ผู้เขียน หัวข้อ: T...หุ้นพิศดาร / สุนันท์ ศรีจันทรา  (อ่าน 907 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ailie662

  • Hologram 3D TV member
  • ******
  • กระทู้: 17,433
    • ดูรายละเอียด
T...หุ้นพิศดาร / สุนันท์ ศรีจันทรา
« เมื่อ: กันยายน 27, 2021, 07:28:15 pm »


ดูเหมือนว่า ปีนี้จะเป็นการย้อนยุคของหุ้นปั่น เพราะมีหุ้นที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายปั่นซื้อหวยออนไลน์ถูกกฎหมายนับร้อยบริษัท จนตลาดหลักทรัพย์กำราบปราบปรามไม่ไหว แม้จะใช้มาตรการกำกับการซื้อขายอย่างเข้มข้นสุดขีดแล้วก็ตาม

ล่าสุดตลาดหลักทรัพย์ออกประกาศด่วน ระหว่างพักการซื้อขายหุ้นในช่วงเช้าวันพุธที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา เตือนนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายหุ้น บริษัท ที เอ็นจิเนีร์ริ่ง คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ T

และสั่งให้โบรกเกอร์ดูแลการซื้อขายหุ้น T อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการส่งคำสั่งซื้อขายที่ไม่เหมาะสมและไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์

ในรอบ 12 เดือน T เคยทรุดลงไปต่ำสุดที่ 2 สตางค์ ก่อนจะกระเตื้องขึ้นและเคลื่อนไหวอยู่แถว 6 สตางค์อยู่พักใหญ่

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา ราคาหุ้น T ปิดที่ 6 สตางค์ หลังจากนั้น ถูกลากขึ้น กลายเป็นหุ้นเล็กที่ร้อนแรง จนตลาดหลักทรัพย์ต้องประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขาย แต่หุ้น T กลับวิ่งไม่หยุด ตลาดหลักทรัพย์จึงยกระดับมาตรการกำกับการซื้อขายเข้มข้นขึ้น

จากขั้นที่ 1 กำหนดให้ซื้อหุ้นด้วยเงินสด หรือซื้อขายด้วยบัญชีแคบบัลลานซ์ สู่ขั้นที่ 2 ห้ามนำหุ้น T คำนวณเป็นวงเงินซื้อขายในทุกประเภทบัญชี และขั้นที่ 3 ห้ามหักกลบค่าซื้อขายหุ้นภายในวันเดียวกันหรือห้ามเนทเซทเทิลเมนท์

แต่มาตรการดับความร้อนแรงของราคาหุ้นขั้นสูงสุด ไม่อาจหยุด T ได้ โดยราคายังถูกลากขึ้นต่อ และเมื่อวันที่ 22 กันยายน ถูกลากขึ้นมาปิดที่ 40 สตางค์ ก่อนจะลากขึ้นไปสูงสุดที่ 43 สตางค์ ในระหว่างชั่วโมงซื้อขายวันที่ 23 กันยายน และลงมาปิดที่ 38 สตางค์

ภายในเวลาเพียง 1 เดือนเศษ ราคาหุ้น T พุ่งจาก 6 สตางค์ ขึ้นมาปิดจุดสูงสุดที่ 40 สตางค์ เพิ่มขึ้น 34 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้น 566.66%

ถ้ามีข่าวดีสนับสนุนเป็นรูปธรรม ถ้าผลประกอบการสดใส กำไรเติบโตต่อเนื่อง หรือมีพัฒนาทางธุรกิจที่อาจทำให้แนวโน้มผลประกอบการกระเตื้องขึ้น ราคาหุ้น T ที่พุ่งทะยานขั้นมาม้วนเดียวในช่วง 1 เดือนเศษที่ผ่านมา คงมีเหตุมีผลอธิบายได้

แต่บริษัท ฯ ไม่มีพัฒนาการใด ๆ ขณะที่ผลประกอบการย่ำแย่ ขาดทุนติดต่อกันหลายปี จนส่วนผู้ถือหุ้นมีค่าต่ำกว่า 50% ของทุนจดทะเบียน และถูกตลาดหลักทรัพย์แขวนเครื่องหมาย “C” ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2561

ถ้าดูงบการเงินล่าสุด T ไม่ใช่หุ้นเทิร์นอะราวด์ แต่เป็นหุ้นที่กำลังถดถอย โดยรายได้ลดฮวบลง และไม่เห็นสัญญาณการกลับมามีผลกำไร

ปี 2561 มีรายได้รวม 756.58 ล้านบาท แต่ขาดทุนสุทธิ 186.80 ล้านบาท ปี 2562 มีรายได้รวม 392.02 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 91.01 ล้านบาท ปี 2563 รายได้รวม 113.62 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 22.67 ล้านบาท และงวด 6 เดือนแรกปีนี้ มีรายได้รวม 10.63 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 31.37 ล้านบาท

ในเชิงปัจจัยพื้นฐาน หุ้น T ควรจะอยู่ในช่วงขาลง นักลงทุนน่าจะชิงกันเทขายหุ้นทิ้ง แต่ราคาหุ้นกลับพุ่งทะยาน สวนฐานะการเงินและการดำเนินงานที่ตกต่ำ โดยไม่รู้ว่า นักลงทุนกลุ่มไหนเข้ามาซื้อ และมีขาใหญ่หรือเจ้ามือเข้ามาลากราคาหรือไม่

การที่ตลาดหลักทรัพย์ใช้มาตรการกำกับการซื้อขายที่เข้มข้น และส่งสัญญาณเตือนภัยนักลงทุน ให้ระมัดระวังการซื้อขายหุ้น จึงไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ เพราะ T สมควรแล้วสำหรับการเป็นหุ้นที่นักลงทุนควรหลีกเลี่ยง

ราคาที่วิ่งพรวดขึ้นมาถึงวันนี้ นอกจากมีคำถามว่า T วิ่งมาได้อย่างไรแล้ว ตลาดหลักทรัพย์ควรจะต้องตรวจสอบด้วยว่า

มีใครอยู่เบื้องหลังการลากหุ้น T หรือไม่ เช่นเดียวกับหุ้นอีกนับสิบตัวที่ผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่อง แต่ราคาหุ้นกลับพุ่งอย่างพิสดารผิดธรรมชาติ

บรรยากาศตลาดหุ้นช่วงนี้ ย้อนยุคการเฟื้องฟูของหุ้นปั่นจริงๆ แมลงเม่าทั้งหลายต้องระวังตัวเป็นพิเศษ

เพราะมีโอกาสพลาดท่าเสียทีเจ้ามือหุ้นที่กำลังอาละวาดหนัก เหมือนตลาดหลักทรัพย์ไม่มีขื่อมีแปลงโทษแก๊งปั่นหุ้น