ผู้เขียน หัวข้อ: รีวิว สายอากาศ indoor ตอนที่ 1  (อ่าน 3312 ครั้ง)

ออฟไลน์ ball_mm1234

  • Flat TV member
  • *
  • กระทู้: 13
    • ดูรายละเอียด
รีวิว สายอากาศ indoor ตอนที่ 1
« เมื่อ: กันยายน 13, 2014, 10:38:09 am »
จากที่ได้เกริ่นไว้แล้วว่า (รีวิวกล่องที่ผ่านมาก่อนหน้า >> http://www.lcdtvthailand.com/webboard/index.php?topic=95295.0 ) มีสายอากาศ ทีวีดิจอตอลอยู่ 3 แบรนด์ สามแบบ กับ สายอากาศแบบเดิมนั้นคือแบบหนวดกุ้ง รวมเป็น 4 แบบสินะ

(โต๊ะอาจจะรกไปหน่อยนะครับ 555+++)  อธิบายก่อนนะครับ  ในการทดสอบครั้งนี้ได้นำสายอากาศ ทั้ง 4 แบบมาวางในตำแหน่งใกล้เคียงกัน ภายในห้อง  จุดที่วางอาจจะไม่ใช่จุดที่สามารถรับสัญญาณได้ดีที่สุด (เนื่องจากสายสัญญาณ สั้นไปหน่อยจำเป็นต้องวางใกล้ๆเครื่องรับ )
แนะนำตัวสายอากาศกันก่อนดีกว่า จากด้านในสุด อันซ้ายมือ(ตามรูปด้านบน) มาอันนอกสุด(อันขวามือสุด)

1.สายอากาศอันแรก (อยู่ด้านในสุด) เป็นสายอากาศขนาด 5dBi  ยี่ห้อ Sonar รุ่น HD-030 (ราคาขายขณะรีวิว 590 บาท อ้างอิงจาก lcdtvthailand.co.th)

- Compatible with HDTV Digital signal repcpetion
- Compatible with Digital TV like DVB-T / H,DMB-T / H,ISDB-T,ATSC-T,ADTB-T,
   High gain and low error rate Digital TV signal repcpetion
-Gain 5dBi
เสาอากาศรุ่นนี้เป็นเสาอากาศแบบ พาสซีพ(Passive ) ไม่ได้มีวงจรขยายภายในแต่อาศัยการออกแบบสายอากาศในเชิงวิศกรรม ที่สามารถจะให้เกณฑ์การขยายจากตัวของรูปแบบสายอากาศเอง

2.สายอากาศอันถัดมาเป็นสายอากาศ ยี่ห้อ Provision Active Digital Antenna AR699C (ตัวที่เคยนำมารีวิวกล่องรับสัญญาดิจิตอลในตอนก่อนน่ะครับ) (ราคาขายขณะรีวิว 500 บาท)

Specification
- Receive Range : UHF/VHF/FM
- Frequency VHF : 40-230MHz
- UHF : 470-860MHz
- UHF : 23dB
- Max output level : 30dB
- Impedance : Gain control
- Turning degree : 150
- Input Vattage : AC110~120V or 220V~240V
- QTY/CTN : 20PCS
- Meast : 22.5c 6 x 22 cm
- 40′HQ : 20200pcs
- 20′GP : 11800pcs
สายอากาศตัวนี้เป็นสายอากาศที่มี 2 ชุดในตัวเดียวนั่นคือสายอากาศที่รับสัญญาณช่วง  UHF  ดูจากรูปก็ตรงที่เป็นรูปวงกลมน่ะครับ(เอาไว้รับสัญญาณดิจิจตอลทีวี) และ รับสัญญาณช่วง VHF ตรงที่เป็นหนวดกุ่งั่นแหละ(เอาไว้รับสัญญาณช่องทีวี3579เดิม)  ข้างในกล้องมีวงจรขยายสัญญาณเพื่อให้สัญญาณที่รับมาแรงขึ้น  ประมาณ 23dB   ดังนั้นเวลาใช้งานจำเป็นจะต้องเสียบปลักซ์ไฟทุกครั้ง ภาษาช่างเรียกสายอากาศแบบนี้ว่า Active Antenna .(นี่ก็น่าแกะมารีวิวข้างใน)

3.สายอากาศอันที่ 3 ได้แก่ สายอากาศหนวดกุ้ง ที่ใช้กันทั้วไป ครับ

คงรู้จักกันดีนะครับ ผมซื้อมาจากตลาดนัด อันละไม่กี่ตัง   เป็นสายอากาศแบบพาสซีพ ไม่มีวงจรขยายสัญญาณ นั่นเอง

4.สายอากาศอันสุดท้ายเป็นยี่ห้อ Acronatic  AN-ATV343  (ราคาขณะรีวิว 580 บาท)

นี่ก็เป็นสายอากาศแบบ Active Antenna อีกอันหนึ่ง ที่มีเกณฑ์การขยาย ประมาณ 20dB หมายถึงว่าเป็นสายอากาศและมีวงจรขยายสัญญาณอยู่ข้างใน (มีโอกาศดีๆเมื่อไหร่จะแกะมารีวิวให้ชมครับ) เช่นเดียวกันเวลาจะใช้งานต้องเสียบปลั๊กซ์ไฟ.

