แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - deam205

หน้า: 1 ... 254 255 [256] 257 258 ... 264
4591


เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ "คลายล็อกดาวน์" ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 32) ความว่า ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปเป็นคราวที่ 13 จนถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2564 นั้น โดยที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในปัจจุบันฝ่ายสาธารณสุขได้ประเมินว่าค่อนข้างทรงตัวและมีแนวโน้มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น แม้จำนวนของผู้ป่วยอาการรุนแรงจะยังคงมีระดับสูงอันเป็นผลจากการสะสมของผู้ติดเชื้อในช่วงที่ผ่านมา แต่ผู้ติดเชื้อร้ายใหม่ในแต่ละวันมีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับผู้ที่ได้รับการรักษาพยาบาลจนหายป่วยมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นด้วย

 

ซึ่งผลดังกล่าวเกิดจากการบูรณาการและประสานความร่วมมือของฝ่ายสาธารณสุข ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง อาสาสมัครและประชาชนทุกภาคส่วนในการระดมสรรพกำลังเพื่อให้ความช่วยเหลือและป้องกันโรคแก่ประชาชน ทั้งมีการเร่งฉีดวัคนแก่กลุ่มที่มีภาวะเสี่ยงสูงต่อการติดโรค การตรวจคันหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก การให้คำแนะนำและติดตามดูแลผู้ติดเชื้อ การกระจายยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็น อีกทั้งมีการประสานงานเพื่อส่งต่อผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยให้เข้ารับการรักษาพยาบาล พนักงานเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่รับผิดชอบจึงได้มีการประเมินผลและความเหมาะสมของการบังคับใช้บรรดามาตรการตามข้อกำหนดที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้าเสนอต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) เพื่อพิจารณาปรับปรุงการบังคับใช้ในบางมาตรการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

 

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 นายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกำหนดและข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการทั้งหลายตามคำแนะนำของ ศบค. ดังต่อไปนี้

ข้อ 5 การปรับมาตรการควบคุมแบบบูรณาการสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ให้คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี กำกับดูแลและติดตามการดำเนินการของสถานที่ กิจการ หรือกิจกรรมในพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดที่ได้ปรับมาตรการตามข้อกำหนดนี้เพื่อให้เปิดดำเนินการได้ โดยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบ ระเบียบ และมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด รวมทั้งมาตรการตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบกำหนดขึ้นเป็นการเฉพาะ

(1) โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาทุกประเภท ให้สามารถใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อการจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือการทำกิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมากได้ โดยให้ผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องในพื้นที่รับผิดชอบ ร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี พิจารณาความจำเป็นและการดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด  รวมทั้งความเหมาะสมของสภาพพื้นที่และสถานการณ์ในพื้นที่รับผิดชอบ ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และกระทรวงสาธารณสุขกำหนด

 

 

 

(2) ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม  สามารถเปิดให้บริการได้โดยให้บริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มในร้านได้ไม่เกินเวลา 20.00 นาฬิกา ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านและจำกัดจำนวนผู้นั่งบริโภคในร้าน หากเป็นการบริโภคในห้องปรับอากาศให้มีจำนวนไม่เกินร้อยละ 50 ของจำนวนที่นั่งปกติ แต่หากเป็นการบริโภคในพื้นที่เปิดที่อากาศสามารถระบายถ่ายเทได้ดี เช่น ร้านอาหารขนาดเล็ก หาบเร่ แผงลอย รถเข็น ให้มีจำนวนผู้นั่งบริโภคไม่เกินร้อยละ 75 ของจำนวนที่นั่งปกติ และให้ใช้บังคับมาตรการนี้กับร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันด้วย

(3) สถานเสริมความงามร้านเสริมสวย แต่งผมหรือตัดผมให้เปิดดำเนินการได้

(4) สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ หรือสถานประกอบการนวดแผนไทย ให้เปิดให้บริการได้เฉพาะการให้บริการนวดเท้า

(5) ตลาดนัด ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติจนถึง 20.00 นาฬิกา เฉพาะการจำหน่ายสินค้าอุปโภคหรือบริโภค

(6) ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบกิจการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันสามารถเปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้น ๆ จนถึงเวลา 20.00 นาฬิกา เว้นแต่กิจการหรือกิจกรรมบางประเภทที่กำหนดเงื่อนไขควบคุมการให้บริการ หรือให้ปิดการดำเนินการไว้ก่อน

 

ก. คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานเสริมความงาม สามารถเปิดดำเนินการและให้บริการได้ผ่านการนัดหมาย ส่วนร้านเสริมสวย แต่งผมหรือตัดผมให้เปิดดำเนินการได้ โดยผ่านการนัดหมายและจำกัดเวลาการให้บริการในร้านไม่เกินรายละหนึ่งชั่วโมง

ข. สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ หรือสถานประกอบการนวดแผนไทย ให้เปิดดำเนินการได้โดยผ่านการนัดหมายและจำกัดเฉพาะการให้บริการนวดเท้า

ค. สถาบันกวดวิชา โรงภาพยนตร์ สวนสนุก สวนน้ำ สระว่ายน้ำ สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส ตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม การจัดเลี้ยงหรือการจัดประชุม ยังคงให้ปิดการดำเนินการไว้ก่อน

(7) สวนสาธารณะ ลานกีฬา สนามกีฬา สระน้ำ เพื่อการกีฬาหรือกิจกรรมทางน้ำเพื่อการสันทนาการ หรือสระว่ายน้ำสาธารณะ หรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกายประเภทกลางแจ้งหรือตั้งอยู่ที่เป็นพื้นที่โล่ง สนามกีฬาหรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกายประเภทในร่มที่อากาศถ่ายเทได้ดี สามารถเปิดดำเนินการได้ไม่เกินเวลา 20.00 นาฬิกา และสามารถจัดการแข่งขันได้โดยไม่มีผู้ชมในสนาม โดยคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี สามารถพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์การใช้สถานที่เป็นการเฉพาะเพื่อความเหมาะสมกับสถานที่นั้น ๆ ได้

(8) ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้งต่อคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดในพื้นที่ที่รับผิดชอบ แล้วแต่กรณี เพื่อเข้าใช้สนามกีฬาทุกประเภทเพื่อการฝึกซ้อมของนักกีฬาทีมชาติได้ โดยไม่มีผู้ชมในสนาม แต่ต้องดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด

4592


ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของประชาชนในช่วงก่อนหน้านี้ มีการกระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ส่งผลให้รัฐบาลจำเป็นที่ต้องประกาศล็อกดาวน์พื้นที่ ป้องกันการแพร่ระบาด ส่งผลให้ประชาชนลำบากในการใช้ชีวิต บริษัท ห้างร้าน โรงงาน ต้องปิดกิจการ คนงานตกงานขาดรายได้

แต่ ณ เวลานี้ ตัวเลขของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ดูจะมีแนวโน้มลดลง ซึ่งมาจากการที่ประชาชนมีโอกาสได้รับการฉีดวัคซีนมากขึ้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นใจให้กับภาคการลงทุนมากขึ้น

โดยในมุมมองตัวแทนภาคอุตสาหกรรม “นายสุพันธุ์ มงคลสุธี” ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การะบาดของโรคเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศ กำลังเข้าสู่ขั้นวิกฤติและส่งผลกระทบไปทุกภาคส่วนของประเทศ ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมเกิดการติดเชื้อในโรงงานเป็นจำนวนมากเช่นกัน สภาอุตสาหกรรมฯ ในฐานะองค์กรหลักภาคเอกชนที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ ได้จัดทำ "มาตรการควบคุมโควิดในภาคอุตสาหกรรม" เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตและอาการรุนแรง พร้อมรักษากำลังการผลิตให้มากที่สุด ซึ่งโรงงานที่ดำเนินการอย่างถูกต้อง จะไม่ถูกปิด หากยังสามารถดำเนินการต่อได้โดยไม่แพร่กระจายเชื้อสู่ภายนอก ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ติดโควิดไม่ต้องปิดโรงงาน" แบ่งออกเป็น 4 ข้อดังนี้

1.มาตรการ Bubble and Seal สำหรับภาคอุตสาหกรรมต้องมีความชัดเจน สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงและเป็นไปในแนวทางเดียวกันทุกพื้นที่ โดยให้สุ่มตรวจหาผู้ติดเชื้อด้วยชุดตรวจ ATK สม่ำเสมอ 10% ของจำนวนพนักงานทุก 14 วัน โดยรัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่าย และให้พนักงานผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำสามารถกลับเข้ามาทำงานใน Bubble ในโรงงานตามปกติ

2.สถานประกอบการที่มีพนักงาน 300 คนขึ้นไป เสนอให้กระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนงบประมาณในการจัดตั้ง Factory Quarantine และ Factory Accommodation Isolation โดยให้มีจำนวนเตียงๆไม่น้อยกว่า 5% ของจำนวนพนักงาน และเสนอให้กระทรวงแรงงานจัดตั้งโรงพยาบาลแม่ข่ายในแต่ละพื้นที่ประกันสังคม เพื่อให้บริการโรงงานในพื้นที่ ณ จุดเดียว ตั้งแต่การตรวจหาเชื้อไปจนถึงส่งต่อผู้ป่วยเข้าไปในระบบการรักษา เพื่อลดขั้นตอนในการหาโรงพยาบาล

3.สำหรับสถานประกอบการที่มีพนักงานต่ำกว่า 300 คน ขอให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมจัดตั้ง Community Quarantine (CQ), Community Isolation (CI) (ศูนย์พักคอยและแยกกักตัว) ให้เพียงพอกับแรงงาน โดยให้มีจำนวนเตียงไม่น้อยกว่า 5% ของจำนวนพนักงานในพื้นที่

4.จัดสรรวัคซีนตามเพื่อลดอัตราการเสียชีวิต โดยจัดสรรตามลำดับความสำคัญทางสาธารณสุข การป้องกันโรค และเศรษฐกิจใน 3 กลุ่มคือ กลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่อายุ 40-59 ปี กลุ่มพนักงานในสถานประกอบการที่มีติดเชื้อมากกว่า 50% จนต้องปิดกิจการ และกลุ่มพนักงานในอุตสาหกรรมสำคัญยิ่งยวด

ขณะที่มุมมองของ “รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ” อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง นำเสนอแง่คิดที่น่าสนใจว่า รัฐบาลควรเดินหน้าคลายล็อกดาวน์ในทุกพื้นที่ในบางกิจกรรม หากตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่ำกว่าผู้ได้รับการรักษาหายป่วยมากพอ และสามารถทำให้ผู้ป่วยที่ต้องรักษาในระบบสาธารณสุขลดลงมาเหลือต่ำกว่า 100,000 ราย จากปัจจุบันอยู่ที่ 200,339 ราย

ระบบสาธารณสุข ระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า ควรต้องจัดการความเสี่ยงด้านอุปทานเพิ่มขึ้นโดยจัดสรรงบประมาณให้โรงพยาบาลของรัฐตามความเสี่ยงของประชากรที่ขึ้นทะเบียนกับโรงพยาบาลต่างๆ นั่นคือ ผู้ให้บริการในพื้นที่เสี่ยงสูง และต้องดูแลประชากรที่มีความเสี่ยงสูงควรจะเหมาจ่ายต่อหัวสูงกว่าผู้ให้บริการ หรือโรงพยาบาลที่ดูแลประชากรที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า ,ไม่ควรกำหนดการเหมาจ่ายแบบคงที่ทั่วทั้งประเทศ โดยงบประมาณต้องจัดสรรไปตามภาระและแผนงานกิจกรรมที่ต้องทำ และไม่ควรรวมศูนย์การตัดสินใจเพราะจะทำให้แก้ปัญหาล่าช้า และไม่ทันการ

อย่างไรก็ตามหากมีความจำเป็นต้องขยายล็อกดาวน์ เพราะตัวเลขติดเชื้อไม่ลดลง และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจต้องล็อกดาวน์ไปอีกอย่างน้อยจนถึงปลายปี ในขณะที่ประชาชนยังรอฉีดวัคซีนกันอยู่ รัฐบาลต้องเตรียมงบประมาณจ่ายเยียวยาให้ภาคธุรกิจ และประชาชนเพิ่มเติม หากต้องขยายล็อกดาวน์ และควรประกาศล่วงหน้า และเยียวยาทันทีก่อนสั่งปิดพื้นที่ หรือกิจกรรมเพื่อไม่ให้ความทุกข์ยากทางเศรษฐกิจรุนแรงไปกว่าระดับวิกฤติในขณะนี้ และควรเตรียมเงินงบประมาณไม่ต่ำกว่าอีก 300,000 ล้านบาท หากต้องล็อกดาวน์ถึงปลายปี

การรับฟังข้อเสนอในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในเวลานี้ จากผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง เป็นเรื่องที่ไม่เสียหายอะไร!!!

