประมาณของตัวเองให้แมตช์กับเกรดทีวีแต่ละรุ่น เป็น Buying Guide แห่งปีที่คัดสรรอย่างดีโดยทีมงาน LCDTVTHAILAND ครับ นอกเหนือจากทีวีแล้ว เรายังตัดสินรางวัลหมวดอื่นอีก ทั้ง Projector ที่ดีที่สุดแห่งปี, ลำโพง Soundbar ที่ดีที่สุดแห่งปี และเครื่องเล่น Blu-ray Player ที่ดีที่สุดแห่งปี ครอบคลุมทุกอุปกรณ์หลักที่จะมาเติมเต็มซิสเต็มดูหนังภายในบ้านของท่าน ขอเชิญรับชมรางวัลทั้งหมดได้ ณ บัดนี้ !!!
VIDEOPHILE LCDTVTHAILAND AWARDS 2019 - 2020 |
Best TV Awards 2019 - 2020 |
OLED TV Range |
No. |
Award |
Price Range |
Brand |
Winners |
1. |
Best OLED TV Award |
$$$$$ |
LG Sony |
C9 A9G |
LED TV Range |
2. |
Best 8K LED TV Award |
$$$$$ |
Samsung |
Q900R |
3. |
Best 4K LED TV Award |
$$$$$ |
Samsung |
Q90R
|
4. |
Best Midrange 4K LED TV Award |
$$$ |
LG |
SM9000 |
5. |
Best Value 4K LED TV Award |
$$ |
Hisense TCL |
B8000 C8 |
6. |
Best Budget 4K LED TV Award (Big Size) |
$ |
Sharp |
70AL1X |
7. |
Best Budget 4K LED TV Award |
$ |
Skyworth Samsung
|
UB7500 RU7200
|
Innovation & Features |
No. |
Award |
|
|
Winner |
8. |
Innovation of The Year Award |
$$$$$ |
Sharp |
AX1X |
9. |
Best Smart TV Award |
$$$$$ |
Sony |
A9G |
10. |
Best Thai TV Award |
$ |
Aconatic |
HS521AN |
1) Best 4K OLED TV Award : LG C9 และ Sony A9Gขนาดที่วางจำหน่าย : LG C9 / Sony A9G 77 65 55
ED TV ที่ดีที่สุดปีนี้ขอยกให้ LG C9 และ Sony A9G ครองบัลลังก์คู่กัน ดีกรีผู้ชนะเลิศงานประชันทีวีที่อังกฤษและอเมริกา คุณภาพของภาพดีเลิศทั้งคู่ สีดำดำสนิท สีสันสดสวย ต่างกันที่คาแรกเตอร์ภาพตอนต้นซึ่ง LG จะได้เปิดสว่าง สดใส รุกเร้ากว่าเล็กๆ ส่วน Sony จะเน้นเป็นธรรมชาติ ลุ่มลึกแบบมีมิติ ใกล้เคียงจอมอนิเตอร์อ้างอิงในสตูดิโอ เมื่อปรับภาพให้ถูกต้องทั้งคู่และจับตั้งเทียบกัน ภาพก็สวยถูกต้องคล้ายคลึงกัน ไม่ได้แตกต่างอย่างมีนัยยะ ส่วนระบบเสียงทาง LG กำลังขับอาจไม่ได้เยอะกว่าแต่รองรับ Dolby Atmos ในตัวเลย ส่วน Sony ใช้ลำโพงแบบฝังหลังเครื่อง Acoustic Surface ยิงเสียงทะลุหน้าจอได้ เนื้อเสียงอิ่มแน่นยอดเยี่ยม ทั้งคู่รองรับ HDMI eARC สำหรับการส่งผ่านสัญญาณเสียง Dolby Atmos ความละเอียดสูงไปยังแอมป์หรือลำโพงซาวด์บาร์ได้ LG จะได้เปรียบกว่าเล็กๆเพราะให้พอร์ท HDMI ทั้ง 4 ช่องเป็นเวอร์ชั่น 2.1