จากที่แนะนำสายอากาศมา อาจจะมีคำถามว่า ทำไมจึงเอาสายอากาศทั้งPassive และ Active  มาทดสอบรวมกัน จริงๆ วัตถุประสงค์ก็อยากให้เพื่อนๆ ได้เห็นความแตกต่าง(แต่สำหรับบางท่านอาจจะพอรู้คำตอบอยู่แล้วว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างไร) ตามาครับ

*ในการทดสอบครั้งนี้เราเลือกเอากล่องเครื่องรับ ยี่ห้อ SOKEN รุ่น DB231  

ผลการทดสอบจากสายอากาศยี่ห้อ Sonar รุ่น HD-030

ช่องที่ สามารถรับได้

22 ช่องครับ

ผลการทดสอบสายอากาศยี่ห้อ Provision Active Digital Antenna AR699C

จำนวนช่องล่ะได้กี่ช่องมาดูครับ

22 ช่องเท่ากับอันแรก … ทำไมได้แบบนี้เนี่ย น่าจะได้มากกว่านี้สิทั้งที่มีวงจรขยายเน๊อะ..

ลองมาดูอันที่สามดูครับสายอากาศหนวดกุ้งธรรมดา

ดัดแปลงแท่นวางนิดหน่อย หุๆๆ เทห์ไหมครับ

14  ช่อง แน๊ะWOW … สังเกตุไหมครับว่าสายหนวดกุ้งทำไมไม่ดึงยาวๆ น่าจะรับได้ดีใช่เปล่าครับ   คำตอบครับสำหรับความถี่ช่วง 470-860MHz ต้องหุบสายอากาศให้สั้นสุดนะครับถึงจะใช้งานได้ดี

เอาละมาดูอันสุดท้ายกันสายอากาศ ยี่ห้อ Acronatic  AN-ATV343  กันครับ

ผลลัพธ์

นี่ก็ ได้ 14 ช่อง  ..น่าจะได้มากกว่านี้

สรุปจากการทดสอบ

1.ตำแหน่งการวางสายอากาศสำคัญนะครับ ต้องวางไว้ที่ตำแหน่งที่รับสัญญาณได้ดีที่สุด บอกไม่ได้ว่าต้องวางตรงไหน เพียงแต่ ต้องไม่มีสิ่งที่กีดขวางหรือดูดกลืนสัญญาณก่อนน่ะครับ

2.sensitรvity หมายถึงความไวในการตอบสนองสัญญาณที่รับมาของกล่อง ของเครื่องรับก็สำคัญนะครับ จากรีวิวที่แล้วผมอาจจะไม่ได้เฉลยมากสำหรับกล่องทั้งสามที่ทดสอบเนื่องจากตำแหน่งของสายอากาศวางในตำแหน่งที่สามารถรับสัญญาณได้ดีสุด แต่การรีวิวครั้งนี้เราวางสายอากาศในตำแหน่งที่อับสัญญาณนิดหนึ่ง เนื่องจากข้อจำกัดด้านสายสัญญาณที่สั้น และเราเลือกเครื่องรับสัญญาดิจิตอลยี่ห้อนี้เนื่องจาก ความไวในการรับสัญญาณที่ต่ำกว่าอีกรุ่นหนึ่ง จะทำให้เพื่อนๆได้เห็นข้อแตกต่างหรือข้อเปรียบเทียบที่ชัดเจนขึ้น

3.Gain หรืออัตราการขยายของสายอากาศก็ต้องนำมาพิจารณา ครับ(ตัวที่บอกว่า เท่านั้นเท่านี้ dB น่ะครับ) ยิ่งมากยิ่งดี

4.หากเป็นไปได้และมีสถานที่ที่สามารถติดตั้งเสาอากาศภายนอกได้ก็จะดีขึ้น เช่นท่านอยู่นอกเมือง  ส่วนอยู่ในเมือง เสาอากาศภายในแบบนี้ก็ได้  หรือมีหนวดกุ้งก็ได้  เพียงแต่หากสัญญาณไม่ชัดก็เพิ่ม Booster  เพื่อขยายสัญญาณเข้าไป ซึ่งรีวิวต่อไปผมจะนำสายอากาศแบบ Passive  ทั้งสองอัน ใส่ Booster และลองทดสอบดูว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง รอติดตามนะครับ

ติดตาม FB ได้ที่ >> http://goo.gl/iEgz72  หรือรับชม
รีวิวอีกมากมายที่ >> http://www.tvdigitalclub.com/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 13, 2014, 03:56:44 pm โดย ball_mm1234 »

ออฟไลน์ TMatch

  • Edge LED TV member
  • ***
  • กระทู้: 260
    • ดูรายละเอียด
Re: รีวิว สายอากาศ indoor ตอนที่ 1
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 20, 2014, 12:39:11 am »
ซื้อเสา TV Digital หลีกเลี่ยงเสาของ S... นะครับ

ผมซื้อเสารุ่น กล่องสีขาวขุ่นใหญ่ๆ มา ใช้การไม่ได้ ไฟสีเขียวไม่ติด

โทรถามบริษัทๆ เพื่อให้เปลี่ยนอันใหม่ให้

พอส่งไป บริษัท ผ่ากล่องของผม ซ่อมมาให้แทนที่จะเปลี่ยน

ติดกาวตรงที่ผ่ามาให้ กล่องเผยิบๆ ทุเรศมาก ...

เซ็งจริงๆ กับของราคา 500-600 บาท ก็ยังเอาเปรียบผู้บริโภคซะขนาดนี้

อย่าไปซื้อมาใช้นะครับ บริษัท แบบนี้   [ไม่เอา] [แทง] [ปาดเหงื่อ]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 20, 2014, 12:59:19 am โดย TMatch »

ออฟไลน์ ball_mm1234

  • Flat TV member
  • *
  • กระทู้: 13
    • ดูรายละเอียด
Re: รีวิว สายอากาศ indoor ตอนที่ 1
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 23, 2014, 09:31:44 am »
S... ไหนครับ เกี่ยวกับรีวิวป่าว
ระบุเลยครับ จะได้เป็นข้อแนะนำให้คนอื่นต่อไปครับ  [เท่ห์]