4593
รู้หรือไม่ว่า รถพยาบาล นอกจากจะเป็นรถยนต์รับส่งผู้เจ็บป่วยกรณีฉุกเฉินเพื่อให้คนป่วยไปถึงมือแพทย์โดยด่วนที่สุด ดังที่คนส่วนมากคุ้นเคยแล้วก็รู้จักบริการนี้กันมากที่สุดแล้ว ยังมีบริการเคลื่อนย้ายคนไข้ติดเตียง ให้เดินทางไปเจอหมอตามโรงพยาบาลต่างๆหรือจะโยกย้ายผู้ป่วยเพื่อให้ไปทำธุรกรรม หรือร่วมกิจกรรมต่างๆกับครอบครัว อาทิเช่น ร่วมงานบุญ งานบวช งานมงคลสมรส รถพยาบาลเอกชนก็สามารถให้บริการได้ทั้งหมดเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายด้านการเดินทางให้กับทั้งตัวผู้เจ็บป่วยติดเตียงและเครือญาติของคนเจ็บเหล่านั้น และนอกจากนั้นยังมีบริการอื่นๆนอกเหนือจากการรับส่งผู้เจ็บป่วย ที่รถพยาบาลพร้อมให้บริการอีกมาก





ทั้งหมดทั้งปวงที่กล่าวไปสามารถเรียกใช้บริการจาก รถพยาบาลเอกชน TG 2 Ambulance Service ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถเรียกใช้งานได้จากทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย ทั้งการย้ายที่ผู้เจ็บป่วยฉุกเฉิน คนไข้ตรวจตามแพทย์นัดหมาย รถรับส่งผู้ป่วยกลับไปอยู่บ้านพัก ทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑล หรือกลับภูมิลำเนาที่ต่างจังหวัด คนป่วยย้ายโรงพยาบาล ส่งรักษาต่อตามสิทธิ์ รวมทั้งผู้เจ็บป่วยไปทำธุรกรรมต่างๆเช่น ไปธนาคาร ติดต่องานราชการ รวมทั้งไปร่วมงานบุญต่างๆ โดยทีมพยาบาลของ TG 2 Ambulance Service นั้นสามารถเชื่อถือรวมทั้งเชื่อใจได้ เพราะว่าพร้อมไปด้วยเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการฝึกอบรมเวชกิจฉุกเฉิน มีความชำนาญสำหรับในการดูแลคนเจ็บ และเปี่ยมล้นด้วยประสบการณ์การทำงาน รวมถึงมีความพร้อมในเรื่องของออกซิเจน ชุดปฐมพยาบาล เครื่องมือยกเคลื่อนย้ายคนเจ็บที่ทันสมัย นอกเหนือจากเครื่องมือจะทันสมัยแล้ว รถพยาบาลก็ทันสมัยด้วยเหมือนกัน รถยนต์ทุกคันของ TG 2 Ambulance Service มีการปรับระบบช่วงล่างของตัวรถเพื่อลดการกระแทก ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าผู้ป่วยที่เข้ารับบริการจะถูกโยกย้ายอย่างปลอดภัย ไม่ทำให้ญาติคนที่อยู่รอบข้างต้องเป็นกังวลใจแน่นอน





ทาง TG 2 Ambulance Service ยังมีบริการรถพยาบาลอีกแบบหนึ่ง นั่นคือ บริการรถพยาบาล สแตนบาย บริการภาคสนามเต็มรูปแบบ ประกอบด้วยทีมงานรถพยาบาลครบทีม พร้อมพยาบาลวิชาชีพ แล้วก็เจ้าหน้าที่ผ่านการอบรมเวชกิจฉุกเฉิน ที่มากประสบการณ์ในการทำงานด้านสแตนบาย ถ้าเกิดจะจัดงานอีเวนท์ หรืองานที่รวมผู้คนไว้จำนวนมาก ก็ต้องมีทีมดูแลรักษาพยาบาลเบื้องต้นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญคอยประกบดูแลเฝ้าระวังเพื่อให้มั่นใจว่า ถ้าผู้มาร่วมงานบาดเจ็บหรือเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นมา ก็ยังมีทีมที่รอดูแลให้ปลอดภัย ดังสำนวนสุภาษิตที่ว่า กันไว้ดีกว่าแก้ ตัวอย่างงานที่เคยให้บริการรถพยาบาลแสตนบายมีหลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น งานแข่งกีฬาต่างๆไม่ว่าจะเป็นงานวิ่งมาราธอน แข่งขันฟุต. เทนนิส ยิงปืน, งานอีเวนท์ เช่น งานคอนเสิร์ต งานจัดแสดงสินค้า งานกินเลี้ยง การประชุม งานประเพณีลอยกระทง งานประจำปีใหม่ งานสงกรานต์, งานทัวร์ ให้ติดตามคณะทัวร์ ดูแลขณะทำกิจกรรมในกลุ่มทัวร์, แล้วก็ยังให้เช่ารถพยาบาล สำหรับซ้อมแผนหนีไฟ เช่าไปถ่ายละคร โฆษณา ภาพยนตร์ และก็สื่อบันเทิงอื่นๆ รวมถึงเช่าเพื่อไปประจำโรงงานหรือสถานประกอบการต่างๆก็ได้ ถ้าใครที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่สนใจหรือมีคนรอบกายกำลังปรารถนารับบริการรถพยาบาลเอกชนทั้งการรับส่งผู้ป่วยและก็การแสตนบายภาคสนาม สามารถติดต่อทางเบอร์โทรศัพท์: 083-816-8889, 092-269-3360 หรือทางไลน์ผ่าน ID: ambulancetg2 ได้เลย


4594


ถกทุกประเด็นร้อน แรงแซงทุกกระแสจนได้รับความนิยมจากแฟนข่าวไม่น้อย สำหรับรายการ ถกไม่เถียง ที่ดำเนินรายการโดย พิธีกรมืออาชีพ ทิน โชคกมลกิจ ซึ่งทำหน้าที่เหมือนสะพานเชื่อมต่อทุกความคิด พร้อมเปิดโอกาสให้ทุกกลุ่มได้แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00-17.30 น. ทางช่อง 7HD 

ด้วยเนื้อหาที่ดุเดือดของรายการนั้น ยังไม่จุใจแฟนๆ พอจึงมีการเรียกร้องให้เพิ่มเวลาออกอากาศกันมามากมาย วันนี้ไม่ต้องรอแล้วจ้า เมื่อช่อง 7HD ไฟเขียวเพิ่มเวลาให้รายการ ถกไม่เถียง เป็นที่เรียบร้อย พบกันเดือนหน้า กันยายน ชมรายการ ถกไม่เถียง แบบเต็มที่ ยาวไปเลย 1 ชั่วโมงเต็มอิ่ม ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00-18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 ทั้งนี้พิธีกรคนเก่ง “ทิน โชคกมลกิจ” เผยความรู้สึกให้ฟังว่า...

“หลังจากทำรายการมา 5 เดือน ก็มีเสียงเรียกร้องมาตลอด อย่างต่อเนื่อง จากหลายๆ ทาง ทั้งแฟนรายการเอง คนรู้จักบอกว่ารายการสั้นไปยังดูไม่จุใจเลย จริงๆเราก็พยายามจะปรับเนื้อหาให้กระชับจบได้ถูกใจแฟนๆ ที่สุด แต่บางเรื่องราวต้องยอมรับว่ามันมีรายละเอียดมากกว่านั้น ผู้ชมยังอยากลงลึก เข้าถึงข้อมูลไปอีก ด้วยเวลาเท่านี้ผมเลยมองว่ามันเลยขาดความกลมกล่อมไปหน่อย

สุดท้ายต้องขอบคุณผู้บริหารทางช่อง 7HD ที่ได้รับทราบและเข้าใจ ยินดีอนุมัติเพิ่มเวลาให้รายการถกไม่เถียง เป็น 1 ชั่วโมงเต็ม ทุกวันจันทร์- พฤหัสบดี เริ่มเดือนกันยายนนี้ ซึ่งแน่นอนครับในเวลาที่เพิ่มขึ้น คุณผู้ชมจะได้พบกับความเข้มข้นของเนื้อหา ลงลึกถึงข้อมูล และเราจะลงพื้นที่มากขึ้นเน้นช่วยเหลือคนที่กำลังเดือดร้อนอย่างแท้จริง 

อย่างไรก็ตามผมขอขอบคุณผู้ชมและแฟนรายการที่สนับสนุนรายการถกไม่เถียง เป็นอย่างดีมาโดยตลอด รับรองว่าเวลาที่เพิ่มมาเต็มอิ่มคุ้มค่าแน่นอน อย่าลืมนะครับ เดือดร้อน ไร้ที่พึ่ง นึกถึง ถกไม่เถียง”

4595


เอกภาวิน สุขอนันต์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท วีเอ็มแวร์ จำกัด กล่าวว่า การสร้างความสำเร็จในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนองค์กรด้านสาธารณสุข ในประเทศไทยมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต

โดยอีกนัยหนึ่งก็คือ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มีความยืดหยุ่น สามารถรองรับการดูแลผู้ป่วยได้อย่างเต็มที่จากทุกที่ ด้วยการวางรากฐานระบบดิจิทัลที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งจะช่วยให้องค์กรด้านสาธารณสุขของไทยสามารถใช้นวัตกรรมใหม่ๆ สร้างความยืดหยุ่น และมอบประสบการณ์การดูแลสุขภาพในรูปแบบดิจิทัลที่ช่วยสร้างความพึงพอใจแก่ผู้รับบริการ

'ดิจิทัล'ทลายอุปสรรค

สำหรับกลยุทธ์เชิงลึก 8 ประเด็น ที่แสดงให้เห็นว่า การระบาดครั้งนี้ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในภาคสาธารณสุขของประเทศไทย ประกอบด้วย

1.โควิด-19 ทำลายอุปสรรคที่สั่งสมมานานหลายทศวรรษสู่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล กระตุ้นให้เกิดการเร่งการพัฒนาแผนงานทางเทคโนโลยี จากการศึกษา “Digital Frontiers 3.0” พบว่าผู้บริโภคชาวไทยไว้วางใจในเทคโนโลยีแห่งอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเอไอ 70%, 5จี 81% และระบบการจดจำใบหน้า 74% 

2.การบริโภคและความต้องการของผู้ป่วยเป็นสิ่งสร้างความแตกต่างทางธุรกิจรูปแบบใหม่ การสำรวจพบว่าผู้ป่วย 64% จะเปลี่ยนไปใช้บริการในสถานบริการใหม่ที่มีคุณภาพเทียบเท่ากัน หากการจัดการทางด้านดิจิทัลของสถานบริการที่ใช้บริการอยู่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง 



บริการใหม่เพิ่มความเสี่ยงไซเบอร์

3.การให้บริการดิจิทัลรูปแบบใหม่สร้างความเสี่ยงทางไซเบอร์มากขึ้น บริการใหม่ๆ ผ่านระบบดิจิทัลกำลังเพิ่มความเสี่ยงทางไซเบอร์ ดังนั้นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มแข็งแบบ zero-trust, นโยบายและการควบคุมสิทธิ์อย่างน้อยต้องครอบคลุมทั้ง on-premises บนคลาวด์ไปจนถึงอุปกรณ์ปลายทาง

4.Telehealth และความสามารถในการกระจายการทำงานเปลี่ยนจาก "สิ่งที่ควรมี" กลายเป็น "สิ่งที่ต้องมี" ด้วยความแตกต่างจากอุตสาหกรรมอื่นๆ งานทางด้านสาธารณสุขเป็นสิ่งที่ต้องลงมือปฎิบัติ ในสภาพแวดล้อมของการทำงานแบบกระจายตัว รวมถึงเครื่องมือและแพลตฟอร์มที่ใช้ในการทำงานร่วมกัน

5.การลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการปฏิรูปธุรกิจกำลังเพิ่มมากขึ้น การศึกษาของวีเอ็มแวร์พบว่า ผู้ให้บริการด้านสุขภาพ 98% หวังว่าจะสามารถผ่านพ้นช่วงวิกฤตินี้ไปได้ ด้วยการลงทุนในการปรับปรุงเทคโนโลยีที่มีให้สามารถรองรับการปฏิรูปสู่ดิจิทัล

'ยืดหยุ่น'กุญแจสู่ความสำเร็จ

6.เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ (HIT) ที่ยืดหยุ่น คือ "กุญแจสู่ความสำเร็จทางดิจิทัล" ส่วนการทำงานแบบอัตโนมัติและมัลติคลาวด์คือ "อนาคต" เมื่อมีคำถามเกี่ยวกับความยืดหยุ่น กว่า 58% ขององค์กรทางด้านสาธารณสุขกล่าวว่าประสิทธิภาพของโครงสร้างพื้นฐานเป็นสิ่งสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จ

โครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอทีของงานสาธารณสุขแบบอัตโนมัติรวมถึงรูปแบบของการดำเนินงาน ถูกยกให้เป็นความคิดริเริ่มอันดับต้นๆ เนื่องจากองค์กรทางด้านสาธารณสุขมองหาช่องทางการป้องกันสุขภาพ และเพื่อความปลอดภัยของผู้ให้บริการดูแลผู้ป่วย



