แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Jessicas

หน้า: 1 ... 987 988 [989] 990 991 ... 1012
17787


สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ สศท. ได้จัดการประกวดผลงานศิลปหัตถกรรมเชิงสร้างสรรค์ SACIT Award 2021 ภายใต้หัวข้อ “ผ้าไทยใส่ได้ทุก Gen” โดยมีวัตถุประสงค์ในการเปิดโอกาสให้บุคคลที่มีความสามารถด้านการออกแบบแฟชั่น และเครื่องแต่งกาย ได้นำเสนอแนวคิดการสร้างสรรค์ผลงานการออกแบบแฟชั่น และเครื่องแต่งกายผ้าไทยให้มีความร่วมสมัย ใส่ได้จริง เข้ากับวิถีชีวิตคนในยุคปัจจุบันมากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ และส่งเสริมให้ผ้าไทยเป็นที่รู้จัก จนเกิดเป็นค่านิยมให้คนทั่วไปหันมาสวมใส่ผ้าไทยมากขึ้น เพิ่มคุณค่าและมูลค่าให้แก่ผ้าไทย นำไปสู่การต่อยอดผลงานเชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรม

การประกวดในปีนี้มี แบ่งเวทีออกเป็น 4 ภูมิภาค ได้แก่ เหนือ กลาง ใต้ ตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อกระจายฐานความสนใจผ้าไทยไปในทุกภาค นำเสนอเรื่องราวอัตลักษณ์ของผ้าไทยในแต่ละภาคถ่ายทอดผ่านการออกแบบเป็นชุดแฟชั่น ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่าว่า 700,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ โดยผู้ชนะเลิศในแต่ละประเภทจะได้รับการส่งเสริม พัฒนาและอบรมองค์ความรู้เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่วงการแฟชั่น

ในวันเสาร์ที่ 25 กันยายน 2564 เวลา 14.00-16.00 น. จะมีการตัดสินและประกาศผลการประกวด ในรูปแบบ SACIT Virtual Fashion Runway ผ่านทาง Facebook : SACIT Award 2021 และ Facebook : สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย นำผลงานที่ได้รับการคัดเลือกเข้าสู่รอบสุดท้ายทั้งสิ้น 130 ผลงาน จัดแสดงเป็นแฟชั่นโชว์แบบ Virtual ที่น่าตื่นตาตื่นใจ เพื่อสอดรับกับมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นการจัดกิจกรรมแบบ New Normal ภายใต้แนวความคิดหลัก ‘อุโมงค์แห่งกาลเวลา’ ที่จะพาผู้ชมเดินทางข้ามผ่านกาลเวลาของผ้าไทย ที่คนในทุก Generation ในทุกยุคทุกสมัยสามารถสวมใส่ผ้าไทยในได้อย่างสวยงามในชีวิตประจำวัน โดยมีคณะกรรมการส่วนกลางได้แก่ นายพรพล เอกอรรถพร รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) , รศ.(พิเศษ) ระพี ลีละสิริ , รศ.ดร.น้ำฝน ไล่สัตรูไกล , นางจิราพร ศรีสอ้าน และ นายดนัย อุ่นอนันต์ รวมถึงคณะกรรมการส่วนภูมิภาคร่วมตัดสินผลงาน โดยการแสดงแฟชั่นโชว์ครั้งนี้ได้นายอิศร์ อุปอินทร์ แฟชั่นสไตล์ลิสต์ ชั้นนำของประเทศมาเป็นผู้ควบคุม พร้อมด้วยนายแบบนางแบบชั้นนำในแต่ละ Generation มาร่วมแสดงแบบ อาทิ โย-ยศวดี หัสดีวิจิตร , ไบรอน บิชอพ , ตุ๊ก-ชนกวนันท์ รักชีพ , เข็ม-กฤตธีรา อินพรวิจิตร , มาร์ติน มอรี่ , มารีญา พูลเลิศลาภ , แนท-อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ , มิเรียม ศรพรหมมาศ , เอเลี่ยน อาณาดา , หงส์-หยก ศิริมาตย์

ร่วมติดตามชม ลุ้น และให้กำลังใจผู้ประกวด SACIT AWARD 2021 ได้ในวันเสาร์ที่ 25 กันยายน 2564 เวลา 14.00 – 16.00 น. ในการประกวดรอบชิงชนะเลิศ แบบ SACIT Virtual Fashion Runway ได้ทาง Facebook : สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย และ SACIT Award 2021 โดยสามารถร่วมโหวตชุดที่คุณชื่นชอบเพื่อเป็น Popular Vote ได้ทาง www.facebook.com/Sacitaward2021 และ www.sacictaward2021.com/vote-teams.html ได้ตั้งแต่วันนี้-25 กันยายน 2564 เวลา 15.00 น.

