1
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
2
ห้องพูดคุยเรื่อง OLED TV เทคโนโลยีจอภาพใหม่ล่าสุด / ขอเชิญร่วมงาน LG OLED TV คือทีวีที่ดีที่สุดสำหรับดูหนังเล่นเกมจริงหรือ ?
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 12, 2021, 11:42:00 am »
ขอเชิญแฟน LCDTVTHAILAND เข้าร่วมงานบรรยาย "OLED TV ดีที่สุดในการดูหนังเล่นเกมจริงหรือ ?" ภายในงานผู้เข้าร่วมงานจะได้พบกับการทดสอบแบบเข้มข้น เปรียบเทียบทีวี OLED vs NanoCell vs UHD TV แบบเรียงหน้าชน ! พร้อมเปิดทดสอบด้วยหนัง 4K HDR เคียงคู่กับเครื่องเล่นเกมคอนโซลตัวฮอตในตอนนี้ทั้ง PlayStation 5 และ XBOX Series X โดยครั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการ เราจะจัดเป็นกลุ่มย่อยและเว้นระยะห่างที่เหมาะสม (Social Distancing)
Station 1 | Comparison : เปรียบเทียบระหว่างทีวีทั้ง 3 แบบ OLED vs NanoCell vs UHD TV มาดูกันสิว่าภาพมันต่างกันอย่างไร ? มองด้วยตาตัวเองออกไหม ?
Station 2 | Gaming : แนะนำเทคนิคการเซ็ตอัพ LG 4K OLED TV และ PlayStation 5 / XBOX ให้ภาพออกมาดีที่สุด ! และการเล่นเกม 8K แท้บนจอ OLED 8K ครั้งแรก
Station 3 | Smart TV : แนะนำเคล็ดลับการใช้ระบบ LG Smart TV อย่างที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน ? ใช้ทีวีให้เต็มประสิทธิภาพที่สุด
งานบรรยาย : OLED TV ดีที่สุดในการดูหนังเล่นเกมจริงหรือ ?
วัน : เสาร์ที่ 27 ก.พ. 2564 เวลา 12.30-15.00 น.
สถานที่ : โรงแรมสวิสโซเทล กรุงเทพ รัชดา (MRT ห้วยขวาง ทางออก 2
บรรยายโดย : คุณโรมัน & คุณชานม LCDTVTHAILAND
จัดโดย : LG x LCDTVTHAILAND
นำบรรรยายโดยคุณโรมัน และคุณชานม LCDTVTHAILAND
ร่วมด้วย "น้องนินิว" สาวสวยขวัญใจชาว LCDTVTHAILAND มาร่วมเป็นพิธีกรในวันงาน
ช่องทางการลงทะเบียน (จำกัด 24/80 ท่าน) ตรวจสอบรายชื่อได้ที่ด้านล่าง
1) ผ่าน Google Form > https://bit.ly/3rBszVE
2) E-mail : ส่งมาที่ [email protected]
3) Facebook : https://www.facebook.com/LCDTVTHAILAND/messages/
4) Line : @lcdtvthailand (*ต้องพิมพ์ @ ด้วยนะ)
**ตัวอย่างการลงทะเบียน พิมพ์มาหาเราได้เลย**
ขอเข้าร่วมงาน OLED TV ดีที่สุดในการดูหนังเล่นเกมจริงหรือ ? จำนวน 2 คน
1. นายสมรัก รักเจริญ เบอร์โทรศัพท์ 099-999-9999
2. นางสาวสมศรี รักเจริญ เบอร์โทรศัพท์ 099-998-8888
โรงแรมสวิสโซเทล กรุงเทพ รัชดา | MRT ห้วยขวาง ทางออก 2
มีที่จอดรถกว้างขวาง รองรับได้หลายร้อยคัน
ตารางงาน
12.30 ลงทะเบียน รับประทานของว่าง
13.00 เริ่มงานบรรยาย
13.15 แบ่งกลุ่มเพื่อเข้าทั้ง 3 Stations (Social Distancing)
Station 1 : เปรียบเทียบ OLED vs NanoCell vs UHD TV ทั้งการดูหนังเล่นเกมแบบเข้มข้น
Station 2 : ทดสอบกับ PS5/XBOX บน OLED TV 4K และ 8K พร้อมเคล็ดลับการตั้งค่าภาพให้ดีที่สุด
Station 3 : แนะนำ ฟีเจอร์ลับ สมาร์ททีวี LG
14:30 สรุปงานบรรยาย
14.45 จับฉลากแจกรางวัล
15.00 ปิดงาน
งานนี้เหมาะกับใคร ?
> มือใหม่ | เจาะลึกเทคโนโลยีจอภาพ OLED / NanoCell / UHD TV ว่าต่างกันอย่างไร ?
> มือเก๋า | ผู้มีใจรักในเรื่องภาพและเสียง อยากอัพเดทเทคโนโลยีใหม่ๆ
> เกมเมอร์ | ทดสอบกับเกมคอนโซลใหม่ล่าสุดทั้ง PS5, XBOX Series X และการ์ดจอ RTX-3090 รัน 8K ให้ดู
จะได้รู้และเห็นอะไรบ้าง ?
ภายในงานเพื่อเป็นการรักษาระยะห่าง Social Distancing เราจึงจะเป็น 3 กลุ่มย่อย หลวมๆสบายๆแล้วเวียนกันเข้าชมทั้ง 3 Station ให้ครบ พร้อมฟังบรรยายให้ความรู้+การสาธิตอย่างเข้มข้นในบรรยากาศเป็นกันเองโดยทีมงาน LCDTVTHAILAND
Station 1 | Comparison : เปรียบเทียบภาพทีวี LG ทั้ง 3 เกรดแบบลึกซึ้ง ไล่ตั้งแต่ OLED TV vs NanoCell TV vs LED TV ว่าภาพมันต่างกันแค่ไหน ? ดูกันออกหรือไม่ ? เปิดให้ดูด้วยแผ่นหนัง 4K HDR เรื่องดัง รวมถึงแพทเทิร์นทดสอบระดับโปรเฟสชั่นแนล พร้อมเปรียบเทียบระดับความดำ / ความสว่าง / สีสัน / หนัง 4K ให้ชมกัน
1) LG 4K OLED TV รุ่น 65CX ที่เขาว่า OLED TV ภาพดีที่สุดจริงหรือไม่ ?
2) LG 4K NanoCell TV รุ่น 65NANO91
NanoCell จะฟัดกับ OLED ไหวไหม ? ภาพต่างกันประมาณไหน ?
3) LG 4K LED TV รุ่น 65UN7300
แล้วทีวี 4K UHD TV รุ่นเริ่มต้นหละ ภาพหนีจากรุ่นพี่มากน้อยเพียงใด ?
เปิดให้ดูด้วยแผ่นหนัง 4K HDR เรื่องดัง รวมถึงแพทเทิร์นทดสอบระดับโปรเฟสชั่นแนล
เปรียบเทียบระดับความดำ / ความสว่าง / สีสัน ให้ชมกัน
เเครื่องเล่น Oppo 4K Blu-ray Player ที่ใช้เป็นเครื่อง Reference ในการประชันทีวี
Station 2 | Gaming : ทดสอบเล่นเกม 4K HDR บนเครื่องเล่นเกมคอนโซลที่ดีที่สุดในตอนนี้ PlayStation 5 และ XBOX Series X ตอบทุกประเด็นทั้ง 4K 120Hz, Ray-Tracing และแนะนำเทคนิคการเซ็ตอัพทั้งทีวีและเครื่องเกมให้แสดงประสิทธิภาพสูงสุด และพิเศษสุดกับทดสอบเล่นเกมความละเอียด 8K แท้ด้วยการ์ดจอ RTX-3090 บนทีวี 8K OLED ไซส์ 88" ราคา 2.49 ล้านบาทครั้งแรกในไทย !
XBOX Series X และ PlayStation 5 เครื่องเล่นเกมคอนโซลรุ่นใหม่ล่าสุด
8K OLED TV รุ่น 88ZX ราคา 2.49 ล้านบาท
เดี๋ยวมีรันเกม 8K แท้ 33 ล้านพิกเซลให้ดู
4K OLED TV รุ่น 48CX (48") "ตัวจบ" ของสายเกมมิ่งจริงหรือไม่ ? ต้องมาดูเอง
Station 3 Smart TV : แนะนำ LG webOS ระบบสมาร์ททีวีที่ใช้งานได้ง่ายที่สุด ? พร้อม "เคล็ดลับการใช้งาน" ที่ท่านไม่รู้มาก่อน ดูจบปุ๊บเอาไปประยุกต์ใช้ที่บ้านได้เลย
สาธิตด้วย LG 4K OLED TV รุ่น 77GX Gallery Design
เจ้าของรางวัล Best of The Best TV ในปีที่ผ่านมา
LG webOS ระบบปฏิบัติการบนทีวีที่ใช้งานได้ง่ายที่สุด
ซื้อ หรือจอง LG OLED TV, Nano Cell TV รุ่นที่รวมรายการ แถมฟรี! สาย HDMI Jericho 2M และ หูฟัง True Wireless FN6 มูลค่ารวม 7,480 บาท
1. LG OLED TV GX Series ขนาด 77" และ 65"
2. LG OLED TV CX Series ขนาด 65" และ 48"
3. LG OLED TV BX Series ขนาด 55"
4. LG Nano95 Series ขนาด 65"
5. LG Nano86 Series ขนาด 65"
6. *LG Nano86 Series ขนาด 55" แถมเฉพาะหูฟัง True Wireless FN6
Station 1 | Comparison : เปรียบเทียบระหว่างทีวีทั้ง 3 แบบ OLED vs NanoCell vs UHD TV มาดูกันสิว่าภาพมันต่างกันอย่างไร ? มองด้วยตาตัวเองออกไหม ?
Station 2 | Gaming : แนะนำเทคนิคการเซ็ตอัพ LG 4K OLED TV และ PlayStation 5 / XBOX ให้ภาพออกมาดีที่สุด ! และการเล่นเกม 8K แท้บนจอ OLED 8K ครั้งแรก
Station 3 | Smart TV : แนะนำเคล็ดลับการใช้ระบบ LG Smart TV อย่างที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน ? ใช้ทีวีให้เต็มประสิทธิภาพที่สุด
เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรค COVID-19
ผู้เข้าร่วมงานทุกท่านจะต้องตรวจเช็คอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้างาน
และจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
ผู้เข้าร่วมงานทุกท่านจะต้องตรวจเช็คอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้างาน
และจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
งานบรรยาย : OLED TV ดีที่สุดในการดูหนังเล่นเกมจริงหรือ ?
วัน : เสาร์ที่ 27 ก.พ. 2564 เวลา 12.30-15.00 น.
สถานที่ : โรงแรมสวิสโซเทล กรุงเทพ รัชดา (MRT ห้วยขวาง ทางออก 2
บรรยายโดย : คุณโรมัน & คุณชานม LCDTVTHAILAND
จัดโดย : LG x LCDTVTHAILAND
นำบรรรยายโดยคุณโรมัน และคุณชานม LCDTVTHAILAND
ร่วมด้วย "น้องนินิว" สาวสวยขวัญใจชาว LCDTVTHAILAND มาร่วมเป็นพิธีกรในวันงาน
ช่องทางการลงทะเบียน (จำกัด 24/80 ท่าน) ตรวจสอบรายชื่อได้ที่ด้านล่าง
1) ผ่าน Google Form > https://bit.ly/3rBszVE
2) E-mail : ส่งมาที่ [email protected]
3) Facebook : https://www.facebook.com/LCDTVTHAILAND/messages/
4) Line : @lcdtvthailand (*ต้องพิมพ์ @ ด้วยนะ)
**ตัวอย่างการลงทะเบียน พิมพ์มาหาเราได้เลย**
ขอเข้าร่วมงาน OLED TV ดีที่สุดในการดูหนังเล่นเกมจริงหรือ ? จำนวน 2 คน
1. นายสมรัก รักเจริญ เบอร์โทรศัพท์ 099-999-9999
2. นางสาวสมศรี รักเจริญ เบอร์โทรศัพท์ 099-998-8888
เข้าร่วมงานฟรี!! พร้อมลุ้นรับของรางวัลมากมาย
โรงแรมสวิสโซเทล กรุงเทพฯ รัชดา
MRT ห้วยขวาง ทางออก 2
โรงแรมสวิสโซเทล กรุงเทพฯ รัชดา
MRT ห้วยขวาง ทางออก 2
โรงแรมสวิสโซเทล กรุงเทพ รัชดา | MRT ห้วยขวาง ทางออก 2
มีที่จอดรถกว้างขวาง รองรับได้หลายร้อยคัน
ตารางงาน
12.30 ลงทะเบียน รับประทานของว่าง
13.00 เริ่มงานบรรยาย
13.15 แบ่งกลุ่มเพื่อเข้าทั้ง 3 Stations (Social Distancing)
Station 1 : เปรียบเทียบ OLED vs NanoCell vs UHD TV ทั้งการดูหนังเล่นเกมแบบเข้มข้น
Station 2 : ทดสอบกับ PS5/XBOX บน OLED TV 4K และ 8K พร้อมเคล็ดลับการตั้งค่าภาพให้ดีที่สุด
Station 3 : แนะนำ ฟีเจอร์ลับ สมาร์ททีวี LG
14:30 สรุปงานบรรยาย
14.45 จับฉลากแจกรางวัล
15.00 ปิดงาน
งานนี้เหมาะกับใคร ?
> มือใหม่ | เจาะลึกเทคโนโลยีจอภาพ OLED / NanoCell / UHD TV ว่าต่างกันอย่างไร ?
> มือเก๋า | ผู้มีใจรักในเรื่องภาพและเสียง อยากอัพเดทเทคโนโลยีใหม่ๆ
> เกมเมอร์ | ทดสอบกับเกมคอนโซลใหม่ล่าสุดทั้ง PS5, XBOX Series X และการ์ดจอ RTX-3090 รัน 8K ให้ดู
จะได้รู้และเห็นอะไรบ้าง ?
ภายในงานเพื่อเป็นการรักษาระยะห่าง Social Distancing เราจึงจะเป็น 3 กลุ่มย่อย หลวมๆสบายๆแล้วเวียนกันเข้าชมทั้ง 3 Station ให้ครบ พร้อมฟังบรรยายให้ความรู้+การสาธิตอย่างเข้มข้นในบรรยากาศเป็นกันเองโดยทีมงาน LCDTVTHAILAND
Station 1 | Comparison : เปรียบเทียบภาพทีวี LG ทั้ง 3 เกรดแบบลึกซึ้ง ไล่ตั้งแต่ OLED TV vs NanoCell TV vs LED TV ว่าภาพมันต่างกันแค่ไหน ? ดูกันออกหรือไม่ ? เปิดให้ดูด้วยแผ่นหนัง 4K HDR เรื่องดัง รวมถึงแพทเทิร์นทดสอบระดับโปรเฟสชั่นแนล พร้อมเปรียบเทียบระดับความดำ / ความสว่าง / สีสัน / หนัง 4K ให้ชมกัน
1) LG 4K OLED TV รุ่น 65CX ที่เขาว่า OLED TV ภาพดีที่สุดจริงหรือไม่ ?
2) LG 4K NanoCell TV รุ่น 65NANO91
NanoCell จะฟัดกับ OLED ไหวไหม ? ภาพต่างกันประมาณไหน ?
3) LG 4K LED TV รุ่น 65UN7300
แล้วทีวี 4K UHD TV รุ่นเริ่มต้นหละ ภาพหนีจากรุ่นพี่มากน้อยเพียงใด ?
เปิดให้ดูด้วยแผ่นหนัง 4K HDR เรื่องดัง รวมถึงแพทเทิร์นทดสอบระดับโปรเฟสชั่นแนล
เปรียบเทียบระดับความดำ / ความสว่าง / สีสัน ให้ชมกัน
เเครื่องเล่น Oppo 4K Blu-ray Player ที่ใช้เป็นเครื่อง Reference ในการประชันทีวี
Station 2 | Gaming : ทดสอบเล่นเกม 4K HDR บนเครื่องเล่นเกมคอนโซลที่ดีที่สุดในตอนนี้ PlayStation 5 และ XBOX Series X ตอบทุกประเด็นทั้ง 4K 120Hz, Ray-Tracing และแนะนำเทคนิคการเซ็ตอัพทั้งทีวีและเครื่องเกมให้แสดงประสิทธิภาพสูงสุด และพิเศษสุดกับทดสอบเล่นเกมความละเอียด 8K แท้ด้วยการ์ดจอ RTX-3090 บนทีวี 8K OLED ไซส์ 88" ราคา 2.49 ล้านบาทครั้งแรกในไทย !
XBOX Series X และ PlayStation 5 เครื่องเล่นเกมคอนโซลรุ่นใหม่ล่าสุด
8K OLED TV รุ่น 88ZX ราคา 2.49 ล้านบาท
เดี๋ยวมีรันเกม 8K แท้ 33 ล้านพิกเซลให้ดู
4K OLED TV รุ่น 48CX (48") "ตัวจบ" ของสายเกมมิ่งจริงหรือไม่ ? ต้องมาดูเอง
Station 3 Smart TV : แนะนำ LG webOS ระบบสมาร์ททีวีที่ใช้งานได้ง่ายที่สุด ? พร้อม "เคล็ดลับการใช้งาน" ที่ท่านไม่รู้มาก่อน ดูจบปุ๊บเอาไปประยุกต์ใช้ที่บ้านได้เลย
สาธิตด้วย LG 4K OLED TV รุ่น 77GX Gallery Design
เจ้าของรางวัล Best of The Best TV ในปีที่ผ่านมา
LG webOS ระบบปฏิบัติการบนทีวีที่ใช้งานได้ง่ายที่สุด
ท้ายงานลุ้นรับของรางวัลมากมาย !
รางวัลที่ 1: LG 55UN7200 4K Smart TV
มูลค่า 14,990 บาท ฟรี
รางวัลที่ 2 | สาย LCD HDMI รุ่น HOGAN V2.1 รองรับ 4K 120Hz
มูลค่า 790 บาท จำนวน 10 รางวัล ฟรี
รางวัลที่ 1: LG 55UN7200 4K Smart TV
มูลค่า 14,990 บาท ฟรี
รางวัลที่ 2 | สาย LCD HDMI รุ่น HOGAN V2.1 รองรับ 4K 120Hz
มูลค่า 790 บาท จำนวน 10 รางวัล ฟรี
โปรโมชั่นพิเศษ!! ซื้อ หรือมัดจำสินค้าภายในงาน
รับฟรี สาย JERICHO HDMI V2.1 มูลค่า 2,490 บาท ทุกรุ่น!
ของแถมรุ่นอื่นๆ สามารถดูลิสต์รายการได้ที่ด้านล่าง
รับฟรี สาย JERICHO HDMI V2.1 มูลค่า 2,490 บาท ทุกรุ่น!
ของแถมรุ่นอื่นๆ สามารถดูลิสต์รายการได้ที่ด้านล่าง
ซื้อ หรือจอง LG OLED TV, Nano Cell TV รุ่นที่รวมรายการ แถมฟรี! สาย HDMI Jericho 2M และ หูฟัง True Wireless FN6 มูลค่ารวม 7,480 บาท
1. LG OLED TV GX Series ขนาด 77" และ 65"
2. LG OLED TV CX Series ขนาด 65" และ 48"
3. LG OLED TV BX Series ขนาด 55"
4. LG Nano95 Series ขนาด 65"
5. LG Nano86 Series ขนาด 65"
6. *LG Nano86 Series ขนาด 55" แถมเฉพาะหูฟัง True Wireless FN6
LG OLED TV
มีขายในงาน!! LG 4K OLED TV GX Series ขนาด 77" และ 65"
มีขายในงาน!! LG 4K OLED TV CX Series ขนาด 48"
LG Nano Cell LED TV
มีขายในงาน!! LG 8K LED TV Nano Cell TV Nano95 Series ขนาด 65"
มีขายในงาน!! LG 4K LED TV Nano Cell TV Nano86 Series ขนาด 65"
มีขายในงาน!! LG 4K LED TV Nano Cell TV Nano80 Series ขนาด 55" และ 65"
ซื้อ หรือจองทีวีในงาน รับฟรีสาย HDMI Jericho มูลค่า 2,490 บาท !!
มีขายในงาน!! LG 4K OLED TV GX Series ขนาด 77" และ 65"
มีขายในงาน!! LG 4K OLED TV CX Series ขนาด 48"
LG Nano Cell LED TV
มีขายในงาน!! LG 8K LED TV Nano Cell TV Nano95 Series ขนาด 65"
มีขายในงาน!! LG 4K LED TV Nano Cell TV Nano86 Series ขนาด 65"
มีขายในงาน!! LG 4K LED TV Nano Cell TV Nano80 Series ขนาด 55" และ 65"
ซื้อ หรือจองทีวีในงาน รับฟรีสาย HDMI Jericho มูลค่า 2,490 บาท !!
ภาพบรรยากาศงานที่ผ่านมา
บรรยากาศภายในงานครั้งก่อนๆ เรามีของว่างให้ทานกันก่อนเริ่มงานด้วยน้าา
*ภายในงานครั้งนี้จะมีการแบ่งกลุ่มย่อยให้หลวมๆ สบายๆ และมีการเว้นระยะห่าง
ไฮไลท์เด็ดคือการเปรียบเทียบกันระหว่าง OLED vs NanoCell vs LED TV
ดูในห้างมันดูไม่ต่าง ! มาดูที่งานของจะได้รู้ว่ามันต่างกันจริงไหม ?
*ภายในงานครั้งนี้จะมีการแบ่งกลุ่มย่อยให้หลวมๆ สบายๆ และมีการเว้นระยะห่าง
การทดสอบมีทั้งหนัง เกม และ แพทเทิร์นทดสอบระดับโปร ทั้งเปิดไฟและปิดไฟสนิท
*ภายในงานครั้งนี้จะมีการแบ่งกลุ่มย่อยให้หลวมๆ สบายๆ และมีการเว้นระยะห่าง
ท้ายงานมีจับฉลากแจกรางวัลทั้งทีวี 4K 55" และ สาย LCD HDMI Hogan ด้วยเด้อ
รับความรู้แล้วยังมีของติดไม้ติดมือกลับบ้านฟรีอีก
แล้วพบกันวันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 12.30 น.
อย่าลืม!! ลงทะเบียนก่อนร่วมงาน
บรรยากาศภายในงานครั้งก่อนๆ เรามีของว่างให้ทานกันก่อนเริ่มงานด้วยน้าา
*ภายในงานครั้งนี้จะมีการแบ่งกลุ่มย่อยให้หลวมๆ สบายๆ และมีการเว้นระยะห่าง
ไฮไลท์เด็ดคือการเปรียบเทียบกันระหว่าง OLED vs NanoCell vs LED TV
ดูในห้างมันดูไม่ต่าง ! มาดูที่งานของจะได้รู้ว่ามันต่างกันจริงไหม ?
*ภายในงานครั้งนี้จะมีการแบ่งกลุ่มย่อยให้หลวมๆ สบายๆ และมีการเว้นระยะห่าง
การทดสอบมีทั้งหนัง เกม และ แพทเทิร์นทดสอบระดับโปร ทั้งเปิดไฟและปิดไฟสนิท
*ภายในงานครั้งนี้จะมีการแบ่งกลุ่มย่อยให้หลวมๆ สบายๆ และมีการเว้นระยะห่าง
ท้ายงานมีจับฉลากแจกรางวัลทั้งทีวี 4K 55" และ สาย LCD HDMI Hogan ด้วยเด้อ
รับความรู้แล้วยังมีของติดไม้ติดมือกลับบ้านฟรีอีก
แล้วพบกันวันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 12.30 น.
อย่าลืม!! ลงทะเบียนก่อนร่วมงาน
3
ห้อง VIDEOPHILE LCDTVTHAILAND AWARDS / ตัดสินแล้ว !!! 10 รางวัลทีวีที่ดีที่สุดประจำปี 2019-2020
« เมื่อ: ธันวาคม 18, 2019, 04:00:54 pm »
พบกันทุกปีกับการประกาศรางวัล VIDEOPHILE LCDTVTHAILAND AWARD ประจำปี 2019-2020 หรือ รางวัลทีวีที่ดีที่สุดแห่งปี ปีนี้เป็นอีกครั้งที่เทรนด์ของทีวีมีการเปลี่ยนแปลงขยับจากไซส์กลางไปเป็นไซส์ใหญ่จัมโบ้ขึ้น ตลอดจนระบบ Smart TV ที่เข้ามาอัพเกรดให้การรับชมคอนเทนต์โปรดมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น สุดท้ายคือนวัตกรรมให่กับความละเอียดภาพแบบ 8K ที่ได้เริ่มคิกออฟอย่างเป็นทางการ
ส่วนรางวัลอื่นๆ ก็มีการแบ่งตามประเภทและระดับราคา เพื่อให้ง่ายต่อผู้อ่านในการกำหนดงบประมาณของตัวเองให้แมตช์กับเกรดทีวีแต่ละรุ่น เป็น Buying Guide แห่งปีที่คัดสรรอย่างดีโดยทีมงาน LCDTVTHAILAND ครับ นอกเหนือจากทีวีแล้ว เรายังตัดสินรางวัลหมวดอื่นอีก ทั้ง Projector ที่ดีที่สุดแห่งปี, ลำโพง Soundbar ที่ดีที่สุดแห่งปี และเครื่องเล่น Blu-ray Player ที่ดีที่สุดแห่งปี ครอบคลุมทุกอุปกรณ์หลักที่จะมาเติมเต็มซิสเต็มดูหนังภายในบ้านของท่าน ขอเชิญรับชมรางวัลทั้งหมดได้ ณ บัดนี้ !!!
1) Best 4K OLED TV Award : LG C9 และ Sony A9G
ขนาดที่วางจำหน่าย : LG C9 / Sony A9G 77 65 55
ED TV ที่ดีที่สุดปีนี้ขอยกให้ LG C9 และ Sony A9G ครองบัลลังก์คู่กัน ดีกรีผู้ชนะเลิศงานประชันทีวีที่อังกฤษและอเมริกา คุณภาพของภาพดีเลิศทั้งคู่ สีดำดำสนิท สีสันสดสวย ต่างกันที่คาแรกเตอร์ภาพตอนต้นซึ่ง LG จะได้เปิดสว่าง สดใส รุกเร้ากว่าเล็กๆ ส่วน Sony จะเน้นเป็นธรรมชาติ ลุ่มลึกแบบมีมิติ ใกล้เคียงจอมอนิเตอร์อ้างอิงในสตูดิโอ เมื่อปรับภาพให้ถูกต้องทั้งคู่และจับตั้งเทียบกัน ภาพก็สวยถูกต้องคล้ายคลึงกัน ไม่ได้แตกต่างอย่างมีนัยยะ ส่วนระบบเสียงทาง LG กำลังขับอาจไม่ได้เยอะกว่าแต่รองรับ Dolby Atmos ในตัวเลย ส่วน Sony ใช้ลำโพงแบบฝังหลังเครื่อง Acoustic Surface ยิงเสียงทะลุหน้าจอได้ เนื้อเสียงอิ่มแน่นยอดเยี่ยม ทั้งคู่รองรับ HDMI eARC สำหรับการส่งผ่านสัญญาณเสียง Dolby Atmos ความละเอียดสูงไปยังแอมป์หรือลำโพงซาวด์บาร์ได้ LG จะได้เปรียบกว่าเล็กๆเพราะให้พอร์ท HDMI ทั้ง 4 ช่องเป็นเวอร์ชั่น 2.1
แต่จุดที่ทำให้ 2 แบรนด์นี้เหนือชั้นกว่า OLED TV เจ้าอื่นคือระบบ Smart TV ที่มีความเป็น AI ในตัวทั้งคู่ | Sony จะใช้เป็น Android ซึ่งมีทั้งปริมาณและคุณภาพของแอพส์ดีที่สุด พร้อมระบบการสั่งงานด้วยเสียงทั้งแบบสั่งกับรีโมทและสั่งกับทีวีโดยตรงแบบ "แฮนด์ฟรี" รวมถึงเชื่อมกับอุปกรณ์ IoT ต่างๆได้ด้วย เป็นทีวีที่อัจฉริยะสุดใน พ.ศ. นี้ ส่วน LG มาพร้อมกับ ThinQ AI ที่ใช้ webOS เป็นพื้นฐานแถมมี Magic Remote รีโมทคอนโทรลที่ทำหน้าที่เป็น Air Mouse ใช้งานง่ายที่สุด จัดเป็นทีวีที่ User Friendly ที่สุดใน พ.ศ. นี้
สำหรับยุคนี้การจะเป็นทีวีที่ดีที่สุด ไม่ใช่แค่ภาพดีอย่างเดียว แต่ต้องมีระบบ Smart TV เป็นกระดูกสันหลังด้วย มันเป็นรากฐานในการใช้งานจริงสมัยนี้ และต้องมีแอพส์ที่เราต้องการให้ครบครัน เพราะมันคือ การใช้งานจริง ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้เราเสพทีวีได้ง่ายยิ่งขึ้น อยากดูอะไรบนจอต้องได้ดูทันที เพียงแค่พูดหรือกดสั่งมันคลิ๊กเดียวอยู่ จัดว่าสุดในรุ่นทั้งคู่แบบขี่กันคนละมุม จึงขอมอบรางวัล Best 4K OLED TV ให้กับทั้งคู่ไปครองร่วมกันในปีนี้
2) Best 8K LED TV Award : Samsung Q900R QLED TV
ขนาดที่วางจำหน่าย : 98 82 75 65
8K เปิดตัวแล้วในปีนี้ โดย Samsung เองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มแรกที่เปิดตัวพร้อมวางขายตั้งแต่ต้นปี ซึ่งรุ่น Q900R QLED TV มีหลายขนาดด้วยกันโดยเฉพาะไซส์ใหญ่อย่าง 82 ที่โชว์ความต่างระหว่าง 8K และ 4K ได้ค่อนข้างชัดเจน ถึงแม้ยังไม่มีคอนเทนต์ 8K แท้ๆตอนนี้ แต่การอัพสเกลภาพจาก 1080p / 4K ให้ใกล้เคียง 8K ถือว่าทำได้เนียนเกินคาดมาก ต้องยกเครดิตให้ชิพประมวลผลที่ทำหน้าที่อัพสเกลได้ดีเกินคาด ตลอดจนการเล่นคอนเทนต์ Demo 8K แท้ ก็ทำได้อย่างคมชัด พวกขอบตัวอักษรและวัตถุยังคมมากทั้งที่ถูกแสดงผลบนจอไซส์ยักษ์ อนาคตหากมีเครื่องเล่น 8K ก็สามารถเชื่อมต่อสัญญาณทาง HDMI 2.1
โครงสร้างหลอดไฟเป็น Direct Full Array LED เต็มแผง ผนวกกับเทคโนโลยี Quantum Dot ที่ช่วยอัพเกรดให้สีสันสดอิ่ม แถมมุมมองการรับชมมีการปรับปรุงให้กว้างขึ้น มองเฉียงๆสียังคงความสดได้ค่อนข้างดี รวมถึงของเล่นอื่นๆก็จัดเต็มให้สไตล์ตัวท็อปอย่างสาย One Invisible Connection พร้อมกล่อง One Connect ที่ทำให้ทีวีดูสะอาดตา ปราศจากสายรกรุงรัง ตลอดจนแอพ Apple TV ครั้งแรกบนทีวี Samsung ทั้งที่เป็นคู่แข่งทางการค้ากันมาอย่างนมนาน สรุปแล้วถือว่าเป็นทีวี 8K ที่ดีที่สุดในแง่ของคุณภาพของภาพในปีนี้ครับ ขอมอบรางวัล Best 8K LED TV ให้ไปครอง
3) Best 4K LED TV Award : Samsung Q90R QLED TV
ขนาดที่วางจำหน่าย : 82 65
Samsung QLED TV Q90R คือทีวี 4K ที่ใช้หลอดไฟ LED Backlight ดีที่สุดเท่าที่ Samsung เคยผลิตมา จริงๆคือดีที่สุดในบรรดาทีวี LED ด้วยกันด้วย เพราะโครงสร้างหลอดไฟ Direct Full Array LED แบบเต็มแผงที่สามารถ "ดิมหลอดไฟเป็นโซนได้เนียนและดำที่สุด" เท่าที่เคยมีมา ดีกว่ารุ่นน้องอย่าง Q80R แบบเทียบไม่ติด และเหนือกว่า 9QFN ปีที่แล้ว ระดับความดำนั้นอีกนิดก็ชน OLED TV แถมมาได้เรื่องความสว่างสูงสุด (HDR Peak Brightness) ที่ทำได้เจิดจ้าสู้แสงมาก แทบไม่ต้องคุมแสงหรือปิดม่านในห้องก็เอาอยู่ทุกสถานการณ์ แม้แต่นำไปตั้งทดสอบกลางแจ้งก็ยังเฉิดฉายได้อย่างสบาย ให้คุณภาพของภาพอยู่ในเกณฑ์ดีเลิศทั้งสีสัน ความสว่าง ความดำ รวมถึงมุมมองการรับชมด้านข้างที่กว้างขึ้นมากกว่า QLED TV / SUHD TV รุ่นปีก่อนๆ นั่งชมมุมเฉียงสียังอิ่มแน่นแทบไม่ซีดลง ส่วนลูกเล่นอื่นๆอย่าง Smart TV ระบบปฏิบัติการ Tizen OS หน้าตาเป็นมิตรกับผู้ใช้ มี TV Plus ให้ดูช่องเกาหลีฟรี แถมมีแอพ Apple TV มีหนัง 4K HDR ให้เลือกซื้อ/เช่าตรึม จึงขอยกรางวัลทีวี 4K LED TV ที่ดีที่สุดประจำกับ Samsung Q900R ไปครอง
4) Best Midrange 4K LED TV Award : LG SM9000
ขนาดที่วางจำหน่าย : 65 55
สำหรับรางวัลทีวี 4K ระดับกลางค่อนบนที่ดีที่สุดประจำปีตกเป็นของ LG SM9000 ทายาทอสูรที่ต่อยอดความสำเร็จมาจากรุ่น SK8500 (2018) ของปีที่ผ่านมา รุ่นนี้ใช้หลอดไฟ Full Array LED Backlight จึงดิมหลอดไฟเป็นโซนๆ ครอบคลุมทั่วจอได้ จึงทำระดับความดำได้ดีกว่าพวก Edge LED แทบทั้งหมด แต่อาจจะยังไม่ได้เนียนถึงระดับตัวท็อปด้านบนที่ได้รางวัลก่อนหน้านี้ ใช้จอแบบ IPS ให้มุมมองการรับชมที่กว้างตั้งแต่ต้น และมีแนวภาพที่ให้สีสันอิ่มแน่นเข้มข้น รองรับมาตรฐานภาพและเสียงขั้นสูงอย่าง Dolby Vision/Atmos ระบบปฏิบัติการ Smart TV ใช้เป็น ThinQ AI ใช้งานง่ายมากด้วย Magic Remote รองรับการสั่งงานด้วยเสียงไทยที่แม่นยำขึ้น ให้แอพส์ดูหนังและซีรีส์ดังมาครบ และล่าสุดรองรับ Airplay 2 เชื่อมต่อกับอุปกรณ์จากค่าย Apple ได้แล้ว สรุปเป็นทีวี 4K LED รุ่นกลางค่อนบนที่ครบเครื่องที่สุดในปีนี้
5) Best Value 4K LED TV Award : Hisense B8000 & TCL C8
ขนาดที่วางจำหน่าย Hisesne B8000 / TCL C8 : 55" 65"
รางวัลทีวี 4K ที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุดประจำปีนี้มี 2 รุ่นด้วยกัน แบ่งเป็น "ด้านภาพ" และ "ด้านลูกเล่นองค์รวม + Smart" ตัวแรกคือ Hisense B8000 จากแบรนด์ดังแห่งแดนมังกร ทั้งกระแส+ยอดขาย+ผลลัพธ์ซึ่งก็คือฟีดแบกด้านบวกจากผู้ใช้จริง ทำให้เป็นรุ่นยอดฮิตติดตลาดอย่างรวดเร็วผ่านการบอกแบบปากต่อปาก B8000 คือ 4K LED TV ที่ให้ คุณภาพของภาพดีเกินหน้าเกินตา ทีวีระดับราคาเดียวกันแทบทุกตัว แถมยังรองรับมาตรฐานภาพไฮโซอย่าง Dolby Vision เชื่อมต่อระบบเสียง Dolby Atmos ซะด้วย ซึ่งปกติจะสถิตย์อยู่ในรุ่นกลางบนถึงรุ่นท็อปเท่านั้น วัสดุตัวเครื่องใช้ของดีเลย เป็นโลหะสีเงินดูพรีเมี่ยมสวยงามทั้งที่เป็นรุ่นราคาไม่สูงนัก ข้อจำกัดเดียวคือระบบ Smart TV จะค่อนข้างเบสิคไปนิด ไม่ได้มีลูกเล่นหวือหวาเหมือนเจ้าอื่น
ส่วน TCL C8 คือ 4K LED Android TV รุ่นล่าสุด เรื่องภาพอาจจะยังเป็นรอง Hisense B8000 บ้าง ทว่าแทบทุกจุดถูกอัพเกรดให้ดีขึ้นจากรุ่นน้องอย่างรุ่น P8 และ P8S อย่าง Wide Color Gamut ขยายขอบเขตสีของภาพ รองรับ Dolby Vision ซึ่งเป็น HDR ขั้นท็อปสุดในตอนนี้ มีลำโพง Speaker Bar ที่ออกแบบโดย Onkyo แบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำจากญี่ปุ่น เนื้อเสียงอิ่มแน่นกว่าลำโพงทีวีทั่วไปพอสมควร สุดท้ายคือระบบปฏิบัติการ Android 9.0 เวอร์ชั่นล่าสุดพร้อม Google Assistant ที่สามารถสั่งงานผ่านรีโมทด้วยเสียงไทยได้ สรุปเป็นรุ่นที่ของเล่นระรานตา พร้อมภาพและเสียงที่สมดุลขึ้นกว่าเดิมมาก ได้ความคุ้มค่าสูงในราคาไม่แรง !
