11 Sep 2019
Article

เช็คให้ชัวร์! ทำไมดู Netflix ความละเอียด 4K ไม่ได้?


  • Dear_Sir

เชื่อว่าหลายคนที่สมัคร Netflix คงจะต้องอยากดูความละเอียดภาพ และเสียงให้สูงที่สุดตามที่ระบบที่บ้านเรารองรับไหว ซึ่งความละเอียดภาพ และเสียงที่ทาง Netflix ปล่อยมาสูงสุดก็คือ 4K HDR ระบบเสียง Dolby Atmos (ขึ้นอยู่กับภาพยนตร์ / ซีรีส์เรื่องนั้นๆ ด้วย) แต่อนิจจาเสียค่ารายเดือนก็แล้ว ทำไมไม่ได้ดูภาพ 4K อย่างที่ต้องการ ดังนั้นเราลองมาตรวจสอบเบื้องต้นกันว่ามีปัญหาที่จุดไหน?


แพ็คเกจรายเดือนที่สมัครเอาไว้Netflix มีแพ็คเกจรายเดือนถึง 3 แบบ เป็นตัวเลือกให้ผู้ใช้ ได้จ่ายค่าสมาชิกตามความเหมาะสมการใช้งานของแต่ละคน โดยแบ่งป็น Basic, Standard และ Premium ถ้าอยากจะดูภาพแบบ 4K จะต้องสมัครสมาชิกแบบ Premium ดังนั้นตรวจสอบบัญชีของตัวเองก่อนว่าได้สมัครแบบ Premium ไว้หรือเปล่า?

ตรวจสอบการตั้งค่าความละเอียดสตรีมมิ่งหากมั่นใจว่าแพ็คเกจที่เราสมัคเป็นแบบ Premium ถูกต้อง ก็ให้ลองมาดูการตั้งค่าความละเอียดของ Playback Setting ว่าตั้งไว้เป็นแบบไหน ตามปกติค่าที่เลือกไว้จะเป็นแบบ Auto ซึ่งจะให้ความละเอียดภาพตามแบนด์วิดธ์ของอินเทอร์เน็ตที่ปล่อยมา


Low : ใช้อัตราดาวน์โหลด 0.3GB/HR โดย Netflix จะปล่อยสัญญาณภาพความละเอียดต่ำ ซึ่งถ้าใครสมัครแพ็คเกจแบบ Basic ก็จะถูกบังคับให้เลือกแบบนี้โดยอัตโนมัติ

Medium : ใช้อัตราดาวน์โหลด 0.7GB/HR สัญญาณภาพก็ยังคงจะถูกบังคับให้เป็นความละเอียดต่ำอยู่
High : ตัวเลือกนี้ Netflix จะปล่อยสัญญาณแบบ HDR และ 4K มาให้แล้ว โดยอัตราดาวน์โหลดสำหรับความละเอียด HD 720P จะอยู่ที่ 3GB/HR ส่วนความละเอียด 4K จะอยู่ที่ 7GB/HR


Auto : เพื่อให้การสตรีมมิ่งเป็นไปอย่างลื่นไหล ตัวเลือกนี้จะเป็นการส่งสัญญาณภาพอ้างอิงจากความเร็วอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้เป็นหลัก ว่าง่ายๆ ถ้าเน็ตเราเร็วก็ได้รับชมภาพความละเอียดสูงสุด

*วิธีการเข้าไปดูการตั้งค่า Playback Settings กดที่รูปโปรไฟล์ > Account > Playback Setting 

