ผู้เขียน หัวข้อ: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Procella , SVS, Anthem, Parasound,Audyn  (อ่าน 330138 ครั้ง)

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์


จัดส่ง Cerwinvega XLS12S ซับวูฟเฟอร์ดอก 12 นิ้วตัวนี้ไปให้ลูกค้าที่เพชรบูรณ์ จัดส่งผ่าน NTC ครับ ลูกค้าเอาไปใช้ทำซํบคู่กับซับตัวเดิม (ซับคู่อีกแล้ว)

สำหรับซับตัวนี้ดูสเปกอาจจะคิดว่า เออ มันลงได้ไม่ค่อยลึก แต่เอาเข้าจริงๆ ในราคาระดับ หมื่นกลางๆ มันลงได้ไม่ลึกก็จริง แต่ถ้าลองเปิดแทร๊คความถี่ต่ำทดสอบซับตัวนี้เทียบกับซับตัวอื่นๆในระดับราคาเดียวกันหรือมากกว่า  กลับพบว่าที่ความถี่ 20 Hz +- ซับตัวนี้มันยังตอบสนองได้เลย   งงดี  แบรนด์อเมริกันชอบเรทสเปกตัวเองต่ำ แต่พอใช้จริงกลับวัดได้สูงกว่าความจริง เช่น HK990 หรือแอมป์ AVR อเมริกันอีกหลายๆตัว

แนวเสียงตัวนี้เป็นแนวกระชับ (กระชับมาก ไม่แผ่เลยแม้แต่น้อย) แน่น และ นุ่ม ไม่กระแทกแข๊งแบบแบรนด์อื่น  เป็นบุคลิกที่หายากและไม่พบเจอในซับราคา 10000-50000 ยี่ห้อไหนเลย  จะว่าดีก็ดี เพราะมันกระชับมาก ฟังเพลงดี แต่บางท่านดูหนังอาจจะชอบและขอแผ่ๆหน่อย  แต่ตัวนี้มันกระชับ และหยุดเลย เบสนุ่มและเป็นลูกด้วย

อ่านรีวิว Cerwin XLS12S: http://www.whatthatsound.com/product/95/cerwin-vega-xls12s








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 22, 2016, 08:49:54 am โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์


จัดส่ง Audyn MA9 ที่ลูกค้าสั่ง customize เหลือ 5 แชนแนลไปที่สมุทรสาครครับ

ตัวนี้ตอนไปส่งต้องใช้แรงงานคนช่วยกันยกถึง 3 คน เพราะน้ำหนักตัวมันหนักถึง 70 กว่ากิโล  เหตุผลเพราะแม้ว่า MA9 ตัวนี้จะถูกตอนจำนวนแชนแนลลงมาเหลือแค่ 5  แต่ก็ยังใช้ Platform และหม้อแปลงตัวเดียวกันกับ MA9 ตัว 9 แชนแนลนั่นแหละ (ตัว 9 แชนแนล หนัก 80 กว่าโล)

แม่เจ้ายกคนเดียวขึ้นก็เดินเอากลับบ้านไปได้เลย (ช่วยกันยกยังปวดหลังเลย)

------------------------------------------------------------------
อ่านบทความนี้ที่เว็บของเราได้ที่นี่: http://goo.gl/7qjBdJ
------------------------------------------------------------------

ตัวนี้บ้านลูกค้าเป็นห้องชั่วคราวที่ทำไว้ฟังเล่นๆก่อนที่จะย้ายไปห้องแบบจริงจัง เนื้อที่จัดวางจึงยังไม่ลงตัวเท่าไร่นัก
ตัวลำโพงในซิสเต็มพิเศษตรงสั่งทำมาโดยเฉพาะ ใช้ดอก scanspeak  ทั้งหมด  ส่วน pre ตอนนี้ใช้ AVR ไปก่อน (Sherwood Newcastle R977)

 ผมได้มีโอกาสนั่งลองฟังแป๊ปนึง ตัวลำโพงเสียงออกมาละเอียดและรับรู้ได้ถึงพลังที่ซ่อนอยู่ ชัดเจน มีรายละเอียด และฟังดูดีเลยทีเดียว   




ตัว Audyn MA9 ตัวนี้กำลังขับ 250 วัตต์ทุกแชนแนล  สั่งได้ว่าจะใช้งานกี่แชนแนล
สำหรับใครที่ใช้ลำโพงขับยากๆ เล่นระบบเสียง Multichannel ตัวนี้น่าสนใจครับ ตัวเดียวจบ ครบรองรับได้ตั้งแต่ 5-9 แชนแนล ไม่ต้องแยกหลายตัว วัตต์ผมว่าฟัดกับแอมปืในระดับเดียวกันได้สบาย แถมเผลอๆจะเฉียดขึ้นไปกัดกับ Power ที่ราคาค่าตัวสูงกว่ามันขึ้นไปอีกได้ด้วยนะครับ   
ข้อดีคือแนวเสียงตัวนี้จะไม่กร้าวและแข๊งเหมือน Power amp ที่ราคาต่ำกว่าแสนเช่น emotiva อันนั้นแข๊งโป๊กเลย ฟังเพลงขึ้นขอบ เสียงจัดไม่ไพเราะ แต่ดูหนังมัน   หรือแบรนด์อื่นๆที่ต่ำกว่าแสนก็จะได้อย่างเสียอย่างกันไป  แต่ตัว ma9 นี้จะจับข้อดีของหลายๆตัวมาผสมกัน ทั้งพละกำลัง เสียงที่ไม่จัดเกินไป รายละเอียดดี และก็ดูหนังดีด้วย เป็นอีกตัวเลือกนึงที่น่าสนใจสำหรับใครที่อิ่มและพอแล้วกับ AVR และอยากก้าวเข้ามาในโลกของ Pre-Pro และสัมผัสกับพละกำลังที่ถีบลำโพงให้แสดงศักยภาพเต็มที่ 




บางทีสิ่งที่คุณคิดว่าพอแล้ว เต็มที่แล้ว ไม่แน่หากได้มีโอกาศลองสัมผัส Poweramp เพิ่มเข้ามา ลำโพงและซิสเต็มของคุณอาจจะเผยให้เห็นพละกำลังและแง่มุมที่ไม่เคยได้ยิน ได้ฟังมาก่อนครับ

ปล. ส่วนใครซิสเต็มเล็กๆ แนะนำว่าไม่ต้องดิ้นรนครับ อยู่เฉยๆดีแล้วไม่เปลือง  ส่วนลำโพงที่ขับยากๆ sensitivity ระดับ 80-86 แล้วคิดว่า avr ขับไหว ก็ต้องลองด้วยตาด้วยหูคุณเองครับ   คุ้มไม่คุ้มอยู่ที่ตัวคุณเองจะตัดสินใจ ทุกอย่างมีข้อดีข้อเสียครับ

ราคาและสเปก Audyn MA9: http://www.whatthatsound.com/product/255/audyn-ma9








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 22, 2016, 09:32:15 am โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์


ส่ง SVS SB13ultra ซับวูฟเฟอร์ตู้ปิด 2 ตู้ไปให้ลูกค้าที่จังหวัดสุราษฏครับ    (SB13Ultra ของขาด เลยส่งไปให้หนึ่งตู้และรออีกตู้ของเข้าจึงส่งตามลงไป)

------------------------------------------------------------------
อ่านบทความนี้เต็มๆได้ที่เว็บไซต์: http://goo.gl/0VS4g6
------------------------------------------------------------------

ตัวนี้เป็นรุ่นท๊อปของซับวูฟเฟอร์แบบตู้ปิดของ SVS (Seal) เอกลักษณ์หรือจุดเด่นสำหรับใครที่ไม่เคยใช้ซับวูฟเฟอร์แบบตู้ปิด ก็คือเสียงมันจะสะอาดสะอ้าน กระชับ ไม่โฉ่งฉ่าง รายละเอียดเล็กๆน้อยๆของความถี่ต่ำจะแสดงออกมาได้ดี แบบพอเหมาะ กำลังดี ไม่มากหรือน้อยไป  บางคนเคยใช้และเอาไปเทียบกับตู้เปิด จะพบว่าช่วงแรกๆอาจยังไม่ชินและรู้สึกเหมือนเบสน้อยลง ไม่หนักเท่าเดิม   ก็ใช้ครับ บุคลิกของตู้ปิดมันเป็นแบบนั้น จะให้มันโครมๆ โฉ่งฉ่าง ตูมตามแบบตู้เปิดนั้นมันคงเป็นไปไม่ได้   
เสียงจะออกแนวสุภาพหน่อย ยามเบสลงก็แสดงอิทธิฤทธิได้จนคุณตกใจ  ยามเบสเดินเบาๆก็ให้รายละเอียดแบบสุภาพเรียบร้อยลุ่มลึก 

จุดเด่นคือรายละเอียด ความสะอาด ส่วนใหญ่คนใช้ซับแบบนี้ก็มักจะมุ่งเน้นเรื่องการฟังเพลงเป็นหลักด้วยครับ เพราะมันทำได้ดีกว่าตู้เปิด  เบสไม่ไปกวนรายละเอียดของลำโพงหลัก 