17788


นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้หารือกับภาคเอกชน 5 สมาคมท่องเที่ยว ได้แก่ สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว สมาคมโรงแรมไทย สมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ และสมาคมสปาไทย และตัวแทนจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เพื่อหารือแนวทางจัดทำมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ขาดสภาพคล่องและประสบปัญหาทางการเงินอย่างเร่งด่วนจากวิกฤติโควิดตั้งแต่ปี 2563

การหารือครั้งนี้ภาคเอกชนมีข้อเสนอหลายเรื่องต้องการให้ภาครัฐพิจารณาการสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ โดยเสนอวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 ธนาคารรัฐ ยอมรับว่ามีวงเงินที่เตรียมไว้แล้ว ขอดูเงื่อนไขที่เอกชนเสนอมา เช่น การค้ำประกันไขว้ และการผ่อนปรนต่าง ๆ ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะรวบรวมข้อมูลและรายชื่อผู้ประกอบการที่ต้องการขอสินเชื่อ ส่งให้ สศค. ภายในสัปดาห์หน้า พิจารณาจัดทำเป็นมาตรการทางสินเชื่อเฉพาะในรูปแบบใดนั้นอยู่ที่กระทรวงการคลังจะพิจารณา

“ข้อเสนอต่างๆ ของเอกชน ที่ประชุมฯ ไม่ขัดข้องอะไร แต่ขอดูข้อมูลชัดเจนก่อน โดยธนาคารออมสินจะเข้ามาช่วยเหลือคู่ขนานกับการปล่อยสินเชื่อของเอสเอ็มอีแบงก์ที่เอกชนจะไปยื่นขอสินเชื่อได้อีกทาง”

รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า เบื้องต้นหากกระทรวงการคลังรับข้อเสนอในการจัดวงเงินสินเชื่อเฉพาะมาให้ได้ในช่วงต้นเดือน ต.ค. จะช่วยให้เอกชนมีสภาพคล่องไปดำเนินธุรกิจรองรับการเปิดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว

นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวเสริมว่า สมาคมฯ จะออกแบบสอบถามส่งถึงสมาชิกที่เคยทำเรื่องขอกู้แล้วไม่ผ่าน และขอให้สมาชิกระบุถึงประเด็นปัญหาที่ไม่สามารถกู้ได้ จากนั้นรวบรวมและสรุปข้อมูลส่งกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และ สศค.เพื่อแก้ไขในเชิงนโยบายต่อไป

นอกจากนี้ ธปท.ประกาศไว้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.ว่า ได้มีการพิจารณาให้ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ออกนโยบายทำวงเงินค้ำประกันธุรกิจเอสเอ็มอีสูงสุด 100% ทำให้ธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วมสนับสนุนมาตรการฟื้นฟูผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยว ไม่มีข้อกังวลเรื่องหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เนื่องจาก บสย.เข้ามาค้ำประกัน 100% อีกเรื่องคือการพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระเงินกู้ จากรายได้ในปี 2562 ก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 ซึ่งพยายามให้ผ่อนปรนเกณฑ์นี้

“ธปท.ออกนโยบายและทำหนังสือถึงธนาคารพาณิชย์เกี่ยวกับเรื่องนี้ชัดเจน ฉะนั้นจะไม่มีผลต่อการพิจารณาในเรื่องเครดิตของธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งในอนาคตซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในช่วงที่ผ่านมาที่ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งมีข้อกังวล และมองว่าเรื่องธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีความเสี่ยงสูง จึงให้ความสำคัญในการพิจารณาค่อนข้างต่ำ เมื่อตัดประเด็นนี้ออกไป ธปท.เชื่อว่าน่าจะช่วยให้ธุรกิจท่องเที่ยวเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้มากขึ้น”

หลังจากนี้ สมาคมฯ จะเชิญธนาคารออมสินกับเอสเอ็มอีแบงก์มาพบปะสมาชิกและเจรจาเป็นรายต่อราย โดยธนาคารทั้ง 2 แห่ง มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินหลายรูปแบบที่ใกล้เคียงกับที่ 5 สมาคมท่องเที่ยวขอไปก่อนหน้านี้ โดยธนาคารออมสินมีวงเงินเหลือ 3,000 ล้านบาท เอสเอ็มอีแบงก์ มีวงเงินเหลือกว่า 1,000 ล้านบาท ที่จะช่วยสนับสนุนภาคธุรกิจท่องเที่ยวในเบื้องต้นไม่ว่าจะเป็นกรณีขอพิจารณารายได้ในปี 2562 และในทางปฏิบัติเรื่อง NPL ผู้ประกอบการที่มี NPL หลังวันที่ 31 ธ.ค.2562 เป็นต้นไป ถือว่าได้รับการยกเว้นเงื่อนไขพิจารณาเรื่อง NPL ทั้งนี้หากผู้ประกอบการยังมีหลักทรัพย์ค้ำประกันอื่นๆ สามารถนำมาค้ำประกันได้ หรือต้องการใช้วงเงินค้ำประกันจาก บสย.ก็ใช้วงเงินค้ำประกันได้ถึง 100%

อย่างไรก็ตามทั้ง 5 สมาคมท่องเที่ยวยังต้องการให้รัฐบาลจัดตั้งวงเงินกู้ใหม่อีก 10,000 ล้านบาท และให้พิจารณาตามเงื่อนไขที่ขอไปก่อนหน้านี้ เช่น ไม่มีการพิจารณาเรื่อง NPL อยากให้ค้ำประกันระหว่างบุคคลหรือนิติบุคคลไขว้กัน หรือใช้ทรัพย์สินที่ปลอดหนี้ เช่น รถ และอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ เป็นส่วนหนึ่งในการค้ำประกัน

