ผู้เขียน หัวข้อ: รวมผลคนใช้ CEN.GRAND 5i-360/380 HD player HI-END  (อ่าน 1376113 ครั้ง)

ออฟไลน์ wat12

  • Full LED TV member
  • ****
  • กระทู้: 1,066
  • ??????????? ???????????? ??????????? ????????? ??????????????
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
Re: รวมผลคนใช้ CEN.GRAND 5i-360 HDplayer hiend
« ตอบกลับ #522 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2013, 04:28:03 pm »
มีวิธีset up อย่างไรเป็นพิเศษหรือเปล่าครับพี่

ถ้าcen grandน้องเล็ก 5i-360,น้องแอ๊ด 5i-AD มันกลายพันธ์เป็น BD,3D BD player ได้ง่ายๆ เยี่ยงนี้
สงสัย ได้จัด กล่อง BDR กันอีกรอบละมั้งเนี่ย [ปลื่ม]

ออฟไลน์ azazz

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 260
    • ดูรายละเอียด
Re: รวมผลคนใช้ CEN.GRAND 5i-360 HDplayer hiend
« ตอบกลับ #523 เมื่อ: ตุลาคม 19, 2013, 04:55:46 pm »
มีวิธีset up อย่างไรเป็นพิเศษหรือเปล่าครับพี่

ถ้าcen grandน้องเล็ก 5i-360,น้องแอ๊ด 5i-AD มันกลายพันธ์เป็น BD,3D BD player ได้ง่ายๆ เยี่ยงนี้
สงสัย ได้จัด กล่อง BDR กันอีกรอบละมั้งเนี่ย [ปลื่ม]

แก้ในAVR ให้ Video>pass through ครับ

ทดลองfull3D 5แผ่น ผ่านหมดครับ

ออฟไลน์ wanchaisak

  • Flat TV member
  • *
  • กระทู้: 31
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
Re: รวมผลคนใช้ CEN.GRAND 5i-360 HDplayer hiend
« ตอบกลับ #524 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2013, 03:13:45 pm »
อยากรู้จริงๆว่าใช้BRDของยี่ห้ออะไรรุ่นไหน
เวลาเล่นแผ่นทั้ง2d - 3d ภาพออกมาชัดขนาดไหน
เทียบกับ BRP450,lx 55 หรือไปถึง 93
และใช้สายลิ้งจากฺBRDไปcen ใช้ของยี่ห้ออะไรรุ่นไหน
สายเส้นนี้มีส่วนสำคัญมากหรือเปล่ากำลังรอจะเล่นอยู่เหมือนกัน
ตอนนี้กำลังเก็บข้อมูลอยู่ขอให้ช่วยทดสอบให้ด้วยขอบคุณมากครับ

ออฟไลน์ wat12

  • Full LED TV member
  • ****
  • กระทู้: 1,066
  • ??????????? ???????????? ??????????? ????????? ??????????????
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
Re: รวมผลคนใช้ CEN.GRAND 5i-360 HDplayer hiend
« ตอบกลับ #525 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2013, 04:54:18 pm »
อยากรู้จริงๆว่า
1) ใช้BRDของยี่ห้ออะไรรุ่นไหน
2) เวลาเล่นแผ่นทั้ง2d - 3d ภาพออกมาชัดขนาดไหน
3) เทียบกับ BRP450,lx 55 หรือไปถึง 93
4) และใช้สายลิ้งจากฺBRDไปcen ใช้ของยี่ห้ออะไรรุ่นไหน
5) สายเส้นนี้มีส่วนสำคัญมากหรือเปล่า
กำลังรอจะเล่นอยู่เหมือนกัน
ตอนนี้กำลังเก็บข้อมูลอยู่ขอให้ช่วยทดสอบให้ด้วยขอบคุณมากครับ

ขออนุญาตแบ่งคำถามเป็นข้อๆ นะครับ  อะไรที่พอทราบจะได้ช่วยแจงจร้า

1) ใช้BRDของยี่ห้ออะไรรุ่นไหน
บางท่านใช้  LG ก็บอกว่าเล่นได้
ส่วนข้าน้อย จัดกรึ๊บบาย  ไปล็อตนึง  ได้Pioneer OEM (ไม่มีป้ายยี่ห้อ)  เทียบรุ่นคือ BDR-206 ผลการเล่นแผ่นแท้ก็พอได้  แผ่นกุ๊กกู๋นี่เก่งเลย

2) เวลาเล่นแผ่นทั้ง2d - 3d ภาพออกมาชัดขนาดไหน
เท่าที่ลองเล่นเอง........น้องๆ / เทียบเท่าการเล่นไฟล์  เลยจร้า
หมายเหตุ.......BDR 206>Trancystar 5.25" USB3/Esata out  (Board ในกล่องโมฯแหลก แล้วเพื่อให้เทียบเท่ากับการเล่นHDD ในตัวเครื่อง5i-ADที่โมฯแหลกแล้ว ,ใช้ไฟ12V Linear & USB Carbon Modded)
3) เทียบกับ BRP450,lx 55 หรือไปถึง 93
......พี่น้องหลายท่านที่มี  ๙๓,๙๕,๑๐๓   ปล่อยออกไปแบบไม่เสียดายแล้วหลายท่านจร้า

4) และใช้สายลิ้งจากฺBRDไปcen ใช้ของยี่ห้ออะไรรุ่นไหน
สายยิ่งคุณภาพสูง(ไม่ได้บอกว่า ของคุณภาพสูง ต้องแพงลิบแต่อย่างใด)   ทั้งคุณภาพการนำ/ส่งผ่าน และแบนด์วิทกว้าง น้อนซ์ต่ำ  ย่อมส่งผลดี

5) สายเส้นนี้มีส่วนสำคัญมากหรือเปล่า
ขึ้นอยู่ กับความสามารถของระบบ   ตั้งแต่
ระบบไฟพื้นฐาน  ระบบสายดิน
ปลั๊ก  เครื่องกรองไฟ  และสายไฟในระบบ
เครื่องซอร์ส   สายต่อทุกช่วง 
และระบบแสดงผล จอภาพ/เครื่องฉาย

บางระบบ  สำแดงความแตกต่างได้ง่าย  (บางที  เสียงสายภาพ  เสียงเปลี่ยนตามด้วยก็มี)
บางระบบ  ต้องระดับคุณภาพห่างกันมากๆ  จึงจะพอสังเกตุความต่างได้ก็มีจร้า

