พูดคุยเรื่องทั่วไปเรื่องจองภาพ LED TV, LCD TV, Plasma TV, Projector > ห้องพูดคุยเรื่อง "จานดาวเทียม"และ "เคเบิ้ลทีวี"

ก่อนซื้อ Digital TV และ IPTV หรือ ติดตั้งจานดาวเทียม อ่านก่อนตั้งกระทู้

(1/8) > >>

topman:
 ก่อนอื่นต้องขอบอกถึงจุดประสงค์ในการเขียนบทความนี้ เนื่องจากมีสมาชิกหลายๆท่าน ได้ติดต่อเข้ามาให้ช่วยอธิบาย
ถึงกล่องIPTVให้หน่อยเพื่อช่วยในการตัดสินใจซื้อมารับชม อีกทั้งยังมีสมาชิกหลายๆท่าน ที่ได้ซื้อกล่องมารับชมแล้ว
ดูได้ เพียง1-2เดือนแล้วถูกทอดทิ้ง ไม่สามารถรับชมช่องรายการต่างๆได้ และกล่องที่ซื้อมาก็ไม่รู้จะไปทำอะไรได้
บ้างเพื่อให้กลับมารับชมได้เหมือนเดิม สำหรับท่านที่เพิ่งจะเข้ามาอ่านและสนใจ กล่องIPTV ก็ขอให้อ่านบทความ
ที่จะเขียนนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ของท่านในการตัดสินใจซื้อสินค้า มารับชมและจะได้ไม่พบกับปัญหาต่างๆที่จะตามมา
เพราะกล่องที่ท่านมีอยู่ อาจกลายเป็นกล่องที่ทำอะไรไม่ได้เลย หากปราศจากผุ้ให้บริการ (ทางเว็บไซด์ LCDTV
THAIALND เพียงเสนอข้อเท็จจริงเพื่อเป็นแนวทางเท่านั้น มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการซื้อ-ขายหรือการตัดสินใจ
ของสมาชิกหรือผุ้ขาย)
ดิจิตอล ทีวี คืออะไร หาอ่านได้ในหมวดของห้อง ดิจิตอลทีวี นะครับ แต่วันนี้ ขอแนะนำ ทำความเข้าใจให้มากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับ
Digital TV
คำถาม จะซื้อทีวีใหม่ จำเป็นตัองเอาชนิดแบบมี ดิจิตอลทีวีในตัวเลยดีใหม?
ตอบ จะพ่วงมาเลยหรือแยก ก็ได้ครับ ราคาแตกต่างกัน แต่เราสามารถ ซื้อทีวี แบบ LED ธรรมดา มาแล้วต่อ set top box ดูได้ครับ  
ข้อดี คือ ราคาถูกกว่า แบบในตัว  เวลาเสีย ส่งซ่อมง่ายกว่า   ข้อเสีย เกะกะ กินพื้่นนี้วางทีวี ราคาแพงกว่า ซื้อแยก  เวลาเสียส่งซ่อมพร้อมทีวีลำบาก
คำถาม ผมอยากซื้อ ดิจิตอลทีีวีทำอย่างไร บ้าง ที่บ้านมีทีวีอยู่แล้ว  
ตอบ ก็หาซื้อได้เลยครับ ตามร้านตัวแทนจำหน่าย ต่อกับเสาหนวดกุ้ง ถ้าอยุ่ใกล้สถานี หรือเสาก้างปลา ถ้าอยุ่ไกล ครับ
คำถาม บ้านผมอยู่ ตจว จะดูได้ไหม?  
ตอบ ณ ขณะที่เขียน บทความ ออกอากาศ 4 จังหวัดใหญ่ก่อนครับ และ จะทยอยออกอากาศเต็ม
ในทางภาคพื่นดินครับ ส่วนในระบบ จานดำ นั้น 1 เมษายน ออกอากาศแล้วครับ ดูผ่านทางกล่องรับจานดาวเทียมทั่วไป
คำถาม เห็นว่ามีการแจกคูปอง แลกซื้อดิจิตอล ทีวี set top box หรือครับ?  