7.การเติบโตของคลาวด์ที่เพิ่มขึ้น การประยุกต์ใช้เพื่อสร้างสมดุลทางสาธารณสุข เนื่องจากมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้องค์กรทางด้านสาธารณสุขสามารถลดความซับซ้อนในการปรับใช้ระบบคลาวด์โดยขยายไปสู่มัลติคลาวด์ได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องปรับทักษะ, ปรับโครงสร้างแอพพลิเคชัน หรือปรับแต่งเครื่องมือใหม่

8.การฟื้นตัวจากวิกฤติ เทียบไม่ได้กับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ขณะที่องค์กรทางด้านสาธารณสุขระบุว่าพวกเขามีแผนสร้างความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจก่อนเกิดการระบาดใหญ่ ผู้บริหารในกลุ่มสาธารณสุข 3 ใน 10 คนรู้สึกว่าแผนของพวกเขามีประสิทธิภาพน้อยลงเมื่อต้องพยายามรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาด

"วิกฤติการณ์โควิด-19 คือบททดสอบล่าสุดที่รุนแรงที่สุด พิสูจน์ถึงความสามารถขององค์กรด้านสาธารณสุขในการตอบสนองและการประสบความสำเร็จในช่วงเวลาที่เลวร้าย และสิ่งเหล่านี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยพัฒนาให้ระบบสาธารณสุขไทยก้าวไปสู่โลกแห่งดิจิทัลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น"

4596


เพจ "ที่นี่เขาใหญ่" รายงานความคืบหน้ากรณีนักท่องเที่ยวป้อนอาหาร-นม กวางในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เผย รู้เท่าไม่ถึงการณ์ และขอน้อมรับความผิดที่ไม่มีศึกษากฎก่อนเข้าไปเที่ยว

จากกรณี โซเชียลแห่แชร์ภาพครอบครัวหนึ่ง ได้มาพักผ่อนในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ระหว่างนั้นได้มีกวาง เดินมาหาอาหาร และครอบครัวนักท่องเที่ยวได้มีการป้อนอาหาร-นม ที่นำมาให้แก่กวาง แต่โชคร้ายกวางตัวดังกล่าวได้กินกล่องนมนมเข้าไปทั้งกล่อง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวชาวเน็ตต่างเป็นห่วงสุขภาพของกวางหวั่นเกิดอันตรายตามมา

ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 ส.ค. เพจ "ที่นี่เขาใหญ่" ได้โพสต์ข้อความรายงานความคืบหน้าจากกรณีที่เกิดขึ้น เผยว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว ได้แสดงความรับผิดชอบโดยการเสียค่าปรับจำนวน 5,000 บาท เนื่องจากกระทำการผิด พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 20 ประกอบระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2563 ข้อ 6 (2)

ทางเพจระบุข้อความว่า "คนทำผิด แล้วขอโทษด้วยความจริงใจ เราต้องให้อภัย ทางเพจได้รับการติดต่อจากครอบครัว กรณีนำอาหารให้กวางบนเขาใหญ่ ทางกรรมการเพจข่าวที่นี่เขาใหญ่ และผู้หลักผู้ใหญ่ เห็นชอบตามร้องขอ และขอให้ช่วยแสดงหลักฐานการเสียค่าปรับด้วยเพื่อความถูกต้องทุกๆฝ่าย

ดิฉันเป็นครอบครัวที่ไปให้อาหารสัตว์ที่เขาใหญ่โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์จริงๆค่ะ เราได้อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมน้อมรับความผิด และติดต่ออุทยานเพื่อขอชำระค่าปรับแล้วค่ะ ในโพสต์มีภาพเด็กๆ ซึ่งน้องๆ รักสัตว์ แต่ผิดที่พวกเราไม่ศึกษากฎก่อนเข้าไป จนเกิดเหตุขึ้นทางเราอยากจะขออนุญาตให้ทางเพจช่วยลบโพสต์จะได้มั้ยคะ เพราะส่วนหนึ่งเด็กๆอ่านหนังสือได้แล้ว และเห็นคนต่อว่ามากมาย เขากังวล เครียด พ่อแม่เองก็รู้สึกผิดไม่แพ้กัน เมื่อความผิดพลาดเกิดเราก็น้อมรับความผิด และไม่ได้หนี หรือเงียบหายไปค่ะ

เราจึงอยากจะขอความกรุณาลบโพสต์ให้หน่อยค่ะ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งค่ะ "

4597


ฟิตบิท (Fitbit) เปิดตัวสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพ Fitbit Charge 5 ตัวเรือนบางลง 10% เพิ่มความสามารถวัดความเคลียด ออกซิเจนในเลือด และอุณหภูมิผิวหนัง หวังช่วยวัดความพร้อมร่างกายในทุกมิติในเครื่องเดียว ในราคาเปิดตัว 7,690 บาท แบตเตอรีใช้งานได้ต่อเนื่อง 7 วัน

การเปิดตัว Fitbit Charge 5 ถือเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นแรกที่เปิดตัวหลังจากฟิตบิท เข้าเป็นส่วนหนึ่งของ Google ทำให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่เกิดขึ้น ทั้งการปรับรูปแบบการวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติมที่ช่วยให้แอปพลิเคชัน Fitbit สามารถเชื่อมต่อข้อมูลกับ Google Fit เพื่อเก็บข้อมูลสุขภาพไว้ในที่เดียว

ความน่าสนในของ Fitbit Charge 5 ที่มีการปรับปรุงดีไซน์ให้ทันสมัย เหมาะกับการใส่ใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น ยังมาพร้อมความสามารถในการวัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอดเวลา และทำการแจ้งเตือนเมื่อหัวใจเต้นสูง หรือต่ำกว่าระดับปกติ รวมถึงการตรวจจับความเคลียด ที่จะคอยบันทึกข้อมูลการตอบสนองของร่างกาย ข้อมูลการหายใจ อุณหภูมิผิวหนัง และการวัดออกซิเจนในเลือด (SpO2) ด้วย

ทั้งนี้ จุดเด่นหลักของ Fitbit คือแอปพลิเคชันเก็บ และวิเคราะห์ข้อมูล ที่ได้มีการเพิ่มบริการบอกรับสมาชิก Fitbit Premium ขึ้นมาช่วยแนะนำการออกกำลังกาย ซึ่งผู้ที่ซื้อ Fitbit Charge 5 จะสามารถใช้งานได้ฟรี 6 เดือน และหลังจากนั้นจะมีค่าบริการรายเดือนต่อไป



พร้อมกันนี้ ด้วยการเปลี่ยนมาใช้หน้าจอ AMOLED แบบติดตลอดเวลา (Always On) ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลเวลา และสถานะก้าวเดินในแต่ละวันได้ตลอดเวลา โดยแบตเตอรีสามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 7 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง มีระบบตรวจจับการออกกำลังกายอัตโนมัติ วัดการนอน และการปลุกในช่วงที่ดีที่สุด

Fitbit Charge 5 วางจำหน่ายในราคา 7,690 บาท โดยเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้ววันนี้ ก่อนวางขายพร้อมกันทั่วโลกในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ โดยนอกจากตัวเรือนแล้ว ยังมีสายฟิตเนสแทร็กเกอร์ในรูปแบบที่หลากหลายมาให้เลือกด้วย

4599


นายราชัย ปิยวาจานุสรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของโรคโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 64 แต่ตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดขอนแก่น ยังคงโดดเด่นและมีแนวโน้มด้านบวก จากความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อพักอาศัยหรือเรียลดีมานด์ โดยหลังจากที่บริษัทฯ ได้รับการตอบรับที่ดีในโครงการ “ศุภาลัย รอยัล ริเวอร์” โดยการบริหารงานของบริษัท ศุภาลัย อิสาน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บมจ.ศุภาลัย ทำให้บริษัทฯมีความมั่นใจในการเปิดตัวโครงการใหม่ล่าสุด “ศุภาลัย รอยัล ริเวอร์ 2” ที่ยังคงเอกลักษณ์ของบ้านเดี่ยวหรูผสานกลิ่นอายรีสอร์ท ร่มรื่นด้วยธรรมชาติริมแม่น้ำชี ตอบโจทย์นิยามการพักผ่อนอย่างแท้จริง

สำหรับโครงการ ศุภาลัย รอยัล ริเวอร์ 2 โดดเด่นด้วยแนวคิด “The unique river resort village of Khon Kaen” บ้านเดี่ยว 1 ชั้นและบ้านเดี่ยว 2 ชั้น พร้อมเข้าอยู่ในบรรยากาศรีสอร์ท โอบล้อมด้วยธรรมชาติท่ามกลางแมกไม้ริมแม่น้ำชี บนพื้นที่โครงการ 13 ไร่ ราคาเริ่มต้น 2.4 – 5.5 ล้านบาท พื้นที่ใช้สอยเริ่ม 117-233 ตร.ม. โดยทุกตารางเมตรถูกออกแบบอย่างงดงาม และเน้นนวัตกรรมอนุรักษ์พลังงาน ด้วยวัสดุอุปกรณ์คุณภาพมาตรฐาน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าของลูกค้าในทุกโครงการของศุภาลัย อีกทั้งการออกแบบที่ใส่ใจไลฟ์สไตล์ของทุกคนด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เดินทางสะดวกสบาย เพียง 5 นาทีจากเทสโก้ โลตัส และเพียง 15 นาทีจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น

พิเศษสุด! กับโปรโมชั่นรับหน้าฝน “ศุภาลัยให้เต็ม 10” จัดเต็มของแถม 10 รายการ ประกอบด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้า 6 รายการ ได้แก่ ตู้เย็น 2 ประตู Smart TV เครื่องซักผ้าฝาหน้า เครื่องฟอกอากาศ เครื่องดูดฝุ่น ไมโครเวฟ และฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน 4 รายการ ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ ค่าจดจำนอง ค่าส่วนกลาง 1 ปีแรก ค่ามิเตอร์ไฟและค่ามิเตอร์น้ำ ไร้กังวล! ด้วยเงื่อนไขกู้ไม่ผ่านยินดีคืนเงิน สำหรับลูกค้าที่ซื้อบ้านสร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ และจองตั้งแต่วันนี้ – 30 ก.ย. 64 เท่านั้น

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวในบรรยากาศรีสอร์ทส่วนตัว เชิญเลือกแปลงที่โดนใจได้แล้ววันนี้ ที่ “ศุภาลัย รอยัล ริเวอร์ 2” ราคาเริ่มต้น 2.4 – 5.5 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทฯ พร้อมยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยในการเข้าเยี่ยมชมโครงการ
URL
 11
 

4600


สถานการณ์การแพร่ระบาด “โควิด 19” ไม่เพียงทำให้ผู้ใหญ่อย่างเราจำต้อง Work From Home แต่เด็กไทยเองก็จำต้องStudy From Home อยู่ข้างๆ คุณพ่อคุณแม่ที่บ้านเช่นกัน แต่หลังจากเด็กไทยเผชิญโลกการ “เรียนออนไลน์” แบบผ่านจออย่างลุ่มๆ ดอนๆ มาเกือบสองปี ผลสำรวจเด็กไทยกลับพบว่า การเรียนแบบออนไลน์ ไม่อาจเทียบเท่า On site ได้ ด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง อีกทั้งส่งผลกระทบกับสุขภาพกายและใจเด็กไทยไม่น้อย

ข้อมูลจากองค์การยูนิเซฟ ร่วมกับสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย สำรวจผลกระทบวิกฤตโควิด 19 ต่อเด็กและเยาวชนในประเทศไทย อายุ 15-19 ปี จำนวน 6,771 คน เดือนมีนาคม-เมษายน 2564 พบว่า เด็กและเยาวชนมีความเครียด วิตกกังวล ด้านการเรียนถึง ร้อยละ 70 ล่าสุดอีกผลการสำรวจชีวิตช่วงเรียนออนไลน์ของเด็กไทยผ่านสื่อโซเชียลออนไลน์อย่างคลับเฮาส์ เด็กไทยหลักร้อยคน ต่างเข้ามาเผยความในใจว่า พวกเขาต้องปรับตัวปรับชีวิตตั้งแต่ตื่นนอนไปจนเข้านอน และส่วนใหญ่มีปัญหากับการเรียนแบบออนไลน์ ที่กำลังทำให้พวกเขามีความสุขน้อยลง

ชีวิตออนไลน์ เครียดแค่ไหน?