ส่วนเรื่องการดูหนังก็ทำได้ดีในแบบตู้ปิดของมัน  ต้องบอกว่าถ้าึคาดหวังว่ามันต้องตูมตาม โฉ่งฉ่างนั้นคุณคิดผิดนะ   
ถ้าคาดหวังตู้ปิดแบบที่ได้รายละเอียดเลิศๆ และเบสหนักจนพุ่งกระเพื่อม ขนหน้าแข๊งปลิว เบสมาทีหน้าหงาย เหมือนมีคนมาทุบหน้าอก เดินออกจากห้องแล้วตัวงอ  แบบนั้นคุณต้องจ่ายมากกว่าตู้เปิด 2-3 เท่า หรืออย่างน้อยๆซับแบบนั้นจะราคา 1 แสนขึ้นไป
สังเกตง่ายๆก็ซับแบรนด์ดังที่คุณก็รู้จักกันดีนั่นแหละ  แอมป์กำลังขับในตู้ที่จะเอาขับมันให้ได้เสียงแบบนั้นต้องว่ากันที่ 1000-2000 วัตต์ขึ้นไป   ดังนั้นราคาตู้ปิด คุณภาพเสียงแบบไฮเอ็นท์มันจึงไม่มีถูกแน่นอน




ถ้าซับในราคาต่ำกว่าแสน คุณต้องเลือก มันจะต้องได้อย่างเสียอย่าง  เอาหนักจนพุงปลิ้นเบสก็จะใหญ่และขาดรายละเอียดไปบ้าง
ถ้าเอารายละเอียด มันก็จะไม่หนักแบบถูกใจฮารดคอร์ 
บางยี่ห้อได้เบสนุ่มลึกก็เบสต้นไม่มีเลย (เดาออกมั๊ยยี่ห้ออะไร)

ยิ่งซับต่ำกว่า 2-3 หมื่นบาทนี่ยิ่งได้อย่างเสียสองอย่าง
 - ได้หนักก็เสียรายละเอียด
 - ได้รายละเอียดก็เบสต้นขาดอิมแพค 
 - บางตัวไม่มีทั้งอิมแพค ไม่มีทั้งรายละเอียด แถมซับยังเดินได้เองอีก (เดาออกมั๊ยละว่ายี่ห้ออะไร)
 - บางยี่ห้ออัดหนักๆมีป๊อกๆพล่อกๆอีก (เดากันต่อว่ายี่ห้ออะไร)
 - บางยี่ห้อเบสไม่กระชับ เน้นคลาง ดูหนังแผ่นดินไหวดีแต่ฟังเพลงเสียงกลอง เสียงกีตาร์เบสออกมาเป็นลูกติดกันเป็นพรืด (รู้ใช่มั๊ยว่าแบรนด์ไหน)
 - บางยี่ห้อ เสียงเบสกระชับ รายละเอียดดี แต่ใช้กับ AVR ที่สัญญาณเบสแรงๆ อย่าง HK เปิดหนังเบสเยอะๆบางเรื่องเช่น Transformer4 แล้วมันพล่อกๆทั้งเรื่องก็มี (อันนี้พูดไม่ได้ว่ายี่ห้ออะไร)




เอาเป็นว่าซับทุกตัวมีข้อดีข้อเสีย ไม่มีตัวไหนดีไปหมดทุกอย่าง ถ้าดีทุกอย่างข้อเสียมันคือแพงมากนั่นเอง 
หาจุดลงตัว และความต้องการของตัวเองให้เจอ  จะเอาไปเน้นดูหนังหรือฟังเพลง เน้น

ราคา SVS SB13Ultra:
http://www.whatthatsound.com/product/320/svs-sb-13ultra







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 28, 2016, 09:31:13 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์


จัดส่งขาตั้ง F6 MKII สำหรับวางลำโพงคู่หน้าขนาดกลางไปให้ลูกค้าที่สาทรครับ  ตัวนี้ลูกค้าเอาไปวาง Klipsch R15M โดยเฉพาะ   ขาตั้งมีความสูง 25 นิ้ว เป็นส่วนสูงมาตรฐานของขาตั้งสำหรับลำโพงคู่หน้าปกติทั่วไปครับ
ตอนเลือกขาตั้งสังเกตให้ดีนะครับ ว่ามันถูกสร้างมาเพื่อใช้วางลำโพงหน้า หรือลำโพงเซอราวด์  ถ้าวางลำโพงเซอราวด์ความสูงจะว่ากันที่ 34 นิ้วเป็นต้นไป เพราะเซอราวด์เราต้องวางให้สูงกว่าระดับหู 

ส่วนขาตั้งสำหรับวางลำโพงหน้าส่วนสูงจะประมาณ 20-25 นิ้ว เพราะเมื่อวางแล้ว ส่วนสุงของดอกลำโพงจะตรงกับระดับหูคนเราเกือบพอดี


ราคาและสเปกขาตั้ง F6 MKii: http://www.whatthatsound.com/product/152/stand-front-f-6-mkii







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 28, 2016, 09:40:37 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
จัดส่ง Klipsch RP-250C
ลำโพงเซ็นเตอร์รุ่นเล็กสุดในซีรี่ย์ Reference Premier ขนาดดอก 5.25 นิ้วไปให้ลูกค้าที่บางนาครับ  (รูปเซ็นเตอร์ตัวจริงใช้รูปแทนทั้งหมด)

สำหรับใครที่อยากรู้ว่าเซ็นเตอร์ Klipsch ดียังไง ก็ต้องบอกว่า มันให้เสียงชัด ละเอียด ชัดเจน ตรงไปตรงมา บันทึกมาแบบไหนก็แบบนั้น อาจจะดูติดบางหากใช้กับ AVR บางยี่ห้อ แต่มันคือเสียงที่บันทึกมาแบบนั้นจริงๆ  จะไม่ใหญ่โตดูอวบอิ่มเหมือนเซ็นเตอร์ของบางแบรนด์  ซึ่งก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลครับ แต่ส่วนตัว บุคลิกของเซ็นเตอร์ที่จะดูหนังมัน และสนุก เสียงควรจะต้องพุ่งสด และชัดเจน ได้ยินแก้วเสียงชัด และมีความเที่ยงตรง

เซ็นเตอร์ทุกตัวมีข้อดีข้อเสีย ตัวนี้ก็เช่นกัน เสียงชัดก็จริง แต่อาจจะติดแข๊งและสด ขาดความนุ่มนวลเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น แต่อย่าลืมว่า เราใช้ลำโพงเซ็นเตอร์ดูหนัง ไม่ได้ใช้ฟังเพลง 

ราคาและสเปก Klipsch R250c: http://www.whatthatsound.com/product/17/klipsch-reference-premier-rp-250c










« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 28, 2016, 09:55:58 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์


จัดส่ง Audyn MA3200 ให้ลูกค้าจากกาญจนบุรีครับ (ได้รับความอนุเคราะห์วิ่งเข้ามารับเองถึงที่เลย)

-----------------------------------------------------------------
อ่านบทความนี้เต็มๆ: http://goo.gl/cx50zH

บทความรีวิว Audyn MA3200: http://goo.gl/9Ga1R2
-----------------------------------------------------------------

Audyn Poweramp จะว่าไปตัวนี้ก็เป็นแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งสร้างชื่อเสียงในตลาดบ้านเราได้ไม่นาน คนส่วนใหญ่ถามผมกันว่า เอ๋ะ Audyn นี่ของประเทศอะไร เสียงเป็นไง ประกันยังไง ซื้อยังไง
ก็เข้าใจว่าอะไรหลายๆอย่างยังไม่เข้าที่เข้าทาง ต้องอาศัยเวลาสร้างชื่อ สร้างแบรนด์กันอีกสักพัก นาทีนี้ถ้าจะให้อธิบายว่า Audyn ดียังไง ผมคงไม่พูดอะไรมาก แต่อยากให้คนใช้ตัวจริงเสียงจริงมายืนยันเองดีกว่า ว่าทำไมถึงใช้ Audyn
สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นก็ไม่เท่าลองใช้เอง

การตลาดของ Auyn ทำให้ผมนึกถึงหลักการตลาด ที่ว่า "ปากต่อปากอย่างแท้จริง" คือไม่ลงทุนโปรโมท ซื้อสื่ออะไรกันมากมาย แต่ใช้ Product เป็นตัวชูโรง ขายตัวเองด้วยคุณภาพสินค้า ปล่อยสินค้าออกไปแล้วเงียบๆ ให้คนบอกกันเองปากต่อปาก
การรับประกันที่ถึงขนาดถ้าของมีปัญหา บริษัทวิ่ง service กันถึงบ้าน แบบนี้ จะไม่ให้ลูกค้าจดจำและบอกต่อก็ใจดำกันเกินไป




ประวัติของผู้บุกเบิกแบรนด์ Audyn ไม่ใช่เรื่องไกลตัวครับ หากพูดถึงชื่อแบรนด์ Magnet คงรู้จักกันทุกคน แบรนด์เครื่องเสียงคู่คนไทยมาช้านาน ผู้บริหารของ Audyn แยกตัวออกจากบริษัทมาก่อตั้งแบรนด์ของตัวเอง แบรนด์ Audyn ที่เพียว ผอม คล่องตัว และลดค่าใช้จ่ายในรูปแบบบริษัทขนาดใหญ่ออกไป

