เรามักใส่
สูทเมื่ออยู่ในโรงห้องที่มีแอร์ (เว้นในละครหลังข่าวที่ให้ดาวใส่สูททุกแห่งแม้ในตลาดสด)
จึงไม่ควรเป็นกังวลเรื่องความหนาบางของ
สูทผู้หญิง สูทหญิงผ้าวูล ประการใดก็ดี เป็นธรรมเนียมว่า
เสื้อสูทผู้หญิงที่ใส่กลางคืน (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสีดำหรือสีเข้ม)
มักเป็นผ้าวูลเนื้อเบาและทิ้งตัวได้ดี ใส่แล้วไม่ดูพอง ส่วนเรื่องความหนาหรือบางนั้น ในบ้านเราคงไม่นิยมความหนากันเท่าไร
ถ้าแม้ในเมืองหนาวจะเริ่มใส่สูทวูลผ้าหนาระหว่างช่วงเดือนที่อุณหภูมิลงไปเป็นเลขตัวเดียวเท่านั้นคงเคยรู้คำกล่าวว่า Clothes make the man. หรือ
เสื้อผ้าทำให้คนเราดูดี แต่กฤดีกา 5 ข้อข้างต้นอาจช่วยย้ำด้วยอีกคำกล่าวว่า
Dont judge a man by the clothes he wears. God made one; the tailor, the other. หรือ
อย่าเพิ่งอย่างย่อๆว่าเขาดูดีเพียงเพราะเสื้อผ้าที่สวมใส่ อันที่จริงธรรมชาติช่วย
หากซื้อเพียงสูทผู้หญิง สูทผู้หญิง สูทหญิงสำเร็จรูปสนนราคาย่อมเยา อาจนึกคิดเพียงมาตราส่วนผสมระหว่างเนื้อผ้าวูลกับเนื้อผ้าสังเคราะห์ (Polyester) เช่น Wool 70%, Polyester 30%
อย่างนี้ถือว่าใส่สูทผู้หญิง สูทผู้หญิง สูทหญิงเพื่อข้อผูกมัดหรือเครื่องแบบ ใส่ให้พอเท่แต่สมบุกสมบันได้ เพราะต้องเคลื่อนไหว ป่วนปั่น และขะมุกขะมอม การจะลงทุนซื้อผ้าวูลดีๆ
ก็ต้องคิดทบทวนวงจรชีวิตประจำวันให้ดีด้วย
ผ้าวูลดีๆ ทำให้สูทผู้หญิง สูทผู้หญิง สูทหญิงใช้งานได้ไกลนับสิบปี มีเงื่อนปมว่ารูปร่างต้องไม่เปลี่ยน ต้องเก็บรักษาสูทผู้หญิง สูทผู้หญิง สูทหญิง
ไว้อย่างดี อย่างไรก็ดี ความเสมอทุนของสูทผู้หญิง สูทผู้หญิง สูทหญิงจากผ้าวูลดีๆ มิได้อยู่ที่ความคงทนถาวรและสวยอมตะเท่านั้น หากแต่อยู่ที่เรื่องฐานานุรูปในสังคม Look หรือภาพลักษณ์ของผู้สวมใส่ ดังนั้น ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับภาพลักษณ์ เช่น พิธีกรรายการทีวีหรือเวที
ที่ปรึกษาธุรกิจหรือบรรดาโค้ชนักธุรกิจ นักการเงิน อาจสนใจจ่ายแพงกว่า เพราะสูทผ้าวูลดีๆ สร้างความตรึงใจได้เร็ว
ผ้าวูลคุณภาพสูงทำให้สูทผู้หญิง สูทผู้หญิง
สูทหญิงทิ้งตัวได้สวย ตั้งแต่หัวไหล่ ชาย
เสื้อสูท และปลายขากางเกง (สามจุดหลักที่ผู้สวมใส่ต้องคำนึง) ไม่เกิดรอยตะเข็บให้เห็นชัด เมื่อผ้าทิ้งตัวดี ก็จะลู่เพรียวไปตามหุ่นของผู้สวมใส่ได้ดี
จะลงทุนแค่ไหน หากช่างเสื้อขาดความรู้ความเจนจัด ผ้าก็ไร้ค่า หากไม่เข้าใจเรื่องเนื้อผ้ากับหนทางและโครงร่าง ผ้าแพงๆ ก็อาจส่ง Look ราคาถูกได้ ดังนั้น การเลือกผ้าและ
สูท ควรนึกคิดหลัก 5 ชนิดดังนี้
สูทผู้หญิง สูทผู้หญิง สูทหญิงดีอยู่ที่ช่างดี
- เลือกช่างที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และรู้จักวิธีใช้ชีวิตกับการใส่สูทผู้หญิง สูทผู้หญิง สูทหญิง ช่างต้องรู้กว้างว่ากลุ่มอาชีพและเข้าผู้เข้าคนใดชอบใช้รูปแบบและเนื้อผ้าใด ในระดับสากล รู้จักความโน้มเอียงและแหล่งผลิตผ้าชั้นนำของโลก
อีกทั้งมีมนุษยสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างมั่นคง ความรู้จักมักคุ้นและถูกคอกันจะทำให้งานออกมาดี