ออฟไลน์ vorasad

  • Flat TV member
  • *
  • กระทู้: 40
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
Re: รวมผลคนใช้ CEN.GRAND 5i-360 HDplayer hiend
« ตอบกลับ #526 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2013, 06:15:42 pm »
5) สายเส้นนี้มีส่วนสำคัญมากหรือเปล่าขึ้นอยู่ กับความสามารถของระบบ   ตั้งแต่ระบบไฟพื้นฐาน  ระบบสายดินปลั๊ก  เครื่องกรองไฟ  และสายไฟในระบบเครื่องซอร์ส   สายต่อทุกช่วง  และระบบแสดงผล จอภาพ/เครื่องฉายบางระบบ  สำแดงความแตกต่างได้ง่าย  (บางที  เสียงสายภาพ  เสียงเปลี่ยนตามด้วยก็มี)บางระบบ  ต้องระดับคุณภาพห่างกันมากๆ  จึงจะพอสังเกตุความต่างได้ก็มีจร้า


+1 ด้วยจ้า พื้นฐานสำคัญมาก


 [ปลื่ม]

ออฟไลน์ savongm

  • Flat TV member
  • *
  • กระทู้: 12
    • ดูรายละเอียด
Re: รวมผลคนใช้ CEN.GRAND 5i-360 HDplayer hiend
« ตอบกลับ #527 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2013, 07:53:33 pm »
ความสำคัญของสาย HDMI ในระบบ Digital
“คำถาม: สาย HDMI แบบเส้นละ 300 บาท กับเส้นละ 4,000 บาทต่างกันตรงไหน ผมควรจะซื้อแบบไหนดีครับ?”

ผม (ผู้เขียน) เป็นวิศวกรด้านกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์ ผมทำงานคลุกคลีอยู่กับสัญญาณอนาล็อก และดิจิตอลอยู่ทุกๆ วัน ด้วยเหตุนี้ทำให้ผมคิดว่าผมมีคุณวุฒิและคุณสมบัติที่เหมาะสมที่จะตอบคำถามนี้

และคำตอบสำหรับคำถามนี้ก็คือ “ไม่ครับ – สาย HDMI ราคาแพงไม่ช่วยทำให้คุณภาพของภาพและเสียงดีขึ้นแต่อย่างใด”

การส่งสัญญาณแบบเก่า :analog มีการเพี้ยนของข้อมูลระหว่างการส่ง (เช่นสาย AV สาย component)

การส่งสัญญาณแบบใหม่ : HDMI เป็นการส่งสัญญาณภาพระบบ Digital ส่งสััญญาณ 0 และ 1 ปลายทางก็จะได้รับ 0 และ 1 ไม่มีทางผิดไปจากนี้

ผู้เขียนขอเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆนะครับ
อนาล็อก: ลองนึกถึงขั้นบันไดสัก 200 ขั้นไว้ในใจนะครับ และให้มีนาย A กำลังไต่บันไดอยู่ สัญญาณอนาล็อก จะเป็นตัวบอกว่านาย A อยู่ที่บันไดขั้นไหน ณ ขณะเวลาหนึ่งๆ และสมมติว่านาย A กำลังเดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ (เปรียบเสมือนสัญญาณที่ถูกรบกวน และเพี้ยนจากต้นฉบับไปเรื่อยๆ) ตรงนี้ล่ะที่ความผิดพลาดจะเกิดขึ้นได้โดยง่าย ตัวอย่างเช่น สมมติว่า ณ ขณะนั้นนาย A อยู่บนบันไดขั้นที่ 101 แต่ด้วยสัญญาณที่รบกวน คุณอาจจะเข้าใจผิดว่าเขากำลังอยู่ขั้นที่ 102 และยิ่งนาย A เดินขึ้นบันไดสูงขึ้นไปเรื่อยๆ คุณก็จะเริ่มสับสนขึ้นเรื่อยๆ จนไปถึงจุดจุดหนึ่ง คุณจะไม่สามารถบอกได้เลยว่า ณ ขณะนี้นาย A อยู่ที่บันไดขั้นไหนกันแน่

เพิ่มเติมจากผู้แปล: เนื่องจากสัญญาณอนาล็อก เป็นการวัดความต่างศักย์ของกระแส ณ เวลา (timeslice) ขณะใดขณะหนึ่ง สมมติว่า สัญญาณที่มันควรจะเป็น ณ ขณะนั้นคือ 0.75 โวลต์ แต่เนื่องจากมีการรบกวน ทำให้สัญญาณ ณ ขณะนั้น กลายเป็น 0.68 โวลต์ จึงทำให้ทีวีของเราตีความสัญญาณนั้นไม่ถูกต้อง และนำไปสู่การแสดงภาพที่ผิดเพี้ยนนั่นเอง

ดิจิตอล: ลองนึกถึงบันได 200 ขั้นกับนาย A เหมือนเดิมนะครับ – ในกรณีที่เป็นสัญญาณดิจิตอล คุณจะไม่สนใจว่านาย A จะอยู่บันไดขั้นที่ 13 หรือ 15 แต่สิ่งที่คุณสนใจก็คือ นาย A อยู่ “ข้างบน” หรือ “ข้างล่าง” ถึงแม้นาย A จะเดินขึ้นบันไดไปอีกกี่ขั้นก็ตาม และคุณจะไม่สามารถบอกได้อีกต่อไปว่าเขาอยู่บันไดขั้นไหนแล้ว (จะเพิ่มสัญญาณรบกวนหรือ noise ไปมากเท่าใดก็ตาม) แต่สิ่งที่คุณสามารถที่จะบอกได้แน่นอนก็คือ ณ ขณะนั้นนาย A อยู่ “ข้างบน” หรือ “ข้างล่าง” (เป็น “1” หรือ “0” นั่นเอง)

และสมมติว่า นาย A เดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่คุณไม่สามารถบอกได้อีกต่อไปว่านาย A เป็น 1 หรือ 0 กันแน่ (เพิ่ม noise เข้าไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่เครื่องรับสัญญาณไม่สามารถแยกแยะได้อีกต่อไปว่าอะไรคือ “ข้อมูล” และอะไรคือ “noise” – ผู้แปล) แต่ก็นับเป็นข้อดีของโลกดิจิตอลครับ คือ อุปกรณ์ดิจิตอลจะไม่ใช้วิธี “เดา” เมื่อมันได้รับสัญญาณ มันจะทำงานได้ แต่ถ้ามันรับสัญญาณไม่ได้  มันก็จะไม่ทำงานเลย

