What's That Sound ขาย Klipsch, KEF, Procella , SVS, Anthem, Parasound,Audyn

[keamglad]

The world’s finest Home cinema loudspeakers

“Procella speakers are the best cinema speakers we have heard”

P8: 130,000
P6: 90,000
P5: 60,000
P15: 250,000
P18: 350,000
DA-06: 120,000

[keamglad]

Klipsch Wireless Subwoofer รุ่นใหม่มาแล้ววครับ ประกอบด้วยกัน 2 รุ่นย่อยคือ

    - Klipsch R-10SWi ดอก 10 นิ้ว
    - Klipsch R-12SWi ดอก 12 นิ้ว




 
โดยซับไวรเลสรุ่นนี้จัดอยู่ในคลาสเดียวกับ R-10SW, R-12SW ให้แนวเสียงและคุณภาพแบบเดียวกัน
แต่เพิ่มเติมคือฟังก์ชั่น wireless เข้ามาให้ เพิ่มความสะดวกสบายไม่ต้องต่อสายซับให้ยาวๆ ลากไปวางตรงไหนก็ได้ตามที่ต้องการ (ที่วางต้องมีปลั๊กไฟ)
และนอกจากนั้นยังส่งซับวูฟเฟอร์รุ่นเล็ก มินิ มาเอาใจคนพื้นที่เล็กแต่ยังต้องการความถี่ต่ำอย่าง Klipsch R-8SW มาท้าชนกับซับราคาประหยัดในท้องตลาดอีกด้วย
 
ราคา Klipsch R-10SWi: http://www.whatthatsound.com/product/539/klipsch-r-10swi
 
ราคา Klipsch R-10SWi: http://www.whatthatsound.com/product/540/klipsch-r-12swi

[keamglad]

จัดส่ง SVS SB16 Ultra ไปให้ลูกค้าที่สีลม (ลูกค้ามารับเอง)
บุคลิกของ SB16 จะค่อนข้างแตกต่างจากซับรุ่นอื่นๆ ซึ่งเอาจริงๆซับแต่ละแบรนด์แต่ละยี่ห้อก็ไม่มีตัวใดที่ให้เสียงเหมือนกัน การเลือกซับจึงต้องเลือกจากความชอบและรสนิยมของเราเป็นหลัก
SB16 เบสต้นเด่นชัด สเกลเสียงใหญ่ ให้เบสที่ค่อนข้างไปทางดุดัน เน้นดูหนัง เป็นซับอีกตัวที่ถ้าหากใครชอบแนวนี้แล้ว จะหลงรักและหาซับที่บุคลิกแบบนี้ในราคาเท่าๆกันไม่ได้อีกแล้วครับ

-----------------------------------------------
SB16 Ultra: ใช้ดอก 16 นิ้ว วอยคอยล์ 8 นิ้ว
ลงลึก 16-460Hz ±3 dB Max SPL 129.9 dB
น้ำหนัก 56 กิโลกรัม รองรับ RCA, XLR
-----------------------------------------------

ราคา SVS SB16 Ultra: http://www.whatthatsound.com/product/480/svs-sb16-ultra

[keamglad]

Mini review Emotiva XPA3 Gen3 สั้นๆ เรียบๆง่ายๆ กลับสู่เบสิคของแอมป์ที่ปวงชนต้องการ



-------------------------------------------------------
อ่านบทความนี้เต็มๆที่นี่: https://goo.gl/68GOnu
-------------------------------------------------------

วันนี้อยู่ดีๆตื่นเช้าขึ้นมา  เราเปิดประตูออกไปก็เจอกล่อง Emo Gen3 วางอยู่หน้าห้อง ซึ่งเราได้รับความอนุเคราะห์อย่างสูงในการส่ง Emo XPA3 Gen3 ใหม่ล่าสุดมาให้แกะกล่องและรีวิว วันนี้เราเลยจะเขียนสั้นๆกระชับๆให้อ่านง่ายที่สุด เริ่มกันเลย...

Emotiva Gen3 ออกแบบใหม่ใช้อุปกรณ์เกรดออดิโอดีขึ้นกว่า เจน1 และเจน2 พละกำลังก็สูงขึ้นด้วย โดยพละกำลังจะขึ้นอยู่กับการเลือกจำนวนแชนแนลของเรา

  - 2 ch: 300 watt
  - 3 ch: 275 watt
  - 4 ch: 260 watt
  - 5 ch: 250 watt
  - 6 ch: 225 watt
  - 7 ch: 200 watt



จะเห็นว่าเจน3 นี้พละกำลังสูงขึ้น และสามารถเลือกจำนวนแชนแนลได้เอง โดยสามารถเข้าไปกดสั่งออนไลน์ได้ในเว็บของ Emotiva.com เค้าส่งทั่วโลก และไม่มีนโยบายเปิดรับดีลเลอร์ที่ไทย ถ้าอยากได้ก็สั่งไปได้เลย one price ครับ ราคาเดียวกันทั่วโลก ไม่มีลด  เราสั่งจ่ายตังแล้วเค้าถึงผลิต ไม่ใช่สั่งแล้วส่งเลบเหมือบ้านเรา ระยะเวลาผลิตก็ประมาณ 1-2 อาทิตย์  ในเว็บมีให้เลือกได้ว่าจะ Include ภาษีเลยหรือไปเสี่ยงจ่ายภาษีเองตอนเอาของเข้า ก็จัดการเลือกตามอัธยาศัย

เป็น Business Model ที่ใหม่และก้าวตามโลกอย่างแท้จริง อีกไม่เกิน 5-10 ปีเราอาจจะมีโชว์รูมไว้เทสเสียงและลองฟังน้อยลง แต่เน้นการสั่งของและส่งของด้วยระบบ Logistic โดยไม่ต้องเหนื่อยออกไปรถติดและแบกของหนักกลับบ้านเองอีกต่อไป แต่อาจจะเน้นระบบการยืมและลองฟังที่บ้านแบบเดโมมากกว่าระบบการค้าเครื่องเสียงยุคเก่าครับ




ตัวที่เราได้มานี้เป็น XPA3 กำลังจึงอยู่ที่ 275 วัตต์ โอ้ววววว กล้ามโตมั่กๆๆๆ  เรามีแอมป์ Emotiva ไว้เทียบครบทั้ง 3 เจนเลยครับ ทั้ง 1,2,3 ซึ่งเราก็เลยจะเทสและอธิบายให้ฟังว่าเจ้า XPA3 gen3 นี้มันต่างกัน Emo รุ่นเดิมๆยังไงบ้าง เริ่มเลย Let go!!

ระบบที่เราใช้เทส
--------------------------------------------
- Anthem AVM60
 - Emotiva xpa3,5 Gen1 (xpa3 โมแล้ว)
 - Emotiva XPA5 Gen2
 - Klipsch THX Ultra2
 - SVS SB16 Ultra
 - SVS SB13 Ultra
--------------------------------------------



1. พละกำลัง ด้วยความที่ xpa3 gen3 ที่เราใช้อยู่นี้ กำลังมันค่อนข้างจะกล้ามโตมาก 275 วัตต์ สิ่งแรกที่รู้สึกได้คือ มันเอาลำโพง Klipsch THX Ultra2 ได้อยู่หมัดยิ่งขึ้นไปอีก จากเดิมที่เราใช้ Emo xpa3 gen1 กำลัง 200 วัตต์ขับและคิดเองว่า "มันพอแล้ว" แต่พอได้ 275 วัตต์มาถีบ เรารู้สึกทันทีว่า "คิดผิด" ลำโพงมันยังไปได้อีกคร้าบบบ  สิ่งที่ได้เพิ่มจาก Power amp วัตต์เยอะขึ้นก็ขึ้นเสียงกลางต่ำ และเบสมันกระชับ หนักแน่นและหนาสเกลใหญ่โตขึ้น
ตอนนี้เบสจาก Klipsch THX จะแน่นและหนักกว่าเดิมไปอีก เสียงกลางอาจจะได้แนวเสียงจาก emo gen นี้มาทำให้เสียงกลางหนาและอวบกว่า gen1, 2 ไปอีกระดับนึง 
จุดเด่นคือเบส เยอะกว่า gen1, 2 อย่างเห็นได้ชัดๆๆๆ เสียงหนามาเลย อิมแพคดี แน่น เบสแบบนี้ถ้าให้ผมเทียบจะคล้ายกับ Anthem MCA series ครับ




