แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - hs8jai

หน้า: 1 ... 264 265 [266] 267 268
4771


 
 
โควิด ระลอกล่าสุด กดราคาอสังหาฯ ต่ำสุด โอกาส เอเจนซี่ มองตลาดอสังหาฯ ในไตรมาส 2 ปี 2565 จะเริ่มมีโอกาสฟื้นตัว หากการกระจายวัคซีนครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมสวนกระแส เปิดตัว LEASEBACK PROGRAM  ชี้เป็นโอกาสของนักลงทุน เลือกช้อปของดี โดยเน้นทำเลศักยภาพที่มีดีมานด์ซื้อและปล่อยเช่าสูงเข้าพอร์ต โดยเฉพาะโครงการที่ได้รับผลตอบแทนที่แน่นอน เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนและหวังผลตอบแทนได้ในระยะยาว
 
นายภัทรภูริต รุ่งจตุรภัทร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอกาส เอเจนซี่ จำกัด ที่ปรึกษาการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และผู้บริหารการปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์วิถีใหม่ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในรอบ 1 ปี นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนมาถึงการแพร่ระบาดในระลอกล่าสุด พบว่า ผู้บริโภคยังมีความต้องการลงทุนเป็นจำนวนมาก เพียงแต่ที่ผ่านมายังคงชะลอการใช้จ่ายเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และรอจังหวะที่วิกฤตเริ่มคลี่คลายลง โดยคาดการณ์ว่าตลาดอสังหาฯ ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2565 จะเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง หากการระดมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สามารถกระจายครอบคลุมทั่วประเทศได้
 
พร้อมกันนั้น ประเมินราคาอสังหาฯ ภายหลังโควิด-19 แพร่ระบาดระลอกล่าสุด ได้ปรับลดลงจนถึงจุดต่ำสุดแล้ว จึงมองเป็นโอกาสทองของนักลงทุนและผู้ซื้อที่มีความพร้อม เพื่อหวังต่อยอดการลงทุนในระยะยาว โดยเฉพาะโครงการที่อยู่อาศัยในทำเลศักยภาพที่มีโอกาสเติบโตได้ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นทำเลตามแนวรถไฟฟ้า หรือ แม้แต่ทำเลย่านธุรกิจ ฯลฯ รวมถึงทำเลที่มีดีมานด์ซื้อและปล่อยเช่าสูง เช่น สุขุมวิท ทองหล่อ อโศก พระราม 9 เป็นต้น
 
ทั้งนี้ โอกาส เอเจนซี่ (OKAS Agency) ในฐานะผู้บริหารการปล่อยเช่าอสังหาฯ วิถีใหม่ ที่มุ่งเน้นดูแล และบริหารการปล่อยเช่าให้กับนักลงทุนแบบ 360 องศา ตัวแทนขายโครงการอสังหาฯ เพื่อการลงทุน (Investment Property) หรือ IP ในรูปแบบของ Branded Residence ของบริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) ขอแนะนำโครงการคุณภาพที่น่าลงทุนในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ซึ่งทุกโครงการ มีจุดเด่นโดยตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพที่สามารถขายต่อ หรือ ปล่อยเช่าได้ราคาดี อยู่ใจกลางเมืองและใกล้รถไฟฟ้า พร้อมครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย และรับการบริการและการจัดการในรูปแบบโรงแรม ในราคาที่จับต้องได้
 
นำเสนอโครงการ CASSIA RESIDENCES RAMA 9 BANGKOK และเปิดตัวแพ็คเกจสำหรับนักลงทุน LEASEBACK PACKAGE ที่ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนสูงสุดปีละ 6% ต่อเนื่องตลอด 10 ปี โดย OKAS Agency พร้อมสิทธิพิเศษสำหรับนักลงทุน ได้แก่ สิทธิ์เข้าพัก 15 คืนต่อปี และสิทธิประโยชน์ Sanctuary Club จาก CASSIA By Banyan Tree เริ่มเพียง 4.29 ลบ.
 
สำหรับโครงการ CASSIA RESIDENCES RAMA 9 BANGKOK เป็นโครงการมิกซ์ยูสระดับพรีเมียม บริหารใน รูปแบบโรงแรม Branded Residence ภายใต้แบรนด์ CASSIA By Banyan Tree ตั้งอยู่ในทำเลเศรษฐกิจ “พระราม 9”  การเดินทางสะดวก เพียง 1 นาที จากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน รฟม. รูปแบบห้องแบบ Duplex ทั้งโครงการ โดยในโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้ง Co-working space, Meeting Room, Kid room, Gym และ Sky bar   

4772




ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติไทย แห่งสโมสร ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ศึกฟุตบอลเจลีก ประเทศญี่ปุ่น ออกมายอมรับว่ามีอุปสรรคสำคัญที่ทำให้นักเตะไทย พลาดโอกาสไปค้าแข้งต่างแดน

โดย ชนาธิป วัย 27 ปี กล่าวระหว่างไลฟ์สดพูดคุยกับ ธงชัย สุขโกกี กุนซือนครปฐม ยูไนเต็ด ผ่านช่องยูทูป ทีมชาติไทย สไตล์นิชิโนะ_ โค้ชธง นครปฐม

"ค่าตัว ของนักฟุตบอลไทย มันแพงไปหรือเปล่า และใครจะมาเอา เพราะถ้ามันแพง มันก็อยากที่เขาจะมาเอา ถูกมั้ยครับ? อย่างของผม เอาแบบตรงๆ ก็การตลาดด้วยแหละ เขาก็เสี่ยงเลย และผมต้องไปพิสูจน์ตัวเอง เขาถึงซื้อผม หรืออย่าง มูซาชิ ไปเมืองนอก (เบียร์ช็อต วิลไรจ์ก - ลีกเบลเยียม) ก็แค่ 30 ล้านบาท ซึ่งผมว่านักฟุตบอลไทย ควรที่จะประมาณ 10 ล้าน ผมว่าโอเคเลย”

สำหรับ ชนาธิป สรงกรสินธ์ กลายเป็นผู้เล่นตัวหลักของสโมสร ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร โดยลงเล่นในญี่ปุ่นไปแล้ว 113 นัด ยิงได้ 15 ประตู ทำ 18 แอสซิสต์ รวมถึงยังเคยได้รับเกียรติติดทีมผู้เล่นยอดเยี่ยมเจลีก 2018 อีกทั้งยังเคยคว้าตำแหน่งรองแชมป์ลูวาน คัพ มาแล้วอีกด้วย

4773



นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ของภาครัฐที่เริ่มต้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมา เป็นการนำร่องดึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกลับมาที่เกาะภูเก็ต ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีความสวยงามติดอันดับโลก ซึ่งนอกจากภาคธุรกิจการท่องเที่ยวแล้ว ยังจะช่วยกระตุ้นให้ผู้ประกอบการในภาคอื่นๆ ในพื้นที่กลับมาฟื้นตัวได้เช่นกัน โดยพฤกษาได้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในภูเก็ตมาแล้วหลายโครงการ เพื่อสนองนโยบายของภล่าสุดจัดแคมเปญ “ลด! ช็อคทั้งเกาะ น็อคทุกค่าย”สำหรับผู้ที่กำลังมองหาบ้านพร้อมอยู่ ในราคาเริ่มต้น 1.79 ล้าน รับลดสูงสุดถึง 700,000 บาท พร้อมสิทธิพิเศษอื่นๆ เช่น อยู่ฟรีสูงสุด 36 เดือน, ฟรี!ทุกค่าใช้จ่าย ณ วันโอนฯ และฟรีบริการ Internet AIS Fibre 1 ปี

สำหรับโครงการพฤกษาวิลล์พร้อมเข้าอยู่ 2 ทำเล ได้แก่ โครงการพฤกษาวิลล์ ถลาง-เทพกระษัตรี ทาวน์โฮม 2 ชั้น 3 ห้องนอน สไตล์ Contemporary Modern สเปคเทียบเท่าบ้านเดี่ยว สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งาน Flexi – Multi Space ได้อย่างอิสระ โดดเด่นด้วยทำเลติดเมืองถลาง ห่างจากถนนเทพกระษัตรี เพียง 900 เมตร ใกล้สนามบิน โลตัส, แม็คโคร, โฮมโปร ถลาง เพียง 15 นาที อุ่นใจด้วยระบบรักษาความปลอดภัยเข้า-ออกโครงการ ด้วยระบบ Auto Access Card และระบบประตูล็อก 2 ชั้น Check Point สะดวก ปลอดภัย ด้วยระบบ Card Scan กล้องวงจรปิด CCTV ที่ทางเข้าหลัก พร้อมสวนส่วนกลางขนาดใหญ่

โครงการพฤกษาวิลล์ เจ้าฟ้า-เทพอนุสรณ์ ทาวน์โฮม 2 ชั้นสไตล์บาหลี รองรับการใช้ชีวิตของครอบครัวด้วยแบบบ้านใหม่ 4 ห้องนอน มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอาทิ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส รวมถึงสวนส่วนกลางที่ใกล้ชิดธรรมชาติ ระบบรักษาความปลอดภัยแบบประตูระบบล็อก 2 ชั้น CCTV ตลอดทางเข้าหลักของโครงการ พร้อมจุด Check Point ด้วยเครื่องสแกน และ Security Guard ตลอด 24 ชั่วโมง เดินทางสะดวกเข้าสู่ตัวอำเภอเมืองภูเก็ตเพียง 10 นาที ใกล้แหล่งท่องเที่ยวอ่าวฉลอง หาดราไวย์ ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง อาทิ คิงพาวเวอร์, เซ็นทรัลเฟสติวัล, อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์

4774



วันนี้ (27 ก.ค.) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีผ่านระบบ Video Conference ณ ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พิจารณาอนุมัติ แนวทางการช่วยเหลือผู้ปกครองและนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด โดยเฉพาะมาตรการจ่ายเงินค่าใช้จ่ายในการเรียนให้นักเรียน-ผู้ปกครอง รายละ 2,000 บาท วงเงินงบประมาณ 23,000 ล้านบาท สำหรับนักเรียนในระบบการศึกษาไทย ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564 ดังนี้

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่เสนอมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา เพื่อบรรเทาผลกระทบของผู้ปกครองและนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐ กรอบวงเงิน10,000 ล้านบาท

