ผู้เขียน หัวข้อ: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Procella , SVS, Anthem, Parasound,Audyn  (อ่าน 330709 ครั้ง)

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #486 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2014, 11:18:31 am »

บรรยากาศจัดส่ง  SVS SB16Ultra ที่บางแค  เพราะเบสคือชีวิต




วันนี้เอาบรรยากาศสวยๆของการจัดส่ง SVS SB16 Ultra ไปให้ลูกค้าที่บางแคครับ (และพ่วงด้วย Klipsch WA-2, SVS Soundpath)

----------------------------------------------------------------
อ่านบทความนี้เต็มๆได้ที่นี้: https://goo.gl/c73U4b
----------------------------------------------------------------
 
โดยซิสเต็มลูกค้ามีดังนี้
----------------------------------
Pre: Anthem AVM60
Power: Emotiva XPA5 gen2, Anthem MCA525
Speakers: Klipsch THX KL650, KS525
Subwoofer: SVS SB16 Ultra, Klipsch R115SW
Source: Pioneer BD-LX88



 
SVS SB16 Ultra เป็นซับตู้ปิดรุ่นเรือธงใหญ่ที่สุดในไลน์ตู้ปิดของ SVS แล้ว ซึ่งตัวตู้หนักมากกก
ตอนที่เราไปส่งพบปัญหาว่าห้องลูกค้าอยู่ชั้นสาม และทางขึ้นบันไดนั้นแคบมากจนไม่สามารถยกขึ้นไปได้ จนเราต้องแก้ปัญหาด้วยการแกะกล่องกันข้างล่างและวางแผนยกกันขึ้นไปยังไง ไม่ให้มันมีรอยและไม่ให้มันกลิ้งตกลงมาซะก่อน

ตัวนี้เราต้องเตือนกันไว้ก่อนว่า คุณไม่มีทางยกมันด้วยตัวคนเดียวได้แน่นอนครับ ถ้ากำลังคิดว่าเดี๋ยวจะยกมันยกมันขึ้นบันได้คนเดียวขึ้นบ้าน เราขอบอกว่าหยุด อย่าได้คิดจะทำแบบนั้น
และการยกกล่องนั้นระวังอย่าเชื่อใจยกที่หูหิ้ว (พลาสติก) อย่างเดียว เพราะหูหิ้วมันก็มีสิทธิ์หลุดได้ ถ้าคุณยกขึ้นบันได้อยู่แล้วหูหิ้วหลุด คงจะนึกสภาพออกใช่มั๊ยครับว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับซับลูกนั้น
 
ซึ่งเคสผมนั้น หูหิ้วมันหลุดครับ แต่โชคดีที่ปีนี้ไม่ใช่ปีชองของผม ด้วยบุญเก่ายังเหลืออยู่ของผม 555 ตรงที่มันหลุดตอนที่กำลังจะยกขึ้น ทำให้รู้ตัวก่อน ยังดีที่มันไม่หลุดตอนยกๆอยู่
 
ทีนี้พอยกกันขึ้นไปถึงห้องฟังชั้นสามได้ ก็ลองต่อโดยยังไม่จัดการเรื่องตำแหน่งอะไรเลย เอามาวางปุ๊ปก็ต่อลองเสียบสายกันก่อน
ก่อนต่อก็จัดการจับมันเอียงตะแคงข้างและถอดปุ่มยางเดิมมันออก และใส่ SVS SoundPath เข้าไปใหม่ด้วยจะได้ไม่ต้องทำกันหลายรอบ
ตัวซับ SB16 Ultra นั้นสวยมากๆครับ เงาวับเป็นผิวเปียโน ยิ่งเปิดใช้งาน แสงสีฟ้าที่หน้าปัดก็ยิ่งขับให้ดูสวยน่าใช้ยิ่งขึ้นไปอีก




หลังจากนั้นเราก็จัดการสอนวิธีใช้งานเมนูของ SB16 Ultra โดยเริ่มจากการควบคุมผ่านแผงบนตัวซับเอง และการควบคุมผ่านรีโมทคอนโทรลที่มีมาให้ (อย่าลืมใส่ถ่าน)
และสุดท้ายการควบคุมผ่านแอปบนมือถือ ซึ่งแนะนำวิธีนี้เพราะสะดวกจริงๆ (อันนี้ลูกค้าทำการบ้านมาดีครับ แอบไปโหลดแอปมาลงบนไอโฟนไว้แล้ว) เราเลยจัดการเชื่อมต่อกับมือถือและสอนให้ลูกค้าคอนโทรลตัวซับบนมือถือไปเลย
 
 
เสร็จแล้วก็จัดการต่อ Klipsch WA-2 Wireless kit เข้ากับ pre Anthem AVM60 และ Klipsch R115SW โดยเราจะเอา R115SW ไปวางไว้ด้านหลังห้อง ตรงเตียงนอน
 
หลังจาก Install ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยลองต่อฟังก็พบว่าเบสนั้นคุมห้องและบรรยากาศเบสที่เตียงนอนนั้นค่อนข้างดี เพราะมีเบสจ่ออยู่ ช่วงที่เบสโหมมาทำให้เตียงสั่นเป็นจังหวะได้ ทำให้การดูหนังสนุกมากๆครับ
 
สุดท้ายอย่าลืมว่า เบสคือปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้การดูหนังในระบบ Multi channels สนุก และมัน ถึงแม้ว่าตัวมันจะถูกนับเป็นแค่ จุด1 (.1) ในซิสเต็ม แต่เจ้า .1 นี้แหละครับที่ทำหน้าถือแบกรับและเป็นฐานของย่านความถี่ทุกย่าน หากย่านเบสดี มีรายละเอียด เบลนต่อเข้ากับกลางแหลมได้ดี ไม่กวนกลางแหลม และกระชับฉับไว เมื่อนั้นกลางแหลมก็จะฟังดูดี มีรายละเอียดขึ้นไปด้วย




จะสังเกตว่าบางครั้งเราเปลี่ยนซับดีๆแล้วย่านอื่นมีรายละเอียดดีขึ้น ดูหนังสนุกสะใจขึ้น นั่นเป็นเพราะเบสที่ดีจะช่วยคลอ และเป็นฐาน เสริมบรรยากาศ และอุดรอยต่อระหว่างย่านความถี่ต่ำกับย่านอื่นให้มีน้ำหนักและน่าฟังยิ่งขึ้นไปด้วยครับ
 
ถ้าถามผมว่าอยากจะอัพซิสเต็มให้ดูหนังสนุก ควรจะอัพอะไรก่อน ผมก็จะบอกว่า ลำโพงที่สำคัญในระบบ multi channels ก็คงหนีไม่พ้น ซับ และเซ็นเตอร์ และคู่หน้านี่ละครับ



 
ราคา SVS SB16 Ultra: http://www.whatthatsound.com/product/480/svs-sb16-ultra

ราคา Klipsch R115SW:
http://www.whatthatsound.com/product/3/klipsch-r-115sw
 
ราคา Klipsch WA-2: http://www.whatthatsound.com/product/331/klipsch-subwoofer-wireless-kit-wa-2
 
ราคา SVS SoundPath: http://www.whatthatsound.com/product/369/svs-soundpath




















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 16, 2017, 07:17:52 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #487 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2014, 01:39:19 am »
สายไฟของคนรักเบส และคนรักการดูหนัง Acoustic Zen Tsunami MK iii




วันนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากลูกค้าให้ยืมสาย Acoustic Zen Tsunami mk iii มาทดสอบกัน  ซึ่งต้องออกตัวไว้ก่อนเพราะเดี้ยวจะมีคนค่อนขอดกันอีกว่าผู้นำเข้าให้ของมาเล่น หรือว่าได้ของมาฟรี เดี๋ยวมันต้องเขียนอวยของแน่ๆๆๆ

-----------------------------------------------------
อ่านบทความนี้เต็มๆที่นี่: https://goo.gl/lBHpGt
-----------------------------------------------------


ก็ว่ากันไปครับ สำหรับผมนั้นพวกเส้นสายที่ผมชอบเล่นและเห็นผมก็จะมีสายไฟ สายลำโพง และสายสัญญาณ (เรียงจากที่เห็นผลมากไปน้อยในทัศนส่วนตัว)
ซึ่งพวกเส้นสายพวกนี้จะเริ่มเห็นผลก็เมื่อซิสเต็มของคุณใหญ่ในระดับนึงนั่นแหละถึงจะเริ่มฟังออก และเห็นชัด แต่ถ้าซิสเต็มในระดับราคาหลักหมื่น ผมก็แนะนำกันตรงๆว่าไม่ต้องไปดิ้นรนหาของแพงมาเล่นให้มันเปลืองเงิน เพราะเส้นสายมันเป็นเรื่องของความแมทชิ่ง และมีผลไม่เกิน 5-15% (ไม่เกินนี้แน่นอน)

