สวัสดีแฟนเว็บทุกท่านครับ OPPO UDP-203 คือเครื่องเล่นบลูเรย์ 4K HDR เครื่องแรกในไทย ซึ่งทีมงาน LCDTVTHAILAND ได้ร่วมกับบริษัท ไทย ออปโป้ จำกัด จัดงานบรรยายเปิดตัวเจ้า UDP-203 ตัวนี้ ในวันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ ภายในงานเครื่องเสียง BAV HI-END SHOW 2017 โรงแรมแลนด์มาร์ค สุขุมวิท ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากแฟนเว็บในการเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ตามแอดมินมาชมรีวิวงานบรรยายครั้งนี้กันเลยดีกว่า โดยเฉพาะแฟนๆ OPPO ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด !
**** รีวิวตัวเครื่องแบบเจาะลึกฉบับเต็มจะมีให้ชมเร็วๆนี้ ***


วันเสาร์ที่ 4 ก.พ. 2017 ณ โรงแรมแลนด์มาร์ค สุขุมวิท

หน้าตาหล่อเหลาเอาเรื่องอยู่ ราคาเปิดอยู่ที่ 23,900 บาท
OPPO UDP-203
– 4K Ultra HD Blu-ray Player
– Universal Disc Player
– HDR10
– 4K 60Hz 4:4:4
– 32 Bit DAC
– Quad Core MediaTek Video Processor
– Dual HDMI Out
– HDMI In
– 7.1 Channel Analog Out
– Dolby Atmos, DTS:X, Dolby True HD, DTS HD Master Audio support
– Price 23,900 Baht

จึงนำมาทดสอบและสาธิตต่อหน้าแฟนเว็บอย่างเป็นทางการ เปิดรับศักราช 4K แห่งชาติซะเลย !
OPPO UDP-203 คือพระเอกของงานนี้เพราะเป็นเครื่องเล่น 4K Blu-ray Player เครื่องแรกที่มีขายในไทย หลังจากปล่อยให้ประชากรสายภาพและเสียงรอกันจนเหงือกแห้งเพราะทีวี 4K นั้นวางขายตั้งแต่ 4-5 ปีที่แล้ว แต่เครื่องเล่นและแผ่นก็ยังไม่มีที่ท่าว่าจะวางขายเพื่อเติมเต็มซึ่งกันและกันเสียที จนในที่สุดต้นปี 2017 นี้ Oppo ก็คลอดเจ้า UDP-203 ออกมาสืบสานตำนานอย่างรุ่น BDP-105/103 และ BDP-95/93 ที่ขึ้นชื่อเรื่อง “คุณภาพสูง” ฉะนั้นแฟน OPPO ก็ย่อมตั้งความหวังกับเจ้า UDP-203 “ไว้สูง” เช่นกัน



Reference System : ชุดซิสเต็มอ้างอิง
เริ่มแรกขอแนะนำซิสเต็มที่ใช้ทดสอบในครั้งนี้ก่อน แน่นอนว่าการจะขับศักยภาพของเครื่องเล่น OPPO UDP-203 ให้ออกมาอย่างหมดจดนั้นก็ต้องพึ่งระบบภาพและเสียงที่มีคุณภาพที่ดีเช่นกัน มิเช่นนั้นจะไม่สามารถนำพาสัญญาณภาพและเสียงให้สมบูรณ์ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำได้ ทาง LCDTVTHAILAND ได้รับความร่วมมือจากบริษัท Inventive AV (IAV) ผู้นำเข้าเครื่องเสียงและโฮมเธียเตอร์รายใหญ่ในไทย ในการคัดสรร “แอมป์ ชุดลำโพง และซับวูฟเฟอร์” จากแบรนด์ “Anthem, Canton และ SVS” ที่มาเติมชุดเต็มซิสเต็มอ้างอิงชุดนี้ ส่วนจอทีวีทีมงานก็ตั้งใจคัดเลือกตัวที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมกับขนาดจอที่ใหญ่เพียงพอต่อการรับชมหลายสิบหลายร้อยคนพร้อมกันได้ จึงได้ LG 4K Ultra HD OLED TV รุ่นท็อปขนาด 77″ และ 65″ ซึ่งได้รับการทดสอบแล้วว่าเป็น Best of The Best TV 2016-2017 ในช่วงปีที่ผ่านมา ผนวกมีฟีเจอร์แสดงผลภาพที่สอดรับไปกับฟีเจอร์ของ Oppo UDP-203 ไม่ว่าจะเป็น HDR และ 3D แบบ Passive ซึ่งรองรับการรับชมทีละหลายคน
หมายเหตุ
– บริษัท Inventive AV จำกัด โทร 02-238-4078-9
– บริษัท LG Electronics (Thailand) จำกัด โทร 02-878-5757

