ผู้เขียน หัวข้อ: ตลาดหลักทรัพย์ “ไทย-เซินเจิ้น” พบนักลงทุนจีน 340 ราย ชูศักยภาพรับตลาดอีวี  (อ่าน 695 ครั้ง)

ออฟไลน์ PostDD

  • Hologram 3D TV member
  • ******
  • กระทู้: 17,329
    • ดูรายละเอียด
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ ตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น จัดสัมมนาออนไลน์ “2021 China-Thailand Electric Vehicle Cooperation Seminar” พบนักลงทุนซื้อหวยออนไลน์ถูกกฎหมายสถาบันจีนกว่า 340 ราย ชูศักยภาพรองรับนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า

ศรพล ตุลยะเสถียร
ศรพล ตุลยะเสถียร
วันที่ 26 ตุลาคม 2564 นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ไทย ร่วมกับ ตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น จัดสัมมนา “2021 China-Thailand Electric Vehicle Cooperation Seminar” ขึ้นในรูปแบบ virtual conference ในวันนี้ โดยให้ข้อมูลศักยภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (Electronic Vehicle: EV) ซึ่งไทยมีศักยภาพที่จะเป็นฐานผลิตที่สำคัญ มีการวางโครงสร้างพื้นฐานรองรับ อีกทั้งบริษัทจดทะเบียนไทยหลายบริษัทมีการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ EV

อาทิ การผลิตรถยนต์และจักรยานยนต์ไฟฟ้า การผลิตพาหนะไฟฟ้าสำหรับการขนส่งสาธารณะ โรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และสถานีชาร์จ โดยพบว่าล่าสุดมีบริษัทจดทะเบียนที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับ EV กว่า 25 บริษัทฯ


ทั้งนี้ ทั้งไทยและจีนมีนโยบายในการส่งเสริมการเติบโตของ EV อย่างจริงจัง ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับที่ทั่วโลกขับเคลื่อนเพื่อลดการใช้พลังงานถ่านหินและรักษาสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐที่วางเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลก

และมีเป้าหมายให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ZEV (Zero Emission Vehicle) ในประเทศ 100% ภายในปี 2578 และสอดคล้องกับแผนงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนนำหลักการ ESG มาบูรณาการในกระบวนการดำเนินงาน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างสมดุลทั้งธุรกิจและสังคม (Balanced Growth)

งานสัมมนาได้เชิญ นางลัษมณ อรรถาพิช รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และนายภาสกร ลินมณีโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย




ร่วมให้มุมมองในหัวข้อ “EV Business Outlook in China and Thailand” ถึงการผลักดันและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า การนำนวัตกรรมใหม่มาสร้างประโยชน์ให้แก่ภาคธุรกิจและชุมชนอย่างยั่งยืน รวมถึงแนวโน้มการลงทุนในธุรกิจ EV ในประเทศไทย

นอกจากนี้ ยังเชิญผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนที่มีการทำธุกิจที่เกี่ยวข้องกับ EV จำนวน 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมนำเสนอแผนและศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ EV

รวมถึงนวัตกรรมด้านพลังงานของบริษัท เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุนสถาบันทั้งในไทยและจีน และขยายโอกาสการลงทุนในอนาคต โดยผู้มีลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนบุคคลในจีนเข้าร่วมถึง 340 ราย

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกันตั้งแต่ปี 2562 เพื่อขยายโอกาสให้หลักทรัพย์ไทยและจีนเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น พร้อมเปิดโอกาสการเชื่อมโยงทั้ง 2 ตลาดเพื่อเพิ่มทางเลือกในการระดมทุน อาทิ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้ามตลาด และความร่วมมือด้านดัชนี เป็นต้น