ผู้เขียน หัวข้อ: โบรกคาด 11 หุ้นอสังหาฯ กำไร 7 พันล้าน จ่ออัพเป้าโค้งท้าย รับผ่อนเกณฑ์ LTV  (อ่าน 143 ครั้ง)

ออฟไลน์ Jessicas

  • Hologram 3D TV member
  • ******
  • กระทู้: 17,819
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
"บล.กสิกรไทย" คาดไตรมาส 3/64 กลุ่มอสังหาฯ กำไร 7 พันล้าน ลดลงเมื่อเทียบไตรมาสก่อนและช่วงเดียวกันปีก่อน จากผลกระทบโควิด-หยุดก่อสร้าง 30 วัน ลุ้นไตรมาส 4/64 ผลงานฟื้นตัว จ่ออัพเป้ากำไรเพิ่ม อานิสงส์แบงก์ชาติเคาะผ่อนเกณฑ์ LTV ถึงปี 65

นายสรพงษ์ จักรธีรังกูร ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า คาดการณ์กำไรไตรมาส 3 ปี 2564 ของ 11 หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ที่ 7,062 ล้านบาท ลดลง 12% เทียบไตรมาสก่อนที่มีกำไร 8,006 ล้านบาท และลดลง 19% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 8,733 ล้านบาท อย่างไรก็ดี เป็นตัวเลขประมาณการกำไรเบื้องต้นเท่านั้น

โดยคาดว่า 11 บริษัทอสังหาฯ ที่ฝ่ายวิจัยวิเคราะห์จะรายงานยอดขายไตรมาส 3 ปี 2564 ที่ 5.2 หมื่นล้านบาท ลดลง 15% จากไตรมาสก่อน และลดลง 9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้ยอดขาย 9 เดือนแรกของปี 2564 เท่ากับ 71% ของเป้าหมายทั้งปีแล้ว โดยมาตรการล็อกดาวน์จากการระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบหนักต่อยอดขายที่อยู่อาศัย และส่งผลให้กำไรไตรมาส 3 ปี 2564 ลดลงทั้งเทียบกับไตรมาสก่อนและช่วงเดียวกันปีก่อน แต่จะดีขึ้นในไตรมาส 4 ปี 2564

ทั้งนี้ บริษัทเริ่มพรีวิวกำไรไตรมาส 3 ปี 2564 ของ 3 บริษัทอสังหาฯ ได้แก่ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) คาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ในระดับต่ำมากที่ 42 ล้านบาท ลดลง 65% จากไตรมาสก่อน และลดลง 58.7% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน แม้คาดว่ายอดขายจะเติบโตขึ้นเล็กน้อย 6.9% จากไตรมาสก่อน แต่คาดว่ารายได้จะลดลง 12.4% จากอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่สูงมาดในไตรมาส 3 ปี 2564 มากกว่า 50% สถานการณ์ตลาดที่อ่อนแอ และแคมเปญการตลาดที่เข้มข้น

กำไรอสังหาฯ ไตรมาส 3 ปี 2564


ถัดมา บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง (PSH) คาดว่ากำไรสุทธิจะต่ำสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2554 ที่ 351 ล้านบาท ลดลง 17.9% เทียบไตรมาสก่อน และลดลง 41.8% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน จากผลกระทบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น และการหยุดก่อสร้าง 30 วัน รวมถึงยอดขายที่ลดลงในไตรมาส 3 ปี 2564 แม้มีโครงการคอนโดใหม่ขนาดกลาง แต่ก่อสร้างแล้วเสร็จเพียงโครงการเดียว ขณะที่การใช้แคมเปญส่งเสริมการขายที่เข้มข้นสำหรับโครงการแนวราบทำให้คาดว่ากำไรขั้นต้นจะทรงตัวจากไตรมาสก่อน และลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน

สุดท้าย บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) คาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ในระดับดีที่ 530 ล้านบาท เติบโต 2% เทียบไตรมาสก่อน แต่ลดลง 22.4% จากฐานที่สูงผิดปกติในปีที่แล้ว แม้จะได้รับผลกระทบจากการหยุดก่อสร้าง 30 วัน ซึ่งทำให้การโอนกรรมสิทธิ์ต้องเลื่อนไป 1 เดือนก็ตาม รวมถึงยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นยังลดกิจกรรมการขายเกือบทุกโครงการ แต่อัตรากำไรปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่เปลี่ยนไปในรายได้รวม


สำหรับแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 4 ปี 2564 คาดว่าจะได้ประโยชน์จากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่อนผันมาตรการควบคุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ (มาตรการ LTV) ไปจนถึงปลายปี 2565 ซึ่งมีผลทันที คาดว่าจะเกิดการฟื้นตัวของอุปสงค์ที่เลื่อนมาจากช่วงก่อนหน้า (Pent-up Demand) รวมถึงการเปิดการขายและการเปิดตัวโครงการที่เพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการ โดยคาดว่าไตรมาส 4 ปี 2564 จะเป็นไตรมาสที่กำไรสุทธิสูงสุดของปีนี้

ทั้งนี้ บล.กสิกรไทย คาดการณ์กำไรกลุ่มในไตรมาสสุดท้ายจะอยู่ที่ 8,193 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากคาดการณ์กำไรไตรมาส 3 ปี 2564 ที่ 8,193 ล้านบาท แต่ลดลง 7% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 8,811 ล้านบาท อย่างไรก็ดี บริษัทมีโอกาสปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรไตรมาส 4 ปี 2564 หากมีความชัดเจนในแง่การปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจจากผู้ประกอบการ

"สำหรับกลยุทธ์การลงทุน เรามองปี 2565 กำไรกลุ่มจะเพิ่มขึ้นราว 17.5% จากปี 2564 แต่ยังให้น้ำหนัก 'เท่ากับตลาด' (Neutral) เพราะเบื้องต้นมาตรการของแบงก์ชาติผ่อนผันให้เพียง 1 ปีเท่านั้น ดังนั้น ภาพการลงทุนคงไม่ได้หวือหวามาก แต่มองว่ายังถือลงทุนได้จากผลตอบแทนที่คาดว่าจะดีขึ้น นอกจากนี้ หาก ธปท.ไม่ต่ออายุการผ่อนผันมาตรการ เท่ากับว่าในตอนนั้นภาพธุรกิจอสังหาฯ น่าจะดีขึ้นแล้ว"