DENON AVP-A1HD A/V Surround Pre-Amplifier ดีที่สุดที่DENONเคยทำมา อลังการงานสร้าง สุดยอดทั้งดูหนังฟังเพลง ใช้ไฟ 230 v เครื่องสภาพใหม่มาก วางตลาดราคาสาม-สี่แสน ขาย 59900
T. 097-136-1688
ขอรูปทางLine id: chinese-thai
reviews:
นับตั้งแต่ปี 1996 ซึ่งเป็นระยะเวลา 12 ปีผ่านมาแล้ว และในปีนั้นเองที่ระบบ Dolby Digital + THX 5.1 และ DENON ก็เป็นบริษัทเครื่องเสียงรายแรกที่ผลิตแอมป์รุ่น AVP-A1 และ POA-T3/T2 ออกมาเพื่อรองรับระบบเสียง Dolby Digital + THX 5.1
นอกจากนี้ DENON ยังได้พัฒนา A/V Surround ไม่ว่าจะเป็น Amplifier หรือ Receiver โดยยึดหลักการที่ว่า ถ่ายทอดสัญญาณให้ออกมาดั่งเช่นเดียวกับเสียงต้นฉบับของโพรดิวเซอร์ และเมื่อสัญญาณภาพและสัญญาณเสียงที่ให้คุณภาพระดับ High-Definition ได้จุติขึ้นมา DENON จึงได้พัฒนา A/V Surround Pre-Amplifier ขนาด 10 Channel ขึ้นมา เป็นอุปกรณ์ที่ถ่ายทอดสัญญาณภาพและเสียงระดับ High-Definition ได้อย่างสมบูรณ์แบบ กล่าวได้ว่า AVP-A1HD และ POA-A1HD คือศูนย์รวมเทคโนโลยี่ Digital และ Analog ขั้นสูงของ DENON
AVP-A1HD
ระบบการทำงานอยู่ในระดับที่อ้างอิงได้กับสัญญาณ HD และการต่อระบบการใช้ขั้นสูง อาทิเช่น Wi-Fi Network Audio Streaming พร้อมกับโครงสร้างที่แข็งแกร่งที่เกิดขึ้นจากงานฝีมืออย่างแท้จริง เพื่อนำคุณเข้าสู่ระบบ A/V ที่มีประสิทธิภาพการทำงานแบบไร้ขีดจำกัด
-> State-of-the-art Denon Solutions for Maximising Content Quality
-> All new circuit layouts that shorten audio and video signal paths for best picture and sound
การออกแบบวงจรยึดแนวทางให้อุปกรณ์แต่ละตัวส่งสัญญาณ ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้สัญญาณภาพและเสียงออกมาใสสะอาด อุปกรณ์แต่ละตัวจะส่งสัญญาณในระยะการเดินทางสั้นๆ เพื่อไม่ให้เกิดสัญญาณที่ไม่พึงปรารถนาให้เข้ามารบกวนสัญญาณภาพและเสียง ให้น้อยมากที่สุด
-> Fully separated Audio, Video, Pre-Amplifiers and Power Supplies allow for a cleaner and clearer signal path
การจัดวางหม้อแปลงนั้น กำหนดหม้อแปลงของแต่ละบล็อควงจรปราศจากสัญญาณรบกวน เพื่อให้ภาคจ่ายกระแสไฟทำงานได้อย่างเต็มที่ หม้อแปลงที่จ่ายกระแสไฟให้กับภาควงจร Output ที่เป็นขั้วต่อแบบ XLR นั้นใช้หม้อแปลงแบบเทอร์ลอยด์ขนาดใหญ่ หม้อแปลงตัวที่สอง ซึ่งเป็นแบบเทอร์ลอยด์เช่นเดียวกับทำหน้าที่จ่ายกระแสไฟให้กับวงจรสัญญาณอนาล็อก นอกจากนี้ยังใช้หม้อแปลงอีกสองตัว สำหรับจ่ายกระแสไฟสำหรับวงจรวีดีโอที่เป็นสัญญาณอนาล็อก และยังจ่ายกระแสไฟไปเลี้ยงการทำงานของจอดิสเพลย์ วงจร CPU วงจรดิจิตอลที่เป็นสัญญาณภาพและเสียง ในส่วนของภาค Pre-amp ใช้หม้อแปลงสองชุดเช่นเดียวกัน ซึ่งเมื่อนำเอากระแสไฟของหม้อแปลงทุกตัวมารวมกันจะจ่ายกระแสได้ 50-amppere คาปาซิเตอร์เก็บประจุไฟฟ้าได้ 10,000 ไมโครฟารัด ภาคเพาเวอร์ซับพลาย หรือภาคจ่ายกระแสไฟเรียกว่า Ultra-robust ซึ่งก็คือภาคจ่ายกระแสไฟ ที่สามารถจ่ายกระแสได้อย่างเพียงพอและตรงตามความต้องการใช้งาน
