10 Jun 2020
Article

5 เหตุผลที่ควรใช้จอคอมเล่นเกมคอนโซลแทนทีวี!!


  • lcdtvthailand

เคยสงสัยหรือว่าทำไมในยุคปัจจุบัน 4.0 แบบนี้แล้วเกมเมอร์หรือคนทั่วไปๆ ทำไมยังมีคนที่เล่นเกมคอนโซล ไม่ว่าจะเป็น PS4 และ Xbox กับจอมอนิเตอร์อยู่ทั้งๆ ที่ทีวีในปัจจุบันก็สามารถใช้เล่นได้เหมือนกัน โดยบทความนี้ผมจะอธิบายผ่าน 5 เหตุผลที่ควรซื้อมอนิเตอร์มาเล่นเกมแทนทีวี

ข้อ 1. ใช้งานได้แบบ Multi-function ทำได้ครบทุกอย่าง

จอมอนิเตอร์ในปัจจุบันมาพร้อมฟังก์ชันที่ครบครัน แสดงความละเอียดของภาพได้ถึง 4K 3840 x 2160p ในราคาที่ไม่แรงเมื่อเที่ยบกับทีวีรุ่นโปรที่เคลมความสามารถในระดับเดียวกัน ใช้งานได้หลากหลายไม่ว่าจะเล่นเกมคอมพิวเตอร์หรือ PS4 ถือว่าตอบโจทย์การทำงาน การสตรีมมิ่งต่างๆ รวมไปถึงท่องเว็บหรือการเรียนออนไลน์และการทำงานกราฟฟิคหรือตัดต่อไปพร้อมกัน ยังไม่รวมถึงความเป็นส่วนตัวในการใช้งานต่างๆ ในแบบของเราเองอีกด้วย!!

ข้อ 2. ตอบสนองไว ไม่เกิดอาการหน่วง

โดยอาการนี้เกิดจากจอที่มีค่า Input Lag มีค่าที่สูง ซึ่งค่านี้ถ้าเป็นคนที่เล่นเกมมาซักระยะนึง น่าจะพอเคยผ่านหูผ่านตากันอยู่บ้าง เพราะเป็นค่าที่บ่งบอกถึงความเร็วในการตอบสนองของจอภาพนั้นๆ ซึ่งตัวจอมอนิเตอร์นั้นยังคงให้ความรวดเร็วและตอบสนองได้ดีกว่าทีวีอยู่ เพราะจอมอนิเตอร์นั้นจะไม่มีการประมวลผลหรือต้องใช้ชิปแสดงผลภาพในการคิดคำนวณด่านอื่นๆ เรียกว่าแหล่งข้อมูลส่งมาแบบไหนก็แสดงออกไปแบบนั้น 

จึงทำให้เป็นที่ชื่นชอบและยังคงครองใจเกมเมอร์สายแข่งขันหรือว่าคนที่ชอบเล่นเกมแบบจริงจังอยู่ โดยค่า Input Lag ของจอมอนิเตอร์ส่วนใหญ่นั้นจะอยู่ที่ ประมาณ 10 ms ส่วนทีวี 30″ ถึง 40″ ค่านี้จะอยู่ประมาณ 20 ms ขึ้นไปหากเทียบกันแล้วถือว่าจอมอนิเตอร์ทำได้ดีกว่านั่นเอง โดยค่า Input Lag นั้นจะจะต้องใช้เครื่องมือถือการวัดค่า ต่างจากค่า Response Time ที่เป็นค่าแสดงความรวดเร็วการตอบสนองของเม็ด Pixel ซึ่งจะมีระบุไว้แล้วอยู่ในสเปคเช่น BenQ EW3280U มีค่า Response Time อยู่ที่ 5 ms เป็นต้น

ลองสังเกตได้ตามการแข่งขัน e-Sport ต่างๆ เราจะเห็นจอมอนิเตอร์เป็นจอภาพหลักในการให้ผู้เข้าแข่งขันใช้งานทั้งหมด เรียกได้ว่าแทบจะ 99.9% ของงานแข่งทั้งหมดจะไม่ค่อยเห็นใช้ทีวีกันไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันเกมประเภทไหนๆ เพราะการตอบสนองช้าไปเพียงแค่เสี้ยววินาทีอาจจะเป็นแปลงผลการแพ้ชนะได้ จอมอนิเตอร์จึงเป็นตัวเลือกหลักในการใช้ฝึกซ้อมและใช้ในการแข่งขัน

ข้อ 3. ความละเอียดภาพสูง สีสันเที่ยงตรงกว่าในขนาดจอที่เท่ากัน

ลองนึกภาพตามผมดูนะครับ สมมุติเราอยากได้จอซักตัวมาเล่นเกมหรือว่าวางบนโต๊ะทำงานขนาดไม่ใหญ่ เราจึงมองหาจอภาพขนาดกำลังพอดีกับเนื้อที่โต๊ะก็คือ 32″ ซึ่งไซส์ขนาดประมาณนี้ ก็มีให้เลือกทั้งฝั่งทีวีและมอนิเตอร์และจุดเปลี่ยนที่มันสำคัญในการตัดสินใจก็คือ ความละเอียดภาพที่เราต้องการมันดันเป็น 4K ทีนี้ตัวเลือกของเราก็จะน้อยลงมา ซึ่งฝั่งของทีวีในปัจจุบันสำหรับไซส์ 32″ แล้วถ้าจะหาความละเอียดภาพแบบ 3840 x 2160p แล้วล่ะก็บอกเลยว่าไม่มีแน่นอนเพราะไซส์ 32″ สำหรับทีวีในปัจจุบันหาความละเอียดภาพเกิน Full HD แทบไม่มีแล้ว ส่วนการใช้งานก็เหมาะกับการรับชมทีวีดิจิตอลหรือว่ากล้องวงจรปิดเสียมากกว่า