แต่จุดที่ทำให้ 2 แบรนด์นี้เหนือชั้นกว่า OLED TV เจ้าอื่นคือระบบ Smart TV ที่มีความเป็น AI ในตัวทั้งคู่ | Sony จะใช้เป็น Android ซึ่งมีทั้งปริมาณและคุณภาพของแอพส์ดีที่สุด พร้อมระบบการสั่งงานด้วยเสียงทั้งแบบสั่งกับรีโมทและสั่งกับทีวีโดยตรงแบบ "แฮนด์ฟรี" รวมถึงเชื่อมกับอุปกรณ์ IoT ต่างๆได้ด้วย เป็นทีวีที่อัจฉริยะสุดใน พ.ศ. นี้ ส่วน LG มาพร้อมกับ ThinQ AI ที่ใช้ webOS เป็นพื้นฐานแถมมี Magic Remote รีโมทคอนโทรลที่ทำหน้าที่เป็น Air Mouse ใช้งานง่ายที่สุด จัดเป็นทีวีที่ User Friendly ที่สุดใน พ.ศ. นี้
สำหรับยุคนี้การจะเป็นทีวีที่ดีที่สุด
ไม่ใช่แค่ภาพดีอย่างเดียว แต่ต้องมีระบบ Smart TV เป็นกระดูกสันหลังด้วย มันเป็นรากฐานในการใช้งานจริงสมัยนี้ และต้องมีแอพส์ที่เราต้องการให้ครบครัน เพราะมันคือ การใช้งานจริง ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้เราเสพทีวีได้ง่ายยิ่งขึ้น อยากดูอะไรบนจอต้องได้ดูทันที เพียงแค่พูดหรือกดสั่งมันคลิ๊กเดียวอยู่ จัดว่าสุดในรุ่นทั้งคู่แบบขี่กันคนละมุม จึงขอมอบรางวัล Best 4K OLED TV ให้กับทั้งคู่ไปครองร่วมกันในปีนี้
2) Best 8K LED TV Award : Samsung Q900R QLED TVขนาดที่วางจำหน่าย : 98 82 75 65
8K เปิดตัวแล้วในปีนี้ โดย Samsung เองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มแรกที่เปิดตัวพร้อมวางขายตั้งแต่ต้นปี ซึ่งรุ่น Q900R QLED TV มีหลายขนาดด้วยกันโดยเฉพาะไซส์ใหญ่อย่าง 82 ที่โชว์ความต่างระหว่าง 8K และ 4K ได้ค่อนข้างชัดเจน ถึงแม้ยังไม่มีคอนเทนต์ 8K แท้ๆตอนนี้ แต่การอัพสเกลภาพจาก 1080p / 4K ให้ใกล้เคียง 8K ถือว่าทำได้เนียนเกินคาดมาก ต้องยกเครดิตให้ชิพประมวลผลที่ทำหน้าที่อัพสเกลได้ดีเกินคาด ตลอดจนการเล่นคอนเทนต์ Demo 8K แท้ ก็ทำได้อย่างคมชัด พวกขอบตัวอักษรและวัตถุยังคมมากทั้งที่ถูกแสดงผลบนจอไซส์ยักษ์ อนาคตหากมีเครื่องเล่น 8K ก็สามารถเชื่อมต่อสัญญาณทาง HDMI 2.1
โครงสร้างหลอดไฟเป็น Direct Full Array LED เต็มแผง ผนวกกับเทคโนโลยี Quantum Dot ที่ช่วยอัพเกรดให้สีสันสดอิ่ม แถมมุมมองการรับชมมีการปรับปรุงให้กว้างขึ้น มองเฉียงๆสียังคงความสดได้ค่อนข้างดี รวมถึงของเล่นอื่นๆก็จัดเต็มให้สไตล์ตัวท็อปอย่างสาย One Invisible Connection พร้อมกล่อง One Connect ที่ทำให้ทีวีดูสะอาดตา ปราศจากสายรกรุงรัง ตลอดจนแอพ Apple TV ครั้งแรกบนทีวี Samsung ทั้งที่เป็นคู่แข่งทางการค้ากันมาอย่างนมนาน สรุปแล้วถือว่าเป็นทีวี 8K ที่ดีที่สุดในแง่ของคุณภาพของภาพในปีนี้ครับ ขอมอบรางวัล Best 8K LED TV ให้ไปครอง
3) Best 4K LED TV Award : Samsung Q90R QLED TVขนาดที่วางจำหน่าย : 82 65