ทีนี้ไอ้ 5-15% เนี่ยมันจะฟังออกแค่ไหนก็อยู่ที่ซิสเต็มและห้องคุณ สมมติซิสเต็มคุณใหญ่มาก performance สูง ไอ้ 5-15% ของซิสเต็มก็เยอะขึ้นด้วยเพราะตัวคูณมันเยอะ  แต่ถ้าซิสเต็มหลักหมื่นหรือแสนต้นๆ พอคูณ 5-15% แล้วมันก็ออกมาน้อย ไม่ค่อยเห็นผลเท่าไร่
ดังนั้นจะเล่นเส้นสายก็ให้ดูกำลังทรัพย์ ดูซิสเต็มหลักของเรา และดูความแมทชิ่งให้ดีครับ เพราะไม่ใช่ว่าของแพงแล้วจะดีเสมอไป บางทีเลือกดีๆของราคาไม่แพงก็ให้เสียงที่ดีได้ และอย่าทุ่มกับเส้นสายจนเกินหน้าลำโพงหรือแอมป์ เพราะไม่ว่าสายจะแพงแค่ไหนก็ให้คุณภาพเสียงได้เท่าที่ลำโพงและแอมป์เราให้ได้นั่นเอง




ตัวสาย Acoustic Zen Tsunami MK III ต่อไปจะขอเรียกสั้นๆว่า Tsunami 3 นั้นเป็นสายไฟที่ได้มาและผมลองต่อกับซิสเต็มโดยเอาไปเสียบกับ Pre Anthem AVM60 เพราะคิดว่าน่าจะได้ผลการเทสที่ครอบคลุมมากที่สุดกว่าเอาไปเสียบกับซับหรือเพาเว่อร์

ซิสเต็มที่ทดสอบ
-----------------------------
  - Anthem AVM60
  - Emotiva XPA3,5
  - Klipch THX Ultra2
  - SVS SB16 Ultra
  - SVS SB13 Ultra

----------------------------





แนวเสียงของ Tsunami 3


  1. เป็นสายที่ให้เบสที่น่าฟังมากเส้นนึง  เพราะจากที่สัมผัสจากเบสของหนังที่เทสนั้นสัมผัสได้ถึงปริมาณเบสที่เพิ่มขึ้น แต่เบสที่เพิ่มขึ้นนั้นมาทั้งปริมาณและคุณภาพ  เป็นลูกกลมที่รัดแน่นเปี๊ย อิมแพคแรง กระชากแรง ตีหนัก ถ้าเป็นหนังกลองก็ฟาดแรง และขึงตึงขึ้น และฟาดจนได้กลิ่นไหม้ของหนังกลองเลย (เปรียบเทียบ เดี๊ยวจะหาว่าโม้)
เบสที่ได้เป็นก้อนกลม กระชับ แรง อิมแพคดี สายเบส สายดูหนังไม่ผิดหวังแน่นอนครับ ผมนั่งดู Man from Uncle, Transformer 4, Tron แล้วรู้สึกเบสมันแรง กระแทกกว่าเดิม กระชับ เก็บตัวเร็ว ดูสนุก ไม่สั่นค้างนานและปริมาณเยอะ ลากยาวจนเกินไป  ฉากที่เบสเยอะๆอย่างเรื่อง tron ที่ทำสงครามดิสท์กันนั้น เบสกระชากมาที SVS SB16, 13 ผมดึงผู้ชมจนรู้สึกว่าโซฟามันจมลงไปวูบบบบ แล้วก็ปล่อยเด้งขึ้นมาที่เดิม   เบสมาแบบนี้บ่อยๆก็รู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนเรือเหาะ บางช๊อตก็ตกใจ บางช๊อตก็หวิวๆ เบสแต่ละลูกที่มามันสนุก  ตื่นเต้น เร้าใจกว่าเดิมครับ

  2. กลางแหลม ที่มีมวล อิ่ม ฉ่ำไม่สด ไม่พุ่ง 
สายไฟเส้นนี้ช่วยลดสดจากซิสเต็มที่มีความสดและพุ่งเกินไปเช่นซิสเต็มลำโพงแนว cinema ลำโพง klipsch, แอมป์ Yamaha, Pioneer, Emotiva ได้ฉงัดนัก และดับสดมาอยู่ในชุดที่ฟังพอดี อิ่ม ฉ่ำ ปลายแหลมไม่บาดหู และมีมวลหนา ฟังสบาย 
และที่สำคัญพอมันรวมกับเบสที่กระชับ หนักแน่น แล้ว ทำให้กลางแหลมมันสมดุล และเนียนไร้รอยต่อได้เป็นอย่างดี  ฟังเพลิน สบายหู ไม่กัดหู ถ้าคนดูหนังที่มีซิสเต็มสดๆ สายไฟเส้นนี้จะแมทชิ่งมากๆ





  ข้อเสีย:
  1. ข้อเสียก็คือ สายเส้นใหญ่มาก
แข๊งมาก ผมพยายามลอง AB Test กับสายเส้นเดิมของผม สลับไปสลับมา ก้มไปเปลี่ยนสายไปมาหลายรอบเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงนั้นต่างกันอย่างไร ผลที่ได้คือ เวียนหัวครับเพราะสายแข๊ง เสียบยาก ต้องใช้ความพยายามในการเสียบมาก

  2. ราคาที่อาจต้องบอกว่า ไม่ค่อยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและธนบัตรในกระเป๋าตังเท่าไร่ สนนราคาค่าตัวอยู่ที่ 22,000 บาท ถ้าซิสเต็มไม่ใหญ่นัก อาจจะไม่คุ้มคตังค์ครับ เอาเงินไปอัพลำโพงอัพซับจะมันและเห็นผลกว่า

  3. ซิสเต็มที่เสียงทึบอยู่แล้ว หรือซิสเต็มที่เสียงหนา โทน warm ใช้สายเส้นนี้อาจจะรู้สึกว่าปลายแหลมติดทึบไปนิด





  ข้อดี:

  1. เบสคุณภาพเป็นเลิศ สำหรับคนรักเบสอย่างแท้จริง เบสผู้ดี ไม่ได้มาเยอะแล้วเก็บตัวช้า สกปรก แต่มาแบบเร็ว แรง อิมแพคหนัก แต่กระชับ สะอาด  บุคลิกแบบนี้เหมาะกับคอดูหนังอย่างที่สุด ดูหนังมันมากครับ

  2. เสียงกลางแหลมที่อิ่ม หนา และมีมวล ทำให้ฟังสบาย  และรู้สึกสเกลเสียงใหญ่โต บรรยากาศกำแพงห้องเหมือนจะใหญ่และกว้างขึ้นไปด้วย
และการที่เบสหนัก บุคลิกแบบนี้ส่วนใหญ่เราจะเจอในสายบางตัว แต่มันมักจะมาพร้อมกันระหว่างเบสหนักและเสียงกลางแหลมพุ่ง สด  บุคลิกแนวนี้จะฟังแล้วกัดหูมากครับ ฟังไม่ได้นานจะปวดหัว ปวดหู จนนั่งดูได้ไม่นาน แต่สายเส้นนี้ Tsunami 3 กลับมีความสมดุลของเบสหนัก และกลางแหลมที่อิ่ม ใหญ่ ไม่กัดหู ทำให้มันมีบุคลิกที่ฟังแล้วสบาย ดูหนังสนุก และในซิสเต็มที่เสียงสดๆ ก็ยังสามารถลดอาการกัดหูของปลายแหลมลงได้ด้วย

สรุป

สายเส้นนี้เหมาะกับคนที่ดูหนัง และชอบเสียงเบส  เหมาะกับเอามาเสียบ ปรี หรือ avr หรือซับวูฟเฟอร์ได้ดี  แต่หากซิสเต็มคุณเสียงสดจัดแนะนำให้เสียบปรีหรือ avr ดีกว่า  แต่ถ้าซิสเต็มคุณเสียงกลางแหลมดีอยู่แล้ว แนะนำให้เสียบซับแทนครับ
ราคาอาจจะสูงสักหน่อยสำหรับซิสเต็มระดับต้นหรือระดับกลาง ซึ่งเราก็ไม่แนะนำให้ลงทุนกับเส้นสายมาก เพราะมันไม่คุ้ม เอาเงินไปอัพลำโพงดีกว่า
แต่ถ้าซิสเต็มคุณเต็มที่แล้ว ลำโพงดี แอมป์ถึง และอยากรับรู้ถึงพลังอีกขีดจำกัดนึงของซิสเต็มที่เรามี อันนี้เชียร์เลยครับ โดยเฉพาะสาย cinema ที่เสียงสดๆนี่บอกเลยว่า ใช้สายเส้นนี้แล้วดูหนังมัน สนุกขึ้นอีกเยอะ โดยเฉพาะเบสที่เร้าใจสุดๆ