โดยจะลด ค่าเล่าเรียนและค่าธรรมเนียมการศึกษาสูงสุดถึงร้อยละ 50 ซึ่งรัฐบาลจะสนับสนุนงบประมาณให้ร้อยละ 60 และสถาบันอุดมศึกษาสมทบอีกร้อยละ 40 

ขณะที่ สถาบันอุดมศึกษาเอกชน รัฐบาลจะสนับสนุนลดค่าเล่าเรียนค่าธรรมเนียมการศึกษาคนละ 5,000 บาท และให้ทางสถาบันอุดมศึกษาเอกชนพิจารณาลดค่าเล่าเรียนเพิ่มเติม ตลอดจนการสนับสนุนมาตรการอื่นๆ ให้กับนักศึกษา อาทิ การขยายเวลาผ่อนชำระค่าเล่าเรียน การจัดหาอุปกรณ์และโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับนักศึกษายืมเพื่อใช้ในศึกษาออนไลน์  

4775



นายอรรถนพ พันธุกำเหนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิซซา กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนรูปแบบ กล่าวว่า หลังจากที่ภาครัฐเปิดโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” เกือบ 1 เดือนที่ผ่านมานั้น ยังไม่สามารถตอบได้ว่าโมเดลดังกล่าวช่วยเหลือผู้ประกอบการภูเก็ตได้มากน้อยเพียงใด เพราะยังไม่มีการประเมินจากภาครัฐในส่วนของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น แทบจะไม่เกิดประโยชน์ เพราะชาวต่างชาติหวังเข้ามาท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว ไม่มีเจตนาเข้ามาลงทุนแต่อย่างใด ในขณะที่ชาวต่างชาติบางส่วน ที่ซื้อบ้านหลังที่ 2 ไว้ที่ภูเก็ตก่อนหน้านี้ ก็ไม่สามารถเข้าพักได้ทีเดียว เนื่องจากต้องไปกักตัวในโรงแรมในระบบที่ภาครัฐจัดเตรียมไว้ให้ก่อน 14 วัน จึงเป็นข้อจำกัดที่ทำให้ชาวต่างชาติไม่อยากเดินทางเข้ามาในประเทศไทยในช่วงนี้ ซึ่งมองว่าภาครัฐยังขาดความพร้อมและการวางแผนที่รัดกุม

ทั้งนี้การเปิด "ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์" มีข้อดีคือได้ทดลองเปิดดู หากผลเสียมีมากกว่า ธุรกิจทั่วไปยังไม่ได้รับผลประโยชน์ และนักท่องเที่ยวยังถูกจำกัดการทำกิจกรรมอยู่ ก็ยังรู้สึกไม่เกิดผลดีกับภาพรวมของภูเก็ต ซึ่งมองว่า ต้องหยุดเรื่องการติดเชื้อให้ลดน้อยลงที่สุดก่อน หากนำวัคซีนที่มีคุณภาพเข้ามาได้ ก็จะสามารถเปิดทุกกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ ทั้งนี้ภาครัฐต้องแก้ไขปัญหา ประเมินข้อดี ข้อเสียก่อน เพื่อให้ทุกอย่างรัดกุมมากกว่านี้

"นักท่องเที่ยวพอมาถึงประเทศไทยและได้ยินข้อมูลด้านลบ เพราะในภูเก็ตยังมีการติดเชื้ออยู่ ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับการติดเชื้อไปด้วย ทำให้บรรยากาศรู้สึกไม่ปลอดภัย และนักท่องเที่ยวเกิดความกังวล ทำให้รีบเดินทางกลับประเทศ ส่วนคนที่กำลังจะมาภูเก็ตก็รอดูท่าทีก่อน โมเดลนี้ไม่ถือว่าล้มเหลว ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้น เพื่อเริ่มทดลองและได้เห็นปัญหา ซึ่งก็ต้องนำปัญหานั้นมาแก้ไข แต่ไม่ทราบว่าภาครัฐมีการแก้ไขมากน้อยเพียงใด หากเปิดประเทศไม่ได้ แต่สามารถเปิดภูเก็ตได้ เพราะช่วงไฮซีซั่นก็ต้องมีชาวต่างชาติกลับมาอย่างแน่นอน ซึ่งควรแก้ปัญหาด้วยการหาวัคซีนมาฉีดให้คนในภูเก็ตให้หมด และคลายกฎให้นักท่องเที่ยว รวมไปถึงทำประชาสัมพันธ์ระดับโลกว่าภูเก็ตมีอัตราการติดเชื้อต่ำ ซึ่งภาครัฐอาจมองในมุมที่ต่างจากผู้ประกอบการเพราะประเทศไทยไม่ได้ใช้ระบบการทำการตลาดไปทั่วโลก ให้ชาวต่างชาติรับรู้ว่าภูเก็ตมีความพร้อมแล้ว แต่สิ่งที่รัฐขาดคือความเป็นอินเตอร์เนชั่นแนล ทำให้การประชาสัมพันธ์การเปิด 'ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์' ไม่เป็นไปในทิศทางที่จะเป็น แต่ก็ยังมีเวลาที่จะแก้ไขได้ก่อนที่จะถึงช่วงไฮซีซั่น ซึ่งเชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวกลับมาภูเก็ตอย่างแน่นอน" นายอรรถนพ กล่าว

สำหรับ ผู้ประกอบการอสังหาฯในภูเก็ตมีความต่างกันพอสมควร เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกในสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตทุกคน ซึ่งมีทั้งผู้ประกอบการที่สร้างบ้านเพื่อขาย และลงทุน มีทั้งคนไทยและต่างชาติ ดังนั้นจึงอยากจะฝากถึงรัฐบาล ในการช่วยภาคธุรกิจอสังหาฯและท่องเที่ยว หากมีการทำประชาสัมพันธ์เมืองภูเก็ต ก็ควรที่จะดึงงบประมาณบางส่วนให้ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกนักท่องเที่ยวมาแล้วรู้สึกประทับใจ ระบบราชการต้องมีความเป็นอินเตอร์เนชั่นแนล รวมไปถึงควรตัดวงจรกลุ่มที่ขูดรีดชาวต่างชาติ และคนไทยด้วยกันออกไปให้หมด และควรมีงบบำรุงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ อีกทั้งเพื่อความยั่งยืนของภูเก็ตควรเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้ามาร่วมทุนกับภาครัฐเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในภูเก็ตมากขึ้น

"การที่จะดึงให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในภูเก็ต ภาครัฐควรมีการแก้ไขกฎหมายต่างๆ อาทิ 1. ดึงนักลงทุนมาลงทุนอสังหาฯด้วยการแก้ไขสิทธิกฎหมายการเช่าที่ดินจากเดิม 30 ปี เป็น 90 ปี , 2. เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดได้ 100% จากเดิม 49% , 3. การลงทุนกิจการในภูเก็ตไม่ควรคิดมาตรการด้านภาษีรายได้ โดยไม่หักภาษีชาวต่างชาติ เพื่อให้นำเงินออกนอกประเทศได้ ซึ่งจะทำให้เกิดเงินสะพัด ภาคธุรกิจมีการเติบโต และ 4.หากชาวต่างชาติที่มีการลงทุนเกิน 30 ล้านบาท ควรให้วีซ่าเกิน 30 ปีไปเลย หากสามารถปลดกฎพวกนี้ได้ ราคาที่ดินภูเก็ตจะพุ่งขึ้นเป็น 2-3 เท่าตัวอย่างแน่นอน และทำให้เกิดการจ้างงาน เงินสะพัด เพราะที่ยุโรป อเมริกาก็ทำกันมาก ซี่งอยากให้รัฐเข้าใจและพัฒนาอย่างจริงจัง" นายอรรถนพ กล่าว

ในส่วนของ "ซิซซา กรุ๊ป" นั้นในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิต-19 ได้พยายามประคับประคองธุรกิจให้อยู่ได้ ทั้งส่วนของการพัฒนาอสังหาฯเพื่อการขายและธุรกิจโรงแรม รวมไปถึงพยายามหารายได้เพิ่มขึ้น ด้วยการจัดแคมเปญต่างๆหรือมีการลดราคาสินค้า เพื่อดันยอดขายเพิ่มขึ้น อีกทั้งหาช่องทางหรือเปิดธุรกิจใหม่ๆเพื่อสร้างรายได้ เช่น การร่วมทุนกับกลุ่มพันธมิตรเปิดตัวโครงการ "Natai Medical Center & Resort" ที่จะขายแพ็กเกจให้กับนักลงทุนล่าสุดเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายในช่วงไตรมาส 3/2564 บริษัทได้นำโครงการ "วินแดม แกรนด์ ในหาน บีช ภูเก็ต" มาจัดโปรโมชั่น "Pay Less Get TRIPLE" ซื้อ 1 ได้ถึง 3 ต่อ คุ้มค่าเหนือทุกเงื่อนไข กับการลงทุนแบบ Unit Ownership

4776



เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย และมีผลต่อการดำเนินชีวิตมากๆ ตัวช่วยที่ใกล้มือที่สุด ณ ปัจจุบันนี้คงหนีไม่พ้นแอพพยากรณ์อากาศ เพราะ แอพ ประเภทนี้ซึ่งมีมากมาย ช่วยให้เรารู้ว่าอากาศจะเป็นอย่างไรบ้างในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า เพียงแค่ปลายนิ้วก็รู้ได้อย่างง่ายดาย

แต่สภาพแวดล้อมมหาสมุทรซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้กันล่ะ มีแอพ “พยากรณ์อากาศ” หรือเปล่า? ล่าสุดผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นได้สร้าง “แอพ” มือถืออย่าง Global Ocean on Desk (GOOD) หรือเรียกกันง่ายๆ ว่า “GOOD APP” เพื่อให้คนทั่วโลกเข้าถึงการพยากรณ์สภาพแวดล้อมมหาสมุทรได้ง่ายๆ

“GOOD APP” เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรียกดูข้อมูลพยากรณ์สภาพแวดล้อมมหาสมุทรได้โดยตรงตามใจต้องการบนมือถือของตัวเอง โดย “แอพ” นี้พยากรณ์ภัยพิบัติทางทะเล อย่างคลื่นพายุซัดฝั่งและคลื่นสึนามิได้ ทั้งยังช่วยทีมชายฝั่งทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ป้องกันและลดภัยอันตรายทางทะเล บริหารจัดการการประมง และแม้แต่การท่องเที่ยว