Samsung QLED TV Q90R คือทีวี 4K ที่ใช้หลอดไฟ LED Backlight ดีที่สุดเท่าที่ Samsung เคยผลิตมา จริงๆคือดีที่สุดในบรรดาทีวี LED ด้วยกันด้วย เพราะโครงสร้างหลอดไฟ Direct Full Array LED แบบเต็มแผงที่สามารถ "ดิมหลอดไฟเป็นโซนได้เนียนและดำที่สุด" เท่าที่เคยมีมา ดีกว่ารุ่นน้องอย่าง Q80R แบบเทียบไม่ติด และเหนือกว่า 9QFN ปีที่แล้ว ระดับความดำนั้นอีกนิดก็ชน OLED TV แถมมาได้เรื่องความสว่างสูงสุด (HDR Peak Brightness) ที่ทำได้เจิดจ้าสู้แสงมาก แทบไม่ต้องคุมแสงหรือปิดม่านในห้องก็เอาอยู่ทุกสถานการณ์ แม้แต่นำไปตั้งทดสอบกลางแจ้งก็ยังเฉิดฉายได้อย่างสบาย ให้คุณภาพของภาพอยู่ในเกณฑ์ดีเลิศทั้งสีสัน ความสว่าง ความดำ รวมถึงมุมมองการรับชมด้านข้างที่กว้างขึ้นมากกว่า QLED TV / SUHD TV รุ่นปีก่อนๆ นั่งชมมุมเฉียงสียังอิ่มแน่นแทบไม่ซีดลง ส่วนลูกเล่นอื่นๆอย่าง Smart TV ระบบปฏิบัติการ Tizen OS หน้าตาเป็นมิตรกับผู้ใช้ มี TV Plus ให้ดูช่องเกาหลีฟรี แถมมีแอพ Apple TV มีหนัง 4K HDR ให้เลือกซื้อ/เช่าตรึม จึงขอยกรางวัลทีวี 4K LED TV ที่ดีที่สุดประจำกับ Samsung Q900R ไปครอง
4) Best Midrange 4K LED TV Award : LG SM9000ขนาดที่วางจำหน่าย : 65 55
สำหรับรางวัลทีวี 4K ระดับกลางค่อนบนที่ดีที่สุดประจำปีตกเป็นของ LG SM9000 ทายาทอสูรที่ต่อยอดความสำเร็จมาจากรุ่น SK8500 (2018) ของปีที่ผ่านมา รุ่นนี้ใช้หลอดไฟ Full Array LED Backlight จึงดิมหลอดไฟเป็นโซนๆ ครอบคลุมทั่วจอได้ จึงทำระดับความดำได้ดีกว่าพวก Edge LED แทบทั้งหมด แต่อาจจะยังไม่ได้เนียนถึงระดับตัวท็อปด้านบนที่ได้รางวัลก่อนหน้านี้ ใช้จอแบบ IPS ให้มุมมองการรับชมที่กว้างตั้งแต่ต้น และมีแนวภาพที่ให้สีสันอิ่มแน่นเข้มข้น รองรับมาตรฐานภาพและเสียงขั้นสูงอย่าง Dolby Vision/Atmos ระบบปฏิบัติการ Smart TV ใช้เป็น ThinQ AI ใช้งานง่ายมากด้วย Magic Remote รองรับการสั่งงานด้วยเสียงไทยที่แม่นยำขึ้น ให้แอพส์ดูหนังและซีรีส์ดังมาครบ และล่าสุดรองรับ Airplay 2 เชื่อมต่อกับอุปกรณ์จากค่าย Apple ได้แล้ว สรุปเป็นทีวี 4K LED รุ่นกลางค่อนบนที่ครบเครื่องที่สุดในปีนี้
5) Best Value 4K LED TV Award : Hisense B8000 & TCL C8 ขนาดที่วางจำหน่าย Hisesne B8000 / TCL C8 : 55" 65"