(เพิ่มเติมจากผู้แปล: ถ้าสัญญาณ HDMI โดนรบกวนมากจนกระทั่งทีวีไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างสัญญาณกับ noise ได้ล่ะก็ ทีวีของคุณจะไม่ใช้วิธีการคาดเดา แต่มันจะไม่แสดงภาพออกมาเลย)

นี่ล่ะครับเป็นเหตุผลว่าทำไมสายสัญญาณราคาถูกไม่มีผลต่อคุณภาพของสัญญาณดิจิตอล

อ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าคุณเผอิญไปได้ยินใครพูดว่าเขาสามารถเห็นความแตกต่างระหว่างการใช้สาย HDMI ราคาถูกกับสายราคาแพง คุณก็สามารถหัวเราะเขาในใจได้เลย เพราะเขาได้เสียเงินจำนวนมากมายไปอย่างไร้ประโยชน์ และไร้จุดหมายครับ

หลายๆ คนอาจพูดว่า สาย HDMI ราคาแพงจะให้เสียงที่ดีกว่า นั่นก็เป็นความเชื่อที่ผิดครับ เพราะสัญญาณเสียงที่ส่งผ่านสาย HDMI เป็นสัญญาณดิจิตอลเช่นเดียวกับสัญญาณวีดีโอ เพราะฉะนั้นทฤษฎีของขั้นบันไดที่ผมได้กล่าวไปแล้วก็สามารถนำมาใช้ตรงนี้ได้ด้วย… ผมจึงขอเน้นย้ำว่า เนื่องจากมันเป็นสัญญาณดิจิตอล มันจึงไม่มีความแตกต่างอะไรเลยระหว่างสายราคาถูกกับสายราคาแพง

แต่…ๆๆๆ  สายราคาถูกนั้น คุณภาพวัสดุ ความทนทาน จะสู้กับสายราคาแพงไม่ได้  แต่ว่าคุณภาพสัญญาณภาพและเสียงนั้นเหมือนกันไม่แตกต่างครับ

บทความจาก : http://vpro.co.th
- See more at: http://www.kwamru.com/64#sthash.CaP8uuiK.dpuf

คัดลอกเอามาให้อ่านเล่นๆครับ สามารถประยุกต์ใช้หลักการเดียวกันกับสาย digital ทั้งหมด (USB, sata, Esata,pata,serial,parallel,optical.thunderbolt)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 20, 2013, 08:08:27 pm โดย savongm »

ออฟไลน์ kritkris

  • Full LED TV member
  • ****
  • กระทู้: 1,239
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
Re: รวมผลคนใช้ CEN.GRAND 5i-360 HDplayer hiend
« ตอบกลับ #528 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2013, 08:15:31 pm »
ความสำคัญของสาย HDMI ในระบบ Digital
“คำถาม: สาย HDMI แบบเส้นละ 300 บาท กับเส้นละ 4,000 บาทต่างกันตรงไหน ผมควรจะซื้อแบบไหนดีครับ?”

ผม (ผู้เขียน) เป็นวิศวกรด้านกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์ ผมทำงานคลุกคลีอยู่กับสัญญาณอนาล็อก และดิจิตอลอยู่ทุกๆ วัน ด้วยเหตุนี้ทำให้ผมคิดว่าผมมีคุณวุฒิและคุณสมบัติที่เหมาะสมที่จะตอบคำถามนี้

และคำตอบสำหรับคำถามนี้ก็คือ “ไม่ครับ – สาย HDMI ราคาแพงไม่ช่วยทำให้คุณภาพของภาพและเสียงดีขึ้นแต่อย่างใด”

การส่งสัญญาณแบบเก่า :analog มีการเพี้ยนของข้อมูลระหว่างการส่ง (เช่นสาย AV สาย component)

การส่งสัญญาณแบบใหม่ : HDMI เป็นการส่งสัญญาณภาพระบบ Digital ส่งสััญญาณ 0 และ 1 ปลายทางก็จะได้รับ 0 และ 1 ไม่มีทางผิดไปจากนี้

ผู้เขียนขอเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆนะครับ
อนาล็อก: ลองนึกถึงขั้นบันไดสัก 200 ขั้นไว้ในใจนะครับ และให้มีนาย A กำลังไต่บันไดอยู่ สัญญาณอนาล็อก จะเป็นตัวบอกว่านาย A อยู่ที่บันไดขั้นไหน ณ ขณะเวลาหนึ่งๆ และสมมติว่านาย A กำลังเดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ (เปรียบเสมือนสัญญาณที่ถูกรบกวน และเพี้ยนจากต้นฉบับไปเรื่อยๆ) ตรงนี้ล่ะที่ความผิดพลาดจะเกิดขึ้นได้โดยง่าย ตัวอย่างเช่น สมมติว่า ณ ขณะนั้นนาย A อยู่บนบันไดขั้นที่ 101 แต่ด้วยสัญญาณที่รบกวน คุณอาจจะเข้าใจผิดว่าเขากำลังอยู่ขั้นที่ 102 และยิ่งนาย A เดินขึ้นบันไดสูงขึ้นไปเรื่อยๆ คุณก็จะเริ่มสับสนขึ้นเรื่อยๆ จนไปถึงจุดจุดหนึ่ง คุณจะไม่สามารถบอกได้เลยว่า ณ ขณะนี้นาย A อยู่ที่บันไดขั้นไหนกันแน่

เพิ่มเติมจากผู้แปล: เนื่องจากสัญญาณอนาล็อก เป็นการวัดความต่างศักย์ของกระแส ณ เวลา (timeslice) ขณะใดขณะหนึ่ง สมมติว่า สัญญาณที่มันควรจะเป็น ณ ขณะนั้นคือ 0.75 โวลต์ แต่เนื่องจากมีการรบกวน ทำให้สัญญาณ ณ ขณะนั้น กลายเป็น 0.68 โวลต์ จึงทำให้ทีวีของเราตีความสัญญาณนั้นไม่ถูกต้อง และนำไปสู่การแสดงภาพที่ผิดเพี้ยนนั่นเอง

ดิจิตอล: ลองนึกถึงบันได 200 ขั้นกับนาย A เหมือนเดิมนะครับ – ในกรณีที่เป็นสัญญาณดิจิตอล คุณจะไม่สนใจว่านาย A จะอยู่บันไดขั้นที่ 13 หรือ 15 แต่สิ่งที่คุณสนใจก็คือ นาย A อยู่ “ข้างบน” หรือ “ข้างล่าง” ถึงแม้นาย A จะเดินขึ้นบันไดไปอีกกี่ขั้นก็ตาม และคุณจะไม่สามารถบอกได้อีกต่อไปว่าเขาอยู่บันไดขั้นไหนแล้ว (จะเพิ่มสัญญาณรบกวนหรือ noise ไปมากเท่าใดก็ตาม) แต่สิ่งที่คุณสามารถที่จะบอกได้แน่นอนก็คือ ณ ขณะนั้นนาย A อยู่ “ข้างบน” หรือ “ข้างล่าง” (เป็น “1” หรือ “0” นั่นเอง)