2. กลางแหลม ความสด ความพุ่ง  เป็นที่น่ายินดีสำหรับคนที่เกลียดเสียงจัดๆ จ้าของเสียงแหลมใน emo gen ที่ผ่านๆมาว่า gen3 นี้เสียงไม่จัดแล้วครับ  เสียงลดจัดลงจาก gen2 นิดหน่อย   แต่ลดจัดจาก gen1 ลงมหาศาล
บางคนที่ติดว่า Emo โอ๊ยเสียงมันจัด ฟังไมไ่ด้หรอก ผมจะบอกว่ามาฟัง gen3 แล้วจะรู้ว่าเสียงมันค่อนข้างบาล้านซ์มากลางๆ สมดุลแล้ว (มีนักเซ็ทท่านนึงบอก โอ๊ยอีโม แอมป์มีแต่เสียงแหลม แต่ส่วนตัวผมก็ชอบ gen1 นะครับ)

แต่เดียวก่อนสมดุลของผมคือสมดุลของ amplifier ทื่เป็นแนวดูหนัง แนว cinema ไม่ใช่สมดุลในแบบเสียงนุ่มๆฟังสบายเหมือน onkyo, maratnz หรือแอมป์บ้านเรา
และก็ไม่ใช่เสียงสมดุลแบบฟังเน้นรายละเอียด เน้นกลางแหลมแต่เบสไม่ตูมตามอย่าง Rotel
ดังนั้นคำว่าสมดุลของผมคือ สมดุลที่เหมาะกับการมาจับกับลำโพงอะไรก็ได้ ที่เน้นเอาไว้ใช้งานดูหนัง ยังเน้นความสด ความคม เน้นรายละเอียด เน้นเบส เน้นความจริงจัง ความชัด ไม่ใช่เน้นความนุ่มนวล ฟังเอารายละเอียด หรือฟังเรื่อยๆ สบายๆหูแนวฟังเพลงครับ




3. รายละเอียด ความสมดุลเสียง หลายคนคิดว่า พอแหลมมันลด รายละเอียดต้องลดแน่นอน  เท่าที่ลองฟัง รายละเอียดมาครบครับ มาเท่าๆกับที่ซิสเต็มและลำโพงเราจะให้ได้ 
ดังนั้นข้อนี้จึงสนับสนุนว่า บาล้านซ์ของ emotiva gen3 นั้นทำมาได้สมดุลแล้ว คือลดสด เพิ่มเบส เพิ่มความหนาของเสียง แต่รายละเอียดยังเยอะและครบๆอยู่

ซึ่งเอาจริงๆเลยผมว่าถ้า emo gen3 ตัวนี้ปรับกลางแหลมให้มันสดและพุ่งน้อยกว่านี้อีกนิ้ดดดดด นิดนึง นิดเดียว  เสียงจะไปละม้ายคล้าย Anthme MCA Series เลย แทบแยกไม่ออกว่านี่คือแอมป์อะไร เพราะ Anthem MCA ที่ผมฟังมาหลายซิสเต็มนั้น บุคลิกที่เด่นชัดของมันคือ เบส อิมแพค และโทนเสียงติดไปทางหนา อุ่น และค่อนข้างจะไม่สดเกินไป  พูดง่ายๆคือเป็นแอมป์ที่กำลังดี หนัก และเน้นไปทางกลางต่ำมากกว่า กลางแหลมนั่นเอง




สุดท้ายจากการที่ได้ทดสอบ Emo gen3 และเทียบกับ emo gen1,2 นั้น ถ้าถามว่าผมชอบตัวไหนมากที่สุด ก็ต้องตอบว่ามีดีไปคนละอย่าง ส่วนตัวชอบกลางแหลมสดๆของ Gen1 แต่ไม่ชอบเสียงแห้งๆเกร็งๆฟังไม่มีน้ำมีนวลของมัน (ถ้าเอา gen1 ไปโม เสียงจะดีมาก)
ส่วน gen3 นั้นชอบในพละกำลังและพลังเบสของมัน
ถ้าได้กลางแหลมจาก gen 1 และกำลังจาก gen 3 ผมเชื่อว่าจะเป็นแอมป์ดูหนังที่สุดยอดอีกตัวนึง

แต่สุดท้ายนี่คือความชอบส่วนตัว และผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่น่าจะชอบอะไรที่มันบาล้านซ์และสมดุลมากกว่า เพราะสุดท้ายอะไรที่มันเบสิคจะอยู่และฟังได้นานกว่าครับ  อย่างเช่น Emotiva Gen3 ที่แม้จะไม่สดมาก แต่ก็เป็น power amp ที่เกิดมาพร้อมกับมัดกล้ามและพละกำลังเพื่อดูหนังอย่างแท้จริง

 

[keamglad]

จัดส่ง Klipsch THX Subwoofer KW120 และ KA1000 (Amp) ไปให้ลูกค้าที่พนัสนิคมครับ



ตัวนี้ลูกค้าสั่งไปสองตู้ ใช้เป็น dual subwoofer ใช้ร่วมกับลำโพง Klipsch THX KL525 (LCR)
โดยระบบลูกค้าใช้ Anthem MCA50 และ AVR Anthem MRX710
ซิสเต็มลูกค้าจะดูดิบๆหน่อย เพราะเก็บของเข้าห้องแต่ยังไม่ได้จัดวางทำห้องอะไร เลยใช้งานแบบดิบๆแบบนี้ไปก่อน

ส่วนตัว Klipsch THX Subwoofer เป็นซับแบบ Passive หรือต้องใช้แอมป์มาขับ ข้อดีก็คือไม่ต้องเสียบปลั๊ก ใช้สายลำโพงที่แถมมาให้ต่อจากแอมป์ KA1000 เข้าซับแล้วใช้งานได้เลย ในตัว KA1000 ให้กำลัง 1000 วัตต์ 2 แชนแนล สามารถต่อซับออกได้ถึง 2 ตัวพร้อมกัน
และยังมีภาค cross over ให้มาในตัวแอมป์เลย สามารถตัดครอส และปรับเซ็ทเฟสอะไรได้ตามต้องการ



ข้อดีของซับแบบ Passive คือทนทานนานปี อึด กำลังสำรองมั่นใจได้ว่าเพียงพอและมากพอเพราะแยกแอมป์ออกมาจากตัวตู้ขับต่างหาก หากส่วนใดส่วนหนึ่งเสียก็สามารถแยกกันซ่อมได้ ไม่เหมือนซับแอคทีฟที่ต้องส่งซ่อมยกตู้ ซึ่งส่วนใหญ่ลำโพง Passive นั้นตัวลำโพงยังไม่เคยเห็นใครเสียเลย (ยกเว้นทำตกหรือเสียบไฟ 110)

แนวเสียงของ Klipsch THX มาแนวนุ่มลึก แน่น ฟังสบายหู ไม่คม แต่ได้บรรยากาศ ได้มวลเต็มอิ่ม ให้อารมณ์โรงภาพยนตร์ พละกำลังเหลือเฟือ เบสไว และชัดเจน