-> Pre-amp, amplifier, and volume control in discrete configuration as a single component
ภาคการทำงานของ Pre-amp, Amplifier และ Volume Control ซึ่งก็คือภาคขยายสัญญาณทั้งหมดนั้นจะมีค่าความต้านทานต่ำ และแยกหน้าที่การทำงานของใครของมัน ขณะเดียวกันวงจร Op-amps หรืออุปกรณ์ตัวอื่นๆที่บรรจุอยู่ภายในเครื่องจะไม่ทำงานด้วยค่าความต้านทานต่ำ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า สัญญาณความเพี้ยนมักจะเกิดขึ้นกับภาคจ่ายกระแสไฟกำลังสูง แต่ปัญหาความเพี้ยนนี้จะไม่เกิดขึ้นกับ AVP-A1HD เพราะภาค Pre-amp นั้นเป็น Class-A เพราะเพาเวอร์แอมป์ Class-A นั้นจะมีค่าความเพียนของอุปกรณ์แต่ละตัวน้อยมาก จึงเป็นภาคขยายที่มีอัตราส่วนของสัญญาณรบกวนและค่าความเพี้ยนน้อย ทำให้เสียงที่ออกมาสะอาด คมชัดมาก
-> Direct Mechanical Ground
ความสั่นสะเทือนที่เกิดจากหม้อแปลงของภาคเพาเวอร์ซับพลาย ไม่เพียงแต่สร้างปัญหาเสียงสะท้อนภายในเครื่องเท่านั้น หากยังส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์ภายในของเครื่องด้วยเช่นกัน และมีผลต่อคุณภาพเสียง ดังนั้นจึงป้องกันปัญหาดังกล่าว ด้วยการวางหม้อแปลงในแผ่นรอง เพื่อให้หม้อแปลงลอยเหนือจากแท่นเครื่อง การวางหม้อแปลงลงบนแท่นเครื่องที่เคลือบเหล็กโดยตรง และวางใกล้ๆกับอุปกรณ์ที่สามารถดูดซับความสั่นสะเทือนของหม้อแปลงและอุปกรณ์ที่เป็นตัวกำเนิดสัญญาณตัวอื่นๆ การจัดวางอุปกรณ์แต่ละตัว เป็นการวางอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันและลดความสั่นสะเทือนที่อาจจะเกิดขึ้นจากอุปกรณ์ทั้งภายในและภายนอกได้เป็นอย่างดี และนี่คือส่วนหนึ่งในการออกแบบวงจรของ Denon ที่ทำให้เสียงที่ออกมาอย่างมีคุณภาพ
-> Discrete Devices for ultimate performance in each circuit block (D.D.S.C.-HD)
ความมีเสน่ห์ของ Home Theater คือเสียงบรรยากาศเสียงเสียงเซอร์ราวด์ที่ทำให้เรารู้สึกว่าอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ และความคมชัดของภาพ ซึ่งก็คือการถ่ายทอดสัญญาณภาพคุณภาพสูง คือให้ความคมชัดที่ 1080p และสัญญาณเสียงระดับ High-Definition และที่ผ่านมา A/V Surround ของ Denon ได้ใช้เทคโนโลยี่ที่เรียกว่า Dynamic Discrete Surround Circuit (D.D.S.C) และบัดนี้ Denon ได้พัฒนาวงจรนี้ให้มีขีดความสามารถสูงขึ้นเป็นวงจร D.D.S.C-HD สำหรับถ่ายทอดสัญญาณภาพและเสียงระดับ HD วงจรใหม่นี้ Denon ออกแบบมา โดยยึดหลักการที่ว่า ถ่ายทอดสัญญาณให้ออกมาดั่งเช่นเดียวกับเสียงต้นฉบับของโพรดิวเซอร์
-> อุปกรณ์ภายในแต่ละบล็อควงจร ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
-> ถอดรหัสสัญญาณระบบ Dolby TrueHD และ DTS-HD Master Audio
-> วงจร DSPs แบบ 32-bit Floating 3 ชุด
-> วงจร DACs แบบ Dual Differential Mode แปลงสัญญาณดิจิตอลให้เป็นอนาล็อก โดยใช้วงจร 1 ชุดต่อ 1 Channel ของสัญญาณ Output ทั้งหมด
-> สัญญาณ Master clock ออกแบบมาเพื่อให้การประมวลผลสัญญาณมีความเที่ยงตรงสูงและสัญญาณรบกวนที่น้อยมาก