สินค้าหลายๆตัวก็เป็นผลงานการออกแบบของเค้า และภายหลังก็ได้รับการปรับปรุง พัฒนา ให้ดีขึ้น และตั้งราคให้เป็นมิตร และเข้าถึงได้ง่ายกว่า

ผมคงไม่โฆษณาให้เค้าไปมากกว่านี้ เพราะคงหาโดนหาว่า ขายของว่ะ แต่ใครเคยใช้จะเข้าใจจริงๆครับ

วันนี้ปิดท้ายด้วย Audyn MA3200 สวยๆ ที่ส่งให้ลูกค้า เอาไปใช้ขับ Klipsch RF82, Klipsch RC64 , Dual Subwoofer Klipsch R112 คู่กับ AVR Yamaha 3010




ปล นาทีนี้หลายคนคงมีคำถามว่าลำโพง Klipsch ไวอยู่แล้ว ขับง่ายอยู่แล้ว ทำไมต้องใช้ power amp ไม่เห็นจำเป็นเลย
ยังยืนยันคำเดิมครับ ลำโพงขับง่าย ไม่ได้แปลว่ามันใช้แอมป์กำลังขับต่ำๆแล้วเสียงจะดี ลองด้วยตัวเองแล้วจะทราบคำตอบครับ
ว่าแค่เสียงดังพอขับได้ กับเสียงออกเต็มศักยภาพของลำโพง มันต่างกันแค่ไหน

อย่าให้ใครมาหลอกขายลำโพงแพงๆ และบอกว่า พี่ใช้แอมป์ถูกๆก็ได้ ไม่ต้องแพง ลำโพงมันขับง่าย นะครับ อิอิ





















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 06, 2016, 09:20:53 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์


ช่วงนี้เราจัดส่ง Audyn QBass รัวๆเลยครับ วันก่อนจัดส่งไปนครปฐม และอุบล อย่างละตัว (Audyn เราจัดส่ง Kerry)
ตัวนี้จัดเป็นสินค้าขายดีอีกตัวครับ แต่เศร้าใจไม่มีรูปมาอวดลูกค้าไม่ส่งรูปมาอวดกันเลย อิอิ

แต่มีลูกค้าท่านนึงเล่าให้ฟังว่านำไปใช้กับ JBL 4645c แล้วชอบมาก ทำให้ซับสำแดงพลังกำลังออกมาได้ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก

ซึ่ง JBL 4645C ตัวนี้เป็นซับวูฟเฟอร์ Passive ในตำนาน (ซับ passive คือซับที่ไม่มีแอมป์ในตัว ต้องหาแอมป์มาขับมัน)
ใครที่ใครคร่ำหวอดในวงการมานานจะทราบดีว่า JBL 4645C นี่เป็นหนึ่งในอภิมหาซับวูฟเฟอร์อันดับหนึ่งตัวหนึ่งของเหล่านักเล่นลำโพง Home Theater ใครที่เคยใช้คงทราบดีถึงกิตติศัพท์ พละกำลังอันมหาศาลของมันดี

ตัวมันนั้นจะว่าไปก็เป็นกึ่งๆซับ PA Passive ที่ใช้งานในโรงหนัง
แต่ตัวนี้มันทลายข้อจำกัดของซับ PA ทั่วๆไปที่มันจุดเด่นตรง
PA มันจะมีแต่เบสต้นอย่างเดียวแต่ไม่มีเบสลึก อย่างดีก็ลงได้แค่ 30-50 Hz แต่พละกำลัง เบสต้นหนักหน่วง เร็ว กระชับแม้ดอกจะใหญ่โตแค่ไหนก็ตาม PA ส่วนใหญ่ใช้ขอบผ้า แข๊ง ทนทานกว่าขอบยางมากมายนัก เสียงเร็วจี๊ ไม่ยาน ไม่บวม หนัก อัดหน้าอกคุณได้จนตัวงอ พุงกระเพื่อม ขนแขนขนขาลุกไปหมด ใครนึกไม่ออกซับ PA เบสต้นแนวเสียงมันเป็นยังไง ก็ให้นึกไปถึงเบสในเวทีคอนเสริต์ดีๆ ไม่เอาเวทีเครื่องเสียงแบบงานวัดนะ เสียงในผับชั้นดี ที่เปิดเพลงตึบๆ หรือโรงภาพยนตร์ดีๆที่เบสมันกระแทกตัวนั่นแหละ




แต่เจ้า 4545C ตัวนี้มันดันถูกสร้างมาไม่เหมือน PA ทั่วไปตรงมันดันลงลึกได้เหมือนซับบ้าน และลึกกว่าซับบ้านทั่วไปซะอีก ลงลึกได้ 18 Hz
ผลลัพธ์ก็คือเราได้ซับที่เบสต้นหนักแบบมหากาฬ แรงเร็ว หนักหน่วง และลงลึกได้ไม่ผิดจากซับบ้านดีๆ ให้ความรู้สึกความถี่ Deep Bass ที่ทำให้ขนลุก บรรยากาศวังเวง รู้สึกเหมือนดึงเราตกเหว (อธิบายไม่ถูก แต่เบสลึกๆมันจะเหมือนดึงเราลงหลุม วูบลงไป คงนึกออกกันนะ)

นั่นละครับลูกค้าใช้ตัวนี้ ผสมกับ QBass บอกตรงๆว่าชอบ และอยากไปฟังมาก

หากลูกค้าท่านนี้ได้อ่าน จะเสียสละเวลาแชร์ความรู้สึกหรือแชร์รูปให้เพื่อนๆได้ยล จะขอบพระคุณมากครับ

------------------------------------------------------------------------
ราคาและสเปก Audyn QBass: http://www.whatthatsound.com/product/332/audyn-qbass

รีวิว Audyn QBass: http://goo.gl/o1maOW














« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 06, 2016, 09:25:28 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
จัดส่ง Klipsch RP-140SA
ให้ลูกค้าที่ประชาชื่นครับ ตัวนี้เป็นลำโพง Dolby Atmos Enabled แบบยิงเสียงขึ้นด้านบน เหมาะกับคนที่มีข้อจำกัดไม่สามารถ หรือไม่อยากไปเจาะฝ้าเพดานติดลำโพงแบบฝังฝ้าจริงๆครับ

ราคาลำโพง Klipsch Dolby Atmos Ebabled: http://www.whatthatsound.com/category/46/klipsch/klipsch-dolby-atmos

ราคาลำโพง Klipsch แบบฝังฝ้า: http://www.whatthatsound.com/category/57/klipsch/klipsch-in-wall-in-ceiling

ปล รูปลำโพงตอนแกะกล่องใช้รูปจากลูกค้าท่านอื่น
























« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 11, 2016, 08:24:43 am โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์


แผ่นซับเสียง เวิร์กจริงดิ??????
 
อันนี้บอกกันตรงๆแบบไม่อายเลยนะครับว่า  ห้องผมเนี่ยที่ใช้ถ่ายรูป ใช้เทส ใช้ดูหนังฟังเพลงทุกวันนี้ มันมีปัญหาเรื่องเสียงก้องอยู่บริเวณต้นๆห้อง นั่นคือตรงแถวที่วางเครื่องเสียง  มันก้องแค่ตรงนั้นแหละ  แต่ตรงนั่งฟังเนี่ยไม่มีปัญหาอะไร เวลาไปพูดหรือตบมือ หรือไปคุยโทรศัพท์แถวๆเครื่องเสียงก็จะได้ยินว่ามันก้อง

แต่ผมก็เป็นคนประเภทงกครับ หาวิธีแก้แบบบ้านๆ เอาพรมบ้าง เอากรอบรูปบ้าง เอาหมอนข้างอันใหญ่ๆบ้าง เอาหมอนอิงมาแอบวางไว้ตรงมุมห้อง (ใครตาดีช่างสังเกตจะเห็นว่ามุมห้องบางทีถ่ายรูปมาจะมีหมอนข้างอันยาวๆวางแปะไว้)

ก็นั่นละฮะท่านผู้ชม ก็ช่วยลดเสียงก้องได้ดีระดับนึงอยู่ เวลาดูหนังมันก็ไม่ค่อยอะไรเท่าไร่  แต่เวลาฟังเพลงเนี่ยมันก็ยังบวมๆ ก้องๆ เสียงกลางดูฟุ้งๆ ขาดมิติอยู่  และที่สำคัญคือมันก็ดูไม่ค่อยสบายตาเท่าไร แขกไปใครมาผู้หลักผู้ใหญ่มาดูห้องเค้าก็ร้องยี้ ไอ้นี้จน 555

จริงๆผมก็คิดๆมานานแล้วว่าจะหาวัสดุซับเสียงมาติด ประกอบกับได้คำแนะนำมาจากรุ่นพี่ท่านนึงที่ก็บอกให้หามาติดบริเวณหลังเครื่องเสียง
แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ติดซะที  ศึกษามาสักพักแล้วครับ เอาตรงๆคือ แม่มแพง อิอิ  พูดกันตรงๆนี่แหละ แผ่นที่มีขายที่ได้มาตรฐานในบ้านเรา เอาแบบที่มีผลเทส ผล laps รับรองและหน้าตาไฮโซน่าเอามาติดใช้ในห้อง และไม่ใช้ใยแก้วนะ ราคาสนนแผ่นทั่วๆไปก็ หลายร้อยไปจนเป็นพัน   ไอ้ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะได้ผลมั๊ย ก็ผลัดวันไปเรื่อยๆ