เรื่องภาพได้ LG 4K OLED TV รุ่นท็อป 77G6T เข้าประจำตำแหน่งศูนย์หน้า
ระบบเสียงเซ็ตในในแบบ 7.2.4 แชนแนล มีลำโพง Front / Rear High สำหรับเสียง Dolby Atmos / DTS:X

จาก Anthem แบรนด์ดังจากแคนาดา

เพราะรองรับระบบภาพ 4K HDR (Pass-through) และการถอดรหัสเสียง Dolby Atmos และ DTS:X
ซึ่งทีมงานคาดคะเนจากงานบรรยายครั้งที่ผ่านๆมาว่าห้องใหญ่ขนาดนี้ผนวกกับผู้ชมกว่า 100 ท่าน หากเป็นแอมป์แบรนด์ตลาดขนาดปกติคงเอาไม่อยู่แน่นอน ดังนี้ Anthem ซึ่งได้รับการกล่าวว่าให้คุณภาพเสียงที่ยกระดับจากแอมป์ในท้องตลาดจึงถูกคัดเลือกให้มาทำหน้าที่เป็นเพลย์เมกเกอร์ในห้องบรรยายแห่งนี้

ทีมงานเคยทดสอบและจัดให้เป็นลำโพงที่มีคุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยมทั้งการดูหนังและฟังเพลงแบบ “2 In 1”
ถูกเลือกนำมาเป็นกระบอกเสียงหลักประจำการในห้องแห่งนี้เช่นกัน



ด้วยสรีระบาง กระทัดรัด ทว่าให้สุ้มเสียงได้จะแจ้งชัดเจนจนน่าประหลาดใจ
ทีมงานจึงเลือกมาแขวนเป็นลำโพง Front High / Rear High เพื่อรองรับระบบเสียง Dolby Atmos และ DTS:X
(ตัวนี้ยังไม่เคยทดสอบ เอามาเทสต์สดในงานเลย)

เห็นขนาดเล็กๆแบบนี้ ย้ำอีกทีว่าเสียงไม่เบาเลย

เพื่อมิติเสียงด้านสูงครอบคลุมห้องบรรยายที่มีลักษณะแคบแต่ยาว

และเสริมด้านหลังห้องด้วย SB13-Ultra
ชื่อเสียงและคุณภาพ SVS จัดเป็นระดับ “หัวแถว” ในบรรดาแบรนด์ Subwoofer ทั่วโลก ได้รับรางวัลจากต่างประเทศมากมาย รางวัลใหญ่สุดก็คงหนีไม่พ้น Best Innovation Award หรือ รางวัลนวัตกรรมสินค้าที่ดีที่สุดประจำปี 2017 จากงาน CES ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ซึ่งรุ่น SB16-Ultra ก็คว้ารางวัลที่ใหญ่ที่สุดของงานนี้มาครอง ประกอบกับการอ้างอิงจากงานบรรยาย “ดูหนังจอยักษ์กับ Acer Projector” เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ที่ใช้ SVS : PB13-Ultra ตัวเดียวก็คำรามเอาอยู่ทั้งห้อง ดังนี้ SVS Subwoofer จึงเข้ากรีฑาทัพร่วมผนึกกำลังกับลำโพงและแอมป์คุณภาพดังที่กล่าวไปแล้ว