-> วงจร ADCs แบบ Differential Mode แปลงสัญญาณอนาล็อกให้เป็นดิจิตอล ใช้วงจร 2 ต่อ 1 Channel ของสัญญาณ Output ทั้งหมด
-> วงจรประมวลผล DSP ของสัญญาณอนาล็อก EXT IN จะทำการประมวลผลของสัญญาณอนาล็อกจากอุปกรณ์ภายนอก ที่นำมาต่อเข้ากับ AVP-A1HD และสามารถนำมาเล่นใน Surround Mode ได้
-> Advanced AL24 processing provides more dynamic range
ภายในวงจร AL24 Processing จะสร้างข้อมูลบิทต่ำ โดยแบ่งออกเป็น 8 lower bits โดยเพิ่มข้อมูลจากเดิมคือ 16-bit ให้เป็น 24-bit เพื่อให้สัญญาณเอาท์พุทมีคุณภาพสูงขึ้น วงจรนี้จะสอดแทรกข้อมูลดิจิตอลเข้าไปทีละน้อย เพื่อจัดระเบียบให้รูปคลื่นสัญญาณอนาล็อกราบเรียบขึ้น ดังนั้นสัญญาณที่ถูกบันทึกมาในแผ่น CD หรือสัญญาณดิจิตอลมีเดียอื่นๆที่ผ่านขั้นตอนการทำงานของวงจรนี้ เสียงที่ออกมาจึงเป็นธรรมชาติมากที่สุด
ใน Figure 1 แสดงให้เห็นการถ่ายทอดคลื่นเสียงของข้อมูล 16-bit ธรรมดาๆ และวิธีการที่สัญญาณเอาท์พุทที่ผ่านขั้นตอนของ LSB (least significant bit) ซึ่งสัญญาณที่ออกมาจะราบเรียบถ้าข้อมูลมันถูกขยายเพิ่มให้เป็น 24-bit แน่นอนว่าเสียงที่ออกมาย่อมแตกต่างไปจากเดิม สะอาดมากขึ้นกว่าเดิม ความผิดเพี้ยนถูกแก้ไขให้ถูกต้อง และอัตราส่วนของสัญญาณรบกวนที่น้อยลง รายละเอียดของเสียงจึงเพิ่มขึ้น วงจร Advanced AL24 Processing ใช้เทคโนโลยี่ในการค้นหาข้อมูลด้วยความเร็วสูง การสุ่มและการประมวลผลข้อมูลที่รวดเร็ว ทำให้อัตรารอบของการแปลงสัญญาณมีความเร็วขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นสัญญาณคลื่นอนาล็อกที่ออกมาจึงมีรูปคลื่นที่สม่ำเสมอเป็นระเบียบ ข้อมูลดิจิตอลที่มีจำนวนดั่งเดิมนั้น DENON ได้พัฒนาให้ Advanced AL24 Processing ใช้จำนวนตัวเลขในการประมวลผลที่สูงขึ้น เพื่อตรวจสอบและวิเคราะห์กลุ่มของข้อมูลเดิมทั้งหมด และทำการแทรกสัญญาณตัวเลขใหม่เพิ่มเข้าไป เพื่อขยายช่วงความถี่ให้เพิ่มขึ้น
Figure 2 แสดงให้เห็นถึงการประมวลผลข้อมูลตัวเลข ถ้าเราสังเกตให้ดีๆจะพบว่าสัญญาณคลื่นเสียงที่แท้จริงนั้นจะเป็นสัญญาณเสียงดนตรีที่มีรูปคลื่นไม่เป็นระเบียบอยู่เป็นจำนวนมาก เราสามารถเห็นได้อย่างไม้ยากว่าความแตกต่างของประมวลผลสัญญาณในรูปแบบเดิมๆนั้นเป็นอย่างไร เพราะหากพิจารณาถึงเสียงที่เกิดขึ้นมาด้วยวงจรกรองความถี่แบบ FIR ทั้งก่อนและหลังการจับสัญญาณ สัญญาณจะขาดความสดใส แต่ด้วยการทำงาน Advanced AL24 Processing เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเสียงที่เกิดมาขึ้นมาคมชัด เนื่องจากว่าได้มีการจัดระเบียบรูปคลื่นสัญญาณแล้ว ประสิทธิภาพของการประมวลผลที่รวดเร็ว สามารถกักเก็บข้อมูลทั้งหมดเอาไว้ได้ ทำให้ประมวลผลได้อย่างครอบคลุมได้ด้วยเพียงการประมวลผลหนึ่งขั้นตอน ซึ่งจะเห็นว่าสัญญาณเดิมนั้น เมื่อแทรกข้อมูลเข้าไปอย่างละเอียดและเที่ยงตรงเป็นระเบียบ ซึ่งจะเทียบเท่ากับข้อมูลดิจิตอลแบบเดิมที่ถอดรหัสด้วยการทำงานหลายขั้นตอน ส่วนที่เราได้เพิ่มเติมขึ้นมาจากการทำงานของ Advanced AL24 