ตอบ ต้องหลังจากนี้อีกประมาณ 2-3 เดือนครับ
คำถาม ผมจะซื้อรุ่นไหนดี เห็นมีขายหลายรุ่นหลายแบบ  
ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติกล่องSet Top Box ทีวีดิจิตอล

ยังมีตัวแทนที่ขายที่มากครับ แต่ปัญหาคือตอนนี้บางเครื่องยังรับความถี่ MUX บางช่องไม่ได้ ที่สํญญาณอ่อน
สำหรับตัวผม รออีกนิดดีกว่าครับ ช้าๆ ได้พร้าเล่มงามครับ
คำถาม ผมใช้เสาก้างปลา อยู่จะถูกยกเลิกใหม ฦ
ตอบ อีกประมาณ 4-5 ปีข้างหน้าจะยกเลิกการออกอากาศ แล้วมาใช้ดิจิตอล ทีวี อย่างเดียวครับ
คำถาม ผมไม่ซื้อ แต่จะใช้จานดาวเทียม ดูแทนได้ไหมครับ?
ตอบ  ในจานดาวเทียม มีออกอากาศอยู่แล้วครับ ระบบซีแบนด์ จานดำ และ ระบบเคยูแบนด์ จานเล็ก ประมาณวันที่ 17 เมษายน ครับ
คำถาม แล้วดิจิตอลทีวี ดูฟุตบอลโลก2014ได้ไหมครับ?
ตอบ ตอนนี้ ได้ประกาศแล้วว่า เจ้าของลิขสิทธิ์คือ RS ครับ ดูได้ด้วยกล่องของ RS และพันธมิตรทางธุรกิจเท่านั้นครับ กล่องอื่นๆ หมดสิทธิ์(ยกเว้น ผุ้ให้บริการ IPTV)
สำหรับเทคโนโลยี่หรือนวัตรกรรมสิ่งใหม่ๆ ที่ท่านจะได้พบ ก็จะเป็นดังนี้
-เครื่องรับจานดาวเทียมระบบ HD+Digital TV DVB-T2 ตอนนี้ ก็มีขายแล้วแต่ยังไม่ได้รับความนิยมเท่าไร
-เครื่องรับ IPTV +DVB-T2  มีแล้วสำหรับ ระบบ linux  ส่วน แอนดรอย กำลังทยอยเข้ามา
-เครื่องรับ IPTV แอนดรอย ในอนาคตอันใกล้ นี้จะมี ให้ผู้ใช้ เล่นและร้อง คาราโอเกะ ได้ ในเร็วๆ นี้
เดี่ยวมีเวลา ผมมา อัพเดทกันใหม่ครับ
IPTV(Internet Protocol TV) คืออะไร?
คือการออกอากาศช่องรายการโทรทัศน์โดยส่วนมากจะเป็นช่องโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมที่เข้ารหัส นำมาออกอากาศผ่าน
ระบบเครือข่าย Internet โดยที่ผู้ใช้สามารถรับชมผ่านกล่องรับสัญญาณIPTVหรือผ่านเว็บไซด์ผุ้ให้บริการ
ก็ได้ เพียงแค่ท่านมีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ก็จะสามารถรับชมรายการที่ต้องการได้พร้อมทั้งยังคงสามารถใช้งาน
มัลติมีเดีย เข้าเว็บ เล่นyoutube ฯลฯ ได้ปรกติ ไปพร้อมกับการรับชม IPTV ได้ตลอดเวลา
IPTV มีมานานแล้วหรือยัง ?
หลังจากหลายท่านที่เคยใช้งานเครื่องรับจานดาวเทียม Dreamboxแล้วรับชมไม่ได้ ก็ได้มารู้จักกับ IPTV
ความจริงในต่างประเทศมีการใช้งาน IPTVมานานหลายปีแล้ว เพียงแต่ที่ยังไม่ฮิตติดตลาดเพราะว่า Dreambox
ตัวเก่งยังสามารถใช้งานได้อยุ่จึงไม่มีใคร สนใจ ปัจจุปัน มีการเข้ารหัสใหม่ในช่องรายการดาวเทียม จึงทำให้ ทาง
ผู้ให้บริการไม่สามารถแชร์รหัสให้กล่องDreamboxรับชมได้ เมื่อไม่มีเทคโนโลยีใดแชร์ได้เหมือนเดิมก็จึงเหลือ
ทางเลือกที่ยังสามารถรับชมได้ ก็คือ IPTV นั่นเอง
  IPTV จะดูได้นานหรือเปล่า? และมีการส่งรหัสอย่างไร ?