จนวันนี้สวรรค์มาโปรด ขอพูดแบบไม่อายเลยว่า  บริษัท Planet Green ได้ให้ความอนุเคราะห์ส่งตัวอย่างมาให้โชว์ และเทส หรือจะเอาไปทำอะไรก็แล้วแต่สะดวกผมนั่นแหละ  ก็แปลง่ายๆว่าให้ผมขายด้วย และก็ตามนิสัยผม เวลาได้ของฟรีมา ผมก็ต้องใช้ให้คุ้ม  ก็เนี่ยคับ...ตามรูปเลย ได้กับเค้ามากล่องนึง มีอยู่ 5 แผ่นใหญ่ๆ ขนาดแผ่นละ 60*60 ซึ่งเมื่อเทียบกับห้องเล็กๆของผมแล้ว ถ้าติดเฉพาะด้านหลังเครื่องมันก็พอดีแบบไม่ต่องอะไรมาก แต่ถ้าจะให้ดีถ้าได้ติดด้านข้าง ซ้ายกับขวา หรือได้เพิ่มอีกสักกล่องจะยิ่งดีนะครับ อิอิ


ทีนี้พอได้มาผมก็จัดการแกะกล่องและแกะมันออกมาทั้งหมด 5 แผ่นมาวางกองพิงไว้ข้างลำโพงข้างขวาก่อน แล้วพอดีๆช่วงนี้งานยุ่งๆก็เลยวางไว้แบบนั้นจนลืมไปเลยว่าวางไว้ตรงนั้น
ทีนี้พอว่างก็มานั่งทำงาน และจัดการเปิดเพลงบิ้วท์อารมณ์ไปด้วย นั่งเขียนงาน ทำอะไรไปด้วยตามประสา เปิดๆฟังไปก็รู้สึกว่า เฮ้ยทำไมเสียงมันเอียงว่ะ  หรือลำโพงเสียข้างนึงรึเปล่า  ก็เลยลองปรับเสียงที่โปรแกรม Player ที่ใช้เล่นให้เสียงออกลำโพงทีละข้าง ก็ถึงบางอ้อว่า ไอ้ลำโพงข้างที่เอาแผ่นอคูสติกทั้งหมดไปพิงไว้นะ มันเสียงถูกซับเสียงไปเยอะอยู่ จนเสียงสองข้างฟังออกมาไม่เท่ากัน (ข้างนึงหนา ฟุ้ง อีกข้างมันเรียว ชัดและเล็กโฟกัสชัดกว่าอย่างเห็นได้ชัด)

ทีนี้พอนึกได้ก็เลยจัดการเอามาแปะๆ ในจุดที่เป็นจุดบอดของห้อง (อันนี้ห้องผม ผมจะรู้ว่าจุดไหนก้อง ก็จัดการแปะเองได้ แต่ถ้าท่านที่เพิ่งสร้างห้องและไม่ใั่นใจ เราแนะนำว่าให้สอบถามผู้เชี่ยวชาญก่อนเพื่อคำนวณปริมาณที่ต้องใช้)

หลังจากแปะเสร็จ สิ่งที่ต้องบอกคือ เหมือนได้เปลี่ยนลำโพงใหม่เลยครับ เสียงดีขึ้นเหมือนไปนั่งฟังห้องคนอื่นที่ไม่ใช่ห้องเราเอง  สิ่งที่เปลี่ยนชัดๆคือ




   1. การฟังเพลง ชิ้นดนตรี รายละเอียดเล็กๆน้อยๆมันชัดเจนขึ้น ลอยขึ้นมาเห็นเป็นชิ้นเป็น layer ที่แยกจัดแจงได้ว่าอันไหนลอยมาก่อนมาหลัง อันไหนเล่นตำแหน่งไหน   บรรยากาศสงัดขึ้นเล็กน้อย  จากแต่เดิมที่ผมรู้สึกว่ามันลอยเกาะกลุ่มกันมาเป็นปื้นๆ ฟุ้งๆ มีรายละเอียด แต่มันปนกันอยู่สะเปะสะปะ

   2. เมื่อเดินไปฟังตรงบริเวณต้นกำเนิดเสียง แล้วฟังแบบ near field มันฟังเพราะ  และไม่ก้องเหมือนเดิม  แต่ก่อนจุดหน้าลำโพงจะก้องและลอยๆ ยิ่งเดินไปคุยอะไรตรงหน้าลำโพงนี่จะเห็นเลยว่า มันก้อง  พอเดินถอยมาก็ค่อยโอเคหน่อย แต่สิ่งที่เสียไปมันเสียไปตั้งแต่ตรงหน้าเครื่องแล้วไงครับ หลังห้องมันก็เหลือมาแค่ระดับนึง ขาดสิ่งที่ควรจะได้ ไม่ได้สิ่งที่ควรจะเป็นสมกับราคาข้างของในห้องเราเท่าที่ควร

   3. เบสมันเรียวและเล็ก กระชับ เป็นตัวเป็นตนขึ้น ตรงนี้ไมไ่ด้บอกว่ามันหนักขึ้นนะ แต่พอเบสมันชัดและเป็นรูปทรงดี เราก็เร่งได้เยอะ โดยไม่รู้สึกว่าเสียงมันแย่ หรือล้นจนเหนื่อย พอเร่งดังๆแล้วเบสมันเอาอยู่ มันก็ฟังมัน รู้สึกว่าหนักขึ้น ฟังสบายหูขึ้นครับ

 

 

ความเปลี่ยนแปลงของเสียงในการจัดการกับ อคูสติกห้องนั้นจะบอกว่าคุ้มก็ใช่ จะบอกว่าไม่คุ้มก็ใช่อีกเหมือนกัน เพราะสำหรับห้องทั่วๆไปที่ไม่ได้ถูกสร้างและเตรียมการมาสำหรับทำเป็นห้องดู หนังหรือฟังเพลงโดยเฉพาะนั้น ย่อมต้องมีจุดอ่อน ต้องมีเสียงก้อง มีการดูดซับเสียงที่ไม่โอเคเท่าไร่  เช่นห้องผม บางห้องก้องทั้งห้อง เปิดเพลงแล้วชิ้นดนตรีตีกัน ทำให้โฟกัส ชิ้นดนตรีไม่ชัด  บางห้องห้องเฉพาะหน้าห้อง หลังห้องตรงโซฟาไม่เป็นไร

การจัดการกับอคูสติกของห้องในห้องเหล่านี้ ผมบอกเลยว่า คุ้มเสียยิ่งกว่าเปลี่ยนเครื่องเสียงหรือลำโพงชุดใหม่แพงๆมากมายนัก เพราะเสียงที่ได้คุณจะไม่เชื่อเลยว่า เสียงของชุดเราจะดีขึ้นมาได้ขนาดนี้

เอาง่ายๆ เช่น ห้องประชุม หรือโรงหนัง โรงละคร ห้องฟังเพลง ห้องที่จัดการกับเสียงดีๆ คุณจะเห็นเลยว่าเสียงมันดีมากๆ เสียงชัด เรียว ความถี่ต่ำกระชับ ไม่ก้องไม่เบลอ แบบนี้เครื่องเสียงราคาไม่แพงยังเสียงดีได้เลยถ้ามาอยู่ในห้องแบบนี้ กลับกัน เครื่องเสียงไฮเอ็นท์แพงๆยิ่งเฺฉิดฉายและสุดยอดขึ้นไปได้อีก ถ้าได้อยู่ในห้องอคูสติกดีๆ

กลับกันบางห้องมีค่าซับเสียง และอคูสติกดีอยู่แล้ว เช่นห้องนอนบางห้อง (เพราะฟูกกับที่นอน หมอน พวกนี้มีค่าซับเสียงโดยธรรมชาติ และบางห้องใช้พื้นไม้ซึ่งมีคุณลักษณะพิเศษบางอย่าง) ห้องเหล่านี้มีค่าซับเสียงที่ดีแล้ว การติดซับเสียงเพิ่มอาจไม่ได้ช่วยอะไรเพิ่มสักเท่าไร่

แต่ถ้าห้องดนตรี ห้องดูหนังส่วนใหญ่จะคุมการซับเสียงให้อยู่ในระดับที่พอเหมาะ คือไม่ให้ dead คือซับมากเกินไปจนฟังแล้วไม่เป็นธรรมชาติ ห้วน เปิดแล้วไม่มีหางเสียงของชิ้นดนตรี ไม่มีประกายเหลืออยู่เลย แบบนี้ซับมากไปผลก็จะยิ่งเปลืองแอมป์เวลาพูดอะไรทีก็เหนื่อยด้วย  ห้องที่ซับเยอะๆแบบนี้ส่วนใหญ่จะเป็นห้องอัด ห้องซ้อมดนตรี

แต่ถ้าเป็นห้องดูหนัง หรือห้องฟังเพลงส่วนใหญ่จะซับแค่พอเหมาะแค่ 0.5-0.6 แค่นี้ ให้พอมีความเป็น live ให้มีหางเสียงให้มันเป็นธรรมชาติ