Processing คืออัตราการสุ่มข้อมูลที่เพิ่มขึ้นจาก 8fs เป็น 16fs (คือจากการแซมปลิ้งความถี่ 8-bit เป็น 16-bit) ดังนั้นการขยายข้อมูลเช่นนี้ จึงทำให้เสียงที่ออกมาเป็นธรรมชาติ เต็มไปด้วยรายละเอียด คุณภาพเสียงสามารถตอบสนองความเพลิดเพลินของนักเล่นระดับ Audiophile ได้อย่างเต็มพิกัด เสียงดนตรีที่ถูกบันทึกมาจะเต็มไปด้วยบรรยายกาศของการแสดงสด มีความกว้างของเวทีและจังหวะการเคลื่อนไหวของนักดนตรี
-> Master clock design
เทคนิคสำคัญที่นำมาใช้สัญญาณนาฬิกา และเพื่อให้การทำงานของวงจร D/A Conversion เป็นไปอย่างแม่นยำ คือการทำงานภาคจ่ายกระแสไฟและการลงกราวด์ต้องมีความเสถียร สายที่ใช้เชื่อมต่อในชุดจ่ายกระแสไฟนี้ต้องมีความยาวไม่มากนัก เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาด สัญญาณนาฬิกาจะปรับเวลาของตัวเลข ด้วยการนำเอาสัญญาณตัวเลขเดิมกลับมาขยายใหม่ (Phase-locked Loop) อีกครั้งด้วยความเที่ยงตรง เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดของสัญญาณที่ขาดความต่อเนื่องและสัญญาณรบกวนจะหายไป ดังนั้นเสียงที่ออกมาทั้งหมดจึงใสสะอาด
-> Denon LINK 3rd
Denon LINK เป็นการเชื่อมต่อเพื่อรับและส่งสัญญาณดิจิตอลด้วยความเร็วสูง เก็บทุกรายละเอียดของสัญญาณได้ครบถ้วน เมื่อนำเครื่องเล่น DVD ต่อด้วยสาย Denon LINK สัญญาณดิจิตอล Input ที่เป็นสัญญาณ PCM 24-bit/192-kHz จะถูกส่งเข้ามาโดยตรง ดังนั้นการส่งสัญญาณจึงเป็นไปด้วยความเร็ว อาทิเช่นสัญญาณมัลติแชนแนลของแผ่น DVD-Audio และ Super Audio CD
-> To preserve original sound quality for the room's acoustics at any volume level, Audyssey Dynamic EQ loudness correction technology
Audyssey Dynamic EQ ทำหน้าที่แก้ไขการตอบสนองความถี่ ของสัญญาณวอลลุ่มที่ได้จากกวัดสัญญาณทั้งหมดภายในห้องฟัง แก้ไขสัญญาณวอลลุ่มของแหล่งกำเนิด เพื่อให้เสียงออกมาสอดคล้องกับการรับฟังเสียงของคนเรา
-> Refined calibration technology to improve an acoustical condition of any room.
ไมโครโฟนที่ใช้ตรวจวัดสัญญาณลำโพง และเสียงภายในห้องฟัง มีรูปทรงใหม่ คือมีรูปทรงแบบทาวเวอร์ ข้อมูลที่ใช้วิเคราะห์นั้นอยู่ในวงจร DSP และฟังก์ชั่น Auto Set-up จำตรวจวัดสัญญาณลำโพงอัตโนมัติ ด้วยวงจร MultiEQ XT ซึ่งเป็นวงจรรุ่นใหม่ สามารถตรวจวัดสัญญาณภายในห้องฟังได้ 8 จุด และฟังก์ชั่น Room EQ (Equalizer) ทำหน้าแก้ไขความถี่ให้ออกมาสอดคล้องกับสภาพที่เป็นจริงกับขนาดของห้องฟัง และมีวง ALFC (Adaptive Low Frequency Correction) ทำหน้าที่แก้ไขรายละเอียดของความถี่ต่ำให้ถูกต้องมากยิ่งขึ้น
-> The following 6 basic settings are automatically made for the speakers:
หลักการพื้นฐาน 6 ประการของระบบตั่งค่าเสียงของลำโพงแบบอัตโนมัติ
1. ตรวจสอบขั้วต่อของลำโพง 2. วัดขนาดของลำโพง 3. วัดระดับสัญญาณ
4. วัดระยะห่างของลำโพงแต่ละตัว 5. ตรวจสอบ Phase ของลำโพง 6. ตรวจสอบความถี่ ครอสโอเวอร์ของลำโพงแต่ละตัว
-> Room EQ