6) Best Budget 4K LED TV (Big Size) Award : Sharp 4T-C70AL1X
ขนาดที่วางจำหน่าย : 70" 60" 50"
รางวัลทีวี 4K ไซส์ใหญ่พิเศษราคาถูกสบายกระเป๋าตกเป็นของ Sharp 4T-C70AL1X (ชื่อรุ่นยาวเป็นพิเศษเช่นกัน ^ ^) เป็นเจ้าแรกที่ส่งทีวีขนาดใหญ่จัมโบ้ในราคาสบายกระเป๋ามาให้ทีมงานทดสอบ เจ้า 70 รุ่นนี้คุณภาพของภาพก็อยู่ในเกณฑ์เริ่มต้น ออกแนวภาพสุภาพเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของทีวี Sharp มาอย่างยาวนาน ค่อนข้าง "ถูกจริตผู้ใหญ่ที่ชอบภาพที่สบายตา" ไม่จัดจ้านรุกเร้าเกินไป ระบบปฏิบัติการเป็น Android TV แท้ รองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant บนรีโมทคอนโทรล ให้ทุกอย่างมาครบครัน และเป็นเจ้าแรกที่เปิดราคาขายไซส์บิ๊กอย่าง 70 ได้อย่างน่าดูชม ตอบโจทย์เทรนด์ทีวีไซส์ใหญ่ทั้งในปีนี้และปีหน้า
7) Best Budget 4K LED TV Award : Skyworth UB7500 | Samsung RU7200
ขนาดที่วางจำหน่าย :
Skyworth UB7500 ขนาด : 65 55 50 43
Samsung RU7200 ขนาด : 65 55 49
รางวัลทีวี Best Budget 4K LED TV Award ปีนี้ มีตัวเลือกให้พิจารณาด้วยกันหลายรุ่น แต่เมื่อเอาจุดเด่นในเรื่องของ "มิติการใช้งาน" ในขณะเดียวกันก็ "เหมาะสมกับราคาที่จ่ายไป" สุดท้ายก็ได้ออกมาเป็นสองรุ่น ที่มีคุณภาพของภาพใกล้เคียงกัน และยังได้ลูกเล่นการใช้งานที่ครอบคลุมเทียบเท่ากับรุ่นท็อป รุ่นแรกคือ Samsung RU7200 ที่มีแอพ Apple TV ดูหนัง iTunes และ Apple TV+ บนเครื่องได้ทันทีโดยไม่ต้องไปซื้อกล่อง Apple TV ที่ราคาเกือบ 8,000 บาทมาต่อเพิ่ม ประหยัดเงินได้หลาย โดนใจสาวก Apple แน่นอน ยังแถมแอพ TV Plus ให้ดูช่องเกาหลีฟรีหลายสิบช่อง | อีกรุ่นก็คือ Skyworth UB7500 ดีไซน์สวยขอบบาง ได้จุดเด่นที่แหวกแนวอย่างหน้าจอถนอมสายตาที่เคลือบชั้น Optical Anti Blue Light กรองแสงน้ำเงินที่ไม่เป็นมิตรออกไป ซึ่งปกติฟีเจอร์นี้จะอยู่ในจอมอนิเตอร์เกรดสูงและสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปเท่านั้น รองรับภาพ Dolby Vision และใช้ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 ล่าสุด | ทั้ง 2 รุ่นนี้ล้วนเหมาะกับท่านที่มีงบประมาณในกระเป๋าจำกัด แต่อยากได้ฟีเจอร์ลูกเล่นขั้นแกรนด์ไม่แพ้รุ่นบน
8) Innovation of The Year Award : Sharp AX1X
ขนาดที่วางจำหน่าย : 80 70 60
รางวัลนวัตกรรมทีวีแห่งปีขอยกให้ SHARP รุ่น AX1X ทีวี 8K ตัวแรกที่เปิดตัวและขายในไทย ถึงแม้ยังไม่มีหนัง 8K แท้ๆ เรื่องไหนให้เรารับชม แต่ที่ญี่ปุ่นมีทดลองออกอากาศและเปิดโชว์บนทีวี Sharp 8K กันแล้วในหลายพื้นที่ เตรียมความพร้อมสำหรับการถ่ายทอดสดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกแบบ 8K ที่กำลังจะจัดขึ้นปี 2020 จุดเด่นของรุ่นนี้คือ ระดับความสว่างของภาพสูงที่สุดในท้องตลาดเกิน 5,000 nits เพราะใช้หลอดไฟแบบ Full Array LED พร้อมแผงหน้าจอแบบ IGZO ที่ปล่อยแสงลอดผ่านได้ดี เมื่อเล่นคอนเทนต์ 8K แท้ที่ถ่ายทำด้วยกล้อง 8K แท้ของ Sharp อย่าง Amazing Thailand ที่ถ่ายทำตามแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในประเทศเรา ภาพ 8K ที่ได้มีความคมชัด เปิดเผยรายละเอียดระดับ ไมโครดีเทล อาทิตัวอักษรขนาดเล็กของป้ายโฆษณาตามตึกต่างๆ ให้แสงสีเป็นธรรมชาติดูสบายตา Sharp AX1X คือนวัตกรรมทีวีที่เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายมาเติมเต็มให้ระบบนิเวศน์ 8K ต้นน้ำถึงปลายน้ำนั้นมีความสมบูรณ์ในที่สุด
9) Best Smart TV Award : Sony A9G
ขนาดที่วางจำหน่าย : 77 65 55"
Sony A9G คือทีวีที่ก้าวผ่านคำว่า ฉลาด สู่ อัจฉริยะ ที่แท้จริง ด้วยระบบปฏิบัติการ Android 8.0 (รออัพเดทเป็น 9.0) ที่มีคลังแอพส์มากที่สุด คุณภาพของแอพส์ดีที่สุด เคียงคู่กับ Google Assistant ระบบผู้ช่วยอัจฉริยะรองรับคำสั่งเสียงได้หลายภาษารวมถึงภาษาไทยบ้านเราด้วย ทีเด็ดคือแทบจะเป็นรุ่นเดียวที่สามารถสั่งงานด้วยเสียงโดยตรงกับทีวีได้แบบ แฮนด์ฟรี ไม่ต้องใช้นิ้วกดปุ่มพูดกับรีโมทเหมือนรุ่นอื่น สั่งงานได้หลากหลาย ตั้งแต่ค้นหาคลิปวีดีโอ ถามพยากรณ์อากาศ บวกเลข เปิด/ปิดทีวี ยันสั่งเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆแบบ IoT เช่น เปิด/ปิดหลอดไฟอัจฉริยะ สปีดการทำงานไวขึ้นและมีความเสถียรมากที่ที่สุด ในบรรดา Android TV ด้วยกัน จึงกล่าวได้ว่าเป็นทีวีที่มี AI ในตัวได้อย่างเต็มปาก รวมถึงรองรับการ Cast ผ่านมือถือได้มากจำนวนแอพส์วีดีโอที่สุด ไม่จำกัดแค่ Netflix/YouTube เหมือน Smart TV ทั่วไป ทว่าพวก LINE TV / TrueID / BeinSport / Facebook Video ที่คนไทยใช้ดูบอลและละครก็รองรับทั้งหมด เป็นทีวีที่ตอบโจทย์เราว่าอยากจะดูอะไรก็สามารถดูได้ทันที นี่คือทีวีที่ไฮเทคที่สุดที่สามารถปรนิบัติเราประหนึ่งอยู่ในหนังไซไฟ ขอมอบรางวัล Smart TV ที่ดีที่สุดแห่งปีให้ Sony A9G OLED TV
10) Best Thai TV Award : Aconatic 43HS521AN
ขนาดที่วางจำหน่าย : 43" 32"
ถ้าถามว่าทีวีแบรนด์ไทย "สัญชาติไทย" รุ่นไหนที่เทพที่สุดในตอนนี้ คำตอบชัดเจนมากมีหนึ่งเดียวคือ Aconatic Android TV แท้ขนาด 43 นิ้วนี่เอง ปีนี้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่แบรนด์ไทยแท้โผล่เข้ามาติดโผรางวัล Top 10 ประจำปีของ LCDTVTHAILAND เพราะในที่สุดคุณภาพก็ทะลุเกณฑ์ที่พวกเรากำหนดไว้ Aconatic คือแบรนด์ไทยที่มียอดขายทีวีสูงที่สุดในท้องตลาดหากเทียบกับแบรนด์ไทยด้วยกันเอง ปัจจุบันครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 4 ของประเทศในแง่ของจำนวน (ข้อมูลจาก GFK) มียอดผลิตและขายกว่าหนึ่งล้านเครื่องตลอดระยะเวลาที่เริ่มทำตลาดทีวีกว่า 6-7 ปีที่ผ่านมา ที่สำคัญ Made in Thailand ซะด้วย รุ่นที่ได้คือ Aconatic 43HS521AN เป็นทีวีความละเอียด Full HD ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 แท้สำหรับทีวี ได้ลิขสิทธิ์มาสมบูรณ์ถูกต้อง ซึ่งปกติหากเป็นแบรนด์ไทยหรือของจีนราคาประหยัดจะใช้วิธีการแปลง Android จากมือถือไปบนทีวีแทน จึงทำให้เทียบชั้นแบรนด์ดังไปโดยปริยาย ทั้งมีแอพส์ดังให้โหลดบน PlayStore ครบครัน มี Chromecast Built-in รองรับการเชื่อมต่อกับมือถือ แถมยังให้รีโมทคอนโทรลมาถึงสองอัน สามารถสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยผ่าน Google Assistant ได้ นับเป็นทีวีแบรนด์ไทยเจ้าแรกที่ทำทุกอย่างได้ครบในราคาที่ย่อมเยาว์เช่นนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการทาบชั้นท็อปแบรนด์จากต่างประเทศ
ส่วนรางวัลอื่นๆ ก็มีการแบ่งตามประเภทและระดับราคา เพื่อให้ง่ายต่อผู้อ่านในการกำหนดงบประมาณของตัวเองให้แมตช์กับเกรดทีวีแต่ละรุ่น เป็น Buying Guide แห่งปีที่คัดสรรอย่างดีโดยทีมงาน LCDTVTHAILAND ครับ นอกเหนือจากทีวีแล้ว เรายังตัดสินรางวัลหมวดอื่นอีก ทั้ง Projector ที่ดีที่สุดแห่งปี, ลำโพง Soundbar ที่ดีที่สุดแห่งปี และเครื่องเล่น Blu-ray Player ที่ดีที่สุดแห่งปี ครอบคลุมทุกอุปกรณ์หลักที่จะมาเติมเต็มซิสเต็มดูหนังภายในบ้านของท่าน ขอเชิญรับชมรางวัลทั้งหมดได้ ณ บัดนี้ !!!
VIDEOPHILE LCDTVTHAILAND AWARDS 2019 - 2020 |
||||
Best TV Awards 2019 - 2020 | ||||
OLED TV Range | ||||
No. | Award | Price Range | Brand | Winners |
1. | Best OLED TV Award | $$$$$ | LG Sony |
C9 A9G |
LED TV Range | ||||
2. | Best 8K LED TV Award | $$$$$ | Samsung | Q900R |
3. | Best 4K LED TV Award | $$$$$ | Samsung | Q90R |
4. | Best Midrange 4K LED TV Award | $$$ | LG | SM9000 |
5. | Best Value 4K LED TV Award | $$ | Hisense TCL |
B8000 C8 |
6. | Best Budget 4K LED TV Award (Big Size) | $ | Sharp | 70AL1X |
7. | Best Budget 4K LED TV Award | $ | Skyworth Samsung |
UB7500 RU7200 |
Innovation & Features | ||||
No. | Award | Winner | ||
8. | Innovation of The Year Award | $$$$$ | Sharp | AX1X |
9. | Best Smart TV Award | $$$$$ | Sony | A9G |
10. | Best Thai TV Award | $ | Aconatic | HS521AN |
1) Best 4K OLED TV Award : LG C9 และ Sony A9G
ขนาดที่วางจำหน่าย : LG C9 / Sony A9G 77 65 55
ED TV ที่ดีที่สุดปีนี้ขอยกให้ LG C9 และ Sony A9G ครองบัลลังก์คู่กัน ดีกรีผู้ชนะเลิศงานประชันทีวีที่อังกฤษและอเมริกา คุณภาพของภาพดีเลิศทั้งคู่ สีดำดำสนิท สีสันสดสวย ต่างกันที่คาแรกเตอร์ภาพตอนต้นซึ่ง LG จะได้เปิดสว่าง สดใส รุกเร้ากว่าเล็กๆ ส่วน Sony จะเน้นเป็นธรรมชาติ ลุ่มลึกแบบมีมิติ ใกล้เคียงจอมอนิเตอร์อ้างอิงในสตูดิโอ เมื่อปรับภาพให้ถูกต้องทั้งคู่และจับตั้งเทียบกัน ภาพก็สวยถูกต้องคล้ายคลึงกัน ไม่ได้แตกต่างอย่างมีนัยยะ ส่วนระบบเสียงทาง LG กำลังขับอาจไม่ได้เยอะกว่าแต่รองรับ Dolby Atmos ในตัวเลย ส่วน Sony ใช้ลำโพงแบบฝังหลังเครื่อง Acoustic Surface ยิงเสียงทะลุหน้าจอได้ เนื้อเสียงอิ่มแน่นยอดเยี่ยม ทั้งคู่รองรับ HDMI eARC สำหรับการส่งผ่านสัญญาณเสียง Dolby Atmos ความละเอียดสูงไปยังแอมป์หรือลำโพงซาวด์บาร์ได้ LG จะได้เปรียบกว่าเล็กๆเพราะให้พอร์ท HDMI ทั้ง 4 ช่องเป็นเวอร์ชั่น 2.1
แต่จุดที่ทำให้ 2 แบรนด์นี้เหนือชั้นกว่า OLED TV เจ้าอื่นคือระบบ Smart TV ที่มีความเป็น AI ในตัวทั้งคู่ | Sony จะใช้เป็น Android ซึ่งมีทั้งปริมาณและคุณภาพของแอพส์ดีที่สุด พร้อมระบบการสั่งงานด้วยเสียงทั้งแบบสั่งกับรีโมทและสั่งกับทีวีโดยตรงแบบ "แฮนด์ฟรี" รวมถึงเชื่อมกับอุปกรณ์ IoT ต่างๆได้ด้วย เป็นทีวีที่อัจฉริยะสุดใน พ.ศ. นี้ ส่วน LG มาพร้อมกับ ThinQ AI ที่ใช้ webOS เป็นพื้นฐานแถมมี Magic Remote รีโมทคอนโทรลที่ทำหน้าที่เป็น Air Mouse ใช้งานง่ายที่สุด จัดเป็นทีวีที่ User Friendly ที่สุดใน พ.ศ. นี้
สำหรับยุคนี้การจะเป็นทีวีที่ดีที่สุด ไม่ใช่แค่ภาพดีอย่างเดียว แต่ต้องมีระบบ Smart TV เป็นกระดูกสันหลังด้วย มันเป็นรากฐานในการใช้งานจริงสมัยนี้ และต้องมีแอพส์ที่เราต้องการให้ครบครัน เพราะมันคือ การใช้งานจริง ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้เราเสพทีวีได้ง่ายยิ่งขึ้น อยากดูอะไรบนจอต้องได้ดูทันที เพียงแค่พูดหรือกดสั่งมันคลิ๊กเดียวอยู่ จัดว่าสุดในรุ่นทั้งคู่แบบขี่กันคนละมุม จึงขอมอบรางวัล Best 4K OLED TV ให้กับทั้งคู่ไปครองร่วมกันในปีนี้
2) Best 8K LED TV Award : Samsung Q900R QLED TV
ขนาดที่วางจำหน่าย : 98 82 75 65
8K เปิดตัวแล้วในปีนี้ โดย Samsung เองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มแรกที่เปิดตัวพร้อมวางขายตั้งแต่ต้นปี ซึ่งรุ่น Q900R QLED TV มีหลายขนาดด้วยกันโดยเฉพาะไซส์ใหญ่อย่าง 82 ที่โชว์ความต่างระหว่าง 8K และ 4K ได้ค่อนข้างชัดเจน ถึงแม้ยังไม่มีคอนเทนต์ 8K แท้ๆตอนนี้ แต่การอัพสเกลภาพจาก 1080p / 4K ให้ใกล้เคียง 8K ถือว่าทำได้เนียนเกินคาดมาก ต้องยกเครดิตให้ชิพประมวลผลที่ทำหน้าที่อัพสเกลได้ดีเกินคาด ตลอดจนการเล่นคอนเทนต์ Demo 8K แท้ ก็ทำได้อย่างคมชัด พวกขอบตัวอักษรและวัตถุยังคมมากทั้งที่ถูกแสดงผลบนจอไซส์ยักษ์ อนาคตหากมีเครื่องเล่น 8K ก็สามารถเชื่อมต่อสัญญาณทาง HDMI 2.1
โครงสร้างหลอดไฟเป็น Direct Full Array LED เต็มแผง ผนวกกับเทคโนโลยี Quantum Dot ที่ช่วยอัพเกรดให้สีสันสดอิ่ม แถมมุมมองการรับชมมีการปรับปรุงให้กว้างขึ้น มองเฉียงๆสียังคงความสดได้ค่อนข้างดี รวมถึงของเล่นอื่นๆก็จัดเต็มให้สไตล์ตัวท็อปอย่างสาย One Invisible Connection พร้อมกล่อง One Connect ที่ทำให้ทีวีดูสะอาดตา ปราศจากสายรกรุงรัง ตลอดจนแอพ Apple TV ครั้งแรกบนทีวี Samsung ทั้งที่เป็นคู่แข่งทางการค้ากันมาอย่างนมนาน สรุปแล้วถือว่าเป็นทีวี 8K ที่ดีที่สุดในแง่ของคุณภาพของภาพในปีนี้ครับ ขอมอบรางวัล Best 8K LED TV ให้ไปครอง
3) Best 4K LED TV Award : Samsung Q90R QLED TV
ขนาดที่วางจำหน่าย : 82 65
Samsung QLED TV Q90R คือทีวี 4K ที่ใช้หลอดไฟ LED Backlight ดีที่สุดเท่าที่ Samsung เคยผลิตมา จริงๆคือดีที่สุดในบรรดาทีวี LED ด้วยกันด้วย เพราะโครงสร้างหลอดไฟ Direct Full Array LED แบบเต็มแผงที่สามารถ "ดิมหลอดไฟเป็นโซนได้เนียนและดำที่สุด" เท่าที่เคยมีมา ดีกว่ารุ่นน้องอย่าง Q80R แบบเทียบไม่ติด และเหนือกว่า 9QFN ปีที่แล้ว ระดับความดำนั้นอีกนิดก็ชน OLED TV แถมมาได้เรื่องความสว่างสูงสุด (HDR Peak Brightness) ที่ทำได้เจิดจ้าสู้แสงมาก แทบไม่ต้องคุมแสงหรือปิดม่านในห้องก็เอาอยู่ทุกสถานการณ์ แม้แต่นำไปตั้งทดสอบกลางแจ้งก็ยังเฉิดฉายได้อย่างสบาย ให้คุณภาพของภาพอยู่ในเกณฑ์ดีเลิศทั้งสีสัน ความสว่าง ความดำ รวมถึงมุมมองการรับชมด้านข้างที่กว้างขึ้นมากกว่า QLED TV / SUHD TV รุ่นปีก่อนๆ นั่งชมมุมเฉียงสียังอิ่มแน่นแทบไม่ซีดลง ส่วนลูกเล่นอื่นๆอย่าง Smart TV ระบบปฏิบัติการ Tizen OS หน้าตาเป็นมิตรกับผู้ใช้ มี TV Plus ให้ดูช่องเกาหลีฟรี แถมมีแอพ Apple TV มีหนัง 4K HDR ให้เลือกซื้อ/เช่าตรึม จึงขอยกรางวัลทีวี 4K LED TV ที่ดีที่สุดประจำกับ Samsung Q900R ไปครอง
4) Best Midrange 4K LED TV Award : LG SM9000
ขนาดที่วางจำหน่าย : 65 55
สำหรับรางวัลทีวี 4K ระดับกลางค่อนบนที่ดีที่สุดประจำปีตกเป็นของ LG SM9000 ทายาทอสูรที่ต่อยอดความสำเร็จมาจากรุ่น SK8500 (2018) ของปีที่ผ่านมา รุ่นนี้ใช้หลอดไฟ Full Array LED Backlight จึงดิมหลอดไฟเป็นโซนๆ ครอบคลุมทั่วจอได้ จึงทำระดับความดำได้ดีกว่าพวก Edge LED แทบทั้งหมด แต่อาจจะยังไม่ได้เนียนถึงระดับตัวท็อปด้านบนที่ได้รางวัลก่อนหน้านี้ ใช้จอแบบ IPS ให้มุมมองการรับชมที่กว้างตั้งแต่ต้น และมีแนวภาพที่ให้สีสันอิ่มแน่นเข้มข้น รองรับมาตรฐานภาพและเสียงขั้นสูงอย่าง Dolby Vision/Atmos ระบบปฏิบัติการ Smart TV ใช้เป็น ThinQ AI ใช้งานง่ายมากด้วย Magic Remote รองรับการสั่งงานด้วยเสียงไทยที่แม่นยำขึ้น ให้แอพส์ดูหนังและซีรีส์ดังมาครบ และล่าสุดรองรับ Airplay 2 เชื่อมต่อกับอุปกรณ์จากค่าย Apple ได้แล้ว สรุปเป็นทีวี 4K LED รุ่นกลางค่อนบนที่ครบเครื่องที่สุดในปีนี้
5) Best Value 4K LED TV Award : Hisense B8000 & TCL C8
ขนาดที่วางจำหน่าย Hisesne B8000 / TCL C8 : 55" 65"
รางวัลทีวี 4K ที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุดประจำปีนี้มี 2 รุ่นด้วยกัน แบ่งเป็น "ด้านภาพ" และ "ด้านลูกเล่นองค์รวม + Smart" ตัวแรกคือ Hisense B8000 จากแบรนด์ดังแห่งแดนมังกร ทั้งกระแส+ยอดขาย+ผลลัพธ์ซึ่งก็คือฟีดแบกด้านบวกจากผู้ใช้จริง ทำให้เป็นรุ่นยอดฮิตติดตลาดอย่างรวดเร็วผ่านการบอกแบบปากต่อปาก B8000 คือ 4K LED TV ที่ให้ คุณภาพของภาพดีเกินหน้าเกินตา ทีวีระดับราคาเดียวกันแทบทุกตัว แถมยังรองรับมาตรฐานภาพไฮโซอย่าง Dolby Vision เชื่อมต่อระบบเสียง Dolby Atmos ซะด้วย ซึ่งปกติจะสถิตย์อยู่ในรุ่นกลางบนถึงรุ่นท็อปเท่านั้น วัสดุตัวเครื่องใช้ของดีเลย เป็นโลหะสีเงินดูพรีเมี่ยมสวยงามทั้งที่เป็นรุ่นราคาไม่สูงนัก ข้อจำกัดเดียวคือระบบ Smart TV จะค่อนข้างเบสิคไปนิด ไม่ได้มีลูกเล่นหวือหวาเหมือนเจ้าอื่น
ส่วน TCL C8 คือ 4K LED Android TV รุ่นล่าสุด เรื่องภาพอาจจะยังเป็นรอง Hisense B8000 บ้าง ทว่าแทบทุกจุดถูกอัพเกรดให้ดีขึ้นจากรุ่นน้องอย่างรุ่น P8 และ P8S อย่าง Wide Color Gamut ขยายขอบเขตสีของภาพ รองรับ Dolby Vision ซึ่งเป็น HDR ขั้นท็อปสุดในตอนนี้ มีลำโพง Speaker Bar ที่ออกแบบโดย Onkyo แบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำจากญี่ปุ่น เนื้อเสียงอิ่มแน่นกว่าลำโพงทีวีทั่วไปพอสมควร สุดท้ายคือระบบปฏิบัติการ Android 9.0 เวอร์ชั่นล่าสุดพร้อม Google Assistant ที่สามารถสั่งงานผ่านรีโมทด้วยเสียงไทยได้ สรุปเป็นรุ่นที่ของเล่นระรานตา พร้อมภาพและเสียงที่สมดุลขึ้นกว่าเดิมมาก ได้ความคุ้มค่าสูงในราคาไม่แรง !
6) Best Budget 4K LED TV (Big Size) Award : Sharp 4T-C70AL1X
ขนาดที่วางจำหน่าย : 70" 60" 50"
รางวัลทีวี 4K ไซส์ใหญ่พิเศษราคาถูกสบายกระเป๋าตกเป็นของ Sharp 4T-C70AL1X (ชื่อรุ่นยาวเป็นพิเศษเช่นกัน ^ ^) เป็นเจ้าแรกที่ส่งทีวีขนาดใหญ่จัมโบ้ในราคาสบายกระเป๋ามาให้ทีมงานทดสอบ เจ้า 70 รุ่นนี้คุณภาพของภาพก็อยู่ในเกณฑ์เริ่มต้น ออกแนวภาพสุภาพเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของทีวี Sharp มาอย่างยาวนาน ค่อนข้าง "ถูกจริตผู้ใหญ่ที่ชอบภาพที่สบายตา" ไม่จัดจ้านรุกเร้าเกินไป ระบบปฏิบัติการเป็น Android TV แท้ รองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant บนรีโมทคอนโทรล ให้ทุกอย่างมาครบครัน และเป็นเจ้าแรกที่เปิดราคาขายไซส์บิ๊กอย่าง 70 ได้อย่างน่าดูชม ตอบโจทย์เทรนด์ทีวีไซส์ใหญ่ทั้งในปีนี้และปีหน้า
7) Best Budget 4K LED TV Award : Skyworth UB7500 | Samsung RU7200
ขนาดที่วางจำหน่าย :
Skyworth UB7500 ขนาด : 65 55 50 43
Samsung RU7200 ขนาด : 65 55 49
รางวัลทีวี Best Budget 4K LED TV Award ปีนี้ มีตัวเลือกให้พิจารณาด้วยกันหลายรุ่น แต่เมื่อเอาจุดเด่นในเรื่องของ "มิติการใช้งาน" ในขณะเดียวกันก็ "เหมาะสมกับราคาที่จ่ายไป" สุดท้ายก็ได้ออกมาเป็นสองรุ่น ที่มีคุณภาพของภาพใกล้เคียงกัน และยังได้ลูกเล่นการใช้งานที่ครอบคลุมเทียบเท่ากับรุ่นท็อป รุ่นแรกคือ Samsung RU7200 ที่มีแอพ Apple TV ดูหนัง iTunes และ Apple TV+ บนเครื่องได้ทันทีโดยไม่ต้องไปซื้อกล่อง Apple TV ที่ราคาเกือบ 8,000 บาทมาต่อเพิ่ม ประหยัดเงินได้หลาย โดนใจสาวก Apple แน่นอน ยังแถมแอพ TV Plus ให้ดูช่องเกาหลีฟรีหลายสิบช่อง | อีกรุ่นก็คือ Skyworth UB7500 ดีไซน์สวยขอบบาง ได้จุดเด่นที่แหวกแนวอย่างหน้าจอถนอมสายตาที่เคลือบชั้น Optical Anti Blue Light กรองแสงน้ำเงินที่ไม่เป็นมิตรออกไป ซึ่งปกติฟีเจอร์นี้จะอยู่ในจอมอนิเตอร์เกรดสูงและสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปเท่านั้น รองรับภาพ Dolby Vision และใช้ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 ล่าสุด | ทั้ง 2 รุ่นนี้ล้วนเหมาะกับท่านที่มีงบประมาณในกระเป๋าจำกัด แต่อยากได้ฟีเจอร์ลูกเล่นขั้นแกรนด์ไม่แพ้รุ่นบน
8) Innovation of The Year Award : Sharp AX1X
ขนาดที่วางจำหน่าย : 80 70 60
รางวัลนวัตกรรมทีวีแห่งปีขอยกให้ SHARP รุ่น AX1X ทีวี 8K ตัวแรกที่เปิดตัวและขายในไทย ถึงแม้ยังไม่มีหนัง 8K แท้ๆ เรื่องไหนให้เรารับชม แต่ที่ญี่ปุ่นมีทดลองออกอากาศและเปิดโชว์บนทีวี Sharp 8K กันแล้วในหลายพื้นที่ เตรียมความพร้อมสำหรับการถ่ายทอดสดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกแบบ 8K ที่กำลังจะจัดขึ้นปี 2020 จุดเด่นของรุ่นนี้คือ ระดับความสว่างของภาพสูงที่สุดในท้องตลาดเกิน 5,000 nits เพราะใช้หลอดไฟแบบ Full Array LED พร้อมแผงหน้าจอแบบ IGZO ที่ปล่อยแสงลอดผ่านได้ดี เมื่อเล่นคอนเทนต์ 8K แท้ที่ถ่ายทำด้วยกล้อง 8K แท้ของ Sharp อย่าง Amazing Thailand ที่ถ่ายทำตามแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในประเทศเรา ภาพ 8K ที่ได้มีความคมชัด เปิดเผยรายละเอียดระดับ ไมโครดีเทล อาทิตัวอักษรขนาดเล็กของป้ายโฆษณาตามตึกต่างๆ ให้แสงสีเป็นธรรมชาติดูสบายตา Sharp AX1X คือนวัตกรรมทีวีที่เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายมาเติมเต็มให้ระบบนิเวศน์ 8K ต้นน้ำถึงปลายน้ำนั้นมีความสมบูรณ์ในที่สุด
9) Best Smart TV Award : Sony A9G
ขนาดที่วางจำหน่าย : 77 65 55"
Sony A9G คือทีวีที่ก้าวผ่านคำว่า ฉลาด สู่ อัจฉริยะ ที่แท้จริง ด้วยระบบปฏิบัติการ Android 8.0 (รออัพเดทเป็น 9.0) ที่มีคลังแอพส์มากที่สุด คุณภาพของแอพส์ดีที่สุด เคียงคู่กับ Google Assistant ระบบผู้ช่วยอัจฉริยะรองรับคำสั่งเสียงได้หลายภาษารวมถึงภาษาไทยบ้านเราด้วย ทีเด็ดคือแทบจะเป็นรุ่นเดียวที่สามารถสั่งงานด้วยเสียงโดยตรงกับทีวีได้แบบ แฮนด์ฟรี ไม่ต้องใช้นิ้วกดปุ่มพูดกับรีโมทเหมือนรุ่นอื่น สั่งงานได้หลากหลาย ตั้งแต่ค้นหาคลิปวีดีโอ ถามพยากรณ์อากาศ บวกเลข เปิด/ปิดทีวี ยันสั่งเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆแบบ IoT เช่น เปิด/ปิดหลอดไฟอัจฉริยะ สปีดการทำงานไวขึ้นและมีความเสถียรมากที่ที่สุด ในบรรดา Android TV ด้วยกัน จึงกล่าวได้ว่าเป็นทีวีที่มี AI ในตัวได้อย่างเต็มปาก รวมถึงรองรับการ Cast ผ่านมือถือได้มากจำนวนแอพส์วีดีโอที่สุด ไม่จำกัดแค่ Netflix/YouTube เหมือน Smart TV ทั่วไป ทว่าพวก LINE TV / TrueID / BeinSport / Facebook Video ที่คนไทยใช้ดูบอลและละครก็รองรับทั้งหมด เป็นทีวีที่ตอบโจทย์เราว่าอยากจะดูอะไรก็สามารถดูได้ทันที นี่คือทีวีที่ไฮเทคที่สุดที่สามารถปรนิบัติเราประหนึ่งอยู่ในหนังไซไฟ ขอมอบรางวัล Smart TV ที่ดีที่สุดแห่งปีให้ Sony A9G OLED TV
10) Best Thai TV Award : Aconatic 43HS521AN
ขนาดที่วางจำหน่าย : 43" 32"
ถ้าถามว่าทีวีแบรนด์ไทย "สัญชาติไทย" รุ่นไหนที่เทพที่สุดในตอนนี้ คำตอบชัดเจนมากมีหนึ่งเดียวคือ Aconatic Android TV แท้ขนาด 43 นิ้วนี่เอง ปีนี้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่แบรนด์ไทยแท้โผล่เข้ามาติดโผรางวัล Top 10 ประจำปีของ LCDTVTHAILAND เพราะในที่สุดคุณภาพก็ทะลุเกณฑ์ที่พวกเรากำหนดไว้ Aconatic คือแบรนด์ไทยที่มียอดขายทีวีสูงที่สุดในท้องตลาดหากเทียบกับแบรนด์ไทยด้วยกันเอง ปัจจุบันครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 4 ของประเทศในแง่ของจำนวน (ข้อมูลจาก GFK) มียอดผลิตและขายกว่าหนึ่งล้านเครื่องตลอดระยะเวลาที่เริ่มทำตลาดทีวีกว่า 6-7 ปีที่ผ่านมา ที่สำคัญ Made in Thailand ซะด้วย รุ่นที่ได้คือ Aconatic 43HS521AN เป็นทีวีความละเอียด Full HD ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 แท้สำหรับทีวี ได้ลิขสิทธิ์มาสมบูรณ์ถูกต้อง ซึ่งปกติหากเป็นแบรนด์ไทยหรือของจีนราคาประหยัดจะใช้วิธีการแปลง Android จากมือถือไปบนทีวีแทน จึงทำให้เทียบชั้นแบรนด์ดังไปโดยปริยาย ทั้งมีแอพส์ดังให้โหลดบน PlayStore ครบครัน มี Chromecast Built-in รองรับการเชื่อมต่อกับมือถือ แถมยังให้รีโมทคอนโทรลมาถึงสองอัน สามารถสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยผ่าน Google Assistant ได้ นับเป็นทีวีแบรนด์ไทยเจ้าแรกที่ทำทุกอย่างได้ครบในราคาที่ย่อมเยาว์เช่นนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการทาบชั้นท็อปแบรนด์จากต่างประเทศ
4
ห้อง VIDEOPHILE LCDTVTHAILAND AWARDS / ตัดสินแล้ว !! 11 รางวัล ทีวีที่ดีที่สุดประจำปี 2018-2019
« เมื่อ: มกราคม 30, 2019, 10:36:52 am »
มาแล้วกับการประกาศรางวัล VIDEOPHILE LCDTVTHAILAND AWARD ประจำปี 2018 - 2019 "รางวัลทีวีที่ดีที่สุดประจำปี" ในแต่ละสาขา ก็ก้าวสู่ครั้งที่ 8 ติดต่อกันแล้วที่เราประกาศรางวัลทุกสิ้นปีเช่นนี้ เรามีการแบ่งประเภทรางวัลตามเกรด และระดับราคา เพื่อเป็นแนวทางการเลือกซื้อทีวีตามงบประมาณที่ต่างกัน ทีวีทุกตัวที่ได้รับรางวัลจะผ่านการทดสอบอย่างเข้มข้นทั้งเรื่อง ภาพ เสียง ลูกเล่นสมาร์ททีวี การเชื่อมต่อ และดีไซน์ อันเป็นคุณสมบัติสำคัญที่จะบ่งบอกถึงคุณภาพที่ดีของทีวี สำหรับปีนี้มีการปรับเปลี่ยนการให้รางวัลให้เหมาะกับลักษณะการใช้งานจริงมากขึ้น อาทิ รางวัล Best Midrange และ Best Value 4K LED TV Award ก็จะแบ่งตามชนิดของจอ IPS & VA ซึ่งมีจุดเด่นแมตช์กับลักษณะการใช้งานที่ต่างกัน และสุดท้ายมีการเพิ่มรางวัล Best Gaming TV เข้ามาด้วย หากพร้อมแล้วมาดูกันดีกว่าว่า "ทีวีตัวไหน....คือทีวีที่ดีที่สุดประจำปี"
รางวัลทีวีที่ดีที่สุดประจำปี ตัดสินโดย LCDTVTHAILAND
ร่วมกับนิตยสาร Audiophile Videophile
คุณโรมัน พร้อมด้วยคุณคุณนาวี อินทรสังขนาวิน บรรณาธิการบริหาร นิตยสารออดิโอไฟล์ วีดีโอไฟล์
มอบรางวัล Best of The Best TV Award ให้กับคุณเท็ทซูทากะ ซูดะ, ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์
1) Best of The Best TV Award : Sony OLED TV A9F
Sony A9F เป็น 4K OLED TV ระดับ Master Series ที่อัพเกรดคุณภาพในทุกมิติจากขั้น ดี สู่คำว่า ดีเลิศ ตั้งแต่เรื่องภาพที่ให้ระดับความสว่างสูงขึ้น ให้พลังภาพที่แจ่มจรัส ช่วยขับให้วัตถุดูมีมิติมากยิ่งขึ้น ให้ระดับความดำได้ดำสนิท สีสันแม่นยำถูกต้องตั้งแต่แกะกล่องเทียบชั้นกับจอ OLED Studio Monitor ที่ใช้อ้างอิงในการผลิตภาพยนตร์ มีโหมดปรับขอบเขตสี Color Management System เพิ่มเติมเข้ามาสำหรับการปรับภาพเบื้องลึก เสริมด้วยฟีเจอร์ AutoCal จากค่าย CALMAN ที่ช่วยให้การปรับภาพละเอียดง่ายดายแค่คลิกเดียว นำภาพไปสู่ ระดับอ้างอิง ได้เร็วทันใจขึ้น ด้านการรับชมแบบออนไลน์มีของเล่นใหม่อย่างโหมดภาพ Netflix Calibrated Mode ที่ร่วมกับผู้ผลิตหนังและซีรีส์ในการไฟน์จูนภาพให้ถูกต้องอย่างที่ผู้กำกับต้องการสื่อให้เราเห็น ส่วนมาตรฐาน HDR ก็รองรับฟอร์แมตหลักในปัจจุบันทั้งหมดอย่าง Dolby Vision, HDR10 และ HLG ล่าสุดยังได้การรับรอง IMAX Enhanced เพิ่มมาอีก!