 

ถัดมาเรามารู้จักกันก่อนว่าวัสดุซับเสียงมันทำงานยังไง

วัสดุทุกชนิดสามารถซับเสียงได้ในระดับที่แตกต่างกันไป เมื่อคลื่นเสียงวิ่งกระทบวัสดุ จะมีบางส่วนของพลังงานเสียงถูกซับไว้ และที่เหลือจะสะท้อนออกไป ค่าการซับเสียงนั้นเราเรียกว่า NRC (Noise reduction coefficient)  มีค่าสูงสุดคือ 1 และน้อยสุดคือ 0

ถ้าวัสดุใดที่มีค่า NRC 1 ในทุกๆความถี่ วัสดุนั้นก็เปรียบเสมือนหลุมดำนั่นแหละครับ คือเสียงใดๆที่วิ่งไปกระทบตัวมัน จะถูกดูดซับอย่างสิ้นเชิงไม่มีอะไรหลุดรอดไปได้เลย ซึ่งวัสดุแบบที่ว่านั้นในโลกนี้ไม่น่าจะมีอยู่  อย่างมากก็มีค่าดูดซับเข้าใกล้ 1 ที่ความถี่ใดความถี่หนึ่ง แต่ไม่สามารถดูดซํบได้ทุกความถี่อย่างแน่นอน

และวัสดุใดๆที่มีค่า NRC 0 ก็แปลว่ามันไม่ซับเสียงอะไรเลยนั่นเอง
ทั่วไปค่า NRC จะต้องมีค่ามากกว่า 0.40 ถึงจะถือว่าเป็นวัสดุดูดซับเสียง (Acoustic) ถ้าต่ำกว่านี้ หูของมนุษย์ก็ไม่ค่อยจะรู้สึกถึงความแตกต่างเท่าไร่แล้ว ฉะนั้นเวลาดูค่า NRC มักจะมีค่า NRC ที่ความถี่ต่างๆมาให้

เช่น NRC 0.8 ที่ความถี่ 1000 Hz
NRC 0.3 ที่ความถี่ 200 Hz

นั่นแสดงว่าวัสดุชนิดนั้นสามารถดูดซับเสียงกลาง เสียงแหลมที่ความถี่ช่วงประมาณ 1000  เฮิร์ตได้ดีเยี่ยม แต่เมื่อความถี่ต่ำๆพวก upper bass อย่างซับวูฟเฟอร์นั้นกลับไม่สามารถดูดซับได้เท่าที่ควร  ซึ่งการซับเสียงเบสที่บวมก้องนั้นก็สามารถจัดการได้ด้วยวัสดุซับเสียงอีกประเภทที่เรียกว่า Bass Trap

 

 

ส่วนใหญ่เวลาเราซื้อลำโพงใหม่ หรือแอมป์ใหม่ เรามักจะไม่ค่อยเสียดายเท่าไร่ เพราะมันมาในรูปแบบของครับ แต่พอเราบอกว่า เฮ้ย เซ็ทอัพมั๊ย หรือจัดการอคูสติกห้องมั๊ย งบประมาณหลักพัน หรือหมื่นต้นๆ  หลายคนจะเริ่มมองแล้วว่า เฮ้ย แล้วมันจะได้อะไรมาบ้าง ของก็ไม่ได้ ได้แผ่นใยสังเคราะห์หลายแผ่น แปะแล้วจะย้ายห้องก็จะขายต่อก็ไม่ค่อยได้ 
ผมเข้าใจอารมณ์นี้ดีครับ เพราะผมก็เป็นเหมือนกัน  มันแพง แต่ไม่ได้ของ
แต่เอาเข้าจริง ตอนที่ได้แผ่นซับเสียงมาฟรีๆแล้วได้ลองใช้จริงๆ ความคิดผมเริ่มเปลี่ยนไปว่า  เออลำโพงดีๆที่ซื้อกันโครมๆ 5-6 หมื่นหรือเป็นแสน  แต่บางทีความแตกต่างยังสู้กับแผ่นอคูสติกที่ผมเอามาติด 5-6 แผ่นนี้ไม่ได้เลย  งบที่ผมได้มานี่ใช้เงินแค่ 5 พัน ย้ำว่าแค่ 5 พัน แต่มัน improve คุณภาพเสียงจากระบบของผมที่ตีเป็นเงินแล้วก็ประมาณ 2 แสนให้ดีขึ้น

ทีผ่านมาๆผมคิดว่า พวกอคูสติกเนี่ยเอาไว้หลังๆเหอะ ตามเก็บของ ตามเก็บลำโพง เก็บแอมป์ ใช้ของดีๆ พวกเสียงที่ Lose ก็ให้มัน lose ไป เราทุ่มไปเยอะๆ เสียงมันก็ดีเอง
จริงๆแบบนั้นมันก็ได้ครับ แต่มันเปลือง  วันนี้พอได้ลองฟังเสียงตอนแปะแผ่นอคูสติกแล้วบอกตรงๆว่าตื่นเต้น  เสียงเหมือนได้ลำโพงชุดใหม่เลย




 

ถามว่าคุ้มมั๊ย ต้องบอกเลยว่าเงิน 5-9 พันเนี่ยซื้อลำโพงระดับเริ่มต้นยังไม่ได้เลย ซับวูฟเฟอร์ก็คงได้แค่ JBL Sub10, Polk PSW110
หรือถ้าเล่น acsessories ก็จะได้แค่สายไฟ สายลำโพงระดับกลางๆ ระดับเริ่มต้นเอ้งงงเธอ

นี่ถ้าวันนี้ไม่ได้ของฟรีมาลองก็คงงมอยู่นานครับ ไม่กล้าลองเล่นซะที
แน่นอนว่าเสียงมันเป็นเรื่องที่จับต้องไม่ได้ แต่อย่าลืมว่าการจะจัดการกับสิ่งที่จับต้องไม่ได้นี่แหละสำคัญมากๆ  ของแบบนี้ต่อให้เขียนอีก 10 หน้า A4 ก็มองไม่เห็นภาพ นอกจากลองด้วยตัวเอง
แล้วคุณจะไม่แปลกใจว่าทำไมห้องอัด ห้องฟังเพลง หรือห้อง Home Theater ดีๆเค้าถึงต้องจัดการกับอคูสติกก่อนเป็นอันดับต้นๆ เพราะตราบใดก็ตามที่ห้องยังมีเสียงก้อง เบลอ บวมแล้ว  ต่อให้อภิมหาลำโพงเทพระดับไหนก็ตาม  ผมรับรองได้เลยว่า มันฟังไม่เพราะหรอก และดีไม่ดี... เสียงที่ได้อาจจะลดทอนลงไปหลายเท่าตัวก็เป็นได้



 

ทีนี้มีข้อดีแล้วก็ต้องไม่ลืมข้อเสียบ้าง  ข้อเสียก็คือ

1. บางที่เราไม่รู้ว่าห้องเราเนี่ยมันดีแล้วหรือยัง หรือมันก้องมากมั๊ย หรือต้องใช้วัสดุซับเสียงมากน้อยแค่ไหน
ผมแนะนำแบบนี้ว่าถ้าห้องคุณตั้งใจทำเป็นห้องดูหนัง หรือห้องฟังเพลงโดยเฉพาะ มีผนังรอบด้านปิดมิดชิด แบบนี้ดูไม่ยากครับ ลองไปพูดกันในห้อง หรือลองตบมือดูก็รู้ว่ามันก้องมั๊ย ถ้าพูดแล้วได้ยินเสียงตัวเองแว่วๆ หรือตบมือแล้วได้ยินเสียงวิ้งๆๆออกมาเป็นทอดๆ เหมือนอยู่ในถ้ำ หรืออยู่ในโบสถ์ ก็นั่นแหละครับ
แต่ถ้าห้องคุณเป็นห้องนั่งเล่น เปิดโล่ง มีเพดานสูง ทะลุบันไดออกไปแบบนี้อาจจะไม่จำเป็นครับ

2. การติดมากไปน้อยไปก็มีผล  การติดวัสดุซับเสียงน้อยไป หรือไม่ถูกจุด เช่นห้องคุณก้องแถวหน้าห้อง แต่ดันไปติดตรงโซฟา แบบนี้ก็ช่วยได้น้อยมาก
หรือการติดวัสดุซับเสียงน้อยเกินไปก็ทำให้ไม่เกิดผลที่รับรู้ได้ชัดเจน การติดมากแค่ไหนให้ดูขนาดห้องเป็นหลักครับ ทั่วๆไปห้อง 3*4 ถ้าติดบริเวณหน้าห้องหรือจุดกำเนิดเสียงอย่างเสียงอย่างเดียว ก้ใช้แผ่นซับเสียงขนาด 60*60 หรือ 60*120 แค่ 5-8 แผ่นก็เพียงพอแล้ว  แต่ถ้าดูแล้วว่าต้องติดด้านข้าง หรือด้านหลังด้วยก็คำนวณปริมาณเพิ่มเข้าไปตามพื้นที่ครับ
แต่อย่าลืมว่า ถ้าๆๆๆๆ ติดเยอะไป ผลเสียที่จะได้คือ มันจะ dead ฟังอะไรไม่เพราะเลย เหมือนเราเอาลำโพงไปเปิดกลางทุ่ง ถูกซับหายไปหมด เปลืองแอมป์ เครียด สงัดจนประสาทจะกิน   การฟังเพลงทั่วๆไปค่าซับเสียงควรอยู่ประมาณ 0.4-0.6 หรือ 0.7 ประมาณนี้ละครับ  ถ้าห้องอัด หรือห้องประชุม หรือห้องอื่นๆก็ต้องดูกันตามประเภทใช้งานต่อไป