17789
  LUMPINI Centerสุขุมวิท77 ใกล้BTSอ่อนนุช  ใกล้BTSอ่อนนุช เพียง800ม. ขายถูกกู้ได้สูง ถูกกว่าทั่วไปใกล้เคียง

    LUMPINI Centerสุขุมวิท77ขายถูกกู้ได้สูง ถูกกว่าทั่วไปใกล้เคียง ขายเพียง 1.42 ล้านบาท (ฟรีค่าโอน)     LUMPINI Centerสุขุมวิท77ขายถูกกู้ได้เต็ม
    LUMPINI Centerสุขุมวิท77ขายถูกกู้ได้สูง ขายถูกกู้ได้สูง ถูกกว่าทั่วไปใกล้เคียง ขนาด 28 ตร.ม      LUMPINI Centerสุขุมวิท77ขายถูกกู้ได้เต็มคอนโดทำเลทอง ทำเลดี ใกล้ห้าง Big C อ่อนนุช500ม. ราคานี้ ขายถูกกู้ได้สูง ถูกกว่าทั่วไปใกล้เคียง ขายเพียง 1.42 ล้านบาท (ฟรีค่าโอน) พร้อมเฟอร์นิเจอร์เข้าอยู่ได้เลย 

 ขายLUMPINI Centerสุขุมวิท77 ใกล้BigCอ่อนนุช  
 
คอนโดลุมพินีเซ็นเตอร์สุขุมวิท77  ใกล้ห้าง Big C อ่อนนุช500ม. คอนโดคุ้มค่า ถูกกว่าทั่วไปใกล้เคียง ราคา 1.42 ล้านบาท (ฟรีค่าโอน)
–ห้องสภาพเดิมสวยสะอาดพร้อมเฟอร์นิเจอร์เข้าอยู่ได้เลย
-ขนาด 28 ตร.ม. ตึก D ชั้น 8
-ค่าส่วนกลาง 22 ฿/ ตรม.

สิ่งอำนวยสะดวกของโครงการ
-สระว่ายน้ำ
-ห้องออกกำลังกาย
-สนามเด็กเล่น
-ห้องเรียนรู้
-ที่จอดรถ
-ร้านซักรีด
-7-Eleven (เซเว่น อีเลฟเว่น)

ทำเลทอง สถานที่สำคัญ ใกล้เคียง
– BTS อ่อนนุช ระยะทาง 900ม. (เดินได้)
– Big C Extra อ่อนนุช ระยะทาง 500 เมตร
– เทสโก้โลตัส สุขุมวิท 50 (อ่อนนุช) ระยะทาง 1 กม.
– ซีคอนสแควร์ (เทสโก้โลตัส) ระยะทาง 6.3 กม.
– ตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์ ระยะทาง 7.1 กม.
– พาราไดซ์พาร์ค ศรีนครินทร์ ระยะทาง 7 กม.
– สวนหลวง ร.9 ระยะทาง 11.4 กม.

สนใจ
ติดต่อ จิ๊บ 062-939-2515 (เจ้าของขายเอง)
Line ID : wucharapongb


รายละเอียดเพิ่มเติม
https://ipostcondo.com/ขายถูกคอนโดลุมพินีเซ็น/

คำค้น
ขายถูกคอนโดลุมพินีเซ็นเตอร์สุขุมวิท77,ขายคอนโดใกล้BTSอ่อนนุชเพียง800เมตร, ขายคอนโดใกล้ห้างBigCอ่อนนุช500ม, คอนโดลุมพินีเซ็นเตอร์สุขุมวิท77ขายถูกกู้ได้สูง, คอนโดลุมพินีเซ็นเตอร์สุขุมวิท77ถูกกว่าทั่วไปใกล้เคียง,

17790
ทานข้าวออแกนิค ที่มีค่าน้ำตาลต่ำ ทำไมถึงดีกับสุขภาพคุณแม่มีครรภ์
กลุ่มข้าวอินทรีย์) ถึงแพงกว่าข้าวธรรมดา     การปลูกข้าวอินทรีย์   เกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ปลูกข้าวอินทรีย์  ผู้บริโภคส่วนใหญ่ต่างก็ให้ความสนใจกับการดูแลรักษาสุขภาพกันมากขึ้น  อย่างยิ่งกับการเลือกซื้ออาหารที่ปลอดภัยซึ่งมีมากมายหลากหลายในปัจจุบัน  รวมถึงผลผลิตจากระบบเกษตรอินทรีย์ที่เป็นทางเลือกหนึ่งที่ผู้บริโภคทั้งหลายให้ความไว้วางใจ  แต่ก็ยังมีคำถาม ข้อสงสัย ติดอันดับยอดนิยมจากผูบริโภคว่า  “ทำไมข้าวเกษตรอินทรีย์ถึงราคาแพงกว่า ทั่วไป ทั้งที่ข้าวในนาผลิตตามธรรมชาติ ไม่ต้องมีต้นทุนปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง”    'ข้าวอินทรีย์' ดีต่อสุขภาพ  ข้อมูลจากเวปไซด์ขององค์กรการอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) กล่าวถึงข้อเท็จจริงบางประการ ข้าวปลอดสารสุรินทร์ที่เป็นเหตุผลของราคาผลผลิตและสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่สูงกว่าเอาไว้  ดังนี้- ฟาร์มเกษตรอินทรีย์มีขนาดเล็ก ใช้แรงงานต่อหน่วยในการผลิตมากกว่าฟาร์มทั่วไป (สาเหตุหนึ่งที่ต้นทุนการผลิตสูง)
- ค่าใช้จ่ายในขบวนการหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตเกษตรอินทรีย์ ปลูกข้าวอินทรีย์  สูงกว่าเพราะในการขนส่ง หรือแปรรูปจะต้องแยกออกจากผลผลิตทั่วไปอย่างชัดเจน
- ปริมาณของข้าวเกษตรอินทรีย์ค่อนข้างน้อย ทำให้ค่าใช้จ่ายในการกระจายสินค้าต่อหน่วยของ ข้าวไรซ์เบอรี่อินทรีย์  ออกสู่ตลาดนั้นสูงกว่าผลผลิตทั่วไป
- ข้าวเกษตรอินทรีย์ทำให้เกษตรกรได้รายได้ที่เป็นธรรมและพอเพียง
- ข้าวเกษตรอินทรีย์ ข้าวไรซ์เบอรี่ออแกนิค  มีการจัดการมาตรฐาน คุ้มครองสัตว์เลี้ยงในฟาร์มได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า
- และสุกท้ายที่สำคัญที่สุด ข้าวเกษตรอินทรีย์มีจำนวนจำกัดเมื่อเทียบกับความต้องการของผู้บริโภค
เพื่อความมั่นใจถึงความเป็นข้าวออร์แกนิคที่แท้จริงของเรา  