สำหรับใครที่ชอบและอยากทำระบบดูหนังดีๆสักห้อง เราอยากให้ลองพิจารณา Klipsch THX Ultra 2 เป็นทางเลือกครับ เพราะเราเชื่อว่าในบรรดาลำโพงดูหนังแนว cinema ในบ้านเราที่อยู่ในเกรดและคลาสเดียวกันทั้ง 3 ตัวนั้น Klipsch THX ไม่แพ้ และไม่เป็นสองรองใครแน่นอน โดยเฉพาะแนวเสียงของ klipsch ที่สด พุ่ง หนักแน่น ใหญ่โตสะใจกว่าคู่แข่งอีกด้วย
-----------------------------------------------------------------
อ่านรีวิว Klipsch THX Subwoofer ได้ที่นี่: http://www.whatthatsound.com/product/46/klipsch-ka-1000-thx-amplifier
-----------------------------------------------------------------



ราคา Klipsch THX KW120: http://www.whatthatsound.com/product/45/klipsch-kw-120-thx-subwoofer

ราคา Klipsch THX KA1000: http://www.whatthatsound.com/product/46/klipsch-ka-1000-thx-amplifier

[keamglad]

 

[keamglad]

จัดส่ง Klipsch R15PM และ Subwoofer Klipsch R110SW ไปให้ลูกค้าที่ชลบุรีครับ

R15PM เป็นลำโพง Active ที่เล่นง่าย ฟังง่าย เสียบปลั๊กฟังได้เลย หรือเรียกอีกชื่อมันก็เป็นลำโพงคอมที่ใช้งานอเนกประสงค์ต่อทีวีได้ ต่อบลูทูธ ต่อคอมได้นั่นเองครับ  และเพิ่มช่องต่อ subwoofer out ออกมาให้เสียบซับเพิ่มได้อีก

เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากได้ชุด Multi channels ที่ต้องใช้ AVR และลำโพงหลายๆตัวมาตั้งในห้องให้ยุ่งยาก

ราคา Klipsch R15PM: http://www.whatthatsound.com/product/330/klipsch-r-15pm

ราคา Klipsch R110SW: http://www.whatthatsound.com/product/5/klipsch-r-110sw

[keamglad]

จัดส่ง subwoofer XTZ 3x12 มือสอง  เป็นอภิมหามหึมาซับที่ใหญ่มากๆๆๆ ใหญ่จริงๆ เราเอาไปให้ลูกค้าที่สุพรรณบุรี   ไปส่งกันตอน 5 ทุ่มเลย

ทั้งตอนเอาลงจากห้องลูกค้าชั้นสอง และตอนส่งขึ้นไปห้องฟังเจ้าของใหม่ที่อยู่ชั้น 3    ทั้ง 2 เที่ยวนั้นลุ้นกันสุดๆ เพราะตัวมันใหญ่มากกจริงๆ ขนยาก น้ำหนักร่วม 70-80 กิโล 
พอตัวมันใหญ่แล้วเจอบันได้เล็กนี่เสร็จเลยครับ เพราะแปลว่าต้องยกกันแค่ 2 คน   
ขาขนลงคนที่อยู่ด้านบนจะลำบากเพราะซับมันจะเทหลุดจากมือตลอดเวลา ต้องพักกัน 4-5 รอบกว่าจะเอาลงมาได้

ส่วนขาขึ้นคนที่อยู่บนก็เหนื่อยอีกเช่นเดิมเพราะต้องแบกรับน้ำหนักทั้งหมดเดินขึ้น
กว่าจะถึงห้องฟังลูกค้า ผม และเจ้าของและผู้ช่วยขนอีกคนนึงเหนื่อยลิ้นห้อย เหงื่อแตกพลั่กไปตามกันๆครับ

พอเอาขึ้นไปวางถึงห้องฟังได้ก็แอ๊คท่ายิ้มมีความสุขกันไปตามระเบียบ อิอิ



ตัวนี้ระหว่างทางไปส่งแม้จะเหนื่อยยาก เส้นทางแสนไกลเพียงไร เหนื่อยมากขนาดไหน แต่ก็ยังมีเรื่องราวดีๆ มีรอยยิ้ม และมีความสุขของเจ้าของเก่า และเจ้าของใหม่ รวมถึงผมเองที่มุ่งมั่นอยากจะให้ดีลนี้มันสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เพราะในบ้านเรานั้น คนที่จะเล่นซับตัวใหญ่ๆแบบนี้ ต้องยอมรับว่าหาได้ยากและน้อยจริงๆ

ระหว่างทางที่ไปส่งสุพรรณตอนช่วงกกลางคืนนั้นพบว่า ถนนเส้นบางใหญ่สุพรรณ ยิ่งวิ่งยิ่งมืดครับ คือไม่มีไฟเลยดีกว่า 
เราวิ่งคันเดียวทั้งถนน สองข้างทางเป็นป่า นานๆทีจะมีแสงไฟจากรถตามเรามาลิบๆ (ซึ่งมีรถตามเนี่ย น่ากลัวกว่าวิ่งคนเดียวอีก)

และสิ่งที่ผมค้นพบอีกอย่างของคนสุพรรณนอกจากความน่ารักและจริงใจของคนที่นี้ก็คือ  คนที่นี้ชอบมาปั่นจักรยานกันตอนกลางคืนมากๆครับ  ตอน 4-5 ทุ่ม เที่ยงคืนตามถนนข้างทางจะมีคนปั่นจักรยานกันเยอะมาก  ซึ่งผมค่อนข้างประหลาดใจ เพราะถนนแถวบ้านผมไม่มีใครปั่นเลน 
แต่ที่นี่แสงไฟไม่มีสักดวง มืดตึ้บ แต่คนก็ยังนิยมออกมาปั่นและออกกำลังกัน  (ส่วนใหญ่จะใส่ชุดเต็มยศ แบบสะท้อนแสง)

เที่ยงคืนล่วงเลยไปแล้วหลังจากส่งซับขึ้นไปห้องฟังลูกค้าเสร็จเรียบร้อย  ผมก็พบว่าทีนี้ยังคราคร่ำไปด้วยผู้คนที่ออกมาปั่นจักรยานกัน
ระหว่างทางผมก็ขับกลับบ้านต่อด้วยความง่วงนอน เอ้ยไม่ใช่ ด้วยความยินดีที่ได้ทำงานนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

ส่วนแนวเสียงของซับ XTZ 3x12 นี้ เป็นซับที่พละกำลังช้างสารต้องเรียกพ่อครับ บิด volume แก๊กเดียวเบสคลุมออกมาเต็มห้อง เหมาะกับตนที่ห้องใหญ่และกระหายเบสจริงๆจังๆ 
จบคืนนี้ลงด้วยความยินดีของคนซื้อและคนขาย  ส่วนตัวผมขอไปหาร้านนวดก่อนละครับ ปวดหลังไปหมดแล้ว

[keamglad]

Audyn D302 Poweramp กล้ามโตตัวใหม่ล่าสุดจาก Audyn




Audyn D302 Poweramp กล้ามโตตัวใหม่ล่าสุดจาก Audyn แบรนด์เครื่องเสียงไทยที่ทำสินค้าในไลน์ของ Power amp, กรองไฟ และสายไฟ สายสัญญาณ สายลำโพง
 
สเปกตัวใหม่ของ D302 ที่มาแทนตัวเดิมอย่าง D300 นั้นต้องบอกว่า โคดโหดจริงๆครับ เพราะเป็น Power ที่ให้กำลังสูงถึง 300 วัตต์ 2 แชนแนล และที่พิเศษคือเป็น power ที่แยกภาค power supply ออกมาด้านนอก (External power supply) โดยใช้สายไฟ AC สองเส้นต่อเข้าที่ตัว Power supply ทั้ง 2 ลูก และ Power supply ทั้ง 2 ลูกจะเชื่อมต่อกับตัว Power amp ด้วยสาย speakon
 