ผศ.พญ.แก้วตา นพมณีจำรัสเลิศ รองผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัวมหาวิทยาลัยมหิดลและกุมารแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก กล่าวถึงสถานการณ์สุขภาพของเด็กไทยในขณะนี้ผ่านงานเสวนาออนไลน์ “ทราบแล้วเปลี่ยน” #แนวทางส่งเสริมสุขภาพเด็กในช่วงเรียนออนไลน์ โดย ศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทยสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)ว่า

“เวลาพูดเรื่องสุขภาพเด็กหลักๆ เราหมายถึงเรื่องร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ การที่เด็กอยู่หน้าจอตลอดวัน การกระพริบตาน้อยลง ตาแห้ง แสบตา ปวดหัว กล้ามเนื้อเกร็งในท่าเดียวตลอดทำให้ปวดเมื่อย และยังส่งผลไปพฤติกรรมสุขภาพทั้งพฤติกรรมการกิน การนอน ทั้งการบริโภคอาหารที่ขาดโภชนาการหรือเป็นโรคอ้วน ซึ่งสิ่งที่เราพบเด็กขาดธาตุเหล็ก มีผลต่อสมอง เพราะเวลาเด็กที่อยู่บ้านแล้วผู้ปกครองไม่มีเวลาดูแลหรือจัดอาหารให้ในด้านสุขภาพจิต การนอนไม่เพียงพอทำให้เด็กไม่สดชื่น ไม่อยากเรียน” ผศ.พญ.แก้วตาเอ่ย

ADVERTISEMENT


แต่หัวใจสำคัญในการประคับประคองดูแลเด็กนั้น ผศ.พญ.แก้วตา กล่าวต่อว่าอยู่ที่ปฏิสัมพันธ์ระหว่างเด็กและครอบครัวมากที่สุด

“คีย์หลักสำคัญสุดคือพ่อแม่ เพราะไม่ว่าสังคมจะเปลี่ยนไปแค่ไหนก็ตาม หรือจะเครียดแค่ไหนก็ตาม ถ้าเขามีผู้ใหญ่คนหนึ่งที่ยังรักเขาและฟังเขาจะเป็นความเข้มแข็งที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเอง ธรรมชาติเด็กจะเรียนรู้จากสิ่งรอบตัว อย่างแรกเลยคือพ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกทั้งเรื่องการดูแลสุขภาพตัวเอง การออกกำลังกาย และพ่อแม่มีหน้าที่จัดสิ่งแวดล้อมในบ้านให้ลูกเพื่อให้มีกิจกรรมทางกาย เพราะพื้นที่ที่บ้านควรเป็นพื้นที่แรกที่ทำให้เด็กได้เรียนรู้ ถัดมาคือโรงเรียน ต้องช่วยกันสอดแทรกเรื่องสุขภาพอนามัยในการเรียนการสอน ทั้งเรื่องการออกกำลังกาย อาหาร สุดท้ายระบบสังคมต้องเข้ามาช่วยเสริม”

นอจากนี้ การมีทัศนคติเชิงลบของพ่อแม่มีความสำคัญต่อเด็ก ที่จะส่งผลต่อความเครียดและกดดันของเด็ก และอาจส่งผลให้เด็กเกิดความเบื่อหน่ายกับการเรียน

“เราพบว่าคุณพ่อคุณแม่มักเครียดจาก Work From Home ไม่มีเวลา กลายเป็นปฏิสัมพันธ์เชิงลบในครอบครัว แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่มีเวลา ก็ต้องเป็นหน้าที่ครูที่จะช่วยทำหน้าที่ช่วงเวลานี้เราอาจจำเป็นต้องเดินตามแนวทาง Individualize อาทิ การจัดเวรเยี่ยมบ้าน เพราะในเด็กจำนวนสิบคน อาจมีครอบครัวที่ผู้ปกครองไม่มีเวลา และมีเวลา ในส่วนไม่มีเวลา ไม่มีคนดูแล ครูอาจเข้ามาช่วยแทนได้ ซึ่งเป็นเรื่องดีที่ทางกระทรวงศึกษาธิการเองก็มีนโยบายในส่วนนี้แล้ว”


เรียนออนไลน์ ไม่จบแค่ที่ครูกับนักเรียน

สนิท แย้มเกษร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เอ่ยยอมรับว่า รูปแบบการ เรียนออนไลน์ ไม่สามารถตอบโจทย์การเรียนในโรงเรียนได้ทั้งหมดจริง ด้วยข้อจำกัดหลายประการ ปัจจุบันเด็กในพื้นที่สีแดงเข้มจะต้องเรียนออนไลน์เกือบหมด มีเพียงพื้นที่บางส่วนที่ไม่ได้รับผลกระทบยังเป็นออนไซต์ เช่น เชียงราย

แต่การต้องเรียนออนไลน์ยังส่งผลไปถึงโภชนาการเด็กด้วย สำหรับแนวทางแก้ไขในเรื่องนี้ กระทรวงศึกษาธิการจึงจัดสรรงบประมาณแก่เด็กและครอบครัวในการจัดทำอาหารกลางวันและจัดซื้อนมแจกให้ผู้ปกครองตั้งแต่ในช่วงแรกของวิกฤต อย่างไรก็ดี อีกแนวทางในการบรรเทาสถานการณ์ที่ตึงเครียดในขณะนี้ของภาครัฐ คือการยังให้ความสำคัญกับมาตรการด้านต่างๆ ที่ช่วยแบ่งเบาหรือลดภาระของทุกฝ่าย

“เรื่องแรกคือการลดต่างๆ เราลดภาระครูด้วยการลดงาน ปกติครูต้องจัดการรายงานเอกสารต่างๆ กว่าเจ็ดสิบโครงการ แต่เรามองว่าบางเรื่องชะลอได้ เราจึงลดเหลือเพียงสิบกว่าโครงการ ส่วนพ่อแม่ เรามองว่าภาระที่ต้องจ่ายเงินเข้ามา กระทรวงฯ เองก็มีนโยบายการลดภาระค่าเทอม ยกเลิกค่าใช้จ่ายบางรายการ อาทิ ค่าบำรุงการศึกษา ค่าน้ำค่าไฟ เป็นต้น นอกจากนี้ ช่วงต้นเดือนกันยายนที่จะถึง เรายังมีเงินเยียวยาให้กับผู้ปกครองเด็กอีกสองพันบาท ในส่วนลดภาระนักเรียน เราใช้วิธีการทำความเข้าใจกับครูและนักเรียน ให้บูรณาการเรื่องการบ้าน ทำอย่างไรที่จะลดลง การบ้านไม่จำเป็นต้องเป็นวิชาใดวิชาเดียวสามารถประเมินได้เป็นอย่างไร รวมถึงในดานการประเมินบางโรงเรียนแจ้งแล้วว่าไม่มีการสอบ หรือการประเมิน จะเห็นว่าเราทำทั้งระบบ”

สำหรับในการประเมินการเรียนรู้ของเด็กนั้น รองเลขาธิการ กพฐ. เสนอแนวทางว่า พ่อแม่เองอาจสามารถทำเอง ช่วยประเมินลูกได้ที่บ้าน

“ผมมองว่ายังมีหลายเรื่องที่พ่อแม่สามารถเพิ่มการเรียนรู้ให้ลูกหลานได้ แต่สิ่งสำคัญต้องมีสื่อสาร มอบความรู้ให้เขาเข้าใจ จากข้อมูลที่มีอยู่ ผมมองว่าความสำเร็จเกิดด้วยความร่วมมือของภาคีภาคส่วนต่างๆ รวมถึง สสส.เป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีจุดเด่นด้านองค์ความรู้ด้านสุขภาวะ และส่งเสริมการเรียนรู้แก่เด็ก ที่ผ่านมา สสส.ได้มีการผลิตคู่มือต่าง ๆ  ซึ่งเป็นสื่อที่มีประโยชน์อย่างมากในช่วงเวลาเช่นนี้ ในเรื่องพ่อแม่จึงอยากฝาก สสส. ที่จะช่วยพัฒนาสื่อสำหรับกลุ่มพ่อแม่ผู้ปกครองที่ต้องดูแลลูกในภาวะต้องอยู่ที่บ้านด้วย”

ทุกพื้นที่ คือพื้นที่แห่งการเรียนรู้

ดร. นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)กล่าวว่า แม้จะต้องเผชิญความเปลี่ยนแปลง เด็กก็ยังต้องไม่หยุดการเรียนรู้ เพียงแต่จะเรียนรู้แบบไหน หรือเรียนในระบบอื่นๆ ได้

“เราใช้โอกาสนี้ในการพัฒนาวิธีคิดของเด็ก พฤติกรรมสุขภาพ เพราะปัจจัยที่เข้ามาน่าจะอยู่กับเราอีกนาน ซึ่งงานหนึ่งที่เราค้างไว้คือกิจกรรมทางกาย เพราะมีการศึกษาวิจัยทำไว้ว่าเด็กที่มีการขยับเขยื้อนมากจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการเรียนรู้และพัฒนาการของเด็ก ความจริงทุกพื้นที่สามารถเป็นพื้นที่การเรียนรู้ได้ แม้แต่เตียงนอน ห้องครัว ห้องนั่งเล่น หลังบ้าน สนามแถวบ้านให้เด็กได้ขยับมีท่ากายบริหาร ซึ่งเด็กมีศักยภาพเรียนรู้อยู่แล้ว” ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าว

ผู้ช่วยผู้จัดการ สสส.เอ่ยต่อว่า โรงเรียนชีวิต สิ่งแวดล้อม ข้อมูลข่าวสาร สื่อ มีบทบาทที่กระตุ้นให้เด็กเกิดการเรียนรู้ ช่วยเสริมเป็นปัจจัยแวดล้อมกับการเรียนรู้ของเด็ก แม้พ่อแม่สอนไม่ได้ แต่สามารถทำหน้าที่เสริมให้ลูกหลานได้ รวมถึงคนใกล้ตัวรอบตัวที่ไม่ใช่พ่อแม่ อาทิ ญาติผู้ใหญ่ ก็อาจเป็นคนที่จะอยู่กับเด็กและดูแล สามารถช่วยเรียนรู้ สร้างปฏิสัมพันธ์กันและกันให้กับเด็กที่บ้านได้ 

“กรณีเด็กที่อยู่กับคุณตาคุณยาย บางคนอาจมองเป็นอุปสรรคเด็กเรียนออนไลน์เนื่องจากผู้สูงวัยอาจไม่เชี่ยวชาญเทคโนโลยี แต่ความจริงที่เราพบว่ามีหลายครอบครัวที่ปู่ย่าตายายสามารถใช้เทคโนโลยีได้เป็นอย่างดี ตรงนี้คือโอกาส สอนเล่นเกมส์ สอนดูคลิป ก็ได้” ดร. นพ.ไพโรจน์ กล่าว

4601


วันนี้ (24 สิงหาคม )  ดร.พญ.เริงฤดี ปธานวนิช อาจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยงานวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแองเจอลิส ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ JAMA Pediatrics ซึ่งเป็นการศึกษาเพื่อทราบว่าวัยรุ่นที่ไม่เคยสูบบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้ามาก่อน หากสูบบุหรี่ไฟฟ้าจะเกิดผลอย่างไร การวิจัยครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมจำนวน 32 คน (ชาย 19 คน หญิง 13 คน มีอายุเฉลี่ย 24 ปี) แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่กลุ่มแรก 11 คน เป็นผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้ามาก่อน กลุ่มที่สอง 12 คน เป็นผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นประจำ และกลุ่มที่สาม 9 คน เป็นผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ ผู้วิจัยได้วัดระดับภูมิคุ้มกันชนิดต่างๆ ของร่างกายก่อนและหลังให้ผู้เข้าร่วมสูบบุหรี่ไฟฟ้าจริง และบุหรี่ไฟฟ้าแบบหลอกเป็นเวลา 30 นาทีเพื่อนำมาเปรียบเทียบ ผลการศึกษาพบว่า วัยรุ่นที่ไม่เคยสูบบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้ามาก่อนเมื่อสูบบุหรี่ไฟฟ้าครั้งแรกเพียง 30 นาที จะมีระดับของอนุมูลอิสระในเซลล์ หรือ cellular oxidative stress เพิ่มขึ้นถึง 2-4 เท่า แต่ระดับของอนุมูลอิสระนี้ไม่พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงมากนักในกลุ่มที่เคยสูบบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้ามาแล้ว เนื่องจากคนกลุ่มนี้จะมีระดับของอนุมูลอิสระที่สูงกว่าปกติอยู่แล้ว

นพ.Holly Middlekauff นักวิจัยอาวุโสของการศึกษาครั้งนี้ กล่าวว่า อนุมูลอิสระเกิดขึ้นเมื่อร่างกายเสียสมดุล หากมีจำนวนมากขึ้นจะเข้าไปทำลายเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย ทำให้เซลล์เกิดความเสียหาย ก่อให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคทางระบบประสาท รวมทั้งโรคมะเร็ง ซึ่งผลจากการศึกษามีความสำคัญ เนื่องจากปัจจุบันมีวัยรุ่นจำนวนมากหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้า เช่น สหรัฐอเมริกาพบ 1 ใน 3 ของนักเรียนมัธยมปลายเคยสูบบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งนี้ แม้จะมีความเชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่ธรรมดา แต่แท้จริงแล้วไม่มีระดับความปลอดภัยของการสูบบุหรี่ไฟฟ้า