ข้าวฮอร์ (HOR)  ข้าวเกษตรอินทรีย์ ได้รับมาตรฐาน 
1. ใบรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์ ( Organic Thailand)
2. ใบรับรองเครื่องหมาย "ข้าวพันธุ์แท้"  จากกรมการข้าว  จาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์   ในประเภทของ 
2.1  ข้าวขาวดอกมะลิ 105 (ข้าวขาว)  
2.2  ข้าวขาวดอกมะลิ105 (ข้าวกล้อง)  
2.3  ข้าวมะลินิลสุรินทร์

ข้าว Hor.Boutique ข้าวเกษตรอินทรีย์สุรินทร์  ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์ส่งทั่วไทย  ข้าวเพื่อสุขภาพ
277 หมู่ 14 ถ.พิชิตชัย ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000
โทร. 092-8245655
website : www.hor.boutique
Facebook :   www.pinterest.com/horboutique/
Twitter : https://twitter.com/hor_boutique
IG : https://www.instagram.com/hor.boutique/
Line: @Hor.Boutique

เรามีข้าวอินทรีย์ 7 ประเภทครับ ขายข้าวอินทรีย์, กลุ่มข้าวอินทรีย์  ข้าวหอมมะลิออแกนิคส่งทั่วไทย
1.  ข้าวอินทรีย์หอมมะลิ
2.  ข้าวกล้องหอมมะลิออแกนิค
3. ข้าวปะกาอำปึลปลอดสารพิษ
4.ข้าวผสมห้าสายพันธุ์อินทรีย์
5.  ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิค
6.  ข้าวมะลินิลออแกนิค
7. ข้าวไรซ์เบอรี่   ข้าวกล้องหอมมะลิแดงออแกนิก

ข้าว Hor พร้อมขายแล้วที่ Shopee & Lazada
https://shopee.co.th/hor.boutique
https://www.lazada.co.th/shop/horboutique/

#ข้าวออร์แกนิก #ข้าวออแกนิค  #ข้าวออแกนิก #ข้าวอินทรีย์ 
#ข้าววสุขภาพ  #ข้าวเกษตรอินทรีย์
 

 

 

 


 

 

 

 

 

 

 

 
 

17791
ห้องซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนของจิปาถะ / Hot Promotion!!!
« เมื่อ: กันยายน 24, 2021, 10:56:13 am »
ราคาดีมากกก!!!!!!!!

17795


ทูซีทูพีฉลองสู่ปีที่ 19 ชูวิสัยทัศน์สร้างการเติบโตมั่นคงในธุรกิจ หวังตอกย้ำความเป็นผู้นำแพลตฟอร์มการชำระเงินระดับโลก เผยโกยรายได้ 800 ลบ. ครึ่งแรกปี 64

นายปิยชาติ รัตน์ประสาทพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทูซีทูพี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าปี 2564 นี้เป็นปีแห่งการก้าวเข้าสู่ปีที่ 19 ที่ผ่านมาทูซีทูพี ได้รับการยอมรับและเป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำการให้บริการรับชำระเงินออนไลน์ (Payment Gateway) อย่างครบวงจร ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยปัจจุบันบริษัทฯ ได้พัฒนาและให้บริการระบบการชำระเงินกับร้านค้าขนาดใหญ่ จำนวนมากกว่า 1,000 บริษัทในกว่า 10 ประเทศทั่วโลก ทำให้ล่าสุดบริษัทมีตัวเลือกในการชำระเงินแก่ลูกค้าที่มากทีสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กว่า 300 วิธี พร้อมยังมีจุดให้บริการรับชำระเงินมากกว่า 400,000 จุดรวมกัน