“แอพ” นี้ใช้งานได้ 3 ภาษา ได้แก่ ไทย มาเล และอังกฤษ โดยเป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่างไทย มาเลเซีย และจีน ด้วยการสนับสนุนจากกองทุน China-ASEAN Cooperation Fund แอพดังกล่าวแสดงผลการพยากรณ์สภาพแวดล้อมมหาสมุทรเชิงตัวเลขให้เป็นภาพได้ ไม่ว่าจะเป็นความสูงของคลื่นพื้นผิว ระยะเวลาของคลื่น ระดับน้ำทะเล กระแสน้ำมหาสมุทรแบบสามมิติ อุณหภูมิและความเค็มของทะเล เป็นต้น ครอบคลุมพื้นที่ทั่วโลกในช่วง 120 ชั่วโมงข้างหน้า (5 วัน) ผ่านสมาร์ทโฟน


แน่นอนว่า “GOOD APP” ไม่ได้ถูกคิดค้นและสร้างขึ้นในคืนเดียว เพราะก่อนที่จะเปิดตัวแอพนี้อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนธันวาคม 2561 ระบบ Ocean Forecast System (OFS) ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของแอพนี้ ถูกพัฒนาขึ้นเป็นเวลากว่าหลายทศวรรษ และมีการนำไปทดลองใช้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2555 ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2561


โดยที่ OFS ใช้โมเดลเชิงตัวเลขที่คอยประสานการไหลเวียน คลื่น และกระแสน้ำพื้นผิว โมเดลใหม่นี้แตกต่างจากโมเดลมหาสมุทรอื่นๆ ที่พยากรณ์คลื่น กระแสน้ำ และการเคลื่อนไหวแยกกันโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบระหว่างกันของปัจจัยเหล่านี้ เพราะโมเดลใหม่ดังกล่าวนำปัจจัยทั้ง 3 นี้มาพิจารณาพร้อมกัน และยกระดับความแม่นยำและประสิทธิภาพของการพยากรณ์มหาสมุทรได้อย่างมาก

ตัวอย่างเช่น ข้อผิดพลาดจากการพยากรณ์ความลึกของชั้นผสม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการปกป้องระบบนิเวศทางทะเล การก่อตัวของไต้ฝุ่น และการพยากรณ์สภาพอากาศ นับว่าเป็นจุดติดขัดมาถึงครึ่งศตวรรษ แต่บัดนี้ปัญหาดังกล่าวหายไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์


ศาสตราจารย์ Qiao Fangli หัวหน้าทีมวิจัยจากสถาบัน First Institute of Oceanography (FIO) ในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติของจีน กล่าวว่า "โมเดลดังกล่าวได้รับการตรวจสอบแล้วจากการสังเกตและการทดลองในห้องปฏิบัติการ โดยช่วยยกระดับความแม่นยำของการพยากรณ์มหาสมุทรได้ถึง 80-90 เปอร์เซ็นต์"

ย้อนกลับไปยังปี 2551 เมื่อ Qiao Fangli ได้รับเชิญให้กล่าวปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับความสำเร็จของแบบจำลองมหาสมุทรของเขาในการประชุมวิชาการระดับนานาชาติของ IOC/WESTPAC ครั้งที่ 8 เขาได้พบกับ ศาสตราจารย์ สมเกียรติ ขอเกียรติวงศ์ จากศูนย์ชีววิทยาทางทะเล จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย เป็นครั้งแรก ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งประธานของระบบสังเกตการณ์ในทะเลและมหาสมุทรเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAGOOS) และ ศาสตราจารย์ Fredolin Tangang จากมหาวิทยาลัย Universiti Kebangsaan Malaysia (UKM) ของมาเลเซีย หลังจากการอภิปรายกันอย่างดุเดือด แนวคิดความร่วมมือระหว่างทีมนักวิจัยจากจีน ไทย และมาเลเซีย ในการพัฒนาระบบพยากรณ์มหาสมุทรแบบใหม่ก็ถือกำเนิดขึ้น โครงการนี้ได้รับการอนุมัติโดย IOC/WESTPAC ในปี 2553 และในอีก 2 ปีถัดมา OFS แบบปฏิบัติการ ก็เปิดตัวเป็นครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม 2555


ศาสตราจารย์ Qiao กล่าวว่า "ประเทศไทย มาเลเซีย จีน และประเทศที่เกี่ยวข้องทั้งหมด สามารถได้รับประโยชน์จากโครงการ OFS และความร่วมมือของเราก็เข้ามาเสริมสร้างมิตรภาพและความร่วมมือในระหว่างประเทศต่างๆ ได้อย่างมาก"

OFS มีบทบาทสำคัญในการค้นหากู้ภัยในเหตุการณ์เรือล่มที่จังหวัดภูเก็ตเมื่อเดือนกรกฎาคม 2561 ซึ่งเรือท่องเที่ยว 2 ลำ พร้อมนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 130 ราย โดยส่วนมากเป็นชาวจีน จมลงนอกเกาะภูเก็ตทางภาคใต้ของประเทศไทย เนื่องมาจากพายุที่รุนแรงในฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้

นอกจากภารกิจค้นหาและกู้ภัยของเจ้าหน้าที่ไทยแล้ว ทีมวิจัยระหว่างประเทศของจีนและไทยได้ให้ความช่วยเหลือทางวิทยาศาสตร์อย่างแข็งขัน พวกเขาใช้ OFS คาดการณ์กระแสน้ำในมหาสมุทรและคลื่น ตลอดจนลดพื้นที่การค้นหาลงเหลือ 10 เปอร์เซ็นต์ ผ่านการคาดการณ์กระแสน้ำบริเวณรอบเรือที่จมได้อย่างแม่นยำ ซึ่งช่วยให้ทีมกู้ภัยของไทยปฏิบัติภารกิจกู้ภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

OFS จึงนับเป็นระบบ “พยากรณ์” สภาพแวดล้อมในมหาสมุทรระดับชาติของทั้งประเทศไทยและมาเลเซียในขณะนี้ นอกจากความช่วยเหลือทางทะเลแล้ว ยังมีการนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในหลายๆ ด้าน เช่น การปกป้องแนวปะการัง ความปลอดภัยของการขนส่งทางทะเล การติดตามแหล่งที่มาและการพยากรณ์ขยะที่ลอยอยู่ในทะเล รวมถึงการรั่วไหลของน้ำมัน เป็นต้น สำหรับชาวประมง OFS และ “GOOD APP” ที่พัฒนาขึ้นมาจาก OFS คาดการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงเพื่อที่จะรับรองความปลอดภัยและการผลิต

4777


ลูกา ดอนซิช ซูเปอร์สตาร์ของ สโลวิเนีย ทาบสถิติคะแนนสูงสุดอันดับ 2 ของการแข่งขันบาสเกตบอลชายระดับ โอลิมปิก เกมรอบแบ่งกลุ่ม เอาชนะ อาร์เจนตินา ขาดลอย 118-100 วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม

ในการแข่งขัน โอลิมปิก ของ สโลวีเนีย ครั้งแรก ดอนซิช ปิดสกอร์ 31 แต้ม เฉพาะครึ่งแรก และมีโอกาสทำลายสถิติสูงสุดของ ออสการ์ ชมิดท์ ตำนานยัดห่วงบราซิเลียน 55 แต้ม เมื่อปี 1988

การ์ดสังกัด ดัลลัส มาเวอริกส์ แทบไม่ต้องทำอะไรมากมายช่วงครึ่งหลัง เนื่องจาก สโลวิเนีย ทิ้งห่างไปไกล แต่ยังคงอยู่บนสนามถึงควอเตอร์ 4 และทาบสถิติของ เอ็ดดี ปาลูบินสกัส ที่ทำไว้ 48 แต้ม เมื่อปี 1976 ที่เมืองมอนทรีอัล

ดอนซิช วัย 22 ปี ยังมีเวลาเพียงพอ สำหรับทำลายสถิติ ก่อนออกมานั่งพัก ทว่าไม่อยากทำคะแนนเพิ่ม "ผมไม่สนใจเรื่องสถิติ เราได้ชัยชนะ และนั่นคือเป้าหมายที่เรามาที่นี่"

สโลวีเนีย ยังไม่ได้สิทธิ์เข้าร่วม โอลิมปิก กระทั่งช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และกลายเป็นทีมระดับลุ้นเหรียญ ด้วยความโดดเด่นของ ดอนซิช บนสังเวียน เอ็นบีเอ (NBA)

ขณะที่ อาร์เจนตินา แชมป์ป๊ 2004 อาศัย หลุยส์ สโคลา อดีตผู้เล่นระดับ NBA แบกทีม 23 แต้ม และ ฟาคุนโด คัมปาซโซ การ์ด เดนเวอร์ นักเก็ตส์ เสริม 21 แต้ม 6 รีบาวน์ด 4 แอสซิสต์ สถิติชนะ 0 แพ้ 1

4778



สืบมาไม่ใช่อย่างนั้นไม่เข้าข้างใครขอพูดเป็นกลาง หลังจาก เต๋า ทีวีพูล โพสต์เปิดประเด็นความแตก น้ำ มิสแกรนด์ แฉ ณวัฒน์ ติดเชื้อโควิดจากสตูดิโอดัง หลังโดนตลก ต. ชวนให้ไปออกรายการ แคปชั่นว่า คาดติดเกิอบ40รายแต่ปิดข่าว พร้อมทั้งยังคอมเมนต์ตอบคนในโพสต์รัวๆ อาทิ ใครพูดว่าติดโดนออก , ช่องที่ลุงดูก็ติดโควิดนะลุง ข่าวนี้คนสงสัยมานานแล้ว ลุงแก่ๆควรพัก นั้น

ล่าสุด หนุ่ม กรรชัย กล่าวถึงเรื่องนี้ในรายการหนึ่งว่า ส่วนตัวที่ผมรู้มา ได้ยินมามันไม่ใช่ มุมของผมกับมดดำ (คชาภา) เห็นด้วยเหมือนกันว่าไม่น่าใช่ที่จะเป็นอย่างนั้น พอทราบข่าวผมก็เช็คข่าว ก็สืบมาก็ไม่ใช่อย่างนั้น