การตรวจวัดสัญญาณหลายๆตำแหน่งการนั่งฟังนั้น สามารถวัดได้ 8 ตำแหน่ง การตอบสนองความถี่ของทุกพื้นที่การนั่งฟังนั้น สามารถตรววัดในระบบอัตโนมัติได้อย่างถูกต้อง ในระหว่างขั้นตอนการวัดสัญญาณในระบบอัตโนมัติ การแก้ไขสัญญาณให้ถูกต้อง จะแก้ไขด้วย FIR Filter ภายในเวลา 1 นาที โดยหลักการทางทฤษฏี เมื่อไม่มีการต่อกลับ Phase (ต่อสลับขั้วบวกและลบ) เครื่องจะทำงานตามขั้นตอนดังนี้คือ Audyssey, Audyssey Byp. L/R และ Audyssey Flat. และในกรณีที่เราตั้งค่าตรวจวัดสัญญาณด้วยตัวเราเอง (Manual) สามารถตั้งค่ากราฟฟิคอีคลอไลเซอร์ได้ 9 แบนด์ และในขณะนี้ที่เราตั้งค่าการทำงาน (Manual) เราสามารถกำหนดการตั้งค่าของสัญญาณเซอร์ราวด์ในแต่ละโหมดได้ของทุกพื้นที่การนั่งฟัง
- Audyssey: ทำหน้าที่แก้ไขการตอบสนองความถี่ของลำโพงทุกตัว ในขณะที่เปิดความแรงของสัญญาณ
สูงสุด
- Audyssey Byp. L/R: ทำหน้าที่แก้ไขการตอบสนองความถี่ของลำโพงคู่หน้าซ้าย/ขวา
- Audyssey Flat: ทำหน้าที่แก้ไขการตอบสนองความถี่ให้เป็นสัญญาณแบบ Flat
- Manual: คือการปรับแต่งความถี่ด้วยตัวเราเอง
- Off: คือปิดการทำงานของฟังก์ชั่น Room EQ
-> Denons High Picture Quality Circuitry, to enhance enjoyment of existing DVDs
AVP-A1HD ได้มีการนำเอาวงจรแปลงสัญญาณ Interlace/Progressive คุณภาพสูงมาบรรจุไว้ภายใน ด้วยการใช้ชิพ Realta sxT2 ทำหน้าที่รองรับสัญญาณดิจิตอลวีดีโอ High-Definition 1080p การแปลงสัญญาณดิจิตอลวีดีโอนั้น สามารถประมวลผลข้อมูลได้สูงสุดที่ 10-bit ดังนั้นจึงทำให้การค้นหาสัญญาณเป็นไปอย่างรวดเร็ว ในการค้นหาสัญญาณนี้ ไม่ได้ค้นหาเฉพาะสัญญาณเม็ดสีของสัญญาณในรูปแบบ 3:2 เท่านั้น หากแต่ยังค้นหาสัญญาณการแปลงสัญญาณ I/P ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย เพราะเมื่อมีการต่อสัญญาณวีดีโอมายัง AVP-A1HD ด้วยสัญญาณแบบ Video Mode และ Film Mode ในแต่ละ Mode นั้นชิพ Realta sxT2 จะค้นหาสัญญาณได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ดังนั้นไม่ว่าเราจะเล่นแผ่น DVD อะไรก็ตาม สัญญาณภาพที่ปล่อยออกมาจะมีความคมชัดมาก นอกจากนี้ Realta sxT2 ยังมีฟังก์ชั่นส่งสัญญาณ Output ที่ความละเอียด 1080p อีกด้วย และในกรณีที่เราต่อสัญญาณวีดีโอ Output จากขั้วต่อ RGB การประมวลผลสัญญาณจะทำงานที่ 10-bit เช่นเดียวกัน ดังนั้นไม่ว่าเราจะต่อในส่วนของสัญญาณภาพในรูแบบใดก็ตาม สัญญาณภาพที่ได้จะเป็นสัญญาณภาพที่เต็มไปด้วยรายละเอียดของความคมชัด
-> Digital Noise Reduction, to optimise effects for both SD and HD content
เทคโนโลยี่ DNR ทำหน้าที่ลดสัญญาณรบกวนได้ทั้งจากแผ่น DVD มาตรฐานทั่วไปและแผ่น Blu-ray
-> Denon Pixel Image Correction, for more natural correction of curved lines
