ผู้เขียน หัวข้อ: อุปสรรคเด็กกำพร้า ... กับการรับอุปการะเด็กกำพร้า  (อ่าน 1925 ครั้ง)

ออฟไลน์ sirao2015

  • Flat TV member
  • *
  • กระทู้: 79
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
สำหรับปัญหาที่เรียกได้ว่าเป็นอุปสรรคใหญ่ระดับประเทศของสังคมปมปัญหาหนึ่ง นั่นก็คือ ปมปัญหาของเยาวชนถูกทิ้งขว้าง หรือ เด็กกำพร้าทั้งหลาย ที่ในปัจจุบันนี้กำลังจะล้นเมืองอยู่แล้ว ซึ่งเป็นปมปัญหาสังคมไทยที่ครอบครัวและผู้คนในประเทศต้องร่วมใจจัดการอุปสรรค รวมทั้งตัวของเราเองด้วย เพราะหากปมปัญหาเด็กกำพร้านี้ต่างคนต่างมองว่าไม่ใช่ปัญหาของเรา ไม่คิดช่วยกันแก้ไขเยียวยา ปัญหานี้ก็จะยิ่งเพิ่มความร้ายแรงมากขึ้น ทำให้ยากจนเกินจะแก้ปัญหาได้คะ
 

 
            ซึ่งอุปสรรคเด็กถูกไม่เอาใจใส่ หรือ เด็กกำพร้า นี้เรียกได้ว่าเป็นปมปัญหาที่เริ่มแรกมาจากครอบครัวเป็นอันดับแรก โดยปมปัญหาส่วนมากมักเกิดมาจากบุพการีที่เป็นวัยหนุ่มวัยสาวเกิดการมีท้องขึ้นในวัยศึกษายังไม่พร้อมที่จะมีลูกชายลูกหญิง ซึ่งในช่วงปัจจุบันนั้นมีเด็กทารกที่ถูกปล่อยปละละเลยต่อเดือนประมาณ 15 - 17 คนเลยทีเดียวนะคะ
            ทำให้เกิดเป็นอุปสรรคและ ภาระแก่สังคมในประเทศขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตามบ้านช่องเด็กอ่อน หรือ สถานสงเคราะห์ทั้งหลายที่ต้องต้องรับเลี้ยงเด็กเด็กไว้ในอุปถัมภ์ และแม้ว่าในช่วงปัจจุบันจะมีสถานที่อยู่หลายสถานที่สำหรับ รับอุปการะเด็กกำพร้า เกิดขึ้นมาจำนวนมากก็ตาม แต่อย่างไรก็ยังคงไม่เพียงพอต่อเยาวชนที่ถูกเพิกเฉย หรือ กำพร้าที่เกิดขึ้นในแต่ละวันได้
            โดยส่วนใหญ่สภาพของเด็กเด็กที่พบและส่งตัวเข้ามายังสถานสงเคราะห์ต่างๆ ล้วนแต่เป็นเด็กน้อยตาดำๆ ที่น่าสงสารเป็นอย่างมาก เพราะเด็กเด็กๆ ทุกคนต่างต้องการแม่ แต่บรรดาแม่หนุ่มสาวที่ใจแตก หรือ มีลูกชายลูกสาวเมื่อไม่พร้อมทั้งหลาย มักจะชอบนำเด็กไปทิ้งไว้ตามถังขยะ หรือห้องน้ำของสถานีรถไฟ หรือ รถทัวร์ รวมทั้งคลอดทิ้งไว้ที่สถานพยาบาล ซึ่งเด็กอ่อนบางรายก็ยังสามารถดิ้นรนเอาชีวิตรอดมาได้ท่ามกลางความหวาดหวั่น แต่บางคนก็เสียชีวิตกลางคันไปก็มี และมีเยาวชนที่ถูกเพิกเฉยเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ เป็นอย่างเยอะแยะ
 

            สำหรับสถานรับอุปการะเด็กกำพร้านั้นโดยมากแล้วจะสามารถรองรับเด็กเล็กได้ตั้งแต่แบเบาะจนกระทั่งอายุเพียง 6 ขวบเท่านั้น จากนั้นก็ต้องถูกส่งตัวไปยังสถานรับอุปการะเด็กกำพร้าของเด็กโตที่แยกเพศระหว่างผู้ชายและผู้หญิง และจะได้รับการอุปการะอุ้มชู รวมถึงให้การศึกษาจนเด็กมีอายุถึง 18 ปีเท่านั้น จากนั้นก็ต้องออกไปใช้ชีวิตกระเสือกกระสนด้วยตนเอง ซึ่งทำให้เยาวชนที่ถูกไม่รับผิดชอบ หรือ กำพร้าเหล่านี้โตขึ้นมาพร้อมกับความหวาดหวั่นที่ขาดความอบอุ่น ความอบอุ่น และความดูแลเอาใจใส่จากผู้เป็นบิดามารดา
            เนื่องจากเด็กเหล่านี้ต่างต้องการความรักและการโอบกอดให้ความอบอุ่นและความปลอดภัยจากพ่อแม่ด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งแม้ว่าการที่ผู้เยาว์กลุ่มนี้จะได้ รับอุปการะเด็กกำพร้า จากบรรดาผู้ใหญ่ใจดีทั้งหลาย แต่ส่วนมากแล้วก็เพียงแต่มาหาแล้วกอดเดี๋ยวเดียวแล้วก็กลับ ทำให้เด็กเด็กไม่ศรัทธาในความรัก เพราะคิดว่าความอบอุ่นนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง ทำให้ผู้เยาว์เหล่านี้โตขึ้นมาแบบไม่มีรักจริงให้กับใคร หรือบางคนก็อาจมีความเห็นแก่ตัว ไม่รู้จักการแบ่งปันหรือการรักผู้อื่นอย่างบริสุทธิ์ใจค่ะ
 