ราคา Acoustic Zen Tsunami MK III: http://www.whatthatsound.com/product/510/acoustic-zen-tsunami-mk-iii










« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 22, 2017, 10:41:54 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #488 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2014, 08:53:01 am »


จัดส่ง SVS PB13 Ultra (มือสอง) ลูกค้ามารับเอง
ตัวนี้เป็นซับบ้านที่ตัวใหญ่มากจริงๆ พลังเบสมากมายเหลือเฟือถ้าได้ห้องปิดและเซ็ทดีๆ รับรองว่าเบสขนลุกกันทุกคน
 
ส่วนใครที่ห้องใหญ่ๆต้องการปริมาณเบสเยอะๆ คลุมบริเวณกว้างๆได้ เช่นห้องนั่งเล่น ตัวนี้ก็ตอบสนองได้ดีครับ
ข้อเสียคือเบสเยอะมาก การเซ็ทต้องใช้ความชำนาญและเซ็ทให้ลงจริงๆ (ลงตัวนะ ไม่ใช่ลงเหวหรือลงกล่อง) เสียงที่ได้รับรองว่า สวรรค์ของคนรักการดูหนังครับ
 
ปล. ไม่เหมาะกับสายฟังเพลง เพราะปริมาณเบสเยอะ และโหดเกินไป คุมยาก
 
ปล2. รูปลำโพงกับ Dali ใช้รูปแทนจากต่างประเทศ
 
ราคา SVS PB13Ultra: http://www.whatthatsound.com/product/322/svs-pb-13ultra
















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 24, 2017, 11:08:20 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #489 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2014, 01:06:29 pm »
Placement Tips for a Center Channel Speaker




เป็นที่ทราบกันดีว่า ในระบบเสียงแบบ Multi Channels หรือที่เราเรียกกันง่ายๆติดปากว่า Home Theater นั่นเอง  ซึ่งก่อนอื่นจะเกริ่นพื้นฐานที่เป็นพื้นฐานแบบสุดๆเลยสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มเล่นว่า ในระบบ Home Theater ที่ใช้ดูหนังนั้น ลำโพงหลักๆที่เป็นพื้นฐานที่อย่างน้อยต้องใช้ในการดูภาพยนตร์นั้นก็ประกอบด้วย กันทั้งหมด 5.1 แชนแนลได้แก่

-------------------------------------------------------------
อ่านบทความนี้เต็มๆได้ที่นี่: https://goo.gl/pddt14
-------------------------------------------------------------

- Front (คู่หน้า): ใช้ถ่ายทอดบทเพลง เสียง sound track และเสียงเอฟเฟคหรือเสียงพูดที่เกิดขึ้นด้านหน้าซ้ายและขวา

- Center: ใช้ถ่ายทอดเสียงพูดทั้งหมดในภาพยนตร์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า รวมถึงเสียงร้องของนักร้อง และเสียงเอฟเฟคทั้งหมดทุกอย่างที่เกิดขึ้นด้านหน้า

- Surround: ใช้ถ่ายทอดเสียงด้านหลัง ไม่ว่าจะเป็นเสียงเอฟเฟค เสียงพูดหรือเสียงทุกอย่างทีเ่กิดขึ้นรอบๆ รวมถึงใช้แพนเสียงต่อเนื่องมาจากลำโพงแชนแนลอื่นๆ

- Subwoofer: ใช้ถ่ายทอดเสียงความถี่ต่ำทั้งหมดของหนัง โดยลำโพงซับวูฟเฟอร์จะรับหน้าที่ถ่ายทอดเฉพาะความถี่ต่ำๆที่ลำโพงหลักถ่ายทอดได้ไม่ดี  โดยเราจะสามารถกำหนดจุดนึงที่ให้ซับทำงาน และลำโพงหลักหยุดทำงาน จุดนั้นเรียกว่า Cross over เช่นเราตัด cross ที่ 80 Hz แปลว่าลำโพงหลักจะหยุดทำงานที่ 80 Hz ลงไป ส่วนซับจะเริ่มทำงานในช่วง 80 ลงมา  พูดง่ายๆก็เหมือนแตะมือสลับกันทำงานให้ลำโพงหลักที่ถนัดเสียงกลาง และแหลมทำงานในสิ่งที่ตนถนัด  ส่วนซับทำงานเฉพาะย่านต่ำนั่นเอง  ถ้าเซ็ท Cross over ได้ดีพอ ผลที่ได้ก็คือเสียงเบส ความถี่ต่ำจะเบลนได้ไร้รอยต่อ ฟังแล้วไม่หลอกหู  เบสแน่นกระชับตามที่ควรจะเป็น และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ จะไม่พลาดความถี่ใดความถี่หนึ่งที่หนังบันทึกเอาไว้นั่นเอง




 ซึ่งจะเห็นว่าลำโพงเซ็นเตอร์นั้นมีส่วนสำคัญมากๆที่สุดในระบบ Home Theater เพราะให้เสียงส่วนใหญ่กว่า 60-70% ของภาพยนตร์ที่บันทึกมา และที่สำคัญลำโพงเซ็นเตอร์เป็นลำโพงที่ทำงานเกือบจะตลอดเวลา เพราะในภาพยนตร์ทุกเรื่องต้องมีบทพูด หรือไม่ก็ต้องมีเสียงเอฟเฟคด้านหน้า หรือไม่ก็ต้องมีเสียงร้องของนักร้อง 
ดังนั้นการวางลำโพงเซ็นเตอร์ให้ได้เสียงที่ดีที่สุดจึงเป็นสิ่งจำเป็นมากในระบบ Home Theater  เราจะเห็นว่าลำโพงเซ็นเตอร์ส่วนใหญ่จะถูกดีไซน์ให้วางราบในแนวนอน นั่นเป็นเพราะเสียงที่ได้จะต้องกว้างและคลุมพื้นที่ด้านหน้า  การวางลำโพงเซ็นเตอร์ให้ได้เสียงที่ดี จะต้องไม่ฟ้องตำแหน่งของลำโพงเซ็นเตอร์
แต่ผู้ชมควรจะรู้สึกว่าเสียงพูดนั้นออกมาจากจอ ออกมาจากปากของนักแสดง และตรงกับภาพที่เกิดขึ้นจริงๆ ไม่ใช่เสียงออกมาต่ำกว่าจอ หรือลอยสูงกว่าจอ  หรือปากของนักแสดงในภาพยนตร์ที่กำลังเดินพูดอยู่ แต่ผู้ชมรู้สึกว่าเสียงนั้นหยุดอยู่กับที่และออกมาจากลำโพงเซ็นเตอร์อย่างเดียวโดยไม่ตามตัวนักแสดงไป
หรือบางครั้งเรารู้สึกว่าเวลาเรานั่งดูแล้วเสียงพูด เสียงเอฟเฟคไม่ชัดเจน แต่เพื่อนที่ยืนดูหรือเด็กที่นั่งอยู่กับพื้น กลับได้ยินเสียงพูดและเอฟเฟคชัดเจนกว่า

และทั้งหมดนี้คือความสำคัญของการเลือกลำโพงเซ็นเตอร์ให้มีคณภาพสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมถึงการเลือกวางลำโพงเซ็นเตอร์ให้ถูกต้องด้วย โดยวันนี้เรามี tips เล็กน้อยๆในการวางตำแหน่งเซ็นเตอร์ให้เสียงดีดังนี้ครับ




Center Channel Speaker Placement Tips
   
    1. หากห้องของคุณใช้จอ projector ประเภทจอรู หรือจอ transparent projection screen ตำแหน่งการติดตั้งเซ็นเตอร์ทีดีที่สุดก็คือ ตำแหน่งหลังจอ ระดับเดียวกับหู (วัดจากจุดเวลานั่งฟัง)



    2. สำหรับลำโพงเซ็นเตอร์ที่วางบนเฟอร์นิเจอร์ หรือชั้นวาง ซึ่งมักจะอยู่ในระดับที่ไม่เท่ากับหูของผู้ชม  ก็ให้ใช้วิธีแหงนขึ้นสำหรับกรณีชั้นวางที่ต่ำกว่าหูหรือทีวี  และใช้วิธีกดต่ำลงมา (หนุนท้าย) สำหรับชั้นวางที่อยู่สูงกว่าทีวีหรือระดับหู



    3.สำหรับลำโพงเซ็นเตอร์บางตัวที่มีขนาดใหญ่มากๆ เช่น Klipch RC64 ii, Paradigm studio นั้นมักจะหาที่วางบนชั้นแบบพอดีๆไม่ได้  กรณีนี้แนะนำให้ใช้ขาตั้งเซ็นเตอร์และตั้งระดับให้อยู่ในระดับที่พุ่งเข้าหาผู้ชมจะดีที่สุดครับ



