LG เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ครองใจผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน มีทีวีด้วยกันหลายรุ่น โดดเด่นทั้ง LED TV และ OLED TV ที่มีให้เลือกด้วยกันหลายซีรีส์ หลายขนาด รวมกับระบบสมาร์ททีวีที่ใช้งานได้ง่ายที่สุดในตอนนี้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมถึงคว้ารางวัล Editor’s Choice Award รวมไปถึงยังมีรางวัล Best Gaming TV Award และ Best Design Award ด้วย
Editor’s Choice Award : LG OLED TV C1
รางวัลทีวีขวัญใจทีมงาน LCDTVTHAILAND ในปีนี้ขอมอบให้ LG OLED C1 เป็น OLED TV ที่ให้คุณภาพของภาพอยู่ในเกณฑ์ “ดีเลิศ” ทว่าราคาประนีประนอม ได้ครบตามอุดมคติทั้งการดูหนัง และเล่นเกม คอนทราสต์ดีแสงสีเจิดจรัสตามสไตล์ OLED TV แถมปีนี้จูนสีมาแม่นยำมาก (อ้างอิงกับขนาด 55 นิ้ว) ใช้เป็นจออ้างอิงตัดต่อวิดีโอก็ได้ ความสว่างสูงสุดยู่ในเกณฑ์ดีเกินมาตรฐาน แต่แน่นอนว่ายังเป็นรองรุ่นท็อป OLED Evo อย่าง G Series อยู่บ้าง ด้านเสียงเขาให้ลำโพงยิงเสียงลงล่างที่มีความชัดเจนพร้อมเบสที่หนักแน่นเกินตัว ฟังครั้งแรกมีตกใจ
ระบบปฏิบัติการ Smart TV อย่าง webOS จัดว่าใช้งานง่ายที่สุดด้วย Magic Remote ตัวเก่ง ทำงานแบบเดียวกับ Air Mouse เคลื่อนไหวเคอร์เซอร์ได้อิสระ และใจป้ำให้ HDMI 2.1 มาถึง 4 ช่อง รองรับ 4K@120Hz ครบทุกช่อง พร้อม VRR จะเชื่อมต่อพีซีหรือเกมคอนโซลยุคใหม่ได้หมด มีโหมดเกมโดยเฉพาะที่ค่า Input Lag ต่ำ เป็น “ตัวจบ” สายฮารด์คอร์เกมมิ่ง ที่ทั้งตลาดไทยและเทศให้การยอมรับ ขายดีกันเป็นเทน้ำเทท่า ด้วยหลักง่าย ๆ = ประสิทธิภาพดีเลิศในราคาที่คุ้มค่ากว่า (เยอะ) แถมมีหลากไซส์ให้เลือกตั้งแต่ 48” 55” 65” และ 77” จึงขอมอบรางวัล Editor’s Choice Award ให้ LG OLED C1 ไปครองในปีนี้ เพราะเหล่าทีมงานก็เลือกตัวนี้เช่นกัน !
LG OLED C1 : 48” 55” 65” 77”
Best Design Award : LG G1
LG G1 OLED evo ตัวท็อปประจำปี 2021 ของ LG ที่พัฒนาปรับปรุงโครงสร้างพาเนลให้มีระดับความสว่างสูงมากขึ้นกว่ารุ่น C1 แต่ยังคงระดับความดำสนิทเช่นเคย อันเป็นคุณสมบัติเฉพาะของเม็ดพิกเซลที่กำเนิดแสงได้ด้วยตัวเอง และด้วยดีไซน์ที่ออกแบบมาให้สามารถแขวนผนังได้แนบชิด ดูเหมือนกับกรอบรูป สมกับชื่อซีรีส์ “Gallery Design” กลมกลืนเข้ากับการตกแต่ง แต่ก็คำนึงถึงการใช้งานเพราะสามารถปรับดึงจอออกห่างจากผนัง ช่วยให้เสียบต่อสายสะดวกขึ้น ขณะเดียวกันก็ใช้งานร่วมกับขาตั้งแบบ Gallery Stand ได้ เพิ่มความยืดหยุ่น สามารถแสดงผลงานศิลปะในแบบ Art Gallery ได้ด้วย
ด้านคุณสมบัติยังจัดเต็ม ความละเอียด 4K 120Hz พร้อม VRR รองรับ Dolby Vision และ Dolby Atmos ทำงานบนระบบปฏิบัติการ webOS ประสานลำโพง 4.2 แชนแนล กำลังขับ 60 วัตต์ ระดับเสียงน้องๆ ซาวด์บาร์ ช่องต่อเอาใจสายเกมมิ่งด้วย HDMI 2.1 มากถึง 4 ช่อง เชื่อมต่อคอนโซล พีซี เล่นเกมได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด LG G1 OLED จึงให้ความครบเครื่องด้านภาพ เสียง และรูปลักษณ์ เหมาะกับ Best Design Award !