ข้อจำกัดของ Browser


คนที่ใช้งาน Netflix บนสมาร์ททีวีข้ามข้อนี้ไปได้เลย แต่ใครที่ใช้งานบน PC อัพเกรดคอมมาเต็มที่ ใส่การ์ดจอตัวแรง แต่ทำไมยังไม่ได้ภาพ 4K อีก เหตุผลเพราะว่า Browser ที่ใช้เปิดนั่นเอง Browser แต่ละตัวรองรับสัญญาณภาพจาก Netflix ได้ไม่เท่ากัน
Google Chrome : ความละเอียดสูงสุด 720p
Firefox : ความละเอียดสูงสุด 720p
Opera : ความละเอียดสูงสุด 720p
Safari : ความละเอียดสูงสุด 1080p (Mac OS X 10.10.3 ขึ้นไป)
Microsoft Edge : ความละเอียดสูงสุด 4K (หน่วยประมวลผล, จอแสดงผล ต้องรองรับ 4K ด้วย)
Internet Explorer : ความละเอียดสูงสุด 1080p

*จากข้อมูลจะเห็นว่าใช้ Microsoft Edge จะดีที่สุด เพราะรองรับสัญญาณได้ถึง 4K

ความเร็วอินเทอร์เน็ต


ความเร็วอินเทอร์เน็ตก็คืออีกปัจจัยสำคัญที่จะให้สามารถรับชมภาพแบบความละเอียด 4K ได้ ทาง Netflix ได้เคยให้ข้อมูลตรงนี้ไว้ว่าถ้าอยากจะสตรีมมิ่งความละเอียด 4K แบบลื่นๆ ความเร็วอินเทอร์เน็ตขั้นต่ำคือต้อง 30Mbps ขึ้นไป ซึ่งก็ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับ ISP ทั้งหลายที่ขายแพ็คเกจที่เราใช้กันทุกวันนี้ เพราะปัจจุบันไม่ว่าจะเป็น True, AIS, 3BB ความเร็วอินเทอร์เน็ตพื้นฐานที่ขายก็เลย 50Mbps กันไปแล้ว

อย่าลืม! ความเร็วของอินเทอร์เน็ตจะลดลงตามการใช้งาน ไม่ว่าจะคนในบ้านโหลดไฟล์, ดูคลิปวิดีโอ YouTube แบนด์วิดธ์ที่เหลือไปให้กับการสตรีมมิ่ง Netflix ก็จะลดทอนลง ทำให้ไม่ได้ภาพ 4K ด้วย

License


มีบางกรณีที่ทีวี หรือโปรเจ็กเตอร์บางเครื่องที่เป็น 4K แล้วมีแอปพลิเคชั่น Netflix ในตัว เพียงแต่เปิดแอปฯ ขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าเรื่องไหนๆ ก็เป็นแต่ HD ไม่ขึ้น 4K สาเหตุก็เป็นเพราะทางผู้พัฒนาแอปฯ Netflix บนอุปกรณ์ไม่ได้ติดต่อเรื่องการอนุญาตถ่ายทอดสตรีมมิ่งภาพแบบ 4K

4K ทั้งระบบ


มีหลายคนที่ไม่รู้ว่าการจะดูภาพแบบ 4K ได้นั้น ทุกอย่างในระบบจะต้องรองรับ 4K ด้วย เช่น ซื้อกล่อง Android 4K มา แต่ทีวีที่บ้านดันเป็น Full HD แบบนี้ต่อภาพยังไงก็ไม่ขึ้น ถึงจะขึ้นภาพก็ไม่ใช่ความละเอียด 4K ด้านคนใช้ PC เองก็เช่นกัน มอนิเตอร์ก็จะต้องเป็น 4K ด้วย ไม่อย่างนั้นภาพก็ไม่ออก แถมถ้าอยากดูได้อย่างลื่นๆ ก็ต้องอัดสเปคเข้าไปให้มากหน่อย

ทั้งหมดนี้ก็คือแนวทางการตรวจสอบที่น่าจะครอบคลุม และเป็นสาเหตุว่าทำไมเราถึงไม่ได้รับชมภาพแบบ 4K บน Netflix ส่วนคนที่ใช้งาน Netflix บน 4K Smart TV หรือกล่อง Android TV ปัญหาเหล่านี้คงจะเจอได้น้อยกว่าผู้ที่ใช้แบบ Home theater PC แน่ๆ เพราะนอกจากสเปคจะต้องถึงแล้ว ยังต้องใช้บราวเซอร์ให้ถูกต้องด้วย