3.  อย่าลืมนะว่าจะติดวัสดุซับเสียงนะ คุณต้องมั่นใจว่าจบกับห้องนั้นแล้ว  คือตกแต่งแล้ว ทำอะไรแล้ว มีเฟอร์มาลงครบแล้ว ไม่ใช่ผู้รับเหมาสร้างห้องเสร็จแล้วติดเลย แบบนี้หลังจากเอาข้าวของมาลง เอาเฟอร์มาลง ม่านประตู ตู้ โซฟามาลงแล้ว เสียงจะเปลี่ยนไปอีกเยอะเลยครับ


 

จบแล้วครับ  วันนี้ให้ข้อคิดไปว่า เราลงทุนเครื่องเสียงเป็นหมื่นเป็นแสน ซื้อเครื่อง ซื้อของมาเพราะหวังผลเรื่องเดียง เรื่อที่มองไม่เห็นนั่นคือ  "เสียง" (บางท่านอาจจะหวังผลเรื่องสวย และใช้ตกแต่งบ้าน หรือใช้คุยอวดกับเพื่อน อันนี้ก็ไม่ว่ากัน)
อย่าลืมว่าปัจจัยแรกที่มีผลต่อเสียง และเครื่องที่คุณซื้อมาก็คือห้อง ถ้าห้องไม่ดี อคูสติกไม่ได้ ใช้ของแพงยังไงก็เสียงไม่ดี    เหมือนที่เราไปลองฟังตามร้านนั่นแหละ เสียงดีมั๊ยละ  แล้วถ้าเรายก copy อุปกรณ์แบบนั้นเลยมาฟังในห้องนั่งเล่นในบ้าน ในห้องนอน เราแล้วมันเสียงดีเท่าเค้ามั๊ยครับ  เหตผลคือเรื่องห้อง เรื่องอคูสติกครับ

ลองดูแล้วคุณจะรู้ว่าวัสดุซับเสียงที่ดีนั้น มันสามารถทำให้เสียงมันเปลี่ยนเหมือนได้เครื่องใหม่ได้เลย































































« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 12, 2016, 07:23:59 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์


จัดส่ง Pre-Pro Marantz 7702 mkii  และลำโพงฝังฝ้า Klipsch CDT 5650 C II ไปให้ลูกค้าที่บางใหญ่ครับ

7702 mkii ตัวนี้เป็นสุดยอดปรีอีกตัวนึงที่คุ้มราคาในงบ 5-6 หมื่นบาท  ใครที่ติดจะก้าวเข้าไปสู่โลกของปรีโปรเซสเซอร์ต้องบอกว่าตัวนี้ห้ามพลาด กับระบบ 7.2.4 และรองรับ DTS-X , Dolby Atmos ครบๆ

ส่วนอีกตัวเป็น Klipsch CDT 5650 C II ลำโพงฝังฝ้าของ Klipsch ในตระกูล Reference II ที่ให้เสียงสด และดุดันตามสไตล์ลำโพงดูหนัง   ตัวนี้ใช้ทำเป็นลำโพงฝังฝ้าในระบบ Dolby Atmos ครับ  เป็นแบบฝังฝ้าโดยเฉพาะซึ่งจะให้เสียงสมจริงกว่าแบบ Dolby Atmos Enabled ที่จำลองเสียงโดยยิงเสียงขึ้นด้านบน แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการติดตั้ง เจาะฝ้าและเดินสายที่ยุ่งยากกว่าครับ

ราคา Marantz 7702 mkii: http://www.whatthatsound.com/product/253/marantz-av7702mkii

ราคา Klipsch CDT 5650 C II: http://www.whatthatsound.com/product/259/klipsch-cdt-5650-c-ii




















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 14, 2016, 09:08:32 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์


จัดส่ง Klipsch SoundBar R-4B  ลำโพงซาวด์บาร์ราคาประหยัดตัวนี้ไปให้ลูกค้าที่ดอนเมืองครับ   
หลังจากลูกค้าติดตั้งแล้วก็ส่งรูปสวยๆมาให้เราดูกัน 
ตัวนี้เป็นซาวด์บาร์ที่ตัวเล็ก ย่อมเยาว์ สามารถเชื่อมต่อบลูทูธได้ ต่อ optical กับทีวีได้  มีซับวูฟเฟอร์แบบ wireless มีรีโมท
มีฟังก์ชั่นบูทธเสียงพูด  จำลองเสียง 3 มิติ
แถมในกล่องยังให้เม้าทสำหรับติดผนัง  และมีหัวปลั๊กแบบ universal ที่ต่อใช้ได้ทั่วโลกครับ

ราคาและสเปก Klipsch R4B: http://www.whatthatsound.com/product/244/klipsch-r-4b-soundbar





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 14, 2016, 09:07:48 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์


บรรยากาศการจัดส่ง Marantz 7702 mk II  และ Klipsch CDT 5650 C II

 
เมื่อวันก่อนมีโอกาศได้ไปส่ง Marantz 7702 mk II  และ Klipsch CDT 5650 C II ให้ลูกค้าท่านหนึ่งที่แถวซอยวัดลาดปลาดุก  ซึ่งจะว่าไปก็อยู่ใกล้ๆร้านของเรานี่เอง

โจทย์ของลูกค้าท่านนี้คือต้องการจะดูหนังครับ จากเดิมที่มีซิสเต็มฟังเพลงอยู่ ตอนหลังเลยเพิ่มลำโพง Center และ Subwoofer เข้าไป  มาตอนนี้เลยจัด Pre-Pro เพิ่มเข้ามา และจะทำ Atmos ด้วย โดยข้าวของในห้องมีดังนี้

 - Power : Aragon 7 ch 200 watt

 - Pre : Marantz 7702 mk ii

 - Speaker : Audio Research, XAV, Paradig

 - Atmos Speaker : Klipsch CDT 5650 C II




ชุดนี้เราเข้าไปส่งและติดตั้งกันตอน 4 ทุ่มที่ห้องของลูกค้าเลยครับ เนื่องจากลูกค้าติดงานและเลิกดึกทุกวัน   เราจึงต้องเข้าไปจัดการส่งของและต่อทดลองกันให้เสียงออกกันก่อนในตอนกลางคืน 
ผลจากการลองฟัง ต้องบอกว่าแม้เสียงจะติดนุ่มจากลำโพงคู่หน้าไปนิด แต่รายละเอียด และพละกำลังที่ได้จาก Aragon นั้น เอาอยู่ครับ  แม้จะเป็นลำโพงที่ขับยากไปสักหน่อย แต่เนื้อเสียงใช้ได้ทีเดียว
ส่วนลำโพงเซ็นเตอร์ให้เสียงใหญ่ อิ่ม อวบตามสไตล์ซีรี่ย์ Monitor แต่จะขาดรายละเอียด ความสดไปสักนิด

หลังจากฟังไปสักพัก  Pre ยังใหม่มากๆ เปิดเครื่องครั้งแรก ลองเซ็ทอัพเบื้องต้นได้ไม่นานเวลาก็ล่วงเลยไปเกือบเที่ยงคืน  แนวเสียงมีแนวโน้มไปได้ดีมากๆพอสมควรครับ

วันนี้เราเลยเอารูปสวยๆของห้องนี้มาฝากกัน  หลังจากที่ติดตั้งลำโพง Atmos และเซ็ทอัพจริงจัง แล้วจะเอารูปบรรยากาศมาฝากกันอีกครั้ง


 

 7702 mkii ตัวนี้เป็นสุดยอดปรีอีกตัวนึงที่คุ้มราคาในงบ 5-6 หมื่นบาท ใครที่ติดจะก้าวเข้าไปสู่โลกของปรีโปรเซสเซอร์ต้องบอกว่าตัวนี้ห้ามพลาด กับระบบ 7.2.4 และรองรับ DTS-X , Dolby Atmos ครบๆ

ส่วนอีกตัวเป็น Klipsch CDT 5650 C II ลำโพงฝังฝ้าของ Klipsch ในตระกูล Reference II ที่ให้เสียงสด และดุดันตามสไตล์ลำโพงดูหนัง ตัวนี้ใช้ทำเป็นลำโพงฝังฝ้าในระบบ Dolby Atmos ครับ เป็นแบบฝังฝ้าโดยเฉพาะซึ่งจะให้เสียงสมจริงกว่าแบบ Dolby Atmos Enabled ที่จำลองเสียงโดยยิงเสียงขึ้นด้านบน แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการติดตั้ง เจาะฝ้าและเดินสายที่ยุ่งยากกว่าครับ

 

ราคาและสเปก Marantz 7702 mk ii: http://www.whatthatsound.com/product/253/marantz-av7702mkii

