สำหรับคนรักสัตว์เลี้ยง มื้ออาหารไม่ได้เป็นแค่เรื่องของความอิ่มท้องอีกต่อไป แต่คือโอกาสพิเศษที่สามารถใช้เวลาดี ๆ ร่วมกับน้องหมา หรือน้องแมวที่คุณรัก การเลือกรับประทานอาหารใน
ร้านอาหาร Pet Friendlyจึงกลายเป็นเทรนด์ที่มาแรงในยุคนี้ และหลายร้านก็พยายามตอบโจทย์ด้วยการออกแบบประสบการณ์ที่เป็นมิตรกับทั้งคนและสัตว์
ร้านอาหาร Pet Friendly คืออะไร และแตกต่างอย่างไรจากร้านทั่วไปร้านที่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามา ไม่ได้มีแค่ป้าย "ยินดีต้อนรับ" เท่านั้น แต่ต้องมีการจัดสรรพื้นที่ให้เหมาะสม ไม่รบกวนลูกค้าท่านอื่น และปลอดภัยต่อน้อง ๆ โดยส่วนใหญ่จะมีโซนเฉพาะ เช่น Outdoor หรือโซนกึ่งเปิดโล่ง รวมถึงบริการเสริมที่คิดเผื่อน้องสัตว์ไว้ล่วงหน้า ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ทำให้ร้านแบบนี้แตกต่างจากร้านทั่วไป
การออกแบบร้านอาหารที่เหมาะกับคนรักสัตว์การเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงไม่ใช่แค่การอนุญาตให้เข้าร้าน แต่ต้องออกแบบเพื่อให้ทั้งสัตว์และคนรู้สึกผ่อนคลาย
พื้นที่กว้างขวางพื้นที่แบบโปร่งโล่ง สำคัญมาก โดยเฉพาะสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ต้องการพื้นที่เคลื่อนไหว การมีทางเดินกว้าง โต๊ะห่างกันพอสมควร ช่วยลดความตึงเครียดระหว่างสัตว์ต่างสายพันธุ์
สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสัตว์เลี้ยงบางร้านมีชามน้ำ สนามหญ้าเล็ก หรือแม้แต่เมนูอาหารสัตว์โดยเฉพาะ สิ่งเหล่านี้แสดงถึงความใส่ใจที่มากกว่าการต้อนรับ
นโยบายด้านสุขอนามัยแม้จะเปิดรับสัตว์เลี้ยง แต่เรื่องความสะอาดต้องไม่ละเลย เช่น การแยกโซนชัดเจน พื้นที่ล้างมือ การทำความสะอาดทันทีเมื่อมีอุบัติเหตุ และการกำหนดข้อปฏิบัติสำหรับเจ้าของสัตว์อย่างเหมาะสม
ตัวอย่างร้านอาหารที่ใส่ใจทั้งคนและสัตว์สถานที่ที่รวมร้านแนวนี้ไว้หลายแห่ง ได้พัฒนาแนวคิด “Pet Friendly Community Mall” ให้เป็นมากกว่าพื้นที่ช้อปปิ้ง แต่คือพื้นที่สำหรับทุกชีวิตในครอบครัว รวมถึงสัตว์เลี้ยง
ร้านเด่น ๆ ที่ควรลอง เช่น
- Hitori Shabu (บางโซน): ร้านชาบูเดี่ยวที่บางสาขาเปิดโอกาสให้เจ้าของสามารถพาน้องหมามานั่งด้วยได้
- คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นกลางสวน ที่ให้สัตว์เลี้ยงนั่งชิลในโซน Outdoor พร้อมบรรยากาศเงียบสงบ
- ร้านอาหารฟิวชัน ที่แยกโซนนั่งสำหรับคนมีสัตว์เลี้ยง พร้อมให้บริการน้ำสำหรับสัตว์ฟรี
ร้านเหล่านี้ไม่ได้แค่เปิดรับสัตว์ แต่ยังสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อใจ ทั้งสำหรับสัตว์เลี้ยงและเจ้าของ