รางวัลทีวี 4K ที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุดประจำปีนี้มี 2 รุ่นด้วยกัน แบ่งเป็น "ด้านภาพ" และ "ด้านลูกเล่นองค์รวม + Smart" ตัวแรกคือ Hisense B8000 จากแบรนด์ดังแห่งแดนมังกร ทั้งกระแส+ยอดขาย+ผลลัพธ์ซึ่งก็คือฟีดแบกด้านบวกจากผู้ใช้จริง ทำให้เป็นรุ่นยอดฮิตติดตลาดอย่างรวดเร็วผ่านการบอกแบบปากต่อปาก B8000 คือ 4K LED TV ที่ให้ คุณภาพของภาพดีเกินหน้าเกินตา ทีวีระดับราคาเดียวกันแทบทุกตัว แถมยังรองรับมาตรฐานภาพไฮโซอย่าง Dolby Vision เชื่อมต่อระบบเสียง Dolby Atmos ซะด้วย ซึ่งปกติจะสถิตย์อยู่ในรุ่นกลางบนถึงรุ่นท็อปเท่านั้น วัสดุตัวเครื่องใช้ของดีเลย เป็นโลหะสีเงินดูพรีเมี่ยมสวยงามทั้งที่เป็นรุ่นราคาไม่สูงนัก ข้อจำกัดเดียวคือระบบ Smart TV จะค่อนข้างเบสิคไปนิด ไม่ได้มีลูกเล่นหวือหวาเหมือนเจ้าอื่น
ส่วน TCL C8 คือ 4K LED Android TV รุ่นล่าสุด เรื่องภาพอาจจะยังเป็นรอง Hisense B8000 บ้าง ทว่าแทบทุกจุดถูกอัพเกรดให้ดีขึ้นจากรุ่นน้องอย่างรุ่น P8 และ P8S อย่าง Wide Color Gamut ขยายขอบเขตสีของภาพ รองรับ Dolby Vision ซึ่งเป็น HDR ขั้นท็อปสุดในตอนนี้ มีลำโพง Speaker Bar ที่ออกแบบโดย Onkyo แบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำจากญี่ปุ่น เนื้อเสียงอิ่มแน่นกว่าลำโพงทีวีทั่วไปพอสมควร สุดท้ายคือระบบปฏิบัติการ Android 9.0 เวอร์ชั่นล่าสุดพร้อม Google Assistant ที่สามารถสั่งงานผ่านรีโมทด้วยเสียงไทยได้ สรุปเป็นรุ่นที่ของเล่นระรานตา พร้อมภาพและเสียงที่สมดุลขึ้นกว่าเดิมมาก ได้ความคุ้มค่าสูงในราคาไม่แรง !
6) Best Budget 4K LED TV (Big Size) Award : Sharp 4T-C70AL1Xขนาดที่วางจำหน่าย : 70" 60" 50"
รางวัลทีวี 4K ไซส์ใหญ่พิเศษราคาถูกสบายกระเป๋าตกเป็นของ Sharp 4T-C70AL1X (ชื่อรุ่นยาวเป็นพิเศษเช่นกัน ^ ^) เป็นเจ้าแรกที่ส่งทีวีขนาดใหญ่จัมโบ้ในราคาสบายกระเป๋ามาให้ทีมงานทดสอบ เจ้า 70 รุ่นนี้คุณภาพของภาพก็อยู่ในเกณฑ์เริ่มต้น ออกแนวภาพสุภาพเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของทีวี Sharp มาอย่างยาวนาน ค่อนข้าง "ถูกจริตผู้ใหญ่ที่ชอบภาพที่สบายตา" ไม่จัดจ้านรุกเร้าเกินไป ระบบปฏิบัติการเป็น Android TV แท้ รองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant บนรีโมทคอนโทรล ให้ทุกอย่างมาครบครัน และเป็นเจ้าแรกที่เปิดราคาขายไซส์บิ๊กอย่าง 70 ได้อย่างน่าดูชม ตอบโจทย์เทรนด์ทีวีไซส์ใหญ่ทั้งในปีนี้และปีหน้า
7)
Best Budget 4K LED TV Award : Skyworth UB7500 | Samsung RU7200 ขนาดที่วางจำหน่าย :
Skyworth UB7500 ขนาด : 65 55 50 43
Samsung RU7200 ขนาด : 65 55 49