การออกอากาศของผุ้ให้บริการนั่น ทำลักษณะคล้ายกับเคเบิ้ลทีวี ท้องถิ่นเลย เพียงได้สัญญาณที่ได้จากเครื่องรับจานดาวเทียม
1ช่องรายการ ต่อ 1เครื่องนั้น จะมาผ่านการ์ดตัดต่อ ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ และใช้โปรแกรม เช่น VLC ฯลฯออกอากาศผ่าน
ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตส่งไปให้สมาชิกอีกทีหนึ่ง ดังนั้นหากต้องการรับชมรายการ 90ช่อง ทางผุ้ให้บริการก็จะต้องมี
เครื่องรับจานดาวเทียมที่เปิดออกอากาศ ทั้งหมด 90 เครื่องเช่นกัน จะเห็นได้ว่า IPTV มิได้เป็นการ Hackหรือใช้
การ์ดสมาชิกที่ไม่ถูกต้องมาออกอากาศ แต่จะเป็นการใช้เครื่องรับจานดาวเทียมที่สมัครสมาชิกโดยถูกต้องมาออกอากาศ
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คงจะทราบแล้วนะครับว่า จะดูได้นานหรือเปล่า ?
   มีกรณีใดบ้างที่ IPTV จะรับชมไม่ได้?
 -IPTV ใช้เครือข่ายอินเตอร์เน็ตเป็นหลัก ดังนั้นหาก อินเตอร์เน็ตผุ้ให้บริการ หรือสมาชิก ล่มหรือใช้งานไม่ได้
ก็จะไม่สามารถรับชมได้ อินเตอร์เน็ตของผุ้ให้บริการ จะต้องมี Spped UPload สูงมาก เพื่อส่งภาพและเสียง
ผ่านทางเครื่อข่ายไปให้สมาชิก สำหรับสมาชิก มี Speed Download ขั้นต่ำเพียง 5M ก็เพียงพอที่จะรับชมได้
อย่างสบายแล้ว (อินเตอร์เน็ตที่ใช้ไม่ได้ คือ Air card และ ไวไฟ สาธารณะ เพราะมี speed Download
ที่ไม่คงที่ รวมถึงอินเตอร์เน็ตรวมของหอพัก ต่างๆ เพราะมีการแชร์ speed กันมาก )
 -ผุ้ให้บริการปิดการให้บริการ เนื่องจากเจ้าของลิขสิทธิ์ หรือ มีปัญหาด้านค่าใช้จ่าย ตรงนี้ หลายท่านถ้าเคยอ่านข่าว
จะพบข่าวมีให้เห็นมาเรือยๆ ค่าใช้จ่ายในการออกอากาศมี สูงมากในแต่ละเดือน จะแตกต่างจากผุ้ให้บริการ Dreambox
แบบเดิมมาก เช่น ค่าสมาชิกการ์ดแท้รายปี ค่าไฟฟ้า ค่าอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง โดยมากจะเป็น LEAD LINE
 -Hostที่ผุ้ให้บริการเช่าไว้ มีปัญหา ตรงนี้ถ้าผู้ให้บริการมี Hostอยู่ต่างประเทศก็จะช่วยให้ลำบากในการติดตาม
ซึ่งเป็นผลดีกับผู้ให้บริการเอง แต่ก็มีหลายผุ้ให้บริการยังคงใช้ Hostในประเทศอยู่
  IPTV มีกี่แบบ?ต่างกันอย่างไร และควรจะเลือกซื้อแบบใดดี?ดูแบบ Full HD 1080Pได้จริงหรือ?
  เห็นมีโฆษณาว่า Andriod ดีกว่าจริงใหม?