    4.ลำโพงเซ็นเตอร์ควรจะวางให้ใกล้กับจอหรือระดับเดียวกับจอให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นสำหรับคนที่ใช้โปรเจคเตอร์ ตำแหน่งที่ดีที่สุดก็คือหลังจอ ส่วนคนที่ไม่ได้ใช้โปรเจคเตอร์ก็วางด้านหน้าในตำแหน่งใต้จอและยกทำมุมเชิดขึ้นมาให้พุ่งเข้าหาผุ้ชม



    5. หลีกเลี่ยงการวางลำโพงเซ็นเตอร์บนชั้นวางที่มีสิ่งของ หรืออุปกรณ์ใดๆมาวางกั้นหรือขวางทางเสียง เช่นตุ๊กตุ่น ตุ๊กตา หนังสือ หรืออุปกรณ์เครื่องเสียงใดๆที่มาวางขวางหน้าลำโพงเซ็นเตอร์เพราะจะมีผลต่อคลื่นเสียงที่สะท้อนออกจาตัวลำโพงนั่นเอง


    6. ในการวัดระดับเซ็นเตอร์ว่าควรทำมุมเท่าไร่นั้น ควรจะมีอุปกรณ์พวกเลเซอร์ยิง โดยยก pointer จากระดับหูให้พุ่งตรงไปที่ลำโพงเซ็นเตอร์จะช่วยได้มากครับ


บทความอ้างอิงและแปลจาก SVSSound : https://www.svsound.com/blogs/svs/placement-tips-for-a-center-channel-speaker








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 25, 2017, 10:04:37 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #490 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2014, 04:13:53 pm »


ส่ง Klipsch R110Sw ไปให้ลูกค้าที่กาญจนบุรีครับ (ส่งขนส่ง)
ตัวนี้ขนาดกระทัดรัด เสียงดุ แน่น กระชับ และเป็นซับขวัญใจคอหนังในราคาประหยัดตลอดกาลจริงๆครับ

ตัวซับใช้รูปแทนจากลูกค้าท่านอื่น

ราคา Klipsch R110SW: http://www.whatthatsound.com/product/5/klipsch-r-110sw










« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 26, 2017, 09:34:10 am โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #491 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2014, 06:53:54 pm »


จัดส่ง AVR Marantz SR7011 ไปให้ลูกค้าที่ประชาชื่นครับ
ตัวนี้ลูกค้าเลือกอยู่ระหว่าง Marantz 7011 ตัวนี้กับ Onkyo RZ810 และ Yamaha 3060 สุดท้ายก็มาเลือกที่ 7011 เพราะความสมดุลในเนื้อเสียง และรายละเอียดทุกอย่างมาแบบบาล้านซ์กันดี  ทำได้ดีทั้งดูหนัง และฟังเพลงก็ดีด้วย  ยิ่งโดยเฉพาะแนวเสียง Marantz รุ่นใหม่ๆตั้งแต่ 7010 เป็นต้นมานั้น เสียงการดูหนังก็ดุดันและดีขึ้นกว่ารุ่นเก่าๆที่ติดโทนนุ่มขึ้นมามากแล้วครับ

ถ้าใครไม่รู้จะเลือก AVR ตัวไหนดี เราแนะนำว่า Marantz ก็เป็นตัวเลือกนึงในตลาดที่เสียงดี คุ้มค่า คุ้มราคา และทำได้ดีทั้งดูหนังและฟังเพลง และรูปลักษ์ยังโดดเด่นสวยงามกว่าแบรนด์อื่นๆอีกด้วยครับ

ปล.  รุ่นนี้มาด้วยคุณสมบัติ 9.2 แชนแนล 125 วัตต์  (กำลังสำรองค่อนข้างดีกว่ายี่ห้ออื่น) พร้อมทั้ง DTS:X, Dolby Atmos, 4K และ HEOS

ราคา Marantz SR7011: http://www.whatthatsound.com/product/497/marantz-sr-7011








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 28, 2017, 07:00:56 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #492 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2014, 08:06:23 am »


จัดส่ง Klipsch R15M ไปให้ลูกค้าที่เชียงใหม่ครับ  ตัวนี้เป็นลำโพงบุ๊กเชลฟ์ยอดนิยมอีกตัวที่คุ้มค่าคุ้มราคาและเป็นที่นิยมในการนำไปทำ Surround มากๆๆ ทั้งเอาไปทำ SR, SB, Front higth หรือแม้แต่นำไปแขวนทำเป็นลำโพง atmos ก็มีคนนำไปทำเช่นกันครับ

ราคา Klipsch R15M: http://www.whatthatsound.com/product/171/klipsch-reference-r-15m
















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 28, 2017, 08:19:38 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #493 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2014, 11:21:37 am »
 [ปลื่ม]

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #494 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2014, 03:39:58 pm »


วันก่อนเราเอา SB2000 ตัวนี้ไปส่งให้ลูกค้าที่ปทุมธานีมา  โจทย์ลูกค้าคือจะเอาซับไปฟังเพลง ไม่ต้องการเบสแบบเว่อร์หรือเยอะเว่อร์ แต่ขอแบบมีรายละเอียด กำลังพอประมาณ ไม่ต้องการเอาไปถล่มห้อง หน้าตาสวยงาม

--------------------------------------------------------------------------------------
อ่านบทความนี้เต็มๆที่เว็บของเราได้ที่นี่: https://goo.gl/hLaltT
--------------------------------------------------------------------------------------

ซึ่งลำโพงของลูกค้าเป็นลำโพง DIY ครับ ใช้ดอก Proac มาทำเอง  สุ้มเสียงการฟังเพลงก้มีความเป็นดนตรีสูง  ส่วนซับ SB2000 ตู้ปิดตัวนี้แนวเสียงคือ เบสสะอาด กระชับ เร็ว ไม่แผ่ ใครชอบแผ่ๆไป paradigm เลยจ้า  เบสกำลังดี เบสออกแนวสุภาพ ไม่ได้บ้าพลัง  แต่ได้ลูกสะอาด กระชับ และลูกหนักๆก็มีมาให้ได้สะใจกัน  เหมาะกับห้องที่เล็กหน่อย ไม่ใหญ่มาก 

หน้าปัดด้านหลังเป็น analog หมุน จะไม่เหมือนกับรุ่นพี่ SVS SB13, 16 ultra ที่จะเป็นหน้าปัด digital มาให้  ผิวลำโพงไฮกลอสเปียโนสวยงามสมคำร่ำลือจริงๆ

เป็นซับอีกตัวที่ทำได้ดีทั้งดูหนัง และฟังเพลง เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่ไม่ชอบเบสล้นๆ เยอะๆหนักๆ แต่ชอบเบสแบบธรรมชาติ กระชับสะอาด ใช้ประจำการทั้งดูหนังและฟังเพลงได้ แถมตัวตู้เล็กกระทัดรัด ใช้ประดับบ้านได้ ยกง่าย เคลื่อนย้ายง่าย แต่ไม่เดินได้เหมือนซับบางตัว




สรุป เป็นซับผู้ดีที่โหดได้ ยามปกติก็เป็นซับที่สงบเสงี่ยม สุภาพ สะอาด กระชับ
ก็เป็นอีกตัวที่ควรจะพิจารณาสำหรับใครที่หาซับเสียงดีๆ สักตัวครับ

ราคา SVS SB2000: http://www.whatthatsound.com/product/319/svs-sb-2000








[/img]

















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 04, 2017, 12:16:18 am โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #495 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2014, 06:02:10 pm »



วันก่อนได้มีโอกาสไปส่ง Klipsch THX Ultra 2 KL525 ลำโพงบุ๊กเชลฟ์ให้ลูกค้าที่แถวบางแคครับ  ที่ผ่านมาลูกค้าสั่งของทีละอย่างและค่อยๆสะสมจนออกมาเป็นซิสเต็มดูหนัง 7.2.2 ถึงทุกวันนี้

วันที่ไปก็ต่อสายลำโพง ลองเทสกันเล่นๆยังไม่ได้หาที่วางและไม่ได้เซ็ทใดๆ  ระหว่างนั้นก็มีสายเข้า ผมจึงต้องขอตัวไปรับโทรศัพท์
ช่วงนั้นลูกค้าก็เปิดหนังเทสไป  ระหว่างการสนทนาบนสายโทรศัพท์ดำเนินไปผมก็สังเกตว่าเสียงดูหนังลูกค้าไม่เหมือนเดิมเลย จนได้ยินเสียงเบสจากฉากระเบิดจากแผ่น Test DTSX นั้นผมถึงกับต้องขอวางสายจากคู่สนทนาและเดินกลับมาถามเจ้าของห้องว่า โหหหห มันขนาดนีัเลยเหรอ .....