            การรับอุปการะเด็กกำพร้า หรือ เด็กถูกไม่รับผิดชอบทำอย่างไร ?
            สำหรับใครที่รู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้เยาว์ที่ถูกไม่เอาใจใส่หรือ เด็กกำพร้าเหล่านี้ แล้วเกิดความรู้สึกว่าอยากจะรับอุปการะเด็กกำพร้าเหล่านี้ไว้ ซึ่งเมื่อไปติดต่อยังสถานสงเคราะห์ต่างๆ สำหรับผู้ที่มีความต้องการอยากรับอุปการะเด็กกำพร้านั้นสามารถเลือกช่วงอายุและเพศของเยาวชนที่ต้องการรับช่วยเหลือเท่านั้น แต่ไม่สามารถระบุชี้ชัดว่าอยากได้เยาวชนคนไหนมารับเลี้ยง
            เมื่อเราพร้อมแล้วที่จะรับอุปการะเด็กกำพร้าก็ให้ไปแสดงความต้องการยังสำนักงานพื้นที่นั้นๆ ที่เด็กอยู่ หรือ หากเป็นผู้ที่อยู่ต่างจังหวัดก็ให้เดินทางไปแจ้งยังศาลากลาง แล้วเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานนั้นๆ ก็จะทำการไปเยี่ยมบ้านของผู้ต้องการรับอุปการะเด็กกำพร้า ว่ามีการดำรงชีวิตอย่างไร มีการทำงานอะไร เงินรายได้เท่าไหร่ สามารถรับอุปการะเด็กกำพร้าเหล่านี้ไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ รวมทั้งเปิดดูแฟ้มคนร้ายว่าเรามีประวัติอาชญากรหรือไม่  โดยดูที่มุ่งมั่นของการรับอุปการะเด็กกำพร้าว่าเราเป็นคนดีหรือเปล่า ประมาณนั้นค่ะ
 

            โดยสำหรับใครที่คิดอยากจะรับอุปการะเด็กกำพร้าจริงๆ แล้วล่ะก็ ขอให้มีความพร้อมทั้งทางด้านร่างกายและดวงจิต รวมถึงไม่ละเลยเด็กกลางทาง หรือ ซ้ำซ้อนนะคะ เพราะผู้เยาว์คือผู้ที่น่าเวทนา การที่เขาถูกพ่อแม่ไม่เอาใจใส่มาก็เป็นเรื่องอันทรมานในใจกลายเป็นปัญหาที่ฝังอยู่ในใจของเด็กๆ เหล่านั้นแล้ว ซึ่งหากเราไปซ้ำเติมปมเหล่านั้นของเด็กก็จะทำให้เด็กเหล่านั้นเจริญเติบโตมาพร้อมกับปมปัญหาแห่งความอ้างว้าง หดหู่ และหวาดหวั่น จนกระทั่งทำให้สุขภาพอนามัยของเด็กเด็กเหล่านั้นเสียไปในที่สุดนะคะ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องคิดกันให้ดีก่อนที่จะรับอุปการะเด็กกำพร้าสักคน ต้องอย่าลืมว่าเด็กเด็กเหล่านั้นต่างก็มีเลือดเนื้อและอารมณ์ทางใจเฉกเช่นเรานะคะ
 
            ซึ่งปัญหาเด็กที่ถูกละเลย หรือ เด็กกำพร้านี้นับเป็นปัญหาที่รอวันแก้ไขปัญหาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน โดยสังคมไทยทุกสังคมย่อมมีทั้งคนดีและคนไม่ดี โดยบางท่านก็อาจปิดบังมากับการรับอุปการะเด็กกำพร้า แต่กลับกลายเป็นเอาเด็กเด็กไปขาย การทารุณ หรือใช้แรงงานเด็ก ซึ่งเป็นภารกิจของเราทุกท่านที่จะต้องช่วยกันสอดส่อง และ หากพบว่ามีใครใครรับอุปการะเด็กกำพร้าเพื่อบังหน้า แต่หวังแสวงหาผลประโยชน์กับผู้เยาว์ ก็ควรโทรแจ้งความเพื่อช่วยเหลือผู้เยาว์เหล่านั้นทันทีนะคะ อย่าปล่อยให้คนทรามลอยนวลนะคะ
 
 

ขอบคุณบทความจาก : https://www.unicef.or.th/supportus/th

Tags : รับอุปการะเด็กกำพร้า,อุปการะเด็กกำพร้า,เด็กกำพร้า