และสมมติว่า นาย A เดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่คุณไม่สามารถบอกได้อีกต่อไปว่านาย A เป็น 1 หรือ 0 กันแน่ (เพิ่ม noise เข้าไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่เครื่องรับสัญญาณไม่สามารถแยกแยะได้อีกต่อไปว่าอะไรคือ “ข้อมูล” และอะไรคือ “noise” – ผู้แปล) แต่ก็นับเป็นข้อดีของโลกดิจิตอลครับ คือ อุปกรณ์ดิจิตอลจะไม่ใช้วิธี “เดา” เมื่อมันได้รับสัญญาณ มันจะทำงานได้ แต่ถ้ามันรับสัญญาณไม่ได้  มันก็จะไม่ทำงานเลย

(เพิ่มเติมจากผู้แปล: ถ้าสัญญาณ HDMI โดนรบกวนมากจนกระทั่งทีวีไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างสัญญาณกับ noise ได้ล่ะก็ ทีวีของคุณจะไม่ใช้วิธีการคาดเดา แต่มันจะไม่แสดงภาพออกมาเลย)

นี่ล่ะครับเป็นเหตุผลว่าทำไมสายสัญญาณราคาถูกไม่มีผลต่อคุณภาพของสัญญาณดิจิตอล

อ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าคุณเผอิญไปได้ยินใครพูดว่าเขาสามารถเห็นความแตกต่างระหว่างการใช้สาย HDMI ราคาถูกกับสายราคาแพง คุณก็สามารถหัวเราะเขาในใจได้เลย เพราะเขาได้เสียเงินจำนวนมากมายไปอย่างไร้ประโยชน์ และไร้จุดหมายครับ

หลายๆ คนอาจพูดว่า สาย HDMI ราคาแพงจะให้เสียงที่ดีกว่า นั่นก็เป็นความเชื่อที่ผิดครับ เพราะสัญญาณเสียงที่ส่งผ่านสาย HDMI เป็นสัญญาณดิจิตอลเช่นเดียวกับสัญญาณวีดีโอ เพราะฉะนั้นทฤษฎีของขั้นบันไดที่ผมได้กล่าวไปแล้วก็สามารถนำมาใช้ตรงนี้ได้ด้วย… ผมจึงขอเน้นย้ำว่า เนื่องจากมันเป็นสัญญาณดิจิตอล มันจึงไม่มีความแตกต่างอะไรเลยระหว่างสายราคาถูกกับสายราคาแพง

แต่…ๆๆๆ  สายราคาถูกนั้น คุณภาพวัสดุ ความทนทาน จะสู้กับสายราคาแพงไม่ได้  แต่ว่าคุณภาพสัญญาณภาพและเสียงนั้นเหมือนกันไม่แตกต่างครับ

บทความจาก : http://vpro.co.th
- See more at: http://www.kwamru.com/64#sthash.CaP8uuiK.dpuf

คัดลอกเอามาให้อ่านเล่นๆครับ สามารถประยุกต์ใช้หลักการเดียวกันกับสาย digital ทั้งหมด (USB, sata, Esata,pata,serial,parallel,optical.thunderbolt)
แล้วถ้าเป็นความเห็นโดยส่วนตัวของท่านระหว่าง HDMI สายราคาแพงกับสายราคาถูก ภาพ+เสียงต่างกันไหมครับ แล้วส่วนตัวท่านเลือกใช้สาย HDMI ราคาแพงรึราคาถูก เหตุผลที่ท่านเลือกคืออะไรครับ  [ปลื่ม] [ปลื่ม] [ปลื่ม]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 20, 2013, 08:29:23 pm โดย kritkris »

ออฟไลน์ yod090

  • New member
  • *
  • กระทู้: 6
    • ดูรายละเอียด
Re: รวมผลคนใช้ CEN.GRAND 5i-360 HDplayer hiend
« ตอบกลับ #529 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2013, 10:32:53 pm »
ความสำคัญของสาย HDMI ในระบบ Digital
“คำถาม: สาย HDMI แบบเส้นละ 300 บาท กับเส้นละ 4,000 บาทต่างกันตรงไหน ผมควรจะซื้อแบบไหนดีครับ?”

ผม (ผู้เขียน) เป็นวิศวกรด้านกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์ ผมทำงานคลุกคลีอยู่กับสัญญาณอนาล็อก และดิจิตอลอยู่ทุกๆ วัน ด้วยเหตุนี้ทำให้ผมคิดว่าผมมีคุณวุฒิและคุณสมบัติที่เหมาะสมที่จะตอบคำถามนี้

และคำตอบสำหรับคำถามนี้ก็คือ “ไม่ครับ – สาย HDMI ราคาแพงไม่ช่วยทำให้คุณภาพของภาพและเสียงดีขึ้นแต่อย่างใด”

การส่งสัญญาณแบบเก่า :analog มีการเพี้ยนของข้อมูลระหว่างการส่ง (เช่นสาย AV สาย component)

การส่งสัญญาณแบบใหม่ : HDMI เป็นการส่งสัญญาณภาพระบบ Digital ส่งสััญญาณ 0 และ 1 ปลายทางก็จะได้รับ 0 และ 1 ไม่มีทางผิดไปจากนี้

ผู้เขียนขอเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆนะครับ
อนาล็อก: ลองนึกถึงขั้นบันไดสัก 200 ขั้นไว้ในใจนะครับ และให้มีนาย A กำลังไต่บันไดอยู่ สัญญาณอนาล็อก จะเป็นตัวบอกว่านาย A อยู่ที่บันไดขั้นไหน ณ ขณะเวลาหนึ่งๆ และสมมติว่านาย A กำลังเดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ (เปรียบเสมือนสัญญาณที่ถูกรบกวน และเพี้ยนจากต้นฉบับไปเรื่อยๆ) ตรงนี้ล่ะที่ความผิดพลาดจะเกิดขึ้นได้โดยง่าย ตัวอย่างเช่น สมมติว่า ณ ขณะนั้นนาย A อยู่บนบันไดขั้นที่ 101 แต่ด้วยสัญญาณที่รบกวน คุณอาจจะเข้าใจผิดว่าเขากำลังอยู่ขั้นที่ 102 และยิ่งนาย A เดินขึ้นบันไดสูงขึ้นไปเรื่อยๆ คุณก็จะเริ่มสับสนขึ้นเรื่อยๆ จนไปถึงจุดจุดหนึ่ง คุณจะไม่สามารถบอกได้เลยว่า ณ ขณะนี้นาย A อยู่ที่บันไดขั้นไหนกันแน่