จะว่าไปนั้น ผมมาเยี่ยมและฟังซิสเต็มนี้หลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่ละครั้งนั้นลำโพงยังใหม่มาก ไม่พ้นเบิรน์ แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปจากคราวก่อนและคราวนี้ก็มีแค่ ตำแหน่งวางซับที่แนะนำให้ลูกค้าย้ายไปวางมุมซ้ายของห้อง และสาย AC ที่เพิ่งซื้อมาเสียบกับ Anthem AVM60  มีแค่นี้จริงๆ
แต่เสียงที่ได้นั้นแตกต่างกับคราวก่อนแบบหน้ามือเป็นหลังมือ   แนวเสียงของซิสเต็มที่ยังไม่ได้เซ็ทอัพชุดนี้ ให้โทนเสียงที่ดีมากแล้ว  ออกแนว cinema อย่างเต็มตัว  โดยเฉพาะกลางแหลม ที่สด ชัดขนาดได้ยินรายละเอียดของหนังเช่นเสียงยางล้อรถบทกับพื้นแบบละเอียดยิบ  และไฮไลท์คืออิมแพคของเบสที่หนักสุดๆ แน่น พั๊นซ์ ตูมมมแล้วจบอย่างรวดเร็ว ไว สะอาด  และที่สำคัญเบสของซิสเต็มนี้นอกจากจะไวและหนักแล้ว หลังจากระเบิดยังมีคลื่นความถี่ต่ำพุ่งสาดมาที่ผู้นั่งชมเป็นระลอกคลื่นให้รับรู้ได้แบบเร็วๆด้วย  นั่งๆดูอยู่รู้สึกสนุกมากครับ โดยเฉพาะระลอกคลื่นตรงนี้ ปกติเราจะเจอกับซับตู้เปิดที่บุคลิกแผ่ๆมาก  แต่ตัวนี้ได้ทั้งเบสต้น ไวกระชับ แต่มีระลอกคลื่นพุ่งมาแบบเร็วๆสาดใส่เราเหมือนระเบิดของจริงด้วย




ซึ่งซิสเต็มนี้น่าจะพ้นเบิรน์ และแมทชิ่งกันกับอุปกรณ์แต่ละชิ้นพอสมควรแล้ว โทนเสียงออกมาค่อนข้างดีและดูหนังสนุกมาก  คือสด ชัด ละเอียด เบสแรง ตามแนวซิสเต็มดูหนังจริงๆ ซึ่งอนาคตหากได้รับการเซ็ทอัพเพิ่มน่าจะไปได้อีกไกลทีเดียว
ก็ต้องยอมรับว่า ในบรรดาห้องของลูกค้าผมที่เคยไปฟังๆมา ห้องนี้ก็เป็นห้องนึงที่โทนเสียง ทั้งหลางแหลม และเบสถูกใจผมมากที่สุดห้องหนึ่งที่เคยฟังมาในรอบหลายปีทีเดียวครับ อาจจะล้นไปสำหรับซิสเต็มฟังเพลงหรือชุดทั่วๆไป แต่ถ้าเน้นดูหนังแล้วบอกเลยว่า สุดยอด  เห็นห้องแบบนี้แต่เสียงดีมากนะครับ (ห้องลูกค้าโชคดีตรงอคูสติกดีมากโดยไม่ต้องทำอะไร)

ซึ่งเรื่องสำคัญก็คงเป็นเรื่องของการแมทชิ่ง เพราะซิสเต็มดูหนังที่ดีนั้นไม่ใช่เบสหนักอย่างเดียวแล้วจะดูหนังสนุก หากลำโพงหลักโทนเสียงออกนุ่มนวล หรือเป็นลำโพงแนวฟังเพลง แนวนุ่มนวลแล้วเราบู๊ทหรือเซ็ทเบสให้เป็นแนวนี้ สิ่งที่จะพบกลับจะกลายเป็นว่าเบสหนักเกินไป กลบรายละเอียด เพราะโทนเสียงกลางแหลมนั้นไม่พุ่ง ไม่สด  พอเจอเบสหนัก ก็ฟังแล้วเหมือนจะอวบอ้วน อึดอัด รายละเอียดไม่ค่อยเปิด เหมือนลำโพงถูกขับไม่สุด ฟังแล้วขมุกขมัว มีแต่เบสกลบเต็มห้องไปหมด กลางแหลม



ดังนั้นการแมทชิ่งจึงเป็นเรื่องสำคัญพอๆกับการรับรู้จุดเด่นจุดด้อยของชุดของเราครับ หากชุดเราไม่สามารถรีดเค้นเสียงให้เหมือนชุดที่ประสิทธิภาพสูงกว่า แต่ไปเซ็ทและหวังให้ย่านใดย่านนึงทำได้แบบนั้น ผลที่ได้อาจจะไม่ดีเสมอไป    โทนเสียงทุกย่านควรเสมอกันและไม่มีย่านใดล้ำเกินหน้า
หากกลางแหลมสด เบสก็ควรจะมีและต้องหนัก ต้องไว ไม่เช่นนั้นเสียงก็จะบาง บาดหู  และฟังไมได้นาน
หรือหากซิสเต็มเบสหนักแต่กลางแหลมนุ่มนวลชวนฝัน ชวนฟังเพลง ก็จะไม่สามารถทะลุทะลวงออกมาให้ชัดเจนและทัดเทียมเบสได้ ซิสเต็มจะฟังท้วมๆกลายเป็นอึดอัดและรู้สึกฟังแล้วไม่สนุก อืดแทน  จนกลายเป็นว่าเราต้องปรับเบสลงให้เท่ากับกลางแหลม ซับแทนที่จะได้ทำงานเต็มที่ กลับต้องมาลด volume และลดการทำงานลงเพราะกลางแหลมมันได้แค่นั้นจริงๆ


ดังนั้นจะเห็นว่าลำโพงและชุดดูหนังแนว Cinema จึงมีแนวเสียงใกล้ๆกัน คือกลางแหลมที่ดี เร่งได้เยอะ ซับที่นำมาใช้คู่กันจึงจำเป็นที่จะต้องเลือกให้แม๊ท หากไม่ใช่ซับในชุดเค้าก็ควรเลือกซับที่ตอบสนองความถี่ต่ำได้เร็ว หนักแน่นพอครับ




ซึ่งซิสเต็มของห้องนี้ประกอบด้วย
------------------------------------------------------
1. Anthem AVM60
2. Emotiva XPA5 Gen2 (ขับ LCR)
3. Anthem MCA525 (ขับ SR, SB)
4. Klipsch THX KL650 (LCR)
5. Klipsch THX KL525 (Sr)
6. Klipsch THX KS525 (Sb)
7. SVS SB16 ultra + Soundpath
8. Klispch R115SW + WA2 Wireless kit
9. Klipsch RP140SA
10. AC cable: Acoustic Zen Tsunami 3, [^_^] 3TS
11. Speaker cable: [^_^], Technov
12. XLR Cable: [^_^]
13. Pioneer LX88

------------------------------------------------------

ราคา Anthem AVM60: http://www.whatthatsound.com/product/446/anthem-avm-60-2

ราคา Anthem MCA525: http://www.whatthatsound.com/product/441/anthem-mca525

ราคา SVS SB16 ultra: http://www.whatthatsound.com/product/480/svs-sb16-ultra

ราคา Klipsch THX KL650:
http://www.whatthatsound.com/product/43/klipsch-kl-650-thx-front-left-right-speakers

ราคา Klipsch THX KL525: http://www.whatthatsound.com/product/44/klipsch-kl-525-thx-bookshelf

ราคา Klipsch THX KS525: http://www.whatthatsound.com/product/42/klipsch-ks-525-thx-surround-speakers











« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 04, 2017, 12:37:25 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #496 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2014, 09:12:17 pm »


จัดส่ง SVS SB16 Ultra ไปให้ลูกค้าลูกค้าที่รังสิต คลอง3 ครับ
ตัวนี้เป็นซับที่แนะนำจริงๆว่าเหมาะกับซิสเต็มดูหนัง ไม่ว่าจะเป็นชุด Cinema หรือชุด Home Audio ทั่วๆไป นอกจากจะเสียงดี หนัก เร็ว อิมแพตดี กระชับ สวยแล้ว ยังน่าจะถูกใจคนเซ็ทอีก เพราะเซ็ทได้ละเอียดผ่านแอพได้ด้วยครับ
 