“เพื่อการพัฒนาและก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง บริษัทฯ ได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการผู้นำแพลตฟอร์มการชำระเงินระดับโลก ที่มีมาตรฐานระดับสากลและพร้อมเคียงข้างลูกค้าในทุกมิติเสมอ โดยมีการกำหนดกลยุทธ์การดำเนินงานต่อจากนี้คือ จะยังคงมุ่งเน้นความน่าเชื่อถือ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยในการให้บริการ พร้อมเพิ่มศักยภาพการให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มช่องทางการรับชำระเงินทั้งในไทยและต่างประเทศ เพิ่มรูปแบบบริการใหม่ๆ เช่น บริการ BNPL (Buy now pay later ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง) การให้บริการเงินกู้กับร้านค้าในเครือข่ายทูซีทูพี รวมถึงการขยายเครือข่ายให้บริการอีเพย์เมนต์ ไปยังประเทศอื่นๆ ในทวีปยุโรป และตะวันออกกลาง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้มีการศึกษาและเตรียมความพร้อมสำหรับการให้บริการรับชำระด้วยเงินด้วยคริปโทเคอเรนซี่ (cryptocurrencies) เพิ่ม หากธนาคารแห่งประเทศไทยอนุญาต หรือการเข้าไปมีส่วนร่วมในเงินดิจิทัลของธนาคารแห่งประเทศไทยเอง (CBDC – Central Bank Digital Currency)” นายปิยชาติ กล่าว

วิสัยทัศน์และกลยุทธ์ธุรกิจมุ่งสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและมั่นคงของบริษัท ทูซีทูพี (ประเทศไทย) จำกัด ในช่วงครบรอบ 19 ปีที่ก่อตั้งบริษัท จะเน้นเดินหน้าพันธมิตรแบรนด์ชั้นนำลุยเปิดบริการใหม่ เพื่อเปิดตลาดใหม่ในปีต่อไป จุดนี้นายปิยชาติ กล่าวต่อว่าส่วนของผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก 2564 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้แล้วกว่า 800 ล้านบาท โดยเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ แม้จะอยู่ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจผันผวน แต่เชื่อมั่นว่าในส่วนของผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังจะยังโตเพิ่มอีกราว 25% ส่งผลทำให้ยอดรวมตลอดทั้งปีแตะ 1,800 ล้านบาท

บริษัทเชื่อว่าปัจจัยในการสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจในปีนี้ส่งผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ทำให้ประชาชนมีวิถีชีวิตในรูปแบบนิว นอร์มัล หลีกเลี่ยงการสัมผัสเงินสด งดออกจากบ้าน และหันมาจับจ่ายใช้สอยแบบออนไลน์เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับในส่วนของผู้ประกอบการและร้านค้าก็ต้องเปลี่ยนรูปแบบมาขายออนไลน์ เนื่องด้วยเจอคำสั่งล็อคดาวน์ของทางภาครัฐ ทำให้ไม่สามารถทำการค้าแบบปกติที่หน้าร้านได้



ในขณะที่ภาพรวมตลาดอีเพย์เมนต์ในปีนี้ยังเติบโตได้ดีและมีการแข่งขันสูงขึ้น มีผู้เล่นรายใหม่เข้ามา ทั้งจากบริษัท สตาร์ทอัป ที่เกิดใหม่ในประเทศและบริษัทผู้ให้บริการจากต่างประเทศ ทำให้ทูซีทูพีที่เป็นผู้เล่นรายใหญ่จึงต้องเร่งขับเคลื่อนธุรกิจพร้อมสร้างการเติบโตที่มั่นคงในไทยมากขึ้น

สำหรับในปีนี้ บริษัทได้มีการจับมือเพิ่มพันธมิตรธุรกิจแบรนด์ดังมากมาย อาทิ บริษัทไปรษณีย์ไทย, แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป, สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA), บริษัท อินเวสทรี (ไทยแลนด์) หรือแม้แต่การเข้าร่วมพันธมิตรสถาบันการเงินของต่างประเทศ เพื่อเพิ่มการให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศ ได้แก่ วิง (Wing) ในกัมพูชา ธนาคาร CB Bank ในพม่า ธนาคารเวียดนาม ไซ่ง่อนจอยต์สต๊อกคอมเมอร์เชียลแบงก์ (เอสซีบี) และบริษัท อีมันนี่ เพย์เม้นท์โซลูชั่น เป็นต้น

“ปัจจุบันทูซีทูพีให้บริการลูกค้าหลากหลายรูปแบบ อาทิ บริการ Payment Gateway การรับชำระเงินออนไลน์ด้วยบัตรเครดิตหรือเดบิต, บริการ Qwik สำหรับร้านค้าที่ขายผ่านโซเชียล เน็ตเวิร์คกิ้ง (social commerce), บริการออกกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ออกบัตรเวอร์ชัวร์ ออกบัตร Prepaid ทั้ง MasterCard และ Visa และบริการ easyBills ศูนย์รวมรวมจ่ายบิลสาธารณูปโภค รวมทั้งการให้บริการโอนเงินข้ามประเทศที่เพิ่มเข้ามาใหม่ล่าสุด

ทั้งนี้บริษัทในกลุ่มทูซีทูพีได้ขยายออฟฟิศไปแล้วกว่าใน 10 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ไทย สิงคโปร์ มาเลย์เซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย พม่า เวียดนาม ฮ่องกง ยูเครน และฟินแลนด์ และยังมีเครือข่ายที่สามารถให้บริการได้ในอีกหลายๆ ประเทศนอกเหนือจากนี้ ได้แก่ ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี อินเดีย รวมทั้งประเทศในทวีปยุโรปด้วย” นายปิยชาติ กล่าวสรุป

17796
ห้องซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนของจิปาถะ / Hot Promotion!!!
« เมื่อ: กันยายน 23, 2021, 04:33:10 pm »
ราคาดีมากกก!!!!!!!!