ด้านเสียงก็อัพเกรดเทคโนโลยีเดิมเป็น Acoustics Surface Audio + แบบ 3.2 แชนแนล ยิงเสียงทะลุออกจากกลางจอคล้ายกับโรงหนัง กำลังขับรวม 98 วัตต์ เสียงชัดเจน อิ่มแน่น เหมาะทั้งดูหนังฟังเพลง แถมยังประยุกต์ใช้เป็นลำโพง Center ในชุดโฮมเธียเตอร์จริงได้อีกด้วย สุดท้ายคือระบบ Smart TV ที่อัพเกรดไปเป็น AI ด้วย Android เวอร์ชั่นล่าสุด 8.0 ผสานกับ Google Assistant รองรับการสั่งงานทีวีด้วยเสียงภาษาอังกฤษและไทย มีสปีดที่ไวขึ้นกว่ารุ่นอื่นในท้องตลาด แถมยังจับคำพูดได้แม่นยำที่สุดในบรรดา Smart TV ด้วยกัน ที่ว้าวคือสามารถสั่งงานด้วยเสียงโดยตรงกับตัวทีวีได้แล้วนอกเหนือจากการสั่งผ่านรีโมทคอนโทรล ซึ่ง A9F ก็เป็นทีวีรุ่นแรกที่ทำได้ด้วย แอพใน PlayStore ก็การันตีทั้งคุณภาพและปริมาณของแอพ ดีไซน์ก็ยังคงคอนเซ็ปต์เรียบหรู One Slate กระจกเรียบแผ่นเดียวพร้อมขาตั้งทรงขาพับกรอบรูปที่ด้านหลัง A9F ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้างได้แก่แอพ YouTube ยังไม่รองรับ HDR คงต้องรอ Firmware แก้ไข (10/1/2019 ให้อัพเดทเฟิร์มแวร์แอพ YouTube รองรับ HDR แล้ว) และระดับราคาขายที่ค่อนข้างสูงหากเทียบกับบรรดา OLED TV ด้วยกัน
สรุปแล้วเป็นทีวีที่ ดีเลิศรอบด้าน ทั้งเรื่อง ภาพ+เสียง+ลูกเล่น+ดีไซน์+การเชื่อมต่อ ครบทุกองค์ประกอบทีวีที่ดีที่สุดของที่สุดพึงควรจะมี เพราะปัจจุบันทีวีไม่ใช่แค่เรื่องภาพอย่างเดียวเหมือนในอดีต ทว่ายังต้องคำนึงถึง UX : User Experience หรือประสบการณ์ใช้งานจริง อยากจะดูหรือเล่นอะไรบนทีวี ..ก็ต้องทำได้ทันที ! จึงขอมอบตำแหน่งราชันย์แห่งทีวีในปีนี้ให้กับ Sony OLED TV รุ่น A9F ไปครอง
คุณโรมัน มอบรางวัล Best Value 4K OLED TV ให้กับคุณเท็ทซูทากะ ซูดะ
2) Best Value 4K OLED TV : Sony OLED TV A8F
รางวัล OLED TV ที่คุ้มค่าที่สุดปีนี้ขอยกให้แก่ Sony A8F ที่มีราคาเปิดตัวที่ย่อมเยาว์ลง ใช้วิธีทอนชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็นและมีต้นทุนสูงอย่างขาพับด้านหลังออกไป จึงสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ตั้งแต่เริ่มเปิดตัว ด้านภาพอัพเกรดขึ้นจากรุ่น A1 เล็กน้อย ให้ภาพที่สว่างและสีสดจากเดิมอีกขยักเล็กๆ ให้โมชั่นภาพเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลดี รองรับ HDR ทุกฟอร์แมทหลักในปัจจุบัน ด้านเสียงใช้ลำโพง Acoustic Surface Audio แบบ 2.2 แชนแนล กำลังขับ 50 วัตต์ เสียงยิงออกจากกลางจอได้จริง เสียงมีมวลแน่นกว่าลำโพงทีวีทั่วไป ส่วน Android TV + Google Assistant ช่วยให้ระบบ Smart กลายเป็น AI อย่างเต็มตัว จัดเต็มทั้งแอพดูหนังเล่นเกมส์ รองรับคำสั่งเสียงภาษาอังกฤษและไทยที่แม่นยำที่สุด แต่ทว่ายังสั่งงานโดยตรงกับตัวทีวีไม่ได้แบบรุ่น A9F จึงอาจจะต้องหา Google Home มาเป็นตัวกลางแทน ดีไซน์สวยหรูไม่ว่าจะตั้งโต๊ะหรือแขวนผนัง หากเน้น OLED TV ที่ดีที่สุดทุกทางโดยไม่เกี่ยงงบประมาณ ก็ให้ไป A9F แต่หากเน้น คุ้มค่าคุ้มราคา ขอยกให้ตำแหน่งนี้ให้กับรุ่น A8F !
คุณโรมันมอบรางวัล Best 4K LED TV Award ให้กับคุณนันทพล ผู้สันติ ผู้จัดการสินค้ากลุ่มโทรทัศน์
3) Best 4K LED TV : Samsung Q9F
Samsung Q9F คือ QLED TV รุ่นท็อปที่สุดในปีนี้ ใช้เทคโนโลยี Quantum Dot ช่วยบูสท์เรื่องแสงสีให้ทะลุข้อจำกัดของ LED TV แบบเดิม ในปีนี้หันมาใช้โครงสร้างหลอดไฟแบบ Full Array LED Backlight สามารถดิมหลอด LED ได้เป็นโซนได้อย่างละเอียดยิ่บ สร้างระดับความดำได้ดีที่สุดในบรรดาทีวีที่ใช้หลอดไฟ LED เป็นแหล่งกำเนิดแสง ตลอดจนระดับความสว่างสูงสุดก็ทำได้สูงเวอร์กว่า 2,900 nits ในโหมด Dynamic และ 1600 nits ในโหมด Movie จึงเหมาะกับการรับชมทั้งห้องสว่างและห้องมืด เอาอยู่ทุกสภาพแสง ด้านการเล่นเกมส์ก็แทบเป็นเจ้าเดียวในท้องตลาดที่รองรับมาตรฐาน FreeSync 120Hz แสดงผลภาพจากเกมส์ได้สูงสุดถึง 120 เฟรมภาพต่อวินาทีแท้ แค่สเป็คด้านภาพอย่างเดียวก็แทบไร้คู่แข่งที่เป็น LED TV มาต่อกร ส่วนระบบปฎิบัติการ Smart TV อย่าง Tizen OS ใช้งานง่าย แอพยอดนิยมมีมาให้ครบ รวมถึงแอพดูช่องเกาหลีฟรีอย่าง TV Plus และ One Remote รีโมทจิ๋วดีไซน์หรูมาให้ใช้คู่กัน
Q9F อาจจะไม่ได้มีรูปลักษณ์ที่สวยที่สุดในบรรดา QLED TV แต่มีการ ดีไซน์อย่างชาญฉลาด อย่าง One Invisible Connection ช่วยควบรวมสายไฟและสายสัญญาณเอาไว้ในสายสีใสเส้นบางเพียงเส้นเดียว ทำให้ด้านหลังของทีวีดูสะอาดตาไม่รกรุงรัง สามารถแขวนทีวีให้เรียบชิดเข้ากับผนังเหมือนกับการแขวนกรอบรูปด้วย No Gap Wall Mount ที่แถมมาให้ในชุด มีลูกเล่น Magic Screen ที่โคลนนิ่งลวดลายบนผนังมาแสดงบนหน้าจอทีวีได้อย่างกลมกลืน ถือว่าเป็นทีวีขวัญใจของเหล่านักออกแบบภายในบ้าน สรุปว่า Samsung Q9F คือ 4K LED TV ที่ดีที่สุดประจำปี คว้ารางวัลไปครองอย่างเป็นเอกฉันท์
4) Best Midrange 4K LED TV : LG SK8500 & Samsung NU8000
ในปีนี้ทีมงานของแบ่งรางวัลให้ทีวี 2 รุ่นด้วยกัน แบ่งตามประเภทของจอ IPS & VA ที่ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน
IPS - In-Pane Switching : ชนิดของจอที่เด่นเรื่องมุมมองการรับชมด้านข้างที่กว้างและให้สีสันที่เข้มข้น
VA - Vertical Alignment : ชนิดของจอที่เด่นเรื่องการรับชมมุมตรง ให้ภาพที่สว่างเปิดโปร่ง สีสวยใส สดชื่น
คุณนาวี อินทรสังขนาวิน (ซ้าย) และคุณโรมัน (ขวา) ถ่ายภาพประกบคู่คุณนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี (กลาง),
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ ประเทศไทย (จำกัด)
LG SK8500 (IPS)
ไม่น่าเชื่อว่า LG จะนำเทคโลยีหลอดไฟแบบ Full Array LED Backlight ที่มีต้นทุนสูงลงมาใส่ในทีวีซีรีส์ 8 โดยโครงสร้างหลอดไฟแบบนี้มีความสามารถในการดิมไฟได้ดีกว่า Edge LED ทุกรุ่นของตัวเองในปีนี้ สร้างระดับความดำเฉพาะจุดได้ดีขึ้น ใช้จอ Panel แบบ IPS ซึ่งมีจุดเด่นคือมุมมองการรับชมกว้าง มองมุมเฉียงสีก็ยังคงความสดไว้ได้ดี ใช้ชิพ Alpha 7 ผสานเทคโนโลยีขยายขอบเขตสีอย่าง Nano Cell ให้ภาพสีสวยสดเข้มได้มาตรฐานทีวีระดับกลางบน คุณภาพเสียงก็ดีไม่แพ้ภาพ เสียงใหญ่แน่นเกินตัว ส่วนลูกเล่น Smart TV ก็จัดจ้านไม่เบา เพราะใช้ ThinQ AI พร้อม Magic Remote รองรับการการค้นหาคอนเทนต์ด้วยคำสั่งเสียง และเจ้าตัวรีโมทก็ยังทำงานเหมือน Air Mouse ใช้งานได้ง่ายมาก ลองแล้วจะติดใจ จึงขอยกให้ LG SK8500 เป็น 4K LED TV ระดับกลางค่อนบนที่ใช้จอ IPS ที่ให้คุณภาพที่ดีที่สุดในเกรดทีวีระดับราคานี้
คุณนาวี อินทรสังขนาวิน บรรณาธิการบริหาร นิตยสารออดิโอไฟล์ วีดีโอไฟล์
มอบรางวัล Best Midrange 4K LED TV Award ให้กับคุณนันทพล ผู้สันติ
Samsung NU8000 (VA)
NU8000 คือ 4K LED TV ระดับกลางบนที่ใช้จอ VA ให้คุณภาพของภาพได้เกือบเทียบเท่าทีวีเลเวลสูงของตัวเองอย่าง QLED TV รุ่นเริ่มต้น ให้ภาพสีสวย เปิดโปร่ง สะอาดตา ถึงแม้ใช้โครงสร้างหลอดไฟ Edge LED แต่ก็สามารถทำ Local Dimming ได้อย่างเนียนตา ให้ระดับความดำของภาพได้ดีเยี่ยมเมื่อรับชมมุมตรงกลางจอ ที่สำคัญรองรับ FreeSync 120Hz ด้วย โดนใจคอเกมส์ขาโหดมิใช่น้อย ที่จริง NU8000 ก็มีเวอร์ชั่นฝาแฝดแต่เป็นจอโค้งนั่นก็คือ NU8500 ซึ่งให้ประสิทธิภาพดีเหมือนกัน แต่ต่างกันแค่เรื่องของดีไซน์ ส่วนลูกเล่น Smart TV ก็ใช้ระบบปฏิบัติการ Tizen OS มีหน้าตาเมนูแบบ 2 ชั้น ใช้งานง่ายด้วย One Remote รีโมทอันเดียวควบคุมได้ทุกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับทีวี มีแอพขวัญใจสาวกอปป้าอย่าง TV Plus ให้ดูช่องเกาหลีฟรีไม่มีรายเดือนกว่า 30 ช่อง ทีมงานขอยกให้เป็น 4K LED TV ระดับกลางค่อนบนที่ใช้จอ VA ที่ให้คุณภาพดีที่สุดในเกรดทีวีระดับราคานี้
5) Best Value 4K LED TV : Hisense U7A & Panasonic FX700
ในปีนี้รางวัลทีวี 4K ที่ให้ความคุ้มค่าสูงที่สุด ทีมงานขอฟันธงให้ 2 ตัวตามประเภทจอ IPS และ VA ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน
คุณโรมัน มอบถ้วยรางวัล Best Value 4K LED TV Award ให้กับคุณ Mr. Finn Zhang, Managing Director
Hisense U7A (VA)
แบรนด์จีนน้องใหม่ไฟแรงอย่าง Hisense เป็นถึงสปอนเซอร์หลักอย่างเป็นทางการของฟุตบอลโลก 2018 ได้สร้างปรากฏการณ์ U7A ฟีเวอร์ในบ้านเราได้อย่างรวดเร็ว เนื่องด้วยคุณภาพที่ดีเคียงคู่กับราคาที่เย้ายวนใจ ตัวเครื่องดีไซน์หรู วัสดุโลหะเงาวับแข็งแรง ความละเอียด 4K ใช้จอภาพแบบ VA ผสานเทคโลยี Wide Color Gamut ทำให้คอนทราสต์และสีสันของภาพเหนือกว่าทีวีระดับราคาใกล้เคียงกันไปหนึ่งขยัก คุณภาพเสียงก็ดังกระหึ่มเกินตัว เปิดระดับโวลุ่มแค่ไม่กี่สิบก็กระหึ่มลั่นบ้าน ส่วนลูกเล่น Smart TV ใช้ระบบปฏิบัติการ VIDAA U แม้ตัวระบบอาจจะดูไม่หวือหวานัก แต่ก็มีแอพหลักให้เพียงพอกับการใช้งาน แถมด้วยเปิดหัวรับประกัน 3 ปีเต็มตั้งแต่เริ่มขายแบบไม่มีกั๊ก จึงขอมอบรางวัลทีวี 4K ที่ใช้จอ VA ที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุดกับ Hisense U7A ไปครอง
คุณโรมันมอบถ้วยรางวัล Best Value 4K LED TV Award ให้กับมร.ทาคาชิ ซาซากิ,
ผู้อำนวยการส่วนงานขายและการตลาด ผลิตภัณฑ์คอมซูมเมอร์ บริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
Panasonic FX700 (IPS)
หาก U7A คือทีวีที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับจอ VA | Panasonic FX700 ก็คือผู้ชนะอีกฝั่งสำหรับจอ IPS โดย FX700 มีจุดเด่นเรื่องภาพที่ให้ความเป็นธรรมชาติ สีสันเข้มข้น มุมมองการรับชมกว้าง มีฟีเจอร์ปรับภาพเบื้องลึกค่อนข้างละเอียดไม่แพ้รุ่นท็อปของ Panasonic เอง มีดีไซน์ "ขาตั้งอเนกประสงค์" ที่ตอบโจทย์ทุกการติดตั้ง สลับได้ทั้งแบบแคบและกว้าง แถมเสียบยึดได้โดยไม่ต้องใช้น็อต สุดท้ายลูกเล่น Smart TV ใช้ระบบปฏิบัติการ My Home Screen 3.0 หน้าตาและลูกเล่นอาจไม่ได้แฟนซีมากนัก แต่ก็แลกกับสปีดการทำงานที่ค่อนข้างไว โดยรุ่นนี้ก็ให้การรับประกัน 3 ปีมาตั้งแต่ต้นด้วย จึงขอมอบรางวัลทีวี 4K ที่ใช้จอ IPS ที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุดกับ Panasonic FX700 ไปครอง
คุณโรมันมอบรางวัล Best Budget 4K LED TV Award ให้กับคุณหลินฮวน ฟาน, Marketing Manager, TCL Thailand
6) Best Budget 4K LED TV : TCL P6US
สำหรับรางวัลทีวี 4K ราคาถูกจริงถูกจัง สบายกระเป๋า แต่ให้คุณภาพได้แอบดีเกินค่าตัวก็ตกเป็นของ TCL P6US โดยรุ่นนี้เปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่ช่วงต้นปี ด้วยดีไซน์ที่เพรียวบาง ให้ภาพ 4K ที่ สด-เปิด-สว่าง หากได้ตั้งเทียบกับรุ่นอดีตเคยเทพอย่าง Q7700 จะเห็นว่า P6US จะให้ภาพที่ซู่ซ่ากว่าอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงหากได้เทียบกับทีวี 4K รุ่นถูกสุดกับหลายๆแบรนด์ เจ้าตัวนี้ก็ยังให้ภาพที่ดีกว่าเพื่อนซักครึ่งก้าว (แถมราคาถูกกว่าอีก) ระบบ Smart TV แม้เป็นแบบพื้นฐาน แต่ให้แอพที่ควรมีติดมาให้ครบเช่น YouTube และ Netflix ประกัน 3 ปี และในบางช่วงของโปรโมชั่น ยังเคยเพิ่มระยะเวลาปรับประกันให้เป็น 5 ปีด้วยซะด้วย หากงบประมาณมีไม่เยอะนัก TCL P6US คือทีวี 4K ที่เป็นมิตรกับสตางค์ในกระเป๋ามากที่สุด ฟันธง !
คุณนาวี อินทรสังขนาวิน มอบรางวัล Best Gaming TV Award
ให้กับคุณณัฏฐ์ โรเบิร์ตส, Digital Marketing Manager
7) Best Gaming TV : Samsung Q9F
นอกจากถูกยกให้เป็น 4K LED TV ที่ดีที่สุดในปีนี้แล้ว เรายังขอมอบตำแหน่งทีวีที่เหมาะกับการเล่นเกมส์มากที่สุดควบให้อีกรางวัล Samsung Q9F มีโหมด Game ที่ช่วยลดค่า Input Lag ให้ต่ำกว่า 20 ms ซึ่งถือว่าตอบสนองต่อคำสั่งจอยได้ไวมาก และเป็นแบรนด์เดียวที่มีฟีเจอร์แทรกเฟรมภาพสำหรับการเล่นเกมส์อย่าง Game Motion Plus ที่ช่วยให้ภาพลื่นไหลขึ้นโดยกระทบต่อค่า Input Lag เพียงเล็กน้อยเท่านั้น รองรับมาตรฐาน FreeSync 120Hz ทาง HDMI จากทั้งเครื่องเล่นเกม Xbox และ PC สามารถแสดงผลภาพ 120 เฟรมภาพต่อวินาทีแท้ได้ มีระดับความสว่างสูงด้วยโครงสร้างหลอดไฟแบบ Full Array LED Backlight ระเบิดพลังภาพ HDR ได้อย่างสว่างเจิดจรัส และยังคุมระดับความดำเฉพาะจุดได้ดีเยี่ยม เหมาะกับการใช้เล่นเกมส์ในห้องทุกสภาพแสง อีกจุดที่สำคัญคือเรื่อง Burn in Free = Worry Free : ไม่ต้องห่วงเบิร์น ไม่ว่าจะเปิดเล่นเกมส์นานเท่าไหร่ หรือเปิดฉากนิ่งค้างไว้บนจอนานแค่ไหน ภาพก็ไม่มีทาง Burn-in (ภาพและโลโก้ค้างติดหน้าจอ) ซึ่งทั้งหมดคือจุดเด่นที่ ดีอย่างสมดุลที่สุด ต่อการเล่นเกมส์ จึงขอมอบรางวัลทีวีขวัญใจเกมเมอร์ให้กับ Samsung Q9F ไปครอง
คุณโรมันมอบรางวัล Best Full HD LED 4K LED TV Award ให้กับคุณหลินฮวน ฟาน, Marketing manager TCL Thailand
8) Best Full HD TV Award : TCL S6500
Full HD TV ครบ จบในเครื่องเดียว! คือนิยามที่สามารถมอบให้กับ TCL S6500 ได้ เพราะนอกจากจะเป็นทีวีที่สามารถปรับภาพได้ในแบบเชิงลึกแล้ว TCL ยังนำเอา Android 8.0 + Google Assistant มาใส่ลงในเครื่องนี้ให้ด้วย ลองคิดดูขนาดรุ่น 4K ของแบรนด์ตัวเองรุ่นพิมพ์นิยมอย่าง P6US ยังไม่ใช่ Android TV แต่ S6500 รุ่นนี้กลับได้มาใช้เป็นระบบปฏิบัติการของตัวเครื่อง แถมการทำงาน อัตราการตอบสนองก็รวดเร็ว นอกจากนี้ ที่สำคัญคือเป็น Full HD TV ที่รองรับ HDR เสริมศักยภาพด้านภาพให้แจ่มจรัสขึ้น ยกระดับภาพให้สูงกว่า Full HD TV อื่นๆ ขึ้นมาหนึ่งระดับ บวกกับระดับราคาที่ทำได้เย้ายวนใจ อย่างในขนาด 49" ที่ทางเราได้รับมาทดสอบ ก็อยู่ในช่วงหนึ่งหมื่นบาทต้นๆ เท่านั้น ดังนั้นรุ่นนี้สมแล้วที่จะได้รางวัล Best Full HD TV AWARD!!
คุณโรมัน มอบถ้วยรางวัลให้กับ มิสเตอร์ Wu Xianfeng, Operation Director
9) Best Value Full HD TV : Skyworth E6
รุ่นเล็ก สเป็คแรงส์ คือคำจำกัดความของ Skyworth E6 ถึงแม้เป็นเพียงทีวีความละเอียด Full HD แต่ก็ใจป้ำให้ระบบปฏิบัติการ Android 8.0 + Google Assistant ขั้นเทพมาให้ ซึ่งโดยปกติแล้วทีวีที่ใช้ Android OS แท้แบบนี้มักจะมีต้นทุนสูง แต่ Skyworth ก็กล้าที่จะเอามาใส่ในทีวี Full HD ระดับเริ่มต้น ทุกลูกเล่นฟีเจอร์ที่รุ่นใหญ่ราคาสูงทำได้ เจ้า E6 ตัวนี้ก็สามารถทำได้ ทั้งการสั่งงานด้วยเสียงทั้งภาษาไทยและอังกฤษ มีครบทุกแอพยอดนิยมอย่าง YouTube และ พวกเกมส์กราฟฟิกสวยงาม ตัวเครื่องมีดีไซน์สวย กรอบสีเงินดูดีมีราคา ส่วนระบบภาพและเสียงก็อยู่ในระดับเบสิคทั่วไปเพียงพอกับการใช้งานพื้นฐาน ไม่ได้มีอะไรให้ชมหรือติเป็นพิเศษสำหรับทีวีราคาระดับนี้ รับประกันนาน 3 ปีเต็ม เป็นทีวี 1080p ราคาเบาๆทีมีลูกเล่นการใช้งานที่ไฮโซและแพรวพราวที่สุด เป็นของดีที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้ เลยขอมอบรางวัล Best Value Full HD TV ชี้เป้าให้เลย !
คุณนาวี อินทรสังขนาวิน มอบรางวัล Best Smart TV ให้กับคุณเท็ทซูทากะ ซูดะ
10) Best Smart TV : Sony Android 8.0
ในปีนี้ระบบปฏิบัติการ Android ที่ร่วมผนึกกำลังกับ Google Assistant คือสิ่งที่ยกระดับคำว่า Smart TV ให้เป็น AI TV จากทีวีที่แค่ ฉลาด สู่ อัจฉริยะ อย่างเต็มตัว ทีมงานขอยกตำแหน่งชนะเลิศให้ Sony Android TV โดยเฉพาะรุ่นท็อป A9F ที่มีสปีดการทำงานไวกว่าใครเพื่อน มาดูเหตุผลว่าทำไมถึงคู่ควรกับรางวัลนี้ ?
- Android 8.0 มีหน้า UI แบบใหม่ ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน
- Google PlayStore มีแอพเยอะ ส่วนใหญ่คุณภาพดีและใช้งานได้จริง
- อย่างแอพส์เกมส์ก็มีกราฟฟิกที่สวยงาม เชื่อมต่อกับจอย Dual Shock ของ PS4 เล่นได้แบบจริงจัง
- มี Chromecast Built-In จึง Cast แอพต่างๆแสดงขึ้นจอได้อย่างหลากหลาย
- รองรับการสั่งงานและค้นหาคอนเทนต์ด้วย คำสั่งเสียง ทั้งภาษาไทย อังกฤษ จีนและอื่นๆ อันที่จริงครอบคลุมแทบทุกภาษา
- จับคำสั่งเสียงได้ แม่นยำที่สุด ร้องเพลงใส่รีโมทซักประโยค ยังโชว์คลิปเพลงนั้นขึ้นมาได้
- ค้นหาหนัง คลิป เพลง ถามหาเส้นทาง หรือกระทั่งพยากรณ์อากาศ ด้วยคำสั่งเสียงได้
- สามารถเชื่อมต่อกับ Google Home หรือ Amazon Echo เพื่อสั่งงานทีวีด้วยเสียง
- รุ่น A9F มีรูไมค์บนตัวทีวี สามารถใช้เสียงสั่งงานโดยตรงกับตัวทีวีได้เลย ไม่ต้องสั่งผ่านรีโมทก็ได้
- มีข้อจำกัดบ้างอย่างแอพ YouTube ยังไม่รองรับ HDR (10/1/2019 ให้อัพเดทแอพล่าสุด = รองรับ HDR แล้ว)
- แต่แอพดูหนังและซีรีส์อย่าง Netflix ก็รองรับ HDR ทั้ง HDR10 และ Dolby Vision
- ส่วน Android TV รุ่นเริ่มต้นสปีดการทำงานอาจไม่ไวถึงใจนัก แต่รุ่นท็อปก็สเป็คแรงขึ้น ทำงานไวกว่ารุ่นก่อนจริง
ย้ำอีกทีว่ายุคนี้ทีวี ไม่ใช่แค่เรื่องภาพ ทว่าต้องคำนึงถึงการใช้งานจริงด้วย จะต้องมีแอพหรือคอนเทนต์ที่เราอยากดู และจะต้องเข้าดูได้ง่าย+รวดเร็ว มิใช่ต้องมาใช้รีโมทกด Search ทีละตัวอักษรเหมือนในอดีต นี่แหละคือ ทีวีที่ปรนิบัติเรา มิใช่ให้เราไปปรนิบัติทีวี !
คุณโรมัน มอบรางวัล Best Design Award ให้กับคุณณัฏฐ์ โรเบิร์ตส
11) Best Design Award : Samsung Q8C
รางวัลทีวีดีไซน์ยอดเยี่ยมในปีนี้ ทางทีมงานไม่ได้ตัดสินเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามเพียงอย่างเดียว ทว่าต้องสวยอย่างฉลาด และมีประโยชน์กับการใช้งานจริงด้วย ซึ่งเมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว Samsung Q8C ถือว่าเป็นทีวีที่เอาชนะได้ในทั้งรูปลักษณ์ที่สวยงาม และการออกแบบที่คำนึงถึงการติดตั้งมากที่สุด
Samsung Q8C เป็นทีวีจอโค้งเพียงรุ่นเดียวที่ในปีนี้ของ QLED Series ขึ้นชื่อว่าจอโค้งหรือ Curved TV แค่ตั้งไว้เฉยๆก็สวยโดดเด่นเกินหน้าเกินตาทีวีรุ่นอื่นๆ อยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีเหตุผลด้านอื่นๆ ที่ทีมงานมองเห็นแล้วว่านี่แหล่ะ คือทีวีที่สวยทั้งรูป .แถมจูบหอมด้วย !
- จอโค้งดีไซน์ขอบบาง ดูสวยโฉบเฉี่ยวทั้งด้านหน้าและหลัง
- หากนั่งรับชมใกล้พอประมาณ ก็จะได้บรรยากาศโอบล้อมหลักการเดียวกับโรงหนัง IMAX ที่เป็นจอโค้งเช่นกัน
- One Invisible Connection รวมทั้งสายไฟ และสายสัญญาณไว้ในสายบางๆ เพียงเส้นเดียวได้จริง จึงไม่มีสายรกรุงรังด้านหลังเครื่อง ดูสะอาดตา เป็นลูกเล่นขวัญใจนักออกแบบตกแต่งภายใน
- ฟีเจอร์ Magic Screen สามารถโคลนนิ่งลวดลายบนผนังมาแสดงบนจอ ช่วยตกแต่งบ้านให้สวยงาม
- เคียงคู่มากับ One Remote รีโมทสีเงินที่มีขนาดจิ๋วแต่แจ๋ว แถมใช้ควบคุมทุกอุปกรณ์เชื่อมต่อได้
สวยทั้งภายใน และภายนอกแบบนี้เปรียบดั่งสาวสวยหุ่นเซี๊ยะที่ทั้งฉลาดและทำงานเก่ง ขอมอบสายสะพายรางวัลดีไซน์ยอดเยี่ยมแห่งปีให้แก่ Samsung Q8C ไปครอง
รางวัลทีวีที่ดีที่สุดประจำปี ตัดสินโดย LCDTVTHAILAND
ร่วมกับนิตยสาร Audiophile Videophile
คุณโรมัน พร้อมด้วยคุณคุณนาวี อินทรสังขนาวิน บรรณาธิการบริหาร นิตยสารออดิโอไฟล์ วีดีโอไฟล์
มอบรางวัล Best of The Best TV Award ให้กับคุณเท็ทซูทากะ ซูดะ, ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์
1) Best of The Best TV Award : Sony OLED TV A9F
Sony A9F เป็น 4K OLED TV ระดับ Master Series ที่อัพเกรดคุณภาพในทุกมิติจากขั้น ดี สู่คำว่า ดีเลิศ ตั้งแต่เรื่องภาพที่ให้ระดับความสว่างสูงขึ้น ให้พลังภาพที่แจ่มจรัส ช่วยขับให้วัตถุดูมีมิติมากยิ่งขึ้น ให้ระดับความดำได้ดำสนิท สีสันแม่นยำถูกต้องตั้งแต่แกะกล่องเทียบชั้นกับจอ OLED Studio Monitor ที่ใช้อ้างอิงในการผลิตภาพยนตร์ มีโหมดปรับขอบเขตสี Color Management System เพิ่มเติมเข้ามาสำหรับการปรับภาพเบื้องลึก เสริมด้วยฟีเจอร์ AutoCal จากค่าย CALMAN ที่ช่วยให้การปรับภาพละเอียดง่ายดายแค่คลิกเดียว นำภาพไปสู่ ระดับอ้างอิง ได้เร็วทันใจขึ้น ด้านการรับชมแบบออนไลน์มีของเล่นใหม่อย่างโหมดภาพ Netflix Calibrated Mode ที่ร่วมกับผู้ผลิตหนังและซีรีส์ในการไฟน์จูนภาพให้ถูกต้องอย่างที่ผู้กำกับต้องการสื่อให้เราเห็น ส่วนมาตรฐาน HDR ก็รองรับฟอร์แมตหลักในปัจจุบันทั้งหมดอย่าง Dolby Vision, HDR10 และ HLG ล่าสุดยังได้การรับรอง IMAX Enhanced เพิ่มมาอีก!