ยังไม่หมด เพราะขั้วต่อของ d302 ยังให้มามากถึง 4 ชุด (Rca 2 ชุด และ XLR อีกชุด) เอาไว้สำหรับต่อ pre ได้หลายๆตัวพร้อมกัน เช่น pre ดูหนังเข้า rca ชุดนึง ส่วน pre หรือ intamp ฟังเพลงต่ออีกชุดนึง สายลำโพงก็ต่อแยกได้ 4 ชุดเช่นกัน เวลาจะสวิทซ์จากดูหนังไปฟังเพลงก็ไม่ต้องถอดสายเข้าๆออกๆ สามารถกดสวิทซ์แชนแนลสัญญาณได้จากตัวคอนโทรลที่ตัว power amp ได้เลย
 
จะเห็นว่าข้อดีของ power amp แบบแยก Power supply ออกมาด้านนอกแบบนี้ก็เป็นเรื่องพละกำลัง การระบายความร้อน การการสูญเสียจากการแชร์โมดูลต่างๆร่วมกัน และ[^_^]และขนาดของตัว Power amp ตัวกลางเองด้วย
แต่ข้อเสียก็คือคุณต้องใช้สายไฟ AC ถึง 2 เส้นในการเสียบไฟ และใช้พื้นที่จัดวางเพิ่มขึ้น



 
น้ำเสียงทางผู้ผลิตเคลมไว้ว่า ให้ลืมออดินแบบเดิมๆที่เสียงละเมียดละไม นุ่มนวล และเหมือนจูนเสียงมาทางฟังเพลงไปได้เลย
เพราะจุดเด่นของแอมป์ Audyn รุ่นใหม่ นอกจากจะเด่นกลางแหลมที่ใส สะอาดเช่นเดิม แต่ผู้ผลิตก็ยืนยันว่า คราวนี้เบสจะตูมๆยิ่งขึ้นกว่าเก่า เอาใจสาวกคนที่ต้องการเอาแอมป์ไปใช้ในระบบดูหนังมากยิ่งขึ้นด้วย โดยเฉพาะสาวกที่ต้องการ power กำลังดีๆในระบบ home cinema ตัวนี้เป็นอีกตัวที่น่าพิจารณาครับ เพราะ Power ที่ให้กำลังสูงถึง 300 วัตต์ และมีการออกแบบจัดเต็มแบบนี้ หายากมากๆที่จะราคาแค่ 7 หมื่นกว่าบาท
 
ราคา Audyn D302: http://www.whatthatsound.com/product/207/audyn-virtus-d302

[keamglad]

จัดส่ง SVS SB16 Ultra มือสองไปให้ลูกค้าที่ชลบุรีครับ



ตัวนี้เดิมทีลูกค้าใช้ XTZ 3x12 ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้ SB16 Ultra (วางหน้า) และ JL F112 (วางหลัง)
ซิสเต็มลูกค้าใช้ Procella P8 และ P5
Power amp ใช้ Emotiva XPA4,4,3 gen3
Pre ใช้ Onkyo RZ5100

ซิสเต็มลูกค้าจัดเต็มจริงๆ โดยเฉพาะลำโพง เลือกใช้ Precella ที่เป็นที่สุดแล้วจริงๆของลำโพงแนว cinema ครับ
ผมได้มีโอกาศไปนั่งฟัง สัมผัสได้ถึงสเกลเสียงที่ใหญ่โต แนวเสียงที่บาล้านซ์ทุกย่าน และรายละเอียดเยอะจริงๆ แต่ไม่จัด ไม่กัดหู

ราคา SVS SB16 Ultra: http://www.whatthatsound.com/product/480/svs-sb16-ultra

[keamglad]

Klipsch The Sixes ลำโพงวินเทจในตระกูล Heritage seires (ซีรี่ย์เดียวกับ Heresym klipchorn, LaScala, Cornwall) ตัวนี้เพิ่งเข้าไทยมาสดๆร้อนจำนวนไม่กี่คู่ ถูกส่งไปนิตยสารเครื่องเสียงหนึ่งคู่ และคู่ที่หลือนี้เราก็มีลูกค้าที่มัดจำเอาไว้นานหลายเดือนตั้งแต่ The Sixes ยังไม่เข้ามาจำหน่ายในไทย

เมื่อของมาถึง เราก็จัดส่งกันเลย  ตัวนี้ไปถึงบ้านลูกค้าย่านสมุทรปราการ  เราเดินเข้าห้องไปก็ไม่ต้องถามอะไรลูกค้าเลย เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเราคือโต๊ะกลางลายไม้หนึ่งตัวขนาดย่อมๆ มีเทิรนเทเบิ้ลหนึ่งตัวตั้งไว้ตรงกลาง  แค่เห็นลายไม้ของโต๊ะ เห็นตำแหน่งที่เว้นไว้ เราก็รู้แล้วว่าต้องเอาลำโพงตั้งตรงไหนครับ



หลังจากแกะกล่อง ต่อสายเสร็จก็ทดลองเปิดฟัง ทั้งบลูทูธ และก็ลองต่อผ่าน pre-phono กับเทิรนเทเบิ้ล เอาแผ่นเสียงมาลองเล่น แนวเสียงที่ได้ก็แถบจะจำไม่ได้ว่านี่คือลำโพง klipsch จริงหรือนี่
เพราะโทนเสียงมาแนว vintage แนว Oldie นุ่มๆ อุ่นๆชุ่มๆไปด้วยโทนเสียงที่ไปทางฟังสบายๆ  เอนหลังพิงฟังได้ และเปิดดังๆได้โดยไม่กัดหูและสดเหมือน Klipsch ที่เคยได้ยินมาเลยครับ

แนวเสียงเน้นไปทางกลางต่ำ โทนอุ่น นุ่ม สบาย ฟังได้บรรยากาศ เบสค่อนข้างจะมีเยอะพอสมควร แต่ถ้าไม่พอก็สามารถต่อซับได้ เพราะตัว the sixes ให้ช่องต่อ subout มาด้วยครับ



สำหรับใครที่ทำบ้าน มีห้องสวยๆ มีเฟอร์นิเจอร์ลายไม้ ห้องนั่งเล่น เอาตัวนี้ไปตั้ง เสียบปลั๊กแอบๆสายไว้ ต่อบลูทูธเปิดเพลงฟัง ห้องกว้างๆก็เอาอยู่สบายมากๆ เสียงดังและคลุมห้องได้ดีครับ  จะฟังเป็นบรรยากาศก็สบาย จะฟังเน้นจริงจังก็อยากให้ใส่ใจกับคุณภาพไฟล์ที่เอามาเล่นเสียหน่อย ต่อกับเครื่องเล่น cd ดีๆ เสียงก็ดีและฟังจริงจังได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว  และสามารถควบคุมผ่านรีโมทได้ หน้าตารีโมททันสมัยใช้งานง่าย สะดวก แอบๆกดไม่ต้องเดินไปกดที่ตัวลำโพงก็เก๋ดีครับ หรือใครจะนิยมและอยากได้อารมณ์เก่าๆก็สามารถเดินไปหมุน volume ผ่านลูกบิดสีทองที่ตัวเครื่อง รวมถึงเลือก source ที่ตัวลำโพงได้โดยตรงได้เช่นกัน



และที่สำคัญมันสวยและเก๋มากครับ  ใครเดินผ่านรับรองว่าต้องสะดุดตากับดีไซน์ของลำโพงที่สวยทั้งยามเปิดหน้ากาก และปิดหน้ากากทีเดียว (หน้ากากแบบแม่เหล็ก)
และสำหรับใครที่ทำร้านอาหาร ทำโชวรูม ทำร้านกาแฟที่มีพื้นที่บริเวณกลา่งๆ ก็สามารถใช้ตัวนี้ได้นะครับ รับรองว่าเสียงคลุมและเอาอยู่ได้ทั่วบริเวณ เสียงใหญ่ เบสดี วางโชว์ก็เก๋ เปิดโชว์ยิ่งเท่ชวนสงสัยว่าเสียงดนตรีนุ่มๆชวนให้ไหลไปตามบทเพลงนี้มันออกมาจากไหน
เสียงดีกว่าลำโพงฝังฝ้าหรือลำโพงยี่ห้อนิยมๆกันในอดีตแน่นอนครับ