AVP-A1HD ได้นำวงจร Denon Pixel Image Correction มาบรรจุไว้ ทำหน้าที่ค้นหาและแก้ไขสัญญาณวีดีโอ DPI Correction จะประมวลผลข้อมูลที่ 10-bit และประมวลผลในรูปแบบสัญญาณเชิงเส้น ซึ่งเป็นวงจรแก้ไขสัญญาณเชิงเส้นรูปแบบใหม่ โดยวิเคราะห์จำนวนพิกเซลย่อยที่เกิดรบๆกลุ่มเม็ดสี วงจรนี้จะใช้ตัวเลขเพื่อสุ่มและวิเคราะห์แยกจำนวนพิกเซลเป็น 9 พิกเซลต่อหนึ่งเม็ดสีของสัญญาณวีดีโอ การค้นหาและประมวลผลสัญญาณวีดีโอนั่น จะประมวลผลทั้งสัญญาณแนวนอนแนวตั้งและแนวทะแยง ดังนั้นจำนวนพิกเซลจึงมีรายละเอียดสูงขึ้น เมื่อแสดงผลในรูปแบบสัญญาณเชิงเส้น ภาพที่ออกมาจึงเป็นธรรมชาติมาก สัญญาณความสว่างและสัญญาณแม่สีนั้นจะผ่านขั้นตอนการประมวลผลด้วยจำนวนตัวเลขดิจิตอลเช่นเดยวกัน เพื่อขจัดสัญญาณรบกวนต่างๆให้หมดสิ้นไป และด้วยวิธีการประมวลผลข้อมูลดิจิตอลที่เป็นสัญญาณวีดีโอนี้ จึงทำให้มิติของสัญญาณวีดีโอปรากฏออกมาจึงดุจธรรมชาติมากที่สุด
-> Detailed picture quality adjustability
ภายในวงจร Denon Pixel Image Correction ในส่วนของฟังก์ชั่นการปรับสัญญาณภาพ ไม่เพียงแต่สามารถปรับความต่างระดับของสัญญาณภาพและความคมชัดได้เท่านั้น แต่ยังสามารถปรับสัญญาณแม่สี ปรับสัญญาณรบกวน ปรับไล่ระดับสัญญาณความสว่าง และปรับสัญญาณความเข้มของรังสีแกรมมา
-> HDMI (ver. 1.3a supporting Deep Colour (30/36-bit), x.v.Color, High-Bit-Rate Audio input)
HDMI Input/Output คือการเชื่อมต่อเพื่อรับและส่งสัญญาณดิจิอตลที่เป็นข้อมูลของสัญญาณวีดีโอและสัญญาณเสียงและ AVP-A1HD มีขั้วต่อสัญญาณ Input/Output แบบ HDMI เวอร์ชั่น 1.3 และรองรับสัญญาณภาพแบบ Deep Colour (ส่ง/รับข้อมูลได้ที่ 30/36-bit), x.v.Colour, High-Bit-Rate Audio และ HDMI Control
Connectivity & Future-ready Expandability
-> Network Audio and Photo Streaming
AVP-A1HD มีฟังก์ชั่น Wireless LAN รับฟังดนตรีได้จาก Server อย่างเช่น Windows Media Player เวอร์ชั่น 11 สามารถเชื่อมต่อเพื่อฟังเพลงจากคลังข้อมูลไฟล์ดนตรีจากคอมพิวเตอร์ PC รองรับฟอร์แมท MP3, WMA (linear PCM), AAC (DRM ไม่รองรับ) WMA และ FLAC (การต่อ AVP-A1HD ต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน Digital Living Network Alliance)
-> Internet Radio
คุณสามารถรับฟังรายการวิทยุมากกว่า 7,000 สถานี ด้วยการใช้บริการ "vTuner" โดยไม่ต้องเชื่อมต่อผ่าน PC
-> Compressed Audio Restorer to enhance digital music files
Compressed Audio Restore เป็นเทคโนโลยี่ดัง่เดิมของ Denon นำมาบรรุไว้ใน AVP-A1HD ทำหน้าที่แก้ไขสัญญาณที่ผิดพลาด หรือสัญญาณที่ขาดหายไปในระหว่างการ Downloaded ไฟล์ดนตรีจากอินเตอ์เนท หรือข้อมูลดนตรีจากเครื่องเล่นแบบพกพา หรือจากคลังข้อมูลไฟล์ดนตรี ฟังก์ชั่นนี้จะทำการปรับ เพิ่ม/ลดความถี่ต่ำ และปรับบาลานซ์ของเสียงดนตรีให้สมบูรณ์ขึ้น
-> Multi-Zone Capabilities
- เล่น Multi-Zone ได้ทั้งหมด 4 Zone เชื่อมต่อสัญญาณอนาล็อกได้ 3 ชุดและสัญญาณดิจิตอล 1 ชุด
- จอดิสเพลย์ของ Zone 2 สามารถแสดงข้อความ รายชื่อของศิลปิน
Ease-of-Use
-> New user interface for easy operation, setup and digital media browsing
