ออฟฟิศซินโดรม ภัยเงียบที่ต้องระวัง
ใครปวดหลัง ปวดคอบ่อยๆ
อาจจะเสี่ยงเป็นออฟฟิศซินโดรมได้นะ
แต่เป็นแล้วก็รักษาได้ เรามีวิธีมาฝาก!
ออฟฟิศซินโดรม อาการยอดฮิตของเหล่ามนุษย์ออฟฟิศทั้งหลาย เพราะต้องนั่งทำงานหน้าคอมและนั่งอยู่ในท่าเดิมนานๆ จนมีอาการปวดหลัง ปวดคอหรือช่วงไหล่บ่อยๆ ระวังไว้เลยย อาจจะเป็นออฟฟิศซินโดรมแล้วโดยที่คุณไม่รู้ตัว ซึ่งจริงๆ แล้วออฟฟิศซินโดรมสามารถรักษาได้นะ ซึ่งวันนี้ พี่ โปรโมชั่น ก็ได้รวมวิธีรักษามาฝากจย้าาา จะมีวิธีไหนบ้าง มาดูกัน~[size=[^_^]]อาการของออฟฟิศซินโดรม[/size]
อาการของออฟฟิศซินโดรม สามารถแบ่งได้ 3 ระยะ ดังนี้
ระยะเริ่มต้น จะมีอาการปวดเมื่อยล้าบริเวณหลัง คอ ไหล่และข้อมือ ในขณะทำงานหรือหลังจากการทำงาน แต่ในระยะเริ่มต้นอาการเหล่านี้จะหายไปเอง เมื่อเรามีการยืดเส้นยืดสาย หรือขยับร่างกาย แต่จะมีอาการเป็นๆ หายๆ ถ้าหากไม่รักษาให้ถูกวิธี อาจส่งผลให้เป็นระยะเรื้อรังได้
ระยะเรื้อรัง มีอาการเมื่อยล้าหรือเกร็งกล้ามเนื้อแบบเป็นๆ หายๆ ใช้วิธีการยืดเส้นยืดสายแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น มีอาการปวดที่ส่งปลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หรือกระทบกับประสิทธิภาพการทำงานลดลง อาจเกิดจากการรักษาไม่ถูกวิธี เมื่อพบว่ามีอาการดังกล่าวควรรีบพบแพทย์ทันที
ระยะรุนแรง มีอาการปวดหรือชาแทบจะตลอดเวลา จนถึงขั้นรบกวนการพักผ่อน มีอาการไมเกรน ตาพร่า เวียนหัว หรือคลื่นไส้ร่วมด้วย หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว [size=[^_^]]ออฟฟิศซินโดรม สามารถรักษาได้โดยเริ่มที่ตัวเรา [/size]
1.ใช้ท่ากายบริการเหล่านี้เมื่อมีอาการปวดเมื่อย สามารถทำได้ง่ายๆ แม้นั่งอยู่ในที่ทำงาน หรือลุกขึ้นเดินยืดเส้นยืดสายบ่อยๆท่าที่ 1 ยกไหล่ขึ้น-ลง ประมาณ 3-5 วินาที ทำ 3 ครั้ง
ท่าที่ 2 โยกคอซ้าย-ขวาช้าๆ ประมาณ 5-10 วินาที
ท่าที่ 3 หันซ้าย-หันขวาสลับกันช้าๆ ประมาณ 5-10 วินาที
ท่าที่ 4 โยกหัวขึ้น-ลงช้าๆ ประมาณ 5-10 วินาที
ท่าที่ 5 นั่งตัวตรง ยกแขนขึ้น แล้วโยกตัวช้าๆ
ท่าที่ 6 นั่งตัวตรง ยกขาขึ้น-ลงช้าๆ โดยทำทีละข้าง
ท่าที่ 7 นั่งตัวตรงจากนั้นก้มตัวลงช้าๆ โดยให้มือแตะพื้น
2. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนั่งทำงาน อาจจะฟังดูยากไปนิด แต่ถ้าทำได้รับรองบอกลาโรคออฟฟิศซินโดรมไปได้เล้ย -การจัดโต๊ะทำงานใหม่ โดยการจัดหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ตรงหน้าและอยู่ต่ำกว่าระดับสายตาพอดี เพื่อจะได้ไม่ต้องแหงนหรือก้มหน้ามากจนเกินไปจนเกิดอาการปวดคอ
-เวลานั่งทำงานให้พยายามนั่งหลังตรง ไม่นั่งห่อไหล่ ไม่เอนตัวไปติดกับโต๊ะมากเกินไป และกะระยะให้ตัวอยู่ห่างจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ประมาณหนึ่งช่วงแขน
-ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์การทำงานหรือจัดออฟฟิศให้สะอาด ปลอดโปร่ง มีอากาศถ่ายเทสะดวก 3. กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ ฮ้าไฮ้! อาจจะไม่จำเป็นต้องถึงขั้นเล่นกีฬา แค่เพียงออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง อาจจะเลือกประเภทการออกกำลังกายที่ช่วยยืดและคลายกล้ามเนื้อ อย่างเช่น โยคะหรือพิลาทิสก็ได้ [size=[^_^]]แต่สำหรับคนที่มีอาการถึงระยะเรื้อรังและระยะรุนแรงแล้ว
อาจจะต้องใช้วิธีทางการแพทย์เข้ามาช่วย[/size]
[size=[^_^]]แพทย์แผนปัจจุบัน [/size]
[size=[^_^]]แพทย์แผนจีน[/size]
1.รักษาด้วยการทำกัวซา เป็นแพทย์แผนจีนโบราณโดยการนำกัวซาบอร์ดที่ทำมาจากเขาควาย มากวาดบนผิวหนังตามเส้นลมปราณ เพื่อขับพิษและรักษาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย 2. รักษาด้วยการฝังเข็ม เป็นชื่อวิธีการรักษาที่หลายๆ คนคุ้นเคย เพราะสามารถรักษาได้หลายโรค รวมไปถึงอาการออฟฟิศซินโดรมด้วย 3. รักษาด้วยการครอบแก้ว เป็นการรักษาโดยการนำแก้วแบบเฉพาะที่มีความร้อนวางลงบนผิวหนัง แล้วความร้อนนั้นจะดูดผิวหนังเราขึ้นมา [size=[^_^]]ใครที่สนใจรักษาแบบแพทย์แผนจีน เรามีคลินิกมาแนะนำ[/size]
[size=[^_^]]นวดแผนไทย[/size]
พี่ โปร บอกเลยว่าการนวดแบบไทยเนี่ยแหละ ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยได้ดี ใครที่กลัวว่านวดแผนไทยจะฮาร์ดคอร์เกินไป บางร้านเค้าก็มีบริการนวด บ่า คอ ไหล่ สำหรับอาการออฟฟิศซินโดรมโดยเฉพาะด้วยจ้า[size=[^_^]]ปันโปรสรุปให้[/size]
-การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานและหมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอเป็นวิธีการรักษาระยะยาว และเป็นการรักษาที่ต้นเหตุอย่างแท้จริง
-การรักษาด้วยแพทย์แผนจีนควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญ
-ถ้าสงสัยว่าเป็นออฟฟิศซินโดรมก็สามารถไปพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษานะ ไม่ควรปล่อยไว้นานเกินไปเพราะเดี๋ยวจะเรื้อรังซะก่อน