ต่อให้บรรยายอีกพันคำก็ไม่เท่ากับที่ได้ลองเองครับ ......... ถ้าคุณมีความสุขที่ได้ฟังเบสดีๆ เบสคุณภาพ เร็วๆกระชับ พั๊นซ์ๆ บอกเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน รางวัลจากเมืองนอกการันตีได้แทบจะทุกสำนักครับ
 
ปล สามรูปแรกรูปจริงจากห้องลูกค้า รูปอื่นใช้รูปแทน
 
ราคา SVS SB16 ultra: http://www.whatthatsound.com/product/480/svs-sb16-ultra














« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 04, 2017, 01:05:15 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #497 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2014, 08:44:32 am »


จัดส่ง Elac S10EQ ให้ลูกค้าที่รามอินทรา  ตัวนี้เป็นซับรุ่นเริ่มต้นใช้การออกแบบ แบบ Passive Radiator
ซึ่งจะมีสองดอก ดอกนึงดอกจริง อีกดอกนึงดอกที่ไม่ทำงานแต่จะทำหน้าที่สลายการสั่นค้างอันไม่พึงประสงค์  และมี app ใช้ปรับ eq ที่ตัวซับผ่านมือถือ

แนวเสียงก็สะอาดสะอ้านและสุภาพ หากใครชอบแนวตู้มๆเบสเยอะๆ ขอให้ข้ามไปครับ

ราคา Elac S10EQ: http://www.whatthatsound.com/product/315/elac-s10eq














« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 04, 2017, 01:22:54 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #498 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2014, 11:53:19 am »
บรรยากาศจัดส่ง Klipsch THX และ Klipsch RC-64 ที่ห้องดูหนังระบบ 7.2.4




วันก่อนเรามีโอกาศไปส่ง Klipsch THX Ultra 2 KL525 และลำโพงเซ็นเตอร์อย่าง Klipsch RC-64 ii ให้ลูกค้าแถววิภาครับ
ห้องนี้จริงๆ เป็นลูกค้าเก่าของเราเองที่ซื้อ Klipsch RF-7 II ไปเมื่อปีก่อนนี่เอง
วันนี้เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นตอนบ่านสามว่าอยากจะได้ Klipsch THX มาทำ Surround back และอยากจะลองเปลี่ยนลำโพงเซ็นเตอร์จากเดิม Paradigm มาเป็น Klipsch RC-64 II ดูบ้าง จะได้เข้ากับลำโพงคู่หน้าที่เป็น RF-7 II

หลังจากวางหูเราก็จัดส่งแบบด่วนให้ จัดของขึ้นรถ แล้วบึ่งไปบ้านลูกค้าประมาณ 6 โมงเย็นพอดิบพอดี  ไปถึงก็เห็นห้องที่คุ้นเคย อุปกรณ์ทุกอย่างยังอยู่ครบถ้วนสมบูรณ์เหมือนเดิมทุกประการ (ทนจริงๆ 555) ทั้งลำโพงหน้า เซ็นเตอร์และแอมป์ต่างๆ
จะมีเพิ่มขึ้นก็คือแต่เดิมลูกค้าเป็น 7.2 แต่ตอนนี้เพิ่มเติม Atmos ขึ้นมาแล้วเป็น 7.2.4  แต่หลักๆแล้วทุกอย่างก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมาก





ซิสเต็มลูกค้ามีดังนี้


------------------------------------
  1. Marantz 8802
  2. Audyn MA9
  3. Klipsch RF-7 II
  4. Klipsch RC-64 II
  5. Klipsch THX KL525
  6. Klipsch THX KS525
  7. Atmos XAV
  8. SVS Pb13 Ultra x 2

------------------------------------




ภายในห้องฟังลูกค้า ค่อนข้างเป็นห้องฟังที่ใหญ่ห้องนึง พื้นที่กะเอาว่าน่าจะประมาณ 5*7 เห็นจะได้ ขุมพลังขับเคลื่อนโดย Audyn MA9 ที่ใหญ่จนไม่รู้จะใหญ่ยังไง และภาคปรีก็ได้  Marantz 8802 มาควบคุมภาคเสียงทั้งหมด และกองหน้าเดิมนั้นเป็น Paradigm และ Klipsch RF-7 ii ที่เป็นลำโพงที่ใหญ่โตมากๆ ดอก 10 นิ้ว
หลังจากยกของเข้าห้องกันเสร็จ ก็จัดการ unpack กล่อง และวางเทียบกับเซ็นเตอร์ตัวเดิม ก่อนจะยก paradigm ลงจากชั้นวาง และอันเชิญ Klipsch RC-64 ii เข้าไปแทนที่  ซึ่งความกว้างของเซ็นเตอร์ทั้งสองตัวนี้กว้างเกือบจะเท่ากันเลย ทำให้พอวางลงบนชั้นวางแล้ว พอดีเด๋ะแบบไม่เกินและไม่ขาดจากชั้นวางเลยครับ

ส่วนขุมพลังความถี่ต่ำก็ผลักดันโดย SVS PB13 Ultra ซึ่งต้องบอกว่าเหมาะสมมากๆแล้ว เพราะห้องใหญ่มาก ถ้าใช้ตู้ปิดอาจจะไม่รอดได้  และตัว PB13 นี้เป็นซับตู้เปิดขนาดดอก 13 นิ้วที่ทรงพลังมากๆ และตัวใหญ่มากๆด้วย เบสลงทีคลื่นความถี่ต่ำแผ่มาตามพื้น พรึ่บๆๆๆๆๆๆๆๆ มาถึงหน้าแข้งแบบชัดเจน
ส่วนลำโพง Atmos นั้นใช้แบบแขวนและใช้ลำโพง XAV แทนลำโพงฝังฝ้า





หลังจากนั้นก็ช่วยกันเอาลำโพงเซอราว์เดิมออก (Klipsch RB61 ii) และเอา Klipsch THX KL525 มาแทน  ต่อสายลำโพงอะไรกันเรียบร้อยก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง เปิดหนังเทสกันเลยครับ ก่อนที่มันจะดึกไปกว่านี้
ด้วยเนื้อเสียงและความไวของลำโพง Klipsch RC-64 II นั้นมีความไว 97 dB ทำให้ความดังของเสียงนั้นดังกว่าของเดิม เนื้อเสียงของ RC-64 II ค่อนข้างสมจริงติดชัดเจน ละเอียด พุ่ง แต่เนื้อเสียงจะไม่บู๊ทเนื้อเสียงให้ใหญ่และอวบเท่าเซ็นเตอร์ตัวเดิม

กว่าจะเสร็จก็ล่วงเลยไปเกือบ 2 ทุ่ม ก็อำลาห้องลูกค้าท่านนี้และให้เบิร์นลำโพงกันไปก่อนแล้วค่อยว่ากันใหม่
ห้องดูหนังของลูกค้าเลือกใช้แต่ของดี ใส่ใจและแมทชิ่งแนวเสียงแตกต่างกันหลายตัว เพื่อไม่ให้เสียงออกโทนจัดและสดจนเกินไป มีไอเท็มหลายตัวที่ตัดสด และลดความจัดจ้านของซิสเต็มได้ดีเพราะ Klipsch นั้นก็รู้ๆกันอยู่ว่าโหด และเด่นกลางแหลม  ดังนั้นเบสจึงได้ SVS มาช่วย ส่วนภาคการ process เสียงก็ได้ Marantz 8802 ที่รู้ๆกันว่าเด่นเรื่องบรรยากาศ รายละเอียด และความพริ้ว ก็ช่วยลดความสดของ Klipsch ลงได้เช่นกันครับ
ดังนั้นซิสเต็มนี้จึงเป็นซิสเต็มที่ค่อนข้างมีความบาล้านซ์มาก และไม่เด่นไปด้านใดด้านหนึ่ง ทำให้ฟังสบาย มีความ flat ดูหนังได้นาน ไม่โหดเกินไป และก็ไม่นุ่มจนเกินไป  งานนี้ต้องขอชมทักษะในการแมทชิ่งและการเลือกอุปกรณ์ของเจ้าของจริงๆครับ  ยอมรับครับว่า Klipsch ก็ฟังง่ายสบายหู เสียงดีได้เช่นกัน





ปล. การแมทชิ่งคือสิ่งสำคัญที่สุดนะครับ ถ้าเราอยากได้เสียงเช่นไร ก็ต้องเลือกอุปกรณ์ให้ออกมาในโทนนั้น หากอยากได้ดุ อาจจไปด้วยแอมป์ทางฝั่งอเมริกันหรือแคนาดาอย่าง Anthem, Emotiva ก็รับรองว่าดุเด็ดสะเด็ดใจแน่
แต่หากบอกว่าอยากได้ความสมดุล ฟังง่าย ไม่ตูมตามนัก การเลือกใช้อุปกรณ์ที่เป็นหัวใจสำคัญอย่างปรีนั้นคือสิ่งสำคัญที่สุด  อย่าง Marantz ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะโทนเสียงค่อนข้างสมดุล ไม่จัดหรือตูมตามเกินไป