เพิ่มเติมจากผู้แปล: เนื่องจากสัญญาณอนาล็อก เป็นการวัดความต่างศักย์ของกระแส ณ เวลา (timeslice) ขณะใดขณะหนึ่ง สมมติว่า สัญญาณที่มันควรจะเป็น ณ ขณะนั้นคือ 0.75 โวลต์ แต่เนื่องจากมีการรบกวน ทำให้สัญญาณ ณ ขณะนั้น กลายเป็น 0.68 โวลต์ จึงทำให้ทีวีของเราตีความสัญญาณนั้นไม่ถูกต้อง และนำไปสู่การแสดงภาพที่ผิดเพี้ยนนั่นเอง

ดิจิตอล: ลองนึกถึงบันได 200 ขั้นกับนาย A เหมือนเดิมนะครับ – ในกรณีที่เป็นสัญญาณดิจิตอล คุณจะไม่สนใจว่านาย A จะอยู่บันไดขั้นที่ 13 หรือ 15 แต่สิ่งที่คุณสนใจก็คือ นาย A อยู่ “ข้างบน” หรือ “ข้างล่าง” ถึงแม้นาย A จะเดินขึ้นบันไดไปอีกกี่ขั้นก็ตาม และคุณจะไม่สามารถบอกได้อีกต่อไปว่าเขาอยู่บันไดขั้นไหนแล้ว (จะเพิ่มสัญญาณรบกวนหรือ noise ไปมากเท่าใดก็ตาม) แต่สิ่งที่คุณสามารถที่จะบอกได้แน่นอนก็คือ ณ ขณะนั้นนาย A อยู่ “ข้างบน” หรือ “ข้างล่าง” (เป็น “1” หรือ “0” นั่นเอง)

และสมมติว่า นาย A เดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่คุณไม่สามารถบอกได้อีกต่อไปว่านาย A เป็น 1 หรือ 0 กันแน่ (เพิ่ม noise เข้าไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่เครื่องรับสัญญาณไม่สามารถแยกแยะได้อีกต่อไปว่าอะไรคือ “ข้อมูล” และอะไรคือ “noise” – ผู้แปล) แต่ก็นับเป็นข้อดีของโลกดิจิตอลครับ คือ อุปกรณ์ดิจิตอลจะไม่ใช้วิธี “เดา” เมื่อมันได้รับสัญญาณ มันจะทำงานได้ แต่ถ้ามันรับสัญญาณไม่ได้  มันก็จะไม่ทำงานเลย

(เพิ่มเติมจากผู้แปล: ถ้าสัญญาณ HDMI โดนรบกวนมากจนกระทั่งทีวีไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างสัญญาณกับ noise ได้ล่ะก็ ทีวีของคุณจะไม่ใช้วิธีการคาดเดา แต่มันจะไม่แสดงภาพออกมาเลย)

นี่ล่ะครับเป็นเหตุผลว่าทำไมสายสัญญาณราคาถูกไม่มีผลต่อคุณภาพของสัญญาณดิจิตอล

อ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าคุณเผอิญไปได้ยินใครพูดว่าเขาสามารถเห็นความแตกต่างระหว่างการใช้สาย HDMI ราคาถูกกับสายราคาแพง คุณก็สามารถหัวเราะเขาในใจได้เลย เพราะเขาได้เสียเงินจำนวนมากมายไปอย่างไร้ประโยชน์ และไร้จุดหมายครับ

หลายๆ คนอาจพูดว่า สาย HDMI ราคาแพงจะให้เสียงที่ดีกว่า นั่นก็เป็นความเชื่อที่ผิดครับ เพราะสัญญาณเสียงที่ส่งผ่านสาย HDMI เป็นสัญญาณดิจิตอลเช่นเดียวกับสัญญาณวีดีโอ เพราะฉะนั้นทฤษฎีของขั้นบันไดที่ผมได้กล่าวไปแล้วก็สามารถนำมาใช้ตรงนี้ได้ด้วย… ผมจึงขอเน้นย้ำว่า เนื่องจากมันเป็นสัญญาณดิจิตอล มันจึงไม่มีความแตกต่างอะไรเลยระหว่างสายราคาถูกกับสายราคาแพง

แต่…ๆๆๆ  สายราคาถูกนั้น คุณภาพวัสดุ ความทนทาน จะสู้กับสายราคาแพงไม่ได้  แต่ว่าคุณภาพสัญญาณภาพและเสียงนั้นเหมือนกันไม่แตกต่างครับ

บทความจาก : http://vpro.co.th
- See more at: http://www.kwamru.com/64#sthash.CaP8uuiK.dpuf

คัดลอกเอามาให้อ่านเล่นๆครับ สามารถประยุกต์ใช้หลักการเดียวกันกับสาย digital ทั้งหมด (USB, sata, Esata,pata,serial,parallel,optical.thunderbolt)

สายราคาแพง สายราคาถูก หรือสายแถม เรื่องความแตกต่างของคุณภาพของภาพและเสียงนี่ไม่แน่ใจ แต่สิ่งที่เห็นจากการใช้งานคือสายแต่ละเส้นจะให้ความเข้มของสีและความสว่างของภาพแตกต่างกัน และเมื่อเปลี่ยนจากสายแถมเป็นสายเส้นละสามพันกว่าพบว่า Crosstalk ลดลงอย่างสังเกตุได้ หากท่านใดต้องการทราบว่าแตกต่างหรือไม่อย่างไรคงต้องทดสอบด้วยตัวท่านเอง

สาย Digital อื่นๆ เท่าที่เคยใช้ เช่น สาย sync iPad และ iPhone พบว่ามีความแตกต่างระหว่างสายจริงและสายจีน หากใช้สายจีนที่มีราคาถูกหรือคุณภาพต่ำ พบว่าการ sync จะใช้เวลานานกว่าสายจริง รวมถึงอาจเกิดการ sync หลุดได้ และสายจีนราคาถูกจะประจุแบตเตอรี่ได้ช้ากว่าสายจริงหรือบางเส้นก็ไม่สามารถประจุแบตเตอรี่ให้เต็มได้

..............................

