ผู้เขียน หัวข้อ: เชียงใหม่ชี้ยอดติดเชื้อโควิด-19 ยังพุ่ง 461 ราย เหตุระบาดในครอบครัวและปกปิดข้อมูล  (อ่าน 150 ครั้ง)

ออฟไลน์ Fern751

  • Hologram 3D TV member
  • ******
  • กระทู้: 19,595
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
/]เชียงใหม่พบผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตอีก 2 ราย เป็นชายอายุ 47 ปี ติดเชื้อจากคลัสเตอร์ตลาดเมืองใหม่ และชายอายุ 69 ปี ในชุมชนขุนช่างเคี่ยน ขณะที่ยอดติดเชื้อพุ่ง 461 รายจากสารพัดคลัสเตอร์ ส่วนใหญ่แพร่ในครอบครัวและการปกปิดข้อมูลความเสี่ยง เน้นย้ำเคร่งครัดมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล และงดการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง



ช่วงค่ำวันนี้ (23 ต.ค. 64) คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่รายงานสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ว่า วันนี้พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย โดยรายแรกเป็นชายไทย อายุ 47 ปี มีประวัติเป็นโรคอ้วน เบาหวาน และความดันโลหิตสูง ติดเชื้อจากคลัสเตอร์ตลาดเมืองใหม่ และไม่มีประวัติการรับวัคซีนมาก่อน วันที่ 11 ต.ค. 64 เริ่มมีอาการเหนื่อย วันที่ 14 ต.ค. 64 เดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาลแม่แตง พบว่าติดเชื้อโควิด มีอาการเหนื่อยหอบมาก ใส่ท่อช่วยหายใจ และส่งมารักษาต่อที่โรงพยาบาลนครพิงค์วันที่ 21 ต.ค. 64 มีอาการไตวาย ต้องฟอกเลือดอย่างต่อเนื่อง ต่อมาวันที่ 22 ต.ค. 64 ระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตลง

ส่วนผู้เสียชีวิตอีกรายเป็นชายไทย อายุ 69 ปี มีโรคประจำตัวเป็นไตวาย ความดันโลหิตสูง และเกาต์ ติดเชื้อจากการระบาดในชุมชนขุนช่างเคี่ยน ไม่มีประวัติการรับวัคซีนมาก่อน โดยเมื่อวันที่ 21 ต.ค. 64 เริ่มมีอาการไข้ ถ่ายเหลว จึงไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชน พบว่าติดเชื้อโควิด ต่อมามีอาการหายใจเหนื่อย ความดันโลหิตต่ำ จึงได้ใส่ท่อช่วยหายใจ และส่งมารักษาต่อที่โรงพยาบาลนครพิงค์วันที่ 23 ต.ค. 64 ระบบหายใจล้มเหลว ไตวาย และเสียชีวิต ทำให้ขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 49 ราย



ด้านสถานการณ์ผู้ติดเชื้อรายใหม่พบเพิ่มสูงถึง 461 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางจากต่างจังหวัด 5 ราย มาจากกรุงเทพฯ 3 ราย จังหวัดเชียงราย และจังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 1 ราย ส่วนผู้ติดเชื้ออีก 456 รายเป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด โดยสัมผัสจากผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้า 65 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 69 ราย เป็นการระบาดในครอบครัว 74 ราย ซึ่งส่วนใหญ่พบว่ามีการปกปิดข้อมูลความเสี่ยงเนื่องจากทำกิจกรรมที่มีการห้ามดำเนินการ เช่น จัดปาร์ตี้ การเล่น.ต่างๆ ที่ทำให้เกิดการสัมผัสในครอบครัว และมาจากคลัสเตอร์ต่างๆ ซึ่งแยกเป็นคลัสเตอร์เดิมที่อยู่ระหว่างการควบคุมโรค 131 ราย

ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างการกักตัว ทำให้ไม่มีผู้สัมผัสเพิ่ม เช่น ตลาดวโรรส และตลาดต้นลำไย 22 ราย, หมู่ 8 ตำบลหางดง อำเภอฮอด 17 ราย, หมู่ 7 ตำบลหางดง อำเภอฮอด 14 ราย, บริษัทเกเบี้ยนโปรดักส์ไทยแลนด์ ตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี 13 ราย, หมู่ 1 ตำบลบ่อสลี อำเภอฮอด 9 ราย, โลตัสคำเที่ยง 8 ราย, ชุมชนย่านช้างคลาน 7 ราย, หมู่ 7 ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง 7 ราย, ตลาดประตูเชียงใหม่ 5 ราย และอีกหลายแห่ง พบแห่งละ 1-4 ราย