17797


เอเจนซีส์ – สื่อนอกรายงานผู้เชี่ยวชาญต่างออกมาเตือนหลายชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวม ไทย มาเลเซีย และเวียดนาม อาจเจอวิกฤตเคสล้นโรงพยาบาลหลังการกลับมาเปิดประเทศเร็วเกินไปจากปัจจัยการให้ภูมิคุ้มกันทางวัคซีนกับประชาชนไม่ถึง 70% ตามมาตรฐานการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่บวกกับประเด็นใช้วัคซีนโควิด-19ประสิทธิภาพต่ำในฐานะวัคซีนหลักอย่างแพร่หลาย

CNN สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้(22 ก.ย)ว่า ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19สายพันธุ์เดลตาในช่วงฤดูร้อนและหนักสุดในประเทศส่วนใหญ่เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

แต่ทว่าเวลานี้รัฐบาลหลายชาติรวมทั้งไทย มาเลเซีย และเวียดนาม กำลังหาทางเพื่อฟื้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สำคัญด้วยการกลับมาเปิดพรมแดนและพื้นที่สาธารณะ อย่างไรก็ตามบรรดาผู้เชี่ยวชาญวิตกไปถึงอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19ที่ต่ำในส่วนใหญ่ของภูมิภาค รวมไปถึงมีการใช้วัคซีนประสิทธิภาพต่ำอย่างแพร่หลายที่รวมไปถึงวัคซีนซิโนแวคของจีนที่อาจนำมาสู่สถานการณ์ที่เลวร้ายอย่างหนักได้

หยั่นซวง ฮวง (Yanzhong Huang) นักวิจัยอาวุโสประจำสถาบันธิงแทงก์ สภาด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ( Council on Foreign Relations)ที่มีฐานอยู่ในสหรัฐฯ แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า หากอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19ไม่สูงรวมไปถึงการใช้วัคซีนโควิด-19ประสิทธิภาพสูงก่อนการยกเลิกมาตรการจำกัดทั้งหลายทางโควิด-19 เชื่อว่าระบบสาธารณสุขในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในไม่ช้าจะอยู่ในขั้นวิกฤต

“คุณจะได้เห็นการเพิ่มขึ้นของเคสป่วยหนักที่จะทำให้เตียงห้องไอซียูและเครื่องช่วยหายใจขาดแคลน ซึ่งจะมีความท้าท้ายเกิดขึ้นในด้านการขาดความสามารถการให้บริการทางสุขภาพ”

สื่อสหรัฐฯรายงานว่า แต่ดูเหมือนว่าบรรดาผู้นำทั่วภูมิภาคนั้นดูเหมือนจะมีทางเลือกไม่มากนักเป็นเพราะเกิดปัญหามีซัพพลายวัคซีนโควิด-19ไม่เพียงพอเป็นต้นว่า ไทยประกาศใช้การฉีดวัคซีนโควิด-19เข้าใต้ผิวหนังแทนการเข้ากล้ามเนื้อตามปกติเพื่อที่จะทำให้มีวัคซีนเพียงพอสำหรับการแจกจ่ายให้กับประชาชนได้อย่างทั่วถึง

และทำให้ในหลายชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จะผลักดันให้ถึงเป้าหมายการแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19ให้กับประชาชนของตัวเองในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าไม่น่าจะประสบความสำเร็จ เกิดขึ้นท่ามกลางสภาวะที่ผู้คนขาดโอกาสทางอาชีพการงาน และถูกสั่งให้ต้องอยู่แต่ในที่พัก ครอบครัวกำลังหิวโหย

ครูสอนดำน้ำต่างชาติในไทย จีน การิโต (Jean Garito) ที่มีฐานอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตเปิดเผยว่า ทั้งธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางต่างต้องการอย่างมากสำหรับการเปิดพรมแดน แต่เสริมว่าไม่แน่ใจว่าต้องใช้ระยะเวลานานเท่าใดที่ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะกลับมาอีกครั้ง

“หากรัฐบาลต่างๆไม่สามารถเยียวยาภาคธุรกิจสำหรับการสูญเสียทั้งในระยะสั้นและระยะยาวแล้วละก้อ และหากว่าพวกเขาเหล่านี้ไม่สามารถกลับมาเปิดได้อย่างสมบูรณ์ พวกเราทั้งหมดจะตกอยู่ในฝันร้ายอย่างแน่นอน” การิโตกล่าว

CNN รายงานว่า วิกฤตโควิด-19เพิ่งผ่านจุดสูงสุดไปและอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19ยังคงต่ำในบางส่วนแต่กระนั้นมีหลายรัฐบาลกำลังเริ่มต้นเดินหน้าของการเปิดประเทศใหม่