Best Gaming TV : LG OLED TV C1
“สายเกมมิ่ง” ที่กำลังมองหา “ทีวีตัวสุด” ทางทีมงานขอฟันธงให้ LG OLED C1 คือ Best Gaming TV of The Year ด้วยฟีเจอร์อัดแน่นรองรับปัจจุบันและอนาคตที่สุด รายละเอียดตามนี้…
- ภาพ 4K OLED ดำสนิท แสงสีสดสวยเจิดจรัส มิติภาพ ลอย-ลึก มาครบ ให้อรรถรสในระดับ “ดีเลิศ”
- ใจป้ำสุดให้ HDMI 2.1 รองรับ 4K@120Hz VRR มากถึง 4 ช่อง ขณะที่เจ้าอื่นส่วนมากให้แค่ 1-2 ช่องเท่านั้น
- VRR รองรับทั้ง FreeSync และ G-Sync เล่นเกม XBOX หรือ PC ได้เฟรมภาพลื่นไม่ฉีกขาด
- มีโหมด Game Optimizer สำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ โชว์เฟรมเรทเรียลไทม์ พร้อมตัวเลือกปรับแต่งภาพต่าง ๆ ตามประเภทเกมที่เล่น รวมถึงฟีเจอร์ช่วยดึงรายละเอียดในที่มืดให้สว่างขึ้น เห็นศัตรูได้ง่ายขึ้น
- ค่า Input Lag ต่ำมาก ตอบสนองทันการควบคุม
- C1 มีขนาดจอภาพหลากหลาย ทั้งเล็กสุดอย่าง 48” ที่หลายท่านเอาไปใช้แทนเกมมิ่งมอนิเตอร์ จนถึงใหญ่สุดอย่าง 77” อลังการเต็มตา
- ภาพสวย คุ้มราคา
ส่วนใครกังวลเรื่อง Burn-in ต้องบอกว่า OLED TV เจนใหม่ ๆ ทุกวันนี้ เมื่อใช้งานตามปกติก็แทบจะไม่เป็นประเด็นแล้ว ด้วยโปรแกรมดูแลรักษาหน้าจอ และป้องกันเชิงรุก อาทิ Screen Saver ที่จะเด้งเข้าภาพพักหน้าจอให้อัตโนมัติเมื่อเปิดภาพนิ่งแช่ไว้นาน ไปจนถึง Pixel-shift ขยับย้ายตำแหน่งภาพทีละนิด จึงไม่แปลกว่าเกมมอร์โดยเฉพาะสายคอนโซลทั้งไทย และเทศถึงกล้าอัปเกรดมาใช้ OLED กันเยอะขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หากต้องไปให้สุดทาง ปีนี้ขอล็อคเป้าไปที่ LG OLED C1 ครับ
ขอแสดงความยินดีกับทาง LG ด้วยนะครับที่สามารถคว้าไปได้ถึง 3 รางวัล ก็หวังว่าปีนี้จะมีทีวีที่โดดเด่น ประสิทธิภาพดีเพื่อที่จะมาคว้ารางวัลในปีนี้กลับไปอีกนะครับ