ส่วนความถี่ต่ำนั้น ขึ้นอยู่กับรสนิยมและความชอบของคุณเลยครับ ว่าคุณชอบแนวไหน  แต่แนะนำว่าหากเป็นซิสเต็มดุๆ แนวดูหนัง แนว cinema แนว THX นั้นขอจงเลือกซับวูฟเฟอร์ที่เป็นแนวดุดันเป็นหลักเท่านั้น จงอย่าไปใช้ซับแนวฟังเพลง ซับนุ่มๆ ละมุนๆ (ขอไม่ยกตัวอย่างเดี่ยวกระทบผู้นำเข้า) เพราะการใช้ซับแนวละมุน นุ่มๆกับชุดดูหนังที่โทนเสียงแนวดุดันนั้นจะทำบรรยากาศดูหนังนั้นดรอปลงมาเยอะมาก

และเหนืออื่นใดสิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกโทนเสียงของซิสเต็มนั่นก็คือลำโพง ลำโพงเป็นตัวเดียวที่มีผลที่สุด มีผลเยอะสุด ดังนั้นเลือกลำโพงผิดตัวเดียว ทั้งซิสเต็มจะผิดไปทั้งหมด เหมือนติดกระดุมผิดเม็ดแรก เม็ดอื่นก็ผิดตามๆกันไป  จงอย่าเห็นแก่ของถูกเลือกซื้อลำโพงรุ่นล่างๆเพราะมันถูก และคิดเอาเองว่าเสียงมันจะเหมือนรุ่นบนๆที่สร้างชื่อของแบรนด์นั้นๆ  สิ่งที่ควรลงทุนมากที่สุดในระบบ home theater คือลำโพงและแอมป์ ไม่ใช่เส้นสายหรือ Accessories ดังนั้นเลือกลำโพงให้ดีที่สุด ให้ตรงกับเสียงแนวที่ชอบที่สุด แล้วที่เหลือการแมทชิ่งจะง่ายไปกว่าครึ่งแล้วครับ




ปล2. คำพูดที่่ว่า เส้นสายนั้นไม่ควรเล่นเกิน 10-20% ของราคาซิมเต็มนั้นไม่ใช่คำกล่าวเกินจริง ผมคิดว่ามันคือกุศลโยบายอย่างนึงในการเตือนสตินักเล่นว่าจงอย่าทุ่มเทกับอะไรที่มันไม่ส่งผลมากในระบบ  ผมไม่ปฏิเสธว่าเส้นสายมันมีผล มีผลจริงๆครับ แต่เหตุผลที่เราไม่ควรทุ่มเทเม็ดเงินไปกับสายมากเกิน 10-20% ของราคาซิสเต็มนั้นเป็นเพราะว่า ส่วนใหญ่เส้นสายและอุปกรณ์นั้นมีผลกับเสียงในระบบไม่เกิน 10-20% นั่นเองครับ
ผมเคยเห็นคนใช้ Klipsch Quintet V, ใช้ polk tsi, ใช้ wharfedale diamond  แต่ใช้สาย Rocket 88  ถามว่าดีมั๊ย ดีครับ แต่ถ้ามาถามผม ผมจะบอกว่าเอาเงินซื้อสายแพงๆ มาซื้อสายถูกๆ สายทองแดงบ้านหม้อ แล้วเอาเงินนั้นไปซื้อลำโพงที่สูงกว่านี้จะเห็นผลกว่า

เส้นสายก็เหมือนน้ำมันรถ หรือกรองอากาศ ท่อไอเสีย ถามว่ามีผลมั๊ย มีครับ แค่เติมน้ำมันเกรดพรีเมี่ยมก็เห็นผลแล้วว่ารถมันวิ่งดีขึ้น แต่รถวิ่งดีขึ้นแค่ไหนครับ???? ตอบว่า มันวิ่งดีได้เท่าที่เครื่องยนตร์ เท่าที่รถเราจะดีได้นั้นแหละ

ส่วนเส้นสายจะช่วยให้ซิสเต็มเราฟังดีได้แค่ไหน ก็ตอบว่า ให้ดีได้เท่าที่ลำโพงเรา และแอมป์เรามันไปได้แค่นั้นแหละครับ ไม่มีทางที่เส้นสายหลักแสน จับลำโพงหลักหมื่นจะทำให้ลำโพงหลักหมื่นกลายเป็นหลักแสนไปได้
ตรงกันข้ามหากลำโพงหลักแสน จับกับสายหลักหมื่น ยังไงลำโพงก็ยังให้เสียงที่ดีกว่าขอข้างบนครับ และยิ่งลำโพงหลักแสนได้จับกับสายดีๆที่แมทชิ่งกัน ก็ยิ่งไปได้ไกลขึ้นไปอีกครับ

ที่กล่าวมานี้ไม่ได้จะบอกว่าเส้นสายไม่ดี ดีครับ แต่เล่นให้มีลิมิท เส้นสายก็เหมือนตัวคูณ 10-20% คือมากสุดที่มันให้ได้ ลำโพงและแอมป์ต่างหากคือของจริง performance ของลำโพงและแอมป์ยิ่งมาก พอเจอตัวคูณอย่างเส้นสายเข้าไปก็ยิ่งส่องประกายให้เสียงดีขึ้นมาก  
เล่นอย่างมีสติและให้สมเหตุสมผล ให้มีความสมดุล และที่สำคัญที่สุด เล่นให้ตรงกับความตรงการและความชอบของตัวเองครับ  อย่าเล่นเพราะร้านเชียร์ หรืออย่าเล่นเพราะเพื่อนชอบ เพราะคนที่ฟังและใช้ชีวิตอยู่กับเครื่องเสียงไปอีกเป็น 10 ปี นั้นคือคุณเอง...




ราคา Klipsch Rf-7 II: http://www.whatthatsound.com/product/7/klipsch-rf-7-ii-black

ราคา Klipsch RC-64 II: http://www.whatthatsound.com/product/22/klipsch-reference-rc-64-ii-black

ราคา Klipsch THX KL525: http://www.whatthatsound.com/product/44/klipsch-kl-525-thx-bookshelf

ราคา Klipsch THX KS525: http://www.whatthatsound.com/product/42/klipsch-ks-525-thx-surround-speakers

ราคา SVS PB13 Ultra: http://www.whatthatsound.com/product/322/svs-pb-13ultra

ราคา audyn MA9: http://www.whatthatsound.com/product/255/audyn-ma9





























« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 04, 2017, 03:53:14 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #499 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2014, 04:41:27 pm »


จัดส่ง Klipsch THX Ultra 2 KS525
ลำโพงเซอราวด์ไบโพล ไปให้ลูกค้าที่รังสิต และรอติดตั้งครับ

ตัวนี้ไม่ใช่ลำโพงเซอราวด์ธรรมดา แต่เป็นลำโพงที่ผ่านมาตรฐาน THX ของ Klipsch ที่ผลิตในอเมริกา (Made in USA) ใช้วัสดุ professional grade  และเกิดมาเพื่อเป็นลำโพงเซอราวด์ดูหนังแบบจริงจังโดยกำเนิด   
ตัวนี้ขอบอกว่าเป็น One of the best bipole surround speaker THX Certified Home Theater.

ราคา Klipsch THX Ultra 2 KS525: http://www.whatthatsound.com/product/42/klipsch-ks-525-thx-surround-speakers












« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 07, 2017, 10:42:36 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #500 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2014, 07:40:41 pm »


ส่ง Klipsch RS-62 ii รุ่นใหญ่ในอดีต (มือสอง) ไปให้ลูกค้าที่พุทธมณฑลสาย 2 ครับ

ตัวนี้เป็นลำโพงเซอราวด์แบบไบโพลรุ่นใหญ่ ขนาดดอก 6.5 นิ้วที่ปัจจุบันไม่มีขายและเลิกผลิตแล้ว  ให้เสียงเซอราวด์ใหญ่โต และเหมาะกับห้องใหญ่

ปล. ลูกค้าเดิมขายเพราะจะอัพไป THX











« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 07, 2017, 10:52:14 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #501 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2014, 08:53:50 am »


จัดส่ง Klipsch RC-64 ii ไปให้ลูกค้าที่ประชาชื่นครับ
ตัวนี้ลูกค้าจะอัพเกรดลำโพงเซ็นเตอร์ และตัดสินใจเลือกระหว่าง RP450C และ RC-64 ii  สุดท้ายก็มาจบที่ตัว RC-64 ii เพราะความพิเศษหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น 
  เป็นลำโพงรุ่นใหญ่ made in usa ใช้ผิวลำโพง furniture grade และใช้ทวีตเตอร์แบบใหญ่พิเศษ 1.75 นิ้ว ตัวเดียวกับรุ่นเรือธงที่อยู่ใน Klipsch RF7 ii (คนละไซส์กับ Ref premier) และใช้ดอกวูฟเฟอร์ 6.5 นิ้ว 4 ดอก