ด้านเสียงก็อัพเกรดเทคโนโลยีเดิมเป็น Acoustics Surface Audio + แบบ 3.2 แชนแนล ยิงเสียงทะลุออกจากกลางจอคล้ายกับโรงหนัง กำลังขับรวม 98 วัตต์ เสียงชัดเจน อิ่มแน่น เหมาะทั้งดูหนังฟังเพลง แถมยังประยุกต์ใช้เป็นลำโพง Center ในชุดโฮมเธียเตอร์จริงได้อีกด้วย สุดท้ายคือระบบ Smart TV ที่อัพเกรดไปเป็น AI ด้วย Android เวอร์ชั่นล่าสุด 8.0 ผสานกับ Google Assistant รองรับการสั่งงานทีวีด้วยเสียงภาษาอังกฤษและไทย มีสปีดที่ไวขึ้นกว่ารุ่นอื่นในท้องตลาด แถมยังจับคำพูดได้แม่นยำที่สุดในบรรดา Smart TV ด้วยกัน ที่ว้าวคือสามารถสั่งงานด้วยเสียงโดยตรงกับตัวทีวีได้แล้วนอกเหนือจากการสั่งผ่านรีโมทคอนโทรล ซึ่ง A9F ก็เป็นทีวีรุ่นแรกที่ทำได้ด้วย แอพใน PlayStore ก็การันตีทั้งคุณภาพและปริมาณของแอพ ดีไซน์ก็ยังคงคอนเซ็ปต์เรียบหรู One Slate กระจกเรียบแผ่นเดียวพร้อมขาตั้งทรงขาพับกรอบรูปที่ด้านหลัง A9F ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้างได้แก่แอพ YouTube ยังไม่รองรับ HDR คงต้องรอ Firmware แก้ไข (10/1/2019 ให้อัพเดทเฟิร์มแวร์แอพ YouTube รองรับ HDR แล้ว) และระดับราคาขายที่ค่อนข้างสูงหากเทียบกับบรรดา OLED TV ด้วยกัน
สรุปแล้วเป็นทีวีที่ ดีเลิศรอบด้าน ทั้งเรื่อง ภาพ+เสียง+ลูกเล่น+ดีไซน์+การเชื่อมต่อ ครบทุกองค์ประกอบทีวีที่ดีที่สุดของที่สุดพึงควรจะมี เพราะปัจจุบันทีวีไม่ใช่แค่เรื่องภาพอย่างเดียวเหมือนในอดีต ทว่ายังต้องคำนึงถึง UX : User Experience หรือประสบการณ์ใช้งานจริง อยากจะดูหรือเล่นอะไรบนทีวี ..ก็ต้องทำได้ทันที ! จึงขอมอบตำแหน่งราชันย์แห่งทีวีในปีนี้ให้กับ Sony OLED TV รุ่น A9F ไปครอง
คุณโรมัน มอบรางวัล Best Value 4K OLED TV ให้กับคุณเท็ทซูทากะ ซูดะ
2) Best Value 4K OLED TV : Sony OLED TV A8F
รางวัล OLED TV ที่คุ้มค่าที่สุดปีนี้ขอยกให้แก่ Sony A8F ที่มีราคาเปิดตัวที่ย่อมเยาว์ลง ใช้วิธีทอนชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็นและมีต้นทุนสูงอย่างขาพับด้านหลังออกไป จึงสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ตั้งแต่เริ่มเปิดตัว ด้านภาพอัพเกรดขึ้นจากรุ่น A1 เล็กน้อย ให้ภาพที่สว่างและสีสดจากเดิมอีกขยักเล็กๆ ให้โมชั่นภาพเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลดี รองรับ HDR ทุกฟอร์แมทหลักในปัจจุบัน ด้านเสียงใช้ลำโพง Acoustic Surface Audio แบบ 2.2 แชนแนล กำลังขับ 50 วัตต์ เสียงยิงออกจากกลางจอได้จริง เสียงมีมวลแน่นกว่าลำโพงทีวีทั่วไป ส่วน Android TV + Google Assistant ช่วยให้ระบบ Smart กลายเป็น AI อย่างเต็มตัว จัดเต็มทั้งแอพดูหนังเล่นเกมส์ รองรับคำสั่งเสียงภาษาอังกฤษและไทยที่แม่นยำที่สุด แต่ทว่ายังสั่งงานโดยตรงกับตัวทีวีไม่ได้แบบรุ่น A9F จึงอาจจะต้องหา Google Home มาเป็นตัวกลางแทน ดีไซน์สวยหรูไม่ว่าจะตั้งโต๊ะหรือแขวนผนัง หากเน้น OLED TV ที่ดีที่สุดทุกทางโดยไม่เกี่ยงงบประมาณ ก็ให้ไป A9F แต่หากเน้น คุ้มค่าคุ้มราคา ขอยกให้ตำแหน่งนี้ให้กับรุ่น A8F !
คุณโรมันมอบรางวัล Best 4K LED TV Award ให้กับคุณนันทพล ผู้สันติ ผู้จัดการสินค้ากลุ่มโทรทัศน์
3) Best 4K LED TV : Samsung Q9F
Samsung Q9F คือ QLED TV รุ่นท็อปที่สุดในปีนี้ ใช้เทคโนโลยี Quantum Dot ช่วยบูสท์เรื่องแสงสีให้ทะลุข้อจำกัดของ LED TV แบบเดิม ในปีนี้หันมาใช้โครงสร้างหลอดไฟแบบ Full Array LED Backlight สามารถดิมหลอด LED ได้เป็นโซนได้อย่างละเอียดยิ่บ สร้างระดับความดำได้ดีที่สุดในบรรดาทีวีที่ใช้หลอดไฟ LED เป็นแหล่งกำเนิดแสง ตลอดจนระดับความสว่างสูงสุดก็ทำได้สูงเวอร์กว่า 2,900 nits ในโหมด Dynamic และ 1600 nits ในโหมด Movie จึงเหมาะกับการรับชมทั้งห้องสว่างและห้องมืด เอาอยู่ทุกสภาพแสง ด้านการเล่นเกมส์ก็แทบเป็นเจ้าเดียวในท้องตลาดที่รองรับมาตรฐาน FreeSync 120Hz แสดงผลภาพจากเกมส์ได้สูงสุดถึง 120 เฟรมภาพต่อวินาทีแท้ แค่สเป็คด้านภาพอย่างเดียวก็แทบไร้คู่แข่งที่เป็น LED TV มาต่อกร ส่วนระบบปฎิบัติการ Smart TV อย่าง Tizen OS ใช้งานง่าย แอพยอดนิยมมีมาให้ครบ รวมถึงแอพดูช่องเกาหลีฟรีอย่าง TV Plus และ One Remote รีโมทจิ๋วดีไซน์หรูมาให้ใช้คู่กัน
Q9F อาจจะไม่ได้มีรูปลักษณ์ที่สวยที่สุดในบรรดา QLED TV แต่มีการ ดีไซน์อย่างชาญฉลาด อย่าง One Invisible Connection ช่วยควบรวมสายไฟและสายสัญญาณเอาไว้ในสายสีใสเส้นบางเพียงเส้นเดียว ทำให้ด้านหลังของทีวีดูสะอาดตาไม่รกรุงรัง สามารถแขวนทีวีให้เรียบชิดเข้ากับผนังเหมือนกับการแขวนกรอบรูปด้วย No Gap Wall Mount ที่แถมมาให้ในชุด มีลูกเล่น Magic Screen ที่โคลนนิ่งลวดลายบนผนังมาแสดงบนหน้าจอทีวีได้อย่างกลมกลืน ถือว่าเป็นทีวีขวัญใจของเหล่านักออกแบบภายในบ้าน สรุปว่า Samsung Q9F คือ 4K LED TV ที่ดีที่สุดประจำปี คว้ารางวัลไปครองอย่างเป็นเอกฉันท์
4) Best Midrange 4K LED TV : LG SK8500 & Samsung NU8000
ในปีนี้ทีมงานของแบ่งรางวัลให้ทีวี 2 รุ่นด้วยกัน แบ่งตามประเภทของจอ IPS & VA ที่ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน
IPS - In-Pane Switching : ชนิดของจอที่เด่นเรื่องมุมมองการรับชมด้านข้างที่กว้างและให้สีสันที่เข้มข้น
VA - Vertical Alignment : ชนิดของจอที่เด่นเรื่องการรับชมมุมตรง ให้ภาพที่สว่างเปิดโปร่ง สีสวยใส สดชื่น
คุณนาวี อินทรสังขนาวิน (ซ้าย) และคุณโรมัน (ขวา) ถ่ายภาพประกบคู่คุณนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี (กลาง),
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ ประเทศไทย (จำกัด)
LG SK8500 (IPS)
ไม่น่าเชื่อว่า LG จะนำเทคโลยีหลอดไฟแบบ Full Array LED Backlight ที่มีต้นทุนสูงลงมาใส่ในทีวีซีรีส์ 8 โดยโครงสร้างหลอดไฟแบบนี้มีความสามารถในการดิมไฟได้ดีกว่า Edge LED ทุกรุ่นของตัวเองในปีนี้ สร้างระดับความดำเฉพาะจุดได้ดีขึ้น ใช้จอ Panel แบบ IPS ซึ่งมีจุดเด่นคือมุมมองการรับชมกว้าง มองมุมเฉียงสีก็ยังคงความสดไว้ได้ดี ใช้ชิพ Alpha 7 ผสานเทคโนโลยีขยายขอบเขตสีอย่าง Nano Cell ให้ภาพสีสวยสดเข้มได้มาตรฐานทีวีระดับกลางบน คุณภาพเสียงก็ดีไม่แพ้ภาพ เสียงใหญ่แน่นเกินตัว ส่วนลูกเล่น Smart TV ก็จัดจ้านไม่เบา เพราะใช้ ThinQ AI พร้อม Magic Remote รองรับการการค้นหาคอนเทนต์ด้วยคำสั่งเสียง และเจ้าตัวรีโมทก็ยังทำงานเหมือน Air Mouse ใช้งานได้ง่ายมาก ลองแล้วจะติดใจ จึงขอยกให้ LG SK8500 เป็น 4K LED TV ระดับกลางค่อนบนที่ใช้จอ IPS ที่ให้คุณภาพที่ดีที่สุดในเกรดทีวีระดับราคานี้
คุณนาวี อินทรสังขนาวิน บรรณาธิการบริหาร นิตยสารออดิโอไฟล์ วีดีโอไฟล์
มอบรางวัล Best Midrange 4K LED TV Award ให้กับคุณนันทพล ผู้สันติ
Samsung NU8000 (VA)
NU8000 คือ 4K LED TV ระดับกลางบนที่ใช้จอ VA ให้คุณภาพของภาพได้เกือบเทียบเท่าทีวีเลเวลสูงของตัวเองอย่าง QLED TV รุ่นเริ่มต้น ให้ภาพสีสวย เปิดโปร่ง สะอาดตา ถึงแม้ใช้โครงสร้างหลอดไฟ Edge LED แต่ก็สามารถทำ Local Dimming ได้อย่างเนียนตา ให้ระดับความดำของภาพได้ดีเยี่ยมเมื่อรับชมมุมตรงกลางจอ ที่สำคัญรองรับ FreeSync 120Hz ด้วย โดนใจคอเกมส์ขาโหดมิใช่น้อย ที่จริง NU8000 ก็มีเวอร์ชั่นฝาแฝดแต่เป็นจอโค้งนั่นก็คือ NU8500 ซึ่งให้ประสิทธิภาพดีเหมือนกัน แต่ต่างกันแค่เรื่องของดีไซน์ ส่วนลูกเล่น Smart TV ก็ใช้ระบบปฏิบัติการ Tizen OS มีหน้าตาเมนูแบบ 2 ชั้น ใช้งานง่ายด้วย One Remote รีโมทอันเดียวควบคุมได้ทุกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับทีวี มีแอพขวัญใจสาวกอปป้าอย่าง TV Plus ให้ดูช่องเกาหลีฟรีไม่มีรายเดือนกว่า 30 ช่อง ทีมงานขอยกให้เป็น 4K LED TV ระดับกลางค่อนบนที่ใช้จอ VA ที่ให้คุณภาพดีที่สุดในเกรดทีวีระดับราคานี้
5) Best Value 4K LED TV : Hisense U7A & Panasonic FX700
ในปีนี้รางวัลทีวี 4K ที่ให้ความคุ้มค่าสูงที่สุด ทีมงานขอฟันธงให้ 2 ตัวตามประเภทจอ IPS และ VA ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน
คุณโรมัน มอบถ้วยรางวัล Best Value 4K LED TV Award ให้กับคุณ Mr. Finn Zhang, Managing Director
Hisense U7A (VA)
แบรนด์จีนน้องใหม่ไฟแรงอย่าง Hisense เป็นถึงสปอนเซอร์หลักอย่างเป็นทางการของฟุตบอลโลก 2018 ได้สร้างปรากฏการณ์ U7A ฟีเวอร์ในบ้านเราได้อย่างรวดเร็ว เนื่องด้วยคุณภาพที่ดีเคียงคู่กับราคาที่เย้ายวนใจ ตัวเครื่องดีไซน์หรู วัสดุโลหะเงาวับแข็งแรง ความละเอียด 4K ใช้จอภาพแบบ VA ผสานเทคโลยี Wide Color Gamut ทำให้คอนทราสต์และสีสันของภาพเหนือกว่าทีวีระดับราคาใกล้เคียงกันไปหนึ่งขยัก คุณภาพเสียงก็ดังกระหึ่มเกินตัว เปิดระดับโวลุ่มแค่ไม่กี่สิบก็กระหึ่มลั่นบ้าน ส่วนลูกเล่น Smart TV ใช้ระบบปฏิบัติการ VIDAA U แม้ตัวระบบอาจจะดูไม่หวือหวานัก แต่ก็มีแอพหลักให้เพียงพอกับการใช้งาน แถมด้วยเปิดหัวรับประกัน 3 ปีเต็มตั้งแต่เริ่มขายแบบไม่มีกั๊ก จึงขอมอบรางวัลทีวี 4K ที่ใช้จอ VA ที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุดกับ Hisense U7A ไปครอง
คุณโรมันมอบถ้วยรางวัล Best Value 4K LED TV Award ให้กับมร.ทาคาชิ ซาซากิ,
ผู้อำนวยการส่วนงานขายและการตลาด ผลิตภัณฑ์คอมซูมเมอร์ บริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
Panasonic FX700 (IPS)
หาก U7A คือทีวีที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับจอ VA | Panasonic FX700 ก็คือผู้ชนะอีกฝั่งสำหรับจอ IPS โดย FX700 มีจุดเด่นเรื่องภาพที่ให้ความเป็นธรรมชาติ สีสันเข้มข้น มุมมองการรับชมกว้าง มีฟีเจอร์ปรับภาพเบื้องลึกค่อนข้างละเอียดไม่แพ้รุ่นท็อปของ Panasonic เอง มีดีไซน์ "ขาตั้งอเนกประสงค์" ที่ตอบโจทย์ทุกการติดตั้ง สลับได้ทั้งแบบแคบและกว้าง แถมเสียบยึดได้โดยไม่ต้องใช้น็อต สุดท้ายลูกเล่น Smart TV ใช้ระบบปฏิบัติการ My Home Screen 3.0 หน้าตาและลูกเล่นอาจไม่ได้แฟนซีมากนัก แต่ก็แลกกับสปีดการทำงานที่ค่อนข้างไว โดยรุ่นนี้ก็ให้การรับประกัน 3 ปีมาตั้งแต่ต้นด้วย จึงขอมอบรางวัลทีวี 4K ที่ใช้จอ IPS ที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุดกับ Panasonic FX700 ไปครอง
คุณโรมันมอบรางวัล Best Budget 4K LED TV Award ให้กับคุณหลินฮวน ฟาน, Marketing Manager, TCL Thailand
6) Best Budget 4K LED TV : TCL P6US
สำหรับรางวัลทีวี 4K ราคาถูกจริงถูกจัง สบายกระเป๋า แต่ให้คุณภาพได้แอบดีเกินค่าตัวก็ตกเป็นของ TCL P6US โดยรุ่นนี้เปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่ช่วงต้นปี ด้วยดีไซน์ที่เพรียวบาง ให้ภาพ 4K ที่ สด-เปิด-สว่าง หากได้ตั้งเทียบกับรุ่นอดีตเคยเทพอย่าง Q7700 จะเห็นว่า P6US จะให้ภาพที่ซู่ซ่ากว่าอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงหากได้เทียบกับทีวี 4K รุ่นถูกสุดกับหลายๆแบรนด์ เจ้าตัวนี้ก็ยังให้ภาพที่ดีกว่าเพื่อนซักครึ่งก้าว (แถมราคาถูกกว่าอีก) ระบบ Smart TV แม้เป็นแบบพื้นฐาน แต่ให้แอพที่ควรมีติดมาให้ครบเช่น YouTube และ Netflix ประกัน 3 ปี และในบางช่วงของโปรโมชั่น ยังเคยเพิ่มระยะเวลาปรับประกันให้เป็น 5 ปีด้วยซะด้วย หากงบประมาณมีไม่เยอะนัก TCL P6US คือทีวี 4K ที่เป็นมิตรกับสตางค์ในกระเป๋ามากที่สุด ฟันธง !
คุณนาวี อินทรสังขนาวิน มอบรางวัล Best Gaming TV Award
ให้กับคุณณัฏฐ์ โรเบิร์ตส, Digital Marketing Manager
7) Best Gaming TV : Samsung Q9F
นอกจากถูกยกให้เป็น 4K LED TV ที่ดีที่สุดในปีนี้แล้ว เรายังขอมอบตำแหน่งทีวีที่เหมาะกับการเล่นเกมส์มากที่สุดควบให้อีกรางวัล Samsung Q9F มีโหมด Game ที่ช่วยลดค่า Input Lag ให้ต่ำกว่า 20 ms ซึ่งถือว่าตอบสนองต่อคำสั่งจอยได้ไวมาก และเป็นแบรนด์เดียวที่มีฟีเจอร์แทรกเฟรมภาพสำหรับการเล่นเกมส์อย่าง Game Motion Plus ที่ช่วยให้ภาพลื่นไหลขึ้นโดยกระทบต่อค่า Input Lag เพียงเล็กน้อยเท่านั้น รองรับมาตรฐาน FreeSync 120Hz ทาง HDMI จากทั้งเครื่องเล่นเกม Xbox และ PC สามารถแสดงผลภาพ 120 เฟรมภาพต่อวินาทีแท้ได้ มีระดับความสว่างสูงด้วยโครงสร้างหลอดไฟแบบ Full Array LED Backlight ระเบิดพลังภาพ HDR ได้อย่างสว่างเจิดจรัส และยังคุมระดับความดำเฉพาะจุดได้ดีเยี่ยม เหมาะกับการใช้เล่นเกมส์ในห้องทุกสภาพแสง อีกจุดที่สำคัญคือเรื่อง Burn in Free = Worry Free : ไม่ต้องห่วงเบิร์น ไม่ว่าจะเปิดเล่นเกมส์นานเท่าไหร่ หรือเปิดฉากนิ่งค้างไว้บนจอนานแค่ไหน ภาพก็ไม่มีทาง Burn-in (ภาพและโลโก้ค้างติดหน้าจอ) ซึ่งทั้งหมดคือจุดเด่นที่ ดีอย่างสมดุลที่สุด ต่อการเล่นเกมส์ จึงขอมอบรางวัลทีวีขวัญใจเกมเมอร์ให้กับ Samsung Q9F ไปครอง
คุณโรมันมอบรางวัล Best Full HD LED 4K LED TV Award ให้กับคุณหลินฮวน ฟาน, Marketing manager TCL Thailand
8) Best Full HD TV Award : TCL S6500
Full HD TV ครบ จบในเครื่องเดียว! คือนิยามที่สามารถมอบให้กับ TCL S6500 ได้ เพราะนอกจากจะเป็นทีวีที่สามารถปรับภาพได้ในแบบเชิงลึกแล้ว TCL ยังนำเอา Android 8.0 + Google Assistant มาใส่ลงในเครื่องนี้ให้ด้วย ลองคิดดูขนาดรุ่น 4K ของแบรนด์ตัวเองรุ่นพิมพ์นิยมอย่าง P6US ยังไม่ใช่ Android TV แต่ S6500 รุ่นนี้กลับได้มาใช้เป็นระบบปฏิบัติการของตัวเครื่อง แถมการทำงาน อัตราการตอบสนองก็รวดเร็ว นอกจากนี้ ที่สำคัญคือเป็น Full HD TV ที่รองรับ HDR เสริมศักยภาพด้านภาพให้แจ่มจรัสขึ้น ยกระดับภาพให้สูงกว่า Full HD TV อื่นๆ ขึ้นมาหนึ่งระดับ บวกกับระดับราคาที่ทำได้เย้ายวนใจ อย่างในขนาด 49" ที่ทางเราได้รับมาทดสอบ ก็อยู่ในช่วงหนึ่งหมื่นบาทต้นๆ เท่านั้น ดังนั้นรุ่นนี้สมแล้วที่จะได้รางวัล Best Full HD TV AWARD!!
คุณโรมัน มอบถ้วยรางวัลให้กับ มิสเตอร์ Wu Xianfeng, Operation Director
9) Best Value Full HD TV : Skyworth E6
รุ่นเล็ก สเป็คแรงส์ คือคำจำกัดความของ Skyworth E6 ถึงแม้เป็นเพียงทีวีความละเอียด Full HD แต่ก็ใจป้ำให้ระบบปฏิบัติการ Android 8.0 + Google Assistant ขั้นเทพมาให้ ซึ่งโดยปกติแล้วทีวีที่ใช้ Android OS แท้แบบนี้มักจะมีต้นทุนสูง แต่ Skyworth ก็กล้าที่จะเอามาใส่ในทีวี Full HD ระดับเริ่มต้น ทุกลูกเล่นฟีเจอร์ที่รุ่นใหญ่ราคาสูงทำได้ เจ้า E6 ตัวนี้ก็สามารถทำได้ ทั้งการสั่งงานด้วยเสียงทั้งภาษาไทยและอังกฤษ มีครบทุกแอพยอดนิยมอย่าง YouTube และ พวกเกมส์กราฟฟิกสวยงาม ตัวเครื่องมีดีไซน์สวย กรอบสีเงินดูดีมีราคา ส่วนระบบภาพและเสียงก็อยู่ในระดับเบสิคทั่วไปเพียงพอกับการใช้งานพื้นฐาน ไม่ได้มีอะไรให้ชมหรือติเป็นพิเศษสำหรับทีวีราคาระดับนี้ รับประกันนาน 3 ปีเต็ม เป็นทีวี 1080p ราคาเบาๆทีมีลูกเล่นการใช้งานที่ไฮโซและแพรวพราวที่สุด เป็นของดีที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้ เลยขอมอบรางวัล Best Value Full HD TV ชี้เป้าให้เลย !
คุณนาวี อินทรสังขนาวิน มอบรางวัล Best Smart TV ให้กับคุณเท็ทซูทากะ ซูดะ
10) Best Smart TV : Sony Android 8.0
ในปีนี้ระบบปฏิบัติการ Android ที่ร่วมผนึกกำลังกับ Google Assistant คือสิ่งที่ยกระดับคำว่า Smart TV ให้เป็น AI TV จากทีวีที่แค่ ฉลาด สู่ อัจฉริยะ อย่างเต็มตัว ทีมงานขอยกตำแหน่งชนะเลิศให้ Sony Android TV โดยเฉพาะรุ่นท็อป A9F ที่มีสปีดการทำงานไวกว่าใครเพื่อน มาดูเหตุผลว่าทำไมถึงคู่ควรกับรางวัลนี้ ?
- Android 8.0 มีหน้า UI แบบใหม่ ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน
- Google PlayStore มีแอพเยอะ ส่วนใหญ่คุณภาพดีและใช้งานได้จริง
- อย่างแอพส์เกมส์ก็มีกราฟฟิกที่สวยงาม เชื่อมต่อกับจอย Dual Shock ของ PS4 เล่นได้แบบจริงจัง
- มี Chromecast Built-In จึง Cast แอพต่างๆแสดงขึ้นจอได้อย่างหลากหลาย
- รองรับการสั่งงานและค้นหาคอนเทนต์ด้วย คำสั่งเสียง ทั้งภาษาไทย อังกฤษ จีนและอื่นๆ อันที่จริงครอบคลุมแทบทุกภาษา
- จับคำสั่งเสียงได้ แม่นยำที่สุด ร้องเพลงใส่รีโมทซักประโยค ยังโชว์คลิปเพลงนั้นขึ้นมาได้
- ค้นหาหนัง คลิป เพลง ถามหาเส้นทาง หรือกระทั่งพยากรณ์อากาศ ด้วยคำสั่งเสียงได้
- สามารถเชื่อมต่อกับ Google Home หรือ Amazon Echo เพื่อสั่งงานทีวีด้วยเสียง
- รุ่น A9F มีรูไมค์บนตัวทีวี สามารถใช้เสียงสั่งงานโดยตรงกับตัวทีวีได้เลย ไม่ต้องสั่งผ่านรีโมทก็ได้
- มีข้อจำกัดบ้างอย่างแอพ YouTube ยังไม่รองรับ HDR (10/1/2019 ให้อัพเดทแอพล่าสุด = รองรับ HDR แล้ว)
- แต่แอพดูหนังและซีรีส์อย่าง Netflix ก็รองรับ HDR ทั้ง HDR10 และ Dolby Vision
- ส่วน Android TV รุ่นเริ่มต้นสปีดการทำงานอาจไม่ไวถึงใจนัก แต่รุ่นท็อปก็สเป็คแรงขึ้น ทำงานไวกว่ารุ่นก่อนจริง
ย้ำอีกทีว่ายุคนี้ทีวี ไม่ใช่แค่เรื่องภาพ ทว่าต้องคำนึงถึงการใช้งานจริงด้วย จะต้องมีแอพหรือคอนเทนต์ที่เราอยากดู และจะต้องเข้าดูได้ง่าย+รวดเร็ว มิใช่ต้องมาใช้รีโมทกด Search ทีละตัวอักษรเหมือนในอดีต นี่แหละคือ ทีวีที่ปรนิบัติเรา มิใช่ให้เราไปปรนิบัติทีวี !
คุณโรมัน มอบรางวัล Best Design Award ให้กับคุณณัฏฐ์ โรเบิร์ตส
11) Best Design Award : Samsung Q8C
รางวัลทีวีดีไซน์ยอดเยี่ยมในปีนี้ ทางทีมงานไม่ได้ตัดสินเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามเพียงอย่างเดียว ทว่าต้องสวยอย่างฉลาด และมีประโยชน์กับการใช้งานจริงด้วย ซึ่งเมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว Samsung Q8C ถือว่าเป็นทีวีที่เอาชนะได้ในทั้งรูปลักษณ์ที่สวยงาม และการออกแบบที่คำนึงถึงการติดตั้งมากที่สุด
Samsung Q8C เป็นทีวีจอโค้งเพียงรุ่นเดียวที่ในปีนี้ของ QLED Series ขึ้นชื่อว่าจอโค้งหรือ Curved TV แค่ตั้งไว้เฉยๆก็สวยโดดเด่นเกินหน้าเกินตาทีวีรุ่นอื่นๆ อยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีเหตุผลด้านอื่นๆ ที่ทีมงานมองเห็นแล้วว่านี่แหล่ะ คือทีวีที่สวยทั้งรูป .แถมจูบหอมด้วย !
- จอโค้งดีไซน์ขอบบาง ดูสวยโฉบเฉี่ยวทั้งด้านหน้าและหลัง
- หากนั่งรับชมใกล้พอประมาณ ก็จะได้บรรยากาศโอบล้อมหลักการเดียวกับโรงหนัง IMAX ที่เป็นจอโค้งเช่นกัน
- One Invisible Connection รวมทั้งสายไฟ และสายสัญญาณไว้ในสายบางๆ เพียงเส้นเดียวได้จริง จึงไม่มีสายรกรุงรังด้านหลังเครื่อง ดูสะอาดตา เป็นลูกเล่นขวัญใจนักออกแบบตกแต่งภายใน
- ฟีเจอร์ Magic Screen สามารถโคลนนิ่งลวดลายบนผนังมาแสดงบนจอ ช่วยตกแต่งบ้านให้สวยงาม
- เคียงคู่มากับ One Remote รีโมทสีเงินที่มีขนาดจิ๋วแต่แจ๋ว แถมใช้ควบคุมทุกอุปกรณ์เชื่อมต่อได้
สวยทั้งภายใน และภายนอกแบบนี้เปรียบดั่งสาวสวยหุ่นเซี๊ยะที่ทั้งฉลาดและทำงานเก่ง ขอมอบสายสะพายรางวัลดีไซน์ยอดเยี่ยมแห่งปีให้แก่ Samsung Q8C ไปครอง
5
ห้องซื้อขาย "มือ 2" TV / HD / เครื่องเล่น / อุปกรณ์ต่างๆ "มือ 2 เท่านั้น" / ย้ายแล้ว: ขาย กล้องวิดีโอ Sony HDR-PJ580VE ราคา 11,900 บาท
« เมื่อ: มกราคม 07, 2019, 10:18:46 am »
หัวข้อนี้ได้ถูกย้ายไปบอร์ด ห้องซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนของจิปาถะ.
https://www.lcdtvthailand.com/webboard/index.php?topic=422146.0
https://www.lcdtvthailand.com/webboard/index.php?topic=422146.0
6
ห้องซื้อขาย "มือ 2" TV / HD / เครื่องเล่น / อุปกรณ์ต่างๆ "มือ 2 เท่านั้น" / ย้ายแล้ว: คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะขนาดเล็ก MINI-PC HP T610 เล็กกระทัดรัด แต่เร็วและแรง ราคา35
« เมื่อ: ตุลาคม 26, 2018, 03:41:46 pm »
หัวข้อนี้ได้ถูกย้ายไปบอร์ด ห้องซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนของจิปาถะ.
https://www.lcdtvthailand.com/webboard/index.php?topic=430391.0
https://www.lcdtvthailand.com/webboard/index.php?topic=430391.0
7
ห้องซื้อขาย "มือ 2" TV / HD / เครื่องเล่น / อุปกรณ์ต่างๆ "มือ 2 เท่านั้น" / ย้ายแล้ว: โค้ดต่ออายุสมาชิก iflix ดูหนังซีรีย์ ออนไลน์ ราคาพิเศษ
« เมื่อ: ตุลาคม 21, 2018, 11:35:27 am »
หัวข้อนี้ได้ถูกย้ายไปบอร์ด ห้องซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยนของจิปาถะ.
https://www.lcdtvthailand.com/webboard/index.php?topic=420828.0
https://www.lcdtvthailand.com/webboard/index.php?topic=420828.0
8
ห้องพูดคุยเรื่องเครื่องฉาย Projector / ย้ายแล้ว: ขายจอ fixed frame 120 นิ้ว เนื้อ HD Gray สภาพใหม่
« เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2018, 10:30:12 am »9
ห้องพูดคุยเรื่องเครื่องเสียงและ Home Theater / ย้ายแล้ว: ขายลำโพง Center Klipsch RP-250C ใช้งานได้ 3 เดือน
« เมื่อ: เมษายน 12, 2018, 08:01:48 am »10
ห้อง VIDEOPHILE LCDTVTHAILAND AWARDS / ตัดสินแล้ว !! รางวัล 10 ทีวีที่ดีที่สุดประจำปี 2017-2018
« เมื่อ: ธันวาคม 25, 2017, 10:52:49 am »
พบเจอกันเป็นประจำทุกๆ สิ้นปี กับการตัดสินผลรางวัล Videophile LCDTVTHAILAND Award ซึ่งปีนี้ก็เป็นประจำปี 2017-2018 ไม่ต้องงนะครับทำไมถึงลาก 2018 มาด้วย นั่นก็เพราะสินค้าส่วนใหญ่ยังคงขายต่อเนื่องไปจนถึงปี 2018 นั่นเอง และตามปกติแล้วไลน์อัพสินค้าใหม่ๆ กว่าจะเปิดตัวกันอีกทีก็เกือบกลางปีโน่นเลย เป็นอีกครั้งที่เว็บไซต์ LCDTVTHAILAND ร่วมกับนิตยสาร Audiophile Videophile ฟันธงรางวัลในแต่ละสาขา ซึ่งแบ่งตามประเภทและระดับราคาอย่างครอบคลุม ตอบสนองทุกระดับงบประมาณของทุกท่าน ในปีนี้ทางด้านทีวีเองถือว่าการแข่งขันดุเดือดมากขึ้น เพราะ OLED TV ไม่ได้ถูกผูกขาดอยู่เพียงแค่แบรนด์เดียวอีกต่อไป ขณะเดียวกัน LED TV ก็พยายามสรรหาเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ มาสู้ ซึ่งต้องบอกว่าน่าสนใจเป็นอย่างมาก
ในปีนี้ยังมีรางวัลพิเศษที่ทางทีมงาน LCDTVTHAILAND เราได้จัดขึ้นมาด้วย รางวัลนั้นก็คือผู้ชนะจากงาน Best of The Best TV Shootout 2017 นั่นเอง ในงานนี้เราได้นำทีวีตัวท็อปของแต่ละแบรนด์ แบบไม่จำกัดราคา มาวัดกันให้รู้ดำรู้แดงไปเลย การทดสอบนั้นก็มีหลากหลาย ทั้งความสว่าง ความดำ สีสัน เสียง และลูกเล่นการใช้งานต่างๆ เชื่อว่าใครที่ได้ไปคงจะได้รู้กันด้วยตา และหูตัวเองแล้วว่ารุ่นไหนได้ใจของคนส่วนมากที่สุด เพราะเราได้มีการให้ลงคะแนนโหวตกันด้วย ซึ่งผู้ชนะก็ได้มาจากการโหวตของผู้เข้าร่วมงานนี้เอง
ส่วนโปรเจ็คเตอร์ปีนี้ รุ่นที่รองรับความละเอียด "4K" มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น สร้างความคึกคักให้กับตลาดโฮมเธียเตอร์มากยิ่งขึ้นกว่าปีก่อนๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะระดับราคาที่ลดต่ำลงมากอย่างมีนัยสำคัญ โอกาสที่เราๆ ท่านๆ จะได้รับชมภาพยนตร์จอยักษ์ระดับ 100 นิ้ว จากโปรเจ็คเตอร์ความละเอียดระดับ 4K จึงเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิม นอกจากนี้บางรุ่นยังรองรับ High Dynamic Range หรือ HDR ตอบโจทย์เทรนด์การรับชมที่กำลังได้รับความนิยมในปัจุบันและอนาคตได้ไม่แพ้ทีวีรุ่นใหม่ๆ
คุณโรมัน และคุณนาวี คุณนาวี อินทรสังขนาวิน บรรณาธิการบริหาร นิตยสารออดิโอไฟล์ วีดีโอไฟล์
มอบรางวัล Best of the Best TV Award ให้กับมร.ทากุโอะ โคบายาชิ ผู้จัดการแผนกการตลาดผลิตภัณฑ์ทีวี
และคุณสุวัฒน์ชัย จารุวิทยานนท์ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์โฮมเอนเตอร์เทนเมนท์ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด
1) Best of The Best TV Award : Sony OLED TV A1
ทีวีที่ทีมงานยกให้เป็น "ทีวีที่ดีที่สุด ประจำปีนี้คือ Sony OLED TV A1 นับเป็นครั้งแรกของ Sony กับทีวี OLED ที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเมื่อกลางปี 2017 ที่ผ่านมา คุณภาพของภาพก็จัดว่าเหนือชั้นตามสไตล์ OLED ตัวเม็ดพิกเซลสามารถกำเนิดแสงสีเอง ทำให้เวลาแสดงสีดำจึงสามารถทำได้สนิท 100% ซึ่งยิ่งส่งผลให้สีสันที่ถูกขับออกมามีความเจิดจรัสป็อปอัพ หากเทียบกับคู่แข่งอย่าง Panasonic EZ1000T อาจเป็นรองด้านความถูกต้องของสีบ้างและรายละอียดในที่มืดยิ่บย่อย อย่างไรก็ตามโหมดภาพสำเร็จรูปอย่าง Cinema Pro / Home ก็ความแม่นยำสูงตั้งแต่ต้น หากให้เป็นรองก็เป็นรองนิดเดียว ครั้นเมื่อปรับภาพแล้วคุณภาพก็ดีไม่หนีกันเท่าไหร่นัก หรือหากเทียบกับ LG W7/G7 ทางค่ายเกาหลีจะได้เปรียบความสว่าง Peak Brightness ที่สูงกว่าเกือบ 100 nits และรองรับ Dolby Vision HDR แต้ต้นเลยในขณะที่ Sony ต้องรอ Firmware ช่วงต้นปี แต่จุดเด่นที่สุดสำหรับภาพของ Sony A1 คือเรื่อง Motion ภาพเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลเป็นธรรมชาติกว่าใครเพื่อน อาการสะดุดของภาพแทบไม่มีให้เห็น ฉะนั้นเรื่องภาพจึงไม่มีเจ้าไหนชนะอีกเจ้าแบบเด็ดขาด เรียกว่าคู่คี่สูสีกินกันคนละมุม !