มาดูสเปกและฟีเจอร์กันบ้างครับกับลำโพง Active รุ่นใหม่ของ klipsch ที่มาพร้อมกับคราบไคลและกลิ่นอายแบบวินเทจ กับ Klipsch The Sixes ลำโพงในซีรี่ย์ Heritage ที่พกพาหน้าตาเก่าๆ แต่เปี่ยมไปด้วยความสามารถไม่ว่าจะเป็นช่องต่อ rca, phono, bluetooth, minijack (ต่อโทรศัพท์), digital optical (ต่อทีวี) และ USB สำหรับต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ด้วย แถมยังมีช่องต่อซับได้อีก

กับดอกลำโพง 6.5 นิ้วขนาดใหญ่ทำให้ตัวตู้ดูบึกบึน ใหญ่โต วางตั้งในบ้านไม่ต้องเปิดเสียงก็เก๋เกินที่ใครจะห้ามใจให้เดินเข้าไปสัมผัสได้
ต่อทีวีได้ ต่อเครื่องเล่น cd ได้ ต่อเครื่องเล่นแผ่นเสียงได้ ต่อคอมได้ ต่อโทรศัพท์ได้ บลูทูธได้  จะเอาอะไรอีกกกก?

ราคา Klipsch The Sixes: http://www.whatthatsound.com/product/536/klipsch-the-sixes



Features

    1” Titanium-loaded Tweeters with Tractrix Horns
    6.5” Woofers with a Ported Enclosure
    100W x 2 continuous @<1% THD
    200W x 2 short term peak power
    40Hz ~20kHz @ -3dB
    Subwoofer output
    1 x pair of RCA phono level inputs with switch for Phono/Line input versatility (Phono Pre-amp with ground screw terminal)
    Bluetooth® wireless technology
    1 x 3.5mm mini jack line level
    1 x Digital optical
    1 x USB digital audio from a PC or Mac
    Single RCA line level output for connection to sub.
    8.625” (22cm) x 16.75” (42.55cm) x 11” (27.9cm)
    Walnut
    Included
       4-conductor speaker cable (for R to L connection)
       3.5mm aux cable
       USB Type B to USB Type A cable
       Optical (TOSLink) Cable
       Wireless Remote ControlPower

[keamglad]

ส่ง Klipsch CDT5800 ลำโพงฝังฝ้า Atmos ในซีรี่ย์ Reference II ให้ลูกค้าที่บางกรวยครับ (มารับเอง)

ตัวนี้เดิมที่ลูกค้าเคยเอาไปติดตั้งแล้ว 2 ตัวแทนของเดิม (Wharfadale)  วันนี้มาเอาเพิ่มไปติดตั้งแทนของเดิมอีก 2 ตัว
รวม System ลูกค้าเป็น 7.1.4 dolby atmos เรียบร้อย

ราคา Klipsch CDT5800: http://www.whatthatsound.com/product/258/klipsch-cdt-5800-c-ii

[keamglad]

อาทิตย์ก่อนมีโอกาศจัดส่งชุดลำโพง PSB Imagine X ทั้งชุด และ power amp Audyn MA3200 (3 ch) และเครื่องกรองไฟตัวใหม่ล่าสุด Audyn DCX ไปให้ลูกค้าย่านดอนเมือง ปทุมธานีมาครับ

ทั้งชุดประกอบไปด้วย
PSB Imagine X2T
PSB Imagine XB
PSB Imagine XC
Audyn MA3200 (200 watt x 3 ch)
Audyn DCX

โดยลำโพงซีรี่ย์ Imagine X เป็นซีรี่ย์ใหม่ของ PSB ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อเอาใจคอดูหนัง โดยแต่ก่อนเราอาจจะเห็นว่าไลน์ผลิตภัณฑ์ของ PSB นั้นคอนข้างจะไปทางคนที่นิยมโทนเสียงทางกลางแหลม กรุ้งกริ๊ง เบสไม่เยอะ ไม่โหดนัก หรือพูดง่ายๆคือส่วนใหญ่จะนิยมนำไปฟังเพลงกันมากกว่า
การดูหนังก็จะได้อารมณ์ฟังสบายๆหู ไม่รุกเร้าและสดนัก
แต่ซีรี่ย์ Imagine X ก็ถูกพัฒนามาเพื่อให้นำมาทำ Home Thearter โดยเฉพาะ โดยเน้นโทนเสียงให้พุ่ง และสดขึ้น โดยตัวบอดี้ลำโพงนั้นดูแล้วละม้ายไปทางซีรี่ย์ Image มากกว่าไปทาง ซีรี่ย์ Imagine
โทนเสียงที่ได้ก็จะเหมาะกับการดูหนังมากกว่ารุ่นก่อนๆครับ ถ้าถามว่าสดมากมั๊ก รุกเร้ามากแค่ไหน ก็ต้องตอบว่ากำลังดีครับ โทนเสียงไม่ได้โหดจนเกินไป แต่ก็ไม่ได้นุ่มละมุนมากจนดูหนังไม่ดี เหมาะกับคอนักเล่นที่เหมาะกับโทนสายกลางอย่างยิ่งครับ ฟังสบาย ฟังง่าย




ราคา Audyn MA3200: http://www.whatthatsound.com/product/205/audyn-virtus-ma3200

ราคา Audyn DCX: http://www.whatthatsound.com/product/537/audyn-dcx

ราคา PSB Imagine X Series : http://www.whatthatsound.com/category/32/psb/imagine-x-series

[keamglad]

Mini Review Onkyo RZ-5100 Vs. Anthem AVM60

ต้องบอกว่า Pre ทั้งสองตัวนั้น ราคาตั้งห่างกันไม่มาก ตัวนึง 109,000 อีกตัว 150,000 บาท
แต่ราคาขายจริงของทั้งสองตัวนั้นต้องบอกว่าต่างกันร่วม 2 เท่าทีเดียว ก็ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะราคาตลาดที่หาซื้อได้ตามดีลเลอร์ (บางราย) ของ RZ5100 นั้นค่อนข้างจะ.......  (ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าบริษัทผู้นำเข้าเค้ารู้หรือเปล่าว่าดีลเลอร์ (บางราย) ขายของตัดราคาขนาดนี้) เท่ากับว่ามันเป็นการบังคับให้เจ้าอื่นๆเค้าต้องขายราคาตามนี้ด้วย และระยะยาววงการมันก็จะพัง เพราะไม่มีใครอยากจะเอาของดีๆเข้ามาขายอีก

ตามที่บอกว่าราคาซื้อจริงๆ สองตัวนี้จะต่างกันราวๆ 2 เท่าได้ ดังนั้นการเปรียบมวยของสองตัวนี้จึงเหมือนเอามวยรองมาจับกับมวยแชมป์มือวางอันดับต้นๆ ที่เหนือและมีแต้มต่อกว่ามากๆครับ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อ่านบทความนี้เต็มๆได้ที่นี่: http://www.whatthatsound.com/article/298/mini-review-onkyo-rz-5100-vs-anthem-avm60
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Handicap ของการเทียบที่ต้องบอกก่อนว่า 5100 เสียเปรียบมากเพราะ

1. เพิ่งออกจากกล่อง ไม่พ้นเบิร์น
2. การเซ็ทอัพของ 5100 นั้นทำหยาบๆ ซึ่งจริงๆเราควรต้องให้เวลา ได้ฟังเสียง และเซ็ทละเอียดๆกันสักพัก