ทำให้เราต้องมองกลับมามองจอมอนิเตอร์ ซึ่งในปัจจุบันนั้นมีความละเอียดที่รองรับถึง 4K แล้วอย่าง BenQ รุ่น EW3280U ที่ผมใช้งานอยู่ก็เป็นอีกตัวที่น่าสนใจเพราะมีความละเอียดภาพอยู่ที่ 3840 x 2160p ขอบเขตสีที่กว้างและเที่ยงตรง มี Input Lag ที่ต่ำทำให้เราเอามาใช้งานได้ทั้งเล่นเกม,ดูหนัง,ทำงานกราฟิก และยังมีลำโพงในตัวแบบ 2.1 Channel ในตัวที่เสียงดีกว่าทีวี 32″ ในปัจจุบันบางตัวอีกด้วย

อีกอย่างทีวีไซส์ประมาณนี้ไม่มีก็คือรองรับมาตรฐาน HDR ที่ช่วยให้ภาพที่เราได้รับเห็นนั้นดูสมจริงและมีมิติมากยิ่งขึ้น ทำให้จอมอนิเตอร์นั้นได้เปรียบกว่าทีวีไซส์ 32″ เวลาที่เรานำไปต่อเครื่องเกมอย่าง PS4 และ Xbox One อย่างเห็นได้ชัดเจน

ข้อ 4. ถนอมสายตา

สำหรับปัญหานี้ต้องบอกว่าจอมอนิเตอร์นั้นมีข้อได้เปรียบมากกว่าทีวี เนื่องจากตัวจอมอนิเตอร์นั้นมีค่าความสว่างที่ไม่สูงมากจนเกินไปและยังมีฟีเจอร์ต่างๆ ที่ช่วยลดการทำงานของแสงสีฟ้าลงไปได้ผ่านการเปิดใช้งาน Low Blue Light Filter หรือเทคโนโลยี Brightness Intelligence Plus (B.I.+) ปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติ พร้อมควบคุมอุณหภูมิของสี เมื่อเปิดใช้จะทำให้ภาพดูนุ่มนวลและถนอมสายตามากขึ้น ต่างจากตัวทีวีที่มักจะมีค่าความสว่างที่มากและไม่มีฟีเจอร์ตัดแสงสีฟ้ามาให้เลยทำให้เวลาใช้งานนานๆ ไปจะรู้สึกล้าดวงตาและอาจทำให้สายตาของเรานั้นเสียไวขึ้นอีกด้วยหากนั่งระยะใกล้ๆ

อีกส่วนที่จอมอนิเตอร์มักจะมีก็คือ Flicker Free ซึ่งมีหน้าที่ในการลดการกระพริบของจอช่วยลดอาการล้าสายตาได้เช่นกัน ส่วนทีวีนั้นไม่ได้ใส่ฟีเจอร์เหล่านี้มาให้เลย

ข้อ 5. มีพอร์ตเชื่อมต่อหลากหลายรองรับอนาคต

ด้านการเชื่อมต่อนั้นถือว่าเป็นปัจจัยหลักๆ เหมือนกันเรามักจะถามหรือดูว่าจอตัวนี้มีช่องเชื่อมต่ออะไรมาให้บ้าง หากถามว่าระหว่างทีวีกับจอมอนิเตอร์นั้น อะไรรองรับอนาคตมากกว่ากัน ? 

ตอบตรงๆ เลยว่า ณ เวลานี้คงต้องเป็นจอมอนิเตอร์เพราะปัจจุบันรองรับการเชื่อมต่อที่หลายรูปแบบมากไม่ว่าจะเป็น HDMI, Display Port รวมไปถึง USB Type-Cซึ่งถือว่าเป็นพอร์ตที่ได้รับความนิยมและกำลังแพร่หลายในปัจจุบันด้วยการเชื่อมต่อที่สะดวกจบง่ายในเส้นเดียว ใช้ต่อแสดงภาพได้ รวมไปถึงจ่ายไฟให้อุปกรณ์ต่างๆ ก็ทำได้เช่นกัน 

ต่างจากตัวทีวีที่พอร์ตเชื่อมต่อส่วนใหญ่ที่มีมักจะเป็นเพียง HDMI เท่านั้นทำให้การยืดหยุ่นต่อการใช้งานนั้นน้อยกว่าตัวมอนิเตอร์ที่รองรับทั้งปัจจุบันและอนาคตมากกว่า อย่าง BenQ EW3280U รุ่นนี้ก็มีพอร์ต USB Type-C ให้มาด้วย

โดยสุดท้ายนี้ปัจจัยทั้งหมดที่ผมกล่าวมาน่าจะพอเป็นแนวทางในการตัดสินใจในการเลือกซื้อจอมอนิเตอร์ซักตัวมาใช้งาน หรือว่าเล่นเกมคอนโซลของเราแทนทีวีได้ด้วยความยืดหยุ่นในข้อจำกัดต่างๆ ของขนาดและฟังก์ชั่นที่มีให้มากกว่าทีวีไซส์ประมาณ 27” ถึง 32″ อย่างไรก็ลองเก็บไว้เป็นข้อพิจารณากันดูนะครับ

สำหรับจอคอม 4K HDR BenQ EW3280U มีวางจำหน่ายที่ LAZADA BenQ Official Store และ NADZ Project ในราคา 27,900 บาทพร้อมกับการรับประกัน 3 ปีสนใจอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ผ่านทางเว็บไซต์ของเบ็นคิว

BenQ EW3280U 4K HDR / 32” / HDRi / treVolo/ Eye-care / B.I.+

https://benqurl.biz/EW3280U-LCDTVTH

#บทความประชาสัมพันธ์