ทำให้ต้องมาพิจารณาปัจจัยรองอื่นเสริมเข้าไป อย่างเช่นนวัตกรรมลำโพง Acoustic Surface ที่ให้หลักการสั่นเพื่อกำเนิดเสียงบนหน้าจอ เสียงพุ่งออกมาจากกลางจอเสมือนโรงหนังจริง แถมคุณภาพเสียงดีเทียบเท่าลำโพง Soundbar ตัวเป็นๆ ทั้งที่ไร้ซึ่งตัวลำโพงให้เห็นด้านหน้า รวมถึงระบบปฎิบัติการ Android TV เวอร์ชั่นล่าสุด 7.0 ที่เพียบพร้อมที่สุดทั้งคุณภาพและปริมาณของแอพส์จาก Google Play Store รวมถึงความสามารถของ Chromecast ที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือได้สมบูรณ์แบบที่สุด และระบบการค้นหาด้วยคำสั่งเสียงทั้งภาษาไทยและอังกฤษที่แม่นยำที่สุด สุดท้ายคือดีไซน์แบบ One Slate เหมือนกระจกสี่เหลี่ยมแผ่นเดียว ดูดีเรียบหรูทุกการติดตั้งไม่ว่าจะตั้งโต๊ะหรือแขวนผนัง ทั้งหมดคือเหตุผลที่ส่งให้ Sony OLED TV - A1 ผงาดขึ้นเหนือคู่แข่งใน ภาพรวม ดีที่สุดพร้อมยังคงสมดุลครบทุกด้าน จึงคว้ารางวัล Best of The Best TV Award รางวัลทีวีที่ดีที่สุดไปครองในปีนี้
2) Editors Choice Awards : LG OLED TV - B7T
รางวัลรองลงมาคือรางวัลสุดยอดทีวีขวัญใจทีมงาน LCDTVTHAILAND ในปีนี้ขอยกให้ LG OLED TV รุ่นเริ่มต้นอย่าง B7 ไปครองแบบได้คะแนนท่วมท้น ถึงแม้เป็น OLED TV ซีรีส์เริ่มต้น แต่คุณภาพของภาพนั้น ดีเลิศ ไม่แพ้ OLED TV ตัวท็อป ทั้งที่ระดับราคาขายจริงนั้นถูกกว่าเป็นเท่าตัว ให้ภาพสีดำที่ดำสนิท 100% พร้อมแสดงสีสันของภาพ HDR ได้อย่างเจิดจรัส รวมถึงรองรับมาตรฐาน HDR ขั้นสูงสุดในปัจจุบันอย่าง Dolby Vision ซึ่งเริ่มมีแผ่นหนังและซีรีส์ใน Netflix ใช้มาตรฐานนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีโหมดภาพสำเร็จรูปมากมายให้เลือกใช้ รวมถึงโหมดที่ให้ค่าแสงสีถูกต้องอย่าง Expert (ISF) และโหมดใหม่ล่าสุดอย่าง Technicolor มีระบบ Smart TV แบบ webOS 3.5 ที่ใช้งานง่ายที่สุดด้วย Magic Remote อันเป็นที่ชื่นชอบของทั้งมือใหม่และมือเก๋า สรุปได้ว่าจ่ายน้อยกว่าเยอะ แต่ได้คุณภาพของภาพและฟีเจอร์ลูกเล่นทุกอย่างเทียบเคียงรุ่นท็อป ทีมงานจึงขอยกรางวัล Editors Choice Award ให้ LG OLED TV B7T ไปครอง และเป็นธรรมเนียมว่า ทีวีที่ทีมงานเลือก ก็ไม่ใช่แค่บอกว่าเลือกปากเปล่า มีหนึ่งในทีมงานนักเขียน ซื้อจริง ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วหนึ่งตัวเฉกเช่นทุกปี
3) Best Value OLED TV : LG OLED TV - B7T
รางวัล OLED TV ที่คุ้มค่าที่สุดประจำปีเป็นรางวัลใหม่ที่ถูกเพิ่มขึ้นมาเพื่อให้สอดรับกับสภาพสินค้าในตลาดปัจจุบัน แน่นอนว่า OLED TV คือ ที่สุด แห่งเทคโนโลยีด้านภาพในตอนนี้ แต่ระดับราคานั้นก็มักจะเกินเอื้อมสำหรับใครหลายคน LG B7T คือ OLED TV ตัวเริ่มต้นที่ให้ความคุ้มค่าสูงที่สุดในตอนนี้ ทั้งภาพแบบ 4K HDR รองรับมาตรฐาน Dolby Vision ระบบเสียงก็ยังรองรับ Dolby Atmos ระบบปฏิบัติการ webOS 3.5 ล่าสุดซึ่งมาพร้อมกับ Magic Remote ที่แกว่งใช้งานอย่างอิสระ ตัวแอพอย่าง Netflix ก็มีคอนเทนต์ 4K HDR แบบ Dolby Vision มาให้ชมก่อนใคร จะเรียกครบสุดทุกกระบวนการทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ (คอนเทนต์) ภายใต้งบประมาณที่สามารถเอื้อมถึงทั้งขนาด 65 และ 55 จึงขอมอบรางวัล Best Value OLED TV สุดคุ้มประจำปีให้กับ LG B7T ไปครอง
คุณโรมัน พร้อมกับคุณนาวี อินทรสังขนาวิน บรรณาธิการบริหาร นิตยสารออดิโอไฟล์ วีดีโอไฟล์
มอบรางวัล Best 4K LED TV Award ให้กับคุณ นันทพล ผู้สันติ ผู้จัดการสินค้ากลุ่มโทรทัศน์
และคุณชารียา เข็มทอง ผู้จัดการสินค้ากลุ่มโทรทัศน์
4) Best 4K LED TV : Samsung QLED TV Q9F
Samsung Q9F คือ QLED TV ตัวท็อปมาพร้อมกับเทคโลยี Quantum Dot ชนิดใหม่ที่ใช้วัสดุเป็นโลหะ Metal Alloy ทำให้สามารถก้าวทะลุขีดจำกัดเดิมของ SUHD TV ไปได้ไกลอีกขั้น ทั้งระดับ ความสว่างสูงสุด Peak Brightness ที่สูงทะลุ 1800 nits (สูงที่สุดในปัจจุบัน) ค่าขอบเขตสีหรือ Color Space ที่กว้างกว่า 98% ของมาตรฐาน DCI-P3 พ่วงค่าปริมาตรสีหรือ Color Volume ที่สามารถคงความเข้มข้นของสีในทุกช่วงความสว่างไว้ได้ดี โดยเฉพาะตอนสว่างพีคมากๆสีก็ยังสดไม่ซีด ซึ่งทั้ง 3 ค่าทำได้สูงที่สุดในปัจจุบันหากเทียบกับทีวีทุกรุ่นทุกแบรนด์ มุมการกระจายแสงของเม็ดพิกเซลถูกปรับปรุงให้ดีขึ้น ทำให้มุมมองการรับชมกว้างขึ้นจากเดิมเล็กน้อย ส่วนระดับความดำก็มีฟีเจอร์ Edge LED Local Dimming ที่ช่วยดิมไฟได้เนียนตา โดยสรุปด้านภาพก็ผ่านมาตรฐาน Ultra HD Premium แบบขาดลอย เหนือชั้นกว่า LED TV ทุกตัวในท้องตลาดอย่างไร้ข้อกังขา เสริมด้วยลูกเล่นการเชื่อมต่อแบบ สายล่องหน หรือ Invisible Connection พร้อมกล่อง One Connect ที่ช่วยจัดการสายสัญญาณให้เป็นระเบียบสวยงาม สุดท้ายคือระบบปฎิบัติการ Tizen OS ที่มีการปรับแต่งให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้นด้วย One Remote ที่สามารถควบคุมได้หลายอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับทีวีผ่านช่อง HDMI และแอพ TV Plus ที่มีช่องเกาหลีให้ดูสมนาคุณให้รับชมฟรีกว่า 30 ช่อง ทั้งหมดนี้จึงส่งให้ Samsung QLED TV Q9F ได้รับรางวัล Best 4K LED TV Award ไปครอง
มอบรางวัล Best Midrange 4K LED TV ซึ่งรุ่นที่ได้ไปก็คือ EX750T
5) Best Midrange 4K LED TV : Panasonic LED TV EX750T
สำหรับรางวัล 4K LED TV ระดับกลางที่ดีที่สุดในปีนี้ได้แก่ Panasonic EX750T ซีรีส์นี้ให้คุณภาพของภาพได้ดีทั้งเรื่องของเขตสีที่กว้างถึง 94% ของมาตรฐาน DCI-P3 ผสานจอ Panel ดำเงาแบบ Glossy ส่งผลให้ภาพมีความอิ่มฉ่ำ ดำลึก แสดงภาพ HDR ได้รุกเร้าสวยงาม ช่วยยกระดับอรรถรสการรับชมให้เข้มข้นขึ้น แต่จุดที่ทีมงานฟันฉับให้เป็นเรื่องของ ขนาด 58 ที่เทียบกันแล้วใหญ่กว่าขนาดมาตรฐาน 55 ของแบรนด์อื่น ตลอดจนเป็น LED TV รุ่นสุดท้ายที่ยังให้เทคโนโลยี 3D แบบ Active มาให้ จึงทำให้มีจุดเด่นฉีกหนีคู่แข่งทั้งเรื่องขนาดหน้าจอและเทคโลยี แต่สนนราคาเปิดตัวและขายจริงระดับนั้นกลับใกล้เคียงกัน ส่วนดีไซน์กรอบโลหะสีเงินจัดว่าสวยหรูดูพรีเมี่ยม ซึ่งแฝงไว้ด้วยความพิเศษที่ขาตั้งสามารถปรับระดับความ สูง-ต่ำ ได้ไม่ว่าจะตั้งโต๊ะหรือตั้งพื้น และยังสามารถปรับหัน ซ้าย-ขวา ได้ด้วย เป็นการออกแบบที่ช่วยให้การติดตั้งและใช้งานทีวีมีความยืดหยุ่นสูงมาก ต่างจากทีวี 4K ระดับกลางทั่วไปที่มักเป็นขาตั้งทรงปกติเหมือนกันหมด ด้วยเหตุผลข้างต้นจึงขอมอบรางวัล Best 4K Midrange LED TV รางวัลทีวี 4K ระดับกลางที่ดีที่สุดให้กับ Panasonic EX750T ไปครอง
คุณโรมัน และคุณชานม นำทัพมอบรางวัลให้กับคุณณธรรศชัย สุอังคะ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย
พร้อมด้วยคุณ Linhuan Fan (หลินฮวน ฟาน) ผู้จัดการฝ่ายการตลาด
6) Best Value 4K LED TV Award : TCL LED TV C2US
TCL 55C2US คือ 4K LED Android TV รุ่นรองท็อปจากแบรนด์ดังจากแดนมังกร ถึงแม้เป็นซีรีส์สูง แต่ราคาขายก็จริงจะสูงกว่า 4K รุ่นเริ่มต้นราคาถูกสุดไม่กี่พันบาทเท่านั้น แล้วถามว่ามันคุ้มค่าอย่างไร ? ก็ขอตอบว่าเป็น Android TV แท้ๆที่ราคาถูกสุดในท้องตลาด (ค่าลิขสิทธิ์ Android TV ค่อนข้างสูง จึงต้องตั้งราคาขายสูงทุกแบรนด์) แถมยังอัดทุกฟีเจอร์มาให้เต็มคราบอีก บางจุดเหนือกว่าค่ายญี่ปุ่นที่ริเริ่ม Android TV ก่อนด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชั่นจาก Google Play Store, ความสามารถของ Chromecast ในการเชื่อมต่อกับมือถือ, รีโมทแบบ Air Mouse เป็นลูกศรเคลื่อนไหวตามทิศทางที่เราแกว่ง และ รองรับการค้นหาด้วยเสียงทั้งภาษาไทยและอังกฤษ สเป็คด้านภาพเป็นทีวี 4K ที่รองรับภาพ HDR คุณภาพของภาพก็อยู่ในเกณฑ์ปานกลางเหมาะสมกับราคา ไม่ได้มีอะไรให้ติหรือชมเป็นพิเศษ ส่วนระบบเสียงเป็น Speaker Bar ที่ออกแบบโดย Harman/Kardon ซึ่งมีสไตล์เสียงแบบจัดจ้าน แต่ก็เกลาลงให้เป็นธรรมชาติตามใจชอบได้ด้วยเมนูปรับแต่งเสียงด้านใน สุดท้ายคือดีไซน์แบบ Edgeless ขอบบางเฉียบ สวยหรูขึ้นจากดีไซน์เมื่อหลายปีก่อนมาก และของแถมที่ช่วยเติมเต็มคำว่า คุ้มค่า คือระยะเวลารับประกันยาวนานถึง 5 ปีเต็ม ทางทีมงานจึงฟันธงมอบรางวัล Best Value 4K LED TV Award ทีวี 4K ที่คุ้มค่าที่สุดแห่งปีให้กับ TCL C2US ไปครอง
7) Best Budget 4K LED TV Award : LG UJ652T & Samsung MU6300
รางวัลทีวี 4K ระดับเริ่มต้นราคาถูกที่ดีที่สุด ปีนี้ทีมงานขอมอบให้กับ 2 รุ่นนี้ได้แก่
7.1) LG UJ652T : LG Series 6 โดดเด่นที่เป็นทีวี 4K รุ่นเริ่มต้น แต่ให้ความครบเครื่องครอบคลุมทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นด้านภาพความละเอียด 4K รองรับ HDR คุณภาพเสียงที่จัดว่าอิ่มแน่น เบสมีน้ำหนักกว่าทีวีรุ่นเริ่มต้นทั่วไป ดีไซน์กรอบสีเงินสวยงามดูหรูหรา แถมจัด HDMI มาให้ถึง 4 ช่องเท่ากับพวกรุ่นท็อป แต่ที่ทีมงานขอยกให้คือเจ้า webOS 3.5 พร้อม Magic Remote รีโมทแบบ Air Mouse ที่ใช้งานจริงนั้นง่ายมาก (ยกให้ง่ายที่สุดในบรรดา Smart TV ทุกแบรนด์) หลายท่านใช้เล่น YouTube / Netflix จะทราบดีถึงประโยชน์ของเจ้า Magic Remote สำหรับทีวี 4K รุ่นเริ่มต้นประหยัดงบนั้น LG UJ652T นั้นจัดว่ามีอะไรที่ดีเกินหน้าเกินตาชาวบ้านเขาไปเยอะ
คุณโรมัน พร้อมกับคุณนาวี อินทรสังขนาวิน บรรณาธิการบริหาร นิตยสารออดิโอไฟล์ วีดีโอไฟล์
มอบรางวัล Best Budget 4K LED TV Award ให้กับคุณ นันทพล ผู้สันติ ผู้จัดการสินค้ากลุ่มโทรทัศน์
และคุณชารียา เข็มทอง ผู้จัดการสินค้ากลุ่มโทรทัศน์
7.2) Samsung MU6300 : คือทีวี จอโค้ง รุ่นเริ่มต้นราคาประหยัดที่สุดที่ให้คุณค่าได้เกินหน้าเกินตาเช่นกัน เริ่มด้วยสเป็คด้านภาพแบบ 4K รองรับ HDR ซึ่งถ่ายทอดภาพได้เป็นธรรมชาติ จุดที่ยกให้เหนือกว่าทีวี 4K รุ่นเริ่มต้นทั่วไปคือ Tizen OS โฉมใหม่ ใช้งานง่าย มีแอพส์ดูวีดีโอคอนเทนต์ครบถ้วน แต่จะพิเศษที่แอพ TV Plus มีช่องรายการเกาหลีทั้งละครซีรีส์, เกมส์โชว์, วาไรตี้ พร้อมซับไตเติ้ลภาษาไทยมาให้เราดูจริงจังแบบฟรีๆ ถูกใจคุณสาวๆมิใช่น้อย รวมถึงเจ้า One Remote รีโมทขนาดจิ๋วแต่แจ๋วที่สามารถควบคุมอุปกรณ์อื่นได้ด้วยรีโมททอันนี้อันเดียว ไม่ว่าจะเป็น Blu-ray Player, Soundbar, กล่อง Set Top Box สุดท้ายคือมันมีดีไซน์ จอโค้ง ที่ดูหรูหราและมักไปสถิตย์อยู่กับรุ่นบนเท่านั้น จะเรียกได้ว่าหล่อหรูได้ในราคาเบาๆ
คุณชานม และคุณนาวี อินทรสังขนาวิน บรรณาธิการบริหาร นิตยสารออดิโอไฟล์ วีดีโอไฟล์
มอบรางวัล Best Full HD LED TV Award ให้กับมร.ทากุโอะ โคบายาชิ และ คุณปรัชญา นันทปถวี
8) Best Full HD LED TV Award : Sony LED TV W750E
รางวัลทีวีความละเอียด Full HD 1080p ที่ดีที่สุดประจำปีตกเป็นของ Sony W750E ซึ่งเจ้า W750E จัดว่าสวนกระแสทีวีความละเอียด Full HD ของทุกค่ายที่พยายามลดต้นทุนเพื่อขายราคาถูก แต่ W750E กลับจัดเต็มทุกอย่างให้ลูกค้าอย่างเกินคาด มากจนทีวี 4K รุ่นเริ่มต้นจากหลายค่ายยังอาย ไม่ว่าจะเป็นการรองรับภาพแบบ HDR (เล่นเกมส์ 1080p HDR จาก PS4 Pro ได้) ใช้เทคโนโลยี Triluminos ขยายขอบเขตการแสดงเฉดสีให้กว้างยิ่งขึ้น ซึ่งหากตั้งเทียบกับพวกทีวี Full HD ราคาประหยัดจะเห็นความแตกต่างเรื่องคุณภาพของภาพและสีสันอย่างชัดเจน มี Internet TV ที่อาจจะไม่แฟนซีเท่า Smart TV แบบเต็มรูปแบบนัก แต่ก็ให้แอพส์หลักที่ใช้กันประจำมาครบถ้วน เช่น YouTube / Netflix / Opera Browser แถมยังมี วิทยุ FM ให้จูนผ่านเสาอากาศมาฟังเล่นอีกด้วย จัดเต็มจนล้นทะลักเช่นนี้ ก็ขอมอบรางวัล Best Full HD LED TV Award ให้ไปครองแบบไร้คู่แข่งเลย
คุณโรมัน และคุณชานม มอบรางวัล Best Smart TV Award ให้กับมร.ทากุโอะ โคบายาชิ และ คุณปรัชญา นันทปถวี
9) Best Smart TV Award : Sony Android 7.0
Sony Android TV เป็นเจ้าเดียวในตอนนี้ที่อัพเกรดเวอร์ชั่นไปเป็น 7.0 อย่างสมบูรณ์ ในขณะที่ค่ายอื่นยังเป็น 6.0 อยู่ ยังอัพเป็น 7.0 ไม่ได้ จุดเด่นของ Android TV คือเรื่อง คุณภาพและปริมาณ ของแอพส์ใน Google Play Store ยังคงเป็นที่สุดเหนือ Smart TV ทุกค่ายอยู่ พร้อมลูกเล่นที่โดดเด่นมากมายไม่ว่าจะเป็น Chromecast Built-in เชื่อมต่อมือถือและสามารถโยนคอนเทนต์ไปแสดงบนทีวีได้อย่างลื่นไหลที่สุด ระบบการค้นหาด้วยคำสั่งเสียง Voice Search ที่แม่นยำที่สุดซึ่งรองรับทั้งภาษาไทยและอังกฤษ สามารถใช้จอย Dual Shock ของ PS4 ควบคุมทีวีและเกมส์ที่ดาวโหลดมาลงเครื่องได้ ส่วนฟีเจอร์ของ 7.0 ที่เหนือกว่า 6.0 ก็ได้แก่ฟีเจอร์การทำภาพซ้อนภาพ Picture In Picture และ Quick Switch Between Apps สามารถเลือกสลับใช้งานแอพส์อื่นๆได้โดยไม่ต้องออกจากแอพเดิมที่ใช้งานอยู่ สำหรับการใช้งานอาจจะไม่ง่ายที่สุดก็จริงเหมือนพวกที่ให้รีโมท Air Mouse ให้แต่ต้น แต่ด้วยลูกเล่นการใช้งานสารพัดนึกที่อัดแน่นมาให้ ทำให้ยังนำค่ายอื่นไปกว่าหนึ่งก้าวใหญ่อยู่ดี จึงของมอบรางวัล Best Smart TV Award ให้กับ Sony Android 7.0 ไปครอง
คุณโรมัน พร้อมกับคุณนาวี อินทรสังขนาวิน บรรณาธิการบริหาร นิตยสารออดิโอไฟล์ วีดีโอไฟล์
มอบรางวัล Best Design TV Award ให้กับคุณ นันทพล ผู้สันติ ผู้จัดการสินค้ากลุ่มโทรทัศน์
และคุณชารียา เข็มทอง ผู้จัดการสินค้ากลุ่มโทรทัศน์
10) Best Design Award : Samsung The Frame
Samsung The Frame คือ ทีวีดีไซน์กรอบรูป ที่ผสานงานศิลปะเข้ากับเทคโลยีจอภาพไว้อย่างลงตัว ตัวเครื่องมีฟีเจอร์ฉลาดๆมากมายที่ช่วยแปลงร่างทีวี 4K HDR Smart TV ให้เป็นกรอบรูปได้อย่างเนียนตา ปิดเครื่อง = ตัวทีวีจะกลายเป็นกรอบรูป แต่ถ้าเปิดเครื่อง = ก็จะเปลี่ยนกลับเป็นทีวีแบบปกติ อันดับแรกเราสามารถเลือกสีกรอบรูปได้ถึง 3 สีทั้งสีน้ำตาลเข้ม (Walnut), น้ำตาลอ่อน (Beige) และ สีขาว (White) โดยสามารถแขวนตัวเครื่องได้แนบสนิทชิดผนังด้วยขาแขวนชนิดพิเศษที่มีชื่อว่า No Gap Wall Mount เชื่อมต่อสายสัญญาณต่างๆผ่าน Invisible Connection สาย Fiber Optic เส้นจิ๋วล่องหน ทำให้บริเวณทีวีเรียบร้อยสวยงามปราศจากสายรกรุงรัง ตัวเครื่องมี Art Mode คลังรูปภาพงานศิลปะที่รวบรวมรูปภาพกว่าร้อยชิ้นให้เลือกใช้ และยังสามารถเลือกใช้รูปส่วนตัวของเราขึ้นไปแสดงบนจอทีวีผ่าน USB Thumb Drive ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมี Brightness Sensor เซ็นเซอร์ปรับระดับความสว่างของทีวีให้สัมพันธ์กับความมืด-สว่างของห้อง และ Motion Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว เมื่อไม่มีคนอยู่ในห้อง ตัวทีวีจะสั่งพักหน้าจออัตโนมัติเพื่อประหยัดพลังงาน สำหรับการติดตั้งก็สวยไม่ว่าจะแขวนก็เหมือนกรอบรูปจริง ส่วนหากอยากตั้งแนะนำขาตั้งแบบ Studio Stand 3 แฉก ประหนึ่งการจัดงานศิลป์ที่ถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ ให้ทีวีเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ประดับบ้านได้จริงตลอด 24 ชม. สวยสมดุลครบรอบด้าน จึงขอมอบรางวัล Best Design Award ให้กับ Samsung The Frame ไปครอบครองในปีนี้
Best of The Best TV Shootout 2017 : คืองานประชันทีวีตัวท็อปที่ดีที่สุดประจำปี จัดโดย LCDTVTHAILAND ในวันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2017 ณ โรงแรมอนันตราสยาม ได้นำเอาทีวีตัวท็อปจากทุกค่ายมาร่วมเปรียบเทียบคุณภาพกันแบบถึงพริกถึงขิง โดยในช่วงครึ่งแรกของงานจะเป็นการนำเสนอคอนเซปต์และจุดเด่นของตัวสินค้า อาทิ ดีไซน์, Smart TV, เทคโนโลยีลำโพง และ เทคโนโลยีภาพ โดยทีมวิทยากรจากแต่ละแบรนด์ ส่วนครึ่งหลังจะเป็นการทดสอบเปรียบเทียบภาพและเสียงกันแบบเรียงหน้าชนอย่างเข้มข้น ด้วยคอนเทนต์มากมายทั้ง Professional Test Patterns, หนัง 4K HDR, หนัง Full HD 1080p, คอนเสิร์ต, และเกมส์ ให้ ครอบคลุมทุกการใช้งานจริง และเปิดให้แฟนเว็บและกรรมการรับเชิญร่วมโหวตทีวีที่ดีที่สุดประจำปี ซึ่งผลรวมคะแนนที่มากที่สุดจากทั้ง "ผู้เข้าร่วมงาน"+ "กรรมการพิเศษ" จะได้รับรางวัลชนะเลิศสูงสุด The Winner และรางวัลรองคือ Experts Choice ซึ่งนับผลโหวตที่มากที่สุดจาก "กรรมการพิเศษ" เท่านั้น
ย้ำอีกทีว่าสองรางวัลดังต่อไปนี้มาจากการตัดสินของ "ผู้เข้าร่วมงาน" และ "กรรมการพิเศษ" ภายในงาน Best of The Best TV Shootout 2017
คุณโรมัน มอบรางวัลให้กับ มร.ทากุโอะ โคบายาชิ - ผู้จัดการแผนกการตลาดผลิตภัณฑ์ทีวี (คนที่สามจากทางซ้าย)
และพร้อมด้วยคุณปรัชญา นันทปถวี
11) The Winner - Best of The Best TV Shootout 2017 : Sony OLED TV - A1
หลังจากการประเมินคุณภาพของทีวีอย่างละเอียด รอบด้าน จากทั้งผู้เข้ามร่วมงานและกรรมการพิเศษ ในปีนี้ทีวีที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดและคว้ารางวัลชนะเลิศคือ Sony OLED TV A1 ด้วยผลโหวต 29 จาก 64 ท่าน คิดเป็น 45.3% สูงสุดในบรรดาทีวี 5 รุ่นจาก 5 แบรนด์ที่เข้าร่วมชิงชัย เหตุผลหลักที่ผู้โหวตเทใจให้ Sony OLED TV A1 คือหากเปรียบเทียบเรื่องคุณภาพของภาพกับ OLED TV แบรนด์ข้างเคียง ก็จะมีดีมีด้อยคละเคล้ากันไป สังเกตจุดต่างที่ทำให้ชนะขาดได้ค่อนข้างยาก ทำให้คะแนนด้านภาพมีความสูสีใกล้เคียงกันจนต้องไปวัดกันที่ด้านอื่นเสริม ซึ่งเหตุผลที่ผู้โหวตเขียนลงกระดาษก็จะชื่นชอบนวัตกรรม ไร้ลำโพง หรือ Acoustic Surface ซึ่งยิงเสียงออกจากกลางจอได้จริง โดยไม่ต้องมีลำโพงตัวเป็นๆมาวางเกะกะ รวมถึงลูกเล่น Android TV ที่ยืดหยุ่นสูงที่สุดในการเชื่อมต่อกับมือถือและโยนคอนเทนต์เข้าไปเล่น และการค้นหาวีดีโอและคลิปด้วยคำสั่งเสียงที่แม่นยำที่สุด ซึ่งลูกเล่นที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นสิ่งผู้โหวตเล็งเห็นว่ามันมีประโยชน์และสามารถใช้งานได้จริงกว่าลูกเล่นของเจ้าอื่นๆจึงทำให้ Sony OLED TV A1 เข้าวินในครั้งนี้ ขอแสดงความยินดีด้วยอีกครั้ง !
คุณโรมัน และคุณชานม มอบรางวัล Editors Choice Award
ให้กับคุณโยสุเกะ อิชิกาวะ ผู้อำนวยการส่วนงานขาย และการตลาด ผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์
ร่วมด้วยคุณ นิติ จินดาโชค เจ้าหน้าที่แผนกการตลาด ผลิตภัณฑ์ทีวี
12) Experts Choice - Best of The Best TV Shootout 2017 : Panasonic OLED TV - EZ1000T
อีกหนึ่งตัวที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดจากทีม "กรรมการพิเศษ" (Expert) ทั้ง 5 ท่าน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาพและเสียงโดยตรง ก็คือ Panasonic OLED TV EZ1000T เป็นทีวีที่ให้ "คุณภาพของภาพได้ดีที่สุด" เท่าที่เคยมีมา เพราะตั้งแต่แกะกล่องออกมาโดยไม่ต้องปรับภาพใดๆ ก็ให้ค่าแสงสีได้เที่ยงตรงสุดๆ (ในโหมด THX และ Professional - ISF) ความเที่ยงตรงสูงนี้ถึงแม้ปรับภาพเพิ่มเติมเพื่อความเพอร์เฟ็กต์แต่การรับชมจริงก็ไม่แตกต่างอย่างมีนัยยะ สามารถเทียบเคียงกับจอ Studio OLED Monitor ที่่ใช้ในการผลิตภาพยนตร์ ต้องขอชมเชย Panasonic Hollywood Lab ที่มีส่วนสำคัญในการไฟน์จูนภาพออกมาแล้วอยู่ใน ระดับอ้างอิง หรือ Reference เลยตั้งแต่ต้น นั้นหมายถึงการเสพภาพนั้นเราจะได้รับชมในมุมมองที่ผู้กำกับต้องการสื่อให้เราแบบถูกต้องแทบจะ 100% ทั้งเรื่องสีสันและรายละเอียดในที่มืด-สว่าง การันตีด้วยโหมดภาพจากสถาบันมาตรฐานภาพระดับโลกทั้ง Imaging Science Foundation - ISF และ THX ส่วนจุดสังเกตด้านภาพนั้นก็ยังไม่รองรับมาตรฐาน HDR แบบ Dolby Vision แต่จะหันไปซบมาตรฐานใหม่ที่จะเริ่มมีแพร่หลายในปีหน้าอย่าง HDR10+ แทน ด้านลำโพงซาวด์บาร์ Dynamic Blade Speaker ก็ให้เสียงที่รุุกเร้า จัดจ้าน ชัดเจน ไม่เป็นสองรองใคร กำลังสำรองเหลือเฟือ ดูหนังอึกทึกครึกโครมมันส์สะใจแน่นอน ส่วนระบบ Smart TV ที่ต่อยอดมาจาก Firefox OS นั้นอาจจะไม่ค่อยแฟนซีเท่าไหร่หากเทียบเจ้าอื่น แต่ก็ให้แอพพลิเคชั่นดูวีดีโอคอนเทนต์หลักๆมาอย่างครบครัน สรุปว่าทีมกรรมพิเศษโหวตให้ EZ1000T เป็นทีวีที่ดีที่สุด จำนวน 3 จาก 5 ท่าน คิดเป็น 60% สูงที่สุดในบรรดาทีวีทั้ง 5 แบรนด์ที่เข้าร่วมชิงชัย จึงได้รางวัล Experts Choice Award ไปครอง
หมายเหตุ กรรมการพิเศษด้านภาพได้รับการ Certified ผ่านหลักสูตรจากสถาบันมาตรฐานภาพทั้ง ISF และ THX รวมถึงมีประสบการณ์ทำงานเกี่ยวข้องกับด้านภาพโดยตรง จึงมีความรู้-ความเข้าใจศาสตร์ด้านภาพอย่างถ่องแท้ มาร่วมวิเคราะห์วิจารณ์คุณภาพของทีวีแต่ละตัวอย่างเปิดเผย โดยอ้างอิงมาตรฐานความถูกต้อง Lab Test ร่วมกับการรับชมจริงผ่านจอภาพอ้างอิง Studio Monitor
ในปีนี้ยังมีรางวัลพิเศษที่ทางทีมงาน LCDTVTHAILAND เราได้จัดขึ้นมาด้วย รางวัลนั้นก็คือผู้ชนะจากงาน Best of The Best TV Shootout 2017 นั่นเอง ในงานนี้เราได้นำทีวีตัวท็อปของแต่ละแบรนด์ แบบไม่จำกัดราคา มาวัดกันให้รู้ดำรู้แดงไปเลย การทดสอบนั้นก็มีหลากหลาย ทั้งความสว่าง ความดำ สีสัน เสียง และลูกเล่นการใช้งานต่างๆ เชื่อว่าใครที่ได้ไปคงจะได้รู้กันด้วยตา และหูตัวเองแล้วว่ารุ่นไหนได้ใจของคนส่วนมากที่สุด เพราะเราได้มีการให้ลงคะแนนโหวตกันด้วย ซึ่งผู้ชนะก็ได้มาจากการโหวตของผู้เข้าร่วมงานนี้เอง
ส่วนโปรเจ็คเตอร์ปีนี้ รุ่นที่รองรับความละเอียด "4K" มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น สร้างความคึกคักให้กับตลาดโฮมเธียเตอร์มากยิ่งขึ้นกว่าปีก่อนๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะระดับราคาที่ลดต่ำลงมากอย่างมีนัยสำคัญ โอกาสที่เราๆ ท่านๆ จะได้รับชมภาพยนตร์จอยักษ์ระดับ 100 นิ้ว จากโปรเจ็คเตอร์ความละเอียดระดับ 4K จึงเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิม นอกจากนี้บางรุ่นยังรองรับ High Dynamic Range หรือ HDR ตอบโจทย์เทรนด์การรับชมที่กำลังได้รับความนิยมในปัจุบันและอนาคตได้ไม่แพ้ทีวีรุ่นใหม่ๆ
คุณโรมัน และคุณนาวี คุณนาวี อินทรสังขนาวิน บรรณาธิการบริหาร นิตยสารออดิโอไฟล์ วีดีโอไฟล์
มอบรางวัล Best of the Best TV Award ให้กับมร.ทากุโอะ โคบายาชิ ผู้จัดการแผนกการตลาดผลิตภัณฑ์ทีวี
และคุณสุวัฒน์ชัย จารุวิทยานนท์ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์โฮมเอนเตอร์เทนเมนท์ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด
1) Best of The Best TV Award : Sony OLED TV A1
ทีวีที่ทีมงานยกให้เป็น "ทีวีที่ดีที่สุด ประจำปีนี้คือ Sony OLED TV A1 นับเป็นครั้งแรกของ Sony กับทีวี OLED ที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเมื่อกลางปี 2017 ที่ผ่านมา คุณภาพของภาพก็จัดว่าเหนือชั้นตามสไตล์ OLED ตัวเม็ดพิกเซลสามารถกำเนิดแสงสีเอง ทำให้เวลาแสดงสีดำจึงสามารถทำได้สนิท 100% ซึ่งยิ่งส่งผลให้สีสันที่ถูกขับออกมามีความเจิดจรัสป็อปอัพ หากเทียบกับคู่แข่งอย่าง Panasonic EZ1000T อาจเป็นรองด้านความถูกต้องของสีบ้างและรายละอียดในที่มืดยิ่บย่อย อย่างไรก็ตามโหมดภาพสำเร็จรูปอย่าง Cinema Pro / Home ก็ความแม่นยำสูงตั้งแต่ต้น หากให้เป็นรองก็เป็นรองนิดเดียว ครั้นเมื่อปรับภาพแล้วคุณภาพก็ดีไม่หนีกันเท่าไหร่นัก หรือหากเทียบกับ LG W7/G7 ทางค่ายเกาหลีจะได้เปรียบความสว่าง Peak Brightness ที่สูงกว่าเกือบ 100 nits และรองรับ Dolby Vision HDR แต้ต้นเลยในขณะที่ Sony ต้องรอ Firmware ช่วงต้นปี แต่จุดเด่นที่สุดสำหรับภาพของ Sony A1 คือเรื่อง Motion ภาพเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลเป็นธรรมชาติกว่าใครเพื่อน อาการสะดุดของภาพแทบไม่มีให้เห็น ฉะนั้นเรื่องภาพจึงไม่มีเจ้าไหนชนะอีกเจ้าแบบเด็ดขาด เรียกว่าคู่คี่สูสีกินกันคนละมุม !