-IPTV หากแยกประเภทกันในตอนนี้ คงจะต้องแยกกัน ตามระบบปฎิบัติการ (OS)ได้ 2 ประเภท ครับ
คือ ระบบ OS LINUX และ OS Andriod
ขอกล่าวถึง แบบ LINUX ก่อนนะครับ ระบบLinux ก็คือOS ที่ใช้ในเครื่องรับจานดาวเทียมทั่วไปที่เราๆรู้จัก
กันดีนั่นแหละครับ รวมทั้งใน Dreambox ด้วย และ ใน IPTV ก็ใช่ครับเพียงแต่ถูกเขียนเฟิร์มแวร์มาให้มีหน้าตา
และการใช้งานแตกต่างกัน เท่านั้น ในขณะที่เขียน บทความนี้ Linux มีขายกันอยู่ 2แบบครับ
แบบที่ 1 IPTV แบบที่ไม่สามารถใช้กับจานดาวเทียม พูดง่ายๆคือ ต่อดูกับจานดาวเทียมไม่ได้นั่นเอง ทำมาเพื่อให้รับ
ชม IPTV ผ่านเครือข่าย อินเตอร์เน็ตเท่านั้น ถือว่าเป็นแบบที่นิยมใช้กันแบบในปัจจุปันชนิดหนึ่ง
แบบที่ 2 IPTV แบบลูกผสม คือเป็นเครื่องรับจานดาวเทียมชนิดใช้งาน IPTV ได้ด้วย ปัจจุปันก็มีหลายคนมีเครื่อง
แบบนี้อยุ่ในมือ แต่ยังหาผุ้ให้บริการไม่ได้ เนื่องจากจะต้องมี เฟิร์มแวร์ที่เขียนมาเพื่อรองรับกับการใช้งานด้วย
สรุป ข้อดี -OS LINUX เป็นระบบปิด คนที่จะเขียนโปรแกรมใช้งานได้จะต้องมี Source ของ CPU ที่จะใช้งาน
เพื่อเขียนให้ทำงานได้สมบูรณ์แบบ จึงทำให้ ระบบ Linux มีความเสถียร และ ทางผู้ให้บริการยินดีที่จะใช้งาน OSนี้
เนื่องจาก ปลอดภัยกว่าเพราะถูกซ่อน URLของผู้ให้บริการไว้ ไม่มีอาการ ค้างของ OS ให้เห็น จากการทดสอบใช้งาน
  ข้อเสีย ทั้งในแบบที่ 1 และ 2 หากต้องการเปลี่ยนผุ้ให้บริการในขณะนี้ยังไม่มีผุ้ให้บริการเปลี่ยน เนื่องจากจะต้องดู
ว่าเครื่องนั้น รองรับกับเฟิร์มแวร์ของผุ้ให้บริการหรือไม่ เปลี่ยนได้แต่เครื่องต้องรองรับเฟิร์มแวร์
(แต่ในอนาคต อันใกล้คงจะสามารถโยกย้ายผุ้ให้บริการได้หมด)
     ควาามสามารถในการเล่นไฟล์มัลติมีเดีย ดีกว่าเครื่อง Andriod แต่ก็ไม่สมบูรณ์ หากต้องการใช้งานในหมวดนี้
จะต้องหันไปใช้งาน เครื่อง HD player จะดีกว่า
     OS LINUX ไม่มีโปรแกรมที่ถูกเขียนมาให้สามารถ เล่นอินเตอร์เน็ตได้ เช่น เข้า Google ซึ่งจะแตก
ต่างจาก Andriod จะมี Appต่างๆ ให้ลงมากมาย เนื่องจากเป็นระบบเปิด (ในอนาคต จะมีการทำให้ใช้งาน ได้เหมือน
กับ Andriod)
ข้อสังเกต หรือข้อโต้แย้ง
 OS เสถียร เปลี่ยนผุ้ให้บริการได้แต่ เครื่องต้องรองรับ เฟิร์มแวร์ของผู้ให้บริการ
เล่นเน็ตไม่ได้ (แต่ในอนาคตทำได้)ในการใช้งานจริงๆ ไม่สะดวกเลยทั้ง OS LINUX และ Andriod ในการ
นำมาใช้งานกับอินเตอร์เน็ต หากต้องการใช้งานจริงๆ นำโน๊ตบู๊คหรือคอมพิวเตอร์มาต่อกับ ทีวีจะสะดวกที่สุด