ดังนั้นการเทียบจะเทียบแค่ “แนวเสียง” เป็นหลักว่า โทนเสียงของ pre ทั้งสองตัวให้แนวเสียงอย่างไร โปรดอย่าเอาเรื่อง image soundstage หรืออะไรที่เกี่ยวกับเรื่อง 2 ch หรือพูดบรรยากาศโอบล้อม ว่าตัวนู้นโอบล้อมดี เบสตกตรงตำแหน่งเป๋ะๆ กราฟเรียบอะไรบลาๆๆ มาพูดกันนะครับ




System ที่ใช้ทดสอบ
--------------------------------------------------------------------------
Pre: Anthem AVM60 vs. Onkyo RZ5100
Power: Emotiva xpa3 gen3, Emotiva XPA5 gen1
Speaker: Klipsch THx Ultra2 (Kl650, KS525)
Subwoofer: SVS SB16Ultra, SVS SB13Ultra
--------------------------------------------------------------------------




1. เริ่มต้นจากมิติและรูปทรง
ตัว onkyo rz5100 นั้นค่อนข้างใหญ่และลึกกว่า avm60 ค่อนข้างเยอะ
งานประกอบดูภายนอกไกลๆนั้นเหมือน 5100 จะดูดีและใช้ได้ แต่ตัวที่เราได้มาดันมีรอยมาจากโรงงานเหมือนครูดอะไรบางอย่างมาซะอย่างนั้น ซึ่งก็ต้องยอมทำใจยอมรับไปตามสภาพครับ (ของมือหนึ่ง)


2. เบส
5100 เบสเยอะมาก เบสหนา ใหญ่ ห้องผมมันก้องตรงหน้าห้อง พอใช้ 5100 แล้วมันฟ้องชัดมากว่าเบสเยอะ และค่อนข้างอื้ออึงขึ้น (ต้องเซ็ทใหม่ทั้งหมด)
ในส่วนของอิมแพคและ ปริมาณเบสต้องยกให้. 5100. ฟังครั้งแรกร้องคุณพระ นี่นึกว่า harman มาเอง. สะใจขาโจ๋ครับ ถ้าห้องทำอคูสติกมาดี เอาเบสอยู่ ผมว่าตัวนี้เป็นอีกตัวที่เป็นสายบู๊ ขาโหดอย่างแท้จริง
ถ้าเทียบเฉพาะในเรื่องเบส ระหว่าง avm60 vs. 5100 นั้น ก็ต้องยอมรับว่า 5100 เบสมันเยอะกว่าจริงๆ ซึ่ง avm60 ลำพังเดิมๆมันก็เบสเยอะและหนักอยู่แล้วครับ ไม่ได้น้อยนะ เพียงแต่ 5100 เบสมันเยอะกว่า



3. บรรยากาศ
ผมว่า 5100 พอปริมาณเบสเยอะแล้ว มันจะเหมือนขาดบรรยากาสบางอย่างที่ avm60 ให้ได้ โดยเฉพาะรายละเอียดของดนตรีประกอบ (Background music) ความชัดของเสียงกลางแหลม
ถ้าพูดตรงๆเลยคือ เสียงกลางแหลมของ 5100 มันติดโทนดาร์กๆ เสียงหลบนิดๆ ไม่กระจ่างและชัดเจนเท่า avm60
ฉากในหนังเรื่อง Assassin creed นี่จะชัดมากเพราะผมชอบเปิดทิ้งไว้ฟังเพลงประกอบ ซึ่งถ้าคนชอบความสมดุล บาล้าน บรรยากาศผมว่า 60 ให้ได้ดีกว่าค่อนข้างชัด เสียงแบ๊กกราวด์มิวสิคของ Assassin Creed ใน avm60 มีจังหวะจะโคน
เว้นช่องวรรคตอนและมีบรรยากาศที่ฟังกว่า 5100 ซึ่ง 5100 สิ่งที่สัมผัสได้คือปริมาณเบส และเนื้อเสียงกลางที่หนาและใหญ่มันขึ้นมากวนเสียงเพลง ทำให้ช่องไฟเอย จังหวะเอยมันหนักไปทางร๊อคและเบสเสียส่วนใหญ่ครับ
อีกฉากนึงที่เราใช้เทสก็คือ เสียงเอฟเฟคใน Sword master ฉากแรกตอนปักดาบลงพื้นปูน จะเห็นว่ารายละเอียดเสียงปูนแตกหลังจากปักดาบแล้ว 5100 มันห้วนหายไปนิดนึงเมื่อเทียบกับ avm60 ที่เสียงปูนแตกมันชัดและละเอียดกว่า



4. รายละเอียด
เราไม่กล้าพูดเต็มปากว่า 5100 รายละเอียดน้อยกว่า avm60 เพราะจริงๆแล้ว รายละเอียดต่างๆที่ 5100 ให้มานั้นมันไม่ได้น้อย กลางแหลมก็สดดี ชัดดี รายละเอียดครบๆเหมือนกับที่ avm60 ให้นั้นแหละ
เพียงแต่ว่าโทนเสียงของ 5100 มันติดไปทางโทนดาร์ก และเนื้อเสียงที่ได้จากดทนกลางต่ำ และย่านเบสนั้นมันติดท้วม และหนา มันเลยทำให้รายละเอียดช่วงปลายสุดของเสียงแหลมมันห้วน และสั้นกว่า avm60 คือไม่พลิ้วเท่า และดูเหมือนไม่ชัด และดูดิบๆ ห้วนๆ หนาๆใหญ่ๆครับ วัดกันชัดๆแบบไม่ต้องมโนตรงฉากปักดาบและเสียงปูนแตกของ Sword Master ฉากแรก ตัว 5100 เสียงปลายเสียงของปูนแตกน้อยและหายไปบางส่วน เมื่อเทียบกับ avm60 ที่ให้รายละเอียดหยุมหยิมๆของเสียงเล็กๆได้ชัดกว่าครับ



5. ความโหด
เอาตรงๆผมว่า 5100 โหดกว่า เทสโดยฉากในหนังเรื่อง Live by night เสียงปืน เสียงเบสหนักขึ้น กระแทกขึ้นจริงครับ
ถ้าคนชอบหนักๆ โหดๆ 5100 น่าจะเหมาะ แต่ถ้าคนชอบความสมดุล avm60 ยังทำได้ดีกว่ามาก และจากการลองหลายๆเรื่องผมว่า หนังแต่ละเรื่องก็บรรยากาศไม่เหมือนกัน บางเรื่องที่เน้นเสียงปืน ฉากเบสเยอะๆ เสียงดนตรีน้อยๆ 5100 จะทำได้ดีกว่า เช่น live by night แต่ถ้าฉากที่มีรายละเอียดเสียงกลางแหลม เช่น sword master avm60 จะชนะไป ส่วนหนังที่มีเสียงดนตรี เสียง sound track เยอะๆ 5100 จะแพ้อย่างหมดรูปเลยครับ



6. ความเป็นดนตรี
สำหรับใครที่ชอบดูคอนเสิรต์ และชอบใช้ pre มาฟังเพลงเล่นๆ ผมว่าตัวนี้ในเรื่องการฟังเพลงจะแพ้ pre ทุกตัวในตลาด ไม่ต้องเทียบกับ avm60 ครับ และเมื่อเทียบกับปรีที่เด่นเรื่องกลางแหลมอย่าง Marantz 8802, Rotel พวกนี้ 5100 จะแพ้อย่างหลุดหลุ่ยไม่มีชิ้นดีเลย (ก็เป็นเรื่องปกติของ pre ที่ดูหนังที่โหดๆ เบสเยอะๆ ก็ย่อมสูญเสียความเป็นดนตรีไป)
และกระซิบว่าถ้าคุณรักการดูคอนเสริต์ การฟังเพลง เปิดเพลงผ่านยูทูป AVM60 ทำได้ค่อนข้างดี และยอดเยี่ยมมากครับ