ท่านที่มีปัญหาเรื่อง Cengrand ไม่ detect External Hard Drive วิธีที่น่าจะทำให้ detect ได้ คือ ต่อผ่าน Hub USB 2.0 จากการทดสอบพบว่า Belkin USB 4-Port Powered Desktop Hub (USB 2.0) สามารถทำให้ Cengrand i5-360 detect WD My Book 2TB External Hard Drive (USB 3.0) ได้ (ที่บ้านมี 2 ตัว ใช้ได้ผลทั้งคู่) และคาดว่าน่าจะใช้ได้ผลกับ External  Blu-Ray และ DVD Drive ด้วย
*เนื่องจาก External Hard Drive ใช้กระแสไฟสูงในการทำงาน จึงควรใช้ Hub ที่สามารถเสียบอุปกรณ์จ่ายไฟได้
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 21, 2013, 02:46:36 am โดย yod090 »

ออฟไลน์ azazz

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 260
    • ดูรายละเอียด
Re: รวมผลคนใช้ CEN.GRAND 5i-360 HDplayer hiend
« ตอบกลับ #530 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2013, 08:17:45 am »

ท่านที่มีปัญหาเรื่อง Cengrand ไม่ detect External Hard Drive วิธีที่น่าจะทำให้ detect ได้ คือ ต่อผ่าน Hub USB 2.0 จากการทดสอบพบว่า Belkin USB 4-Port Powered Desktop Hub (USB 2.0) สามารถทำให้ Cengrand i5-360 detect WD My Book 2TB External Hard Drive (USB 3.0) ได้ (ที่บ้านมี 2 ตัว ใช้ได้ผลทั้งคู่) และคาดว่าน่าจะใช้ได้ผลกับ External  Blu-Ray และ DVD Drive ด้วย
*เนื่องจาก External Hard Drive ใช้กระแสไฟสูงในการทำงาน จึงควรใช้ Hub ที่สามารถเสียบอุปกรณ์จ่ายไฟได้
 

  ขอบคุณที่ชี้แนะ ผมไม่มีปัญหา"not detect External Hard Drive " แต่มีปัญหา ช่องเสียบUSB ไม่พอใช้ (1ช่องสำหรับ BDR, อีกช่องเป็น USB_wifiเพื่อsamba ไม่มีเหลือสำหรับ HDD docking ผมไม่นิยมinternal)จะรีบไปหาBelkin USB 4-Port Powered Desktop Hub มาใช้

 

ออฟไลน์ wat12

  • Full LED TV member
  • ****
  • กระทู้: 1,066
  • ??????????? ???????????? ??????????? ????????? ??????????????
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
Re: รวมผลคนใช้ CEN.GRAND 5i-360 HDplayer hiend
« ตอบกลับ #531 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2013, 01:30:02 pm »

ท่านที่มีปัญหาเรื่อง Cengrand ไม่ detect External Hard Drive วิธีที่น่าจะทำให้ detect ได้ คือ ต่อผ่าน Hub USB 2.0 จากการทดสอบพบว่า Belkin USB 4-Port Powered Desktop Hub (USB 2.0) สามารถทำให้ Cengrand i5-360 detect WD My Book 2TB External Hard Drive (USB 3.0) ได้ (ที่บ้านมี 2 ตัว ใช้ได้ผลทั้งคู่) และคาดว่าน่าจะใช้ได้ผลกับ External  Blu-Ray และ DVD Drive ด้วย
*เนื่องจาก External Hard Drive ใช้กระแสไฟสูงในการทำงาน จึงควรใช้ Hub ที่สามารถเสียบอุปกรณ์จ่ายไฟได้
 

  ขอบคุณที่ชี้แนะ ผมไม่มีปัญหา"not detect External Hard Drive " แต่มีปัญหา ช่องเสียบUSB ไม่พอใช้ (1ช่องสำหรับ BDR, อีกช่องเป็น USB_wifiเพื่อsamba ไม่มีเหลือสำหรับ HDD docking ผมไม่นิยมinternal)จะรีบไปหาBelkin USB 4-Port Powered Desktop Hub มาใช้

 
ยังมีSATA ข้างใน และ esata ข้างนอกเหลือแบบ 5i-AD  ไหมครับพี่ [ปลื่ม] [คิคิ]

ออฟไลน์ azazz

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 260
    • ดูรายละเอียด
Re: รวมผลคนใช้ CEN.GRAND 5i-360 HDplayer hiend
« ตอบกลับ #532 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2013, 02:06:35 pm »
ยังมีSATA ข้างใน และ esata ข้างนอกเหลือแบบ 5i-AD  ไหมครับพี่ [ปลื่ม] [คิคิ]
[/quote]

ด้านในมิทราบ ด้านนอกมี  แต่ผมใช้ไม่เป็น   [งง] [งง]

ออฟไลน์ wat12

  • Full LED TV member
  • ****
  • กระทู้: 1,066
  • ??????????? ???????????? ??????????? ????????? ??????????????
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
Re: รวมผลคนใช้ CEN.GRAND 5i-360 HDplayer hiend
« ตอบกลับ #533 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2013, 02:25:04 pm »
อ๊ะๆ......... พี่พูดเล่นเปล่าครับ [คิคิ]
ข้างนอก ใช้สาย  "คุณนาย"SATA  เสียบจากหมาน้อยนั่งข้างนอก(ด็อกกิ้ง)
ข้างในก็ใช้ สาย "SATA" อย่างเดียว กับไดรฟ์ซาตา  แต่ต้องมีชุดจ่ายไฟ12V,5V จ่ายให้ไดรฟ์ ต่างหาก

ออฟไลน์ varina

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 707
    • ดูรายละเอียด
Re: รวมผลคนใช้ CEN.GRAND 5i-360 HDplayer hiend
« ตอบกลับ #534 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2013, 04:36:03 pm »
อ๊ะๆ......... พี่พูดเล่นเปล่าครับ [คิคิ]
ข้างนอก ใช้สาย  "คุณนาย"SATA  เสียบจากหมาน้อยนั่งข้างนอก(ด็อกกิ้ง)
ข้างในก็ใช้ สาย "SATA" อย่างเดียว กับไดรฟ์ซาตา  แต่ต้องมีชุดจ่ายไฟ12V,5V จ่ายให้ไดรฟ์ ต่างหาก

สงสัยว่าถ้าเป็น dune base 3d นี่เอา external blu ray disc มาต่อจะได้เหมือนกันไหมครับ
แล้วคุณภาพ จะต่างกับ lx55 ไหมครับผม