ใครอยากรู้สรรพคุณ และแนวเสียงของลำโพงตัวนี้เป็นอย่างไร คลิ๊กชมรีวิว Klipsch RC-64 ii

รีวิว Klipsch Rc-64 ii: http://www.whatthatsound.com/article/87/full-review-klipsch-rc-64-ii-by-whataposs-that-sound

ราคา Klipsch Rc-64 ii: http://www.whatthatsound.com/product/22/klipsch-reference-rc-64-ii-black













« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 08, 2017, 10:22:02 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #502 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2014, 12:43:45 pm »


จัดส่ง Power Emotiva XPA5 Gen2 มือหนึ่ง ให้ลูกค้าที่บางแคครับ

ตัวนี้เป็น power คู่บุญกับลำโพงตระกูล Klipsch
ใครใช้ลำโพง klipsch อยู่และมีความคิดว่า เอ๊ะจะใช้ power ตัวไหนดีที่ให้เสียงดูหนังมันหนักขึ้น สะใจ บรรยากาศเหมือนในโรง เฟี้ยวฟ้าว โครมคราม สะใจ เบสตุ๊บตั้บ  เสริมกับบุคลิกลำโพง
Emotiva คือเพาเวอร์ที่เหมาะที่สุดแล้ววววและ match กับ klipsch ที่สุด หากคุณมองหาความดิบ สด สะใจ หนักแน่นครับ


ปล. ยังเหลือ XPA5 gen2 มือหนึ่งเหลืออีกหนึ่งตัวสุดท้ายในสยามประเทศ (ปัจจุบันเป็น gen3 ราคาสุดโหดร้ายไปแล้ว) ใครสนใจติดต่อสอบถามเข้ามาได้




จริงๆส่วนตัวผมค่อนข้างลุ้นและอยากให้มีคนเอา Emotiva เข้ามาทำตลาดจริงๆจังๆเสียที (เอามาแบบเป็นตัวแทน) หรือหิ้วก็ได้แต่ไม่บวกราคาแบบบ้าเลือด สาเหตุเพราะมันเป็น poweramp ราคาย่อมเยาว์ และคุณภาพดีมากๆจริงๆ
คือมันจะโฆษณาว่าเป็น Poweramp สำหรับลำโพง cinema ยังได้เลย เพราะกำลังที่ดีมาก และแนวเสียงของมันเหมาะกับลำโพงแนวนี้อย่างยิ่ง (เหมาะดูหนัง)

สด มัน สะใจ รายละเอียดกลางแหลมเยอะ ชัดเจน บุคลิกแบบนี้เหมาะกับคนที่ชอบดูหนัง และแน่นอนว่าบุคลิกแบบนี้ก็ย่อมต้องมีคนไม่ชอบและเกลียดเสียงแนวนี้ เพราะเสียงมันจัดไป ไม่ถูกหูสำหรับขาละมุนและชอบแนวธรรมชาติแบบ flatๆ
ซึ่งในบ้านเรา Poweramp ที่ขายๆกันอยู่ไม่มีตัวไหนเลยที่ให้แนวเสียงแบบนี้ ถ้าไม่ทึบไปเลย ก็แหลมเบสบางไปเลย (ไม่เอ่ยชื่อ) ซึ่งมันก็แมทชิ่งลำโพงยากไปนิด
แต่ emo นี่จับกับลำโพงอะไรก็ร๊อคขึ้นอีก 50%

ซึ่งสายการผลิตของ Emo นั้นทำมา 3 generation แล้ว นับตั้งแต่
Gen1, Gen2, Gen3
ก็ตอนนี้ใครจะหาเก็บไว้ใช้งานในห้องดูหนังก็ต้องบอกว่าเสียงของทั้งสามเจนนั้นค่อนข้างต่างกัน

Gen1: เสียงสด จัด ชัด แหลมพุ่งมากที่สุด ดูหนังมันที่สุดแต่ข้อเสียคือเสียงติดแห้งและแข๊งไป และคนชอบเอาไปโมมากที่สุด เพราะมันถูก และโมแล้วขึ้น โมแล้วเสียงดี (ผมมีอยู่ตัวนึงที่โมแล้ว เออเสียงมันดีจริง เทียบอีกตัวที่ไม่โมเสียงจะแห้งๆแข๊งๆขึ้นขอบ) ถ้าจับกับ Klipsch นี่ยิ่งกว่าคำว่าร๊อค ราคาขายมือสองในบ้านเราต้องบอกว่าถูกยังกับ..... แต่คุณภาพดีกว่า power ราคาย่อมเยาว์บางยี่ห้อที่นิยมเล่นกันมากนัก

Gen2: เสียงสด จัด ชัด แหลมพุ่งน้อยลงกว่า gen1 เพราะใช้อุปกรณ์เปลี่ยนไป เสียงสมดุลมากขึ้น ฟังง่ายขึ้นนิดนึง แต่บุคลิกยังมันและดูหนังสนุก หน้าตาดูไฮโซขึ้น สวยขึ้น จับกับลำโพงได้ทุกประเภทง่ายขึ้น แต่ข้อเสียคือความมันสุดๆแบบ gen 1 มันหายไปนิดนึง (ไม่โหดเท่า) ราคาขายในบ้านเรามือสองก็ไม่แพงเลย

Gen3: เสียงมาแนวออดิโอมากขึ้น มีความเป็นดนตรีมากขึ้น ความสด มันลดหายไปอีกพอสมควร และที่สำคัญราคาอัพขึ้นเยอะพอสมควร และได้ข่าวว่าตัวแอมป์มีปัญหาจี่กับไฟบ้านเราพอสมควร ไม่รู้เป็นทุกเครื่องมั๊ย












« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 10, 2017, 10:45:59 pm โดย keamglad »

ออฟไลน์ keamglad

  • OLED TV member
  • *****
  • กระทู้: 3,720
  • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • ดูรายละเอียด
    • https://www.facebook.com/whatthatsoundstore
    • อีเมล์
Re: What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Furman, Cerwin, Harman, Onkyo, Yamaha, PSB
« ตอบกลับ #503 เมื่อ: พฤศจิกายน 21, 2014, 03:27:36 pm »




จัดส่ง Klipsch THX Ultra 2 ครบชุด 7 แชนแนล ไปที่คลองเตยครับ
ซิสเต็มนี้ลูกค้ากำลังสร้างห้องดูหนังอยู่ และตั้งใจเลือกลำโพงทั้งหมดเป็น Klipsch THX โดยเฉพาะ โดยซิสเต็มลูกค้าประกอบด้วย

LCR: Klipsch KL650 * 3
Surround: Klipsch KS525 * 2
Surround Back: Klipsch KS525 * 2

ในส่วนซับวูฟเฟอร์นั้นลูกค้า ตั้งใจไว้เป็น SVS SB16 ultra 2 ตัว รอห้องเสร็จจึงจะลงซับ
ซึ่งในบรรดาชุดดูหนัง 100% นั้นในบ้านเราที่อยู่ในช่วงราคาที่จับต้องได้ก็เห็นจะ มีจำหน่ายอยู่ไม่กี่แบรนด์ หลักๆก็หนีไม่พ้นแบรนด์ชื่อเหมือนสุกี้ และ Klispch เองก็เป็นอีกตัวเลือกนึงที่น่าสนใจ  เพราะในเมืองนอกนั้นราคาสองแบรนด์นี้ก็ไล่เลี่ยกัน ไม่ต่างกันเท่าไร่ แถมคุณภาพเสียงจะพอๆกัน หลังเซ็ทแล้วก็จะได้คุนภาพไล่เลี่ยกันด้วย  สิ่งที่ต่างกันก็จะเป็นโทนเสียงที่ทางฝั่ง Klipsch เลือกใช้ลำโพง horn ที่ให้โทนเสียงออกไปทางดุดัน สด และพุ่ง  ส่วนอีกฝั่งเป็นโดมนุ่มที่ให้เสียงไปทางฟังสบาย

จะเลือกตัวไหน ก็ลองตัดสินใจและดูความคุ้มค่าด้านราคาจำหน่ายในบ้านเรา และดูว่าเราชอบโทนเสียงแบบไหนก่อนตัดสินใจครับ

ราคา Klipsch THX ultra 2: http://www.whatthatsound.com/category/9/klipsch/klipsch-thx-ultra-2















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 10, 2017, 11:25:39 pm โดย keamglad »