7. ภาพ
จากที่ได้ลองและสัมผัสมา ผมรู้สึกว่าภาพที่ได้จาก 5100 จะติดโทนมืด และดาร์กกว่า avm60 และ pre ตัวอื่นๆ (ไม่รู้ทำไม)



สรุป

เป็น Pre ที่คุ้มค่าคุ้มราคาต่อเงินที่จ่าย ให้เสียงสุดๆของการดูหนัง โดยพาะเบส ใครที่ชอบเสียงแบบ Harman เราอยากให้มาลอง RZ5100 เบสเยอะประมาณนั้น แต่มาอวตารอยู่ในบอดี้ของ Onkyo และมีรายละเอียดที่ดี
ถ้าใครชอบแนวโหดๆ แนวดูหนัง ตอนนี้คุณจะมีตัวเลือกแค่ 2 ตัวนั้นคือ Anthem AVM60 (โหด) และ Onkyo RZ5100 (โหดมากกว่า)
ถ้าคุณชอบความโหด และสมดุล ได้รายละเอียดดี ครบทุกย่าน ฟังเพลงผ่าน pre ได้แบบค่อนข้างใช้ได้ เบสไม่หนักมากไป avm60 คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบที่สุด ณ เวลานี้ครับ
แต่ถ้าคุณชอบความคุ้ม จ่ายเงินน้อยกว่า (เยอะ) แล้วชอบดูหนังอย่างเดียว ชอบเบส ชอบความมัน สะใจ และไม่เน้นคอนเสริต์และฟังเพลงผ่านชุด Home theater RZ5100 คือตัวเลือกที่ไม่มีใครเป็นคู่แข่งได้เลยในระดับราคาเดียวกันครับ

ถ้าคุณใช้ AVR หรือเพิ่งเปลียนจากปรีตัวเดิมมาใช้ RZ5100 คุณอาจจะต้องให้เวลามันหน่อย เพราะเบสค่อนข้างเยอะ แรกๆอาจจะพบความแตกต่างเยอะมาก และไม่ชินหูเท่าไร แต่ฟังไปเรื่อยๆจะชินไปเอง สนุกและมันดีครับ เป็นปรีที่ร๊อคได้ใจ
เราไม่ต้องรอ HarmanKardon ทำปรีออกมาแล้ว ตัว RZ5100 นี่แหละได้เบสแบบ Harman และได้รายละเอียดในแบบที่ Onkyo RZ Series ให้ได้ครับ




ข้อดี.
เบสหนัก โหด คอหนังถูกใจ วิญญาณฮารแมนกลับชาติมาเกิดโดยแท้ เสียงพูด เสียงอะไร. 5100 หนาใหญ่ ติดท้วม ติดอวบกว่า 60
ราคาก็ถูกและหาซื้อได้ เมื่อเทียบราคา avm60 และ 5100 แล้วก็ต้องบอกว่า สิ่งที่ 5100 นั้นคุ้มและมากเกินกว่าเงินที่จ่ายไปมากแล้วครับ



ข้อเสีย
รายละเอียดและบรรยากาศบางอย่างติดโทนดาร์กๆ และห้วนไปนิดนึง (รายละเอียดครบ เยอะ แต่ปลายเสียงห้วน และไม่พลิ้วเท่า avm60 และเมื่อเทียบกับ Marantz 8802 5100 แล้วจะแพ้อย่างสิ้นเชิง)
ภาพดูทึมๆ ความเป็นดนตรีน้อย. พอเน้นเบสเยอะแล้วฟังเพลงไม่ค่อยโอเคครับ ถ้าคนชอบฟังเพลง ชอบดูคอนเสริต์ หรือดูยูทูปจะสังเกตว่ามันฟังเพลงสู้ pre ตัวอื่นไม่ค่อยได้
และเรื่องเบส 5100 มากกว่า 60 จริงๆ แต่พอเบสเยอะแล้ว การเซ็ทอัพจัดการกะเสียงเบสก็ยากขึ้นเป็นเงาตามตัวครับ
ข้อเสียในด้านอื่นที่เล็กๆน้อยๆก็มีบ้างเช่น การเข้าเมนูเซ็ตอัพ มันจะหยุดภาพและเสียงของหนัง และตัดเข้าเมนู และช้าด้วยครับกว่าจะขึ้นก็ 2-4 วิ เมื่อเทียบกับ avm60 ที่กดเข้าเมนูจะเป็นแบบ on screen ขึ้นมาทับกับหนังที่เล่นอยู่บนจอเลย และเร็วแบบกดปั๊ปมาปุ๊ป avm60 จะไม่ตัดเสียงออก คือเราสามารถกดเซ็ทอัพ เข้าเมนูของ anthem ได้ในขณะที่เปิดหนังไปด้วย แต่จะตัดเสียงต่อเมื่อเราเข้าเมนู level ไปฟัง test tone มันครับ

[keamglad]

จัดส่ง Klipsch RC-64 II (มือสอง) ไปให้ลูกค้าที่สะพานพุทธ
ครับ RC-64 II เป็นเซ็นเตอร์รุ่นใหญ่สุดแล้ว (ไม่นับ THX, Palladium) ให้แนวเสียงชัดสดเหมาะสำหรัยบใครที่ต้องการเซ็นเตอร์ใหญ่สำหรับดูหนังครับ

Review Klipsch RC-64 II: http://www.whatthatsound.com/article/87/full-review-klipsch-rc-64-ii-by-whataposs-that-sound

ราคา Klipsch RC-64 II: http://www.whatthatsound.com/product/22/klipsch-reference-rc-64-ii-black

[keamglad]

เอารูปซับ Klipsch R112SW มือสองสวยๆที่ลูกค้าแวะมาอุ้มขึ้นรถไปมาฝากครับ   
R112SW ตัวนี้ ตัวตู้กระทัดรัด ราคาเบาๆ สบายกระเป๋า ดูหนังมันๆในราคาเอื้อมถึงง่ายๆ  เป็นซับของมวลประชาชนผู้รักการดูหนังของจริงครับ   

ในราคา 2 หมื่นกว่าบาท มีซับตัวไหนที่หนักและดูหนังมันกว่านี้อีกมั๊ย???

ราคา Klipsch R112SW: http://www.whatthatsound.com/product/4/klipsch-r-112sw

[keamglad]

วันก่อนมีโอกาศได้เอาเจ้า Pre-Processor Onkyo RZ-5100 ไปส่งให้ลูกค้าด้วยตัวเองที่สระบุรีครับ  ระหว่างทางลูกค้าฝากเอาซับยี่ห้อนึงที่ซื้อมือสองเอาไว้ที่กรุงเทพให้ติดรถมาส่งพร้อมกัน 
ขับแว่บเดี๋ยว ถึงบ้านลูกค้าก็ขนของและรีบติดตั้งกัน โดยซิสเต็มลูกค้าที่ใช้เป็นดังนี้

----------------------------------------------
Speaker : XTZ M6
Power: Adcom 7707, Anthem A5
Pre: Onkyo RZ5100
Sub: Jl E110, Rel
----------------------------------------------



สิ่งที่ได้เรียนรู้จากซิสเต็มของลูกค้าท่านนี้ก็คือ การแมทชิ่งที่ดีมีผลและสำคัญพอๆกับคุณภาพของชุดซิสเต็มครับ  ชุดลููกค้าท่านนี้ต้องบอกว่าแมทชิ่งได้อย่างสมบูรณ์ เพราะแต่เดิมผมเคยฟัง Adcom + Klispch THX + Pre Rotel แล้วเข้าใจว่าไม่แมท  แต่เสียงที่ได้ Adom + XTZ  หลังจากที่ต่อสาย ปรับรายละเอียดเล็กๆน้อย ลองฟังแล้วก็ตกใจ โอ้วว ชัดอะไรขนาดนี้ เสียงเซอราวด์ชัดเจน เสียงพูดกรอบ คมชัดเจนสมกับเป็นชุด cinema ขนานแท้
Onkyo RZ5100 ที่โทนเสียงติดดาร์ก และเบสหนัก พอมาอยู่ในห้องนี้ที่เบสมีปัญหา เบสหายและค่อนข้างบาง ก็กลายเป็นแมทไปซะอย่างนั้น  จากเบสและโทนเสียงติดบาง พอได้ Onkyo RZ5100 มาช่วยบูทย่านกลางต่ำ ก็กลายเป็นฟังดีมากๆเลยครับ