ราคาและสเปก Klipsch CDT 5650 C ii: http://www.whatthatsound.com/product/259/klipsch-cdt-5650-c-ii




























« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 16, 2016, 06:50:29 am โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
จัดส่ง Klipsch SoundBar R-4B ลำโพงซาวด์บาร์ราคาประหยัดตัวนี้ไปให้ลูกค้าที่ดอนเมืองครับ
หลังจากลูกค้าติดตั้งแล้วก็ส่งรูปสวยๆมาให้เราดูกัน
ตัวนี้เป็นซาวด์บาร์ที่ตัวเล็ก ย่อมเยาว์ สามารถเชื่อมต่อบลูทูธได้ ต่อ optical กับทีวีได้ มีซับวูฟเฟอร์แบบ wireless มีรีโมท
มีฟังก์ชั่นบูทธเสียงพูด จำลองเสียง 3 มิติ
แถมในกล่องยังให้เม้าทสำหรับติดผนัง และมีหัวปลั๊กแบบ universal ที่ต่อใช้ได้ทั่วโลกครับ

ราคาและสเปก Klipsch R4B: http://www.whatthatsound.com/product/244/klipsch-r-4b-soundbar








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 16, 2016, 01:21:59 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์


ส่ง Klipsch R20B SoundBar จ้า  ตัวนี้วิ่งส่งให้ลูกค้าเองเลยที่รามอินทรา   เรื่องเสียงของซาวด์บาร์ตัวนี้คงไม่ต้องพูดถึงแล้ว
แต่อันนี้ขอแอบเสียมารยาทหน่อย ลูกค้าสั่งตัวนี้ไว้ตั้งแต่วันอาทิตย์ แล้วลูกค้าก็ไปต่างจังหวัด โดยผมเข้าไปส่งของให้ลูกค้าวันจันทร์ โดยที่ไม่ได้เจอลูกค้า
ก็แอบเห็นบรรยากาศเล็กๆของห้องลูกค้าที่แกกระซิบมาบอกว่า แกเป็นแฟน klipsch  ใช้ชุดโฮม Reference อยู่แล้วด้วย

ไปถึงบ้านแก ก็เจอแม่บ้านมาต้อนรับ เปิดห้อง ช่วยยกของไปวาง เข้าไปในบ้านเป็นโฮมออฟฟิสที่อบอุ่นและน่าอยู่มากครับ
ในห้องแกก็ใช้ชุด klispch จริงๆ  บรรยากาศในห้องคือสัมผัสได้ถึงคนที่ชอบและหลงใหลในการฟังเพลงและดูหนังจริงๆ แม้จะไม่ได้ปราณีตบรรจง เป๋ะไปซะหมด  แต่ก็มีกลิ่นอายของความสุข ความอบอุ่นในการนั่งๆนอนๆ ทำงานไปดูหนังไป ฟังเพลงไปในห้องส่วนตัว     
ระหว่างทางกลับบ้าน ก็ขับรถกลับบ้านไปอมยิ้มไป แล้วก็กลับมานั่งเปิดหนังฟังเพลงในห้องส่วนตัวไปอย่างอิ่มใจครับ


ปล ห้องลูกค้าเกือบทุกท่านที่ผมได้มีโอกาศพบเจอ และบางท่านได้ถือวิศาสะถ่ายรูปมาแชร์ให้เพื่อนๆชมนั้น ทุกห้องล้วนมีเสน่ห์ในตัวของมันเองทั้งสิ้น จะ system ใหญ่ system เล็ก แต่ก็สัมผัสได้ถึงเป้าหมายและความชื่นชอบเดียวกันครับ


ราคาและสเปก R20B: http://www.whatthatsound.com/product/36/klipsch-r-20b
















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 24, 2016, 09:47:45 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์


จัดส่ง Klipsch RP-450C ไปให้ลูกค้าที่สาทรครับ

ห้องนี้ใครสังเกตดีๆอาจจะคุ้นหูคุ้นตา เพราะเปลี่ยนอุปกรณ์บ่อยมาก ฮาๆ การเดินทางช่างยาวไกลกว่าจะค้นพบตัวตนและความชอบ จนในที่สุดชุดนี้น่าจะลงตัวแล้ว เป็นชุดขนาดกำลังดีๆ พอเหมาะ ไม่ใหญ่ไม่เล็กไป 

คงไม่มีนักเล่นเครื่องเสียงคนไหนใช่มั๊ยครับ ที่ซื้อชุดใหม่แล้วชอบเลย จบเลย ทีเดียวจบ ไม่ต้องซื้ออีกแล้ว พอใจ  เพราะเราต้องใช้เวลาเรียนรู้ไม่มากก็น้อย  สิบปากว่าไม่เท่าศึกษาเอง ศึกษาเองไม่เท่าลองฟัง  ลองฟังมากแค่ไหนก็ไม่เท่ายกมาลองกับชุดและห้องของตัวเอง และนี่ก็เสน่ห์อย่างนึงของเครื่องเสียงครับ

หรือมีใครที่ซื้อทีเดียวแล้วจบ ไม่เคยผิดพลาดเลย ?

ราคา Klipsch RP-450C: http://www.whatthatsound.com/product/15/klipsch-reference-premier-rp-450c














« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 25, 2016, 02:30:22 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์



พาไปชมชุด Klipsch THX Ultra 2 และ Klipsch R-115sw กันครับ


เมื่อวันก่อนได้มีโอกาศไปส่งซับวูฟเฟอร์ Klipsch R115SW จำนวนสองตู้ด้วยตัวเอง (อีกแล้ว)

จะว่าไปทุกครั้งที่ผมไปส่งของเองนั้นก็ได้รับประสบการณ์ดีๆ ได้ชมห้องสวยๆ ได้เห็นความตั้งใจในการรังสรรค์ห้องโฮมดีๆ ที่เต็มไปด้วยไอเดีย และความชอบที่แตกต่างกันไปตามแต่รสนิยมและความต้องการของเจ้าของ

ซึ่งนี่ก็เป็นอีกครั้งนึงที่ผมได้ประสบการณ์ดีๆจากเจ้าของห้อง (ขอไม่เปิดเผย)

ซึ่งลูกค้าท่านนี้สั่ง Klipsch KL-650 THX Ultra II (ลำโพง LCR สำหรับแผงหน้าของระบบ THX) กับทางร้านไปเมื่อ 2-3 หรือ 4 เดือนก่อนนี่แหละ ความทรงจำผมก็เริ่มลางเลือนไปตามอายุขัย จนผมนึกว่าห้องนี้ทำเสร็จ ดูหนังฟังเพลงกันไปนานแล้วซะอีก  จนลูกค้าท่านนี้กลับมาสั่งซับวูฟเฟอร์ Klipsch R-115SW กับผมไปอีกสองตู้   ผมจึงนึกขึ้นได้และอยากจะเห็นว่าห้องนี้จะสวยและเสียงดีซักเพียงไหน


 

พอถึงวันนัดหมายผมก็ขับรถไปบ้านลูกค้า แกะกล่องเอาของไปรอในห้อง ซึ่งห้องตอนนี้ประมาณ 70-80% มีสายไฟ สายลำโพงเดินเตรียมไว้พร้อมเกือบจะเรียบร้อยแล้ว ขาดก็แต่แกะเอาข้าวของมาประกอบร่าง และเติมแผ่นอคูสติกเพื่อแก้อาการเสียงก้องอีกเล็กน้อยก็เป็นอันเสร็จพิธี  แต่ไอ้การประกอบร่างที่ว่านี้ เอาจริงๆผมก็ว่าเป็นงานหนักเอาเรื่องและเรียกเหงื่อได้ไม่น้อยทีเดียวครับ




ซิสเต็มของลูกค้าท่านนี้ประกอบด้วย (ขนาดห้อง 5.5 * 4.5)

  1. Pre Marantz 7702 mkii

  2. Power Audyn ma9

  3. Klipsch THX Ultra ii ทั้งระบบ 7 แชนแนล

  4. Klipsch Dual Subwoofer R115SW

  5. Klipsch Wireless WA-2




 

หลังจากดูรายการของไปแล้ว หลายคนคงเริ่มมีคำถามตงิดๆว่า ไอ้ชุด THX Ultra ii ของ Klispch เนี่ย ทำไมถึงไม่ใช่ซับวูฟเฟอร์ในชุดมันละ  เพราะในชุดมันก็มีซับที่จัดชุดเอาไว้  อันนี้ตอบแทนให้ว่า ส่วนใหญ่จะไม่นิยมเล่นซับในชุด THX Ultra ii เพราะซับในชุดมันนั้นเป็น Passive Sub ครับ คือซับมันก็ต้องซื้อแอมป์ในชุดมันมาขับซับโดยเฉพาะอีกหนึ่งตัวซึ่งสนนราคาแล้วคร่าวๆ ทั้งซับทั้งแอมป์ก็ปาไปแสนกว่าบาท  หลายคนจึงเลือกที่จะเอาซับวูฟเฟอร์ตัวอื่นที่ศักยภาพดีๆมาเล่นแทน ส่วนจะใช้ซับระดับไหนมาใช้นั้นก็แล้วแต่ความชอบและกำลังทรัพย์เลยครับ