สำหรับการระบาดจากคลัสเตอร์ที่ยังมีการระบาดต่อเนื่องอีก 117 ราย ได้แก่ คลัสเตอร์ตลาดเมืองใหม่ 81 ราย, คลัสเตอร์บ้านเช่า หมู่ 4 บ้านร้องอ้อ ตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมืองเชียงใหม่ 11 ราย, ไซต์งานก่อสร้าง หมู่ 11 ตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี 6 ราย, โรงน้ำแข็งวังสิงห์คำ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ 5 ราย, สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ 3 ราย, ไซต์งานก่อสร้างภายในกองบิน 41 จำนวน 3 ราย, สถานีสื่อสารวิจัยเชียงใหม่ ค่ายดอยพระราม ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม 3 ราย และอีกหลายแห่งที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 1-2 ราย



ขณะที่คลัสเตอร์ตลาดเมืองใหม่พบผู้ติดเชื้อ 81 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 1,363 ราย ส่วนใหญ่เป็นการตรวจพบครั้งที่ 3 ของกลุ่มเสี่ยงสูงก่อนครบระยะเวลาการกักตัว รวมถึงกลุ่มผู้สัมผัสต่างอำเภอ และผู้สัมผัสร่วมบ้าน วันนี้มีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ดำเนินการตามเงื่อนไขของการเปิดตลาดได้เริ่มกลับเข้าไปค้าขายภายในตลาดแล้ว แต่อย่างไรก็ต้องมีการรักษามาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มงวด และต้องเข้ารับการตรวจ ATK ซ้ำทุก 7 วัน เป็นเวลา 4 สัปดาห์ติดต่อกัน ส่วนคลัสเตอร์ตลาดวโรรส และตลาดต้นลำไย พบผู้ติดเชื้อในตลาดวโรรสเพิ่ม 13 ราย ยอดรวม 85 ราย ส่วนตลาดต้นลำไย พบเพิ่ม 9 ราย ยอดรวม 23 ราย ส่วนใหญ่ยังเป็นผู้มีประวัติเข้าไปจับจ่ายซื้อของ ส่วนผู้ประกอบการและผู้สัมผัสร่วมบ้านยังพบอยู่บ้าง ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการกักตัว

ด้านคลัสเตอร์โลตัสคำเที่ยงพบผู้ติดเชื้อ 8 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้มีประวัติเข้าไปใช้บริการ ผู้ประกอบการ และคนในครอบครัว ตามลำดับ ทั้งหมดอยู่ระหว่างการกักตัว และครบกำหนดเปิดดำเนินการแล้วภายใต้มาตรการเดียวกันกับตลาดเมืองใหม่ โดยทั้งหมดนี้จะต้องมีการตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ เป็นเวลา 4 สัปดาห์เช่นกัน ส่วนคลัสเตอร์บริษัทเกเบี้ยนโปรดักส์ไทยแลนด์ จำกัด อำเภอสารภี พบผู้ติดเชื้อ 13 ราย รวมผู้ติดเชื้อ 60 ราย เริ่มมีการกระจายสู่ครอบครัว โดยทางบริษัทได้เปิดศูนย์พักคอย หรือ CI เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อของบริษัทที่ไม่มีอาการหรือเป็นกลุ่มสีเขียวแล้ว ส่วนผู้มีผลลบได้รับคำสั่งให้กักตัวแล้วเป็นเวลา 14 วัน และปิดบริษัทเกเบี้ยน และบริษัทในเครืออีก 3 แห่งเป็นเวลา 14 วัน



คลัสเตอร์ตลาดประตูเชียงใหม่ พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 5 ราย ยังคงเป็นการติดเชื้อในผู้ใช้บริการ ผู้ประกอบการ และคนในครอบครัว จึงขอให้ผู้ที่มีความเสี่ยงให้สังเกตอาการหากพบมีความผิดปกติให้เข้าตรวจคัดกรองทันที และคลัสเตอร์ชุมชนย่านช้างคลาน พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 7 ราย ยอดรวม 31 ราย ส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อในกลุ่มครอบครัวของกลุ่มชาวมุสลิมต่างด้าวที่อาศัยกันอยู่แออัดในชุมชน โดยทางเทศบาลนครเชียงใหม่จะทำการลงตรวจ ATK เชิงรุก และกำกับการกักตัวของกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสูง

ทั้งนี้ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ย้ำว่า ในช่วงนี้สถานการณ์โควิด-19 ของจังหวัดเชียงใหม่ยังคงพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และกระจายไปหลายพื้นที่ จึงขอเน้นย้ำให้ประชาชนทุกคนเคร่งครัดในมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล งดการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง งดการรวมกลุ่มปาร์ตี้สังสรรค์ งดการทำกิจกรรมที่สุ่มเสี่ยง และเคร่งครัดในการกักตัว