“เวียดนาม” วางแผนที่จะเปิดเกาะฟู้โกว๊ก (Phú Quốc)ซึ่งเป็นเกาะท่องเที่ยวตั้งอยู่ในจังหวัดเกียนซางให้กับเหล่านักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มในตุลาคมที่จะถึงอ้างอิงจากรอยเตอร์

โดยทางเจ้าหน้าที่ได้อ้างไปถึงแรงกดดันทางเศรษฐกิจนั้นเป็นปัจจับสำคัญในการตัดสินใจพร้อมไปกับรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวชี้ว่า วิกฤตโรคโควิด-19ระบาดทำร้ายอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างหนัก และมาจนถึงเวลานี้มีจำนวนประชากรเวียดนามน้อยกว่า 7% ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19ครบโดสอ้างอิงจากการติดตามของ CNN ห่างไกลจากตัวเลขอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19ในระดับ 70%-90% ที่เป็นข้อกำหนดมาตรฐานสำหรับการมีภูมิคุ้มกันหมู่ ตามความเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญ

“ไทย” วางแผนที่จะเปิดกรุงเทพฯและจังหวัดสำคัญอื่นๆสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยจะเริ่มในเดือนหน้าเช่นกันเพื่อพลิกฟื้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของตัวเองที่มีสัดส่วนกว่า 11% ของตัวเลขจีดีพีของไทยในปี 2019 อ้างอิงจากรอยเตอร์ และไทยมีประชาชนที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็มอยู่ที่ 21 %

ส่วน “อินโดนีเซีย” ที่มีการแจกวัคซีนโควิด-19ให้กับประชาชนทั้งหมดไปแล้วมากกว่า 16% ได้เริ่มการผ่อนคลายมาตรการจำกัดทางโควิด-19 อนุญาตให้พื้นที่สาธารณะกลับมาเปิดอีกครั้ง และรวมไปถึงอนุญาตให้อุตสาหกรรมกลับมาทำงานได้เต็มตามศักยภาพ

ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจจะได้รับอนุญาตให้เข้าอินโดนีเซียได้บางส่วนของพื้นที่รวมถึง เกาะบาหลี ภายในตุลาคมนี้ รอยเตอร์ชี้

“มาเลเซีย” ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19สูงในภูมิภาค โดยมีมากกว่า 56% ของประชาชนมาเลเซียได้รับวัคซีนโควิด-19ครบโดส รัฐบาลกัวลาลัมเปอร์เปิดเกาะลังกาวีสถานตากอากาศสำคัญให้กับนักท่องเที่ยวในประเทศสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีไม่กี่รัฐในแดนเสือเหลืองได้เริ่มต้นผ่อนคลายมาตราการสำหรับกลุ่มที่ได้รับวัคซีนโควิด-19ครบถ้วน รวมไปถึงการเดินทางข้ามรัฐและการนั่งรับประทานอาหารภายในร้าน

ทั้งนี้การที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เร่งรีบกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งสะท้อนไปถึงนโยบายการอยู่ร่วมกับโควิด-19ที่หนีห่างไกลจากนโยบายก่อนหน้า “โควิด-19เป็นศูนย์” อภิเชค ไรมาล (Abhishek Rimal) ผู้ประสานงานสุขภาพฉุกเฉินภูมิภาคขององค์การกาชาดสากล IFRC (International Federation of Red Cross) แสดงความเห็น และถึงแม้ว่าจะมีคนอื่นอีกไม่ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ทว่าคนเหล่ากำลังเดินหน้าเร่งการเปิดประเทศโดยชี้ไปว่า รัฐบาลกำลังประเมินถึงนโยบายอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ผู้เชี่ยวชาญต่างเตือนว่า อย่างไรก็ตามจากการที่บางส่วนของภูมิภาคมีอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19ที่ต่ำซึ่งรวมไปถึง ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และไทยจะทำให้การเปิดประเทศมีความเสี่ยงมากกว่าในโลกตะวันตก

ชาติตะวันตกจำนวนมากแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19ให้กับประชาชนส่วนใหญ่ของตัวเองรวมถึง อังกฤษที่มีอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19ที่ 65% และแคนาดาอยู่ที่เกือบ 70%

CNNชี้ว่า ถึงแม้ว่าจะมีอัตราการเพิ่มขึ้นของเคสช่วงสั้นๆหลังการเปิดแต่ทว่าจำนวนการเสียชีวิตและการเข้ารับการรักษาพยาบาลยังคงต่ำในประเทศโลกตะวันตกแสดงให้เห็นถึงคุณประโยชน์ของวัคซีนโควิด-19ได้เป็นอย่างดี

และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อัตราการมีผลตรวจเป็นบวกยังคงอยู่ในระดับสูงที่น่าวิตก โดยองค์การอนามัยโลก WHO ได้ออกข้อแนะนำแก่ประเทศต่างๆให้คงอัตราการมีผลตรวจเป็นบวกอยู่ที่ 5% หรือต่ำกว่านั้นเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการกลับมาเปิดทางสาธารณะอีกครั้ง ไรมาลชี้ว่า แต่ทว่ายังคงเห็นตัวเลข 20%-30% ในหลายประเทศในภูมิภาค

นอกจากทั้งหมดนี้ "ปัจจัยในเรื่องคุณภาพของวัคซีนโควิด-19" ยังเป็นปัญหาต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับการกลับมาเปิดตัวรับนักท่องเที่ยวเช่นกัน