ทำให้ต้องมาพิจารณาปัจจัยรองอื่นเสริมเข้าไป อย่างเช่นนวัตกรรมลำโพง Acoustic Surface ที่ให้หลักการสั่นเพื่อกำเนิดเสียงบนหน้าจอ เสียงพุ่งออกมาจากกลางจอเสมือนโรงหนังจริง แถมคุณภาพเสียงดีเทียบเท่าลำโพง Soundbar ตัวเป็นๆ ทั้งที่ไร้ซึ่งตัวลำโพงให้เห็นด้านหน้า รวมถึงระบบปฎิบัติการ Android TV เวอร์ชั่นล่าสุด 7.0 ที่เพียบพร้อมที่สุดทั้งคุณภาพและปริมาณของแอพส์จาก Google Play Store รวมถึงความสามารถของ Chromecast ที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือได้สมบูรณ์แบบที่สุด และระบบการค้นหาด้วยคำสั่งเสียงทั้งภาษาไทยและอังกฤษที่แม่นยำที่สุด สุดท้ายคือดีไซน์แบบ One Slate เหมือนกระจกสี่เหลี่ยมแผ่นเดียว ดูดีเรียบหรูทุกการติดตั้งไม่ว่าจะตั้งโต๊ะหรือแขวนผนัง ทั้งหมดคือเหตุผลที่ส่งให้ Sony OLED TV - A1 ผงาดขึ้นเหนือคู่แข่งใน ภาพรวม ดีที่สุดพร้อมยังคงสมดุลครบทุกด้าน จึงคว้ารางวัล Best of The Best TV Award รางวัลทีวีที่ดีที่สุดไปครองในปีนี้
2) Editors Choice Awards : LG OLED TV - B7T
รางวัลรองลงมาคือรางวัลสุดยอดทีวีขวัญใจทีมงาน LCDTVTHAILAND ในปีนี้ขอยกให้ LG OLED TV รุ่นเริ่มต้นอย่าง B7 ไปครองแบบได้คะแนนท่วมท้น ถึงแม้เป็น OLED TV ซีรีส์เริ่มต้น แต่คุณภาพของภาพนั้น ดีเลิศ ไม่แพ้ OLED TV ตัวท็อป ทั้งที่ระดับราคาขายจริงนั้นถูกกว่าเป็นเท่าตัว ให้ภาพสีดำที่ดำสนิท 100% พร้อมแสดงสีสันของภาพ HDR ได้อย่างเจิดจรัส รวมถึงรองรับมาตรฐาน HDR ขั้นสูงสุดในปัจจุบันอย่าง Dolby Vision ซึ่งเริ่มมีแผ่นหนังและซีรีส์ใน Netflix ใช้มาตรฐานนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีโหมดภาพสำเร็จรูปมากมายให้เลือกใช้ รวมถึงโหมดที่ให้ค่าแสงสีถูกต้องอย่าง Expert (ISF) และโหมดใหม่ล่าสุดอย่าง Technicolor มีระบบ Smart TV แบบ webOS 3.5 ที่ใช้งานง่ายที่สุดด้วย Magic Remote อันเป็นที่ชื่นชอบของทั้งมือใหม่และมือเก๋า สรุปได้ว่าจ่ายน้อยกว่าเยอะ แต่ได้คุณภาพของภาพและฟีเจอร์ลูกเล่นทุกอย่างเทียบเคียงรุ่นท็อป ทีมงานจึงขอยกรางวัล Editors Choice Award ให้ LG OLED TV B7T ไปครอง และเป็นธรรมเนียมว่า ทีวีที่ทีมงานเลือก ก็ไม่ใช่แค่บอกว่าเลือกปากเปล่า มีหนึ่งในทีมงานนักเขียน ซื้อจริง ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วหนึ่งตัวเฉกเช่นทุกปี
3) Best Value OLED TV : LG OLED TV - B7T
รางวัล OLED TV ที่คุ้มค่าที่สุดประจำปีเป็นรางวัลใหม่ที่ถูกเพิ่มขึ้นมาเพื่อให้สอดรับกับสภาพสินค้าในตลาดปัจจุบัน แน่นอนว่า OLED TV คือ ที่สุด แห่งเทคโนโลยีด้านภาพในตอนนี้ แต่ระดับราคานั้นก็มักจะเกินเอื้อมสำหรับใครหลายคน LG B7T คือ OLED TV ตัวเริ่มต้นที่ให้ความคุ้มค่าสูงที่สุดในตอนนี้ ทั้งภาพแบบ 4K HDR รองรับมาตรฐาน Dolby Vision ระบบเสียงก็ยังรองรับ Dolby Atmos ระบบปฏิบัติการ webOS 3.5 ล่าสุดซึ่งมาพร้อมกับ Magic Remote ที่แกว่งใช้งานอย่างอิสระ ตัวแอพอย่าง Netflix ก็มีคอนเทนต์ 4K HDR แบบ Dolby Vision มาให้ชมก่อนใคร จะเรียกครบสุดทุกกระบวนการทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ (คอนเทนต์) ภายใต้งบประมาณที่สามารถเอื้อมถึงทั้งขนาด 65 และ 55 จึงขอมอบรางวัล Best Value OLED TV สุดคุ้มประจำปีให้กับ LG B7T ไปครอง
คุณโรมัน พร้อมกับคุณนาวี อินทรสังขนาวิน บรรณาธิการบริหาร นิตยสารออดิโอไฟล์ วีดีโอไฟล์
มอบรางวัล Best 4K LED TV Award ให้กับคุณ นันทพล ผู้สันติ ผู้จัดการสินค้ากลุ่มโทรทัศน์
และคุณชารียา เข็มทอง ผู้จัดการสินค้ากลุ่มโทรทัศน์
4) Best 4K LED TV : Samsung QLED TV Q9F
Samsung Q9F คือ QLED TV ตัวท็อปมาพร้อมกับเทคโลยี Quantum Dot ชนิดใหม่ที่ใช้วัสดุเป็นโลหะ Metal Alloy ทำให้สามารถก้าวทะลุขีดจำกัดเดิมของ SUHD TV ไปได้ไกลอีกขั้น ทั้งระดับ ความสว่างสูงสุด Peak Brightness ที่สูงทะลุ 1800 nits (สูงที่สุดในปัจจุบัน) ค่าขอบเขตสีหรือ Color Space ที่กว้างกว่า 98% ของมาตรฐาน DCI-P3 พ่วงค่าปริมาตรสีหรือ Color Volume ที่สามารถคงความเข้มข้นของสีในทุกช่วงความสว่างไว้ได้ดี โดยเฉพาะตอนสว่างพีคมากๆสีก็ยังสดไม่ซีด ซึ่งทั้ง 3 ค่าทำได้สูงที่สุดในปัจจุบันหากเทียบกับทีวีทุกรุ่นทุกแบรนด์ มุมการกระจายแสงของเม็ดพิกเซลถูกปรับปรุงให้ดีขึ้น ทำให้มุมมองการรับชมกว้างขึ้นจากเดิมเล็กน้อย ส่วนระดับความดำก็มีฟีเจอร์ Edge LED Local Dimming ที่ช่วยดิมไฟได้เนียนตา โดยสรุปด้านภาพก็ผ่านมาตรฐาน Ultra HD Premium แบบขาดลอย เหนือชั้นกว่า LED TV ทุกตัวในท้องตลาดอย่างไร้ข้อกังขา เสริมด้วยลูกเล่นการเชื่อมต่อแบบ สายล่องหน หรือ Invisible Connection พร้อมกล่อง One Connect ที่ช่วยจัดการสายสัญญาณให้เป็นระเบียบสวยงาม สุดท้ายคือระบบปฎิบัติการ Tizen OS ที่มีการปรับแต่งให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้นด้วย One Remote ที่สามารถควบคุมได้หลายอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับทีวีผ่านช่อง HDMI และแอพ TV Plus ที่มีช่องเกาหลีให้ดูสมนาคุณให้รับชมฟรีกว่า 30 ช่อง ทั้งหมดนี้จึงส่งให้ Samsung QLED TV Q9F ได้รับรางวัล Best 4K LED TV Award ไปครอง
มอบรางวัล Best Midrange 4K LED TV ซึ่งรุ่นที่ได้ไปก็คือ EX750T
5) Best Midrange 4K LED TV : Panasonic LED TV EX750T
สำหรับรางวัล 4K LED TV ระดับกลางที่ดีที่สุดในปีนี้ได้แก่ Panasonic EX750T ซีรีส์นี้ให้คุณภาพของภาพได้ดีทั้งเรื่องของเขตสีที่กว้างถึง 94% ของมาตรฐาน DCI-P3 ผสานจอ Panel ดำเงาแบบ Glossy ส่งผลให้ภาพมีความอิ่มฉ่ำ ดำลึก แสดงภาพ HDR ได้รุกเร้าสวยงาม ช่วยยกระดับอรรถรสการรับชมให้เข้มข้นขึ้น แต่จุดที่ทีมงานฟันฉับให้เป็นเรื่องของ ขนาด 58 ที่เทียบกันแล้วใหญ่กว่าขนาดมาตรฐาน 55 ของแบรนด์อื่น ตลอดจนเป็น LED TV รุ่นสุดท้ายที่ยังให้เทคโนโลยี 3D แบบ Active มาให้ จึงทำให้มีจุดเด่นฉีกหนีคู่แข่งทั้งเรื่องขนาดหน้าจอและเทคโลยี แต่สนนราคาเปิดตัวและขายจริงระดับนั้นกลับใกล้เคียงกัน ส่วนดีไซน์กรอบโลหะสีเงินจัดว่าสวยหรูดูพรีเมี่ยม ซึ่งแฝงไว้ด้วยความพิเศษที่ขาตั้งสามารถปรับระดับความ สูง-ต่ำ ได้ไม่ว่าจะตั้งโต๊ะหรือตั้งพื้น และยังสามารถปรับหัน ซ้าย-ขวา ได้ด้วย เป็นการออกแบบที่ช่วยให้การติดตั้งและใช้งานทีวีมีความยืดหยุ่นสูงมาก ต่างจากทีวี 4K ระดับกลางทั่วไปที่มักเป็นขาตั้งทรงปกติเหมือนกันหมด ด้วยเหตุผลข้างต้นจึงขอมอบรางวัล Best 4K Midrange LED TV รางวัลทีวี 4K ระดับกลางที่ดีที่สุดให้กับ Panasonic EX750T ไปครอง
คุณโรมัน และคุณชานม นำทัพมอบรางวัลให้กับคุณณธรรศชัย สุอังคะ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย
พร้อมด้วยคุณ Linhuan Fan (หลินฮวน ฟาน) ผู้จัดการฝ่ายการตลาด
6) Best Value 4K LED TV Award : TCL LED TV C2US
TCL 55C2US คือ 4K LED Android TV รุ่นรองท็อปจากแบรนด์ดังจากแดนมังกร ถึงแม้เป็นซีรีส์สูง แต่ราคาขายก็จริงจะสูงกว่า 4K รุ่นเริ่มต้นราคาถูกสุดไม่กี่พันบาทเท่านั้น แล้วถามว่ามันคุ้มค่าอย่างไร ? ก็ขอตอบว่าเป็น Android TV แท้ๆที่ราคาถูกสุดในท้องตลาด (ค่าลิขสิทธิ์ Android TV ค่อนข้างสูง จึงต้องตั้งราคาขายสูงทุกแบรนด์) แถมยังอัดทุกฟีเจอร์มาให้เต็มคราบอีก บางจุดเหนือกว่าค่ายญี่ปุ่นที่ริเริ่ม Android TV ก่อนด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชั่นจาก Google Play Store, ความสามารถของ Chromecast ในการเชื่อมต่อกับมือถือ, รีโมทแบบ Air Mouse เป็นลูกศรเคลื่อนไหวตามทิศทางที่เราแกว่ง และ รองรับการค้นหาด้วยเสียงทั้งภาษาไทยและอังกฤษ สเป็คด้านภาพเป็นทีวี 4K ที่รองรับภาพ HDR คุณภาพของภาพก็อยู่ในเกณฑ์ปานกลางเหมาะสมกับราคา ไม่ได้มีอะไรให้ติหรือชมเป็นพิเศษ ส่วนระบบเสียงเป็น Speaker Bar ที่ออกแบบโดย Harman/Kardon ซึ่งมีสไตล์เสียงแบบจัดจ้าน แต่ก็เกลาลงให้เป็นธรรมชาติตามใจชอบได้ด้วยเมนูปรับแต่งเสียงด้านใน สุดท้ายคือดีไซน์แบบ Edgeless ขอบบางเฉียบ สวยหรูขึ้นจากดีไซน์เมื่อหลายปีก่อนมาก และของแถมที่ช่วยเติมเต็มคำว่า คุ้มค่า คือระยะเวลารับประกันยาวนานถึง 5 ปีเต็ม ทางทีมงานจึงฟันธงมอบรางวัล Best Value 4K LED TV Award ทีวี 4K ที่คุ้มค่าที่สุดแห่งปีให้กับ TCL C2US ไปครอง
7) Best Budget 4K LED TV Award : LG UJ652T & Samsung MU6300
รางวัลทีวี 4K ระดับเริ่มต้นราคาถูกที่ดีที่สุด ปีนี้ทีมงานขอมอบให้กับ 2 รุ่นนี้ได้แก่
7.1) LG UJ652T : LG Series 6 โดดเด่นที่เป็นทีวี 4K รุ่นเริ่มต้น แต่ให้ความครบเครื่องครอบคลุมทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นด้านภาพความละเอียด 4K รองรับ HDR คุณภาพเสียงที่จัดว่าอิ่มแน่น เบสมีน้ำหนักกว่าทีวีรุ่นเริ่มต้นทั่วไป ดีไซน์กรอบสีเงินสวยงามดูหรูหรา แถมจัด HDMI มาให้ถึง 4 ช่องเท่ากับพวกรุ่นท็อป แต่ที่ทีมงานขอยกให้คือเจ้า webOS 3.5 พร้อม Magic Remote รีโมทแบบ Air Mouse ที่ใช้งานจริงนั้นง่ายมาก (ยกให้ง่ายที่สุดในบรรดา Smart TV ทุกแบรนด์) หลายท่านใช้เล่น YouTube / Netflix จะทราบดีถึงประโยชน์ของเจ้า Magic Remote สำหรับทีวี 4K รุ่นเริ่มต้นประหยัดงบนั้น LG UJ652T นั้นจัดว่ามีอะไรที่ดีเกินหน้าเกินตาชาวบ้านเขาไปเยอะ
คุณโรมัน พร้อมกับคุณนาวี อินทรสังขนาวิน บรรณาธิการบริหาร นิตยสารออดิโอไฟล์ วีดีโอไฟล์
มอบรางวัล Best Budget 4K LED TV Award ให้กับคุณ นันทพล ผู้สันติ ผู้จัดการสินค้ากลุ่มโทรทัศน์
และคุณชารียา เข็มทอง ผู้จัดการสินค้ากลุ่มโทรทัศน์
7.2) Samsung MU6300 : คือทีวี จอโค้ง รุ่นเริ่มต้นราคาประหยัดที่สุดที่ให้คุณค่าได้เกินหน้าเกินตาเช่นกัน เริ่มด้วยสเป็คด้านภาพแบบ 4K รองรับ HDR ซึ่งถ่ายทอดภาพได้เป็นธรรมชาติ จุดที่ยกให้เหนือกว่าทีวี 4K รุ่นเริ่มต้นทั่วไปคือ Tizen OS โฉมใหม่ ใช้งานง่าย มีแอพส์ดูวีดีโอคอนเทนต์ครบถ้วน แต่จะพิเศษที่แอพ TV Plus มีช่องรายการเกาหลีทั้งละครซีรีส์, เกมส์โชว์, วาไรตี้ พร้อมซับไตเติ้ลภาษาไทยมาให้เราดูจริงจังแบบฟรีๆ ถูกใจคุณสาวๆมิใช่น้อย รวมถึงเจ้า One Remote รีโมทขนาดจิ๋วแต่แจ๋วที่สามารถควบคุมอุปกรณ์อื่นได้ด้วยรีโมททอันนี้อันเดียว ไม่ว่าจะเป็น Blu-ray Player, Soundbar, กล่อง Set Top Box สุดท้ายคือมันมีดีไซน์ จอโค้ง ที่ดูหรูหราและมักไปสถิตย์อยู่กับรุ่นบนเท่านั้น จะเรียกได้ว่าหล่อหรูได้ในราคาเบาๆ
คุณชานม และคุณนาวี อินทรสังขนาวิน บรรณาธิการบริหาร นิตยสารออดิโอไฟล์ วีดีโอไฟล์
มอบรางวัล Best Full HD LED TV Award ให้กับมร.ทากุโอะ โคบายาชิ และ คุณปรัชญา นันทปถวี
8) Best Full HD LED TV Award : Sony LED TV W750E
รางวัลทีวีความละเอียด Full HD 1080p ที่ดีที่สุดประจำปีตกเป็นของ Sony W750E ซึ่งเจ้า W750E จัดว่าสวนกระแสทีวีความละเอียด Full HD ของทุกค่ายที่พยายามลดต้นทุนเพื่อขายราคาถูก แต่ W750E กลับจัดเต็มทุกอย่างให้ลูกค้าอย่างเกินคาด มากจนทีวี 4K รุ่นเริ่มต้นจากหลายค่ายยังอาย ไม่ว่าจะเป็นการรองรับภาพแบบ HDR (เล่นเกมส์ 1080p HDR จาก PS4 Pro ได้) ใช้เทคโนโลยี Triluminos ขยายขอบเขตการแสดงเฉดสีให้กว้างยิ่งขึ้น ซึ่งหากตั้งเทียบกับพวกทีวี Full HD ราคาประหยัดจะเห็นความแตกต่างเรื่องคุณภาพของภาพและสีสันอย่างชัดเจน มี Internet TV ที่อาจจะไม่แฟนซีเท่า Smart TV แบบเต็มรูปแบบนัก แต่ก็ให้แอพส์หลักที่ใช้กันประจำมาครบถ้วน เช่น YouTube / Netflix / Opera Browser แถมยังมี วิทยุ FM ให้จูนผ่านเสาอากาศมาฟังเล่นอีกด้วย จัดเต็มจนล้นทะลักเช่นนี้ ก็ขอมอบรางวัล Best Full HD LED TV Award ให้ไปครองแบบไร้คู่แข่งเลย
คุณโรมัน และคุณชานม มอบรางวัล Best Smart TV Award ให้กับมร.ทากุโอะ โคบายาชิ และ คุณปรัชญา นันทปถวี
9) Best Smart TV Award : Sony Android 7.0
Sony Android TV เป็นเจ้าเดียวในตอนนี้ที่อัพเกรดเวอร์ชั่นไปเป็น 7.0 อย่างสมบูรณ์ ในขณะที่ค่ายอื่นยังเป็น 6.0 อยู่ ยังอัพเป็น 7.0 ไม่ได้ จุดเด่นของ Android TV คือเรื่อง คุณภาพและปริมาณ ของแอพส์ใน Google Play Store ยังคงเป็นที่สุดเหนือ Smart TV ทุกค่ายอยู่ พร้อมลูกเล่นที่โดดเด่นมากมายไม่ว่าจะเป็น Chromecast Built-in เชื่อมต่อมือถือและสามารถโยนคอนเทนต์ไปแสดงบนทีวีได้อย่างลื่นไหลที่สุด ระบบการค้นหาด้วยคำสั่งเสียง Voice Search ที่แม่นยำที่สุดซึ่งรองรับทั้งภาษาไทยและอังกฤษ สามารถใช้จอย Dual Shock ของ PS4 ควบคุมทีวีและเกมส์ที่ดาวโหลดมาลงเครื่องได้ ส่วนฟีเจอร์ของ 7.0 ที่เหนือกว่า 6.0 ก็ได้แก่ฟีเจอร์การทำภาพซ้อนภาพ Picture In Picture และ Quick Switch Between Apps สามารถเลือกสลับใช้งานแอพส์อื่นๆได้โดยไม่ต้องออกจากแอพเดิมที่ใช้งานอยู่ สำหรับการใช้งานอาจจะไม่ง่ายที่สุดก็จริงเหมือนพวกที่ให้รีโมท Air Mouse ให้แต่ต้น แต่ด้วยลูกเล่นการใช้งานสารพัดนึกที่อัดแน่นมาให้ ทำให้ยังนำค่ายอื่นไปกว่าหนึ่งก้าวใหญ่อยู่ดี จึงของมอบรางวัล Best Smart TV Award ให้กับ Sony Android 7.0 ไปครอง
คุณโรมัน พร้อมกับคุณนาวี อินทรสังขนาวิน บรรณาธิการบริหาร นิตยสารออดิโอไฟล์ วีดีโอไฟล์
มอบรางวัล Best Design TV Award ให้กับคุณ นันทพล ผู้สันติ ผู้จัดการสินค้ากลุ่มโทรทัศน์
และคุณชารียา เข็มทอง ผู้จัดการสินค้ากลุ่มโทรทัศน์
10) Best Design Award : Samsung The Frame
Samsung The Frame คือ ทีวีดีไซน์กรอบรูป ที่ผสานงานศิลปะเข้ากับเทคโลยีจอภาพไว้อย่างลงตัว ตัวเครื่องมีฟีเจอร์ฉลาดๆมากมายที่ช่วยแปลงร่างทีวี 4K HDR Smart TV ให้เป็นกรอบรูปได้อย่างเนียนตา ปิดเครื่อง = ตัวทีวีจะกลายเป็นกรอบรูป แต่ถ้าเปิดเครื่อง = ก็จะเปลี่ยนกลับเป็นทีวีแบบปกติ อันดับแรกเราสามารถเลือกสีกรอบรูปได้ถึง 3 สีทั้งสีน้ำตาลเข้ม (Walnut), น้ำตาลอ่อน (Beige) และ สีขาว (White) โดยสามารถแขวนตัวเครื่องได้แนบสนิทชิดผนังด้วยขาแขวนชนิดพิเศษที่มีชื่อว่า No Gap Wall Mount เชื่อมต่อสายสัญญาณต่างๆผ่าน Invisible Connection สาย Fiber Optic เส้นจิ๋วล่องหน ทำให้บริเวณทีวีเรียบร้อยสวยงามปราศจากสายรกรุงรัง ตัวเครื่องมี Art Mode คลังรูปภาพงานศิลปะที่รวบรวมรูปภาพกว่าร้อยชิ้นให้เลือกใช้ และยังสามารถเลือกใช้รูปส่วนตัวของเราขึ้นไปแสดงบนจอทีวีผ่าน USB Thumb Drive ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมี Brightness Sensor เซ็นเซอร์ปรับระดับความสว่างของทีวีให้สัมพันธ์กับความมืด-สว่างของห้อง และ Motion Sensor เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว เมื่อไม่มีคนอยู่ในห้อง ตัวทีวีจะสั่งพักหน้าจออัตโนมัติเพื่อประหยัดพลังงาน สำหรับการติดตั้งก็สวยไม่ว่าจะแขวนก็เหมือนกรอบรูปจริง ส่วนหากอยากตั้งแนะนำขาตั้งแบบ Studio Stand 3 แฉก ประหนึ่งการจัดงานศิลป์ที่ถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ ให้ทีวีเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ประดับบ้านได้จริงตลอด 24 ชม. สวยสมดุลครบรอบด้าน จึงขอมอบรางวัล Best Design Award ให้กับ Samsung The Frame ไปครอบครองในปีนี้
Best of The Best TV Shootout 2017 : คืองานประชันทีวีตัวท็อปที่ดีที่สุดประจำปี จัดโดย LCDTVTHAILAND ในวันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2017 ณ โรงแรมอนันตราสยาม ได้นำเอาทีวีตัวท็อปจากทุกค่ายมาร่วมเปรียบเทียบคุณภาพกันแบบถึงพริกถึงขิง โดยในช่วงครึ่งแรกของงานจะเป็นการนำเสนอคอนเซปต์และจุดเด่นของตัวสินค้า อาทิ ดีไซน์, Smart TV, เทคโนโลยีลำโพง และ เทคโนโลยีภาพ โดยทีมวิทยากรจากแต่ละแบรนด์ ส่วนครึ่งหลังจะเป็นการทดสอบเปรียบเทียบภาพและเสียงกันแบบเรียงหน้าชนอย่างเข้มข้น ด้วยคอนเทนต์มากมายทั้ง Professional Test Patterns, หนัง 4K HDR, หนัง Full HD 1080p, คอนเสิร์ต, และเกมส์ ให้ ครอบคลุมทุกการใช้งานจริง และเปิดให้แฟนเว็บและกรรมการรับเชิญร่วมโหวตทีวีที่ดีที่สุดประจำปี ซึ่งผลรวมคะแนนที่มากที่สุดจากทั้ง "ผู้เข้าร่วมงาน"+ "กรรมการพิเศษ" จะได้รับรางวัลชนะเลิศสูงสุด The Winner และรางวัลรองคือ Experts Choice ซึ่งนับผลโหวตที่มากที่สุดจาก "กรรมการพิเศษ" เท่านั้น
ย้ำอีกทีว่าสองรางวัลดังต่อไปนี้มาจากการตัดสินของ "ผู้เข้าร่วมงาน" และ "กรรมการพิเศษ" ภายในงาน Best of The Best TV Shootout 2017
คุณโรมัน มอบรางวัลให้กับ มร.ทากุโอะ โคบายาชิ - ผู้จัดการแผนกการตลาดผลิตภัณฑ์ทีวี (คนที่สามจากทางซ้าย)
และพร้อมด้วยคุณปรัชญา นันทปถวี
11) The Winner - Best of The Best TV Shootout 2017 : Sony OLED TV - A1
หลังจากการประเมินคุณภาพของทีวีอย่างละเอียด รอบด้าน จากทั้งผู้เข้ามร่วมงานและกรรมการพิเศษ ในปีนี้ทีวีที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดและคว้ารางวัลชนะเลิศคือ Sony OLED TV A1 ด้วยผลโหวต 29 จาก 64 ท่าน คิดเป็น 45.3% สูงสุดในบรรดาทีวี 5 รุ่นจาก 5 แบรนด์ที่เข้าร่วมชิงชัย เหตุผลหลักที่ผู้โหวตเทใจให้ Sony OLED TV A1 คือหากเปรียบเทียบเรื่องคุณภาพของภาพกับ OLED TV แบรนด์ข้างเคียง ก็จะมีดีมีด้อยคละเคล้ากันไป สังเกตจุดต่างที่ทำให้ชนะขาดได้ค่อนข้างยาก ทำให้คะแนนด้านภาพมีความสูสีใกล้เคียงกันจนต้องไปวัดกันที่ด้านอื่นเสริม ซึ่งเหตุผลที่ผู้โหวตเขียนลงกระดาษก็จะชื่นชอบนวัตกรรม ไร้ลำโพง หรือ Acoustic Surface ซึ่งยิงเสียงออกจากกลางจอได้จริง โดยไม่ต้องมีลำโพงตัวเป็นๆมาวางเกะกะ รวมถึงลูกเล่น Android TV ที่ยืดหยุ่นสูงที่สุดในการเชื่อมต่อกับมือถือและโยนคอนเทนต์เข้าไปเล่น และการค้นหาวีดีโอและคลิปด้วยคำสั่งเสียงที่แม่นยำที่สุด ซึ่งลูกเล่นที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นสิ่งผู้โหวตเล็งเห็นว่ามันมีประโยชน์และสามารถใช้งานได้จริงกว่าลูกเล่นของเจ้าอื่นๆจึงทำให้ Sony OLED TV A1 เข้าวินในครั้งนี้ ขอแสดงความยินดีด้วยอีกครั้ง !
คุณโรมัน และคุณชานม มอบรางวัล Editors Choice Award
ให้กับคุณโยสุเกะ อิชิกาวะ ผู้อำนวยการส่วนงานขาย และการตลาด ผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์
ร่วมด้วยคุณ นิติ จินดาโชค เจ้าหน้าที่แผนกการตลาด ผลิตภัณฑ์ทีวี
12) Experts Choice - Best of The Best TV Shootout 2017 : Panasonic OLED TV - EZ1000T
อีกหนึ่งตัวที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดจากทีม "กรรมการพิเศษ" (Expert) ทั้ง 5 ท่าน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาพและเสียงโดยตรง ก็คือ Panasonic OLED TV EZ1000T เป็นทีวีที่ให้ "คุณภาพของภาพได้ดีที่สุด" เท่าที่เคยมีมา เพราะตั้งแต่แกะกล่องออกมาโดยไม่ต้องปรับภาพใดๆ ก็ให้ค่าแสงสีได้เที่ยงตรงสุดๆ (ในโหมด THX และ Professional - ISF) ความเที่ยงตรงสูงนี้ถึงแม้ปรับภาพเพิ่มเติมเพื่อความเพอร์เฟ็กต์แต่การรับชมจริงก็ไม่แตกต่างอย่างมีนัยยะ สามารถเทียบเคียงกับจอ Studio OLED Monitor ที่่ใช้ในการผลิตภาพยนตร์ ต้องขอชมเชย Panasonic Hollywood Lab ที่มีส่วนสำคัญในการไฟน์จูนภาพออกมาแล้วอยู่ใน ระดับอ้างอิง หรือ Reference เลยตั้งแต่ต้น นั้นหมายถึงการเสพภาพนั้นเราจะได้รับชมในมุมมองที่ผู้กำกับต้องการสื่อให้เราแบบถูกต้องแทบจะ 100% ทั้งเรื่องสีสันและรายละเอียดในที่มืด-สว่าง การันตีด้วยโหมดภาพจากสถาบันมาตรฐานภาพระดับโลกทั้ง Imaging Science Foundation - ISF และ THX ส่วนจุดสังเกตด้านภาพนั้นก็ยังไม่รองรับมาตรฐาน HDR แบบ Dolby Vision แต่จะหันไปซบมาตรฐานใหม่ที่จะเริ่มมีแพร่หลายในปีหน้าอย่าง HDR10+ แทน ด้านลำโพงซาวด์บาร์ Dynamic Blade Speaker ก็ให้เสียงที่รุุกเร้า จัดจ้าน ชัดเจน ไม่เป็นสองรองใคร กำลังสำรองเหลือเฟือ ดูหนังอึกทึกครึกโครมมันส์สะใจแน่นอน ส่วนระบบ Smart TV ที่ต่อยอดมาจาก Firefox OS นั้นอาจจะไม่ค่อยแฟนซีเท่าไหร่หากเทียบเจ้าอื่น แต่ก็ให้แอพพลิเคชั่นดูวีดีโอคอนเทนต์หลักๆมาอย่างครบครัน สรุปว่าทีมกรรมพิเศษโหวตให้ EZ1000T เป็นทีวีที่ดีที่สุด จำนวน 3 จาก 5 ท่าน คิดเป็น 60% สูงที่สุดในบรรดาทีวีทั้ง 5 แบรนด์ที่เข้าร่วมชิงชัย จึงได้รางวัล Experts Choice Award ไปครอง
หมายเหตุ กรรมการพิเศษด้านภาพได้รับการ Certified ผ่านหลักสูตรจากสถาบันมาตรฐานภาพทั้ง ISF และ THX รวมถึงมีประสบการณ์ทำงานเกี่ยวข้องกับด้านภาพโดยตรง จึงมีความรู้-ความเข้าใจศาสตร์ด้านภาพอย่างถ่องแท้ มาร่วมวิเคราะห์วิจารณ์คุณภาพของทีวีแต่ละตัวอย่างเปิดเผย โดยอ้างอิงมาตรฐานความถูกต้อง Lab Test ร่วมกับการรับชมจริงผ่านจอภาพอ้างอิง Studio Monitor
11
ห้องรวมภาพ งานบรรยายสไตล์ LCDTVTHAILAND / ประกาศผลแล้ว ! รางวัลทีวีที่สุดประจำปี Best of The Best TV Shootout 2017
« เมื่อ: ธันวาคม 23, 2017, 12:47:12 pm »ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่แต่ละปีที่ทุกท่านมีโอกาสได้เป็นส่วนร่วมคัดเลือกสุดยอดทีวีตัวท็อปจากทุกแบรนด์ เพื่อเฟ้นหา "ทีวีที่ดีที่สุด" ในงาน Best of The Best TV Shootout 2017 จัดโดยเว็บ LCDTVTHAILAND โดยปีนี้จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 25 พ.ย. 2017 ณ โรงแรมอนันตราสยาม ซึ่งผลการเปรียบเทียบคุณภาพทีวีภายในงานนี้จะถูกนำไปประเมินตัดสินรางวัล VIDEOPHILE LCDTVTHAILAND AWARDS หรือรางวัลทีวีที่ดีสุดประจำปี 2017 ในแต่ละสาขาอีกด้วย
ชื่องาน : Best of The Best TV Shootout 2017
สถานที่ : โรงแรมอนันตราสยาม (BTS ราชดำริ)
วัน : เสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2560
เวลา : 12.30 - 17.00
ผู้นำบรรยาย : คุณโรมัน คุณชานม และทีมงาน LCDTVTHAILAND
Line-Up ทีวีที่จะเข้าประชัน แบ่งกรุ๊ปเป็น OLED TV และ QLED TV โดยในแต่ละกรุ๊ปจะเรียกตามตัวอักษร A-Z
Best of The Best TV Shootout 2017
งานประชันสุดยอดทีวีที่ดีที่สุดประจำปีในประเทศไทย
จัดโดยเว็บไซต์ LCDTVTHAILAND
งานเดียวที่จะให้ท่านเห็นการเปรียบเทียบคุณภาพทีวีกันแบบ "เรียงหน้าชน" แบบชัดๆ
แฟนเว็บ LCDTVTHAILAND ที่มาร่วมงานครั้งนี้นอกเหนือจากจะได้ความรู้และความบันเทิงแล้ว
จะได้รับสิทธิ์ "โหวต" ว่าทีวีตัวไหนดีที่สุดประจำปีนี้ 1 ท่าน = 1 โหวต เท่าเทียมกัน!!
ดำเนินรายการโดย "คุณโรมัน" วีรเกียรติ จิรัฐการุณธ์ เจ้าของเว็บไซต์ LCDTVTHAILAND กับ "คุณชานม" ชานนท์ จุทัยรัศม์ บรรณาธิการอำนวยการเว็บไซต์ LCDTVTHAILAND พร้อมด้วยวิทยาการจากทั้ง 5 แบรนด์ดัง ไม่ว่าจะเป็น LG, Panasonic, Sony, Samsung และ TCL ในการนำเสนอจุดเด่นทีวีด้วยตนเอง ให้กับแฟนๆผู้สนใจอย่างลึกซึ้ง รวมถึงช่วงไฮไลท์ของงานซึ่งก็คือการเปรียบเทียบคุณภาพของภาพและเสียงอย่างเข้มข้น เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้ใช้ประกอบการพิจารณาโหวตทีวีรุ่นที่คิดว่าดีที่สุด
ประเด็นที่ใช้ในการพิจารณาว่าทีวีเครื่องไหนคู่ควรกับรางวัล "ทีวีที่ดีที่สุดประจำปี" ได้แก่
1. ภาพ : ทดสอบศักยภาพกับภาพความละเอียด 4K HDR แท้ๆ รวมไปถึงการรับชมคอนเทนต์มาตรฐาน SDR ที่ยังแพร่หลายในปัจจุบัน
2. เสียง : จริงอยู่ว่าลำโพงทีวีคงสู้โฮมเธียเตอร์เต็มระบบไม่ได้ แต่หากทีวีตอบสนองจุดนี้ได้ดีก็ถือเป็นกำไรของผู้บริโภค
3. การออกแบบ : ความสวยงามใครว่าไม่สำคัญกับทีวีระดับนี้ การส่งเสริมภาพลักษณ์และการออกแบบที่เอื้อประโยชน์ใช้สอยสำคัญมาก
4. ลูกเล่นการใช้งาน : ฟีเจอร์เสริมที่ส่งผลให้การใช้งานทีวีเข้ากับยุคสมัย ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานได้มากยิ่งขึ้น
5. ราคา : หากประสิทธิภาพไม่ด้อยกว่ากัน ราคาก็เป็นปัจจัยหลักในการพิจารณาถึงความคุ้มค่า
กำหนดการ
12.00 ลงทะเบียน + รับประทานของว่าง
13.00 แนะนำกติกาการประชัน
13.15 การนำเสนอสินค้าโดยวิทยากร 5 ท่านจาก 5 แบรนด์ ท่านละ 15 นาที
15.00 พักเบรคทานของว่าง
15.15 ทดสอบเปรียบเทียบคุณภาพของ "ภาพ"
- ความดำ,ความสว่าง, สีสัน, เบิร์นอิน
- หนัง 4K HDR & 1080p Blu-ray
- เกม 4K Gaming
16.15 ทดสอบเปรียบเทียบคุณภาพของ "เสียง"
16.30 ร่วมโหวตทีวีที่ดีที่สุดประจำปี (1 ท่าน = 1 โหวต)
16.45 คอมเมนท์โดยกรรมการรับเชิญพิเศษ
17.00 ประกาศผลทีวีที่ดีที่สุดประจำปี + มอบถ้วยรางวัล
ทีวีตัวท็อปที่มาประชันในครั้งนี้ จัดกลุ่ม OLED TV 3 รุ่น (เรียง A-Z) และ QLED TV 2 รุ่น ( เรียง A-Z) อยู่ด้วยกัน
LG 65W7T / Panasonic TH-65EZ1000T / Sony KD-65A1 / Samsung 65Q9F / TCL 65X3CUS
ทุกรุ่นมีจำหน่ายในประเทศไทยจริง ที่สำคัญเป็นขนาด 65 นิ้ว ทั้งหมด เพื่อให้เปรียบเทียบภาพและเสียงได้ง่ายเป็นเป็นธรรม
พิเศษสำหรับปีนี้มี "Sony PVM-A170" สตูดิโอมอนิเตอร์ระดับอ้างอิง เพื่อตรวจสอบความเที่ยงตรงของสีสัน
หรือ Color Accuracy ของทีวีที่นำมาประชันกันกันกับมอนิเตอร์ ใครสีตรงหรือไม่ตรงเดี๋ยวได้รู้กัน.!!