ขณะที่ ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยว่า มีรายงานจากประเทศแคนาดา พบการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมาก แต่การเลิกสูบบุหรี่ไม่ได้เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของการสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น โดยในปี 2553 มีผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน 535,900 คน ในจำนวนนี้ เป็นวัยรุ่น 314,000 คน ขณะที่มีผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อเลิกสูบบุหรี่ 64,300 คนที่ มีตัวเลขการเลิกสูบได้ไม่แตกต่างจากการใช้วิธีอื่นในการเลิกสูบ ขณะนี้มีหลักฐานมากขึ้นว่า บุหรี่ไฟฟ้าทำให้เยาวชนที่ไม่ได้สูบบุหรี่เข้ามาเสพติดบุหรี่ไฟฟ้า การห้ามบุหรี่ไฟฟ้าจะเป็นการปกป้องเยาวชนคนรุ่นใหม่ไม่ให้เสพติดบุหรี่ไฟฟ้า กฎหมายห้ามบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย และการรณรงค์เพื่อให้คงกฎหมายนี้ไว้ของเครือข่ายควบคุมยาสูบของไทยได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลก ประเทศไทยจึงควรที่จะห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าต่อไป


ขณะที่ ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยว่า มีรายงานจากประเทศแคนาดา พบการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมาก แต่การเลิกสูบบุหรี่ไม่ได้เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของการสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น โดยในปี 2553 มีผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน 535,900 คน ในจำนวนนี้ เป็นวัยรุ่น 314,000 คน ขณะที่มีผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อเลิกสูบบุหรี่ 64,300 คนที่ มีตัวเลขการเลิกสูบได้ไม่แตกต่างจากการใช้วิธีอื่นในการเลิกสูบ ขณะนี้มีหลักฐานมากขึ้นว่า บุหรี่ไฟฟ้าทำให้เยาวชนที่ไม่ได้สูบบุหรี่เข้ามาเสพติดบุหรี่ไฟฟ้า การห้ามบุหรี่ไฟฟ้าจะเป็นการปกป้องเยาวชนคนรุ่นใหม่ไม่ให้เสพติดบุหรี่ไฟฟ้า กฎหมายห้ามบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย และการรณรงค์เพื่อให้คงกฎหมายนี้ไว้ของเครือข่ายควบคุมยาสูบของไทยได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลก ประเทศไทยจึงควรที่จะห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าต่อไป

4602


กระทรวงพาณิชย์รายงานสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศ เดือน ก.ค.2564 พบว่า การส่งออกเดือน ก.ค.2564 มีมูลค่า 22,650 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 20.27% หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำและยุทธปัจจัย ขยายตัว 25.38% การนำเข้ามีมูลค่า22,467 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 45.94% และได้ดุลการค้า 183 ล้านดอลลาร์

ส่วนการค้าระหว่างประเทศช่วงเดือน ม.ค.-ก.ค.2564 มีการส่งออก 154,985 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 16.20% มีการนำเข้า 152,362 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 28.73% และได้ดุลการค้า 2,622 ล้านดอลลาร์

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การส่งออกขยายตัวสูงมาจากการเร่งแก้ไขอุปสรรคที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก และการดำเนินงานตามแผนส่งเสริมการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ต่อเนื่อง รวมถึงปัจจัยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้การจ้างงานปรับตัวดีในระดับน่าพอใจ ขณะที่การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในสหภาพยุโรป (อียู) ทำให้ภาคบริการฟื้นตัว ผลักดันให้เศรษฐกิจยุโรปเติบโตเร็วขึ้น 

รวมทั้งภาคการผลิตทั่วโลกยังคงขยายตัวดีสะท้อนจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตโลก (Global Man.cturing PMI) ที่อยู่เหนือระดับ 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 โดยการผลิตสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค สินค้าวัตถุดิบ และสินค้าเพื่อการลงทุนปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ เงินบาทที่อ่อนค่ายังเป็นปัจจัยหนุนต่อภาคการส่งออก

ส่งออกสินค้าเกษตร-อุตสาหกรรม โต 24.3 %

สำหรับการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรในเดือน ก.ค.2564 เพิ่ม 24.3% เป็นบวกต่อเนื่อง 8 เดือน สินค้าสำคัญที่ขยายตัวได้ดีประกอบด้วย ผัก ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป เพิ่ม 80.2% ขยายตัว 4 เดือนต่อเนื่อง และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เพิ่มขึ้น 62% ขยายตัว 9 เดือนต่อเนื่อง

ส่วนการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 18% ขยายตัวต่อเนื่อง 5 เดือน สินค้าที่ขยายตัวดี เช่น รถยนต์และอุปกรณ์ชิ้นส่วนยานยนต์ เพิ่มขึ้น 39.2% ขยายตัว 9 เดือนติดต่อกัน ผลิตภัณฑ์ยางพารา เพิ่มขึ้น 16% ขยายตัวต่อเนื่อง 14 เดือน

ขณะที่ตลาดสำคัญขยายตัวดีเกือบทุกตลาดสำคัญ โดยตลาดสหรัฐ เพิ่มขึ้น 22.2% ขยายตัวต่อเนื่อง 14 เดือน ตลาดจีน เพิ่มขึ้น 41% ต่อเนื่อง 8 เดือน ตลาดญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 23.3% ต่อเนื่อง 9 เดือน ตลาดอาเซียน เพิ่มขึ้น 26.9% ต่อเนื่อง 3 เดือน ตลาดอียู เพิ่มขึ้น 20.9% ต่อเนื่อง 6 เดือน

โควิดฉุดส่งออก ส.ค.-ก.ย.

สำหรับการระบาดของโรคโควิด-19 อาจกระทบได้ โดยเฉพาะเดือน ส.ค.-ก.ย.เป็นต้นไป เพราะล็อกดาวน์เริ่มอาจมีผลต่อภาคการผลิต โดยโรงงานที่ผลิตเพื่อส่งออกบางแห่งต้องปิดทำให้ผลิตไม่ต่อเนื่องและอาจกระทบการส่งออก 

รวมทั้งสถานการณ์โควิดในประเทศเพื่อนบ้านและบางประเทศที่เราต้องส่งออกเริ่มติดขัดช่วงข้ามแดน เช่น ด่านไทยผ่านประเทศลาวและเวียดนามเพื่อไป ซึ่งจีนมีปัญหาบางช่วงบางเวลาต้องไปแก้ปัญหาหน้างานหลายครั้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกผลไม้และสินค้าบางประเภท ในขณะที่มาเลเซียยังอยู่สถานการณ์ที่ต้องเร่งแก้ปัญหาระบาด ซึ่งกระทบการส่งออกน้ำยางดิบไปมาเลเซียทำให้ราคายางในไทยกระทบ เพราะมาเลเซียเป็นตลาดส่งออกน้ำยางใหญ่ที่สุดขณะนี้ โดยต้องเร่งแก้ปัญหาไม่ให้ภาคการผลิตติดขัด

“เป้าส่งออกปีนี้วางไว้ 4% วันนี้ทำได้ 16.2% ถือว่าเกินเป้าแล้ว 4 เท่า และจะร่วมมือกับภาคเอกชนเดินหน้าทำให้ดีที่สุด ซึ่งแผนส่งออกในครึ่งปีหลังตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา มีกิจกรรมไม่น้อยกว่า 130 กิจกรรม แต่ต้องปรับแผนให้สอดคล้องสถานการณ์“นายจุรินทร์ กล่าว

เอกชนห่วงซัพพลายเชน

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานหอการค้าไทยและนายกกิติมศักดิ์สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป กล่าวว่า การส่งออกปี 2564 จะให้เติบโตอ 10% ต้องทำให้เดือนที่เหลือมีมูลค่าเดือนละ 19,926 ล้านดอลลาร์ และหากเติบโต 12% ต้องทำได้เดือนละ 20,852 ล้านดอลลาร์ และหากต้องการเติบโต 15% ต้องทำได้เดือนละ 22,240 ล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ ปัจจัยบวกที่สนับสนุนการส่งออก ได้แก่ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของคู่ค้าหลัก ความก้าวหน้าการผลิตวัคซีนและยารักษาและการอ่อนค่าของเงินบาท ส่วนปัจจัยลบครึ่งปีหลัง ได้แก่ การระบาดของโควิด-19 ที่กลายพันธุ์หลายประเทศ รวมถึงอัตราค่าขนส่งยังสูงจากการขาดแคลนตู้สินค้า ต้นทุนบรรจุภัณฑ์ทุกประเภทปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์โลหะการขาดแคลนแรงงาน เพราะพบการติดเชื้อและมาตรการปิดโรงงานและกำลังซื้อในประเทศเริ่มถดถอย


นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ส.อ.ท.ทำมาตรการควบคุมโควิดภาคอุตสาหกรรม เพื่อลดอัตราการเสียชีวิต อาการรุนแรงและรักษากำลังการผลิตให้มากที่สุดโดยไม่ปิดโรงงาน 4 ข้อ ดังนี้

1.มาตรการ Bubble and Seal ภาคอุตสาหกรรมต้องมีแนวทางเดียวกันทุกพื้นที่ โดยสุ่มตรวจด้วย ATK สม่ำเสมอ 10% ของจำนวนพนักงานทุก 14 วัน ซึ่งรัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่ายและให้พนักงานผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำเข้ามาทำงานใน Bubble

2.สถานประกอบการที่มีพนักงาน 300 คนขึ้นไป เสนอให้กระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนงบตั้ง Factory Quarantine และ Factory Accommodation Isolation โดยมีจำนวนเตียงไม่น้อยกว่า 5% ของจำนวนพนักงาน และให้กระทรวงแรงงานตั้งโรงพยาบาลแม่ข่ายให้บริการโรงงานในพื้นที่ ณ จุดเดียว

3.สถานประกอบการที่มีพนักงานต่ำกว่า 300 คน ขอให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตั้ง Community Quarantine ,Community Isolation ให้เพียงพอและมีเตียงไม่น้อยกว่า 5% ของจำนวนพนักงาน

4.จัดสรรวัคซีนตามลำดับความสำคัญทางสาธารณสุข การป้องกันโรคและเศรษฐกิจ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่อายุ 40-59 ปี กลุ่มพนักงานในสถานประกอบการที่มีติดเชื้อมากกว่า 50% จนต้องปิดกิจการ และกลุ่มพนักงานอุตสาหกรรมสำคัญ

4603


สมาคมตัวแทนขนส่งสินค้าทางอากาศไทย TAFA และสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย เผย งานแสดงสินค้าโลจิสติกส์ TILOG Virtual Exhibition (TILOG-VE) งานแสดงสินค้าโลจิสติกส์ ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ทุกครั้ง ยังคงอัดแน่นด้วยกิจกรรมเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการด้านโลจิสติกส์ทั้งไทยและต่างประเทศ


นาย นิธิธร สุขมนัส นายกสมาคมตัวแทนขนส่งสินค้าทางอากาศไทย (TAFA) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาสมาคมฯ ได้เข้าร่วมและสนับสนุนการจัดงาน TILOG มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในครั้งนี้ ทางสมาคมฯ ก็ได้ ประชาสัมพันธ์ข่าวการจัดงานให้กับสมาชิกทั้งในและต่างประเทศ

“งาน TILOG-VE ได้จัดขึ้นติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายปี ซึ่งงานนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้จัดขึ้นเพื่อให้เกิดประโยชน์ในเชิงธุรกิจการจัดการด้านโลจิสติกส์ ซึ่งมีผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องเป็นห่วงโซ่เป็นจำนวนมาก อาทิ ผู้ประกอบการขนส่งทางบก ทางเรือและทางอากาศ รวมไปถึงผู้ประกอบการคลังสินค้าและผู้ส่งออก ซึ่งยังมีอีกหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องโดยทางตรงและโดยทางอ้อมกับธุรกิจโลจิสติกส์อันทำให้เกิดการจ้างงานเป็นจำนวนมาก รวมถึงการจัดส่งสินค้าออกไปยังต่างประเทศในทุกทิศทุกทางสร้างรายได้ให้กับประเทศเป็นจำนวนหลาย แสนล้านบาทต่อปี

กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วยการนำเสนอบริการ และนวัตกรรมใหม่ๆ จากผู้ประกอบการโลจิสติกส์ กิจกรรมการจับคู่ทางธุรกิจผ่านระบบออนไลน์ (Online Business Matching) เพื่อพูดคุยกันในเชิงลึกถึงแนวทางความร่วมมือกันทางธุรกิจในอนาคตระหว่างระหว่างผู้ประกอบการ การให้คำปรึกษาด้านโลจิสติกส์จากที่ปรึกษาในสาขาต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการเสวนาเจาะลึกในหัวข้อต่าง ๆ จากสมาคม และวิทยากรชั้นนำระดับประเทศและระดับโลกอีกมากมายหลายกิจกรรมด้วย

"อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์การแพร่กระจายของไวรัส โควิด-19 ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยปรับเปลี่ยนจากการจัดงานแบบปกติ เป็นแบบ Virtual หรือการจัดงานเสมือนจริง เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้เข้าร่วมงาน โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่ในปีนี้สามารถเข้าร่วมงานโดยออนไลน์ได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งถือว่าเป็นมิติใหม่ในการจัดงาน TILOG-VE 2021” นายนิธิธร กล่าว