 เครื่องชนิดดูกับจานดาวเทียมได้ ข้อดีคือ เวลาserver มีปัญหาหรือเน็ตล่ม ก็จะได้ดูจานดาวเทียมแทน
ข้อโต้แย้งคือ คงจะดูได้แต่  3 5 7 9 หรือช่องที่ไม่เข้ารหัสทั่วไป ซึ่งไม่ตรงกับจุดประสงค์ของผุ้ใช้งานเท่าไร
ช่องที่ต้องการชม จะถูกเข้ารหัส รับชมไม่ได้อยู่ดี
     OS Andriod ส่วนมากจะเรียกกันว่า TV BOX หรือ แอนดรอย ทีวี จะมี OS แยกอยู่ 2เวอร์ชั่น
คือ เวอร์ชั่น 2.3 และ 4.0
  ข้อดีของ แอนดรอยคือ เป็นระบบเปิด สามารถที่ได้ดาวน์โหลดโปรแกรมชนิดต่างๆ มาลงได้ ซึ่งเราจะเรียกกันว่า App
หรือ แอ๊ปปิเคชั่น นั่นเอง เช่น IPTV หรือ Thai radio หรือ youtube google หรือ  App
ดู ละคร ทีวีย้อนหลัง หรือ ข่าวทาง นสพ  และเกมส์ต่างๆ เช่นนกขี้โมโห เป็นต้น ตัวAppจะมี นามสกุลลงท้าย ด้วย .APK
 สำหรับ App IPTV.APK นี้ ทาง server จะลงให้เท่านั้นจะไม่มีดาวน์โหลดได้จากทั่วไป และไม่มีการแจกจ่าย
ตรงนี้เอง ที่ทำให้เกิดเรื่อง ถ้าไม่มี ผุ้ให้บริการ หรือถูกทิ้งแล้ว ก็จะไม่สามารถใช้งานเครื่องได้ ยกเว้น ไว้ต่อเน็ต เท่านั้น
(ในปัจจุปัน เริ่มมีผุ้ให้บริการบางราย รับลง Appให้แล้ว แต่ยังคงน้อยรายอยู่เนื่องจาก ต้องการขายเครื่องของเขาเองมากกว่า
ที่จะไปลง Appให้กับสมาชิกทั่วไป เนื่องจากไม่ได้กำไรจากการขายเครื่องนั่นเอง )
 ข้อดีข้อด้อย ของแต่ละ OS ไม่เหมือนกันดังนั้น หากจะซื้อเครื่อง มารับชม ก็ต้องลองดูความเหมาะสมเหล่านี้เป็นสำคัญ
OS LINUX เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการความยุ่งยาก ง่ายต่อการใช้งาน ไม่ต้องการ ต่อเล่นอินเตอร์เน็ตจากเครื่องIPTV
เหมาะกับการนำไปรับชมอย่างเดียว แบบง่ายๆ สะดวกๆ
OS Andriod เหมาะกับคนที่ขอบศึกษา เล่นเกมส์ ชอบลง App พอมีความรู้บ้าง set wifi เป็น
ชอบเล่นอินเตอร์เน็ต ตรงนี้ คงจะต้องหาซื้อ อ๊อฟชั่นมาเพิ่ม เช่น แอร์เม้าส์ และ คีย์บอร์ดไร้สาย มาใช้งาน
ไม่เช่นนั้น ใช้งานลำบาก ครับ
ถึงอย่างไร ทั้งสอง OS ก็ไม่เหมาะกับการเล่นอินเตอร์เน็ตอยู่ดีครับ จากการทดสอบใช้งาน จะสุ้ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คไม่ได้ครับ
OS LINUX เสถียรกว่า แต่ลง App ไม่ได้ เล่นเน็ตไม่ได้ ต้องรออนาคต หน้าตา OS ก็สวยสุ้ Andriod ไม่ได้
OS Andriod ใช้งานไปจะเสถียรสู้Linux ไม่ได้ มีอาการ หลุดของ โปรแกรมให้เห็นบ่อยๆ
จะมีตัวหนังสือขึ้นมาให้ออกจากโปรแกรม กล่องของ TV BOX ส่วนมากเป็นเล็กกะทัดรัด บางทีดุไม่สมราคา