ส่วนสายเสียงจะเป็น VELOCITA : MILANO X ต่อเข้า Pre-Processor

ก็จะมีทีวี “จอรอง” อย่าง LG OLED TV 65E6T เดโม่ภาพให้ Oppo UDP-203 อีกเครื่องหนึ่ง

Demonstration : สาธิตคุณภาพภาพและเสียง
ตารางงานในวันนี้ช่วงแรกจะเป็นการอธิบายถึงคุณสมบัติของ OPPO UDP-203 ให้รู้ถึงดีไซน์ สเป็ค ชิพเซ็ต และ ฟีเจอร์ ของตัวเครื่อง หลังจากนั้นจะเป็นการสาธิตคุณภาพของภาพและเสียงให้ผู้เข้าร่วมงานพิสูจน์ด้วยตาและหูของตัวเองล้วนๆ ทีมงานได้เตรียมแผ่นหนัง 4K HDR แท้, แผ่นหนัง 3D, แผ่นคอนเสิร์ต และแผ่นเพลง 2 แชนเนล สำหรับการทดสอบให้ครบ “ทุกมิติความสามารถ” ของ OPPO UDP-203 ที่พึงจะกระทำได้



ตำแหน่งที่นั่งที่เป็นจุด Sweet Spot ที่จะเห็นภาพและได้ยินเสียงที่ดีที่สุดก็คือ ข้างหน้า+ตรงกลาง
ฉะนั้นหากมาก่อนก็จะได้เลือกที่นั่งก่อน ซึ่งหมายถึง “ฮวงจุ้ยดีโดยอัตโนมัติ”
โดยไม่ต้องพึ่งพาอาจารย์คฑา ชินบัญชร (ฮา)

ซึ่งแยกภาคอนาล็อค ภาคดิจิตอล ภาคจ่ายไฟ และตัวบลูเรย์ไดรฟ์ ออกจากกัน

ผู้ชมบางท่านเลยรีบควักมือถือออกมาชักภาพเก็บเป็นที่ระลึก ^ ^

ส่วนบลูเรย์ไดรฟ์มีความพิเศษที่มีการแดมป์กันแรงสั่นสะเทือนจากภายในและภายนอก


เพียงแค่เราขยับตัวรีโมทซักนิด…ไฟก็ติดแล้ว !

เพื่อทดสอบคุณภาพของภาพที่ถูกขับเคลื่อนด้วยชิพ MediaTek
ซึ่งเป็น Video Processor แบบ Quad Core ตัวใหม่ล่าสุด


ก็ต้องยอมรัว่าซึ่งกระแส 3D อาจจะเพลาลงไปบ้างแล้ว
ทว่า OPPO UDP-203 ก็ยังคงมีฟีเจอร์เล่นภาพ 3D มาให้อยู่
ทีมงานก็ชอบเพราะยังติดการรับชมหนัง 3D จากโรง IMAX อยู่เป็นประจำ


หมายเหตุว่าหนัง 3D จะไม่มีทำแบบความละเอียด 4K

ใส่แว่น 3D และตั้งใจรับชมกันอย่างพร้อมเพรียง


ชอบภาพ 3D ที่ถูกขับออกมาโดยเฉพาะ “ความใส” !

มัวแต่ใจจดใจจ่ออยู่กับการรับชมภาพ 3D ลอดแว่นกันท้างน้าน !