รางวัลทีวี Best Budget 4K LED TV Award ปีนี้ มีตัวเลือกให้พิจารณาด้วยกันหลายรุ่น แต่เมื่อเอาจุดเด่นในเรื่องของ "มิติการใช้งาน" ในขณะเดียวกันก็ "เหมาะสมกับราคาที่จ่ายไป" สุดท้ายก็ได้ออกมาเป็นสองรุ่น ที่มีคุณภาพของภาพใกล้เคียงกัน และยังได้ลูกเล่นการใช้งานที่ครอบคลุมเทียบเท่ากับรุ่นท็อป รุ่นแรกคือ Samsung RU7200 ที่มีแอพ Apple TV ดูหนัง iTunes และ Apple TV+ บนเครื่องได้ทันทีโดยไม่ต้องไปซื้อกล่อง Apple TV ที่ราคาเกือบ 8,000 บาทมาต่อเพิ่ม ประหยัดเงินได้หลาย โดนใจสาวก Apple แน่นอน ยังแถมแอพ TV Plus ให้ดูช่องเกาหลีฟรีหลายสิบช่อง | อีกรุ่นก็คือ Skyworth UB7500 ดีไซน์สวยขอบบาง ได้จุดเด่นที่แหวกแนวอย่างหน้าจอถนอมสายตาที่เคลือบชั้น Optical Anti Blue Light กรองแสงน้ำเงินที่ไม่เป็นมิตรออกไป ซึ่งปกติฟีเจอร์นี้จะอยู่ในจอมอนิเตอร์เกรดสูงและสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปเท่านั้น รองรับภาพ Dolby Vision และใช้ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 ล่าสุด | ทั้ง 2 รุ่นนี้ล้วนเหมาะกับท่านที่มีงบประมาณในกระเป๋าจำกัด แต่อยากได้ฟีเจอร์ลูกเล่นขั้นแกรนด์ไม่แพ้รุ่นบน
8) Innovation of The Year Award : Sharp AX1Xขนาดที่วางจำหน่าย : 80 70 60
รางวัลนวัตกรรมทีวีแห่งปีขอยกให้ SHARP รุ่น AX1X ทีวี 8K ตัวแรกที่เปิดตัวและขายในไทย ถึงแม้ยังไม่มีหนัง 8K แท้ๆ เรื่องไหนให้เรารับชม แต่ที่ญี่ปุ่นมีทดลองออกอากาศและเปิดโชว์บนทีวี Sharp 8K กันแล้วในหลายพื้นที่ เตรียมความพร้อมสำหรับการถ่ายทอดสดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกแบบ 8K ที่กำลังจะจัดขึ้นปี 2020 จุดเด่นของรุ่นนี้คือ ระดับความสว่างของภาพสูงที่สุดในท้องตลาดเกิน 5,000 nits เพราะใช้หลอดไฟแบบ Full Array LED พร้อมแผงหน้าจอแบบ IGZO ที่ปล่อยแสงลอดผ่านได้ดี เมื่อเล่นคอนเทนต์ 8K แท้ที่ถ่ายทำด้วยกล้อง 8K แท้ของ Sharp อย่าง Amazing Thailand ที่ถ่ายทำตามแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในประเทศเรา ภาพ 8K ที่ได้มีความคมชัด เปิดเผยรายละเอียดระดับ ไมโครดีเทล อาทิตัวอักษรขนาดเล็กของป้ายโฆษณาตามตึกต่างๆ ให้แสงสีเป็นธรรมชาติดูสบายตา Sharp AX1X คือนวัตกรรมทีวีที่เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายมาเติมเต็มให้ระบบนิเวศน์ 8K ต้นน้ำถึงปลายน้ำนั้นมีความสมบูรณ์ในที่สุด
9) Best Smart TV Award : Sony A9Gขนาดที่วางจำหน่าย : 77 65 55"