ด้าน นายสุวิทย์ รัตนจินดา ประธานสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย กล่าวถึงการจัดงาน TILOG-VE 2021ว่า เป็นการจัดงานอีเวนท์ ที่เป็นการรวมตัวกันของผู้ประกอบการโลจิสติกส์ ไม่เฉพาะในประเทศไทย แต่เป็นการรวมตัวกันของเครือข่ายโลจิสติกส์ของประเทศในกลุ่มอาเซียน ร่วมกันขยายเครือข่ายแบบบูรณาการให้บริการ ผู้ส่งออก และผู้นำเข้าแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และให้คำแนะนำด้านธุรกิจโลจิสติกส์ ให้เติบโตไปด้วยกัน และจากการที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้จัดงาน TILOG มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้งาน TILOG ของไทย เป็นที่รู้จักกันดีในเวดวงกลุ่มประเทศในแถบเอเชียเป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ แม้ว่าจะเจอสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ก็ยังคงเดินหน้าจัดงาน แม้จะเป็นในรูปแบบของออนไลน์เสมือนจริง ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการโลจิสติกส์ทั่วโลกได้เห็นถึงความตั้งใจของ ประเทศไทยในการให้ความสำคัญกับวงการธุรกิจโลจิสติกส์ ปัจจุบันผู้ประกอบการธุรกิจทั่วโลกไม่สามารถเดินทางมาหาคู่ค้า หรือ เสนอบริการการค้าในต่างประเทศได้ เป็นอุปสรรคต่อการทำการค้ากับต่างประเทศ การจัดงาน TILOG-VE 2021 ปีนี้ ทางออนไลน์ ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มคู่ค้า ได้มาพบปะแลกเปลี่ยนความรู้ อัปเดทข้อมูลข่าวสาร กันได้ โดยไม่ต้องเดินทาง ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก สามารถเข้าร่วมงานในครั้งนี้ได้

ประธานสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย กล่าวถึง สถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบกับแวดวงโลจิสติกส์อย่างมาก การขนส่งสินค้าไปต่างประเทศ เจออุปสรรค ต่างๆ มากมาย เพราะในแต่ละประเทศ ก็ต้องเข้มงวด ตรวจหาเชื้อโควิด เพื่อให้ไม่เชื้อโควิด ที่ติดมากับสินค้าเข้าไปแพร่ระบาดในประเทศของตนเอง ทำให้การส่งมอบสินค้าล่าช้าออกไปมาก ซึ่งตรงนี้ เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข ซึ่งในเวทีการจัดงาน TILOG ครั้งนี้ ก็จะได้เชิญผู้ประกอบการระดับโกล. มาร่วมแลกเปลี่ยนแชร์ประสบการณ์ หาแนวทางพูดคุย เพื่อช่วยกันแก้ปัญหาดังกล่าว

งาน TILOG-VE ในปีนี้ เป็นงานที่ผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไม่ควรพลาด เพราะช่วยให้ผู้ประกอบการได้อัพเดทตลาด สินค้า บริการ และเทคโนโลยีต่างๆ และความรู้อีกมากมาย รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่ กลาง และเล็กมีโอกาสทัดเทียมกัน ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าชม www.tilog-ve.com ได้ตั้งแต่วันที่ 25 – 27 สิงหาคม 2564 ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

4604


นางวรางคณา ลือโรจน์วงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่หน่วยธุรกิจการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คลังสินค้า ภายใต้การดำเนินงานของฝ่ายบริการคลังสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ ได้รับการรับรองมาตรฐาน Good Distribution Practices (GDP) ตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยบริษัท SGS (Thailand) เป็นผู้ทำการตรวจสอบและรับรองให้เป็นคลังสินค้าที่สามารถดูแลผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้าประเภทที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิเพื่อรักษาคุณภาพของสินค้า เช่น ผลิตภัณฑ์ยาและเวชภัณฑ์ เนื่องจากบริษัทฯ มีพื้นที่คลังสินค้าปรับอากาศขนาดใหญ่ที่อยู่ในเขตปลอดอากร หรือ Customs Free Zone ที่มีความสะดวกในการส่งต่อผลิตภัณฑ์ยาและเวชภัณฑ์ไปยังจุดหมายปลายทาง ซึ่งจะช่วยปกป้องสินค้าดังกล่าวไม่ให้สัมผัสกับสภาวะอุณหภูมิสูงในระหว่างการขนส่ง รวมทั้งมีการบริหารจัดการคลังสินค้าที่ดีและถูกสุขลักษณะ

นอกจากนี้ บุคลากรของฝ่ายบริการคลังสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ยังมีความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการขนส่งและดูแลผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้าประเภทที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิเพื่อรักษาคุณภาพของสินค้า เช่น ผลิตภัณฑ์ยาและเวชภัณฑ์เป็นอย่างดี และผ่านการอบรมมาตรฐาน Good Distribution Practices (GDP) เช่นเดียวกัน

อนึ่ง การได้รับการรับรองมาตรฐาน Good Distribution Practices (GDP) นี้นับเป็นการประกันคุณภาพการให้บริการคลังสินค้าของการบินไทย ว่าสามารถตอบสนองความต้องการขนส่งสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์ยาและเวชภัณฑ์ที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4605


นายวุฒิ โอภาศเจริญสุข ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท คาร์ โก (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าระหว่างวันที่ 26 สิงหาคม ถึง 1 กันยายน 2564 คาร์โก “เอ้าท์เล็ทรถมือสอง ราคาขายส่ง” จัดรายการลดล้างสต๊อกรถมือสองครั้งใหญ่ โดยมีโปรโมชั่นให้ลูกค้าแบบเดือดๆ ต่อเนื่อง 7 วัน 7 คืน เพื่อกระตุ้นทั้งยอดขายและกระตุ้นเศรษฐกิจไปพร้อมๆกัน ช่วยแบ่งเบาภาระลูกค้าที่อยากได้รถมือสองสภาพเยี่ยมในราคาสุดคุ้ม โดยมีไฮไลต์เด็ด เพิ่มส่วนลดให้ลูกค้าทันทีถึง 10 เท่า ของเงินจอง สูงสุดถึง 180,000บาท สำหรับลูกค้าที่ต้องการได้ดีลพิเศษเมื่อซื้อด้วยเงินสด ซึ่งโปรโมชั่นเดือดพิเศษนี้มีเพียง 7 วัน เท่านั้น!!!



ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท คาร์ โก (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า รถมือสองที่ คาร์ โก ยกขบวนมาลดล้างสต๊อกพร้อมให้โปรโมชั่นแบบเดือดๆ 7 วัน 7 คืน รอบนี้ มีหลายรุ่นให้เลือกเป็นเจ้าของ ทั้งในกลุ่มรถหรู คอมแพคคาร์ รถครอบครัว รถอเนกประสงค์ รถกระบะ รวมถึงรถตู้ แต่ละกลุ่ม แต่ละรุ่น มีหลายโมเดลให้เลือกตอบโจทย์การใช้งาน ที่สำคัญทุกคันมีสภาพนางฟ้า เหมือนใหม่ ทั้งภายใน ภายนอก ใช้งานต่อได้ยาวๆ อย่างสบายใจ เพราะทุกคันมีประวัติดี การันตีจาก คาร์ โก ว่าไม่มีย้อมแมวเด็ดขาด ลูกค้าจึงมั่นใจได้ ทั้งนี้ขอให้รีบจอง เพราะบางรุ่นมีคันเดียว ใครจองก่อนมีสิทธิ์ก่อน



ตัวอย่างราคารถมือสองสุดฮอตที่ คาร์ โก นำมาจัดโปรโมชั่นลดเดือดห้ามพลาด 7 วัน 7 คืน เมื่อซื้อเงินสด เช่น
• วันที่ 1 26 สิงหาคม 2564 Toyota Commuter 3.0 A/T ราคา 579,000 บาท ลดเหลือ 532,000 บาท
• วันที่ 2 27 สิงหาคม 2564 Mercedes Benz S300 Bluetec 3.0 A/T ราคา 1,190,000 บาท ลดเหลือ 1,175,000 บาท
• วันที่ 3 28 สิงหาคม 2564 Toyota Revo Smart 2.4 J M/T ราคา 349,000 บาท ลดเหลือ 322,000 บาท
• วันที่ 4 29 สิงหาคม 2564 Mercedes Benz C350e Exclusive A/T ราคา 1,190,000 บาท ลดเหลือ 1,150,000 บาท
• วันที่ 5 30 สิงหาคม 2564 Toyota Vios J A/T ราคา 319,000 บาท ลดเหลือ 294,000 บาท
และ Toyota Altis 1.6G A/T ปี 2016 ราคา 379,000 บาท ลดเหลือ 349,000 บาท
• วันที่ 6 31 สิงหาคม 2564 Honda Civic 1.8 EL A/T ราคา 599,000 บาท ลดเหลือ 539,000 บาท
• วันที่ 7 1 กันยายน 2564 Honda City 1.5 S CNG A/T ราคา 330,000 บาท ลดเหลือ 304,000 บาท



ตลอดช่วงโปรโมชั่นเดือด 7 วัน 7 คืน สำหรับลูกค้าที่มองหา Toyota Vios 1.5 A/T ยังสามารถเป็นเจ้าของรถมือสองรุ่นยอดฮิตนี้ในราคาเริ่มต้นเพียง 294,000 บาท เท่านั้น ขณะที่ลูกค้าที่ชอบแคมเปญ ผ่อนเริ่มต้นวันละ 160 บาท ก็ยังมีสิทธิ์เลือกเข้าแคมเปญนี้ ตามนโยบายของ คาร์ โก อยากช่วยให้ลูกค้ามีรถส่วนตัวไว้ใช้เพื่อความปลอดภัย เป็นส่วนตัว และเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ที่เมื่อเทียบค่าใช้จ่ายแล้ว ซื้อรถมือสองใช้คุ้มกว่าจ่ายค่าเดินทางไปทำงานทุกวันมาก



ลูกค้าสามารถเช็คส่วนลดพิเศษ จาก คาร์ โก ได้ทุกวันที่ Facebook : Cargousedcar ซึ่งหากออกรถภายในเดือนสิงหาคม คาร์ โก ยังใจดี มอบทองคำหนัก 1 สลึง ให้ออนท๊อปเพิ่มด้วย สนใจชมคันจริงได้ที่ คาร์ โก ทุกสาขา หรือนัดหมายล่วงหน้าผ่าน Line : @cargousedcar เพื่อใช้บริการวีดีโอคอลชมรถแบบเรียลไทม์ รวมถึงขอรับบริการส่งรถให้ลองขับฟรีถึงหน้าบ้าน บริการจัดไฟแนนซ์ให้ถึงบ้านแบบสะดวกสุดๆ มีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกเรื่องเอกสารครบทุกกระบวนการ เพื่อให้ลูกค้าได้รถยนต์มือสองคุณภาพดีไปใช้งานง่ายๆ ได้อย่างมั่นใจ



ติดต่อ คาร์ โก “เอาท์เล็ทรถมือสอง ราคาขายส่ง” ทั้ง 3 สาขา ได้ที่
• สาขาสุวรรณภูมิ 02-737-8888
• สาขากาญจนาภิเษก 098-456-7810
• สาขาโคราช 098-456-7816

4606


ลาซาด้า ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศเปิดตัว “ฮยอนบิน” นักแสดงชาวเกาหลีใต้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับนานาชาติ รวมทั้งเป็น Hallyu Star (ผู้ขับเคลื่อนกระแสความนิยมในเกาหลี) มาขึ้นแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์ LazMall ระดับภูมิภาคเป็นคนแรกอย่างเป็นทางการ โดย LazMall ถือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ได้รับการยอมรับจากแบรนด์คู่ค้าต่างๆ ทั่วโลก และปัจจุบันยังเป็นศูนย์รวมแบรนด์มากกว่า 32,000 แบรนด์ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับนานาชาติบนแพลตฟอร์มลาซาด้าทั่วภูมิภาค

โดยนักแสดงหนุ่ม ฮยอนบิน ถือเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากที่สุดของเกาหลีใต้ โดยได้รับการยอมรับว่าเป็นนักแสดงที่มีส่วนช่วยในการขับเคลื่อน Hallyu หรือกระแสความนิยมในเกาหลี ด้วยบทบาทการแสดงที่หลากหลายการันตีด้วยรางวัลมากมาย จากผลงานละครโทรทัศน์ ซีรีส์ และภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมเป็นจำนวนมาก อาทิ Secret Garden, Memories of the Alhambra, The Negotiation และผลงานชิ้นโบว์แดงเรื่องล่าสุด Crash Landing on you ที่ส่งให้เขารับรางวัลนักแสดงชายยอดนิยม จากงานประกาศรางวัล Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 56 และรางวัลศิลปินเกาหลีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด จาก Yahoo! ในงาน Asia Buzz Awards มากไปกว่านั้น ฮยอนบิน ยังสามารถกวาดรางวัล Presidential Commendation ในงาน Korean Popular Culture and Arts Awards ประจำปี 2020 ที่ผ่านมาได้อีกด้วย