แนะนำการเล่นไฟล์วีดีโอผ่านช่องต่อ USB สกุลไฟล์ี่ที่รองรับก็อาทิ mkv, m2ts, ts, avi
ในภาพบนจอเป็นคลิปหนังตัวอย่างไฟล์ m2ts แบบ 4K เรื่อง Gods of Egypt

และทำการทดสอบคุณภาพเสียง Dolby Atmos จากเรื่อง Deepwater Horizon

จากลำโพง Front High ด้านบนในระบบเสียง Dolby Atmos มีมิติเสียงด้านสูงขึ้นมาจริง
ช่วยเสริมบรรยากาศการรับชมให้เร้าใจยิ่งขึ้น




ซึ่งเป็นหัวใจในการเล่นเพลงแบบ 2 แชนแนลให้มีคุณภาพ

จึงสามารถเล่นแผ่นอย่าง Super Audio CD, DSD และไฟล์ Hi-Res Audio ได้อย่างหลากหลาย

Conclusion : สรุป
บทสรุปมาจากการทดสอบของทีมงานผนวกกับฟีดแบ็กที่สัมภาษณ์ผู้เข้าร่วมงานหลังจากเสร็จสิ้นการสาธิต OPPO UDP-203 ตัวนี้ เรื่องคุณภาพของภาพ 4K ก็ถือว่าดีเยี่ยม คมชัดสะอาดตา ภาพ HDR เจิดจรัสและจัดจ้าน คุณภาพเสียงไม่ว่าจะเป็นการ Bitstream สัญญาณเสียง Immersive Sound อย่าง Dolby Atmos & DTS:X หรือการเล่นเพลง 2 แชนแนลผ่านภาค DAC ก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ (ไม่แพ้ CD Player ราคาเทียบเคียง) ความหลากหลายในการเล่นแผ่นและไฟล์ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้เข้าร่วมงานแอบเทคะแนนให้ ที่ Oppo สถาปนาตัวเองว่า Universal Player ก็คงไม่ผิดกระไร ในทางกลับกันข้อเสียของเจ้า UDP-203 หลักๆเลยคือการตัดแอพส์อย่าง YouTube และ Netflix ทิ้งไป ด้วยเหตุผลที่ว่าในรุ่นก่อนอย่าง BDP-103/105 ไม่ค่อยมีคนใช้กันนัก มาครั้งนี้เลยตัดทิ้งไปซะเลย ช่วยลดต้นทุนได้อีกกระหย่อมด้วย….ชะลาล่า ! และความสามารถในการเล่นไฟล์วีดีโออาจจะยังไม่ครอบคลุมเท่าพวกเครื่องเล่น HD Player นัก เอาหละอันนี้เป็นเพียงบทประเมินคร่าวๆหลังงานบรรยายเท่านั้น บทความรีวิวแบบเจาะลึกจริงจะตามมาอีกในไม่ช้า โปรดจงติดตามพวกเราอย่างใกล้ชิด

ข้อดี
1) ภาพ 4K HDR มีความคมชัด เข้มข้น เจิดจรัส ฉีกหนี Full HD อัพสเกลเดิมๆ
2) คุณภาพเสียงดีเยี่ยมไม่ว่าจะ Bitstream หรือเล่นเพลง 2 แชนแนล
3) ช่องต่อ HDMI คู่ แยกภาพและเสียงออกจากกัน
4) เป็น Universal Player เล่นแผ่นและไฟล์ได้หลากหลาย อาทิ 3D, SACD, DSD, DXD
5) งานประกอบแข็งแรงและพรีเมี่ยม บอดี้โลหะ ขั้วต่อสายสัญญาณชุบทอง
ข้อเสีย
1) ตัดแอพฯ อย่าง YouTube และ Netflix ออกไปแล้ว
2) ต้องรอเฟิร์มแวร์เพื่อให้รองรับมาตรฐาน HDR ล่าสุดอย่าง Dolby Vision
3) ไฟล์หนังอย่าง Full Rip ISO BDMV ยังไม่รองรับ (ต้อง Jailbreak แต่เครื่องจะหมดประกัน)
**** รีวิวตัวเครื่องแบบเจาะลึกฉบับเต็มจะมีให้ชมเร็วๆนี้ ****

ให้เกียรติขึ้นกล่าวปิดท้าย พร้อมจับฉลากแจกของที่ระลึกให้กับผู้โชคดี