พัฒนา Graphical user interface (GUI) ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถ เชื่อมต่ออุปกรณ์แต่ละตัวได้สะดวกขึ้น การทำงานของอุปกรณ์แต่ละตัวนั้นจะแสดงผลบนจอดิสเพลย์ ที่รองรับภาษาได้หลายภาษา
-> GUI สามารถทำงานในระหว่างการส่งสัญญาณ HDMI 1080p output
-> Dual HDMI outputs enabling simultaneous output to video projector and flat panel
มีขั้วต่อ HDMI outputs 2 ชุด สามารถใช้ชุดที่ 1 ต่อเข้ากับโพรเจคเตอร์และอีกชุดต่อเข้ากับจอแบนต่างๆ (LCD หรือ Pasma)
-> 2-line fluorescent display on front panel
จอดิสเพลย์ของ AVP-A1HD แสดงผลข้อมูลกราฟฟิคแบบสองแถว ทำให้เราเห็นข้อมูลของรายชื่ออัลบั้ม ศิลปิน แทร็คเพลงและกลุ่มการทำงานต่างๆได้อย่างชัดเจน โดยไม่ต้องดูข้อมูลเหล่านี้จากจอทีวี และการแสดงผลแบบสองแถวนี้ ช่วยให้เราเปลี่ยนการตั้งค่าการทำงาน โดยไม่ต้องดูเมนูต่างๆจาก GUI
-> Web setup, save and load all settings via Ethernet
โปรแกรม Brower ที่มีอยู่ใน PC สามารถเชื่อมต่อกับ Network และใช้สำหรับตั้งค่าการทำงาน และควบคุมการทำงานของ AVP-A1HD ได้
-> Remote control มีปุ่มกดแบบ GLOW-KEY เรืองแสง ทำให้ใช้งานในเวลากลางคืนได้
-> Sub-Remote controller
AVP-A1HD มีรีโมท คอนโทรลสองตัว ตัวแรกสำหรับควบคุมการทำงานของหลักฟังหลัก ส่วนรีโมทตัวที่สองสำหรับคอนโทรลห้องฟัง Multi-Zone และรีโมทตัวที่สองนี้ ใช้ควบคุมการทำงานได้เช่นเดียวกับรีโมทหลัก และมีฟังก์ชั่นที่ใช้ควบคุมการทำงานได้ดังนี้
- เลือกสัญญาณ Input ของ Source ต่างๆ
- ปรับเพิ่ม/ลดสัญญาณ Volume
- ควบคุมการทำงานของ iPod
- เล่นข้อมูลเสียงของ NET/USB ได้โดยตรง
- กดเลือกเมนู GUI และ Zone 2 ที่ปรากฏอยู่บนจอดิสเพลย์ได้
- กด Power ON/OFF ของแต่ละ Zone ได้
-> Other Features
-> มาตรฐาน THX Ultra2
-> Pure Direct mode, for enjoying high-quality pure audio
Pure Direct Mode จะนำเราสู่การฟังเสียงดนตรีที่เป็นธรรมชาติ และเป็นเสียงดนตรีที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ในขณะที่ฟังก์ชั่น Pure Direct Mode ทำงานหลอดฟลูออเรเซ็นท์ของจอดิสเพลย์จะปิดการทำงาน และวงจรที่ไม่ได้ทำงานในขณะนั้น จะปิดการทำงานไปเองโดยอัตโนมัติ และปิดวงจรดิจิตอลและวีดีโอด้วยเช่นกัน เพื่อให้วงจรเสียงทำงานได้อย่างเต็มที่
-> Auto Surround Mode, to automatically remember surround modes for 4 input signal formats
Surround Modes หรือ Surround Parameters สามารถเก็บข้อมูลเสียงจากสัญญาณ 2-Channel สัญญาณ PCM สัญญาณดิจิตอล 2-Channel และสัญญาณ Multi-Channel ได้ 4 รูปแบบ และถ้าหากสัญญาณ Input ที่เข้ามายัง AVP-A1HD มีการเปลี่ยนแปลง เครื่องจะทำการเพิ่มสัญญาณเซอร์ราวด์นั้นโดยอัตโนมัติทันที
-> Supports connection of up to 3 subwoofers
ในกรณีที่ต้องการเล่นซับวูฟเฟอร์ 3 ตัว สามารถต่อซับวูฟเฟอร์เข้าที่ช่องขั้วต่อ MIX หรือ L/R Channels และสามารถเลือกเล่นในโหมด THX
-> Night Mode มีสำหรับฟังเสียงในยามค่ำคืน เพื่อไม่รบกวนเพื่อบ้าน และหากใช้หูฟังจากช่อง Dolby Headphone สามารถรับฟังเสียงเซอร์ราวด์ได้ (เป็นการฟังเสียงจากการต่อสาน HDMI)