ออฟไลน์ azazz

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 260
    • ดูรายละเอียด
Re: รวมผลคนใช้ CEN.GRAND 5i-360 HDplayer hiend
« ตอบกลับ #535 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2013, 04:47:19 pm »

มาแล้ว Belkin USB 4-Port Powered Desktop Hub

ช่อง 1 External 2.5"usb 1TB
ช่อง 2 HDD docking 2TBX2
ช่อง 3 HDD docking 2TBX2
ช่อง 4 150 Mbps wifi docking







ฺBDRom เสียบที่หลัง C'Grand



folder USB เรียงตามsda1,sdb1,sdc1,sdd1,sde5



สาเหตุที่ี่ HUBตัวนี้ เวิร์ค เพราะ  ตัวอดาร์ปเตอร์ให้กระแสไฟเลี้ยงสูงถึง 2.6แอมป์จ้า

 [ปลื่ม] [ปลื่ม]

ออฟไลน์ wat12

  • Full LED TV member
  • ****
  • กระทู้: 1,066
  • ??????????? ???????????? ??????????? ????????? ??????????????
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
Re: รวมผลคนใช้ CEN.GRAND 5i-360 HDplayer hiend
« ตอบกลับ #536 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2013, 04:52:30 pm »
อ๊ะๆ......... พี่พูดเล่นเปล่าครับ [คิคิ]
ข้างนอก ใช้สาย  "คุณนาย"SATA  เสียบจากหมาน้อยนั่งข้างนอก(ด็อกกิ้ง)
ข้างในก็ใช้ สาย "SATA" อย่างเดียว กับไดรฟ์ซาตา  แต่ต้องมีชุดจ่ายไฟ12V,5V จ่ายให้ไดรฟ์ ต่างหาก

๑) สงสัยว่าถ้าเป็น dune base 3d นี่เอา external blu ray disc มาต่อจะได้เหมือนกันไหมครับ
๒) แล้วคุณภาพ จะต่างกับ lx55 ไหมครับผม

๑) พอดีที่บ้านมีแต่Base 3.0 ตัวฮิต/เก่า..........CD ,DVD  เล่นได้ออโต้   แต่ BD รู้จัก  แต่ไม่เล่นครับ

Base 3D  ต้องฝากท่านที่มีลองเล่นดูจร้า

๒) ....... รวมทั้งอันนี้ด้วย ? ต้องฝากท่านอื่นจร้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 21, 2013, 04:55:20 pm โดย wat12 »

ออฟไลน์ yod090

  • New member
  • *
  • กระทู้: 6
    • ดูรายละเอียด
Re: รวมผลคนใช้ CEN.GRAND 5i-360 HDplayer hiend
« ตอบกลับ #537 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2013, 10:47:28 pm »

มาแล้ว Belkin USB 4-Port Powered Desktop Hub

ช่อง 1 External 2.5"usb 1TB
ช่อง 2 HDD docking 2TBX2
ช่อง 3 HDD docking 2TBX2
ช่อง 4 150 Mbps wifi docking







ฺBDRom เสียบที่หลัง C'Grand



folder USB เรียงตามsda1,sdb1,sdc1,sdd1,sde5



สาเหตุที่ี่ HUBตัวนี้ เวิร์ค เพราะ  ตัวอดาร์ปเตอร์ให้กระแสไฟเลี้ยงสูงถึง 2.6แอมป์จ้า

 [ปลื่ม] [ปลื่ม]

 [เท่ห์] [เท่ห์] [เท่ห์]

ออฟไลน์ wat12

  • Full LED TV member
  • ****
  • กระทู้: 1,066
  • ??????????? ???????????? ??????????? ????????? ??????????????
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
Re: รวมผลคนใช้ CEN.GRAND 5i-360 HDplayer hiend
« ตอบกลับ #538 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2013, 01:10:50 pm »
ไปอ่านเจอ  ผลการประกบคู่มวย HDMI โดยโปรโมเตอร์ นักเล่นคนไทย  น่าสนใจดี
ฝากอ่าน + พินิจ พิเคราะห์ กันจร้า

HDMI WireWorld VS AudioQuest
http://piyanas.com/forum/index.php?topic=11192.0

ออฟไลน์ bight

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 328
    • ดูรายละเอียด
Re: รวมผลคนใช้ CEN.GRAND 5i-360 HDplayer hiend
« ตอบกลับ #539 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2013, 09:52:58 pm »
ความสำคัญของสาย HDMI ในระบบ Digital
“คำถาม: สาย HDMI แบบเส้นละ 300 บาท กับเส้นละ 4,000 บาทต่างกันตรงไหน ผมควรจะซื้อแบบไหนดีครับ?”

ผม (ผู้เขียน) เป็นวิศวกรด้านกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์ ผมทำงานคลุกคลีอยู่กับสัญญาณอนาล็อก และดิจิตอลอยู่ทุกๆ วัน ด้วยเหตุนี้ทำให้ผมคิดว่าผมมีคุณวุฒิและคุณสมบัติที่เหมาะสมที่จะตอบคำถามนี้

และคำตอบสำหรับคำถามนี้ก็คือ “ไม่ครับ – สาย HDMI ราคาแพงไม่ช่วยทำให้คุณภาพของภาพและเสียงดีขึ้นแต่อย่างใด”

การส่งสัญญาณแบบเก่า :analog มีการเพี้ยนของข้อมูลระหว่างการส่ง (เช่นสาย AV สาย component)

การส่งสัญญาณแบบใหม่ : HDMI เป็นการส่งสัญญาณภาพระบบ Digital ส่งสััญญาณ 0 และ 1 ปลายทางก็จะได้รับ 0 และ 1 ไม่มีทางผิดไปจากนี้

ผู้เขียนขอเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆนะครับ
อนาล็อก: ลองนึกถึงขั้นบันไดสัก 200 ขั้นไว้ในใจนะครับ และให้มีนาย A กำลังไต่บันไดอยู่ สัญญาณอนาล็อก จะเป็นตัวบอกว่านาย A อยู่ที่บันไดขั้นไหน ณ ขณะเวลาหนึ่งๆ และสมมติว่านาย A กำลังเดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ (เปรียบเสมือนสัญญาณที่ถูกรบกวน และเพี้ยนจากต้นฉบับไปเรื่อยๆ) ตรงนี้ล่ะที่ความผิดพลาดจะเกิดขึ้นได้โดยง่าย ตัวอย่างเช่น สมมติว่า ณ ขณะนั้นนาย A อยู่บนบันไดขั้นที่ 101 แต่ด้วยสัญญาณที่รบกวน คุณอาจจะเข้าใจผิดว่าเขากำลังอยู่ขั้นที่ 102 และยิ่งนาย A เดินขึ้นบันไดสูงขึ้นไปเรื่อยๆ คุณก็จะเริ่มสับสนขึ้นเรื่อยๆ จนไปถึงจุดจุดหนึ่ง คุณจะไม่สามารถบอกได้เลยว่า ณ ขณะนี้นาย A อยู่ที่บันไดขั้นไหนกันแน่