เป็นเพราะพบว่ามีหลายชาติจำนวนมากในภูมิภาคต่างพึ่งพาวัคซีนโควิด-19จากจีนเป็นวัคซีนหลักของตัวเองที่เป็นที่รู้กันดีว่ามีประสิทธิภาพที่ต่ำกว่าของวัคซีนชาติตะวันตก

อ้างอิงจากมหาวิทยาลัยดุ๊ก(Duke University)ของสหรัฐฯพบว่า ไทยซื้อวัคซีนซิโนแวคไม่ต่ำกว่า 40 ล้านโดส ขณะที่ฟิลิปปินส์และมาเลเซียต่างซื้อวัคซีนซิโนแวคประเทศละ 20 ล้านโดสเท่ากัน ส่วนกัมพูชาซื้อวัคซีนซิโนแวคจำนวน 16 ล้านโดส

อินโดนีเซียซื้อวัคซีนซิโนฟาร์มของจีนจำนวน 15 ล้านโดสและมาเลเซียซื้อวัคซีนซิโนฟาร์มจำนวน 5 ล้านโดส

และทำให้ผู้เชี่ยวชาญ ฮวงประจำสถาบันธิงแทงก์สหรัฐฯด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศชี้ว่า ความพยายามที่จะกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งแต่ทว่ากลับมีประชาชนน้อยกว่าครึ่งได้รับวัคซีนโควิด-19โดยสมบูรณ์และอีกทั้งยังใช้วัคซีนประสิทธิภาพต่ำนั้นสามารถนำไปสู่สถานการณ์วิกฤตเคสล้นโรงพยาบาลและอาจทำให้ต้องมีการนำมาตรการจำกัดกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง

อย่างไรก็ตามไม่ใช่มีทุกชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่พึ่งพาวัคซีนซิโนแวคหรือวัคซีนซิโนฟาร์มของจีน เป็นต้นว่า สิงคโปร์ที่เป็นชาติประสบความสำเร็จในการแจกวัคซีนให้กับประชาชนสูงถึง 77% ใช้วัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคและวัคซีนโมเดอร์นาเป็นหลัก

และมีหลายชาติเริ่มถอนตัวออกห่างจากการใช้วัคซีนซิโนแวคเนื่องมาจากกังวลในประสิทธิภาพ โดย CNN ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มาเลเซียประกาว่า จะหยุดการใช้วัคซีนโควิด-19จากจีนหลังจากซัพพลายจำนวน 12 ล้านโดสของตัวเองหมดลง

และไทยในเดือนกรกฎาคมเช่นกันประกาศจะให้ภูมิคุ้มกันเป็นเข็มที่ 3แก่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของตัวเองด้วยวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันถึงแม้คนเหล่านั้นจะได้รับวัคซีนซิโนแวคครบโดสแล้วก็ตาม

“ผมคิดว่าหากว่าพวกเขาสามารถใช้วัคซีนประสิทธิภาพสูงเพื่อเป็นเข็มกระตุ้นและมีจำนวนประชากรจำนวนมากได้รับภูมิคุ้มกันทางวัคซีน ดังนั้นแล้วการกลับมาเปิดประเทศจะดูมีความสมเหตุสมผลมากขึ้น” ฮวงกล่าว

ด้านครูต่างชาติสอนดำน้ำที่จังหวัดภูเก็ตพบว่าการกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งนั้นดูไม่เร็วจนเกินไป “พวกเราล้วนมีลูกๆและตัวเองต้องเลี้ยงดู”

17801
ห้องซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนของจิปาถะ / Hot Promotion!!!
« เมื่อ: กันยายน 22, 2021, 07:53:15 pm »
ราคาดีมากกก!!!!!!!!

17802
ว่าที่ร.ต.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ประชาสัมพันธ์ผู้ปกครองนักเรียนในสังกัดเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ถึงความคืบหน้าเงินเยียวยานักเรียน 2,000 บาท ว่า วันนี้ (21 ก.ย.) ผู้ปกครองของโรงเรียนเทศบาลวัดเขียน และโรงเรียนเทศบาลวัดแม่นางปลื้ม อ.พระนครศรีอยุธยา ได้เริ่มทยอยรับเงินโอนตรงผ่านธนาคารกรุงไทยบ้างแล้ว ซึ่งในส่วนของผู้ปกครองที่ใช้บัญชีนอกเหนือจากธนาคารกรุงไทย จะได้รับโอนเงินดังกล่าวตามลำดับ เป็นการทยอยโอนเงินโดยตรงจากท้องถิ่นจ.พระนครศรีอยุธยา

ส่วนของโรงเรียนอื่นๆ นั้น อยู่ระหว่างแก้ไขตรวจสอบเอกสารต่างๆ โดยได้รับแจ้งจากท้องถิ่นจ.พระนครศรีอยุธยา คาดว่าจะโอนเงินแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ ขอให้ผู้ปกครองอย่ากังวลใจ ด้วยทางสำนักศึกษาเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา จะเร่งทำการติดตามดำเนินงานเงินเยียวยานักเรียน อย่างเร่งด่วนต่อไป

หน้า: 1 ... 987 988 [989] 990 991 ... 1012