ในนั้นไม่ได้เอ่ยว่าตุ๊กกี้ติด แต่เขาบอก ดาราตลก ต. เป็นคนชวนไป ถามจริงๆ ตุ๊กกี้ (ชิงร้อย) จะชวนไปได้ยังไง มันไม่ใช่ พูดตรงๆ พี่ณวัฒน์ (อิสรไกรศีล) ก็ไปขายของ พูดเป็นกลางจริงๆเลยนะ ตุ๊กกี้จะชวนพี่ณวัฒน์ไปขายของที่นั่นเหรอ ก็ไม่ใช่ ตุ๊กกี้ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย ต้องผ่านเอเจนซี่ พูดแบบนี้ไม่ชัด ไม่น่าใช่

ถ้าเขาพูดมาแบบนี้ก็ต้องรอดูหลักฐาน ต้องเอาหลักฐานมาว่ากันว่าจริงหรือเปล่า เรื่องแบบนั้นพูดลอยๆไม่ได้นะ มันมีเรื่องความเสียหายองค์กรเขา เสียหายไปอีกหลายคน มันไม่ใช่มาพูดว่าที่นี่ที่นั่น เราพูดเป็นกลางที่สุดไม่ได้ข้างใดข้างหนึ่ง เราตั้งข้อสังเกตว่าเป็นแบบนี้

ด้าน มดดำ กล่าวว่า ไม่เห็นมีใครติด ตุ๊กกี้ก็ไม่ติด พูดกันตรงๆ เวิร์คพอยท์ตรวจทุกวัน ตรวจหนักกว่าเราอีก ทั้งแรพิดฯ ทั้งพีซีอาร์ถามว่าบริษัททุกที่มีคนติดกันทั้งนั้น ใครติดก็แยกรักษา แต่ติดคลัสเตอร์ 40 คนต้องมีข่าวหรือเปล่า ดาราติดคนหนึ่งมีใครไม่รู้บ้าง องค์กรเขาเป็นตลาดหลักทรัพย์เขาฟ้องได้นะ

4779

  
ไทยประกันชีวิต ตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ เพิ่มบริการผ่านแอปพลิคชัน ไทยประกันชีวิต ด้วย e-claim บริการยื่นเคลมออนไลน์ และ e-payment ชำระเบี้ยฯ ด้วยบัตรเครดิตผ่านแอปฯ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เอาประกันภัยในยุค New Normal

นายอังกูร ศรีกัลยาณบุตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Marketing Officer บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไทยประกันชีวิตดำเนินนโยบายมุ่งเป็นทุกคำตอบของชีวิต หรือ Life Solutions ผ่านการดูแลชีวิตอย่างรอบด้านด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างครอบคลุม ภายใต้แนวคิดยึดการลูกค้าเป็นศูนย์กลาง หรือ Customer Centric และเพื่อตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ รวมถึงสอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เอาประกันภัยให้สามารถเข้าถึงบริการ และทำธุรกรรมด้านประกันชีวิตได้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยตนเองทุกที่ทุกเวลา

บริษัทฯ จึงได้เพิ่มบริการใหม่บนแอปพลิคชัน ไทยประกันชีวิต ไม่ว่าจะเป็น บริการ E-Claim ยื่นเคลมค่าชดเชยรายได้ ได้แก่ การเรียกร้องค่าชดเชยรายวัน กรณีรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน ตามเงื่อนไขสัญญาเพิ่มเติมค่ารักษาพยาบาลรายวัน (รพ./ตรพ.) หรือสัญญาประกันอุบัติเหตุรายบุคคล และการเรียกร้องค่าชดเชยรายสัปดาห์กรณีอุบัติเหตุ ตามเงื่อนไขของสัญญาเพิ่มเติมการประกันอุบัติเหตุ

โดยผู้เอาประกันภัยสามารถใช้บริการยื่นเคลมผ่านแอปฯ ง่ายๆ 3 ขั้นตอน คือ กรอกข้อมูลการเคลม จากนั้นอัปโหลดเอกสารต่างๆ เพื่อประกอบการยื่นเคลม อาทิ ใบรายงานแพทย์ตามแบบที่บริษัทฯ กําหนด และสุดท้ายกรอกข้อมูลการรับเงิน ทั้งนี้ ผู้เอาประกันภัยจะได้รับเงินผ่านการโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกด้วยเลขบัตรประชาชน หรือโอนเข้าบัญชีออมทรัพย์ของผู้เอาประกันภัยเท่านั้น โดยบริษัทฯ จะส่งหนังสือแจ้งผลการพิจารณาสินไหมผ่านอีเมลที่ผู้เอาประกันภัยได้ลงทะเบียนไว้ หรือสามารถตรวจสอบที่เมนูประวัติการเคลมบนแอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต

บริการ E-Payment ชำระเบี้ยประกันภัยด้วยบัตรเครดิต เพิ่มความสะดวกให้ผู้เอาประกันภัยในการชำระเบี้ยฯ สามารถเลือกชำระได้ผ่านเมนู “ชําระเบี้ยฯ” ระบบจะแสดงกรมธรรม์ที่ถึงกําหนดชําระล่วงหน้า 30 วัน และแสดงถึงวันครบกําหนดชําระเบี้ยฯ หรือเมนูกรมธรรม์ของฉัน เลือก “เบี้ยฯ ที่ต้องชําระ/ประวัติการชําระเบี้ยฯ” โดยผู้เอาประกันภัยสามารถชําระเบี้ยฯ ผ่านบัตรเครดิตทั้งประเภท VISA, MASTER CARD และ JCB ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบข้อมูลการชําระเงินได้ที่ประวัติการชําระเบี้ยฯ ภายใน 3 วันทําการ และใบเสร็จรับเงินจะส่งไปตามที่อยู่ที่ระบุไว้ สำหรับกรณีกรมธรรม์ที่เกินกําหนดชําระเบี้ยฯ ไปแล้ว ผู้เอาประกันภัยสามารถชำระเบี้ยฯ ได้ผ่านตัวแทนประกันชีวิต หรือที่ทําการสาขาทั่วประเทศ



บริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนา แอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นเพื่อนคู่คิดที่เข้าใจความต้องการ และเป็นทุกคำตอบของบริการด้านธุรกรรมประกันชีวิตแก่ผู้เอาประกันภัย ผ่านหลากหลายเมนูการใช้งาน อาทิ การเปลี่ยนแปลงข้อมูลกรมธรรม์ ตรวจสอบความคุ้มครองและผลประโยชน์ บริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ บริการข้อมูลกองทุนรวมภายใต้แบบประกันยูนิตลิงค์ สิทธิประโยชน์จากไทยประกันชีวิต Privilege กิจกรรมและสิทธิพิเศษต่างๆ มากมายสําหรับสมาชิกไทยประกันชีวิต ไลฟ์ฟิต บริการรับเงินคืนระหว่างสัญญาผ่านพร้อมเพย์ หรือบัญชีธนาคาร และไทยประกันชีวิตฮอตไลน์ บริการช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์และการเดินทางฟรีตลอด 24 ชั่วโมง ทุกที่ทั่วโลก

ผู้เอาประกันภัยสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิตได้ฟรีทั้งจากระบบ IOS และ Android เพื่อเข้าถึงข้อมูลกรมธรรม์ และทำธุรกรรมด้านประกันชีวิตได้ด้วยตนเองทุกที่ทุกเวลา สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. 1124 กด 7 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 21.00 น. หรือ [email protected] ตลอด 24 ชั่วโมง

4780


กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน หรือ พพ. ขับเคลื่อนการสร้างการรับรู้ในโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก โดยจัดทำคู่มือประชาสัมพันธ์ในรูปแบบ e-book และสารคดีผ่านช่องทางออนไลน์ และสื่อทีวี ชวนประชาชนศึกษาข้อมูลโครงการ ฯ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ และความเข้าใจในทิศทางที่ถูกต้อง ส่วนหนึ่งในการร่วมขับเคลื่อนโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ให้บรรลุเป้าหมายตามแผนส่งเสริมพลังงานทดแทน มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมาย สามารถเข้าถึงข้อมูลองค์ความรู้ และผลประโยชน์ที่ชุมชนจะได้รับจากโรงไฟฟ้าชุมชน พุ่งเป้า ประชาชนทุกภูมิภาค ทั่วไทย มีความรู้ ความเข้าใจถึงประโยชน์จากโรงไฟฟ้า ฯ พร้อมสร้างการมีส่วนร่วม สู่การดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นรูปธรรม ผู้ที่สนใจสามารถ คลิ๊กดาวน์โหลด e-book คู่มือโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากได้ที่ https://online.fliphtml5.com/vsrsk/pcfu/

ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) วาระการประชุมครั้งที่ 2/2563 (ครั้งที่ 151) วันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 มีมติเห็นชอบกรอบหลักการและเงื่อนไขการเปิดรับซื้อไฟฟ้าฯ โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก เนื่องจากการจัดตั้งโรงไฟฟ้าชุมชน ถือเป็นหนึ่งในนโยบายพลังงานเพื่อเศรษฐกิจฐานรากเพื่อช่วยให้ชุมชนมีรายได้จากการเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้า และลดภาระค่าใช้จ่าย มีรายได้จากการจำหน่ายวัสดุทางการเกษตรเป็นเชื้อเพลิง เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างความเข้มแข็งในชุมชน ลดการย้ายถิ่นฐานของแรงงาน เกิดการจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่ ก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจในชุมชน โดยมีเป้าหมายรับซื้อไฟฟ้าเข้าระบบไม่เกิน 150 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นเชื้อเพลิงชีวมวล 75 เมกะวัตต์ เสนอขายโครงการละไม่เกิน 6 เมกะวัตต์ และเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพ(พืชพลังงาน ผสมน้ำเสีย/ของเสีย น้อยกว่าหรือเท่ากับ 25%) 75 เมกะวัตต์ เสนอขายโครงการละไม่เกิน 3 เมกะวัตต์