ซิสเต็มนี่้ถือเป็นอีกซิสเต็มที่ใช้ลำโพง Cinema  วันนี้โทนเสียงค่อนข้างชัด และติดไปทางสดเล็กๆ แต่ไมใช่ว่าซิสเต็มมันกัดหู แต่เป็นเพราะเสียงกลางแหลมมันสด ชัด แต่จุดอ่อนคือย่านเบสที่ยังไม่สามารถเซ็ทและได้ปริมาณความถี่ต่ำมารับกับเสียงกลางแหลมที่พุ่งขนาดนี้ได้ครับ เลยทำให้กลางแหลมกัดหูเล็กๆ แต่พอรับได้  ซึ่งตอนนี้ลูกค้าเอา JlE110 มาวางและยังไม่ได้เซ็ทอัพใดๆทั้งสิ้น  ส่วนซับอีกตัวเป็น Rel (เดิมใช้ในชุดฟังเพลง ลองเอามาต่อในชุดดูหนัง)
ถ้าเป็นซิสเต็ม Home Audio ทั่วไป ชุดดูหนังฟังเพลงทั่วๆไป ก็จะบอกว่าแค่นี้เพียงพอแล้ว (เพราะชุดลำโพงบ้านทั่วไปไม่ได้ออกแบบกลางแหลมให้เยอะและสดแบบชุดดูหนังของลำโพง cinema  ปริมาณเบสที่หนักและมากจึงไม่จำเป็น)

แต่หากเป็นซิสเต็มดูหนังแบบจริงจัง  ต้องการบรรยากาศความถี่ต่ำแผ่ เบสต้นหนักๆ กระแทกจุกอก  เบสลงโซฟาต้องขยับ ระเบิดแล้วห้องต้องสั่น  เบสที่ได้อาจจะต้องการปริมาณและอิมแพคมากกว่าปกติทั่วไป ซับที่เลือกใช้ต้องเลือกให้ดีและเหมาะสมกับชุดดูหนัง  การแมทชิ่งอุปกรณ์เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆพอๆกับคุณภาพของซิสเต็ม ห้อง และการเซ็ทอัพครับ

การเรียนรู้จุดอ่อนของชุดซฺสเต็มและห้องเราว่าขนาดอะไรแล้วใช้ของมาเติมและกลบจุดอ่อนนั้น คือสุดยอดการแมทชิ่ง เช่นห้องขาดเบส  เสียงบาง ต้องการอิมแพค การเลือกใช้ Pre Onkyo RZ5100 นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้ว
แต่สำหรับบางห้อง เสียงหนา สดเบสเยอะอยู่แล้ว การเลือกใช้ Pre ที่ให้รายละเอียดดีๆ มีความบาล้าน และเบสไม่ต้องเยอะมากจะดีกว่าครับ เช่น Anthem AVM60



สรุป
ซิสเต็มนี้เป็นซิสเต็มที่แมทชิ่งดีมากๆที่สุดซิสเต็มนึงเท่าที่เคยเห็นมา  มีการใช้อุปกรณ์มากลบจุดด้อยของห้อง (เบสหาย)  และที่สำคัญอุปกรณ์แต่ละอย่างนั้นลูกค้าจัดหามือสองมาเสียเป็นส่วนใหญ่ครับ ราคาที่ได้ต้องบอกว่าไม่แพงเลยและคุ้มค่ามากๆ  ลงทุนไม่มาก แต่ได้เสียงที่ดีเกินราคาชนิดที่ ถ้าจะเอาดีกว่านี้ คุณต้องจ่ายเกิน 2-3 เท่าไปอีกไกลครับ

ซิสเต็มนี้หากได้จอ Projecter ใหญ่ๆ  ทำห้องเสียหน่อย ทำบรรยากาศให้มืดสนิท คุมแสง ได้ซับโหดๆดีๆอีกตัวมาคู่กับ Jl  ผมว่าไม่มีความจำเป็นต้องไปเบียดเสียดไปทนแชร์ดูหนังที่โรงภาพยนตร์ร่วมกับคนอื่นต่อไปแล้วครับ  เพราะเสียงที่ได้ถ้าจะเอาเสียงสเกลและคุณภาพแบบนี้ ในประเทศไทยโรงหนังทั่วๆไป ไม่มีทางให้คุณภาพเสียง ทั้งความถี่ต่ำ และเสียงกลางแหลมแบบนี้ได้  แถมยังต้องหงุดหงิดกับผีเด็ก และผีคู่รักอีกด้วยนะ



การมีชุดดูหนังในบ้านก็เป็นความสุขที่น่าลงทุนอีกอย่าง เพราะนอกจากจะได้ใช้เวลาอยู่กับบ้าน ไม่ต้องเปลืองเงิน หงุดหงิดหัวใจขับรถออกไปเสียงกับการจราจล และต้องไปเบียดผู้คนแย่งกันดูหนังแล้ว  ห้องดูหนังฟังเพลงดีๆ ก็ให้อะไรมากกว่าความบันเทิงในการดูหนัง  เพราะสิ่งที่ได้จากการเสพย์ดนตรีและภาพยนตร์ดีๆนั้นบางทีก็สร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต ให้กำลังใจ เติมพลังให้เรามีแรงลุกขึ้นสู้ต่อไปได้ครับ

การเลือกชุดดูหนังมีหลายระดับราคา เลือกตามความเหมาะสม ตามงบประมาณ และเมื่อซิสเต็มครบๆแล้ว ก็ขอให้ดูหนังฟังเพลงให้มีความสุขครับ อย่าไปจดจ่อจับผิดกับภาพและเสียง เส้นสายรายละเอียดอะไรมาก  อย่าลืมว่าเสียงที่ดีที่สุด ชุดที่ดีที่สุดมันไม่มีหรอก มันมีแต่ชุดที่คุณพอใจ จ่ายไหว เหมาะสมกับกำลัง
ชุดที่เราว่าดีแล้ว มันก็มีชุดที่ดียิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ เหนือฟ้ายังมีฟ้า ขึ้นอยู่กับคุณมีเงินจ่ายไหวหรือเปล่า  จะหยุดที่ใจ หรือจะจ่ายให้มากที่สุดเท่าที่จะจ่ายไหว ก็เลือกบาล้านซ์สิ่งต่างๆให้ดี เอาที่เหมาะสมครับ
ใช้ของดีมีคุณภาพให้เหมาะกับเสียงที่ต้องการ อย่าเอาชุดนุ่มๆมาแล้วบอกว่าทำไมดูหนังไม่มันเหมือนชุด cinema
และก็อย่าบ่นว่า เอาชุด cinema มาแล้วทำไมฟังเพลง vocal ไม่พริ้วหวานเหมือนลำโพง audio ทั่วๆไป

ราคา Onkyo RZ5100: http://www.whatthatsound.com/product/482/onkyo-pr-rz5100

[keamglad]

จัดส่ง Klipsch The Three (สี Ebony) ไปให้ลูกค้าแถวดินแดงครับ
 คัวนี้ลูกค้าสั่งด่วน และเป็นแฟน Klipsch เคยใช้ The one มาก่อน และชอบในน้ำเสียง อยากได้ลำโพงที่เสียบปลั๊กเล่นได้โดยไม่้องมีระบบชาร์จบ้าง เลยมาจบที่ The Three ตัวนี้

ราคา Klipsch The Three: http://www.whatthatsound.com/product/508/klipsch-the-three