-> แปลงสัญญาณ Analog video ไปเป็น HDMI ที่ 1080p
-> แปลงสัญญาณวิดีโอที่ระดับ 12-bit/216-MHz ด้วยวงจร NSV
-> iPod audio, photo and video playback (optional ASD-1R/3N/3W)
เชื่อมต่อกับ iPod ด้วยอุปกรณ์ ASD-1R/3N/3W เพื่อฟังเพลงและดูวีดีโอ (ASD-1R/3N/3W ขายแยกต่างหาก)
-> รองรับข้อมูลจากอุปกรณ์ที่มีขั้วต่อแบบ USB สำหรับฟังเพลงและดูคลังข้อมูลภาพ (MTP สามารถเชื่อมต่อได้)
-> แสดงข้อมูล Album (iPod/Network/USB)
-> แสดงข้อมูลแทร็คดนตรี (iPod/Network/USB)
-> แสดงข้อมูลได้หลายภาษา (EN, DE, FR, IT, ES, NE, SV, JP)
-> มีชุดขั้วต่อ Component Outputs 2 ชุดสำหรับห้องฟังหลัก
-> ขั้วต่อ BNC สำหรับการต่อ Component Input/Output
-> รองรับ HDMI Control (Consumer Electronics Control)
เมื่อต่อ AVP-A1HD กับ TV ด้วยสาย HDMI หรือเครื่องเล่นที่มีระบบการรองรับ HDMI Control เราสามารถใช้รีโมท คอนโทรลของ TV เปิด/ปิดการทำงาน เลือกฟังก์ชั่นต่างๆ หรือปรับเพิ่ม/ลดสัญญาณวอลลุ่ม
(Note: ในส่วนการทำงานนี้อาจจะใช้ไม่ได้กับทุกยี่ห้อ)
-> มีขั้วต่อ IR Remote in/out
-> มีปลั๊กไฟ +12V, 250mA trigger สำหรับต่อกับเครื่องเล่นตัวอื่นๆ 4 ชุด
-> มีขั้วต่อ RS-232C 2 ชุด
-> Optional RC-7000CI/7001RCI 2-way control ready
เมื่อนำรีโมท คอนโทรล Denon รุ่น RC-7000CI ซึ่งเป็น RF Remote Controller หรือ RC-7001RCI ซึ่ง Remote Receiver มาใช้งานร่วมกับ AVP-A1HD สามารถใช้ควบคุมการทำงานได้เช่น เลือกไฟล์ดนตรี และข้อมูลจะปรากฏแสดงให้เห็นบนจอดิสเพลย์ของรีโมท คอนโทรล
-> ขั้วต่อ Input / Output
IN HDMI : 6
Component : 6 (1: BNC)
S-Video : 8
Composite : 8
XLR : 1
Analog audio : 10
EXT. In : 7.1ch
Digital OPT : 5
Digital COAX : 6 (2: BNC)
Denon Link 3rd : 1
OUT HDMI monitor : 2
Component main monitor : 2 (1: BNC) Zone 2 monitor : 1
S-Video REC : 3
Monitor / Zone 2 : 1 / 1
Composite REC : 3
Monitor / Zone 2 : 1 / 1
Zone 3 : 1
Analog preout : 9.3 ch XLR (Balanced)
Analog preout : 9.3 ch RCA (unbalanced)
Analog audio REC : 3
Zone 2 / Zone 3 : 1 / 1
Digital optical REC : 2
Zone 2 : 1
REC / Zone 4 : 1
-> Others
Trigger +12 V, 250 mA : 4
RS-232C : 2
Control link : 1
Remote IN/OUT IN 1 / OUT : 1
Ethernet : 1
Wi-Fi (WLAN Antenna) : 1
USB 2
Dock control : 1
Setup mic : 1
Specifications
Pre-amplifier Section
ความไว Input /ความต้านทาน
PHONO(MM) : 2.5 mV
Audio inputs : RCA (unbalanced) 200 mV/47 kohms
: XLR (balanced) 400 mV/100 kohms
สัญญาณ Output /โหลดความต้านทาน
Audio outputs : RCA (unbalanced) 1.2 V
: XLR (balanced) 2.4 V
General
ความไว Input /ความต้านทาน
ทำงานกับกระแสไฟ : AC 230 V, 50 Hz
Power consumption : 150 W
(Standby : 0.3 W)
Dimensions W x H x D : 434 x 214 x 485 mm
Weight : 27.5 kg