ที่ผ่านมา พพ. ได้มีการดำเนินโครงการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการผลิตและการใชพลังงานทดแทน ที่มีความเหมาะสมกับศักยภาพของแต่ละพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง นอกจากสร้างความมั่นคงต้านพลังงาน ยังเป็นการช่วยส่งเสริมด้านอาชีพและรายได้ของชุมชน เกิดระบบเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืนในชุมชน พพ. จึงได้จัตทำ "โครงการสื่อสารสร้างการรับรู้ตามนโยบายส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก" ขึ้น เพื่อเป็นเครื่องมือในการชับเคลื่อนโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก ให้บรรลุเป้าหมายตามแผนส่งเสริมพลังงานทดแทน โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นชุมชนวิสาหกิจชุมชน ซึ่งเป็นกลุ่มสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้สามารถเข้าถึงข้อมูลองค์ความรู้ และผลประโยชน์ที่ชุมชนจะได้รับจากโรงไฟฟ้าชุมชนเกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการขับเคลื่อนโรงไฟฟ้าชุมชนให้เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพและได้รับการยอมรับจากชุมชน

ด้วยเหตุนี้ การจัดทำคู่มือโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากในรูปแบบ e-book จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางการสื่อสาร ซึ่งเป็นเครื่องมือส่งข้อมูลด้านโรงไฟฟ้าชุมชนที่ถูกต้องไปยังประชาชนกลุ่มเป้าหมาย อาทิ ภาพรวมแนวนโยบายของโรงไฟฟ้า ฯ ประเภทของโรงไฟฟ้าชุมชน และ หลักการผลิต ตลอดจนกรอบการใช้งานโรงไฟฟ้า ฯ เป็นต้น ซึ่งคาดหวังว่า จะเป็นการช่วยให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมกับโครงการ ฯ และเล็งเห็นว่า โรงไฟฟ้าชุมชน จะเข้ามาช่วยให้เกิดประโยชน์รอบด้านกับชุมชน และประชาชนอย่างแท้จริง

ผู้ที่สนใจ และประชาชนเป้าหมาย สามารถ คลิ๊กดาวน์โหลด e-book คู่มือโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากได้ที่ https://online.fliphtml5.com/vsrsk/pcfu/

4781


วันที่ 25 ก.ค. 64 นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 (ศบศ.) เปิดเผยว่า จากที่รัฐบาลได้เดินหน้ามาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกระตุ้นเศรษฐกิจและทยอยเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งตอนนี้เปิดได้เกือบหนึ่งเดือนแล้ว มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมที่เดินทางเข้ามาเกือบหนึ่งหมื่นคน โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5 อันดับแรกที่เข้ามา ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, อิสราเอล, เยอรมนี และฝรั่งเศส อัตราเฉลี่ยการเข้าพักต่อคนอยู่ที่ 11 คืน ประเมินค่าใช้จ่ายต่อทริปอยู่ที่ 70,000 บาท ได้แก่ ค่าที่พัก ค่าตรวจ Swab ค่าอาหารและเครื่องดื่ม ค่าพาหนะเดินทางในจังหวัด ค่าตั๋วเครื่องบิน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เฉลี่ยการใช้จ่ายอยู่ที่ 5,500 ต่อคนต่อวัน ก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนอยู่ที่ 534.31 ล้านบาท 


“นักท่องเที่ยวมีความประทับใจในอัธยาศัยไมตรีของชาวภูเก็ต และวางแผนเดินทางไปยังจังหวัดอื่น เช่น เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ ต่อไป นอกจากนี้นักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับไปแล้วยังได้วางแผนพาครอบครัวกลับมาเที่ยวไทยซ้ำอีกด้วย ซึ่งจากการประเมินความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวพบว่า พอใจคุณภาพของรถบริการรับ-ส่ง SHA พลัส ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต มากที่สุด รองลงมาคือ พอใจภาพรวมการให้บริการ ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต และพอใจการตรวจคัดกรองเมื่อเดินทางมาถึง ซึ่งการเปิดประเทศครั้งนี้ถือเป็นการเตรียมตัวในการรองรับช่วงปลายปีที่จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาอีก ทำให้เห็นว่าการเปิดประเทศครั้งนี้ประสบความสำเร็จไปส่วนหนึ่งแล้ว”

นายธนกรฯ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำถึงประโยชน์สูงสุดของพื้นที่ที่เปิดไปแล้ว อย่างภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และสมุยพลัสโมเดล ให้ได้ใช้ประโยชน์ก่อให้เกิดรายได้อย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดประชุม การจัดแสดงสินค้า เป็นต้น แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสาธารณสุขเป็นหลัก ซึ่งตอนนี้ทั้งจังหวัดภูเก็ตและสุราษฎร์ธานี ได้เพิ่มมาตรการการคัดกรองนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างเคร่งครัด นายกฯ ได้สั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำชับเรื่องการนำเทคโนโลยีมาใช้ที่ด่านหรือจุดตรวจอย่างเข้มงวดแล้ว เพื่อที่ประชาชนชนในพื้นที่จะได้มีรายได้อย่างต่อเนื่องจากการเปิดประเทศในครั้งนี้

นอกจากนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ปรับปรุงระบบลงทะเบียน COE ออนไลน์ใหม่ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาให้มีความสะดวก และ ททท. ในต่างประเทศยังได้ทำการตลาดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยเจาะไปที่กลุ่มตลาดยุโรป เช่น ดูไบ แฟรงก์เฟิร์ต ลอนดอน กรุงปราก สตอกโฮล์ม และปารีส อีกด้วย โดยคาดว่า ต่อไปนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะช่วงไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นช่วง High Season ของฤดูกาลการท่องเที่ยว

โฆษก ศบศ. กล่าวด้วยว่า สำหรับแผนต่อไป คือ การเดินหน้าเปิด 3 เกาะ ของจังหวัดกระบี่ ได้แก่ เกาะพีพี เกาะไหง และไร่เลย์ และ 3 เกาะ ของจังหวัดพังงา ได้แก่ เขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ โดยมีกำหนดเปิดในวันที่ 1 สิงหาคม 2564 นี้ โดยได้เน้นย้ำถึงแผน 7+7 ของการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดภูเก็ต กับพื้นที่นำร่องที่เปิดไปแล้ว เป็นการผ่อนคลายมาตรการให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาใน “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” อยู่ครบ 7 วัน (เดิม 14 วัน) และตรวจ RT-PCR จำนวน 2 ครั้งแล้ว สามารถเดินทางไปในพื้นที่เกาะสมุย พะงัน และเกาะเต่า (สุราษฎร์ธานี) รวมถึงเกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ (กระบี่) และเกาะยาวใหญ่ เกาะยาวน้อย และเขาหลัก (พังงา) ในรูปแบบซีลรูท (Sealed Routes) หรือ Island Hopping ได้ตั้งแต่วันที่ 8 เป็นต้นไป โดย ททท.ยังคงตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยวรวมปีนี้ที่ 8.5 แสนล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากตลาดต่างประเทศ 3 แสนล้านบาทในจำนวนนักท่องเที่ยวราว 3 ล้านคน และรายได้จากตลาดภายในประเทศ 5.5 แสนล้านบาท.

4782


มาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ โควิด-19 กรณีเงินเยียวยา สำหรับ แรงงาน 9 กลุ่มอาชีพ ใน 13 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด ที่ประกาศ ล็อกดาวน์ โดยประกันสังคม เปิดลงทะเบียนผ่าน www.sso.go.th ล่าสุด ได้มีรายละเอียดของการจ่ายเงินเยียวยาให้กับกลุ่มผู้ประกันตนมาตรา 33 39 และ 40 ออกมาแล้วว่าระบบจะโอนเงินเข้าวันไหน

สำหรับรายละเอียดสำคัญในการรับเงินเยียวยานั้น ผู้ประกันตนมาตรา 33 สามารถตรวจสอบสิทธิรับเงินเยียวยาผ่านช่องทางออนไลน์ได้ คลิกที่นี่ ขณะที่ กลุ่มผู้ประกันตน ม.39 ม.40 ยังไม่เปิดตรวจสอบสิทธิผ่านออนไลน์

ยิ่งไปกว่านั้น ต้องไม่ลืมว่า หากได้รับสิทธิ ต้องผูกพร้อมเพย์ กับบัญชีธนาคารด้วยเลขบัตรประชาชน เพื่อรับการโอนเงิน


รายละเอียดหลักเกณฑ์ และช่วงเวลาของการจ่ายเงินเยียวยา ประกันสังคม ผู้ประกันตนมาตรา 33

กลุ่มผู้ประกันตนมาตรา 33 39 และ 40 นั้น จะมีรายละเอียด ตลอดจนหลักเกณฑ์ในการรับเงินเยียวยาจากประกันสังคมในกรณีที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แตกต่างกันไป ดังนี้ 

กลุ่มผู้ประกันตน มาตรา 33 มีเงื่อนไข และหลักเกณฑ์การรับเงินเยียวยา จากประกันสังคม คือ 

ผู้ประกันตน มาตรา 33  ใน 9 กิจการ 10 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มที่ถูกล็อกดาวน์ช่วงแรก ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร  นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา จะได้รับเงินเยียวยาในวันที่ 6 สิงหาคม 2564 สามารถตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด ใน 9 ประเภทกิจการ ได้ที่ www.sso.go.th 

ผู้ประกันตน มาตรา 33 ใน 3 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม ที่ประกาศล็อกดาวน์เพิ่มเติม คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา ได้รับเงินเยียวยาภายในเดือน สิงหาคม 2564
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

สมัคร 'ประกันสังคม ม.40' ได้สิทธิอะไรบ้าง แล้วจะเสียสิทธิ 'บัตรทอง' ไหม?
เช็คสิทธิ์เยียวยา 'ประกันสังคม มาตรา 33' บางคน 'ไม่ได้รับสิทธิ' เป็นเพราะอะไร?
'ประกันสังคม' ม.33 ม.39 ม.40 www.sso.go.th เช็ควิธีผูกพร้อมเพย์รับเงินเยียวยา


ยอด 'โควิด-19' วันนี้ ทะลุหมื่นห้า! พบเสียชีวิต 129 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 15,335 ราย
'ประกันสังคม' ผู้ประกันตนมาตรา 33 39 40 สรุปรายละเอียดรับ 'เงินเยียวยา' วันไหน
เปิดแผนจัดสรรวัคซีน 13ล้านโดสเดือนสิงหาคมใครได้ฉีดบ้าง