ทีนี้จะเห็นว่าห้องนี้มีการเจาะช่องบิ้วลำโพงเซอราวด์ และลำโพง LCR ไว้เรียบร้อยสวยงาม คือลำโพงเกือบทั้งหมดจะถูกฝังเข้าไปแบบ in-wall ทั้งหมด ยกเว้นซับที่จะโผล่ออกมาอวดดอกลำโพงและให้เห็นศักยภาพของกำลังความถี่ต่ำกันนิดหน่อยพอหอมปากหอมคอ   ส่วนลำโพงหน้าทั้งหมดหลังติดตั้งจอขนาด 140 นิ้วไปแล้วนั้นจะบังและมองไม่เห็นลำโพงด้านหน้าเลยครับผม






รวมถึงลำโพงเซอราวด์ด้วย ที่เจาะช่องบิ้วไว้สวยงามไม่มียื่นล้ำออกมาให้เดินชนในความมืดหรือมองแล้วรู้สึกมีเหลี่ยมคมแต่อย่างใด

การเลือกของอีกอย่างของลูกค้าท่านนี้ที่ผมมองว่า เลือกได้ชาญฉลาด นั่นคือลูกค้าเลือกที่จะไม่ใช้สายซับวูฟเฟอร์กับ Dula subwoofer ทั้งคู่  แต่เลือกใช้ subwoofer kit WA2 ที่สร้างมาเป็น Wireless สำหรับซับของ Klipsch, Jamo, Energy โดยเฉพาะ  นั่นแปลว่าลูกค้าไม่ต้องจ่ายค่าสายซับแม้แต่บาทเดียวและไม่ต้องลากสายยาวๆจากหลังห้องซึ่งเป็นตำแหน่งวางเครื่องทั้งหมด ไปยังหน้าห้องที่ตำแหน่งของซับอีกด้วยครับ






ซึ่งเจ้า subwoofer kit WA2 ตัวนี้ลูกค้าหอบหิ้วซื้อมาจากเมืองนอกเอง แต่ถ้าหากใครสนใจ เราก็มีจำหน่ายครับ สั่งผ่านผู้นำเข้าบ้านเราได้ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับใครที่ระยะระหว่างเครื่องไปยังซับวูฟเฟอร์ยาวๆหลายเมตร จะประหยัดค่าสายได้พอสมควร  แต่ถ้าใครที่วางเครื่องด้านหน้าแล้วซับก็อยู่ด้านหน้าอีก วางซับไม่เกิน 1-3 เมตรจากเครื่อง แบบนี้แนะนำว่าไม่ต้องดิ้นรถใช้ wireless หรอกครับ ใช้สายเถอะ เพราะตามทฤษฐีแล้ว สายมันน่าจะ Loss น้อยกว่าสัญญาณ wirelss แต่เอาจริงๆ ผมว่าหูอย่างเราๆท่านๆจับความแตกต่างไม่ได้หรอก




สุดท้ายแม้จนแล้วจนรอดผมจะยังไม่ได้ลองฟังและเห็นศักยภาพของห้องดูหนังห้องนี้ แต่ขากลับก่อนจะลาจากเจ้าของบ้านออกมา ผมก็เห็นความมุ่งมั่นและความสุขเล็กๆ เวลาเจ้าของห้องเดินมุดไปมุดมา เลื่อนของเข้าออก เลือกอุปกรณ์โน่นนี้นั่น เวลาที่อยู่ในห้อง  และผมก็เชื่อแน่ว่า ห้องนี้ต้องเป็นห้องดูหนังห้องหนึ่งที่เสียงดีมากๆอย่างแน่นอน  แอบกระซิบว่าเร็วๆนี้คงมียอดฝีมือหลายท่านแวะเวียนกันมาช่วยลงมือลงแรงเซ็ทอัพและจูนเสียงกันจนลงตัวทั้งภาพและเสียง

และเมื่อวันนั้นมาถึงผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งเหลือเกินหากจะได้มีโอกาศได้กลับไปดู และลองฟังเสียงจากระบบที่เจ้าของได้ลงแรง ใส่ความตั้งใจลงไปในห้องนี้มากเสียจนผมคิดว่า เม็ดเงินที่จ่ายไปสำหรับห้องนี้ มันน้อยกว่าแรงใจที่เจ้าของใส่ลงไปเสียอีกครับ



 

ราคา Subwoofer Klipsch R115SW: http://www.whatthatsound.com/product/3/klipsch-r-115sw

ราคา Klipsch Wireless kit WA2: http://www.whatthatsound.com/product/331/klipsch-subwoofer-wireless-kit-wa-2

ราคา Klipsch THX Ultra II: http://www.whatthatsound.com/category/9/klipsch/klipsch-thx-ultra-2

ราคา Pre marantz 7702 mk ii: http://www.whatthatsound.com/category/15/marantz

ราคา audyn ma9: http://www.whatthatsound.com/product/255/audyn-ma9






























« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 25, 2016, 05:57:29 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์


จัดส่ง Klipsch RP-160M ลำโพงบุ๊กเชลฟ์ขนาดดอก 6.5 นิ้ว  ตัวตายตัวแทนของรุ่น RB-61 II อันเลื่องชื่อในเรื่องใช้ฟังเพลงก็ดี ดูหนังก็เยี่ยม  ด้วยดอกวูฟเฟอร์ขนาดที่ใหญ่กำลังดีและเหมาะสม

ถ้าถามว่าเสียงเป็นยังไง ก็ต้องบอกว่ารุ่นที่แล้วทำไว้ดีงามยังไง รุ่นนี้ก็ยังคงความดีงามเอาไว้แบบนั้น แต่จะลดความสดลงไปนิดนึง และเติมเบสกลมๆ กระชับๆฟังง่ายๆ ลดความคมสดขึ้นขอบที่ดูจะมากเกินไปถ้าจับกับแอมป์แนวสดๆอย่าง Pioneer, Yamaha  
ทำให้รุ่นใหม่ RP-160M นี้จับกับแอมป์ได้หลากหลายขึ้น และฟังได้โดยไม่บาดหู ไม่ว่าจะจับกับแอมป์อะไร   แถมหน้าตาก็สลัดคราบของจิ๊กโก๋ภูธรออกไป มาใส่แจ๊กเก็ตขรึมๆ ทำให้หน้าตาพอเอาไปตั้งในบ้านแล้ว  มีสง่าราศีขึ้นมา   เป็นที่ปลื้มและถูกใจกับเหล่าแม่บ้านมากขึ้น

ราคาและสเปก Klipsch RP-160M: http://www.whatthatsound.com/product/19/klipsch-reference-premier-rp-160m

















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 01, 2016, 05:48:42 am โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์


เมื่อวันก่อนจัดส่งแผ่นซับเสียง PlanetGren ขนาด 60*120 สีดำจำนวน 5 แผ่นไปให้พี่มงคลที่ลพบุรีครับ
ได้มีโอกาศคุยกับพี่มงคลว่าปกติที่ห้องซับเสียงอยู่แล้ว ใช้ basstrap ด้วย ปัญหาคือด้านหน้าห้อง บริเวณด้านเครื่อง มีเสียงก้องปรบมือแล้วก้อง พูดแล้วได้ยินเสียงตัวเอง เลยลองใช้แผ่นอคูสติกตัวนี้ไปติดตั้งดูเฉพาะด้านหน้าห้อง โดยทดแทนแผ่นอคูสติกเดิมที่ทำจากวัสดุคล้ายๆไม้ผสมกระดาษ (ของเดิมใช้ 60*60 ซ 10 แผ่น ตัวนี้จึงเอาไปติดแทนได้เลย)

ตัว Planet Green ทำจากวัสดุโพลีเอสเตอร์ ไม่ใช้ผ้าหุ้มแบบวัสดุซับเสียง และไม่ใช้ใยแก้ว ทำให้สามารถตัดด้วยคัตเตอร์ได้เลย เนื้อข้างในและเนื้อข้างนอกเหมือนกัน ไม่มีฝุ่นไม่มีผง และไม่ต้องถอดผ้าหุ้มเข้าๆออกๆ และได้คุณสมบัติของแผ่นซับเสียงที่ดีเทียบเท่ามาตรฐาน

ตัวนี้ส่งสีดำให้ไปจากตอนแรกที่เล็งๆว่าจะใช้สีเขียว แต่เนื่องจากลูกค้าจะใช้ห้องนี้ดูหนังด้วย จึงคิดว่าด้านหน้าห้องมีทีวีจึงควรใช้สีดำแทนมากกว่า
หลังจากติดตั้งเสร็จก็เป็นไปตามรูปด้านล่างเลย (ติดเฉพาะด้านหน้าก่อน)

โดยห้องนี้พี่มงคลมีลำโพงอยู่ถึงสามคู่สลับๆกันใช้ มีทั้งลำโพงฟังเพลงและลำโพงดูหนัง  ถือเป็นห้องที่น่าสนใจและเป็นห้องของคนที่รักเครื่องเสียงจริงๆครับ

แผ่นซับเสียง สำคัญจริงมั๊ย: http://goo.gl/Yf1W3H

ราคาแผ่นซับเสียง Planet Green (รวม Vat) จัดส่งฟรีกทม: http://www.whatthatsound.com/category/77/planet-green-acoustic-2






















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 01, 2016, 08:55:53 am โดย keamglad »