Sony A9G คือทีวีที่ก้าวผ่านคำว่า ฉลาด สู่ อัจฉริยะ ที่แท้จริง ด้วยระบบปฏิบัติการ Android 8.0 (รออัพเดทเป็น 9.0) ที่มีคลังแอพส์มากที่สุด คุณภาพของแอพส์ดีที่สุด เคียงคู่กับ Google Assistant ระบบผู้ช่วยอัจฉริยะรองรับคำสั่งเสียงได้หลายภาษารวมถึงภาษาไทยบ้านเราด้วย ทีเด็ดคือแทบจะเป็นรุ่นเดียวที่สามารถสั่งงานด้วยเสียงโดยตรงกับทีวีได้แบบ แฮนด์ฟรี ไม่ต้องใช้นิ้วกดปุ่มพูดกับรีโมทเหมือนรุ่นอื่น สั่งงานได้หลากหลาย ตั้งแต่ค้นหาคลิปวีดีโอ ถามพยากรณ์อากาศ บวกเลข เปิด/ปิดทีวี ยันสั่งเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆแบบ IoT เช่น เปิด/ปิดหลอดไฟอัจฉริยะ สปีดการทำงานไวขึ้นและมีความเสถียรมากที่ที่สุด ในบรรดา Android TV ด้วยกัน จึงกล่าวได้ว่าเป็นทีวีที่มี AI ในตัวได้อย่างเต็มปาก รวมถึงรองรับการ Cast ผ่านมือถือได้มากจำนวนแอพส์วีดีโอที่สุด ไม่จำกัดแค่ Netflix/YouTube เหมือน Smart TV ทั่วไป ทว่าพวก LINE TV / TrueID / BeinSport / Facebook Video ที่คนไทยใช้ดูบอลและละครก็รองรับทั้งหมด เป็นทีวีที่ตอบโจทย์เราว่าอยากจะดูอะไรก็สามารถดูได้ทันที นี่คือทีวีที่ไฮเทคที่สุดที่สามารถปรนิบัติเราประหนึ่งอยู่ในหนังไซไฟ ขอมอบรางวัล Smart TV ที่ดีที่สุดแห่งปีให้ Sony A9G OLED TV
10) Best Thai TV Award : Aconatic 43HS521ANขนาดที่วางจำหน่าย : 43" 32"
ถ้าถามว่าทีวีแบรนด์ไทย "สัญชาติไทย" รุ่นไหนที่เทพที่สุดในตอนนี้ คำตอบชัดเจนมากมีหนึ่งเดียวคือ Aconatic Android TV แท้ขนาด 43 นิ้วนี่เอง ปีนี้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่แบรนด์ไทยแท้โผล่เข้ามาติดโผรางวัล Top 10 ประจำปีของ LCDTVTHAILAND เพราะในที่สุดคุณภาพก็ทะลุเกณฑ์ที่พวกเรากำหนดไว้ Aconatic คือแบรนด์ไทยที่มียอดขายทีวีสูงที่สุดในท้องตลาดหากเทียบกับแบรนด์ไทยด้วยกันเอง ปัจจุบันครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 4 ของประเทศในแง่ของจำนวน (ข้อมูลจาก GFK) มียอดผลิตและขายกว่าหนึ่งล้านเครื่องตลอดระยะเวลาที่เริ่มทำตลาดทีวีกว่า 6-7 ปีที่ผ่านมา ที่สำคัญ Made in Thailand ซะด้วย รุ่นที่ได้คือ Aconatic 43HS521AN เป็นทีวีความละเอียด Full HD ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 แท้สำหรับทีวี ได้ลิขสิทธิ์มาสมบูรณ์ถูกต้อง ซึ่งปกติหากเป็นแบรนด์ไทยหรือของจีนราคาประหยัดจะใช้วิธีการแปลง Android จากมือถือไปบนทีวีแทน จึงทำให้เทียบชั้นแบรนด์ดังไปโดยปริยาย ทั้งมีแอพส์ดังให้โหลดบน PlayStore ครบครัน มี Chromecast Built-in รองรับการเชื่อมต่อกับมือถือ แถมยังให้รีโมทคอนโทรลมาถึงสองอัน สามารถสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยผ่าน Google Assistant ได้ นับเป็นทีวีแบรนด์ไทยเจ้าแรกที่ทำทุกอย่างได้ครบในราคาที่ย่อมเยาว์เช่นนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการทาบชั้นท็อปแบรนด์จากต่างประเทศ