รายละเอียดหลักเกณฑ์ และช่วงเวลาของการจ่ายเงินเยียวยา ประกันสังคม ผู้ประกันตนมาตรา 39 และ 40


กลุ่มผู้ประกันตน มาตรา 39 และ กลุ่มผู้ประกันตน มาตรา 40 มีเงื่อนไข และหลักเกณฑ์การรับเงินเยียวยา จากประกันสังคม คือ  

กลุ่มนี้ ผู้ที่ไม่ได้เป็นผู้ประกันตนในมาตรา 39 และ 40 ก่อนวันที่ 28 มิ.ย. 2564 ให้รีบสมัครภายในวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 กับสำนักงานประกันสังคม เพื่อให้สามารถได้รับความช่วยเหลือในอัตรา 5,000 บาทจำนวน 1 เดือน สามารถลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ได้ คลิกที่นี่ ซึ่งกลุ่มนี้ยังไม่สรุปจะโอนเงินเมื่อไร ต้องรอลงทะเบียนให้ครบก่อน 
ช่องทางการรับเงินเยียวยาประกันสังคม

ผ่านระบบพร้อมเพย์
วิธีการและช่องทางการลงทะเบียนของแต่ละธนาคาร ตามลิงก์ต่อไปนี้ ธนาคารกรุงเทพ คลิกที่นี่ธนาคารกรุงไทย คลิกที่นี่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา คลิกที่นี่ธนาคารกสิกรไทย คลิกที่นี่ธนาคารไทยพาณิชย์ คลิกที่นี่ธนาคารออมสิน คลิกที่นี่ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย คลิกที่นี่ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต คลิกที่นี่ธนาคารทิสโก้ คลิกที่นี่ธนาคารไทยเครดิต คลิกที่นี่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร คลิกที่นี่ธนาคารยูโอบี คลิกที่นี่ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ คลิกที่นี่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ คลิกที่นี่ธนาคารอิสลาม คลิกที่นี่

4783


นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวว่า ทางสมาคมฯได้ทำการสำรวจและทำแบบสอบถามไปยังกลุ่มตัวอย่างผู้บริโภคจำนวนกว่า 400 ราย พบว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีผลต่อการตัดสินใจในการปลูกสร้างบ้านมากถึง 72% ส่วนที่เหลือ 28% ไม่มีผลต่อการตัดสินใจในการปลูกสร้างบ้าน ข้อมูลดังกล่าวคาดว่าเป็นกลุ่มบ้านราคาแพงซึ่งตลาดยังพอไปได้ต่างจากบ้านขนาดเล็กหรือตลาดทั่วไป ระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีผลต่อการตัดสินใจปลูกสร้างบ้านมาก ด้วยเหตุนี้อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้บริษัทรับสร้างบ้านที่เดิมเน้นตลาดทั่วไป ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ได้ขยับมาจับตลาดบ้านราคาแพงตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป


เมื่อถามว่าต้องการจะปลูกสร้างบ้านพร้อมเข้าอยู่ใช้เวลาในการปลูกสร้างกี่ปีนั้น พบว่าพร้อมปลูกสร้างไม่เกิน 6 เดือนคิดเป็นสัดส่วน 24% และใช้เวลามากกว่า 6 เดือนถึง 2 ปีคิดเป็นสัดส่วน 65% และ ใช้เวลา 2-3 ปี คิดเป็นสัดส่วน 11% ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่าผู้ที่ต้องการสร้างบ้านส่วนใหญ่ จะไปสร้างบ้านในปี 2565- 2566 ซึ่งเป็นช่วงที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 น่าจะคลี่คลาย ส่วนทำเลที่เลือกปลูกสร้างบ้านนั้น 3 ทำเลที่ต้องการปลูกสร้างมากสุดคือ อันดับหนึ่งยังเป็นพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร/ปริมณฑลคิดเป็นสัดส่วน 37% อันดับสองและอันดับสามคือ ภาคกลาง และภาคใต้ คิดเป็นสัดส่วน 18% จากสัดส่วนนี้แสดงให้เห็นว่าความต้องการของลูกค้ากลุ่มรับสร้างบ้านกว่า 55% ยังอยู่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล รวมถึงภาคกลาง

พร้อมกันนี้จากแบบสอบถามที่ได้จากกลุ่มผู้บริโภคที่ยังตัดสินใจในการปลูกสร้างบ้านกับบริษัทที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ ถึง 84.2% นั้นสะท้อนภาพได้ว่าผู้บริโภคยังมีความเชื่อมั่น ดังนั้นทางสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ได้ตัดสินใจเลื่อนการจัดงาน "รับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2021" จากเดิมจะจัดในเดือนสิงหาคม ไปเป็นช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564

แต่เพื่อเป็นการช่วยเหลือสมาชิกสมาคมฯ จึงได้จัดงาน งานรับสร้างบ้าน Online 2021 ในรูปแบบ Virtual Online Exhibition เน้นสร้าง Data Base ผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้านกลุ่มใหม่ ๆ ได้มากขึ้นโดยจะกำหนดการจัดงานขึ้นระหว่างวันที่ 27 ส.ค. - 6 ก.ย.2564 นี้ ขึ้นมาก่อน ซึ่งคาดหวังว่ากิจกรรมที่จัดขึ้นนี้จะกระตุ้นการตลาดและการขายก่อนการจัดงานในช่วงปลายปี ขณะเดียวกันผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงได้ง่าย สะดวกต่อการเข้าชม ป้องกันการระบาดของโรคระบาด โดยเฉพาะโควิด-19 อีกทั้งยังสร้างมิติใหม่ช่วยให้ภาพลักษณ์ของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านมีความทันสมัยมากขึ้น รวมถึงกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านต่างจังหวัด จะมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมกับสมาคมฯ ได้มากขึ้นเช่นกัน

4784
 
 

การตรวจเลือด เป็นแนวทางหนึ่งในการตรวจสอบรวมทั้งบ่งชี้ถึงลักษณะการทำงานของอวัยวะต่างๆภายในร่างกาย ซึ่งจะเป็นตัวช่วยให้หมอสามารถวินิจฉัยโรคและก็สภาวะผิดปกติต่างๆที่อาจจะมีการเกิดขึ้นด้านในตัวเราได้ง่ายขึ้น เพราะเลือดเป็นตัวกลางของการลำเลียงสารต่างๆทั้งน้ำ อาหาร เชื้อโรค เชื้อไวรัส รวมทั้งสิ่งแปลกปลอมอื่นๆไปทั่วร่างกายเรา การตรวจเลือดก็เลยเป็นวิธีหนึ่งซึ่งสามารถหาสิ่งแปลกปลอมในร่างกายเราได้อย่างแม่นยำและก็รวดเร็ว อย่างไรก็ตามการตรวจเลือดเพียงอย่างเดียวไม่อาจจะฟันธงถึงความผิดปกติและก็โรคที่เป็นได้ เพราะเหตุว่ายังมีปัจจัยอีกหลายประเภทที่ทำให้ผลตรวจเลือดแสดงผลเป็นผิดปกติ ยกตัวอย่างเช่น อาหารที่ทาน ระดู การออกกำลังกาย แอลกอฮอล์ที่ดื่ม หรือการใช้ยาบางจำพวก ด้วยเหตุนั้นจึงควรมีการซักประวัติควบคู่กับการตรวจสอบเพิ่มเติมอีก ดังเช่น ตรวจปัสสาวะและก็อื่นๆตามดุลยพินิจของหมอ และเนื่องด้วยสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญรวมทั้งการที่ในสมัยปัจจุบันการแพทย์ต่างก้าวหน้า องค์ประกอบส่งเสริมสอดคล้องต้องกันขนาดนี้ พวกเราก็ควรเอาใจใส่ตนเองด้วยการหมั่นดูแลร่างกายอยู่ตลอด การทานอาหารที่ดีรวมทั้งการบริหารร่างกายอาจทำให้พวกเราสามารถมีสุขภาพแข็งแรงได้ แต่ในร่างกายพวกเราก็อาจมีความผิดปกติ โรคแฝง หรือโรคแทรกซ้อนต่างๆที่ไม่แสดงอาการ ซึ่งบางทีอาจกระทบต่อชีวิตประจำวันทั้งต่อตนเองรวมทั้งคนอื่นๆ ทั้งในตอนนี้รวมทั้งในอนาคต การตรวจเลือดแล้วก็การตรวจสุขภาพประจำปีก็จะสามารถช่วยทำให้เราสามารถรู้และก็คิดหาวิธีป้องกัน แก้ไข รักษาหรือหนทางที่พวกเราจะอยู่ร่วมกับความผิดปกตินั้นๆได้

 


การตรวจผ่านแล็บก็นับว่าเป็นอีกทางเลือกสำหรับบุคคลทั่วไปอย่างพวกเราที่ไม่ต้องการไปแออัดในโรงพยาบาลนานนัก ลดความแออัดในพื้นที่โรงพยาบาลที่มีล้นหลาม การตรวจผ่านแล็บนั้นเราจะทราบผลไวกว่า ไม่จำเป็นต้องรอใบสั่งจากแพทย์ แค่พวกเราโทรหาแล็บเพื่อขอคำแนะนำการรับบริการและแนวทางเตรียมพร้อม ต่อจากนั้นก็สามารถเข้าไปตรวจเลือดได้เลย สะดวกอย่างมากสำหรับชาวไทยในปัจจุบันที่มีพฤติกรรมเสี่ยงเกี่ยวกับการติดเชื้อ HIV จำนวนมาก จากการร่วมเพศโดยไม่ใส่ถุงยางอนามัยหรือไม่ป้องกัน ในอีกแง่หนึ่งก็มีคนบางกรุ๊ปที่เข้ารับการตรวจเพื่อดูผลเองเฉยๆโดยไม่มีความรู้ความชำนาญเพียงพอก็เลยไม่เข้าใจว่าผลตรวจเลือดแต่ละจุดแต่ละค่าหมายความว่าอะไร รวมทั้งบางทีอาจนำไปสู่มิได้ป้องกันอย่างถูกต้อง เพราะฉะนั้นการตรวจเลือดด้วยตนเองก่อนไปโรงพยาบาล นับว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ดีสำหรับผู้ที่อยากได้ความรวดเร็วไม่อยากอยู่แออัดในโรงพยาบาล แต่ก็ยังอยากได้รับคำแนะนำรวมทั้งวินิจฉัยจากแพทย์ 