เพิ่มเติมจากผู้แปล: เนื่องจากสัญญาณอนาล็อก เป็นการวัดความต่างศักย์ของกระแส ณ เวลา (timeslice) ขณะใดขณะหนึ่ง สมมติว่า สัญญาณที่มันควรจะเป็น ณ ขณะนั้นคือ 0.75 โวลต์ แต่เนื่องจากมีการรบกวน ทำให้สัญญาณ ณ ขณะนั้น กลายเป็น 0.68 โวลต์ จึงทำให้ทีวีของเราตีความสัญญาณนั้นไม่ถูกต้อง และนำไปสู่การแสดงภาพที่ผิดเพี้ยนนั่นเอง

ดิจิตอล: ลองนึกถึงบันได 200 ขั้นกับนาย A เหมือนเดิมนะครับ – ในกรณีที่เป็นสัญญาณดิจิตอล คุณจะไม่สนใจว่านาย A จะอยู่บันไดขั้นที่ 13 หรือ 15 แต่สิ่งที่คุณสนใจก็คือ นาย A อยู่ “ข้างบน” หรือ “ข้างล่าง” ถึงแม้นาย A จะเดินขึ้นบันไดไปอีกกี่ขั้นก็ตาม และคุณจะไม่สามารถบอกได้อีกต่อไปว่าเขาอยู่บันไดขั้นไหนแล้ว (จะเพิ่มสัญญาณรบกวนหรือ noise ไปมากเท่าใดก็ตาม) แต่สิ่งที่คุณสามารถที่จะบอกได้แน่นอนก็คือ ณ ขณะนั้นนาย A อยู่ “ข้างบน” หรือ “ข้างล่าง” (เป็น “1” หรือ “0” นั่นเอง)

และสมมติว่า นาย A เดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่คุณไม่สามารถบอกได้อีกต่อไปว่านาย A เป็น 1 หรือ 0 กันแน่ (เพิ่ม noise เข้าไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่เครื่องรับสัญญาณไม่สามารถแยกแยะได้อีกต่อไปว่าอะไรคือ “ข้อมูล” และอะไรคือ “noise” – ผู้แปล) แต่ก็นับเป็นข้อดีของโลกดิจิตอลครับ คือ อุปกรณ์ดิจิตอลจะไม่ใช้วิธี “เดา” เมื่อมันได้รับสัญญาณ มันจะทำงานได้ แต่ถ้ามันรับสัญญาณไม่ได้  มันก็จะไม่ทำงานเลย

(เพิ่มเติมจากผู้แปล: ถ้าสัญญาณ HDMI โดนรบกวนมากจนกระทั่งทีวีไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างสัญญาณกับ noise ได้ล่ะก็ ทีวีของคุณจะไม่ใช้วิธีการคาดเดา แต่มันจะไม่แสดงภาพออกมาเลย)

นี่ล่ะครับเป็นเหตุผลว่าทำไมสายสัญญาณราคาถูกไม่มีผลต่อคุณภาพของสัญญาณดิจิตอล

อ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าคุณเผอิญไปได้ยินใครพูดว่าเขาสามารถเห็นความแตกต่างระหว่างการใช้สาย HDMI ราคาถูกกับสายราคาแพง คุณก็สามารถหัวเราะเขาในใจได้เลย เพราะเขาได้เสียเงินจำนวนมากมายไปอย่างไร้ประโยชน์ และไร้จุดหมายครับ

หลายๆ คนอาจพูดว่า สาย HDMI ราคาแพงจะให้เสียงที่ดีกว่า นั่นก็เป็นความเชื่อที่ผิดครับ เพราะสัญญาณเสียงที่ส่งผ่านสาย HDMI เป็นสัญญาณดิจิตอลเช่นเดียวกับสัญญาณวีดีโอ เพราะฉะนั้นทฤษฎีของขั้นบันไดที่ผมได้กล่าวไปแล้วก็สามารถนำมาใช้ตรงนี้ได้ด้วย… ผมจึงขอเน้นย้ำว่า เนื่องจากมันเป็นสัญญาณดิจิตอล มันจึงไม่มีความแตกต่างอะไรเลยระหว่างสายราคาถูกกับสายราคาแพง

แต่…ๆๆๆ  สายราคาถูกนั้น คุณภาพวัสดุ ความทนทาน จะสู้กับสายราคาแพงไม่ได้  แต่ว่าคุณภาพสัญญาณภาพและเสียงนั้นเหมือนกันไม่แตกต่างครับ

บทความจาก : http://vpro.co.th
- See more at: http://www.kwamru.com/64#sthash.CaP8uuiK.dpuf

คัดลอกเอามาให้อ่านเล่นๆครับ สามารถประยุกต์ใช้หลักการเดียวกันกับสาย digital ทั้งหมด (USB, sata, Esata,pata,serial,parallel,optical.thunderbolt)

เข้ามาอ่านดู ผมว่าคนเขียนเหมือนนั่งเทียนเขียนเลยมั่นใจมากไม่ได้ทดสอบอย่างจริงจัง
ยิ่งการใช้คำพูดเยาะเย้ยคนอื่น ( อ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าคุณเผอิญไปได้ยินใครพูดว่าเขาสามารถเห็นความแตกต่างระหว่างการใช้สาย HDMI ราคาถูกกับสายราคาแพง คุณก็สามารถหัวเราะเขาในใจได้เลย เพราะเขาได้เสียเงินจำนวนมากมายไปอย่างไร้ประโยชน์ และไร้จุดหมายครับ )
ผมจะลงรูปให้ดูเพราะพูดไปก็ไม่เห็นภาพกัน
ลองดูเปรียบเทียบสายเอาเอง สายต่างกัน รูปล่างสายเเถม   (รูปทั้ง2รูปไม่ได้ผ่านโปรเเกรมเเต่งภาพใดๆทั้งสิ้น)
 จะได้เลิกเข้าใจผิดกันเพราะบทความพวกนี้ ว่าคนเค้าเสียเงินซื้อสายดีๆกันไปทำไม