เลือกเนื้อผ้าที่เหมาะ
- มิใช่เลือกเพราะเนื้อผ้านั้นดีที่สุด แต่ต้องสมน้ำสมเนื้อที่สุดกับวิถีชีวิตประจำวันและนิสัย ทั้งในขณะที่สวม และในเรื่องเก็บ-แขวน-ซัก-รักษา อย่าลืมว่า
กระบวนการแต่งตัวของคนเรามิได้อยู่เพียงตอนที่ใครๆ เห็น แต่ยิ่งใหญ่ที่ตอนจัดเก็บด้วยเก็บหรือดูแลไม่เป็น เสียเงินไปเท่าไรก็ไม่เสมอทุน
วัดตัวให้ระมัดระวัง
- ใช้เวลาสบายๆ ไม่เร่งรีบ ไม่หลอกตัวเอง ไม่แขม่วพุง ค่อยๆ บอกรายละเอียดจำเป็นแก่ช่างเสื้อ เช่น ใส่เพื่อยืนเท่ๆ หรือใส่ไปทะยานกระโดด จะให้ดีควรนำรองเท้าคู่โปรดไปใส่ด้วย
กำหนดสไตล์ของตนเอง
- เลือกแบบที่ช่วยเหลือต่อหุ่นของคุณ มิใช่แบบยอดนิยม ชายเสื้อสูทหรือช่วงกางเกงนั้นจะสั้นหรือยาว ขึ้นอยู่กับลำตัวเป็นหลัก ส่วนเทรนด์ (Trend) เป็นรอง
หน้าท้อง ลำคอที่ยาว-สั้น ล้วนเป็นปัจจัยที่ต้องคิดให้ถี่ถ้วน สูทต้องเสริมสิ่งดีและพรางสิ่งไม่ดีของเราไปพร้อมๆ กันลองแล้วลองอีก
- อย่าวางใจกับการลองสูทครั้งแรกหรือครั้งเดียว ต่อให้ไว้ใจกันมากี่ปีก็ตาม ศิลปะของการตัดสูทเป็นเรื่องปัจเจกเฉพาะทุกครั้ง บุคลิกภาพเราเปลี่ยนไปตามเนื้อผ้าและแบบหรือรายละเอียดเล็กน้อยเสมอ
ช่างที่เก่งและดีหลายคนอาจใช้เวลากับการลองสูทถึงสองเที่ยวเป็นอย่างน้อย
ว่ากันว่า เสื้อสูทผู้หญิง สูทผู้หญิง สูทหญิงที่ดีไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปทรงเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องปลีกย่อยอีกมากที่ควรคำนึงถึงหนึ่งในนั้นคือเรื่องเนื้อผ้า ไม่ทราบว่า ระหว่างเนื้อผ้าแบบวูล (Wool) กับไม่วูล
แบบไหนพอดีกับคนไทยมากกว่ากัน ที่ยิ่งใหญ่เวลาเลือกเนื้อผ้าต้องทบทวนถึงปัจจัยอะไรเป็นดีเยี่ยมบ้าง ถ้าเราเลือกสูทผู้หญิง สูทผู้หญิง สูทหญิงผ้าวูล
ควรลงคะแนนเสียงความหนากี่เปอร์เซ็นต์ ความหนาแต่ละอย่างพอดีกับการใส่งวดไหนบ้าง และการตรวจการรักษาต้องทำอย่างไร เราจำต้องต้องลงทุนกับเรื่องเนื้อผ้าของสูทผู้หญิง สูทผู้หญิง สูทหญิงนี้มากน้อยแค่ไหน ?
ผ้าวูล (Wool) หรือผ้าขนสัตว์ คือระดับโลกคุณภาพของผ้าตัดสูทผู้หญิง สูทหญิง ที่ทำให้เราดูดีที่สุด ทั้งในแง่ความไม่แก่งแย่งกันกับรูปแบบการตัด ความอบอุ่นหรือเย็นสบาย และภาพลักษณ์ที่ดูดีมีระดับ
ผ้าวูลอยู่ได้กับอากาศทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะมีชื่อเรียกว่า Mohair, Gabardine, Marino หรือ Serge หรือมีขั้นตอนปลีกย่อยอย่างไร ความดีของผ้าวูลคือเป็นธรรมชาติ
ต่อให้ผ้าหนาอย่างไร อากาศก็ผ่านเข้า-ออกได้ หรือที่มักพูดว่า ผ้าชนิดนี้ Breathe หรือ หายใจได้ สรรพคุณนี้สร้างความผิดแผกแตกต่างระหว่างผ้าวูลกับผ้ากึ่งวูลผสมใยสังเคราะห์
ยิ่งผสมใยสังเคราะห์มาก ก็ยิ่งร้อนและไม่ทิ้งตัวคุณภาพ (ซึ่งมิได้ความหนา) ของผ้าวูลมีกำหนดตั้งแต่ 80 หน่วยไปถึง 180 หน่วย เลขยิ่งสูง ผ้ายิ่งเบาและละเอียดยิบมาก เนื้อผ้าพิสดาร
ทิ้งตัวง่าย ไม่เกิดรอยยับ แม้กองไว้หลังรถหรือสวมใส่ทั้งวัน พอเข้าไม้แขวนไม่นานก็คืนตัวรอยยับที่ข้อพับศอกก็ไม่เห็น ในเมืองไทยผ้าวูลเนื้อระหว่าง 110 ถึง 120 ถือว่าเป็นราคาที่กำลังดี