สำหรับคนเหนือโดยเฉพาะคนพิษณุโลก เรามีที่ตรวจเลือดพิษณุโลกแนะนำ มันก็คือ พิษณุโลกเซ็นทรัลแล็บ สถานปฏิบัติการและก็ตรวจวิเคราะห์ เน้นให้บริการด้านการตรวจเลือด รวมทั้งตรวจร่างกาย ซึ่งมีอุปกรณ์ตรวจวิเคราะห์ที่ทันสมัย และก็น้ำยาที่ใช้ตรวจจากประเทศอเมริกา ปฏิบัติการโดยนักเทคนิคการแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญที่สามารถให้คำปรึกษาทางการตรวจแก่ผู้รับบริการ รวมทั้งที่สำคัญที่สุดการควบคุมคุณภาพทางห้องปฏิบัติการแล้วก็การทำความสะอาดฆ่าเชื้อพื้นที่ที่ให้บริการตามมาตรฐาน ยึดหลักความปลอดภัยและความลับของผู้ป่วยเป็นสำคัญ ทำให้ผู้รับบริการมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลการตรวจที่ถูกต้อง แม่นยำ และก็มีความปลอดภัยในการรับบริการ ถ้าสนใจต้องการเข้ารับบริการกับทางพิษณุโลกเซ็นทรัลแล็บ สามารถโทรปรึกษาการให้บริการ-การเตรียมตัวเพื่อตรวจได้ในเวลาทำการเปิดบริการ : วันจันทร์-วันศุกร์ 07.00 - 20.00 น.แล้วก็วันเสาร์-วันอาทิตย์ 07.00 - 17.00 น.โทรศัพท์ 05525958

4785
ขายถูกคอนโดเมืองทองธานีอาคารP2 ขนาด28.4 ตรม ขายเพียง600,000บ ขายถูกกู้ได้สูง ขายถูกกว่าทั่วไป

ขายถูกคอนโดเมืองทองธานีอาคารP2 ขนาด28.4 ตรม ขายเพียง600,000บ ขายถูกกู้ได้สูง ขายถูกกว่าทั่วไป อาคารP2 ชั้น 3 ห้องเล็กด้านนอก แนะนำสำหรับนักลงทุน ขายป๊อบปูล่าคอนโดมีเนียมเมืองทองธานีอาคารP2

ขายถูกคอนโดเมืองทองธานีอาคารP2 ขายถูกกู้ได้สูง ขายถูกกว่าทั่วไป
ขนาด28.4 ตรม ขายเพียง600,000บ ขายถูกกู้ได้สูง ขายถูกกว่าทั่วไป ขายป๊อบปูล่าคอนโดมีเนียมเมืองทองธานีอาคารP2 ห้องสตูดิโอ 1 ห้องน้ำ ตึกP2 ชั้น 3 ห้องเล็กด้านนอก ทำเลดดีมาก สะดวกสบาย สาธารณูปโภคและอุปโภคครบครัน เช่น IMPACT (Challenger & Arena), หน่วยงานราชการ, ธนาคาร, ศูนย์แสดงสินค้า, ร้านอาหาร, ร้านขายอุปกรณ์, ร้านสะดวกซื้อ และอื่นๆ

ขายป๊อบปูล่าคอนโดมีเนียม เมืองทองธานีอาคารP2 ชั้น 3 ใกล้ลิฟท์ วิวด้านนอกขนาด 28.4 ตรม.


ห้องเปล่าแต่สวย ขายถูกคอนโดเมืองทองธานีอาคารP2 แต่ด้วยจุดที่ตั้ง ทัศนียภาพ ความสะดวก รับรองคุ้มค่าแน่นอนค่ะ เหมาะกับซื้ออยู่เอง หรือ จะซื้อไว้ลงทุนทำเป็นห้องพักให้เช่าแบบรายเดือนหรือรายวัน ก็คุ้มค่า เมื่อประเมินแล้วจาก
ขายคอนโดเมืองทองธานีแนะนำสำหรับนักลงทุน คอนโดโครงการเมืองทองธานี ขายถูกคอนโดเมืองทองธานีอาคารP2  ภายในประกอบด้วย สาธารณูปโภคและอุปโภคครบครัน เช่น IMPACT (Challenger & Arena),
หน่วยงานราชการ, ธนาคาร, ศูนย์แสดงสินค้า, ร้านอาหาร, ร้านขายอุปกรณ์, ร้านสะดวกซื้อ และอื่นๆ
-มีบริการรถสองแถว, มอเตอร์ไซค์รับจ้าง, วินรถตู้, รถโดยสารประจำทาง
-ใกล้ตลาดสด ศูนย์อาหาร Outlet
-โรงเรียนนานาชาติเซ็นฟรังค์
-โรงแรม Ibis Bangkok Impact
-มีทางเข้า-ออกได้หลายทาง, ใกล้ทางด่วน
-ใกล้มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, ใกล้ Beehive
-วัดผาสุกมณีจักร
-สนามฟุต.เมืองทอง, ใกล้ตลาดมะลิ
*ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู
*เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ
*ศูนย์ราชการ
*จากโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ, World Medical Hospital

ขายป๊อบปูล่าคอนโดมีเนียมเมืองทองธานีอาคารP2 สนใจสอบถามติดต่อเจ้าของห้องโดยตรง

ราคา 600,000 บาท โอนคนละครึ่ง
คุณแก้ว 092 296 5964 LINE ID : korranan.k , FB : Korranan Komkai , Email : [email protected]


รายละเอียดเพิ่มเติม
https://ipostcondo.com/?p=1497
คำค้น
ขายด่วนคอนโดเมืองทองธานีอาคารP2, ขายป๊อบปูล่าคอนโดมีเนียมเมืองทองธานีอาคารP2, ขายถูกกู้ได้สูงคอนโดโครงการเมืองทองธานี, กู้ได้เต็มตามเครดิตคอนโดโครงการเมืองทองธานี, ขายป๊อบปูล่าคอนโดมีเนียมเมืองทองธานีอาคารP2, ขายคอนโดเมืองทองทำเป็นห้องพักให้เช่า, คอนโดเมืองทองธานีอาคารP2ขายถูกกว่าทั่วไป, ขายคอนโดเมืองทองธานีแนะนำสำหรับนักลงทุน
 

4786


เปิดรายละเอียดและสิทธิประโยชน์สำหรับสมัครเป็น "ผู้ประกันตน" ใน "ประกันสังคม ม.40" ว่า "สมัคร ม.40" แล้วได้อะไรบ้าง และจะเสียสิทธิรักษาพยาบาล "บัตรทอง" หรือไม่ ?

หลังจากที่ ครม. มีมติจ่าย "เงินเยียวยา" สำหรับ "ผู้ประกัน" ใน "ประกันสังคม" มาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ก็มีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะ "ประกันสังคมมาตรา 40" ที่เปิดให้ผู้ประกอบ "อาชีพอิสระ" สามารถสมัครเข้าเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 เพื่อรับเงินเยียวยา 5,000 บาทจากรัฐได้

แต่หลายคนยังมีข้อสงสัยว่าการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 จะได้ประโยชน์อะไร แล้วจะเสียโอกาสในการรักษาพยาบาล "บัตรทอง" อย่างที่โซเชียลมีเดียตั้งข้อสังเกตหรือไม่

"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" จึงรวบรวมรายละเอียดและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ผู้ประกันตนในประกันสังคมมาตรา 40 จะได้รับเพื่อไขข้อข้อใจ

 คุณสมบัติของผู้สมัครมาตรา 40 
- บุคคลทั่วไป อายุ 15-65 ปี


- ไม่มีนายจ้างประจำ เช่น อาชีพอิสระ ฟรีแลนซ์ ค้าขาย

 เงินสมทบที่ต้องจ่ายทุกเดือน 
ทางเลือก 1 : 70 บาท/เดือน (ช่วงเดือน ส.ค. 64-ม.ค. 65​ ลดเงินสมทบเหลือ 42 บาท )
ทางเลือก 2 : 100 บาท/เดือน (ช่วงเดือน ส.ค. 64-ม.ค. 65​​ ลดเงินสมทบเหลือ 60 บาท)
ทางเลือก 3 : 300 บาท/เดือน (ช่วงเดือน ส.ค. 64-ม.ค. 65​​ ลดเงินสมทบเหลือ 80 บาท )

 สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ 
ทางเลือก 1 : เจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต
ทางเลือก 2 : เจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต ชราภาพ
ทางเลือก 3 : เจ็บป่วย ทุพพลภาพ เสียชีวิต ชราภาพ สงเคราะห์บุตร


- ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้วันละ 200 บาท ไม่เกิน 30 วัน/ปี

- การรักษาพยาบาลใช้สิทธิ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) หรือบัตรทอง 30 บาท นั่นหมายความว่า ผู้ประกันตนมาตรา 40 จะใช้สิทธิบัตรทองได้เหมือนเดิม เพียงแต่มีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เพิ่มขึ้นเท่านั้น


เงื่อนไขการรับสิทธิ กรณีประสบอันตราย/เจ็บป่วย

- ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบครบ 3 เดือน ภายใน 4 เดือน ก่อนประสบอันตราย/เจ็บป่วย

- รักษาตัวในโรงพยาบาลตั้งแต่ 1 วันขึ้นไป จะได้รับสิทธิวันละ 200 บาท ไม่เกิน 30 วันต่อปี

 กรณีทุพพลภาพ 
- ได้รับเงินทดแทนการขาดได้ตั้งแต่ 500–1,000 บาท/เดือน เป็นระยะเวลา 15 ปี