แต่มีดีที่ มี WIFI ในตัวไม่ต้องหาซื้อเพิ่ม เวลาซื้อต้องดูที่ PORT USB ด้วยว่า รองรับการต่อกับคอมพิวเตอร์และรองรับ
การลง APPหรือไม่ เพราะรุ่นใหม่ จะมี USBอยู่ สองแบบ ในตัวเครื่อง
 อย่าหลงเชื่อโฆษณา ว่า ดู IPTV ได้แบบ 1080P หรือ Full HD สาเหตุเพราะ
ยังไม่มีใครทำได้ ไม่ว่าจะเป็น แบบ LIVE TV หรือ VOD ย่อมาจาก วิดีโอออนดีมาน
ปัจจุปัน ดูในระบบ SD ทำได้ใกล้เคียงและชัดในระดับทีพอใจ เลยครับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ server ด้วย
ส่วนใน แบบ HD นั้น ขอแจ้งให้ทราบเลยว่า แค่ทำให้ใกล้เคียงกับ 720Pก็ถือว่าดีที่สุดแล้วครับ
ปัจจัยจะอยู่ที่ server ในการส่งความละเอียด การ์ดตัดต่อและ โปรแกรม ครับ  
 ไม่ว่าจะซื้อแบบใดมา หากท่านไม่มีผุ้ให้บริการ หรือถูกทอดทิ้งแล้ว ก็ลำบากครับ
ดังนั้น สิ่งที่ต้องคำนึ่งถึง ก็คือ ผุ้ขาย บริการหลังการขาย และ ผู้ให้บริการเป็นสำคัญครับ เพราะ ณ เวลานี้ ไม่ได้
เปลี่ยนผุ้ให้บริการกันง่ายๆ บ้างที ท่านอาจจะต้องเสียใจกับการที่จะต้องไปหาซื้อกล่อง มาเป็นกล่องที่สอง เพราะ
กล่องใบแรก รับชมไม่ได้
ยังมีข้อด้อย ของ กล่องทั้งสองแบบที่ ผมยังกล่าวไม่หมดไว้ เช่น เสียง และ การเล่นไฟล์ วันหลังจะมาแจกจ่ายเพิ่มครับ
ผมได้ทดสอบใช้งานกล่องทั้งสองแบบแล้ว จากประสบการณ์ที่ใช้ ก็นำมาเหล่าเป็นแนวทางสำหรับสมาชิกไว้ตัดสินใจ
ด้วยตัวท่านเอง เพื่อจะได้ไม่โดนผู้ขายโฆษณาหลอกหลวง



 


patnologo:
ถ้าจานเหลือง นี้ จุดต่อไปคิดยังไงครับ

Muten:
มีประโยชน์มากครับ

Mr.Sat:
2500

topman:
ท่านสมาชิกหลายๆ ท่านคงจะสงสัยเรื่องการติดจานดาวเทียม ให้กับทีวีตัวเก่งของท่าน แต่ยังไม่ทราบว่า จะติดจานชนิดไหน แบบใดดี จึงจะเหมาะกับ ความต้องการของท่าน กระทู้นี้ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อ อธิบายเรื่องจานดาวเทียม และ ช่องรายการ และความเหมาะสม กับช่องรายการที่ท่านต้องการ รับชม หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถคลายข้อสงสัยของท่านได้ เพื่อช่วยในการตัดสินใจก่อนการติดจานดาวเทียม
ปัจจุปัน ประเทศไทยมีดาวเทียมที่ใช้งานอยุ่ คือ ดาวเทียม ไทยคม 5 ส่งในระบบ C Band และ KU-Band
ชนิดของจานดาวเทียม
แบ่งออกเป็น 2 ระบบ