เปิดให้ลงทะเบียนเข้างานตั้งแต่ 12.30 น. แฟนเว็บที่ลงทะเบียนไว้เริ่มทยอยมากันอย่างคับคั่ง
โดยเฉพาะบางท่านนี่ลงทุนบินจากต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพมาแต่เช้าตรู่เพื่องานนี้โดยเฉพาะ (ขอปรบมือให้)
วิทยากรแต่ละแบรนด์จับฉลากลำดับการพรีเซนต์
"ครึ่งแรก" ของงาน จะเป็นการนำเสนอจุดเด่นของทีวีโดยวิทยากรของแต่ละแบรนด์ และเพื่อความเป็นธรรม ตัวแทนแต่ละแบรนด์จะทำการ จับฉลากเพื่อกำหนดลำดับการพรีเซนต์ โดยให้มาลุ้นกันหน้างาน ผลเป็นดังนี้ 1.) Samsung, 2.) TCL, 3.) Panasonic, 4.) LG, 5.) Sony โดยหลังจากพรีเซนต์ครบทั้งหมดแล้ว ทีมงานจะให้โอกาสแบรนด์ลำดับที่ 1 และ 2 ได้กลับมาพรีเซนต์อีกครั้งเพื่อแก้ต่างในเวลาสั้นๆ ป้องกันการเสียเปรียบเรื่องลำดับก่อนหลังครับ
เปิดงานนำบรรยายโดย "คุณโรมัน" วีรเกียรติ จิรัฐการุณธ์ เจ้าของเว็บ LCDTVTHAILAND
และ "คุณชานม" ชานนท์ จุทัยรัศม์ บรรณาธิการอำนวยการเว็บไซต์ LCDTVTHAILAND
แนะนำ "วิทยากร" ของแบรนด์ทีวีทั้ง 5 ที่จะมาให้ข้อมูลความรู้พร้อมๆ กับความสนุกสนานในครึ่งแรก
ถัดมาแนะนำ "กรรมการรับเชิญ" ที่ล้วนมีความรู้ความเชี่ยวชาญทั้งด้าน ภาพ / เสียง / สมาร์ททีวี
จะมาช่วยให้ความเห็นเชิงลึกในด้านที่ตนถนัด แบ่งปันมุมมองที่แตกต่างออกไปช่วงถ้ายงานหลังจากการโหวตเสร็จสิ้น
รายชื่อกรรมการรับเชิญ (จากซ้ายไปขวา)
1. คุณพงศ์ทิพจักร เชื่อเจ็ดองค์ (คุณหมอเอก)
- THX & ISF Certified Calibrator และนักเขียนนิตยสาร Audiophile-Videophile ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรื่อง "ภาพ"
2. คุณณัฐพล แสดงทรัพย์ (คุณนัท)
- THX & ISF Certified Calibrator และเจ้าของ Cinemania ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรื่อง "ภาพ"
3. คุณทวีศักดิ์ ภู่วิภาดาวรรธน์ (คุณอี๊ด)
- THX & ISF Certified Calibrator และเจ้าของ Theater Solution ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรื่อง"ภาพ"
4. คุณธรรมนูญ ประทีบจินดา (ป๋านูญ)
- นักเขียนบทความดิจิทัลออดิโอ นิตยสาร Audiophile Videophile ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรื่อง "เสียง"
5. คุณพิศาล ถ้ำอมร (นายบอส)
- กูรูด้านไอที สมาร์ทโฟน แก็ดเจ็ต ผู้จัดรายการวิทยุ Techno For Life FM 99.0 ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรื่อง "สมาร์ททีวี"
"คุณโรมัน" อธิบายกติกาการให้คะแนนให้กรรมการรับเชิญทั้ง 5 ท่าน ได้รับทราบ
ซึ่ง 1 ท่าน มิสิทธิ์โหวต 1 คะแนน เท่ากับผู้ร่วมงานท่านอื่น แต่ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่มี
หลังจากขั้นตอนการโหวตเสร็จสิ้น จะให้แต่ละท่านออกมาแชร์ความเห็นแบบเจาะลึก
รวมถึงอธิบาย "กติกา" ให้วิทยากรแต่ละแบรนด์ทราบโดยหลักๆคือ
1) แต่ละท่านมีเวลาพรีเซนต์ 15 นาที
2) สามารถพรีเซนต์เชิงเปรียบเทียบคู่แข่งแบบปากเปล่าได้
3) สามารถสั่งให้ทีมงานเปิด-ปิดไฟห้องเพื่อนำเสนอภาพได้
4) สามารถใช้อุปกรณ์เสริมเช่น รีโมทแบบพิเศษ, Smart Phone อุปกรณ์การแขวนและขาตั้งทีวี ประกอบการบรรยายได้
พร้อมแล้วเริ่มการพรีเซนต์สินค้าจากแบรนด์แรก นั่นก็คือ Samsung !!!
1) แบรนด์แรก Samsung กับทีวีตัวท็อป 65Q9F 4K UHD QLED TV
โดยวิทยากรคือ คุณโจ้ ธนิตสรณ์ วานิชสุขสมบัติ Master Trainer จาก Samsung
ขาตั้ง Studio Stand ทรง 3 แฉกซึ่งใช้คู่กับ QLED TV ได้ทุกรุ่น เช่น Q7 Q8 Q9
อัพเกรดให้ทีวีสวยงามเหมือนการแสดงชิ้นงานศิลปะ
Samsung QLED TV - Q9F ยังคงความโดดเด่นเรื่องของดีไซน์ นอกจากสวยงามแล้วยังตอบสนองการใช้งานได้ลงตัว ทั้ง One Connect รูปแบบใหม่ที่เปลี่ยนมาใช้สาย Fiber-optic ขนาดเล็ก จึงสามารถเก็บซ่อนสายได้ง่าย แต่ยังสามารถส่งผ่านข้อมูลภาพและเสียงจำนวนมากได้อย่างไร้ที่ติ (ความยาวมาตรฐาน 5 ม. เพิ่มได้ถึง 15 ม.) การตั้งวางบนขาตั้งก็สวย หรือจะแขวนผนังก็งามด้วย "No Gap Wall Mount" นอกจากนี้ระบบ Smart TV จากระบบปฏิบัติการ Tizen ยังคำนึงถึงผลการใช้งานจริง เข้าถึงง่ายดายเหมาะกับผู้ใช้งานทุกกลุ่ม
2) คุณณรงค์วิทย์ พลเสน (คุณเมย์), Senior Trainer จาก TCL ขึ้นมาพรีเซนต์ TCL 65X3CUS
ถัดมา TCL พูดถึงจุดเด่นของ 65X3CUS 4K UHD QLED TV กับดีไซน์จอโค้งเพียงหนึ่งเดียวในครั้งนี้ พร้อมระบบเสียงไม่ธรรมดาจาก harman/kardon ซึ่งถึงแม้ภาพจะเป็นรองแบรนด์อื่น แต่ระดับราคาก็ต่ำกว่าแบรนด์อื่นๆ ถึง 3 เท่าด้วยกัน!! แถมยังเป็นผู้ผลิตทีวีที่ครองอันดับหนึ่งในประเทศจีนแบรนด์นี้มีพัฒนาการดีขึ้นอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ปัจจุบันพิสูจน์ตนเองด้วยความคุ้มค่าที่แสดงให้ทุกท่านในงานได้ประจักษ์ โดยเฉพาะระยะเวลารับประกันยาวนานถึง 5 ปีเต็ม
รุ่นนี้มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android TV 6.0 ที่ให้ความยืดหยุ่นไม่แพ้แบรนด์อื่น
ทิ้งท้ายก่อนหมดเวลาทางวิทยากรได้เผยข้อมูลของทีวี TCL รุ่นใหม่ประจำปี 2018
ที่จะก้าวกระโดดจนทำให้แบรนด์อื่นได้หนาวกันอย่างแน่นอน..
3) คุณนิติ จินดาโชติ (คุณนุ) ผู้บริหารฝ่ายการตลาดของ Panasonic
ขึ้นมานำเสนอทีวีตัวท็อป OLED TV TH-65EZ1000T
มาถึง Panasonic 65EZ1000T 4K UHD OLED TV อีกหนึ่งตัวเก็งประจำปีนี้ที่พกความมั่นใจมาด้วยคุณภาพอ้างอิงระดับผู้ผลิตภาพยนตร์จาก Hollywood สิ่งที่ทำให้แตกต่างจาก OLED TV แบรนด์อื่น คือ ชิพประมวลผล กับการรับรองมาตรฐานจากสถาบันด้านภาพครบทั้ง "THX" และ "ISF" ยืนยันความเที่ยงตรงด้านสีสันและการแสดงผล
แต่ที่ไม่กล่าวถึงมิได้ คือ ระบบเสียงจากลำโพง "Dynamic Blade Speakers" กำลังขยายสูงถึง 80 วัตต์
ได้รับการจูนเสียงโดย Technics การตอบสนองความถี่และระดับเสียงจึงมีความโดดเด่นกว่าลำโพงทีวีทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด
4) คุณอำนาจ สิงหจันทร์ (คุณเอ) ผู้บริหารฝ่ายการตลาดของ LG ขึ้นมานำเสนอ OLED TV 65W7T
ครั้งแรกเลยกับจอภาพที่สามารถ "ดัดงอ" ได้ขนาดนี้
LG นำ 65W7T 4K UHD OLED TV รุ่นท็อปสุดจากซีรี่ส์ Wallpaper มาประชันในงานนี้อย่างทันควัน หลังจากที่เพิ่งจัดงานเปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ เรียกว่าจอยังอุ่นๆ อยู่เลย วิทยากรเรียกเสียงฮือฮาเป็นอย่างมากเมื่อถอดจอจากที่แขวน ซึ่งยึดด้วยแม่เหล็ก ออกมาแล้วยกให้ดูแบบนี้ เพื่อให้เห็นความบางเฉียบของพาเนลในขณะที่ยังเปิดภาพอยู่ เป็นการตอกย้ำถึงการเป็นผู้นำนวัตกรรม OLED Panel เพียงหนึ่งเดียวเหนือกว่ายี่ห้ออื่น ที่ยังคงใช้พาเนลรุ่นเก่าของ LG งอไม่ได้ นอกจากนี้ W7T ยังมาพร้อมระบบเสียง "Dolby Atmos Soundbar" รองรับระบบภาพ "Dolby Vision HDR" เท่าทันตามยุคสมัย เช่นเดียวกับระบบสมาร์ททีวีจาก WebOS ผ่านการควบคุมด้วย Magic Remote ที่สะดวกเหมือนเดิม
5) คุณวันชัย ไทยประยูร (คุณนัท), Product Specialist ของ Sony ขึ้นมาพรีเซนต์ OLED TV KD-65A1
สุดท้ายกับ Sony KD-65A1 4K OLED TV ที่มาขอทวงคืนตำแหน่งผู้ผลิต Consumer OLED TV หลังจากห่างหายจากวงการมานานเกือบ 10 ปี มาคราวนี้ถึงแม้จะใช้พาเนลของคนอื่น แต่ก็จัดเต็มกับนวัตกรรมหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงแบบ One Slate ดูดีแบบไร้ขารองรับด้านล่าง และชิพประมวลผล X1 Extreme ศักยภาพสูง แต่เหนืออื่นใด คือ ระบบเสียง "Acoustic Surface" ที่แหวกแนว ให้มิติเสียงออกจากตัวพาเนลโดยตรง
ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่น 7.0 เรียกว่าทันสมัยที่สุดสำหรับ Android TV มีความยืดหยุ่นสูงในแง่การติดตั้งแอพฯ เพิ่มเติม
นอกจากนี้ลูกเล่นเสริมอย่าง "ค้นหาด้วยเสียง" ก็ตอบสนองได้เป็นอย่างดี ระบบฯ สามารถจับได้ทุกคำที่ผู้ร่วมงานอยากลอง
วิทยากรทั้ง 5 ท่าน ใช้เทคนิคการนำเสนอจุดเด่นของทีวีแบรนด์ตัวเองได้อย่างน่าติดตาม มีหยิกแกมหยอกกันเล็กน้อยเรียกเสียงฮือฮาได้เป็นระลอก สนุกสนานมาก "ครึ่งแรก" จึงจบไปอย่างมีสีสัน แต่ "ของจริง" ในแง่การเปรียบเทียบคุณภาพใช้งานจริงทั้งภาพและเสียง จะเริ่มต้นใน "ครึ่งหลัง" นับจากนี้ครับ...
แต่ก่อนอื่นเพื่อไม่ให้เสียเวลาพักครึ่ง ระหว่างที่ทุกท่านรับประทานอาหารว่าง ก็เริ่มทดสอบเรื่อง Burn-in กันเลย โดยเปิดแพทเทิร์นภาพนิ่งแบบ SDR ค้างไว้ ซึ่งผลการทดสอบด้วยคอนเทนต์ SDR คือ แทบจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาเลยแม้แต่น้อย ส่วนหากเป็นแพทเทิร์น HDR แบบโหด[^_^]มที่สุดที่รวมแสงแรงจ้าไว้ที่จุดเดียว เช่นกล่องสี่เหลี่ยมสีขาวบนพื้นหลังสีดำสนิท หากเปิดทิ้งเป็นระยะเวลานาน ก็จะโชว์รอยรอยปรากฏขึ้นมาบ้าง แต่เมื่อเปิดภาพอื่นทิ้งไว้ซักพักอาการเบิร์นชั่วคราวก็จะหายไปเองอัตโนมัติ สรุปหลังจากการทดสอบแบบเข้มข้นแล้วจึงขอชี้ชัดว่าหากเป็นการใช้งานแบบปกติอย่างเช่น ดูหนัง ดูรายการทีวี ดูซีรีส์ ก็แทบจะไม่ส่งผลออะไร ฉะนั้นสบายใจหายห่วงได้
แพทเทิร์นที่ใช้ทดสอบ Burn-In ก็ไล่ครบทุกแม่สีหลัก RGB และ CMY พร้อมใช้พื้นหลังสีดำสลับขาว
ช่วงพักเบรคครึ่งแรกมีอาหารว่างบริการให้กับผู้เข้าร่วมงานด้วย
พออิ่มท้อง อิ่มใจ จะได้มีสมาธิกับการรับชมการประชันภาพและเสียงในช่วงถัดไป
เอาหละแล้วการทดสอบเปรียบเทียบภาพและเสียงในช่วงครึ่งหลังจะเป็อย่างไร
12
เบอร์ศูนย์บริการ LG, Samsung, Sony, Panasonic, TCL, Toshiba, Hyasong, Hisense และอื่นๆ / เบอร์ศูนย์บริการ Acer, ที่ตั้งศูนย์ใหญ่ Acer, สอบถามปัญหาการใช้งาน Acer
« เมื่อ: กันยายน 27, 2017, 10:19:26 am »
Acer Call Center : 0-2153-9600
Acer Technical Support : 0-2153-9655
ที่ตั้งศูนย์บริการ
สาขาพระราม 3
เลขที่493/7-8 ถนนพระรำม3 ซอย 64 แขวงช่องนนทรีเขตยำนนำวำ กรงุ เทพ 10120
493/7-8, Rama III Rd., Soi 64, Chong Nonsi Sub-district, Yan Nawa District, Bangkok 10120
สาขาเซียร์รังสิต
ศนู ยก์ำรค้ำเซียรร์งัสิต เลขที่99 ห้องเลขที่ ทีบ059 ี - ทีบี060 ชนั้ 3 หมู่ที8 ถนนพหลโยธิน ตำ บลคคู ต อำ เภอลำ ลกู กำ จงัหวดัปทุมธำนี12130
Zeer Rungsit Building, 99 Room No. TB059 - TB060, 3rd Floor, Moo 8 Phaholyothin Rd., Khu Khot Sub-disctict, Lam Luk Ka District, Pathum Thani 12130
สาขาศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวเวอร์
นู ยก์ำรค้ำฟอรจ์ นู ทำวน์เลขที่7 อำคำรฟอรจ์ นู ทำวน์ห้องเลขที่3พี83 - 3ซี84 ชนั้ 3 ถนนรชัดำภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรงุ เทพฯ 10400
Fortune Town Building, 7 Room 3P83 - 3C84, 3rd Floor, Ratchadaphisek Rd., Din Daeng Sub-disctict, Din Daeng District, Bangkok 10400
Acer Technical Support : 0-2153-9655
ที่ตั้งศูนย์บริการ
สาขาพระราม 3
เลขที่493/7-8 ถนนพระรำม3 ซอย 64 แขวงช่องนนทรีเขตยำนนำวำ กรงุ เทพ 10120
493/7-8, Rama III Rd., Soi 64, Chong Nonsi Sub-district, Yan Nawa District, Bangkok 10120
สาขาเซียร์รังสิต
ศนู ยก์ำรค้ำเซียรร์งัสิต เลขที่99 ห้องเลขที่ ทีบ059 ี - ทีบี060 ชนั้ 3 หมู่ที8 ถนนพหลโยธิน ตำ บลคคู ต อำ เภอลำ ลกู กำ จงัหวดัปทุมธำนี12130
Zeer Rungsit Building, 99 Room No. TB059 - TB060, 3rd Floor, Moo 8 Phaholyothin Rd., Khu Khot Sub-disctict, Lam Luk Ka District, Pathum Thani 12130
สาขาศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวเวอร์
นู ยก์ำรค้ำฟอรจ์ นู ทำวน์เลขที่7 อำคำรฟอรจ์ นู ทำวน์ห้องเลขที่3พี83 - 3ซี84 ชนั้ 3 ถนนรชัดำภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรงุ เทพฯ 10400
Fortune Town Building, 7 Room 3P83 - 3C84, 3rd Floor, Ratchadaphisek Rd., Din Daeng Sub-disctict, Din Daeng District, Bangkok 10400
13
ห้องรวมภาพ งานบรรยายสไตล์ LCDTVTHAILAND / พาชมงานบรรยาย Panasonic OLED TV EZ1000T ท้าชน Plasma TV และ LED TV ตัวเก๋า
« เมื่อ: กันยายน 18, 2017, 03:27:58 pm »เมื่อวันเสาร์ที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ LCDTVTHAILAND ร่วมกับ Panasonic ประเทศไทย ได้จัดงานเปิดตัว Panasonic OLED TV EZ1000T พร้อมกับการทดสอบแบบถึงพริกถึงขิง โดยตั้งภาพเทียบกันระหว่างพระเอก Panasonic 65EZ1000T ซึ่งเป็น OLED TV ร่วมด้วย 58EX750T, 65EX600T เป็น LED TV และสุดท้าย 65VT20 อดีตราชา Plasma TV ให้แฟนๆ เว็บไซต์ และบุคคลทั่วไปโดยเฉพาะ เชื่อได้เลยว่าใครก็ตามที่ได้ไปร่วมงานคงจะอิ่มหนำ รับความรู้ หิ้วของรางวัลด้วยปีกคู่กลับบ้านตามๆ กันไปอย่างแน่นอน ส่วนใครที่ไม่ได้ไปก็ไม่ต้องเสียใจครับ เรามีภาพบรรยายกาศพร้อมกับผลสรุปผลการทดสอบภายในงานมาฝากกัน
จัดที่โรงแรมแลนด์มาร์คนะครับงานครั้งนี้
ทีมงานที่หน้าโต๊ะลงทะเบียน
สำหรับผู้ที่มาลงทะเบียนแค่เข้าร่วมงานก็ได้รับปากกา พร้อมเสื้อสวยๆ ไปใส่แล้ว
พร้อมแล้ว!! งานวันนี้!!
ด้านทีม Panasonic ก็พร้อมลุยแล้ว
อาหารและเครื่องดื่ม
เห็นแล้วอยากหยิบส้อมเข้าไปจิ้มเลย
โดยเฉพาะกุ้งราดซอสผสมไข่ปูนุ่มมากกก และอาหารเรามีเสริฟตลอดงานครับ
ที่นั่งพร้อม ทีวีพร้อม!!
ทดสอบเรียงกันสี่ตัวแบบนี้เลย เพื่อความเท่าเทียมทีวีทุกรุ่นผ่านการปรับภาพมาแล้วนะครับ
ก่อนจะเริ่มการทดสอบ เราก็มาทำความรู้จัก Panasonic TH-65EZ1000T กันก่อน ว่ามีคุณสมบัติเด่นอะไรบ้าง ทีวีรุ่นนี้เป็นทีวีความละเอียด 4K หรือ 3840 x 2160 และด้วยแหล่งกำเนิดแสงที่เม็ดพิกเซลสามารถเปิด/ปิด ได้ด้วยตัวเองทำให้ระดับสีดำทำได้อยู่ในขั้นดีเยี่ยม รองรับเทคโนโลยี HDR ด้านในประมวลผลภาพด้วยชิป HEXA Chroma Drive Pro ที่ประมวลผลสีถึง 6 สีด้วยกันประกอบด้วยแม่สีหลักและแม่สีรอง RGB + CMY ทำให้สีสันมีความเป็นธรรมชาติและกว้างขวางกว่าทีวีทั่วไป
ช่วงนี้ Panasonic มีโปรโมชั่นด้วยนะ ซื้อ OLED TV วันนี้รับไปเลยตั๋วเครื่องบิน ไป/กลับ ญี่ปุ่น
ภาพจำลองการประมวลผลภาพเทคโนโลยีการประมวลผลแบบ 6 สี
ของรางวัลใหญ่ในวันนี้หูฟังสิบรางวัล!!
พร้อมด้วยหูฟังแบบ earbuds 25 รางวัล และสาย HDMI จาก LCDTVTHAILAND
กือบลืมบอกไป งานนี้เราใช้ 4K Blu-ray Player ของ Oppo รุ่น UDP-205 ในการเปิดแผ่นทั้งหลายครับ
กล่าวเปิดงานกันสักหน่อย
นำบรรยายโดนคุณชานม
พร้อมด้วยคุณโรมัน
เริ่มแรกคือการเปรียบเทียบภาพระดับ 1080p กับราชาในอดีตอย่าง Panasonic VT20 โดยฉากที่ใช้เทียบนั้นเป็นใบหน้าของคริส แพรตต์ จากในภาพยนตร์เรื่อง Jurassic World สาเหตุที่ต้องมีการทดสอบนี้ก็เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังชมคอนเทนท์ความละเอียด Full HD เป็นหลัก ดังนั้นด้วยความสงสัยจึงต้องมานั่งเทียบภาพกันไปเลย ซึ่งผู้เข้าร่วมงานต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า 4K TV สามารถทำรายละเอียดได้ดีกว่า โดยเฉพาะพวกหนวดเครา ความคมชัดของดวงตา นี่ถือเป็นสิ่งที่แสดงความสามารถของชิปประมวลผลบนทีวีรุ่นใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงเท่านั้น หากรับชม Plasma TV ในระยะใกล้หน่อย ตัวจอยังมีอาการกระพริบที่เราสามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่าอีกด้วย และจะเห็นชัดมากขึ้นหากส่องด้วยกล้องจากโทรศัพท์
มาเทียบภาพกันสักหน่อย
ส่องกันให้เห็นชัดๆ ตัวไหนคมกว่า รายละเอียดดีกว่า จนได้บทสรุปว่า EZ1000T กินนะครับ
ยกมาส่องดูอาการกระพริบของภาพ
ยกที่สองมาว่ากันด้วยระดับความดำกันบ้าง หัวข้อสำคัญที่น่าคุยก็คือระหว่าง OLED TV กับ Plasma TV ต่างก็มีโครงสร้างแบบเม็ดพิกเซลให้กำเนิดแสงได้ด้วยตัวเอง ทีนี้อะไรมันจะดำกว่ากันล่ะ? จากในภาพด้านล่าง ไม่ต้องให้ผมบอกก็ทราบได้ครับว่า OLED TV นั้นดำกว่า แถม LED TV ที่มีฟีเจอร์ Local Dimming ในตัวยังจะดูดำกว่าด้วย สาเหตุที่ Plasma TV ดูไม่เป็นสีดำก็เพราะด้วยธรรมชาติของพาเนลครับ ที่แม้ว่าจะปิดทีวีไปแล้วมันก็ยังดูออกเป็นสีเทา ไม่ใช่สีดำสนิท
ไล่เรียงจากทางซ้าย 58EX750T - 65EZ1000T - 65VT20 - 65EX600T
มุงดูกันใกล้ๆ
ในเรื่องของความดำนอกจากจะส่งผลให้ภาพดูดีมีมิติแล้ว ในเรื่องของ HDR ยังส่งผลมากเป็นพิเศษ เพราะสีดำมันจะช่วยขับสีอื่นๆ ให้ยิ่งเด่นชัดขึ้น การทดสอบนี้จะมีเพียงทีวีสามรุ่นเท่านั้นที่ยังติดอยู่ PlasmaTV ภาพจะไม่ขึ้นเพราะรับสัญญาณ 4K ไม่ได้ ด้วยความที่ระดับสีดำของ EX750T กับ EX600T ทำได้ไม่ดีเท่า บวกกับมุมมองของ EZ1000T ที่ทำได้ดีกว่า จึงทำให้ขนะไปได้ค่อนข้างขาด
รุ่นเก่าภาพก็จะไม่ติดตามระเบียบ
ทางขวามือ 65EZ1000T สีสันจะอิ่มเข้มกว่า
รวมไปถึงมุมมอง
คราวนี้ก็เปิดให้ชมภาพกันให้ดูยาวๆ ครับ
ตั้งอกตั้งใจดูกันใหญ่
แน่นอนครับใครๆ ก็ต้องคิดว่าสินค้าของตัวเองน่ะดี แต่ว่าจะให้บอกด้วยตัวเองก็กระไรอยู่ เพื่อสร้างความมั่นใจและสร้างมาตรฐานภาพให้กับซีรีส์ EZ1000T ทาง Panasonic จึงได้ไปร่วมมือกับ THX สถาบันโรงภาพยนตร์มาตรฐานระดับโลก Hollywood to Your Home ดังนั้นในโหมดภาพอัตโนมัติของซีรีส์ EZ1000T ก็จะมีโหมด THX Brightroom กับ THX Cinema อยู่ด้วย โดย THX Brightroom ก็จะเหมาะกับห้องที่มีแสงแวดล้อมค่อนข้างเยอะ ส่วน THX Cinema ก็จะเหมาะกับห้องที่มืดหน่อย กล่าวได้ว่าใครก็ตามที่ซื้อไป ไม่ต้องไปเดือดร้อนหานักปรับภาพมือฉมัง เพราะรุ่นนี้มีโหมดภาพที่ได้มาตรฐานมาตั้งแต่โรงงานแล้ว
THX จากผู้ก่อตั้ง จอร์จ ลูคัส
โหมดภาพ THX ทั้งสองแบบที่มีมาให้ตั้งแต่โรงงาน
เมื่อภาพมาเหนือขนาดนี้ ด้านเสียงเองก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ลำโพงที่ติดมาพร้อมกับซีรีส์ EZ1000T จะเป็นแบบซาวด์บาร์ ด้านหน้าทำมุมองศาเฉียงขึ้นยิงตรงเข้าสู่ระดับหูของผู้ฟังได้พอดิบพอดี ด้านในซาวด์บาร์ ก็จะประกอบไปด้วย Tweeter x 2, Squaker x 4, Woofer x 8 และ Quad Passive Radiator กำลังขับรวมถึง 80 วัตต์ ส่งพลังเสียงได้ครบทุกย่าน เรียกได้ว่าสามารถข่มทีวีที่อยู่รอบๆ ได้อย่างสบายๆ
ลักษณะกายภาพของลำโพงซาวด์บาร์ของ Panasonic EZ1000T
เสียงเพราะจับใจ
ทีวีในปัจจุบันมันไม่ใช่แค่ทีวีที่เอามาดูภาพ ฟังเสียงกันอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นความสามารถในการดูคอนเทนท์สตรีมมิ่งจึงเป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ โดย Panasonic EZ1000T ก็มีแอพพลิเคชั่นเด่นๆ อย่าง YouTube, Netflix ติดมาให้พร้อมกับเครื่องอยู่แล้ว และยังมีแอพฯ อื่นๆ อีกมากมายในสโตร์ รวมไปถึงฟีเจอรืการแชร์ภาพ วิดีโอ จากสมาร์ทโฟนขึ้นไปแสดงบนทีวี
Netflix นี่สามารถสตรีมมิ่งภาพยนตร์ความละเอียด 4K HDR ได้เลยนะ ถ้าอินเทอร์เน็ตที่บ้านท่านแรงพอ
สาธิตการนำวิดีโอจากสมาร์ทโฟนขึ้นไปแสดงบน Panasonic EZ1000T
คำแนะนำในการปรับภาพเบื้องต้นสำหรับผู้ที่ซื้อ Panasonic EZ1000T ไปใช้ครับ
ปล. THX Dark room ก็คือ THX Cinema นะ
ส่วนข้อเสียหลักๆ ของ Panasonic EZ1000T เนี่ยก็คือรีโมทแบบปกติดีไซน์ยังเป็นแบบเดิม
และทีวีที่คอนข้างกินพื้นที่ชั้นวาง เนื่องจากขาตั้งค่อนข้างกว้าง
ย้!! ถึงรอบเวลาจับฉลากแจกของรางวัลแล้ว
14
ห้องพูดคุยเรื่องทั่วไปเรื่อง LED TV, LCD TV / ชวนดูภาพ ทดสอบเสียง Sony OLED A1 วันที่ 5 สิงหาคมนี้!!
« เมื่อ: สิงหาคม 03, 2017, 11:42:28 am »
สำหรับคนที่พลาด หรือมาไม่ทันงานบรรยาย Sony OLED A1 ที่งาน TAV ที่ผ่านมา มีข่าวดีมาแจ้งให้ทราบครับ ว่าวันเสาร์ ที่ 5 สิงหาคมนี้ คุณ Roman พร้อมทีมงาน LCDTVTHAILAND ได้จัดงานบรรยายรอบพิเศษ เพื่อให้คนที่สนใจมาร่วมท้าพิสูจน์ภาพ OLED TV ของ Sony และพลังเสียงไร้ที่มาของ A1 ขอบอกว่าเสียงใส ดังสนั่น จับใจ พร้อมสาธิตการเล่นเกมแบบ HDR ดูว่าภาพจะขึ้นขนาดไหน
ช่องทางการสำรองที่นั่ง ฟรี (จำกัดจำนวนแค่ 10 ท่าน) สำรองที่นั่งฟรี!!!
1) E-mail : ส่งมาที่ [email protected]
2) Facebook : https://www.facebook.com/LCDTVTHAILAND/messages/
3) Line : @lcdtvthailand (*ต้องพิมพ์ @ ด้วยนะ)
4) โพสท์จองที่นั่งลงกระทู้นี้เลย
หรือสำรองที่นั่งผ่านทางโซนี่ สโตร์ ทุกสาขา
สาขา สยามพารากอน โทร : 02-610-9665
สาขา เอ็มควอเทียร์ โทร : 02-003-6151-2
สาขา เซ็นทรัลพระราม 9 โทร : 02-108-1061-2
สาขา เดอะมอลล์บางกะปิ โทร : 02-734-1719
สาขา เดอะมอลล์บางแค โทร : 02-454-9481-2
สาขา เดอะมอลล์งามวงศ์วาน โทร : 02-550-0867-9
งานบรรยาย Sony OLED TV A1 รอบพิเศษ
ณ โซนี่ สโตร์ ชั้น2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
วันเสาร์ที่ 5 สิงหาคม 2560 เวลา 13.00 - 15.30
ณ โซนี่ สโตร์ ชั้น2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
วันเสาร์ที่ 5 สิงหาคม 2560 เวลา 13.00 - 15.30
ผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานทุกท่านจะได้รับตั๋วชมภาพยนตร์ในเครือ SF Cinema City 1ใบ ทุกท่าน!!
ช่องทางการสำรองที่นั่ง ฟรี (จำกัดจำนวนแค่ 10 ท่าน) สำรองที่นั่งฟรี!!!
1) E-mail : ส่งมาที่ [email protected]
2) Facebook : https://www.facebook.com/LCDTVTHAILAND/messages/
3) Line : @lcdtvthailand (*ต้องพิมพ์ @ ด้วยนะ)
4) โพสท์จองที่นั่งลงกระทู้นี้เลย
หรือสำรองที่นั่งผ่านทางโซนี่ สโตร์ ทุกสาขา
สาขา สยามพารากอน โทร : 02-610-9665
สาขา เอ็มควอเทียร์ โทร : 02-003-6151-2
สาขา เซ็นทรัลพระราม 9 โทร : 02-108-1061-2
สาขา เดอะมอลล์บางกะปิ โทร : 02-734-1719
สาขา เดอะมอลล์บางแค โทร : 02-454-9481-2
สาขา เดอะมอลล์งามวงศ์วาน โทร : 02-550-0867-9
15
ห้องรวมภาพ งานบรรยายสไตล์ LCDTVTHAILAND / ครั้งแรกในไทย!! พาทัวร์งานบรรยาย Sony OLED TV A1 ที่ทุกคนต่างรอคอย
« เมื่อ: กรกฎาคม 12, 2017, 08:18:03 am »วันนี้ผมจะพาทุกคนไปดูบรรยากาศงานบรรยายดีๆ มีสาระ ของ Sony และ LCDTVTHAILAND ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กรกฏาคม 2560 ที่งาน TAV 2017 ที่ผ่านมา งานนี้ต้องบอกเลยว่ามีความพิเศษหลายอย่าง อันดับแรกเลยคือการเปิดตัวพร้อมให้พรีอออเดอร์ OLED TV A1 ที่เป็น OLED TV ตัวแรกของ Sony แล้ว ยังเป็นงานที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการปรับภาพ พร้อมด้วยของรางวัลสุดพิเศษมากมาย เรียกได้ว่าผู้ที่เข้าร่วมงานนอกจากจะได้เห็นภาพจริงๆ ได้ลองฟังเสียงจริงๆ แล้ว ยังได้ความรู้ติดตัวไปด้วย
บรรยากาศหน้าโต๊ะลงทะเบียน
ของรางวัลสุดพิเศษนี้ใครจะได้ติดไม้ติดมือกลับไป?
ภายในงานนี้นอกจากจะเปิดงานเปิดตัวพ่วงการบรรยายให้ความรู้ยังเปิดขายทีวี Sony และให้สั่งจอง Sony OLED TV A1
Z9D รุ่นท็อปของปีที่แล้ว เป็น Full LED TV หนึ่งเดียวของ Sony ในเวลานี้
งานนี้ได้รับความสนใจอย่างมากจนทีมงานต้องหาเติมเก้าอี้อยู่ตลอดเวลา
เมื่อได้ฤกษ์ตามกำหนดแล้ว คุณ Roman และ คุณชานม สองกูรู ประจำเว็บไซต์เราก็ขึ้นมากล่าวต้อนรับ
ช่วงต้นของงานบรรยายจะพาไปทำความรู้จักกับ Sony OLED TV A1 กันก่อน ในความเป็นจริงแล้ว Sony ได้พัฒนาโครงสร้างจอ OLED มาตั้งแต่ปี 2008 จนมาทุกวันนี้ A1 แม้จะใช้พาเนลจากภายนอกทว่าก็มีจุดแตกต่างตรงที่ชิพประมวลผลภาพที่ Sony ได้พัฒนาขึ้นมาเอง โดยชิพที่ใช้ในรุ่นนี้คือ 4K HDR X1 Extreme ดีไซน์ภายนอกก็เป็นผืนกระจกแผ่นเดียว สาเหตุที่ออกแบบเช่นนี้ เพราะต้องการให้ผู้ชม "ไม่อาจละสายตา" ไปจากจอทีวีได้
One Slate Design ผืนกระจกชิ้นเดียวไร้ลำโพงและฐานตั้ง!!
ที่บริเวณด้านหลังจะมีขาตั้งยันเอาไว้ คล้ายกรอบรูปตั้งโต๊ะ
ผู้ชมต่างหลงไหลในความดำสนิท!
ภาพทางขวาสุดความดำห่างชั้นกับ สองตัวแรกที่เป็น OLED TV A1 เยอะ
ไม่เพียงแค่สีสัน มุมมองก็ดีกว่า
ข้อดีของ OLED TV A1 อีกอย่างก็คือเวลาเปิดหนัง 2D ดูอย่างกับ 3D เพราะขอบดำบนล่าง (Blackbar)ที่มืดสนิท
ตัวอย่างภาพนี้ คือ Ghost Buster ที่มีความพิเศษคือมีการเสริมภาพตรงช่วง Blackbar เข้าไป
หาก Blackbar สามารถทำให้สีดำ ดำสนิทได้ ความเจิดจรัสของสีจะมากขึ้นกว่าเดิม!