- เสียชีวิตก่อนครบ 15 ปี รับเงินค่าทำศพ 20,000 บาท


เงื่อนไขในการรับสิทธิ กรณีทุพพลภาพ

- จ่ายเงินสมทบอย่างน้อย 6 เดือน ภายในระยะเวลา 10 เดือนก่อนทุพพลภาพ รับ 500 บาทต่อเดือน
- จ่ายเงินสมทบอย่างน้อย 12 เดือน ภายในระยะเวลา 20 เดือนก่อนทุพพลภาพ รับ 650 บาทต่อเดือน
- จ่ายเงินสมทบอย่างน้อย 24 เดือน ภายในระยะเวลา 40 เดือนก่อนทุพพลภาพ รับ 800 บาทต่อเดือน
- จ่ายเงินสมทบอย่างน้อย 36 เดือน ภายในระยะเวลา 60 เดือนก่อนทุพพลภาพ รับ 1,000 บาทต่อเดือน


 กรณีชราภาพ (รับเงินบำเหน็จ) 
- ได้เงินบำเหน็จพร้อมผลตอบแทน (ดอกเบี้ย) คืนทั้งหมด


เงื่อนไขการรับสิทธิ กรณีชราภาพ

เมื่อผู้ประกันตนมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และแจ้งสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน หรือลาออก

ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบสามารถจ่ายเงินสมทบเพิ่มได้ไม่เกิน 1,000 บาท/เดือน


 กรณีชราภาพ (รับเงินบำนาญ) 
- ได้รับบำนาญรายเดือนขึ้นต่ำ 600 บาท/เดือน ตลอดจนเสียชีวิต

- กรณีจ่ายเงินสมทบไม่ถึงหลักเกณฑ์ที่จะรับเงินบำนาญ (ขั้นต่ำ) จะได้รับเงินบำเหน็จพร้อมผลตอบแทน (ดอกเบี้ย) คืนทั้งหมด

- ได้รับบำนาญแล้วเสียชีวิตภายใน 60 เดือน ทายาทได้รับเงินบำเหน็จ 10 เท่าของเงินบำนาญรายเดือน

- กรณีทุพพลภาพก่อนได้รับบำนาญ จะมีสิทธิขอรับบำเหน็จพร้อมผลตอบแทน (ดอกเบี้ย) คืน

เงื่อนไขการรับสิทธิ

- ผู้ประกันตนจะต้องจ่ายเงินสมทบครบหลักเกณฑ์ที่จะรับเงินบำนาญ (ขั้นต่ำ) หรือจ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 420 เดือน (35 ปี)

- ผู้ประกันตนจะต้องมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน หรือลาออก

- ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบสามารถจ่ายเงินสมทบเพิ่มได้ไม่เกิน 1,000 บาท/เดือน

- ผู้ประกันตนสามารถจ่ายเงินสมทบย้อนหลังได้ไม่เกินเดือน พฤษภาคม 2555


 เงินสงเคราะห์บุตร 
ในกรณีเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40  ทางเลือกที่ 3 จะมีสิทธิ์ได้รับเงินสงเคราะห์บุตรรายเดือน ตั้งแต่บุตรแรกเกิดจนอายุ 6 ปีบริบูรณ์ คนละ 200 บาท คราวละไม่เกิน 2 คน ทั้งนี้ผู้ประกันตนจะต้องจ่ายเงินสมทบตามที่ประกันสังคมกำหนดด้วย

 การสมัครประกันสังคมมาตรา 40 
ช่องทางแรกสามารถสมัครผ่านเว็บไซต์ประกันสังคมได้ โดยไม่ต้องเดินทางไปที่สำนักงานประกันสังคม โดย วิธีสมัคร "ประกันสังคม" มาตรา 40 ผ่านเว็บไซต์ประกันสังคม www.sso.go.th สามารถทำได้ ดังนี้

1. เข้าไปยังเว็บไซต์ประกันสังคมที่ www.sso.go.th หรือ คลิกที่นี่

2. กรอกเลขบัตรประชาชน และ กรอกเลขหลังบัตรประชาชน

3. กรอกชื่อ-นามสกุลจริง, วันเดือนปีเกิด ตรวจทานให้ถูกต้อง

4. กรอกที่อยู่ปัจจุบัน, เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้

5. กรอกกลุ่มอาชีพ, รายได้ต่อเดือน, สภาพร่างกาย (กรณีเป็นผู้พิการ)

6. เลือกจ่ายเงินสมทบ (มีให้ 3 ทางเลือก) พร้อมเลือกสำนักงานประกันสังคมที่อยู่ใกล้บ้าน

7. ตอบคำถามว่าเป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญหรือไม่?

8. จากนั้นกด "ยอมรับเงื่อนไข/ข้อตกลง" แล้วกด "ยืนยัน"

9 เมื่อผ่านขั้นตอนทุกอย่างแล้ว ระบบจะยืนยันผ่าน SMS ถือว่าขึ้นทะเบียนสำเร็จ

ช่องทางการสมัครอื่นๆ 

นอกจากจะสมัครผ่านเว็บไซต์ประกันสังคมได้แล้ว สำหรับคนที่ไม่สะดวกสมัครผ่านเว็บไซต์ สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ได้ในช่องทางอื่นๆ ดังต่อไปนี้ 

1. สมัครด้วยตนเองที่สำนักงานประกันสังคมในพื้นที่
2. สายด่วนประกันสังคม หมายเลข 1506
3. เซเว่น-อีเลฟเว่น ทุกสาขา
4. ธนาคาร ธกส. ทุกสาขา
5. Big c ซุปเปอร์เซ็นเตอร์
6. เครือข่ายประกันสังคมทั่วประเทศ

 ช่องทางติดต่อประกันสังคม 
เนื่องจากมีผู้ใช้บริการสายด่วน 1506 และเว็บไซต์ www.sso.go.th จำนวนมาก แอดมินขอ
เพจประกันสังคมแนะนำว่า ให้ลองติดต่อเข้ามาใหม่ในช่วงนอกเวลาทำการ โดยให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
หรือ ติดต่อสอบถามข้อมูลช่องทาง Web chat หรือ inbox Facebook สำนักงานประกันสังคม หรือติดตามข้อมูลข่าวสารทางเพจ Facebook และข่าวประชาสัมพันธ์ของสำนักงานประกันสังคม

4787


คืบหน้าโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

10 จังหวัด ใน 9 ประเภทกิจการ ประกอบด้วย 

พื้นที่สีแดงเข้ม 10 จังหวัด
  • กรุงเทพมหานคร
  • นครปฐม
  • นนทบุรี
  • ปทุมธานี
  • สมุทรปราการ
  • สมุทรสาคร
  • นราธิวาส
  • ปัตตานี
  • ยะลา
  • สงขลา

9 กลุ่มอาชีพที่จะได้เงิน "เยียวยาล็อกดาวน์"
  • กิจการก่อสร้าง
  • กิจการที่พักแรมและบริการด้านอาหาร
  • กิจกรรมศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ
  • กิจกรรมบริการด้านอื่น ๆ 
  • สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า
  • สาขาการขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์
  • สาขากิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน
  • สาขากิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ
  • สาขาข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการและแรงงานสัญชาติไทยใน 10 จังหวัด 9 ประเภทกิจการ จะได้รับการเยียวยาจาก พรก. เงินกู้ทั้งหมด โดยนายจ้างจ่ายตามหัวลูกจ้าง 3,000 บาทไม่เกิน 200 คน เป็นเงินสูงสุด 6 แสนบาท ลูกจ้างจ่าย 2,500 บาท นายจ้างและลูกจ้างสามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้ที่ www.sso.go.th หากได้รับสิทธ์ก็ทำการผูกเลขบัญชีกับเลขบัตรประชาชนในระบบพร้อมเพย์ สำนักงานประกันสังคมจะเริ่มโอนเงินผ่านระบบ Promptpay ในวันศุกร์ ที่ 6 สิงหาคม 2564

4788



นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด TFEX เปิดเผยว่าการเคลื่อนไหวของราคาทองคำเริ่มกลับมาเป็นสัญญาณบวกทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค หลังจากได้รับปัจจัยหนุนจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ออกมาย้ำชัดว่าจะดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป โดยเฟดจะไม่รีบร้อนในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยและไม่รีบร้อนลดวงเงินทำ QE เพราะแม้เศรษฐกิจจะเริ่มดีขึ้น แต่ตัวเลขการฟื้นตัวเศรษฐกิจยังไม่เป็นไปตามเป้า ส่วนอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเป็นการเพิ่มขึ้นชั่วคราว

ปัจจัยนี้สนับสนุนให้ทองคำปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจนสามารถแตะจุดสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ ที่ 1,835 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังจากที่ก่อนนี้ปรับลดลงจากปัจจัยความกังวลเรื่องการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟดจนปรับลดลงไปที่ 1,750 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่ล่าสุดก็สามารถปรับตัวทะลุแนวต้าน 1,818 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และมีแรงซื้อต่อเนื่องจนสามารถทำจุดสูงสุดดังกล่าวได้ ทั้งนี้ จากถ้อยแถลงของเฟด ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลง สวนทางกับสนับสนุนให้ราคาทองคำปรับตัวพุ่งขึ้น

สำหรับปัจจัยที่น่าติดตามหากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาราคาทองคำจะยังคงปรับขึ้นตามปัจจัยพื้นฐาน ขณะที่ปัจจัยทางเทคนิคสามารถกลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน และ 200 วัน จึงมีมุมมองเชิงบวกระยะยาวมากขึ้น 

หากราคาทองคำยังทรงตัวได้เช่นนี้โอกาสในการปรับตัวขึ้นก็มีมากขึ้น ส่วนระยะสั้นก็เป็นสัญญาณการแกว่งตัวขึ้น และทดสอบแนวต้าน 1,835 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งหลังจากนี้หากมีการปรับตัวลดลงไป แต่สามารถยืนเหนือ 1,812-1,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 28,100-27,900 บาทต่อบาททองคำ ได้ ก็ถือว่ายังเป็นสัญญาณที่ดี ใช้เป็นจังหวะซื้อได้

และหากผ่าน 1,835 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 28,450 บาทต่อบาททองคำ มีโอกาสไปทดสอบแนวต้านทางจิตวิทยา 1,850 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 28,700 บาทต่อบาททองคำ

อย่างไรก็ดีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงจากการขายทำกำไรใกล้ๆ แนวต้าน 1,835-1,850 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ยังมีอยู่ แต่หากไม่หลุด 1,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 27,900 บาทต่อบาททองคำยังไม่น่ากังวล

หน้า: 1 ... 264 265 [266] 267 268