1.จานดาวเทียม ระบบ C-Band เราสามารถพบจานดาวเทียมชนิดนี้ ในชื่อที่เรียกว่า จานดำ หรือ จานโปร่ง โดยมีผู้ผลิตจานดาวเทียมชนิดนี้ ออกมาหลายผู้ผลิตที่พบอยู่ในท้องตลาดขณะนี้ ก็มี PSI DYNASAT IDEASAT THAISAT INFOSAT ATM ฯลฯมีผลิตขนาดของจานตั้งแต่ 4.5 ฟุต จนถึงขนาด 10 ฟุต ตามลักษณะของการใช้งาน เช่น ตามที่พักอาศัย ทั่วไป หรือ ใช้กับงานระบบ โรงแรม อพาร์ทเม้นต์ ซึ่งต้องใช้จานขนาดใหญ่ เช่น 7.5 ฟุต หรือ 10 ฟุต เพราะต้องการให้ได้ความแรงของสัญญาณสูง  หากติดตามบ้านเรือนทั่วไปจะติดขนาด 5 ฟุต หรือ 6 ฟุต เนื่องจาก แต่ละผู้ผลิต มีการผลิตจานในขนาดไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น
PSI จะผลิตจาน ขนาด 1.7 เมตร (ไม่ได้นับเป็นฟุต )  หรือ DYNASAT ผลิตจาน 6 ฟุต ขนาดใกล้เคียงกัน แต่ใช้หน่วยวัดกันคนละแบบ หรือ THAISAT ผลิตจานขนาด 1.9 เมตร เป็นต้น
ข้อดี ของจานดำ หรือ จานระบบ C Band
1.1.ช่องรายการเป็นแบบ Free TV ไม่ได้ถูกเข้ารหัส (โดยส่วนมากแต่มีบางช่องรายการ เข้ารหัสสำหรับ เครื่องชนิดบอกรับสมาชิก) ช่องที่รับชมส่วนมากจะเป็น 3 5 7 9 NBT TPBS NATION TNN และ ช่อง MVTV และช่องรายการที่ต่างประเทศมาเช่าดาวเทียมจากประเทศไทย ส่งไปยังประเทศของผู้เช่า เช่น ปากีสถาน เนปาล ลาว เชมร เวียตนาม เป็นต้น
1.2.ไม่ต้องเสียค่าบริการรายเดือน
1.3.ฝนตก ก็สามารถรับชมได้ (แต่ไม่แนะนำ เพราะในขณะฝนตก อาจมี ฟ้าผ่าหรือ ปัญหาเกี่ยวกับกระแสไฟฟ้า ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหายได้ตัวอย่างช่องรายการของ จานดาวเทียมไทยคม ระบบ C Band
http://whttp://www.lyngsat.com/thai5.html
 2.จานดาวเทียม ระบบ KU-Band อยู่ในรูปแบบของจาน OFF SET คือมี หัว LNB ไม่อยู่ตรงกึ่งกลาง ของจาน จะเยื้องเบี่ยงไปข้างล่างเล็กน้อยซึ่งจะไม่เหมือนกับของระบบ C ฺฺฺBandจะโฟกัส อยู่ตรงกลางจาน ในปัจจุปัน มีผุ้ให้บริการ ที่เรารู้จักกันดี ในท้องตลาด คือ TrueVision (ทรูวิชั่น)หรือที่เรียกกันติดปากว่า จาแดง และ DTV (ดีทีวี) หรือที่เรียกกันว่า จานเหลือง ส่วนที่เลิกทำตลาดไปแล้ว ก็คือจานฟ้า ของบริษัท สามารถ  ขนาดของจานระบบ KU นี้ จะมีตั้งแต่ ขนาด 35 ซม 60 ซม 75 ซม ทั้งจานแดงและ จานเหลือง จานฟ้า ต่างใช้ดาวเทียมไทยคม5 ระบบ KU เหมือนกัน เพียงแต่ต่างความถี่ ดังนั้น จึงสามารถ ใช้จานทดแทนกันได้
ข้อดี ของจานระบบ KU
2.1 ใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อย และ ติดตั้งง่ายกว่า
2.2 ไม่ต้านลม ไม่บดบัง ทัศนียภาพ ของตัวบ้าน เนื่องจากมีขนาดเล็ก
ช่องรายการของดาวเทียมไทยคม 5 ระบบ KU จะเป็นช่องที่เข้ารหัส ส่วนมากจะเป็นทีวี แบบ บอกรับสมาชิก เท่านั้น ซึ่งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายรายเดือน
หรือ สำหรับบางผุ้ให้บริการจะใช้ระบบ เติมเงินในบางช่องรายการ
ตัวอย่างช่องรายการของ TrueVision

ตัวอย่างช่องรายการของ DTV
http://www.dtvthai.com/uploads/download/10_channel4web11062010.jpg
นอกจากนี้ ยังมี จานส้ม อีก 1 จานของผุ้ให้บริการ หรือที่เรียกว่า IPM จะขอกล่าวในบท ต่อไป
ดังนั้น หากท่านสมาชิกต้องการติดจานก็ควรจะดู เรื่องของช่องรายการ ที่เราต้องการชมเป็นหลัก และ เรื่องการเสียค่าสมาชิก เป็นส่วนประกอบ
แล้วจะมา UPDATE บทต่อไปครับ กรุณา อย่าตอบหรือถามในกระทู้ นี้นะครับ เพราะจะมาเขียน ต่อครับ
ก่อนที่จะไปถึง จานส้ม ขอคั้น รายการ ด้วย เรื่องของการ รับชม 2-3-4 จุด ก่อนนะครับ
สมาชิก หลายท่านแน่นอน ว่าภายใน บ้านต้องมี ทีวี มากกว่า 1 เครื่อง แน่นอน ทำให้เวลาที่เราจะรับชม รายการและ ติดขัด อยากให้ติดจานดาวเทียม
แล้ว รับชมได้ 2 จุด พร้อมกันเลย แบบ อิสระ ดูได้ต่างช่องรายการ ไม่ยุ่ง เกี่ยวต่อกัน
กรณี จานแดง ก่อนนะครับ เห็นถามกันมาเยอะมากๆ
1.กรณี รับชม 1 จุด ก็ติดตั้งแบบทั่วไป ครับ แบบนี้ไม่มีปัญหา
2.กรณี รับชม 2 จุด มีการติดตั้ง ได้ 2 แบบ ดังนี้
2.1 ใช้จานแดง 1 ใบ +หัวรับสัญญาณดาวเทียม หรือที่เรียกว่า LNB  1 หัว ใช้เครื่องรับ จานดาวเทียม 2 เครื่อง แบบนี้ เหมาะ กับ ผู้ที่ต้องการ ประหยัด เงิน ในการติดตั้ง ครับ เพราะ เราจะใช้ เพียง ตัวแยกสัญญาณ ที่เรียกว่า POWER PASS 2 ways
ในการ แยก สัญญาณ จากจานต้นทาง จาก 1 ให้แยกไป เป็น 2 สาย ไปที่ แต่ละจุด
ข้อดี คือ ประหยัดงบ ไม่ต้องเปลี่ยน หัว LNB ใหม่ ครับ
ข้อเสีย คือ การรับชม ทั้งสองเครื่อง พร้อมกัน จะต้องดู ในย่าน ที่เหมือนกัน เท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น
เครื่องที่ 1 เป็นเครื่องทรู รับชม ช่องรายการ 3 5 7 9 ทัวไป ช่องรายการชอง ทรูวิชั่นจะส่งใน ย่าน H ทั้งหมด
เครื่องที่ 2 ถ้า เป็นเครื่องทรู ไม่มี ปัญหา ครับ เพราะดูย่าน H ได้เหมือนกัน แต่จะมี ปัญหา ขึ้นมาทันที เมืือ ท่าน ใช้เครื่องรับ จานดาวเทียม ของ DTV ซึ่ง ช่องรายการ จะมีทั้ง ย่าน Hor (ย่านแนวนอน) และ Ver (ย่านแนวตั้ง) ครับ ถ้า ดู H กับ H  เหมือนกัน ไม่มี ปัญหาครับ แต่ถ้า คนละ ย่าน อีก 1 เครื่องจะจอ มืด เพราะ หัว LNB จะไม่สามารถ แยก ออกได้ครับ  เดี๋ยวมาต่อ แบบ ที่ ใช้ เปลี่ยนหัว ครับ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version