หลังจากดูภาพกันไปแล้ว ก็ถึงคราวทดสอบเรื่องพลังเสียงกันบ้าง หลายคนก็คงจะสงสัยเหมือนกันว่าในเมื่อ Sony OLED TV A1 มีการดีไซน์แบบนี้ แล้วจะติดตั้งลำโพงไว้ตรงไหน? คำตอบคืออยู่ด้านหลังจอครับ เพียงแต่ว่าลำโพงนี้ไม่ใช่ลำโพงธรรมดาๆ ทั่วไป หากแต่มันเป็น Actuator Speaker ที่อาศัยหลักการสั่นสะเทือนถ่ายทอดเสียงออกมาผ่านหน้าจอทีวี นั่นหมายความว่าผู้ฟังจะได้ยินเสียงผ่านหน้าจอโดยตรง ทำให้เสียงมีพลัง และมีความสะอาด ชัดจัดเจน เท่านั้นยังไม่พอ Sony ยังมีวูฟเฟอร์ ที่เป็นลำโพงธรรมดาอีกหนึ่งดอก ช่วยสร้างเสียงย่านความถี่ต่ำที่ด้านหลังด้วย
Actuator ที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังจอ
เสียงส่งผ่านหน้าจอทีวีโดยตรง!
ทดลองฟังจาก Actuator แบบพกพา นำไปแปะลงบนจอทีวีที่เป็นของแข็ง ให้เสียงสะท้อนออกมา
คราวนี้ก็มาลองฟังเพลงจริงๆ กันบ้าง
เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานมาลองสัมผัสหน้าจอว่ามันสั่นจริงๆ
เสียงที่คุณสัมผัสได้!
ว่าแต่จับแล้วช่วยกันเช็ดหน้าจอด้วยนะ
คราวนี้มาลองดูภาพจาก PlayStation 4 Pro จากเกม Horizon Zero Dawn กันบ้าง
ตั้งอกตั้งใจดูภาพกันใหญ่เลย
เกมที่มี HDR ดีกว่ากันเยอะ
คราวนี้มาถึงช่วงความสนุกเล่นเกม Street Fighter V ใครชนะคุณ Roman ได้ รับไปเลยสาย HDMI Jericho
ผู้ท้าชิงคนที่ 1 น่าเสียดายที่เอาชนะไม่ได้
ผู้ท้าชิงคนที่ 2 ก็เช่นกัน
ผู้ท้าชิงคนที่ 3 ก็ยังไม่ชนะ
ผู้ท้าชิงคนที่ 4 ก็ยังไม่ชนะ น่าเสียดายจริงๆ ที่ทีมงานต้องเก็บเอา Jericho กลับบ้านไป
ไม่ใช่เพียงแค่ Sony OLED TV A1 แต่สมาร์ททีวีของ Sony ในรุ่นปี 2017 จะมาพร้อมกับ Android 7.0 ทั้งหมด ส่วนรุ่นปี 2016 ผมก็มีข่าวดีมาฝากว่าได้ไปต่อแน่นอน ในเวอร์ชั่นนี้นอกจากจะแก้ไขบัค ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้รวดเร็วยิ่งขึ้นแล้ว ยังปรับเปลี่ยน GUI เล็กน้อยคือ แต่เดิมเวลาเรียกหน้าต่าง Setting มาจะบังหน้าจอทั้งหมด แต่ตอนนี้ได้ย้ายไปอยู่ฝั่งขวา รองรับ 4K HDR Streaming ผ่านแอพฯ อย่าง Netflix เชื่อมต่อจอยคอนโทรลเลอร์ของ PlayStation 4 เอาไว้ใช้เล่นเกมได้ ค้นหาข้อมูลด้วยเสียงได้ มีแอพฯ ให้ดาวน์โหลดมากมายบน Play Store
จ้าวแห่ง Smart TV ต้องยกให้ระบบปฏิบัติการ Android
ค้นหาคลิปด้วยเสียงพูดรองรับภาษาไทยด้วย
สาธิตการเล่นเกม Bomber Friend
ในช่วงสุดท้ายก็จะเป็นการสรุปข้อมูลของ Sony OLED TV A1 พร้อมตอบทุกคำถามที่คาใจให้กับผู้เข้าร่วมงานบรรยายทุกท่าน แถมเผยเคล็ดลับการปรับแต่งทีวีให้เหมาะสมอีกด้วย โดยคุณชานมได้แอบบอกถึงข้อดีข้อเสียของรุ่นนี้ดังต่อไปนี้ครับ
Good
- Great Picture : HDR & SDR (คุณภาพของภาพทั้งแบบ HDR และ SDR ดีเยี่ยม)
Picture Character : Well Balanced Naturalistic & High Fidelity (ภาพมีความเป็นธรรมชาติ ไม่รุกเร้า ดูได้นาน)
- Great Sound : Acoustic Surface (การสร้างเสียงแบบใหม่ Acoustic Surface ให้เสียงที่ดี)
- Android is King of Smart TV (ระบบปฏิบัติการ Android ถือว่าเป็นเจ้าแห่งสมาร์ททีวีทั้งหมด แอพฯ เยอะ ใช้ง่าย)
- Unique Design One Slate (ดีไซน์โดดเด่น ไม่มีสิ่งใดๆ รบกวนสายตา)
Bad
- Old Design Remote (รีโมทยังคงเป็นแบบเดิม)
- Need wide table (ต้องการชั้นวางที่มีความกว้างมากกว่าปกติ)
- Need careful installation (ต้องระมัดระวังในการติดตั้ง ห้ามจับบริเวณลำโพง Acoustic Surface ที่ด้านหลัง)
- Ambiguous Terminology in Picture Setting Menu (ชื่อเมนูที่ใช้ในการปรับภาพชวนให้สับสน เช่นค่า Backlight ไม่ได้หมายถึงระดับความสว่างของเม็ดพิกเซล แต่หมายถึงระดับของสีดำแทน)
คุณชานมแนะนำเทคนิคปรับยังไงให้ภาพ HDR ออก
คุณ Roman กล่าวย้ำถึงศักยภาพ Sony OLED TV A1
ทุกคนตั้งใจฟังกันอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงต่อไปที่ทุกคนรอคอย การจับมอบรางวัล!!
16
เบอร์ศูนย์บริการ LG, Samsung, Sony, Panasonic, TCL, Toshiba, Hyasong, Hisense และอื่นๆ / เบอร์ศูนย์บริการ TCL
« เมื่อ: กรกฎาคม 07, 2017, 11:05:59 am »
บริษัท ทีซีแอล อิเล็กทรอนิกส์ (ไทยแลนด์) จำกัด
46/7 อาคารรุ่งโรจน์ธนกุล ชั้น 9 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310
โทร : 02-248-7505 / 02-248-7506 / 02-248-7507 / 02-248-7508
อีเมล์ : [email protected]
46/7 อาคารรุ่งโรจน์ธนกุล ชั้น 9 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310
โทร : 02-248-7505 / 02-248-7506 / 02-248-7507 / 02-248-7508
อีเมล์ : [email protected]
17
ห้องพูดคุยเรื่องทั่วไปเรื่อง LED TV, LCD TV / ย้ายแล้ว: ประกาศขายเป็นอะไหล่ LED Sharp 40 นิ้วค่ะ
« เมื่อ: มีนาคม 07, 2017, 11:03:47 am »18
ห้อง VIDEOPHILE LCDTVTHAILAND AWARDS / ตัดสินแล้ว!! สุดยอดทีวีและโปรเจ็คเตอร์ VIDEOPHILE LCDTVTHAILAND AWARD 2016-2017
« เมื่อ: มกราคม 26, 2017, 10:40:41 am »และแล้วก็ถึงช่วงปลายปี จึงเป็นเวลาของการประกาศรางวัล "ทีวีที่ดีที่สุด" ประจำปีในแต่ละสาขา หรือ VIDEOPHILE LCDTVTHAILAND AWARDS 2016-2017 ซึ่งในปีนี้เทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทด้านภาพก็คงหนีไม่พ้น HDR : High Dynamic Range ซึ่งมักถูกผนวกกับทีวีความละเอียด 4K ของปีนี้ สร้างกระแสความฮือฮาเรื่องภาพได้ดีระดับหนึ่งเพราะช่วยยกระดับเรื่องของแสและสีได้อย่างชัดแจ้ง อีกหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือเรื่องของ Smart TV ที่ยิ่งทวีความสำคัญยิ่งขึ้น เพราะมันช่วยตอบสนองการเสพคอนเทนต์แบบออนไลน์ของผู้ใช้งานยุคนี้
ในปีนี้มีความพิเศษเล็กน้อยเนื่องจากทีมงานได้จัดงานประชันสุดยอดทีวีที่ดีที่สุดประจำปี หรือ Best of The Best TV Shootout 2016 เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจากได้จัดครั้งล่าสุดก็ตั้งแต่ปี 2013 ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็ส่งทีวีตัวท็อปที่สุดที่มีขายจริงในไทยเข้าร่วมประชัน และมีการทดสอบเปรียบเทียบคุณภาพของภาพและเสียงกันอย่างเข้มข้น จนได้ผู้ชนะหนึ่งเดียวจากผลโหวตสูงสุดจากผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งผลลัพธ์ต่างๆจากงานประชันจักเป็นข้อมูลชั้นดีในการนำมาต่อยอดช่วยตัดสินรางวัลในครั้งนี้
หน้าที่ของทีวีคือการถ่ายทอดเรื่องราว อารมณ์และความรู้สึกของคอนเทนต์หรือหนังไปสู่ผู้รับชม หาก"ทีวีมีคุณภาพดี"ก็ย่อมสามารถถ่ายทอดข้อมูลเหล่านั้นไปยังผู้รับชมได้ถูกต้องครบถ้วน 100% ดั่งที่ผู้ผลิตต้องการจะสื่อให้เราได้รับทราบ อย่างไรก็ตามงบประมาณในการเลือกซื้อทีวีของแต่ละท่านก็ย่อมไม่เท่ากัน ทีมงานจึงมีการจัดแบ่งรางวัลทีวีที่ดีที่สุดในแต่ละสาขาให้สอดรับกับช่วงงบประมาณที่แตกต่างกัน ตั้งแต่รุ่นประหยัดราคาถูก ไปจนถึงรุ่นคุ้มค่าคุ้มราคา ตลอดจนรุ่นท็อปที่ดีที่สุด ดูสรุปรางวัลในปีนี้ทั้งหมดตามนี้ได้เลยครับ
คุณวีรเกียรติ จิรัฐการุณธ์ (Roman) เจ้าของเว็บไซต์ LCDTVTHAILAND
มอบรางวัล BEST OF THE BEST TV AWARD 2016-2017
ให้กับ คุณนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จํากัด
Best of The Best TV Award : LG 65E6T
LG 65E6T เป็นทีวีที่ดีที่สุดของที่สุดประจำปี ได้รับผลโหวตสูงสุดในงาน Best of The Best TV Shootout 2016 อย่างเป็นเอกฉันท์เสียด้วย เนื้อแท้เทคโนโลยี OLED คือ คุณภาพของภาพที่ดีเลิศเหนือกว่า LED TV ทุกตัว สามารถสร้างสีดำที่ดำสนิท 100% ของจริง ! แสดงสีสันได้อย่างเอิบอิ่มสดเด้ง ให้มิติภาพที่ลุ่มลึก เปล่งพลังภาพ HDR ได้อย่างวาววับเจิดจรัส มุมมองรับชมกว้างมากเทียบชั้น Plasma TV รองรับ HDR ทั้ง 2 รูปแบบทั้ง HDR10 และ Dolby Vision ลำโพงแบบ Speaker Bar ออกแบบโดย Harman/Kardon ให้คุณภาพเสียงที่อิ่มแน่นมีน้ำหนักเกินหน้าเกินตาลำโพงทีวีทั่วไป ระบบปฏิบัติการ webOS 3.0 พร้อท Magic Remote ที่ยังใช้งานง่าย และมีแอพส์ดูวีดีโอคอนเทนต์อย่าง YouTube และ Netflix รองรับการรับชมแบบ 4K สุดท้ายตัวเครื่องมีการดีไซน์ที่บางเฉียบที่สุด ซึ่งถูกผนึกอยู่บนแผ่นกระจกอีกที จุดด้อยเพียงจุดเดียวคือระดับความสว่างสูงสุดยังมิอาจเทียบ LED TV ตัวท็อปๆได้ แต่หากคำนึงถึงการใช้งานจริง สว่างระดับนี้ก็เพียงพอต่อการรับชมจริงภายในบ้านทั่วไปแล้ว ดีเลิศครบจบทุกท้านแบบนี้ จึงขอมอบรางวัล Best of The Best TV Award 2016 รางวัลสุดยอดทีวีที่ดีที่สุดจองที่สุดประจำปี 2016 ให้ LG 65E6T ไปครองอย่างสมศักดิ์ศรี ไร้ซึ่งข้อกังหาแต่ประการใด
คุณนาวี อินทรสังขนาวิน บรรณาธิการบริหาร นิตยสารออดิโอไฟล์ วีดีโอไฟล์
มอบรางวัล Editors Choice Award
ให้กับคุณเรืองเดช กุลมงคล ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด
Editors Choice Award : Samsung KS7500
Samsung KS7500 Series 7 ตัวนี้จัดว่าเป็น "เพชรน้ำดี" ในราคาที่ "สมเหตุสมผล" SUHD TV ตัวนี้โครงสร้างแบ็คไลท์เป็น Edge LED สามารถขับคุณภาพของภาพไม่ว่าจะเป็น SDR หรือ HDR ได้อย่างสวยสดงดงาม เนื้อจอเป็น Ultra Black Panel ช่วยเรื่องสีดำที่อิ่มลึกและสีสันที่วาวน้ำ คุณภาพของภาพผ่านเกณฑ์มาตรฐาน Ultra HD Premium พร้อมรองรับภาพ HDR ตัวเครื่องดีไซน์แบบ Curved จอโค้งสวยแบบโฉบเฉี่ยว พร้อมนวัตกรรมขาตั้งแบบเสียบเข้าล็อคโดยมิต้องใช้น็อตซักตัว Smart TV ระบบปฏิบัติการ Tizen OS มีแอพส์และลูกเล่นมากมาย อย่าง TV Plus ก็มีช่องเกาหลีแบบ HD สมนาคุณให้ดูฟรี คุณภาพของภาพและลูกเล่นโดยรวมเฉียดฉิวกับ Series 9 ตัวท็อป แต่จุดพีคคือระดับราคาขายที่ค่อนข้างถูกว่าพอสมควร ภาพสวยและดีครบเครื่องทุกด้านเช่นนี้ ก็ขอยกรางวัล Editors Choice Award รางวัลสุดยอดทีวีขวัญใจทีมงาน LCDTVTHAILAND ให้ไปครอง
คุณนาวี อินทรสังขนาวิน บรรณาธิการบริหาร นิตยสารออดิโอไฟล์ วีดีโอไฟล์
มอบรางวัล Best 4K LED TV Award
ให้กับ คุณทาคุโอะ โคบายาชิ ผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์ภาพ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด
คุณวีรเกียรติ จิรัฐการุณธ์ (Roman) เจ้าของเว็บไซต์ LCDTVTHAILAND
มอบรางวัล Best 4K LED TV Award ให้กับมร. ฟูมิยาสุ ฟูจิโมริ
ผู้อำนวยการส่วนงานขายและการตลาด ผลิตภัณฑ์ คอนซูมเมอร์ บริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
Best 4K LED TV Award : Panasonic DX900T & Sony Z9D
รางวัลทีวี 4K LED TV ที่ดีที่สุดประจำปีมีผู้ชนะร่วม 2 ราย ได้แก่ Panasonic DX900T และ Sony Z9D เนื่องด้วยผลโหวตจากแฟนเว็บ ทีมกูรู และทีมงาน LCDTVTHAILAND ออกมาเท่ากัน รางวัลนี้น้ำหนักการตัดสินจะเทไปยังคุณภาพของภาพเป็นหลัก ทั้ง 2 ตัวให้คุณภาพที่ดียอดเยี่ยมไม่แแพ้กัน มีได้อย่างเสียอย่างสลับกันเป็นบางจุดเท่านั้น
ขอเริ่มจาก Panasonic DX900T เป็น Full Array LED Backlight ใช้โครงสร้างหลอดไฟแบบ Honeycomb Structure หรือโครงสร้างรังผึ้งอันเป็นเอกสิทธิ สามารถดิมหลอดไฟโซนมืดสว่างได้อย่างละเอียดกว่า 512 โซน สามารถสร้างสีดำที่ดำสนิทใกล้เคียงกับ OLED TV ทว่าจุดเด่นคือการระเบิดพลังความสว่างได้อย่างโชติช่วงทั้งภาพแบบ SDR และ HDR รวมถึงสามารถแสดงขอบเขตสีได้กว้าง ทะลุมาตรฐาน Ultra HD Premium โดยรวมคุณภาพของภาพอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยมพลังสูง ข้อจำกัดคือมุมมองการรับชมที่อาจมิได้กว้างนัก
ส่วน Sony Z9D เป็น Flagship ที่ออกมาในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เป็น Full Array LED Backlight ที่ใช้โครงสร้างแบบ Backlight Master Drive ดิมไฟเป็นโซนได้อย่างละเอียดยิบอย่างที่ไม่เคยพบเห็นใน Full LED มาก่อน ระดับสีดำทำได้อย่างเนียนสนิท แอบเทียบเคียง OLED TV ในหลายจังหวะ ในทางกลับกัน ระดับความสว่างสูงสุดทำได้เกินกว่า 1700 Nits ซึ่งสูงกว่า LED TV ทั่วไปอย่างสิ้นเชิง แสดงภาพ HDR ได้อย่างเร้าใจ ตลอดจนภาพ SDR ที่เนียนสะอาดและคงความเป็นธรรมชาติไว้ได้อย่างดี ข้อจำกัดคือขอบเขตของสีอาจจะยังกว้างสู้รุ่นท็อปตัวอื่นไม่ได้
ทั้ง 2 ตัวคือมิติใหม่แห่ง LED TV ที่สามารถก้าวทะลุขีดจำกัดเดิมทั้งเรื่องแสงลอดและแสงรั่วต่างๆ ได้อย่างหมดจด เติมเต็มความสมบูรณ์ให้ระดับความสว่างและความดำที่เป็นหัวใจของคุณภาพของทีวี ทั้ง 2 จัดว่าเป็นที่สุดของเทคโนโลยี LED TV ในยุคนี่้ คุณภาพของทั้ง 2 ทั้งตอนทดสอบและใช้งานจริงก็กินกันไม่ลง ได้เปรียบเสียเปรียบกันคนละหมัด จึงขอมอมรางวัล Best 4K LED TV Award ให้ Panasonic DX900T และ Sony Z9D ไปครองคู่กัน
คุณวีรเกียรติ จิรัฐการุณธ์ (Roman) เจ้าของเว็บไซต์ LCDTVTHAILAND
มอบรางวัล Best Midrange 4K LED TV Award
ให้กับคุณเรืองเดช กุลมงคล ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด
Best Midrange 4K LED TV : Samsung KS7500
รางวัล LED TV ระดับกลางที่ให้คุณภาพได้ดีที่สุดได้แก่ Samsung KS7500 ซึ่งเป็น SUHD TV ที่ได้รับรางมาตรฐาน Ultra HD Premium การันตีคุณภาพของภาพเหนือกว่า 4K TV ทั่วไปทั้งเรื่องระดับความสว่าง ความดำ และสีสัน จัดว่าใกล้เคียงกับรุ่นท็อปบนสุดอย่าง KS9000 และรวมถึงเหนือกว่าซีรีส์บนของค่ายอื่นด้วยซ้ำ จอแบบ Ultra Black Panel พร้อมเทคโนโลยี Quantum Dot ให้ระดับสีดำที่อิ่มลึกและสีสันที่ฉ่ำวาว ภาพที่ได้เนียนใสมีมิติทั้งแบบ SDR และ HDR ครบเครื่องด้วยดีไซน์จอโค้งดูพรีเมี่ยม และระบบ Smart TV : Tizen OS ที่โดดเด่นไม่เป็นสองรองใคร ระดับราคาขายในตลาดหากเทียบรุ่นชนรุ่น ก็ถือว่าให้ทั้งคุณภาพโดยรวมและความคุ้มค่าที่สูงกว่า จึงคว้ารางวัล Best Midrange 4K LED TV ไปครอง
คุณวีรเกียรติ จิรัฐการุณธ์ (Roman) เจ้าของเว็บไซต์ LCDTVTHAILAND
มอบรางวัล Best Value 4K LED TV Award
ให้กับ คุณทาคุโอะ โคบายาชิ ผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์ภาพ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด
Best Value 4K LED TV : Sony X7000D
Sony X7000D เป็น 4K Android LED TV คุณภาพของภาพอยู่เกณฑ์ดีใช้ได้ในระดับราคานี้ แม้มิอาจโดดเด่นเทียเท่าซีรีส์ 8 และ 9 แต่ก็จัดว่าเพียงพอต่อการรับชมคอนเทนต์ทั้งปัจจุบันและอนาคต ทว่าจุดคุ้มค่าอยู่ที่ระบบปฏิบัติการ Android TV ที่โดดเด่นด้วยคุณภาพและปริมาณของแอพส์ที่แสดงผลบนทีวีได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งรุ่นในปีนี้แรกเริ่มเดิมทีจะผนวกไว้ให้เฉพาะรุ่นท็อปและรองท็อปอย่างซีรีส์ 8 และ 9 เท่านั้น ซึ่งระดับราคาอาจถือว่าเกินเอื้อมของใครหลายคนอยู่ แต่พอพอมาอยู่กับซีรีส์ 7 ที่มีความละเอียด 4K และรองรับ HDR ด้วย ก็จัดว่าเป็น ทีวีความละเอียด 4K ที่ให้ทุกสิ่งที่คุณต้องการในระดับราคาที่คุณรับได้ในทันที จึงขอมอบรางวัล Best Value 4K LED TV ให้ Sony X7000D ไปครอง
คุณวีรเกียรติ จิรัฐการุณธ์ (Roman) เจ้าของเว็บไซต์ LCDTVTHAILAND
มอบรางวัล Best Budget 4K TV Award ให้กับคุณเฉลิมชัย รัตนเอม ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขาย
Best Budget 4K LED TV : TCL E5900
รางวัล 4K LED TV ราคาประหยัดที่คุ้มค่าที่สุดได้แก่ TCL E5900 จุดเด่นที่สุดของรุ่นนี้คือเรื่องระดับราคาที่ถูกที่สุด หากเป็นแบรนด์อื่นะจะซื้อได้เพียง Full HD TV เท่านั้น ในทางกลับกันหากเป็นแบรนด์ TCL ก็จะได้รุ่นที่เป็น 4K Smart TV เลย คุณภาพของภาพอยู่ในเกณฑ์พอใช้ได้ คือไม่ถึงขั้น Q7700 แต่ก็ดีกว่าพวก Full HD อย่าง S4800 และ S3820 อย่างเห็นได้ชัด แนวภาพมียังมีกลิ่นอายความใสวาวของ Q7700 อยู่บ้าง จึงถือว่าเป็นภาพที่ดูได้ มิได้มีข้อติอะไร อีกจุดเด่นคือมีระบบ Smart TV ซึ่งเป็นเมนูของ TCL เองครอบทับ Android เข้าไปอีกที ซึ่งก็ได้คัดสรรแอพพลิเคชั่นที่สำคัญๆเอาไว้จำนวนหนึ่งซึ่งเพียงพอต่อการใช้งาน อาทิ วีดีโอคอนเทนต์และการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ ข้อจำกัดคือยังไม่รองรับ HDR ก็เท่านั้น เอาเป็นว่าท่านไหนมีงบประมาณจำกัด ทว่าอยากได้ทีวีความละเอียด 4K พร้อม Smart TV TCL รุ่น E5900 คือทีวีราคาประหยัดสบายกระเป๋าที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการได้อย่างคุ้มค่าคุ้มราคา ขอมอบรางวัล Best Budget 4K LED TV ให้ไปครอง
คุณวีรเกียรติ จิรัฐการุณธ์ (Roman) เจ้าของเว็บไซต์ LCDTVTHAILAND มอบรางวัล BEST VALUE FULL HD TV AWARD
ให้กับคุณมาซาอากิ คิมูระ ประธานบริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด ร่วมกันกับทีมผู้บริหาร
Best Full HD TV : Toshiba L5650VT
หากใครได้ติดตามรีวิวจากทางเว็บตั้งแต่ต้นปี น่าจะพอรู้ว่าปี 2016 ถือว่าเป็นปีทองของ 4K เพราะทีวีที่ส่งมาทดสอบจากแบรนด์หลักกว่า 80% เป็นทีวีที่ความละเอียด 4K ทั้งสิ้น ในพื้นที่ของ Full HD ก็ยังมีผู้ท้าชิงที่น่าสนใจอยู่บ้าง ทว่าทีวีเหล่านั้นล้วนแล้วแต่ขาดเกินนู่นนี่กันไปรุ่นละนิดละหน่อย บางตัวฟีเจอร์เทพ แต่ภาพเตลิด บางตัวภาพใช้ได้แต่ไม่ใส่ฟีเจอร์อะไรมาให้เลย จนการมาถึง Toshiba L5650VT ที่เค้ามีครบในทุกด้าน ตัวเครื่องงานประกอบก็เรียบหรูแข็งแรงด้วย QC ญี่ปุ่น ด้านภาพสีสันความเที่ยงตรงพอประมาณ โหมดภาพสำเร็จรูปที่ให้แสงสีมาค่อนข้างแม่นยำได้แก่โหมด Cinema ซึงได้ฟีลแบบโรงภาพยนตร์ หรืออยากให้สว่างสดอีกนิดโหมด Standard ก็ตอบโจทย์ ที่สำคัญคือฟีเจอร์ของวงการทีวีปัจจุบันแทบทุกอย่างถูกมัดรวมไว้ในทีวีเครื่องนี้หมดแล้ว อย่างเช่น Opera TV ที่มีออนไลน์คอนเทนต์ให้เลือกดูพร้อมเกมคลายเครียดไว้เล่นแก้เซ็ง หรือจะทำ Screen Mirroring เอาภาพบนมือถือแอนดรอยด์ไปโชว์เล่นบนจอใหญ่ๆก็ทำได้ อีกทั้งดิจิตอลทีวีจูนเนอร์ก็ไม่พลาดยัดมาให้แถมอัดรายการใส่แฟลชไดร์ฟไว้ดูทีหลังได้อีก ทำให้รางวัล Best Full HD TV ตกเป็นของ Toshiba L5650VT ที่คล่องตัวรอบด้าน จะใช้งานแบบไหนพี่เค้าก็มี พร้อมนำสิ่งที่ดีสู่ชีวิตผู้ใช้งานเสมอมา
คุณวีรเกียรติ จิรัฐการุณธ์ (Roman) เจ้าของเว็บไซต์ LCDTVTHAILAND
มอบรางวัล Best Value Full HD LED TV Award ให้กับคุณณธรรศชัย สุอังคะ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย
Best Value Full HD TV : TCL S4800
ขึ้นชื่อว่าเป็นรางวัล Best Value จุดที่เป็นตัวตัดสินมากที่สุดคือความสามารถและความคุ้มค่าในด้านต่างๆ ต้องมากกว่าในราคาที่จับจ่ายออกไป ซึ่ง TCL S4800 นี้ต่างมีให้ครบจบทุกประเด็น โดยขนาดที่ทางเราได้รับมาทดสอบคือขนาด 55 นิ้ว ราคาเปิดตัวถูกกว่าคู่แข่งในเกรดสเป็คเดียวกัน คือแค่เอาราคาเปิดตัวมาชน แบรนด์อื่นก็หนาวๆ ร้อนๆ กันแล้ว ส่วนในเรื่องของภาพถึงแม้ว่าตัวที่ทางเราได้รับมาทดสอบจะมีขนาดที่ใหญ่ทว่าระบบอัพสเกลภาพก็ถือว่าทำงานได้ดี ภาพที่ออกมาอนู่ในเกณฑ์ดูได้ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สมาร์ททีวี สามารถดูแอพพลิเคชันสตรีมมิ่งอย่าง YouTube หรือ Daily Motion และติดตั้งแอพพลิเคชันที่ไม่ได้กินทรัพยากรเครื่องมากนักได้ ด้วยฟีเจอร์และความสามารถ บวกกับราคาที่สบายกระเป๋า ทำให้ TCL S4800 คู่ควรแล้วที่จะได้รางวัลทีวีความละเอียด Full HD ที่คุ้มค่าที่สุดไปครอง!!
คุณวีรเกียรติ จิรัฐการุณธ์ (Roman) เจ้าของเว็บไซต์ LCDTVTHAILAND
มอบรางวัล Best Design Award ให้กับคุณเรืองเดช กุลมงคล ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด
Best Design Award : Samsung KS9000
Samsung KS9000 คือ SUHD TV จอโค้งที่มีคอนเซปต์ สวยรอบตัวแบบ 360 องศา ตัวกรอบทีวีด้านหน้าเป็นอลูมีเนียมบางเฉียบซึ่งจะเรียกว่า "ดีไซน์ไร้ขอบ" ก็คงไม่ผิดกระไร กรอบหลังที่เรียบหรู "ไร้รอยตีโป่งด้านล่าง" ซึ่งเป็นจุดที่พวกทีวีจอบางจะเอาพวกแผงวงจรไปอัดไว้ตรงนั้นเพื่อจะได้เหลือพื้นด้านบนที่สำหรับส่วนที่บางที่สุดแทน (แล้วก็ชอบเคลมว่าบางที่สุด) อีกทั้งยัง "ไร้รูระบายอากาศพรุนๆ" ที่มักเป็นช่องทางให้มดและแมลงเข้าไปอาศัย ตัวเครื่องด้านข้างบางเฉียบกำลังดี ขาตั้งสีเงินทรง V Shape ก็สอดรับกับชิ้นตัวเครื่องอย่างลงตัว ระหว่างตัวเครื่องกับขาตั้งมีดีไซน์ "ยกสูง" ขึ้นมาระดับหนึ่งเพื่อให้พื้นที่สำหรับลำโพง Down Firing ยิงเสียงลงมาแล้วสะท้อนชั้นวางเข้าหาผู้รับชม ซึ่งคุณภาพเสียงก็จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยมไม่แพ้พวกทีวีที่ให้ลำโพงเป็นแท่งสำเร็จมา แถมยังเหลือพื้นที่เพียงพอให้วางลำโพง Soundbar อีกด้วย สุดท้ายคือกล่อง One Connect ที่เป็นศูนย์รวมช่องต่อทำให้สะดวกต่อการถอด-เสียบสายสัญญาณต่างๆ ส่วนอรรถประโยชน์ที่ได้รับ Samsung ยังคงเน้นในเรื่องมิติการรับชมที่โอบล้อมและความตื้น-ลึกของภาพที่มีมากขึ้นกว่าจอแบน ซึ่งเข้ากับคอนเซ็ปต์การตัดสินรางวัลที่ไม่ใช่สวยแต่รูปจูบไม่หอม แต่ต้อง "สวยสมดุล" ในทุกมิติการใช้งานจริง Samsung KS9000 จึงคว้ารางวัลทีวีที่มีดีไซน์ดีที่สุดประจำปีไปครอง
คุณนาวี อินทรสังขนาวิน บรรณาธิการบริหาร นิตยสารออดิโอไฟล์ วีดีโอไฟล์
มอบรางวัล Best Smart TV Award
ให้กับ คุณทาคุโอะ โคบายาชิ ผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์ภาพ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด
Best Smart TV Award : Sony Android TV
Sony Android TV ปี 2016 มีพัฒนาการที่ดีขึ้นอีกขั้นจากปี 2015 ปีนี้อัพเกรดมาเป็นเวอร์ชั่น 6.0 แล้ว และยังเป็น Android TV แท้ๆที่มีแอพส์กว่า 700 แอพส์ให้เลือกดาวน์โหลดและเล่น "ซึ่งแอพส์ทั้งหมดสามารถแสดงผลบนจอทีวีได้อย่างสมบูรณ์" รองรับการเล่น YouTube 4K , Netflix 4K เป็นเจ้าแรก รวมถึงแอพส์เกมส์ต่างๆนี่คุณภาพเกรด A ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเกมแข่งรถอย่าง Asphaut 8, Minion Run, Walking Dead, Bomb Squad (เล่นได้หลายคน) ซึ่งสามารถใช้จอยคอนโทรลเลอร์ของ PS4 ควบคุมได้ ตัวรีโมทคอนโทรลยังรองรับกาค้นหาด้วยเสียงด้วย "ภาษาไทย" เพียงกดปุ่มรูปไมโครโฟนแล้วพูดเข้าไป ตัวเครื่องก็จะค้นหาคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดนั้นมาแสดงผลอย่างทันท่วงที ถึงแม้ Smart TV ค่ายอื่นที่มีระบบปฏิบัติการของตัวเองขึ้นมาได้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังมิอาจเทียบ Android TV แท้ๆอยู่ดี ปัจจัย 3 สิ่งที่บ่งบอกว่าใครคือ Smart TV ที่ดีที่สุดคือ คุณภาพของแอพส์, ปริมาณของแอพส์ และความง่ายต่อการใช้งาน ซึ่งทั้งหมดส่งผลให้ Sony Android TV คว้ารางวัล Best Smart TV Award ไปครองเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน
คุณนาวี อินทรสังขนาวิน บรรณาธิการบริหาร นิตยสารออดิโอไฟล์ วีดีโอไฟล์
มอบรางวัล BEST OF THE BEST TV SHOOT OUT 2016-2017
ให้กับ คุณอำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโสผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด
Best Of The Best TV Shootout 2016 - The Winner : LG 65E6T
งานประชันสุดยอดทีวีที่ดีที่สุดประจำปีหรือ Best of The Best TV Shootout 2016 จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2016 ที่โรงแรมแลนด์มาร์ค สุขุมวิท ภายในงานมีทีวีตัวท็อปขนาด 65" จาก 5 แบรนด์ดังร่วมลงสมรภูมิเดือดเพื่อชิงชัย ในช่วงครึ่งแรกของงานก็เปิดให้วิทยากรจากทั้ง 5 แบรนด์ผลัดกันขึ้นมาพรีเซนต์จุดเด่นของทีวีตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีด้านภาพตลอดจนลูกเล่น Smart TV ต่างๆ ส่วนในช่วงครึ่งหลังก็เป็นช่วง "เปรียบเทียบภาพและเสียง" กันแบบ "เรียงหน้าชน" กล่าวคือทีวีทั้ง 5 ตัวจะถูกปรับภาพให้ถูกต้องมาตรฐานอุตสาหากรรมวีดีโอ ก่อนแสดงภาพเหมือนกันทั้ง 5 จอเพื่อให้ง่ายต่อการแ ไมว่าจะเป็นระดับความสว่าง, ระดับความดำ, สีสัน, คอนเทนต์ 1080p Blu-ray และ คอนเทนต์ 4K HDR ช่วงท้ายงานมีเปิดให้ "แฟนเว็บผู้เข้าร่วมงาน" และเหล่า "กรรมการรับเชิญ" ที่มีความชำนาญด้านภาพและเสียง มาร่วมโหวตตัดสินทีวีที่ดีที่สุดประจำปี ผลปรากฏว่า LG 4K OLED TV : 65E6T ได้รับคะแนนโหวตสูงสุด จึงคว้าถ้วยรางวัลชนะเลิศ The Winner : Best of The Best TV Shootout 2016 ไปครอง
ส่วนรางวัล Best of The Best TV Award หรือทีวีที่ดีที่สุดของที่สุดประจำปีซึ่งตัดสินโดยทีมงาน LCDTVTHAILAND เอง ก็ตกเป็นของ LG 65E6T ด้วยเช่นกัน ก็ขอแสดงความยินดีกับ LG OLED TV 65E6T ซึ่งก็คือ "ผู้ชนะสูงสุดเพียงหนึ่ง" !
หมายเหตุ
- รางวัล Best of The Best TV Award 2016 ==> ตัดสินโดยทีมงาน LCDTVTHAILAND
- รางวัล Best of The Best TV Shootout 2016 : The Winner ==> ตัดสินโดยแฟนเว็บและกรรมการรับเชิญในงานประชัน