แมรี่ โจว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด ลาซาด้า กรุ๊ป กล่าวว่า “ลาซาด้าเป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซเจ้าแรกที่นำเสนอแนวคิดห้างสรรพสินค้าเสมือนจริงสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ “ฮยอนบิน” ซูเปอร์สตาร์ชื่อดัง ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับภูมิภาคคนแรกของ LazMall ด้วยผลงานภาพยนตร์และงานละครโทรทัศน์ที่ได้รับการชื่นชมในวงกว้าง ฮยอนบิน คือนักแสดงหนุ่มที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความจริงใจ และการอุทิศตนต่อการทำงานอย่างมุ่งมั่น เพื่อสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพให้แก่เหล่าแฟนคลับทั่วโลก ซึ่งตรงตามอัตลักษณ์ของ LazMall ที่มุ่งเน้นถึงความน่าเชื่อถือและคุณภาพของสินค้า รวมทั้งยังเป็นจุดหมายของการช้อปปิ้งออนไลน์ที่เชื่อถือได้ โดยมุ่งหวังให้ผู้บริโภคเพลิดเพลินและได้รับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สะดวกสบายสูงสุด”

เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 3 ปี ของ LazMall และเปิดตัวแคมเปญ 9.9 นี้ ซึ่งเป็นแคมเปญแรกของมหกรรมช้อปปิ้งส่งท้ายปี ฮยอนบิน จะได้ร่วมนำแสดงในภาพยนตร์สั้น ที่รวบรวมจินตนาการของเหล่าบรรดาแฟนคลับ จากตัวละครที่ชวนให้นึกถึงฉากแอคชั่นในผลงานที่มีชื่อเสียงของเขา โดยในโฆษณาดังกล่าว ฮยอนบิน จะรับบทเป็นเอเจนท์ที่ปฏิบัติภารกิจลับ ผู้เป็นหัวเรือใหญ่ในการบังคับบัญชาทีม ที่จะมอบกล่องแห่งความห่วงใยจาก LazMall นับพันชิ้นสู่สาธารณชน ซึ่งนำเสนอในรูปแบบที่สนุกสนาน และหักมุม สร้างความเพลิดเพลินแก่ผู้รับชม

ฮยอนบิน แบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับภูมิภาคของ LazMall กล่าวว่า “ผมมีความยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวลาซาด้า และได้ใกล้ชิดแฟนๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับภูมิภาคคนแรกของ LazMall ซึ่งผมตั้งตารอที่จะสร้างความสนุกร่วมกันกับแฟนๆ เริ่มด้วยเทศกาลช้อปปิ้ง 9.9 ที่จะถึงนี้ ผมขอให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัย จนกว่าเราจะสามารถพบกันได้อีกครั้งเร็วๆ นี้”

โดย ฮยอนบิน ได้กล่าวปิดท้ายว่า “การถ่ายทำหนังภาพยนตร์สั้น สำหรับการเปิดตัวแคมเปญสนุกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดสร้างสรรค์ในการเล่าเรื่องภารกิจสายลับ ที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และความหลากหลายในตัวเลือกสินค้าที่ LazMall นำเสนอให้ผู้บริโภค”

นอกจากนี้ ช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา LazMall ยังได้เปิดตัว LazMall Premium ครอบคลุม 8 หมวดหมู่สินค้าหลัก ซึ่งประกอบไปด้วยสินค้าแบรนด์ระดับพรีเมียมมากกว่า 50 แบรนด์ อาทิ Bang & Olufsen, Elemis, Longines, Polo Ralph Lauren รวมไปถึงแบรนด์ใหม่ล่าสุดอย่าง La Mer ทั้งนี้ นอกเหนือจากฟีเจอร์ยอดนิยมอย่าง “Brand Mega Offers”, การรับประกันคืนสินค้าภายใน 15 วัน และการรับเงินคืนสูงสุด 2 เท่า หากผู้บริโภคได้รับสินค้าที่ตรวจสอบแล้วว่าไม่ใช่ของแท้จาก LazMall ผู้บริโภคยังสามารถเข้าถึงแบรนด์โปรดผ่านประสบการณ์การช้อปที่ใกล้ชิด และเต็มอิ่มด้วยภาพที่ช่วยเล่าเรื่องราวของสินค้ามากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีการอัพเกรดหน้าเพจแนะนำสินค้าผ่าน The Edit ซึ่งจะนำเสนอเนื้อหาที่หลากหลายและแตกต่างไปตามแต่ละธีมในรูปแบบบทความ

ที่สำคัญ เทศกาลช้อปปิ้ง “9.9 Mega Brands Sale” ในครั้งนี้ จะรวบรวมแบรนด์จำนวนมากที่สุดในระดับภูมิภาค รวมถึงบรรดาผู้ขายรายโปรดให้มาอยู่ในแพลตฟอร์มลาซาด้า เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยข้อเสนอและดีลสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก Crazy Brand Mega Offers ที่จำกัดเวลาเฉพาะสองชั่วโมงแรกของแคมเปญ รวมไปถึงโปรโมชั่น Flash sale ที่จะเกิดขึ้นตลอดวันที่ 9 – 11 กันยายนนี้เท่านั้น ปิดท้ายการเฉลิมฉลองเทศกาลช้อป ด้วยการนำลาซาด้า มาสคอตหรือ “Lazzie” มาแปลงร่างเป็นไอดอลฝึกหัดผ่านเกมใหม่ล่าสุดบน LazGames “Lazzie Star” ให้เหล่านักช้อปช่วย Lazzie เพิ่มเลเวล เพื่อให้กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ตัวจริง ด้วยการผ่านด่านในแต่ละวันและพิชิตภารกิจพิเศษให้สำเร็จ ซึ่งจะช่วยปลดล็อกคูปองสุดพิเศษจากทั้งแพลตฟอร์มและผู้ขาย รวมไปถึง Lazada Bonus อีกด้วย

รับชมโฆษณาแคมเปญ LazMall 9.9 Mega Brands Sale ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=31AZCXWcR4g

4607


ภาพจาก https://hanako.tokyo/
คอลัมน์ “เรื่องเล่าสะใภ้ญี่ปุ่น” โดย “ซาระซัง”

สวัสดีค่ะเพื่อนผู้อ่านทุกท่าน ช่วงโควิดแบบนี้อาจจะออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกอย่างเก่าไม่ได้ แต่ก็มีเรื่องสนุกให้ทำได้จากบ้านมากมาย อย่างการทำ “คาเฟ่ที่บ้าน” นอกจากจะทำให้ได้ประสบการณ์ใหม่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังได้ใช้โอกาสนี้พักผ่อนคลายเครียดด้วยนะคะ

ที่ญี่ปุ่นมีร้านคาเฟ่อยู่ทั่วไป และเป็นที่นิยมโดยเฉพาะในหมู่สาว ๆ เวลาเปิดหนังสือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นที่เน้นกลุ่มผู้อ่านผู้หญิง จึงมักจะเจอร้านคาเฟ่แนะนำอยู่ในนั้นด้วยเสมอ ร้านคาเฟ่เหล่านี้ไม่ได้เน้นขายเฉพาะเครื่องดื่มกับขนมหวานเท่านั้น แต่ยังขายอาหารเป็นมื้อแบบไม่หนักท้องเกินไป และมีบรรยากาศที่น่านั่งเพลิน ๆ ด้วย

จุดเด่นของคาเฟ่ที่ญี่ปุ่นคือ การออกแบบภายในร้านที่สวยงาม สะอาดสะอ้าน โล่ง สว่าง ให้บรรยากาศสบาย ๆ เปิดเสียงดนตรีที่ให้ความรู้สึกสดใสรื่นเริง บางร้านก็มีที่นั่งริมทะเลหรือริมระเบียงด้วย แต่ละร้านจะมีลักษณะเฉพาะในการจัดและออกแบบร้านที่ชวนให้จดจำ อีกทั้งลักษณะการให้บริการของพนักงานก็ยังมีส่วนสร้างบรรยากาศที่ไม่เหมือนใครให้กับทางร้านอีกด้วย


เมนูอาหารตามคาเฟ่ทั่วไปอาจจะเน้นชากาแฟ แซนวิช พาสต้า ขนมหวาน ของว่าง แต่ถ้าเป็นคาเฟ่ที่ดีหน่อยจะเน้นไปที่อาหารหรือเครื่องดื่มเฉพาะของร้าน เช่น มีเมนูสูตรเด็ดที่ทางร้านคิดขึ้นมาเอง ไม่มีขายที่อื่น หรืออาจใช้วัตถุดิบคัดสรร อย่างเช่น วัตถุดิบเฉพาะของท้องถิ่น วัตถุดิบออแกนิก ใช้ข้าวกล้องแทนข้าวขาว เป็นต้น รวมทั้งอาจมีเมนูเฉพาะกิจซึ่งมีให้สั่งได้แค่เฉพาะช่วงเวลาสั้น ๆ ด้วยเช่นกัน

ฉันจำได้ว่าตอนไปเที่ยวโอกินาวา เคยไปคาเฟ่แห่งหนึ่งที่ขายข้าวแกงกะหรี่สูตรพิเศษ ร้านนั้นตั้งอยู่ในมุมเล็ก ๆ ภายในตึกขายสินค้าท้องถิ่น มีที่นั่งเพียง 3-4 โต๊ะเท่านั้น แม้ว่าอาหารและกาแฟร้านนั้นจะอร่อยมาก แต่หลังจากนั้นฉันกลับจำบรรยากาศร้านได้ดีกว่าอาหารเสียอีก อาจเพราะเขาใช้จานและถ้วยที่ทำจากดินเผาซึ่งเป็นสินค้าพื้นเมืองของโอกินาวา แถมยังมีรูปร่างและสีสันแปลกตา อีกทั้งบรรยากาศร้านก็นั่งสบายเสียจนลืมไปเลยว่าร้านนี้เป็นเพียงมุมหนึ่งในตึกธรรมดาเท่านั้นเอง


คงเพราะคาเฟ่เป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนหย่อนใจในบรรยากาศแสนสบายอย่างนี้เอง คนญี่ปุ่นจึงหันมาทำ“โอะอุจิคาเฟ่” (おうちカフェ) หรือ ‘คาเฟ่ที่บ้าน’ กันมาก กิจกรรมนี้มีมาหลายปีก่อนที่จะเริ่มมีโควิดเสียอีก แต่พอโควิดมาเยือน คนต้องอยู่ติดบ้านกันมากขึ้น กระแสคาเฟ่ที่บ้านเลยยิ่งเป็นที่นิยมมากขึ้นไปอีก

พจนานุกรมญี่ปุ่นให้นิยาม “โอะอุจิคาเฟ่” ว่าหมายถึง ‘การสร้างบรรยากาศแบบคาเฟ่ในบ้านตนเอง จุดเด่นอยู่ที่การใช้อาหาร เครื่องดื่ม ของกระจุกกระจิก และดนตรี เป็นต้น เพื่อสร้างบรรยากาศหรูและสบาย ๆ แบบคาเฟ่’ พูดง่าย ๆ ก็คือ จำลองบรรยากาศแบบคาเฟ่ภายในบ้านนั่นเอง

ฉันเข้าใจว่าการใช้คำว่า “คาเฟ่ที่บ้าน” น่าจะเริ่มมาจากการที่ร้านสะดวกซื้อ Lawson ในญี่ปุ่นออกสินค้าขนมภายใต้แบรนด์ใหม่ที่ชื่อ “Uchi Café SWEETS” (ขนมหวานคาเฟ่ที่บ้าน) เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2552 ภายใต้คอนเซ็ปต์ทำบ้านให้เป็นคาเฟ่
แต่เดิม Lawson ก็ทำขนมหวานของตัวเองออกมาวางขายอยู่แล้ว แต่ที่หันมาทำแบรนด์ใหม่ “Uchi Café SWEETS” ก็เพราะทำสำรวจกลุ่มลูกค้าแล้วพบว่า สตรีอายุ 20-30 ปีซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ให้ความสนใจสูงกับเรื่องขนมหวาน มักจะยุ่งกับการทำงานหรือไม่ก็การเลี้ยงลูก และได้รับประทานขนมหวานช่วงเย็นหรือช่วงดึก บริษัทจึงออกความคิดว่าอยากให้ลูกค้าได้เพลิดเพลินกับขนมอร่อย ๆ และช่วงเวลาสบาย ๆ แบบคาเฟ่ภายในบ้านหรือที่ทำงาน ก็เลยทำขนมแบรนด์นี้ขึ้นมา ส่วนใหญ่หน้าตาขนมจะดูดีแบบขนมตามร้านคาเฟ่ หรือใช้วัตถุดิบดีหน่อย แต่ราคาไม่แพงมาก ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน

นอกจาก Lawson แล้ว แฟมิลี่มาร์ทและเซเว่นอีเลเว่นของญี่ปุ่นก็ทำขนมหวานของตัวเองออกมาเช่นกัน เพียงแต่อาจจะไม่ได้เรียกชื่อว่า “คาเฟ่ที่บ้าน” เหมือน Lawson แต่หลายอย่างก็ดูดีและรสชาติใช้ได้ ที่น่าสนใจคือร้านสะดวกซื้อเหล่านี้จะคอยผลัดเปลี่ยนทำสินค้าขนมหน้าตาใหม่ ๆ ออกมาอยู่เรื่อยตามฤดูกาล บางอย่างก็มีขายเฉพาะในบางท้องถิ่นเท่านั้น ทำให้ลูกค้าไม่เบื่อกับขนมหน้าตาซ้ำซากจำเจ

ต่อมาก็มีคนทำคาเฟ่ที่บ้านด้วยการลงมือเข้าครัวทำอาหาร ขนม และเครื่องดื่มเอง จากนั้นก็แปะรูปลงสื่อโซเชียลต่าง ๆ ทำให้กระแสทำคาเฟ่ที่บ้านบูมขึ้นเรื่อย ๆ มีการใช้แฮชแท็ค #おうちカフェ (คาเฟ่ที่บ้าน) ในอินสตาแกรมถึง 6.4 ล้านครั้งเลยทีเดียว (ณ สิงหาคม พ.ศ. 2564)

การที่คาเฟ่ที่บ้านได้รับความนิยมน่าจะมาจากสาเหตุหลายประการ อาทิ ค่าใช้จ่ายถูกกว่าไปรับประทานที่ร้าน สามารถทำเองได้ไม่ยาก จะต่อเติมเสริมแต่งอะไรเข้าไปให้ดูไม่ซ้ำใครก็ได้ อีกทั้งยังได้สนุกกับช่วงเวลาตระเตรียมของจนกระทั่งทำเสร็จได้รับประทาน แถมใครชอบเล่นโซเชียลก็ได้โอกาสลงรูปกันสนุกอีก


ช่วงนี้คนเครียดกันเยอะแยะ หลายคนก็อยู่บ้านจนเซ็ง ลองหาเวลาทำคาเฟ่ที่บ้านให้ตัวเองหรือคนในครอบครัวกันดีไหมคะ จะได้ถือโอกาสพักผ่อนหย่อนใจบ้าง เผลอ ๆ อาจได้เจองานอดิเรกหรือความชอบใหม่ ๆ ด้วยนา

แน่นอนว่าคอนเซ็ปต์ของคาเฟ่ที่บ้านไม่ได้อยู่ที่การมีของกินและเครื่องดื่มเป็นอันจบ แต่อยู่ที่การสร้างบรรยากาศสบาย ๆ แบบคาเฟ่ เพราะฉะนั้นหากนึกอยากพักผ่อนจิบน้ำชารับของว่าง เพื่อน ๆ ก็อาจจะตระเตรียมอะไรบ้างนิดหน่อยให้ดูดี และสร้างบรรยากาศไปด้วยในตัว

ขั้นแรกก็ต้องเตรียมพื้นที่กันก่อน อาจจะเลือกมุมหนึ่งของห้องหรือของบ้านมาสักมุม แล้วหาโต๊ะเล็ก ๆ มาวาง ใช้แผ่นรองแก้วหรือแผ่นรองจานอาหารสวย ๆ เอาดอกไม้ปักแจกันเก๋ไก๋มาแต่งเสียหน่อย แค่นี้ก็เริ่มได้บรรยากาศร้านคาเฟ่หน่อย ๆ แล้ว

แต่ถ้าใครไม่มีอุปกรณ์ครบครัน ก็ไม่ต้องถึงขนาดไปหาซื้อให้สิ้นเปลืองนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวพอเลิกเห่อแล้วจะมีอะไรก็ไม่รู้เต็มบ้านไปหมด แค่เอาของที่มีในบ้านมาพลิกแพลงใช้ก็ได้แล้ว ถ้าไม่มีโต๊ะ อาจจะหาถาดมาใส่ของกินกับเครื่องดื่มวางแทนโต๊ะ แล้วนั่งกับพื้น แคร่ ตั่ง เฉลียง ชาน หรือบนพื้นหญ้า อย่างนี้ก็ได้ ลองนึกดูว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความรู้สึกพิเศษและสบายอารมณ์ยิ่งกว่าการรับประทานอาหารหรือของว่างในบ้านตามปกติ ก็คงมีไอเดียผุดขึ้นมามากมายให้สนุกกันละค่ะ


บ้านฉันที่ไทยมีเฉลียงอยู่ติดกับบ่อน้ำเล็ก ๆ แม่เคยปลูกบัวในบ่อน้ำนี้อยู่หลายกระถางดูสวยเพลินตาดี เมื่อก่อนฉันชอบมานั่งอ่านหนังสืออยู่แถวเฉลียงที่ว่า ถ้าจะทำคาเฟ่ที่บ้านฉันก็คงจะเลือกมุมนี้แหละ แล้วหาถาดหรือผ้าลายสวย ๆ มาปูที่พื้นเฉลียง แล้วค่อยวางจานของกินกับแก้วเครื่องดื่ม นั่งชิลล์เพลิน ๆ ได้

จานชามก็มีส่วนสร้างบรรยากาศได้นะคะ แต่ถ้ามันไม่ได้สะสวยอย่างที่ใจต้องการ ก็อาจจะใช้วิธีจัดวางอาหารให้ดูเก๋ไก๋ เอาใบตองหรือกระดาษเช็ดปากมีลวดลายมาวางบนจาน แล้วค่อยวางขนมลงไป แค่นี้ก็น่ามองแล้ว อาจจะดูคลาสสิกกว่าใช้จานชามสวย ๆ อีก

หากใครไม่ถนัดทำอาหารและเครื่องดื่ม ก็อาจจะหาซื้อหรือสั่งซื้อเอาก็ได้ เดี๋ยวนี้คนทำขนมขายออนไลน์กันเยอะแยะ มีให้เลือกกันไม่หวาดไม่ไหว จะได้ถือโอกาสอุดหนุนกันในยามยากด้วยนะคะ แต่ถ้าใครอยากลองทำเองฉันก็เชียร์เต็มที่ คือจากประสบการณ์แล้วฉันเคยคิดว่าของกินหรือขนมอร่อย ๆ นี่มันคงต้องทำยากมาก แต่พอได้ลองทำขึ้นมาสักอย่างแล้ว จึงได้อุทานในใจว่า… “ไฮ้! ง่ายปานนี้เชียวรึ ??”  แถมเวลาได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ ก็เพลินดี ได้ลับสมองเป็นของแถม แล้วยังได้ลุ้นด้วยเพราะไม่รู้ว่ามันจะออกมาหน้าตาอย่างไร กินได้ไหม ก็เป็นบรรยากาศสนุกไปอีกแบบนะคะ


อีกอย่างที่ขาดไม่ได้ก็คือดนตรี โดยมากร้านคาเฟ่จะเปิดดนตรีแจ๊สหรือบอสซาโนวา คงเพราะให้ความรู้สึกแจ่มใสรื่นเริง และสร้างบรรยากาศสบาย ๆ ได้ง่าย เดี๋ยวนี้มี BGM ทางยูทูปให้ฟังฟรีมากมาย สามารถเปิดคลอไปได้เรื่อย ๆ ตัวฉันเองก็มักเปิดเพลงแจ๊สฟังเวลาทำงาน เพราะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และรู้สึกราวกับบรรยากาศรอบตัวคลายความร้อนลง คงเพราะปกติจะได้ยินเพลงแจ๊สเวลาอยู่ในร้านกาแฟหรือร้านคาเฟ่เย็น ๆ เลยพลอยรู้สึกเหมือนอยู่ในที่เย็น ๆ ไปด้วย ถ้ามีชาหรือกาแฟสักถ้วย หรือโกโก้เย็นสักแก้วละก็ ยิ่งได้บรรยากาศคล้ายนั่งทำงานในร้านกาแฟเลย ทั้งที่ตัวอยู่บ้านนี่แหละ

ฉันคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับช่วงเวลาทำคาเฟ่ที่บ้าน ก็คือการที่เราได้พักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางบรรยากาศที่บรรจงเสกสรรค์ขึ้นมา เพราะฉะนั้นจึงน่าจะเป็นการดีกว่ากันมากหากเพื่อน ๆ จะวางมือถือหรือแท็บเบล็ตลง ปิดโทรทัศน์ ใช้เวลานี้อยู่กับตัวเอง อยู่กับคนที่นั่งอยู่กับเรา สนทนากัน เพลิดเพลินกับอาหารเครื่องดื่มตรงหน้า และดนตรีสบาย ๆ ภายในช่วงเวลาอันร่มรื่นนี้ แล้วช่วงเวลาของคาเฟ่ที่บ้านจะมีความหมายกว่าที่คิดเยอะเลย ลองดูนะคะ

4608


ศึกฟุต.va.com]พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2021/22 วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม 2564 “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี ลงสนามนัดที่ 2 เปิดเอติฮัด สเตเดียม รับการมาเยือนของ “นกขมิ้น” นอริช ซิตี

“เรือใบสีฟ้า” ของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เกมที่แล้วบุกไปแพ้ให้กับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 0-1 เกมนี้นำทัพมาโดย 3 ประสานแดนหน้า อย่าง แจ็ค กรีลิช, เฟร์ราน ตอร์เรส และ กาเบรียล เชซุส

ขณะที่ นอริช ซิตี ภายใต้การคุมทีมของ ดาเนี่ยล ฟาร์เก้ เกมที่แล้วพ่ายคาบ้านให้กับ ลิเวอร์พูล 0-3 เกมนี้นำทัพมาโดย ติโม ปุ๊กกี, ท็อดด์ คานต์เวลล์ และ มิลอต ราชิค่า

นาทีที่ 7 แมนฯ ซิตี ได้ประตูออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ กาเบรียล เชซุส ได้.หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งขวาก่อนตัดสินใจยิงยัดไปโดนตัว แกรนท์ ฮานลีย์ และเด้งไปโดนตัว ทริม ครูล เข้าประตูตัวเอง

นาทีที่ 22 แมนฯ ซิตี้ ขยับหนีเป็น 2-0 จากจังหวะที่ กาเบรียล เชซุส หลุดมาทางกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจ่ายเข้ากลาง.ไปแฉลบกองหลังนอริช และเด้งมาโดนหัวเข่าของ แจ็ค กรีลิช เข้าไป ถือเป็นประตูแรกในสีเสื้อ “เรือใบสีฟ้า” ของนักเตะค่าตัว 100 ล้านปอนด์ และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี ยังเป็นฝ่ายที่ทำได้ดีกว่า และก็มาได้ประตูนำห่าง 3-0 ในนาทีที่ 64 จากจังหวะลูกเตะมุม อายเมริค ลาปอร์ต โหม่งจังหวะแรกไปโดนกองหลังนอริช แต่.ยังเด้งมาเข้าทางเจ้าตัวซ้ำดาบสองเข้าไป

นาทีที่ 70 แมนฯ ซิตี ที่ยังเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง ก็มาได้ประตูนีห่างไปอีกเป็น 4-0 จากจังหวะที่ กาเบรียล เชซุส หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนปาดเข้ากลางให้ ราฮีม สเตอร์ลิง วิ่งมาเข้าฮอร์สง่ายๆ ถือเป็นแอสซิสต์ที่ 2 ของ เชซุส ในเกมนี้

นาทีที่ 84 เรือใบสีฟ้า มาได้ประตูขยับเป็น 5-0 จากจังหวะที่ รูเบน ดิอาส ตัก.มาให้ ริยาด มาห์เรซ ที่วิ่งสอดมาหลังแนวรับนอริช ซิตี้ ก่อนซัดด้วยซ้ายเข้าไปนิ่มๆ

ช่วงเวลาที่เหลืองทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที แมนเชสเตอร์ ซิตี เปิดบ้านไล่ต้อน นอริช ซิตี 5-0 เก็บสามคะแนนแรกในฤดูกาลนี้

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี : เอแดร์ซอน (GK), ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, อายเมริค ลาปอร์ต, เจา กานเซโล่, โรดรี, แบร์นาร์โด ซิลวา, อัลคาย กุนโดกัน, กาเบรียล เชซุส, แจ็ค กรีลิช, เฟร์ราน ตอร์เรส

นอริช ซิตี : ทิม ครูล (GK), แม็กซ์ อารอนส์, แกรนท์ ฮานลีย์, เบน กิ๊บสัน, ดิมาทริออส จานนูลิส, บิลลี กิลมัวร์, ปิแอร์ ลีส์-เมลู, ลูกัส รัปป์, มิลอต ราชิค่า, ท็อดด์ คานต์เวลล์, ตีมู ปุ๊กกี


ผลการแข่งขันฟุต.พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันที่ 21 สิงหาคม 2564 คู่อื่นๆ
แอสตัน วิลล่า 2-0 นิวคาสเซิ่ล
คริสตัล พาเลซ 0-0 เบรนท์ฟอร์ด
ลีดส์ ยูไนเต็ด 2-2 เอฟเวอร์ตัน

หน้า: 1 ... 254 255 [256] 257 258 ... 264